วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 11 การฝึกหนักและตระกูลโจว



ตอนที่  11  การฝึกหนักและตระกูลโจว
เมื่อเวลาผ่านไป เสียงตวาดของถังเทียนจากเสียงสูงก็ลดลงเป็นเสียงต่ำ จากนั้นก็ตะโกนทั้งที่เสียงแหบแห้ง
 
มีแต่เสียงหมัดแหวกอากาศที่ไม่เคยหยุด
ต่อย, ต่อย, ต่อย....
เพราะวิชาวิทยายุทธระดับต่ำ  พลังของร่างกายเป็นพื้นฐานสำหรับทุกอย่าง  เป็นเวลาห้าปีห้าปีที่เขาฝึกอย่างหนักตลอดทุกๆ วัน  จำนวนการฝึกฝนที่เขาทำได้มากกว่าที่ทุกคนจะนึกภาพออก และนี่คือความอดทนที่น่าทึ่งของเขา
ความแข็งแรงของเขา แสดงออกทางการฝึกฝนมากมายอย่างน่าทึ่ง
การฝึกฝนอย่างเข้มข้นเป็นบ้าเป็นหลังนี้ แม้แต่พวกที่มีร่างกายแข็งแรงพอๆ กับถังเทียนมาลองฝึกอย่างนี้เป็นครั้งแรก  คงไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน
หลังจากเรี่ยวแรงอึดสุดท้ายถูกใช้หมด  ถังเทียนทรุดลงกับพื้น นอนราบกับพื้นที่มีสภาพเหมือนบ่อโคลน
การฝึกฝนอย่างหนักเป็นเรื่องบ้าเกินไป  ต่อให้มีพลังแท้จริงซ่อมแซมร่างกายได้ตลอดเวลา  แม้ว่าความหิวจะไม่มีอยู่ในพื้นที่มหัศจรรย์   แต่การนั่งโคจรลมปราณก็ทำได้เหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ
พลังงานของเขาเหือดแห้งลงไปเรื่อยๆ จนไม่มีอะไรเหลือ  จากนั้นเขาก็เริ่มบ่มเพาะพลังปราณลับและเมื่อเรี่ยวแรงฟื้นฟูแล้ว เขาจะมุมานะฝึกรอบใหม่  ด้วยวิธีนี้ ถังเทียนไม่เคยสูญเสียเวลาเปล่าไปแม้แต่น้อย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป การฝึกอย่างตั้งใจสูงขนาดนี้  กลับสร้างภาระให้กับร่างกายมากขึ้น  ความเหนื่อยล้ายากจะฟื้นตัว การบ่มเพาะพลังใช้เวลามาก  และความเจ็บปวดจากการฝึกก็ใช้เวลาเยียวยาที่เพิ่มมากขึ้นทุกที
นอกจากนี้ยังใช้เวลาทำสมาธินานขึ้น  สภาพใจของเขาเหนื่อยล้าและแทบขาดสติ  ถังเทียนรู้สึกเหมือนศีรษะจะแตกออกจากอาการปวดเมื่อย
ความเย็นของพื้นหินดำถ่ายเทมาที่แก้มของเขาและปลุกให้เขาได้สติขึ้นมาบ้าง  อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับปลายนิ้ว  เหมือนกับร่างกายของเขาไม่มี
เวลานี้ เขาควรจะฝึกฝนจิต  แต่ไม่ว่าจะพยายามหนักเพียงไหน  เขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้
ความเมื่อยล้าโถมเข้าหาเป็นระลอกเหมือนคลื่นทะเลทำให้หนังตาของเขาหนักอึ้งขึ้นทุกที
หลับ, แค่หลับตรงนี้, หลับเดี๋ยวนี้  เป็นวิธีที่น่าพอใจ...
เสียงที่น่าพึงใจเสียงหนึ่งดังออกมาจากส่วนลึกในสมองของเขาทันที เต็มไปด้วยการเชิญชวน
หลับเสียเถิด เจ้าทำมาได้ดีแล้ว หลับเสียชั่วครู่เถอะ  เจ้าต้องการทำ
เหมือนกับว่าสมองของเขาซ่อนปีศาจไว้ภายใน  ยังคงชักชวนเขาต่อเนื่อง
ถังเทียนมุ่งมั่นพยายามลืมตา ต้องการจะลุกขึ้น แต่ร่างกายของเขาทั้งตัวยังอ่อนแอมากและไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
