วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 170 พยัคฆ์ร้ายในฝูงแกะ

ตอนที่  170  พยัคฆ์ร้ายในฝูงแกะ
“หยุดนะ!
มีร่างๆ หนึ่งพุ่งเข้ามาหาถังเทียน เขาคือหลู่ชิง  เขาไม่ต้องการพัวพันเรื่องนี้ตั้งแต่แรก  เพราะสภาพที่น่าอนาถของจี่เทียนทำให้เขารู้สึกหนาว  แต่เขาไม่เคยนึกเลยว่าแม้แต่ผู้เฒ่าหวีก็ยังไม่ใช่คู่มือของถังเทียน

เป็นธรรมดา เขาไม่สามารถทนเห็นผู้เฒ่าหวีตายอย่างน่าอนาถในเงื้อมมือถังเทียน  เมื่อเห็นว่าสถานการณ์วิกฤติ  เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นและพุ่งเข้าหาถังเทียน
ฝีมือของหลู่ชิงพอๆ กับจี่เทียน เพื่อช่วยผู้เฒ่าหวี  เขาไม่มีการยั้งออมมือแต่อย่างใด หมัดของเขาเหมือนกับดาวตกพุ่งตรงใส่ถังเทียน  วิทยายุทธที่ขึ้นชื่อของหลู่ชิงก็คือหมัดดาวตก เป็นวิทยายุทธระดับหก พลงหมัดหนักหน่วงและรวดเร็วมีพลังน่าทึ่ง
เขารู้ว่าถังเทียนน่ากลัว  ดังนั้นเขาจึงใช้ท่าสังหารรวดเดียว
ดาวตกถล่มฟ้า
หมัดที่ดูเหมือนดาวตกฉายรังสีสิบสองสาย เสียงหวีดหวิวน่าตกใจ แสงสว่างเจิดจ้าเหมือนสร้อยคอ พุ่งตรงเข้าหาถังเทียน
ถังเทียนสังเกตหลู่ชิงอยู่นานแล้ว  ตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น และด้วยการบิดตัวเพียงเล็กน้อย หมัดสองสามหมัดดูเหมือนจะแกว่งส่าย  เขาฉวยโอกาสหลบในแนวนอน  ท่านี้ไวเหมือนสายฟ้า และหมัดสองสามหมัดนั้นก็เฉียดผ่านร่างของเขาไป
บึ้ม บึ้ม บึ้ม
หมัดปะทะเข้ากับผนังหินสีฟ้ากระเด็นไปทั่ว ฝุ่นธุลีฟุ้งกระจาย
ถังเทียนกระดิกนิ้วมือ  วังวนกระเรียนขาวก็เป็นเหมือนกับฝูงนกกระเรียนขาวเต้นระบำทันที  หมัดที่กระแทกใส่ถูกสะบัดและถูกปั่นออกไปด้วยวังวนที่หมุนด้วยความเร็วสูง
พอถึงตอนนี้เรื่องเกินกว่าจะควบคุมได้  หมัดดาวตกที่ถูกสะบัดออกไป พุ่งปะทะใส่ฝูงคนและความวุ่นวายก็เกิดขึ้น
 “บุก!
 “ทุกคนบุกโจมตีพร้อมกัน!
บริวารของผู้เฒ่าหวีดูเหมือนเพิ่งจะตื่น และวิ่งเข้าใส่ถังเทียน  ห้องโถงเป็นโครงสร้างที่แคบมาก  แม้ว่าถังเทียนจะน่ากลัว  แต่พวกเขาจะท่วมทับถังเทียนในทะเลฝูงคน
 “ปิง, ปกป้องอาเสวี่ยและซิ่วซิ่วน้อย!
