วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 169 ชัยชนะ

ตอนที่  169  ชัยชนะ
ร่างของถังเทียนเหมือนกับเติมเต็มไปได้วพลังงานไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อดูผู้เฒ่าหวีที่กำลังเดินเนิบนาบ  เขาไม่รู้สึกหวั่นวิตกแต่อย่างใด  ตรงกันข้ามเขากลับกระตือรือร้น  เขาต้องการเห็นฤทธิ์เดชของเลือดแคระและเลือดเทพที่เขาเพิ่งจะดูดซับไว้ได้
ถ้าเป็นไปตามทฤษฎีของปิง  ถังเทียนในตอนนี้ ไม่ควรจะยั่วยุผู้อาวุโสหวี  เพราะเขายังต้องจำแนกพลังที่เขาพบใหม่นี่เสียก่อน  แต่ถังเทียนไม่สนใจแม้แต่น้อย  พลังฤทธิ์เดชที่เขาเพิ่งดูดซับไปพร้อมจะปลดปล่อยศักยภาพของมันแล้ว  พวกมันดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความรังเกียจและความเกลียดชังที่ถังเทียนมีต่อผู้เฒ่าหวี
ยิ่งกว่านั้น ตาเฒ่าบัดซบนี่ไม่สมควรให้อภัย
ถังเทียนไม่มีนิสัยที่ยอมให้คนอื่นบุกโจมตีก่อน  ดังนั้นเขาจึงเริ่มโจมตี
ถังเทียนหายวับไปตรงจุดที่เขายืน
ไวมาก!
พวกนักสู้ถึงกับเบิกตากว้างเพื่อสังเกตให้ชัด พวกเขารู้สึกว่าสายตาพร่ามัว และจากนั้นภาพถังเทียนก็หายไป  มีแต่เพียงเยี่ยนเซี่ย, อูหนานและคนเพียงหยิบมือที่สามารถมองตามถังเทียนได้ทัน  เยี่ยนเซี่ยยังดี  แต่อูหนานสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว  ความเร็วของถังเทียนไวกว่าเขา!
ไวเหมือนสายฟ้า!
ความเร็วของถังเทียนตั้งแต่แรกก็ไม่ช้าอยู่แล้ว และเลือดแคระไม่เพียงแต่เพิ่มพลังให้กับเขาเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความเร็วอีกด้วย  ขณะที่เลือดเทพยังกระตุ้นความเร็วของถังเทียนให้เพิ่มมากขึ้นอีก  ด้วยการผสานกันของสายเลือดทั้งสอง  ความเร็วของถังเทียนในตอนนี้ยังเร็วกว่าหัวหรงในขณะที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดเสียอีก
ผู้เฒ่าหวีในตอนนี้ เข้าสู่สภาวะพร้อมต่อสู้แล้ว  ตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า  สีหน้าของเขาเคร่งเครียดจริงจัง  ในมือของเขาถือพัดสีฟ้า
ควั่บ เมื่อพัดคลี่ออก  มีคำเขียนไว้บนพัดว่า “ระลอกคลื่น”
พัดระลอกคลื่นเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ของหมู่ดาวสายน้ำ
ผู้เฒ่าหวีพลิกฝ่ามือโบกพัด  วิ้ววว.. ทันใดนั้นสระน้ำสีน้ำเงินปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียนเหมือนกับแนวเส้นขอบฟ้า  พัดเป็นเหมือนคลื่น  ไม่มีความยุ่งเหยิง แค่เหมือนระลอกคลื่นแผ่วพลิ้ว เพราะเป็นเพียงลมพัด  ดูเหมือนไม่มีอันตรายแม้แต่น้อย