 “ไม่! ฉันไม่ต้องการหลับ! ฉันต้องการฝึกต่อ” ถังเทียนตะโกนก้องในใจ  ทั้งกับตนเองและปีศาจในใจของเขา
 “แกไม่เหลือเรี่ยวแรงไว้ฝึกฝนแล้ว หลับเถอะ หลังจากแกหลับแล้วค่อยฝึกต่อ  แกทำดีที่สุดแล้ว แกฝึกมาพอแล้ว  อย่าฝืนตนเอง  ทำไมถึงทำร้ายตัวเองอย่างนั้น? นอนสักครู่เถอะ  มันน่าพึงพอใจและเย้ายวนนะ...”
 “ไม่! ฉันต้องการฝึก! ฉันต้องการฝึก!  ฉันแค่ต้องการฝึก!
ถังเทียนเป็นคนที่ระเบิดอารมณ์ได้ง่าย และขณะที่ความโกรธในตัวเขาร้อนแรงเหมือนลาวา  ทั่วทั้งร่างของเขาจะปลดปล่อยพลังงาน
ความโกรธของเขานำมาซึ่งความดื้อรั้นและไม่พอใจอยู่ลึกๆ
เขาเป็นเหมือนราชสีห์ที่โดนยั่วแหย่  ร่างของเขาสั่นจนควบคุมไม่ได้  แต่นัยน์ตาของเขาเป็นเปลวลุกโชนเหมือนกับทะเลเพลิง
เขาลืมตาที่กระหายเลือดของเขา จ้องดูเงาสะท้อนบนพื้นน้ำแข็งเย็นคำรามด้วยเสียงแหบแห้งลอดไรฟันและค่อยๆ เค้นเสียงออกมา
 “ในฐานะชาวสวรรค์  แกจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้อย่างไร?
 “ฉันต้องการไปหมู่ดาวเพอร์ซูส  ฉันต้องการพบเชียนฮุ่ย  เราจะไปตามวิถีสวรรค์ด้วยกัน”
 “แกสัญญาไว้แล้ว  แล้วแกจะยกเลิกตอนนี้ได้อย่างไร?”
 “ถังเทียน...”
 “อย่ายอมแพ้..”
 “อย่ายอมแพ้!
พอคำรามด้วยความโกรธ กระแสพลังไม่รู้ว่ามาจากไหน  ถังเทียนค่อยๆ พยุงตัว ลืมตาที่ดูดุร้ายมากมีเส้นเลือดปูดโปนบนหน้าผากของเขา
ร่างเขาสั่นอย่างต่อเนื่อง แต่เขายังคงลุกนั่งช้าๆ
เหงื่อจากตัวเขาหยดลงเป็นสายเกาะพื้นผิวจนสะท้อนเงาของเขา
แกต้องไม่ยอมแพ้... ถังเทียน... แกยังตามหลังคนอื่นอีกมากนัก
วันที่สิบ
สติของถังเทียนไม่ค่อยเต็มที่นัก และเขาไม่สามารถเห็นตัวเลขสีแดงหรือเวลาได้  ขณะนี้เองเขาฝืนอยู่ได้ด้วยสัญชาตญาณ หมัดของเขาปล่อยออกไปทันที
ตัวเลขสีแดงวิ่งขึ้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ถังเทียนสามารถได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น  และลมหายใจของเขาหนักหน่วงรุนแรง
มีอะไรอีกมากที่เราต้องทำ... เราจะยอมละทิ้งเรื่องเหล่านั้นได้อย่างไร...
อดทนอีกสักพัก.... เราแค่ต้องอดทนต่ออีกสักพัก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ในห้วงภวังค์ของเขา ถังเทียนรู้สึกแต่ว่าโลกหมุน  เขาผ่อนคลายจิตใจขณะที่ค่อยๆ ยิ้มเต็มใบหน้าที่อ่อนเพลีย
ฮ้า...เราชนะ
นี่คือประโยคสุดท้ายที่เขาสามารถจำได้
ด้านหลังประตูแสง ที่ซึ่งไม่มีชีวิต มีแถวตัวเลขสีแดง
30,000!
※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ที่ห้องโถงใหญ่ตระกูลโจว ผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลมาถึง
 “เรื่องนี้มีส่งผลต่อภาพลักษณ์ตระกูลโจวของเราในทางลบมาก”  คนพูดเป็นชายชรามีผมและหนวดขาว  แม้ว่าเขาจะแก่ แต่เขาถือไม้เท้าหัวมังกร มีดวงตาชัดใส ไม่มีความโกรธอยู่ในดวงตา แต่ก็ยังให้ความรู้สึกถึงพลัง  เขาคือผู้อาวุโสของตระกูลโจวผู้ทรงเกียรติและมีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลโจว และแม้แต่ประมุขของตระกูลโจว ก็ยังให้ความสำคัญเขาในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล
การประชุมของตระกูลครั้งนี้จัดขึ้นโดยตัวผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเอง
 “ตระกูลโจวของเราผงาดอยู่ในโลกนักสู้มานาน 400 ปีแล้ว  บรรพบุรุษของเราก่อตั้งสมบัติครอบครัวและมันไม่ใช่เรื่องง่าย  ผู้เยาว์รุ่นหลังของเรา ไม่เพียงแต่พวกเจ้าไม่ปกป้องสมบัติตระกูลเท่านั้น  แต่แกกลับปล่อยให้บรรพบุรุษของเราถูกหยามอัปยศ  สองสามวันมานี้ ฉันนอนตาหลับได้ยากนัก”
น้ำเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลจริงจังและน่านับถือนัก ไม่มีใครในห้องโถงใหญ่กล้าส่งเสียง
ประมุขตระกูลดูเหมือนกับว่านั่งอยู่บนเข็มหรือตะปู เหงื่อไหลพร่างพรูไม่หยุด  ถ้าผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลคัดค้าน  ตำแหน่งประมุขตระกูลของเขาจะไม่มั่นคงทันที  จากน้ำเสียงพูดของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล  ถ้าเขาเตรียมปลดตำแหน่งประมุขตระกูลจากเขา ผู้อาวุโสของตระกูลครึ่งหนึ่งคงปฏิบัติตามแน่นอน
 “เป็นความผิดของผมคนเดียว!  ผมไม่เข้มงวดกวดขันให้พอ...”  ประมุขตระกูลโจวตำหนิตัวเอง
ผู้อาวุโสสูงสุดแค่นเสียงเย็นชาโดยไม่มองเขา “แกบอกว่าเข้มงวดกวดขันไม่พอ  ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าบุตรของประมุขตระกูลโจวเกือบถูกนักเรียนสวะฆ่าตาย!  ถ้าตาแก่ไม้ใกล้ฝั่งอย่างฉันยังจำได้ไม่ผิด  โจวเผิงคือว่าที่ประมุขตระกูลรุ่นต่อไปใช่หรือไม่?”
ประมุขตระกูลโจวหลั่งเหงื่อพร่างพรูทันที  หน้าของเขาดูเหมือนคนกำลังจะตาย
เรื่องนี้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง  ทั่วทั้งเมืองซิงฟงรู้ว่าโจวเผิงต้องเสียหน้าพ่ายแพ้ให้กับสุดยอดนักเรียนซ้ำชั้น  นับว่าเป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก
ความจริง พอเวลาผ่านมาหลายวัน เขาได้ยินข่าวลือกระจายไปทั่วแล้วถึงเกิดวิตกกังวล  แต่เขานึกไม่ถึงว่าเรื่องที่เขากังวลจะกลายเป็นจริง
เขาได้แต่ตอบเบาๆ ว่า “เผิงเอ๋อยังเด็กและยังไม่ประสีประสา  เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะทำตัวใจร้อน  อย่างไรก็ตาม พื้นฐานและสภาพร่างกายของเขาก็ดีมากจริงๆ”