ถังเทียนคำรามในอากาศ และร่างบรอนซ์ร่างหนึ่งกวาดผ่านห้องโถงและคว้าตัวหลิงซิ่วไว้
 “ปล่อยข้านะ!  หลิงซิ่วเหมือนกับแมวโกรธ จริงๆต้องบอกว่าแพนด้า  เขาไม่พอใจมาก กับความจริงที่เขาตกต่ำจนต้องให้คนอื่นปกป้อง เขาดิ้นรนอยู่ในมือปิงอย่างดุร้าย  แต่ฝ่ามือปิงเหมือนกับคีมเหล็ก
ปิงแบกหลิงซิ่วและวางลงข้างๆ กู้เสวี่ย  ร่างขนาดใหญ่ของเขาเป็นเหมือนกำแพงป้องกันอยู่หน้ากู้เสวี่ย
ถังเทียนตอนนี้ควบคุมตนเองไม่ได้อย่างสิ้นเชิงและเข้าสู่สภาพพร้อมสู้เต็มที่  เขาวิ่งเข้าหาหลู่ชิงราวกับสายฟ้า และความเร็วที่น่าเหลือเชื่อของเขาทำให้หลู่ชิงตกใจ  อย่างไรก็ตามเขาเหลือบเห็นว่าสหายของเขาได้ช่วยเหลือผู้เฒ่าหวีแล้วจึงถอนหายใจโล่งอกทันที  เขาตั้งท่าขวางหมัดป้องกันและพยายามหลบหนีเข้าไปในกลุ่มคน
 “คิดหนีหรือ?”  ถังเทียนแค่นเสียงเย็นชาไม่พอใจที่เหยื่อของเขาหนีไป
ประทับหัตถ์ใหญ่ร่วงลงมาจากอากาศพร้อมกับเสียงดังทุ้มต่ำ
หลู่ชิงกระโดดด้วยความตกใจ  เขาเห็นมากับตาตนเองว่าผู้เฒ่าหวีต้องกระอักเลือดออกมาอย่างไรหลังจากโดนประทับหัตถ์ใหญ่ของถังเทียน  เขาไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเองต่อไป  รีบขดตัวเป็นลูกบอลและกลิ้งหายปะปนไปในกลุ่มคน
บึ้ม
ประทับหัตถ์ใหญ่เหมือนกับแท่งหินใหญ่กระแทกลงพื้นเหมือนกับดาวตก  ทุกคนล้มลงกับพื้นระเนระนาด ฝุ่นควันฟุ้งขึ้นไปในอากาศอยู่รอบๆ นักสู้ มีอยู่สองสามคนที่หลบไม่ทันนอนร้องครวญคราง บางคนร้องโหยหวนได้ยินแล้วทำให้เสียวสันหลัง
ถังเทียนฉวยโอกาสวิ่งเข้าใส่และหลบกระบี่และหมัดที่ลอบเข้ามาทำร้ายเบื้องหลัง  เขาโคจรพลังไปที่ขาและพุ่งเข้าไปในกลุ่มคนอีก  พื้นที่คับแคบสำหรับถังเทียนแล้ว เหมาะให้เขาแสดงพลังที่น่ากลัวได้
พลังภายในของถังเทียนมากกว่านักสู้ปกติถึงห้าเท่าอยู่แล้ว รวมกับพลังสายเลือดคนแคระในตอนนี้แล้ว  พลังของเขาเป็นสิบเท่าของนักสู้ปกติ
นี่คือสถิติน่าสยดสยองมากที่ยังสูงกว่าหัวซาผู้กระตุ้นสายเลือดคนเดิมเสียอีก
ทันใดนั้นถังเทียนลากพลองเขี้ยวสุนัขป่าหัวท้ายซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของหัวซา หนักถึงสามร้อยหกสิบกิโลกรัม เป็นอาวุธสังหารที่หนักมาก
เมื่อเห็นฝูงคนต่อหน้าเขา  ถังเทียนฉีกยิ้ม
เขาควงกระบองเสียงหวีดหวิวน่ากลัว ทำลายขวัญและความกล้าของนักสู้จนหนาวยะเยือกในใจ
พวกนักสู้คนหนึ่งที่บุกเข้ามาข้างหน้าตกใจ  แต่การสนองตอบของเขารวดเร็ว เขายกโล่มือป้องกัน ย่อตัวต่ำและถ่ายปราณทั้งหมดข้าไปในแขนทั้งสอง
กระบองฟาดใส่โล่เหล็กหนา 10 มม. อย่างแรง
บึ้ม!