สัญชาตญาณของถังเทียนบอกให้รู้ว่ามีอันตราย
ดูเหมือนระลอกคลื่นที่สดใสแผ่วพริ้วจะมีอันตรายแฝง
ถังเทียนไม่สงสัยสัญชาตญาณของตัวเขาเอง  แม้ว่าความเร็วและพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่ธรรมดา จนเหนือกว่าคนทั่วไปมากมาย   แต่พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือสัญชาตญาณ
แทบไม่มีอะไรต้องคิด  ถังเทียนชี้ไปที่ส้นเท้าและย่อตัวเล็กน้อย ก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านข้างผู้เฒ่าหวี
เสียงอุทานดังขึ้นจากคนรอบด้าน  ความเร็วของถังเทียนไวเหลือเกิน  เมื่อพวกเขาเห็นถังเทียนปรากฏตัวในอากาศข้างๆ ผู้เฒ่าหวี  พวกเขาตกใจกันหมด
ถังเทียนกระดิกนิ้วเล็กน้อย  วังวนสีขาวก็ลอยออกมาจากฝ่ามือของเขา
วังวนกระเรียนขาว!
ผู้เฒ่าหวีดูเหมือนจะสงบและนิ่ง  เขาพลิกข้อมือและสะบัดพัดที่กลายเป็นเหมือนแปรงใหญ่พิเศษที่จุ่มแช่น้ำทะเลแสงสีฟ้าและโบกแกว่งตามปกติ
ถังเทียนไม่เคยพลาดเป้าหมายของเขา  วังวนกระเรียนขาวที่มักทำให้คู่ต่อสู้ตื่นเต้นหายไปเงียบๆต่อหน้าคลื่นแสงของน้ำทะเล
ถังเทียนตกใจทันที
เขาไม่เคยคิดว่าวังวนกระเรียนขาวจะสามารถฆ่าผู้เฒ่าหวีได้  แต่แม้ว่ามันจะทำให้ผู้เฒ่าหวีตื่นเต้น เขาไม่คาดเลยว่าคลื่นโบกของพัดตามปกติของผู้เฒ่าหวีจะสลายกระบวนท่าเขาได้
แม้จะแตกตื่น แต่ฝีเท้าของถังเทียนไม่ได้รับผลอะไรแม้แต่น้อย  และเขามีความลื่นไหลเป็นพิเศษ
ความเร็วของเขารวดเร็วเป็นพิเศษ  แม้ว่าวังวนกระเรียนขาวแทบจะไม่มีอาการสนองตอบ แต่คลื่นพัดของผู้เฒ่าหวีก็ทำอะไรถังเทียนไม่ได้
ถังเทียนพยายามโจมตีจากตำแหน่งต่างๆ  แต่ผู้เฒ่าหวีตื่นตัวมากกว่าธรรมดาทำให้ความพยายามของเขาไร้ผล  ผู้เฒ่าหวีปรับเปลี่ยนจังหวะฝีก้าว  เขารู้ว่าความเร็วของเขายังเป็นรองถังเทียนอยู่มาก  ดังนั้นเขาตัดสินใจตั้งรับไม่ทำอะไร  อย่างไรก็ตามพัดของเขาน่ากลัว และถังเทียนก็กังวลมาก
ฝีมือลึกล้ำของผู้เฒ่าหวีทำให้ถังเทียนทำอะไรไม่ถูก
ผ่านไปสองสามรอบทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาพยันกัน  นักสู้ผู้สังเกตการณ์ก็เข้าใจปัญหาบางอย่าง
 “สมกับเป็นผู้เฒ่าหวีจริงๆ อา... วิชาพัดสามทะเลขุนเขาใช้ออกได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีช่องโหว่”
 “ใช่แล้ว!แต่ความเร็วของถังเทียนก็น่ากลัว!  ถ้าคู่ต่อสู้เป็นคนอื่น  ข้าพนันได้ว่าเขาคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว

 “หัวหน้า!  ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบกันแน่?”  สั่วกวงอดถามอย่างช่วยไม่ได้
เยี่ยนเซี่ยนิ่งงัน และลดเสียงลง  “ยากที่จะบอกได้ ดูจากพลังฝีมือทั้งสองฝ่ายมีทั้งได้เปรียบและเสียเปรียบ  ความเร็วและพลังของถังเทียนทำให้เขาได้เปรียบ  ขณะที่ผู้เฒ่าหวีมีวิทยายุทธที่เหนือกว่า อีกทั้งปราณแท้ก็แข็งแกร่ง  และตอนนี้เขาลดตัวใช้ท่าตั้งรับ  ถ้าถังเทียนต้องการชัยชนะ ก็จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก วิชาสามทะเลขุนเขาของผู้เฒ่าหวีสมบูรณ์แบบ  ถ้าถังเทียนประมาทใจร้อน  ก็จะเป็นอันตรายแน่”
อูหนานถามต่อด้วยความสงสัย  “หัวหน้าคิดว่าผู้เฒ่าหวีดีพอไหม?”
 “ไม่!  เยี่ยนเซี่ยนสั่นศีรษะอย่างคาดไม่ถึง  “ข้ายังคาดหวังว่าถังเทียนมีดีพอ”
ทุกคนตะลึงกับเรื่องที่เยี่ยนเซี่ยเพิ่งพูด ผู้เฒ่าหวีควรอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบชัดเจน  แต่หัวหน้ากลับพูดว่าถังเทียนมีดีพอ
เยี่ยนเซี่ยมองดูในห้องโถงและรำพึงกับตนเอง  “การต่อสู้ครั้งนี้  สำหรับผู้เฒ่าหวีแล้ว ไม่มีเงื่อนไขอื่นให้ได้รับชัยชนะ  ดังนั้นเขาจึงเครียดมาก  ขณะที่ถังเทียนจะได้รับชัยชนะตราบเท่าที่เขาลากเวลาได้ยาว  และถังเทียนมีกำลังใจดีกว่า  สำหรับคนในวัยอย่างเขา  เขาไม่กลัวแล้วยังกล้าหาญ  สิ่งที่สำคัญที่สุด ถังเทียนยังไม่คุ้นเคยกับพลังที่เขาเพิ่งได้มาใหม่  นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของผู้เฒ่าหวี  แต่ผู้เฒ่าหวีระวังตัวเกินไป  รอจนถังเทียนค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับพลังใหม่ของเขา  ความสมดุลจะเปลี่ยนไป”
กงอี้ซิ่วจู่ๆ ก็เงียบลง  “หัวหน้า!  ท่านคิดว่าเราจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์.....”
เขายกฝ่ามือแล้วทำท่าสับเบาๆ
เยี่ยนเซี่ยส่ายหน้า  “อย่าลืมว่า ยอดฝีมือจักรกลยังไม่ปรากฏตัว  เราประมาทถังเทียนกับหลิงซิ่วไปแล้ว  และจะเป็นยังไงถ้าเรายังประมาทเจ้าผู้นั้นอีกด้วย?”
ทุกคนถูกขู่ขวัญ
เยี่ยนเซี่ยลดเสียงของเขา  “สำหรับตอนนี้ ความขัดแย้งของเรากับตระกูลกู้  ไม่สิ ที่ถูกควรเป็นความขัดแย้งของเรากับถังเทียนกับพวกทั้งสามไม่สามารถจะประนีประนอมกันได้แน่นอน  ถ้าเรายอมลดความยืนกรานของเรา  การขอโทษกู้เสวี่ยจะเป็นเรื่องง่าย  ถ้ากู้เสวี่ยไม่ถือสาหาความ เราก็จะไม่ขัดแย้งกับพวกเขามากขึ้น  แต่ถ้าเราโจมตี  อย่างนั้นเราคงหนีไม่รอด”
กงอี้ซิ่วได้แต่เงียบ
เมื่อเยี่ยนเซี่ยเห็นกงอี้ซิ่วไม่ยินยอมพร้อมใจ  เขาตบไหล่กงอี้ซิ่วและเตือน “อย่าเพิ่งท้อแท้  รอจนกว่าท่านหัวหน้ากลุ่มจะมาถึง”
กงอี้ซิ่วได้รับการกระตุ้นเตือน  เขาเป็นนักวางแผนอยู่แล้วก็ล้างความคิดของเขาทันที  ถูกแล้ว เมื่อหัวหน้ากลุ่มมาถึง ความสามารถของเขาจะต้องพุ่งทะยาน  แผนของผู้เฒ่าหวี  หลังจากเหตุวุ่นวายนี้  แผนการของผู้เฒ่าหวีคงสลายหายไป  ตระกูลกู้จะขัดแย้งลึกซึ้งกับตระกูลอื่น  ดังนั้นจะไม่มีใครยืนหยัดช่วยตระกูลกู้  เมื่อถึงตอนนั้น  ทั้งสามคนนี้และกู้เสวี่ยจะกลายเป็นปลาที่อยู่บนเขียง
