วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 168 ท้ารบ

ตอนที่  168 ท้ารบ
โห.....
มีเสียงเบาๆ ดังมาจากภายในตัวถังเทียน

ไม่มีใครสังเกต  เพราะสายตาพวกเขาต่างจับจ้องมองดูการต่อสู้รุนแรงของหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงกันหมด  มีเพียงผู้อาวุโสหวีที่สังเกตเห็น  คิ้วขาวของเขากระตุกเหมือนกับไม่เชื่อภาพที่เห็น
ทันใดนั้น สำนึกอันตรายผุดขึ้นมาในใจของผู้เฒ่าหวี
ก่อนที่เขาจะลงมือใดๆ ได้ มีวิวัฒนาการฉับพลัน
เผียะ เผียะ เผียะ!
เสียงระเบิดดังต่อเนื่องอยู่ภายในตัวถังเทียน
ผิวของถังเทียนที่ปล่อยแรงระเบิดออกมาด้านนอกสั่นสะเทือนเหมือนคลื่น  เป๊าะ เป๊าะ เป๊าะ, เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นพร้อมกัน  ร่างของถังเทียนคล้ายกับจะมีสัตว์ประหลาดออกมา
ฮ่า....
ด้านข้างขาของถังเทียน อากาศเบาบางไหลอย่างเงียบๆ และก่อรูปเป็นวังวนเล็กๆ
นั่นคือ....
ม่านตาของผู้เฒ่าอู๋หดแคบเนื่องจากความรู้สึกกังวลและอันตรายที่เพิ่มมากขึ้นเหมือนจะเป็นรูปธรรมชัดเจน  ดวงตาของเขาแสดงให้เห็นอาการตื่นตัว  เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงมาหลายปีแล้ว  แต่ไม่เคยเห็นเรื่องแปลกประหลาดแบบนั้นเกิดขึ้น
ถังเทียนหลับตาและกางแขนอยู่ต่อหน้าของเขา  ดูเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวลึกลับมาก
ผู้เฒ่าหวีไม่เคยชอบล้ำเส้นกับคู่ต่อสู้ที่เขาไม่เข้าใจ เพราะนั่นเป็นอันตรายอย่างมาก  เขามีชื่อเสียงมาหลายปี และเห็นนักสู้จำนวนมากมายกว่าเขาที่มีฝีมือเหนือกว่าเขา ต้องเจ็บตัวด้วยน้ำมือของคู่ต่อสู้ที่ไม่คุ้นเคยและอันตราย  ทำให้เขาต้องระมัดระวังอย่างมากในตอนนี้  และเพราะความระมัดระวังของเขานี่เอง  ทำให้เขาปกป้องสถานะของเขามาได้นานหลายปี
ฮ่าห์ ฮ่าห์.. ฮ่าห์....
กระแสอากาศก่อตัวเป็นจุดๆ และพัดผ่านรอบตัว  อากาศรอบตัวถังเทียนมีสภาวะไม่แน่นอน
สายตาของผู้เฒ่าหวีจับจ้องอยู่ที่ตัวถังเทียน และลดความตั้งใจโจมตีก่อน  เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับถังเทียนและพัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้น
เขาตัดสินใจรอสังเกตดู
วิ้ววว! กระแสอากาศเริ่มปั่นป่วน เสียงเปลี่ยนจากที่เป็นเสียงลมหายใจเป็นเสียงลมยามพัดธงโบกสะบัด  กรวดทราบรอบๆ เท้าของถังเทียนถูกกระแสลมดันม้วนตัวออกไปพื้นที่รอบๆ
เศษกรวดหินนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนมดที่แตกรัง กระจัดกระจายไปทั่วพื้นหิน
ความสับสนวุ่นวายล่าสุดนี้ดึงดูดนักสู้บางส่วนที่กำลังให้ความสนใจการต่อสู้ของหลิงซิ่วกับอู๋เจ๋อสิง
 “พระเจ้าช่วย!  มันเกิดอะไรขึ้น?”
 “มาดูเร็ว!
เสียงอุทานตื่นเต้นปลุกผู้คนมากมายยิ่งขึ้น และดึงดูดผู้คนให้หันเหความสนใจมาดูถังเทียนในกลางห้องโถง  พวกเขาตะลึงอยู่กับฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า