โล่เหล็กแตกเป็นเสี่ยงทันที และชิ้นส่วนกระเด็นไปทุกทิศทาง มีชิ้นหนึ่งฝังเข้าไปในร่างของนักสู้คนหนึ่ง  นักสู้ที่ตั้งท่าป้องกันนั้นไม่มีโอกาสทันได้ร้องก็ปลิวกระเด็นออกไปกระแทกนักสู้อีกสามคนต่อเนื่องก่อนจะนอนนิ่งกับพื้น  นักสู้อีกสามคนนั้นไม่มีใครลุกขึ้นมาได้อีกเลย
 “หนุ่มชาวฟ้า,  ลุย ลุย ลุย!
ถังเทียนรู้สึกเบิกบานใจและโห่ร้องต่อเนื่อง  เขาไม่เคยเรียนวิชากระบอง และใช้แต่แรงเถื่อนล้วนๆ แต่ละครั้งเขายกกระบองฟาดใส่อย่างต่อเนื่อง  แต่พลังป่าเถื่อนเช่นนั้นกลับเกิดประสิทธิภาพดีอย่างไม่น่าเชื่อ  นักสู้เหล่านั้นตอนแรกคิดว่าพื้นที่คับแคบจะสามารถจำกัดความเคลื่อนไหวของถังเทียนได้  ทำให้พวกเขาได้เปรียบจากจำนวนคนที่มากกว่า แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าถังเทียนจะจู่โจมใส่ด้วยท่าทางไร้เหตุผลและก้าวร้าวเพียงนั้น
เมื่อกระบองเขี้ยวหมาป่ากวัดแกว่ง  ก็กลายเป็นอาวุธไร้ผู้ต่อต้าน  และพลังของถังเทียนไม่ใช่แค่สามารถควงมันได้เท่านั้น  แต่เขากวัดแกว่งมันได้ราวกับกังหันลม เมื่อใครถูกฟาด ก็จะปลิวกระเด็นออกมา
หลิงซิ่วตกตะลึง  ถังเทียนคล้ายพยัคฆ์ในฝูงแกะ  ทุกแห่งที่ผ่านไป ผู้คนถูกกวาดไปจากเท้าได้อย่างง่ายดาย
ฝ่ายตรงข้ามเป็นเหมือนรวงข้าวสาลีที่กำลังถูกเก็บเกี่ยวล้มลงทีละคนๆ เป็นภาพที่งดงามจริงๆ
 “เจ้าหมอนี่....โหดเหลือเกิน!  หลิงซิ่วพึมพำ   “ไม่ได้คำนึงคุณธรรมแม้แต่น้อย... แต่เท่ห์เป็นบ้า!
เขาชักจะอิจฉา
※※※※※

เยี่ยนเซี่ยและพวกแอบหลบมุมอยู่  พวกเขาตกตะลึงกับท่าทีของถังเทียนเช่นกัน  หน้าของอูหนานและสั่วกวงขาวซีด มองดูถังเทียนที่อาละวาดอยู่ในห้องโถงอย่างหวาดหวั่น
 “เจ้าบ้านี่มีพลังน่ากลัวเหลือเกิน” เสียงของอูหนานสั่น  เขารู้กำลังตนเองดี  แต่หลังจากเห็นพลังผิดมนุษย์ของถังเทียนแล้ว  เขากังวลทันที
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงสั่วกวงที่แทบจะเพ้อไปแล้ว  “นอกจากความเร็วของเขาแล้ว เจ้าหมอนี่ยังบ้าดีเดือดอีกด้วย.. จะเหลือรอดสักกี่คนกันนี่!