แต่ในช่วงนี้เอง  การต่อสู้ระหว่างหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงก็มาถึงจุดตัดสิน
 “หอกพิทักษ์คุณธรรม!
 “กระบี่สายลมไร้เงา!
แสงรังสีแพรวพราวปรากฏขึ้นฉับพลันเหมือนสายรุ้งและกระแทกใส่ที่ว่าง
ที่ว่างแต่เดิม ปรากฏมีกระบี่เขียวเล่มหนึ่งผุดขึ้นมาทันที
ติง!
ทั้งหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดพร้อมกัน ทั้งสองคนปลิวกระเด็นออกไป  บึ้ม บึ้ม บึ้ม!  เสาสองสามต้นแตกหัก ก่อนที่พวกเขาจะหยุดยั้งตัวเองได้
เสมอกัน!
อู๋เจ๋อสิงรู้สึกย่ำแย่จนแทบเป็นบ้า  ความสงบเงียบบนใบหน้าของเขาเมื่อก่อนนั้น ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว  เขาเป็นเหมือนสัตว์ป่าดุร้าย จ้องมองหลิงซิ่วอย่างประสงค์ร้าย
ชุดขาวของหลิงซิ่วยับยู่ยี่ นิ้วมือฝ่ามือซ้ายที่เขาซ่อนอยู่ด้านหลังสั่นอย่างต่อเนื่อง  แต่สายตาของเขาไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
กระดูกสันหลังของหลิงซิ่วสั่นแทบตรวจไม่พบ  ความเจ็บปวดมหาศาลโถมทะลักใส่เขาและแทบจะท่วมทับเขาให้อยู่ในความเจ็บปวด  ผ้าพันตัวของเขาเปียกโชกแล้ว  หลิงซิ่วหายใจลึก  เขาตั้งท่ามุทราสราญรมย์  เมื่อเขาจัดท่ามุทราได้ร่างกายของเขาจะหยุดสั่น
ดวงตาสีแดงเพลิงสงบลงอย่างรวดเร็ว
ความอดกลั้นคือสะพานเชื่อมจากความทุกข์ทรมานสู่พลัง  ยิ่งอดทนต่อความทรมานได้มาก  ก็ยิ่งได้รับพลังมหาศาล
หัวใจของหลิงซิ่วสงบลงทันที  ความเจ็บปวดที่สันหลังของเขาไม่ได้ลดทอน  แต่กลับมีพลังร้อนแรงสายหนึ่งผุดออกมาจากความเจ็บปวดลึกๆ ในไขกระดูกสันหลัง มันเพิ่มออกมาจากกระดูกสันหลังที่ผิดรูปของเขาและโคจรเข้าแขนและสู่นิ้วมือของเขา
นิ้วมือทั้งสิบที่มีสีเหมือนเหล็กกล้าของเขา ยิ่งดูคล้ำกว่าเดิม
หลิงซิ่ว  เจ้าคือบุรุษผู้มีปณิธานกล้าแกร่ง  เจ้าทำได้!
หลิงซิ่ว  เจ้ากำลังทำสิ่งที่ดี  เจ้ากำลังต่อสู้เพื่อคุณธรรม
อาจารย์  นี่คือความหมายที่ท่านบอกใช่ไหม  เมื่อท่านพูดว่าเป็นคนดี...?
ความรู้สึกนี้...... ดูเหมือนไม่เลว......
หลิงซิ่ว  เจ้าต้องชนะ......
ชัยชนะเท่านั้น จึงคู่ควรกับหอกทะเลจุด!
จู่ๆ สายตาของหลิงซิ่วก็คมและแน่วแน่ เขาไสหอกแทงออกไป
พิทักษ์ความเป็นธรรม!
จุดรังสีเงินระเบิดออก ยังมีความสว่างระยิบระยับมากยิ่งขึ้น
อู๋เจ๋อสิงไม่เคยคิดเลยว่าในเวลานี้ หลิงซิ่วยังเหลือพลังโจมตีได้อย่างรุนแรง  ดวงตาเขาเป็นประกายเหมือนคนเสียสติ  เขาไม่หลบ แต่กลับไสกระบี่โถมเข้าหาทั้งตัว
ติง!
เสียงปะทะที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าเดิม ทำให้หัวใจของทุกคนเต้นผาง
อู๋เจ๋อสิงกระเด็นถอยหลังด้วยความเร็วที่น่ากลัวและปะทะกับผนัง  อิฐปลิวกระเด็น และมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผนังพังถล่มไปทั้งแถบและฝังร่างเขาไว้
หลิงซิ่วยืนอยู่กับหอกของเขา  หน้าของเขาดูเหมือนจะมีความเจ็บปวด แต่สีหน้าอารมณ์ของเขากลับสงบอย่างประหลาด
อาจารย์ นี่คือสิ่งที่ท่านหมายถึงใช่ไหม ชัยชนะของฝ่ายธรรมะ
※※※※