แครก  แครก!
อากาศภายในระยะ 1.7 เมตรรอบตัวถังเทียนดูเหมือนกำลังถูกต้ม กระแสอากาศจำนวนมากกำลังปะทะกันทำให้เกิดแรงเสียดสีกัน เสียงระเบิดดังต่อเนื่องไม่หยุด   ประกายไฟที่เกิดจากการเสียดสีของอากาศกระพริบ
ร่างของถังเทียนพร่าเลือน เหมือนกับภาพสายน้ำไหลสลายหายไป
นอกจากหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงที่ตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้อย่างดุเดือดแล้ว  สายตาทุกคู่ถูกฉากภาพนี้ดึงดูด  ไม่มีใครเคยเห็นภาพที่เหลือเชื่อน่าประทับใจอย่างนี้มาก่อน
ทุกคนตกตะลึง ปากอ้าตาค้างจ้องมองถังเทียนที่อยู่ตรงกลางห้องอย่างงงงวย
เหมือนกับพวกเขาคิดว่าพวกเขาได้เห็นพายุที่น่ากลัวกับตาตนเองกำลังก่อตัวอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา   คำถามเกิดขึ้นในใจทุกคนโดยไม่อาจควบคุมได้  ภาพอะไรที่รอพวกเขาอยู่ เมื่อพายุนี้ก่อตัวเต็มรูปแบบ
จะปรากฏเป็นภาพแบบไหนกันแน่
ไม่มีผู้ใดรู้!
พวกเขาตาเบิกกว้างผสมกับความกลัวและความอยากรู้อยากเห็น  ไม่กล้าเบนความสนใจไปที่อื่น
เสียงระเบิดราวกับประทัดแตกเข้มข้นมากยิ่งขึ้น อากาศรอบตัวของถังเทียนก็ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น ความรู้สึกสงบก่อนพายุจะมาครอบงำความรู้สึกทุกคน
ทันใดนั้นราวกับว่าเวลาหยุดชะงัก เสียงแตกระเบิดหายไป และอากาศที่ปั่นป่วนตอนนี้กลับหยุดนิ่ง
ในไม่ช้าเสียงดังบึ้มก็ตามมา  อากาศที่ไม่เสถียรรอบตัวถังเทียน ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ทันที!
คลื่นอากาศที่รุนแรงผสมกับพลังที่น่ากลัวกวาดผ่านไปทั่วห้องโถง  นักสู้ที่ฝีมือค่อนข้างอ่อนรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายกระแทกใส่ไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคงถูกพลังคลื่นอากาศกวาดกระแทกไปอยู่ที่มุมห้อง
อู๋เจ๋อสิงกำลังตั้งสมาธิกับการต่อสู้ไม่ได้เตรียมพร้อมต้านรับ  เมื่อคลื่นอากาศกวาดเข้ามาทางเขาในระยะห่างเก้าเมตร เขาจึงค่อยตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะเกิด  ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วมาก ทันทีที่คลื่นอากาศมาถึงตัวเขา เขาได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งแล้วและลอยไปตามคลื่นอากาศเหมือนเศษใบไม้
อู๋เจ๋อเทียนลอยอยู่กลางอากาศถลึงจ้องมองถังเทียนด้วยแววตาเหลือเชื่อ
บรรยากาศเช่นนี้... ช่างโอ่อ่ายิ่งนัก!
หลิงซิ่วก็ยังไม่ได้เตรียมตัวรับพลังคลื่นระเบิดอากาศกะทันหันนี้  เขารีบคว้าหอกมาไว้กับตัวและหลบไปอยู่หลังเสา  เขาตกใจมาก และเมื่อเขาตระหนักว่าถังเทียนเป็นต้นเหตุวุ่นวายสับสนนี้ เขาถึงกับตกตะลึง
เจ้าหมอนี่, เป็นตัวประหลาดแบบไหนกัน?