อันดับของสั่วกวงไม่สูงนัก  แต่เขาได้ตำแหน่งในกลุ่มคณะปกครองก็เพราะความเร็วผิดธรรมดาของเขา  อย่างไรก็ตาม  ความเร็วของถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขา ทำให้เขาได้สติและรู้สึกละอาย
 “สีหน้าของเยี่ยนเซี่ยน่าเกลียดน่ากลัวมาก  ตาของเขาเป็นประกายประหลาด เขาลดเสียง “เป็นพลังสายเลือดสองชนิด  ถังเทียนต้องกระตุ้นพลังสายเลือดพร้อมกันสองชนิดแน่  พลังสายเลือดแคระและสายเลือดเทพของพี่น้องตระกูลหัว ต้องตกไปในเงื้อมมือของเขาแน่  พลังและความเร็วขนาดนั้นเป็นไปได้เพียงประการเดียว  เขาดูดกลืนพลังสายเลือดทั้งสองไปแล้ว”
 “ไม่... ไม่มีทาง....”  ฟันของสั่วกวงกระทบกัน
สีหน้าของอูหนานแข็งค้าง  ชั่วเวลาต่อมา เขาหันหน้ามาทั้งที่คอยังแข็ง หน้าเขาซีดขาว  “เป็นพลังสายเลือดสองชนิดจริงๆ หรือ?”
การค้นคว้าวิจัยพลังสายเลือดขององค์การวิญญาณมืดมีประวัติศาสตร์ยาวนาน  ในองค์การวิญญาณมืด  พลังสายเลือดสำคัญยิ่งกว่าวิทยายุทธ ตามทฤษฎีคนเราสามารถเปิดใช้พลังสายเลือดได้  แต่ในความเป็นจริง มีการค้นพบว่าไม่ใช่ทุกกรณี หลายคนมีพลังสายเลือดธรรมดา และร่างของเขาไม่สามารถรองรับพลังพิเศษที่นำมาจากสายเลือดของคนอื่นได้
แต่ยังมีคนกลุ่มอื่นอีก  ไม่เพียงแต่ทนรับสายเลือดของคนอื่นได้เท่านั้น  พวกเขายังทนต่อพลังสายเลือดได้มากกว่าหนึ่งชนิด  เช่นพลังสายเลือดคู่เป็นต้น
แต่คนที่มีพลังสายเลือดสองชนิดหาได้ยากมาก  แทบทุกคนที่มีพลังสายเลือดคู่ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะ  เพื่อจะรองรับพลังสายเลือดได้สองรูปแบบ พวกเขาเริ่มต้นได้ดีกว่าคนอื่น
 “นั่นก็ถูกแล้ว” สีหน้าของเยี่ยนเซี่ยก็ดูไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา เขาลังเลก่อนที่จะลงมือ  “โชคดีที่สายเลือดแคระและสายเลือดเทพที่เขาดูดซับไป ไม่ใช่สุดยอดสายเลือดชั้นเงิน  ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงยากจะรับมือได้”
สั่วกวงจ้องมองไปในห้องโถงและถามเหมือนกับเพ้อ “ตอนนี้เราไม่สามารถรับมือเขาได้”
เยี่ยนเซี่ยชะงัก  เขาคิดหนักขึ้น นอกจากรับผิดชอบเรื่องประจำในดาวไพรมายาแล้ว ผู้ว่าการดวงดาวยังมีงานอื่นให้ทำ  งานหลักของเขาก็คือแนะนำผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์สามารถพัฒนาได้ขึ้นมาและนี่คือสาเหตุให้มีการทดสอบเพื่อผ่านประตูดวงดาว
พลังสายเลือดสองชนิด อายุของเจ้าเด็กนี่... สิบหก? สิบห้า? เขาคงมีอนาคตสดใสแน่นอน
แต่น่าเสียดาย  ถ้าใครบางคนได้ขัดเกลาเขาและดูดซับสายเลือดสองชนิดคู่ที่โดดเด่นได้  ความสำเร็จในอนาคตของเขาคงจะยิ่งใหญ่ขึ้น
เยี่ยนเซี่ยอิจฉาเล็กน้อยและเสียใจเล็กน้อย
ทันใดนั้นกงอี้ซิ่วส่งเสียงตื่นเต้นปลุกคนอื่นตื่นจากภวังค์  “เร็วเข้า ดูนั่น อาวุธจักรกล  อาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้  เสือเขี้ยวดาบ!  ข้าคิดถูกจริงๆ มันคือของจริง!