 “อย่างงั้นเหรอ?”  สีหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดเคร่งเครียด “เนื่องจากร่างกายของเขาดี  อย่างนั้นทองแท้ก็เลยไม่กลัวไฟเลยสินะ  ในช่วงเวลาหนึ่งเดือน เขาจะต้องรับมือเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว  บุตรของเจ้าเป็นคนทำเสียชื่อเสียง  ดังนั้นเขาจะต้องกู้ชื่อกลับคืนมาให้ได้  ในฐานะทายาทตระกูล ถ้าเขาไม่ตระหนักในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้  แล้วเขาจะรับสืบทอดตระกูลได้อย่างไร  ใครจะเป็นประมุขตระกูลคนต่อไปย่อมไม่สำคัญ  สิ่งที่สำคัญก็คือ  สถานะของประมุขตระกูลโจวของเราจะไม่มีทางส่งมอบให้เศษสวะที่ไร้ประโยชน์อย่างเด็ดขาด!
น้ำเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเยือกเย็นและก้องกังวาน ขณะตะโกนบอก
 “ถูกแล้ว!
 “เขาต้องใช้กำลังของตนเองพูด”
 “ผู้อาวุโสสูงสุดพูดถูก!
กลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลเริ่มเห็นพ้องต้องกันทีละคน
ประมุขตระกูลโจวรู้ว่าช่วงเวลานี้ เขาอึดอัดแทบตาย  เขากัดฟันแน่นแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสูงสุดพูดถูก  ถ้าเขาไร้ประโยชน์ ผมจะถือว่าเขาไม่ใช่บุตรชายผม”
สีหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดค่อยๆ ผ่อนคลาย “พวกแกทุกคนทุ่มเททำงานหนักในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราก็เห็นอยู่  แต่ไม่ว่าที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม พวกแกต้องจำข้อนี้ไว้  ชื่อเสียงตระกูลโจวจะถูกละเลยไม่ได้!  แกยังอายุไม่มากและยังสามารถสนับสนุนลูกๆ ได้อีก 2-3 คนเพื่อความเจริญของตระกูลเรา”
“ขอรับ!” ประมุขตระกูลโจวคำนับและตอบรับ
※※※※※※※※※※※※※※※※※
หัวหน้าตระกูลโจวเฝ้ามองอย่างไม่สบายใจ ขณะที่โจวเผิงรีบเดินเข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี
 “พ่อ! ในที่สุดฉันก็พบว่าเจ้าถังเทียนไปเรียนที่ไหน!  มันไปเข้าสถาบันคาราเมล,  ฮ่าฮ่า โรงเรียนสวะอันดับสามจากบ๊วย!  โจวเผิงร่ำร้องอย่างอารมณ์ดี  “ฉันตรวจสอบเป็นเวลานานอย่างมั่นใจแล้ว  ฉันคงจะไม่พบอะไรแน่  ถ้าไม่ใช่เพราะอาโมรี่ก็ย้ายโรงเรียนด้วย  ฉันก็คงไม่พบอะไร”
เมื่อถังเทียนทุบตีเขาที่หน้าประตูใหญ่โรงเรียนในตอนนั้น  แม้ว่าบิดาของโจวเผิงจะไล่ถังเทียนออกจากสถาบันแอนดรูว์ไปแล้ว  แต่โจวเผิงก็ยังไม่เลิกล้มความคิดล้างแค้น
ตั้งแต่เล็ก  เขาไม่เคยเสียหน้าต่อหน้าคนหลายคนมาก่อน  จึงเป็นเรื่องน่าขายหน้ามาก! 
ถังเทียน!
พอนึกถึงวันที่ถังเทียนคว้าคอของเขา  ดวงตาที่หยิ่งและก้าวร้าวแล้ว โจวเผิงกำหมัดโดยมิได้ตั้งใจ
ถังเทียน อีกไม่นานแกจะได้รู้ฤทธิ์ฉัน
 “เผิงเอ๋อ!  เรื่องนี้แหละที่พ่อต้องการพูดกับแก”  หัวหน้าตระกูลโจวพูดเบาๆ
จากนั้นโจวเผิงสังเกตเห็นว่าสีหน้าของบิดาเขาประหลาด จึงถามด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้น?”
 “เรื่องถังเทียน, ฉันต้องการให้แกจัดการด้วยตัวเอง”