แม้แต่ผู้ทรงพลังอย่างผู้เฒ่าหวีก็ไม่อาจรักษาสีหน้าให้สงบได้อีกต่อไป เขาเริ่มระมัดระวังและไม่ประมาทต่อไป
ทรงพลังจริงๆ
เขาเริ่มลังเล หมัดที่ถังเทียนเพิ่งต่อยใส่จี่เทียนเมื่อครู่นี้ เขาสามารถบอกได้ว่าถังเทียนอยู่สภาวะคลั่ง  ดังนั้นพลังจึงเพิ่มขึ้นมาฉับพลัน  แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยแค่คำว่าสภาวะคลั่ง
เจ้าหมอนี่.... มีเบื้องหลังเช่นใดกันแน่?
เขาโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครรู้  เหมือนกับเงาที่ลอยไปลอยมา
อย่างไรก็ตาม  ความสนใจของเขาถูกถังเทียนผู้เปิดเผยพลังตนเองอยู่ในห้องโถงหันเหความสนใจอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนกางแขนกว้าง, หลับตาแน่นยังคงยืนอยู่เงียบๆ เหมือนกับหลับลึก
ทันใดนั้น ถังเทียนลืมตา
บึ้ม!
คลื่นพลังที่เหมือนเมื่อตอนปล่อยจรวดยานอวกาศท่วมท้นทะลักเหมือนน้ำบ่าถูกปลดปล่อยเหมือนพายุฝนฟ้าคะนอง
ตาของถังเทียนเป็นสีแดงสว่างสดใส แต่เหมือนห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก  ท่าทีที่สง่างามทำให้หน้าของนักสู้ทุกคนในห้องโถงเปลี่ยนไป หัวใจของพวกเขาเหมือนกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคั้น ร่างกายของพวกเขาเหมือนควบคุมไม่ได้  พวกเขาไม่อาจขยับได้
ในมุมหนึ่งไม่มีผู้ใดทันสังเกต เยี่ยนเซี่ยและพวกอื่นปะปนอยู่ภายใน  หน้าของเยี่ยนเซี่ยเขียวคล้ำ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจ นอกจากเขาแล้วอูหนานและคนอื่นก็หน้าถอดสี
 “เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่?”  เสียงของกงอี้ซิ่วแตกตื่น กระแสพลังที่โอ่อ่านั้นทำให้เขาใจเต้นแทบบ้า
ไม่มีผู้ใดตอบคำถามนี้ได้
เยี่ยนเซี่ยลดเสียลง “เป็นพลังสายเลือด  ดูเหมือนเขาจะได้กระตุ้นพลังสายเลือดของเขา”
 “กระตุ้นพลังสายเลือดน่ะหรือ?”  สั่วกวงที่อยู่ใกล้ๆ อุทาน เขาพยายามลดเสียง  “กระตุ้นพลังสายเลือดในเวลาเช่นนี้  นี้มันเกิน...”
หน้าของอูหนานมีสีหน้าปั้นยาก “ข้าเกรงว่าเราตอนนี้เราก่อเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว”
ความจริงในใจเยี่ยนเซี่ยเห็นด้วยกับอูหนาน  แต่เขาแค่นหัวเราะ  “ปัญหาของเราเพียงเล็กน้อย  คนที่เจอปัญหาใหญ่ก็คือผู้เฒ่าหวี  เราแค่ทำร้ายบริวารของกู้เสวี่ย  แต่ผู้เฒ่าหวีต้องการชิงตัวนาง”
ทั้งสามคนถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เมื่อเยี่ยนเซี่ยได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกของทั้งสามคน เขารู้ในใจว่าอูหนานและพวกที่เหลือไม่มีความกล้าต่อสู้กับถังเทียนต่อไป
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มีคนที่โง่ยิ่งกว่าคอยช่วยป้องกันเขาไว้
รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยนเซี่ย  ครั้งนี้ผู้เฒ่าหวีลำบากแน่
※※※※※

