วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 520 คลั่งไคล้ไล่ล่าคะแนน



ตอนที่  520  คลั่งไคล้ไล่ล่าคะแนน
ปกติเย่ว์หยางรับรู้แล้วว่าราชาเฮยอวี้กำลังจ้องมองด้วยสายตาที่สื่อความหมายว่า “ข้าต้องทำลายล้างเจ้าให้ได้”

แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่ทันสังเกต
เนื่องจากราชาเฮยอวี้เป็นศัตรูของเขาอยู่แล้ว  เย่ว์หยางจึงไม่ให้ความสนใจ แม้ว่าเพลิงริษยาจะแผดเผาราชาเฮยอวี้เหมือนกับหญิงหม้ายก็ตาม  และถ้าจะให้ดีให้ขึ้นก็ปล่อยให้เขาบ้าจนเลือดออกทวารทั้งเจ็ดไปเลยก็ยิ่งดี  ในสังเวียนมรณะนี้  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนร่วมทีม  แต่เย่ว์หยางกับราชาเฮยอวี้ถูกกำหนดมาว่าไม่มีทางอยู่ร่วมกัน  ราชาเฮยอวี้ต้องการมีชีวิตหนีรอดไปได้หรือ?  การตัดสินครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เพชรฆาตโบราณสามารถทำได้  แต่เป็นสิ่งที่ต้องถามเย่ว์หยางก่อน
สำหรับทุกคนที่เข้าร่วมแข่งจากตะวันออก, เหนือและใต้ เมื่อฆ่าได้ก็จะได้หนึ่งคะแนน ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงไรก็ตาม
ต่อให้ราชาเฮยอวี้สามารถฆ่าคนได้ทุกคน  เขาจะไม่มีทางทำคะแนนได้ถึงร้อย
เมื่อใดก็ตามที่เย่ว์หยางฆ่าเพชรฆาตโบราณได้สำเร็จเพียงลำพังคนเดีย  เขาจะได้ 2 คะแนนสำหรับการฆ่า และเพิ่มอีก 5 คะแนนสำหรับการลงมือคนเดียว  ขณะเดียวกัน เขาจะได้ข้อมูลลับตามแต่จะเลือกอย่างหนึ่ง  ถ้าเขาสามารถทำคะแนนได้มากกว่า 100 คะแนน เขาสามารถยกคะแนนให้เพื่อนร่วมทีมที่คะแนนยังน้อยได้ถึงหนึ่งในสาม
เรื่องเช่นนี้ เย่ว์หยางจะไม่มีทางบอกราชาเฮยอวี้เลย ด้วยความหวาดระแวงของราชาเฮยอวี้ เขาจะไม่มีทางเชื่อใครเลย
เนื่องจากราชาเฮยอวี้จะไม่ได้รู้คะแนนของเขา  เขาจะต้องบ้าในท้ายที่สุดแน่นอน
สำหรับเย่ว์หยางผู้รู้ข้อมูลลับทั้งหมด เขาจะทำทุกอย่างเพื่อขโมยคะแนนของคนอื่น
ยิ่งกว่านั้นผู้นำกลุ่มทั้งสามอย่างหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงยังไม่ได้คะแนนเลย เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ความมีอยู่ของมัน  สังเวียนมรณะส่งเสริมการต่อสู้เดี่ยวอย่างแน่นอน ขณะที่รางวัลจากการสู้เดี่ยวมีมากกว่าพวกที่ร่วมมือฆ่ามากมายนัก  ภายใต้รางวัลสำหรับการทุ่มเทในการสู้เดี่ยวและฆ่าคู่ต่อสู้ได้ เย่ว์หยางจะต้องฆ่าเพชรฆาตโบราณให้ 15 ตนเพื่อให้ได้รับรางวัล 150 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเกินพอให้เขาอยู่รอดได้  กล่าวอีกนัยหนึ่ง เย่ว์หยางยังขาดเพชรฆาตโบราณอีก 14 ตน ไม่ว่าผลสุดท้ายของสงครามจะเป็นอย่างไร เย่ว์หยางก็สามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย
เหตุผลที่เย่ว์หยางเลือกจะเปิดเผยพลังแท้จริงของเขาบางส่วนก็เพราะเขาต้องการจัดการจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณและต้องการรู้ว่าเขาจะได้คะแนนมากเท่าใดเมื่อเขาฆ่ามัน
ระบบคะแนนนี้ต้องไม่ให้หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงรู้
ที่สำคัญยิ่งกว่า  เย่ว์หยางต้องได้จ่าฝูงเพชรฆาตโบราณมายกระดับตัวเขาเองโดยเร็ว!  เขาคาดไว้ว่าราชาเฮยอวี้จะไม่อดกลั้นตนเองนานนัก และคงลงมือต่อเขาในไม่ช้า  ดังนั้นเย่ว์หยางต้องยกระดับความก้าวหน้าก่อน
อย่างน้อยที่สุด เขาต้องยกระดับอสูรของเขา  เพื่อที่ว่าเขาจะได้มีพลังเพียงพอปกป้องตัวเขาเอง
 “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ เราจะปล่อยจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณให้เจ้าจัดการ  ไม่ว่าเจ้าจะสามารถฆ่ามันได้หรือไม่  เราสามารถมาอยู่เคียงข้างเจ้าได้ตราบเท่าที่เจ้าจำกัดมันได้”  เฝินเทียนและหวิ่นซิงพูดอย่างไม่เกรงใจ  พวกเขารู้ว่ายากจะกำจัดจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้  ดังนั้นพวกเขาจึงดีใจเมื่อเย่ว์หยางยินดีรับจัดการ  แม้แต่หวงฉวนก็รีบไปช่วยล้อมสังหารเพชรฆาตโบราณตนอื่น  กลุ่มทั้งหมดได้รวมตัวกันใช้กลยุทธ์ฝูงหมาป่า  พวกเขาหาเป้าหมายที่อ่อนแอก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณ
 “.....”  สีหน้าของราชาเฮยอวี้ไม่สามารถอ่านได้ เขาต้องการโจมตีเย่ว์หยางมาก  แต่กังวลว่าเขาจะล้มเหลวเมื่อทำเช่นนั้น และอาจเป็นเหตุให้หวงฉวนและพวกรุมล้อมเล่นงานเขาก็เป็นได้
ถ้าขืนก่อความยุ่งยากในกลุ่มตอนนี้ เขาจะกลายเป็นศัตรูของทุกคน
เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียด  ขณะที่เขาตัดสินใจให้เย่ว์หยางมีชีวิตต่อไปได้อีกชั่วระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยหาโอกาสฆ่าเย่ว์หยาง
แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้ราชาเฮยอวี้กังวลที่สุดก็คือเขากลัวว่าหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงจะฆ่าเพชรฆาตโบราณหมดและชิงคะแนนไปทั้งหมด จากนั้นก็จะทำให้เขาถูกกฎรหัสโบราณสังหารเนื่องจากคะแนนไม่พอ
หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว  ราชาเฮยอวี้ไล่ตามหวงฉวน, เฟิ่นเทียนและหวิ่นซิงไป
ผู้นำกลุ่มทั้งสามกำลังร่วมมือกันโจมตีใส่เพชรฆาตโบราณพร้อมกับมนุษย์สมิงสามตา  มนุษย์แสงและคนอื่นๆ  เพชรฆาตโบราณที่ถูกคนทั้งห้ารุมโจมตีเป็นเพียงตนเดียวที่ปรากฏว่าได้รับบาดเจ็บหนัก  อาการบาดเจ็บอีกเจ็ดตนไม่หนักหนานัก  แน่นอนว่าราชาเฮยอวี้ไม่ยอมแพ้ ขณะที่เขารีบเข้าร่วมทีมโจมตีใส่เพชรฆาตโบราณ  พร้อมกับมองหาโอกาสฆ่าเย่ว์หยางไปด้วย....ไม่มีผู้ใดรู้ว่าคะแนนนั้นจะมอบให้ทุกคนที่เข้าร่วมโจมตีหรือว่าให้คนที่ลงมือทำร้ายได้หนักหน่วงกว่า  แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือกำจัดเพชรฆาตโบราณนี้เสียก่อน