 “อย่างนั้นก็ดีน่ะสิ! ฉันยังไม่ได้ใช้การ์ดวิญญาณวิชาพลองมังกรทองที่อาพานให้ฉันไว้ก่อน  การ์ดวิญญาณชั้นเงินวิชาระดับสาม  ฉันจะต้องเล่นงานไอ้ถังเทียนเหมือนอย่างสุนัขให้ได้”  โจวเผิงส่งเสียงตื่นเต้นทันที
 “ไม่!” หัวหน้าตระกูลสั่นศีรษะ “ผู้อาวุโสสูงสุดบอกว่า  แกจะต้องรับมือด้วยตนเอง และแกไม่อาจขอความช่วยเหลือคนอื่นได้”
โจวเผิงสีหน้าเยือกเย็นด้วยความพอใจ “ผู้อาวุโสสูงสุดโง่หรือเปล่า?”
 “เหลวไหล! สีหน้าของหัวหน้าตระกูลโจวเข้มงวด “ดูเหมือนว่าตลอดหลายปีมานี้ ฉันไม่ได้เข้มงวดกวดขันแกอย่างเพียงพอ! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแกจะต้องฝึกฝนกับโจวมู่!
จากนั้นโจวเผิงสังเกตได้ว่าบิดาผู้ยืนอยู่ใกล้ๆ แทบจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของบิดาเลย
โจวมู่คือองครักษ์คนหนึ่งของบิดาเขา ปกติจะช้าแต่สุขุม เงียบและไม่สุงสิงกับใคร  อย่างไรก็ตาม  เขามีพลังเต็มเปี่ยม เป็นพลังที่มองไม่เป็น  สิ่งที่โจวเผิงกลัวมากก็คือโจวมู่มิได้พูดตามความรู้สึก  ตราบใดที่บิดาของเขาสั่งให้เขาทำงาน  เขาก็จะทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน
 “โจวมู่! ฝากเผิงเอ๋อให้กับคุณด้วย  ฉันไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีใด  แต่ภายในหนึ่งเดือน ฉันต้องการให้เขาใช้วิทยายุทธระดับสามได้”  ประมุขตระกูลโจวพูดเสียงเย็นชา “ไม่ว่าต้องจ่ายมากแค่ไหนก็ตาม คุณรับไปได้เลย”
 “ครับ” โจวมู่ตอบอย่างเฉยชา
โจวเผิงแทบลมจับ  คร่ำครวญอย่างเจ็บปวด “พ่อ, ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ...”
เขาตะโกนอย่างเจ็บช้ำแต่ก็เงียบหายไปทันที  เนื่องจากโจวมู่ซัดเขาจนสลบ จากนั้นแบกเขาออกไป
ประมุขตระกูลโจวมีนัยน์เป็นประกายคลุ้มคลั่ง แต่ยังอดกลั้นได้เป็นอย่างดี
ถังเทียน!
แววตาประมุขตระกูลโจวดูเยือกเย็น  สาเหตุของหายนะนี้ก็คือบุรุษคนหนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลกำชับว่าต้องให้เผิงเอ๋อรับมือถังเทียนด้วยตนเอง  เพื่อให้เรื่องเงียบหาย เขาคงจ้างคนไปฆ่าถังเทียนแล้ว
เราแค่ยอมให้เจ้าเด็กนี่มีชีวิตได้อีก 2-3 วัน
เมื่อเผิงเอ๋อได้รับการตัดสินแล้ว เราจะจ้างคนไปฆ่าเจ้าเด็กนี่เงียบๆ
ฮึ, ทุกๆ ปีมีคน 2-3 คนสาบสูญไปจากเมืองซิงฟง  ใครจะสนใจกันเล่า?
ใบหน้าของประมุขตระกูลโจวปกคลุมไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
 

7 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

KinGup กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ไคจะตาย หรือ ตระกูลไค จะล่มสลาย55
ส่วนมากพระเอกทุกเรื่องมีเรื่องกะตระกูลไหน
ตระกูลนั้นหายไปจากทวีปหรือเมืองตลอด55

Unknown กล่าวว่า...

ประโยคปักธงตาย ตัวร้ายนิยายจีน ชัดๆ

Unknown กล่าวว่า...

ทำไม อ่านๆ ไป เนื้อหาไม่ค่อยต่อเนื่องเลย แปลไม่ดีหรือ ต้นฉบับมันเป็นแบบนี้ งงอะ

แสดงความคิดเห็น