ถังเทียนลดแขนลง  ดวงตาแดงสดใสของเขามองผู้เฒ่าหวีอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ
ทันใดนั้น ยกแขนขวา  นิ้วชี้ที่เหมือนหอกของเขาชี้ไปที่ผู้อาวุโสหวี
การท้าสู้ที่ไม่มีกฎเกณฑ์และยโสลำพอง ไม่มีทางถอนถอยเป็นที่รับทราบกันทุกคนอย่างไม่มีความผิดพลาด
 “เฮ้, ตาเฒ่า, มาจบเรื่องทั้งหมดในวันนี้ด้วยการต่อสู้กันเถอะ!
เรือนร่างที่ตั้งตรงกำลังชี้นิ้ว  ถังเทียนผู้โดดเด่นไม่ค่อยคุ้นเคยนัก ไม่มีความโกรธ ไม่มีเสียงโห่ร้อง  แต่ทุกคนในห้องโถงตอนนี้ รวมทั้งอู๋เจ๋อสิงสะดุ้งตกใจเพราะถังเทียนที่ไม่คุ้นเคยอย่างนั้น
เถื่อน แน่วแน่ หัวรั้น
แม้ว่าพลังฝึกปรือของผู้เฒ่าหวีจะเหนือกว่าผู้อื่นมาก แต่การถูกกระตุ้นท้าทายเช่นนั้นต่อหน้าต่อตาทุกคน ทำให้เขาหน้าร้อนด้วยความโกรธ
ผู้เฒ่าหวีโกรธจนหัวเราะ “อย่างนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้า  เจ้าคนอวดดี”
ผู้เฒ่าหวีลุกขึ้นยืน  หน้าเขาเขียวคล้ำและเดินช้าๆ เข้าหาถังเทียน  ความรู้สึกอึดอัดคับข้องถูกปลดปล่อยทันที แตกต่างจากพลังรุนแรงของถังเทียน  แต่เต็มไปด้วยความสูงวัยและชั้นเชิง
นักสู้อื่นตื่นเต้นทันที
ผู้เฒ่าหวีมีชื่อเสียงมานานกว่าสี่สิบปี เป็นยอดฝีมือที่แท้จริงในดาวไพรมายา และตระกูลหวีเป็นตระกูลที่มีสถานะสูงสุดในดาวไพรมายาด้วยความเป็นผู้นำของเขา  เขามีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ ในชีวิตพ่ายแพ้ให้แก่คนผู้เดียวคือกระบี่ราตรีไซอา  ไซอาโดดเด่นขึ้นมาในปีนั้น เข้าร่วมต่อสู้ในทุกประเภทรายการ และไม่เคยประสบความพ่ายแพ้แต่อย่างใดและขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ในที่สุด
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับของผู้เฒ่าหวีแต่อย่างใด  เพราะปีนั้นเป็นปีแห่งความมืด  ยอดฝีมือเกือบทุกคนในดาวไพรมายาพ่ายแพ้ในเงื้อมมือไซอา  อย่างไรก็ตาม ชีวิตมิอาจคาดคำนวณได้  เนื่องจากสาเหตุที่ไม่ชัดเจน  ไซอาพลันเปลี่ยนบุคลิกนิสัยของเขา  และมาตรฐานของเขาลดลงฮวบฮาบ เขาตกลงจากอันดับหนึ่งไปอยู่อันดับที่ห้า และกลายเป็นมือสังหารที่มีชื่อมากที่สุดในดาวไพรมายา
ผู้เฒ่าหวีมีระดับคงที่อยู่ระดับที่สิบห้าเสมอ
นี่คืออันดับที่ยังน่ากลัว แต่ก็ยังเป็นอันดับที่น่าอายอยู่ดี
สิบอันดับแรกเป็นเหมือนต้นน้ำ  ทุกคนร่ำรวยมีอิทธิพล  ขณะที่อันดับสิบถึงยี่สิบจะเป็นพวกกดขี่ใช้อำนาจ  แต่ผู้เฒ่าหวีผู้ทะเยอทะยานต้องการเป็นจุดสนใจ แค่เป็นผู้ใช้อำนาจไม่ทำให้เขาพอใจได้  อย่างไรก็ตาม อันดับของเขายากที่จะขยับมากไปกว่านี้  ดังนั้นเขาคิดจะใช้ศักดิ์ศรีและความอาวุโสของพวกเขามาทดแทนความสามารถที่ขาดไป