ความล้มเหลวของอู๋เจ๋อสิงทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสหวีเปลี่ยนไปเล็กน้อย  สามารถเอาชนะอู๋เจ๋อสิงได้ก็หมายความว่าฝีมือของหลิงซิ่วเหนือกว่าที่เขาคาดไว้มาก  และนี่คือบทสรุปที่แย่ที่สุด
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของผู้อาวุโสหวี  เขาย่อขาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า และเปลี่ยนตำแหน่งกระทันหันบุกเข้าหาผู้เฒ่าหวีทันที
ผู้เฒ่าหวีแตกตื่นและตอบโต้ทันที ด้วยรู้สึกที่ไม่ดี
ทั้งสองฝ่ายอยู่ในตำแหน่งที่สมดุล  แต่เนื่องจากผู้เฒ่าหวีเปิดช่องโหว่แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งที่นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดใหญ่หลวง  แต่สำหรับการต่อสู้ระดับนั้น  รูปแบบในการกำกับดูแลการต่อสู้ อาจเป็นปัจจัยชี้ขาดผลการต่อสู้ได้
ถังเทียนเปลี่ยนวิธีการโจมตีของเขาทันที  จากการเคลื่อนที่หาช่องว่าง เขาเปลี่ยนเป็นบุกโจมตีอย่างดุเดือดทันที
ประทับหัตถ์ใหญ่!
ประทับหัตถ์ใหญ่ที่น่ากลัวของเขากระแทกใส่คลื่นทะเลจากพัดทันที  พัดของผู้เฒ่าหวีจมลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้เขาตกใจ  ช่างเป็นพลังที่ดุร้ายนัก  ที่สำคัญคือผู้เฒ่าหวีแก่แล้ว  แม้ว่าปราณเที่ยงแท้ของเขาจะลึกซึ้งก็ตาม  แต่ความแข็งแกร่งของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด  เขาไม่เคยรู้จักประมาณพลังของเขา  ดังนั้นพลังจากฝ่ามือถังเทียนเกือบทำให้เขาพังทลาย
พลังที่กร้าวแกร่งนัก
ขณะที่ผู้อาวุโสหวีตกใจระคนอัศจรรย์ใจ พลังฝ่ามือที่เหมือนกับแผ่นหินจารึกใหญ่ก็ระเบิดทันที
พลังมังกรฟ้า
ผู้เฒ่าหวีไม่ทันได้ตั้งตัว และส่งเสียงครางทันที ขณะที่เขาเป็นเหมือนกับถูกใครบางคนผลักจนเซถอยหลัง
เยี่ยนเซี่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  เขายืนขึ้นทันทีและอุทาน “พลังสายเลือดสองชนิด!
ถังเทียนไม่หยุดแม้สักนิด  และเขามาปรากฏข้างหลังผู้อาวุโสหวีเหมือนกับภูตพราย และใช้ประทับหัตถ์ใหญ่หวดใส่อีกครั้งอย่างรุนแรง
พลังที่รุนแรงของประทับหัตถ์ใหญ่ทะลุผ่านคลื่นของพัดระลอกคลื่นและกระแทกใส่หลังที่เปิดโล่งของเขา
ผู้เฒ่าหวีถลาไปข้างหน้าพร้อมกับกระอักเลือด หน้าของเขาปรากฏแววหวาดผวา
 

6 ความคิดเห็น:

ก็แค่ชีวิตเล็กๆในโลกใบนี้ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

kk.putting กล่าวว่า...

ตีบคนแก่ที่เห็นแก่ตัวต้องเอาให้ตาย

Unknown กล่าวว่า...

สุดยอดดดด

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

pornsin กล่าวว่า...

พระเอกตูครบถ้วน
ตบเด็ก (องหญิงน้อย)
เตะคนแก่ (ตาแก่หวี่)
รังแกผู้หญิง (องครักษ์ขององหญิงน้อย)

แสดงความคิดเห็น