ระหว่างเวลาที่กงอี้ซิ่วกำลังคุยกัน ปิงจับคอนักสู้ที่พยายามเข้ามาทำร้ายกู้เสวี่ยเหวี่ยงออกไปเหมือนจับลูกไก่เหวี่ยง
สั่วกวงถึงกับจับคอตนเองโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าของเยี่ยนเซี่ยและอูหนานเขียวคล้ำ
 “น่ากลัวกว่าที่เราคาดไว้มากจริงๆ”  อูหนานรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดที่เขาได้เห็นในวันนี้แปลกประหลาดมากเกินไป  “นักสู้จักรกลที่น่ากลัวขนาดนั้นโผล่ออกมาจากไหน?”
 “แข็งแกร่งทรงพลังมาก”  สายตาของเยี่ยนเซี่ยเป็นประกายชื่นชมและอัศจรรย์  “ความเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวาของเขาดูเหมือนไม่ใช่คนในยุคนี้”
กงอี้ซิ่วพึมพำ “เสือเขี้ยวดาบ.... เสือเขี้ยวดาบ....”
เยี่ยนเซี่ยตบไหล่ของกงอี้ซิ่ว  เขารู้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะชิงเสือเขี้ยวดาบมาได้ในตอนนี้  ไม่ว่ายังไงหลิงซิ่วและถังเทียนก็คือผู้บุกรุก  ผู้ว่าการดวงดาวคงไม่ว่าอะไร ประกอบกับยอดฝีมืออาวุธจักรกลมีพลังขนาดไหนก็ไม่รู้  พวกเขารวมกลุ่มกันอย่างนั้น ต่อให้ท่านหัวหน้าคณะมาที่นี่เอง  ก็คงไม่อาจทำอะไรได้
ตอนนี้เขาเริ่มไตร่ตรองแล้ว  ตอนนี้จะทำอย่างไรให้ถังเทียนกับคนอื่นยกโทษและเลิกราต่อกัน  เขาสามารถกลายเป็นผู้นำคณะปกครองได้  ไม่ใช่เพราะฝีมือของเขาเท่านั้น  แต่เป็นเพราะสมองของเขา
 “ท่านรู้สึกไหมว่าเขาคลับคล้ายกับใคร?”  จู่ๆ อูหนานก็พูดขึ้น
 “ใคร?” เยี่ยนเซี่ยถามตามปกติ
 “ไซอา!” หน้าของอูหนานเป็นประกายตื่นเต้น  “ถังเทียนในวันนี้ ดูเหมือนไซอาตอนนั้นไม่ใช่หรือ ตอนนั้น เขาปรากฏเข้ามาไม่มีปี่มีขลุ่ย?”
 “ไซอา?”  เยี่ยนเซี่ยตะลึง  เขาส่ายศีรษะ  “ไซอาในตอนนั้นน่ากลัวมากยิ่งว่าถังเทียน  เขาขึ้นไปถึงระดับสุดยอดได้”
ในปียุคมืดนั้น พลังของไซอาไม่เคยพบเห็นมาก่อน  ภายในปีเดียว เขาเอาชนะยอดฝีมือทั่วดาวไพรมายาทุกกคนและได้ตำแหน่งสุดยอดฝีมือในดาวไพรมายา  แม้ว่าถังเทียนจะเปล่งประกาย  แต่เขาก็ยังเปราะบางเมื่อเทียบกับไซอาในตอนนั้น
 “แต่....”
อูหนานลังเลใจ  ก่อนจะพูดต่อว่า “ใครจะยืนยันได้บ้างว่านี่คือศักยภาพสูงสุดของถังเทียน?”
เยี่ยนเซี่ยตะลึง

6 ความคิดเห็น:

Art กล่าวว่า...

ขอบคุรครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น