และนี่คือเหตุผลที่เขาถึงได้ทุ่มเทมากมายกับการเป็นวีรบุรุษรับเชิญ
สถานการณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นเกินไป ดังนั้นเขาตัดสินใจตามจีบเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลกู้  เหตุผลเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะตระกูลกู้สำคัญมากต่อแผนการของเขาในครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องยึดตระกูลกู้ให้อยู่ในเงื้อมมือให้ได้  ไม่มีข้ออ้างของตระกูลกู้ เขาไม่มีเหตุผลจะเข้าไปแทรกแซง
ถังเทียนและหลิงซิ่วแทบคุกคามเขาได้น้อยมาก  สำหรับการจัดอันดับในนักสู้ห้าสิบอันดับแรก อาจดูว่าเป็นนักสู้ธรรมดา  แต่สำหรับเขาเทียบได้กับบริวารของเขาอย่างหลี่ซิ่นและจี่เทียน  นอกจากนี้เขาเชื่อว่ามียอดฝีมือมากมายจากตระกูลต่างๆ จะมีมาในอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด  นักสู้ผู้มีมาตรฐานเหล่านี้ เขาสามารถรวบรวมได้อย่างน้อยแปดคน
เขามีต้นทุนอยู่ในมือเพียงพอ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้เขา
แต่เขาคำนวณผิด
หลิงซิ่วสามารถสู้กับอู๋เจ๋อสิงได้และถังเทียนพิชิตจี่เทียนในหมัดเดียว ฝีมือของเขาไม่ต่ำทรามกว่าอู๋เจ๋อสิง กลิ่นอายของเขาทวีความน่ากลัวมากขึ้น  ตั้งแต่แรกเริ่มผู้เฒ่าหวีไม่เคยคิดว่าเขาจะถูกลากลงปลักนี้ไปด้วย
สถานการณ์ของเขาในตอนนี้หมิ่นเหม่มาก
ทันใดนั้น เขารู้สึกเหมือนว่าเขากลับไปสู้กับไซอา แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนั้นจะไม่ได้ทำให้เขาถูกลดอันดับ แต่ก็มีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของเขา  แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือความมั่นใจของเขา หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น  เขาต้องใช้เวลาถึงเจ็ดปี ก่อนที่เขาจะสามารถฟื้นคืนความเชื่อมั่นของเขาให้กลับมาอยู่ในระดับสูงได้
และสถานการณ์ของวันนี้จะน่ากลัวยิ่งกว่า  ถ้าเขาล้มเหลว...
ผู้เฒ่าหวีสูดหายใจลึก และผลักความคิดนี้ทิ้งไว้เบื้องหลัง  สีหน้าเข้ม  เสื้อผ้าพองหนาอัดแน่นไปด้วยพลัง
เขาเดินเข้าหาถังเทียนทีละก้าวๆ ทั้งผมและเคราของเขาชี้ชัน
สู้ครั้งนี้ไม่เป็นก็ตาย!

4 ความคิดเห็น:

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ลุ้นๆๆ. หวีตายมะ

ขอบคุณครับ

Sky กล่าวว่า...

งั้นก็ตายไปเลยละกัน ผัวะ! .....One Punch Man......

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น