หกคนที่มีพลังมากที่สุดหันมาโจมตี
เพชรฆาตโบราณผู้โชคร้ายไม่สามารถจะทนได้ไม่ว่าผิวของมันจะทนได้แค่ไหนก็ตาม  เนื่องจากมันได้รับบาดเจ็บหลายที่มากขึ้น  แผลขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นบนผิวหนังที่เหมือนเหล็กกล้า ขณะที่เลือดพุ่งกระฉูดออกมา
แต่มันไม่ตายจากอาการบาดเจ็บของมัน  ขณะที่มันยังคงโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
อีกสิบนาทีต่อมา เพชรฆาตโบราณก็ล้มลงในที่สุด
หวงฉวน, เฝินเทียน หวิ่นซิงและราชาเฮยอวี้หยุดโจมตีพร้อมกัน  มนุษย์สมิงสามตาตกใจขณะที่เขารีบโดดออกจากสนามต่อสู้ป้องกันไม่ให้ตนเองตกเป็นเป้าหมายโจมตี  ส่วนมนุษย์แสง มองดูหวงฉวนที่อยู่ในค่ายเดียวกันกับเขาและมักนับถือเขาในฐานะเป็นผู้นำ
 “เนื่องจากเราไม่มั่นใจว่าจะจัดสรรคะแนนได้อย่างไร  ข้าขอแนะนำว่าเราควรร่วมมือกันโจมตีเพชรฆาตโบราณ” มนุษย์ไฟเฝินเทียนเสนอวิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุผลมากที่สุด
 “ข้าเห็นด้วย” มนุษย์เหล็กไหลหวิ่นซิงมองดูหวงฉวน
 “.....”  ราชาเฮยอวี้ลอบไม่สบายใจ เขาที่มักจะคุ้นเคยกับการเป็นผู้นำอยู่เสมอกลับถูกคนส่วนมากละเลย  เหตุผลก็คือเขาไม่ใช่นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด  คนแข็งแกร่งที่สุดก็คือหวงฉวนบุรุษผมเงินผู้หลับตาอยู่ตลอด
 “ก็ได้,  ตกลงตามนั้น”  หวงฉวนพึมพำสักครู่ก่อนที่จะยอมรับข้อเสนอ
อีกห้าคนลอบยินดีเมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น
ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับคะแนนสำหรับการฆ่าเพชรฆาตโบราณ  ด้วยความเร็วระดับนี้ พวกเขาจะสามารถฆ่าได้อย่างน้อยสี่ตนหรือมากกว่าก่อนที่เพชรฆาตโบราณชุดที่สองจะมาถึง  เป็นเพราะเพชรฆาตโบราณหลายตนเริ่มได้รับบาดเจ็บหลังจากการต่อสู้ผ่านไปยี่สิบนาที  ตราบใดที่ทุกคนทุ่มเทกำลัง ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะสามารถฆ่าเพชรฆาตโบราณได้หมดภายในสี่สิบนาที...
เมื่อคนทั้งหกเตรียมตัวจะใช้พลังโจมตีที่ใหญ่ที่สุดเพื่อฆ่าเพชรฆาตโบราณที่ล้มอยู่กับพื้นตนนี้เสียงครางก็ดังขึ้น
มีพลังกดดันทั่วทั้งสมรภูมิรบทั้งหมด
นี่คือพลังของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้!  หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย  เป็นไปได้ไหมที่เย่ว์หยางต้องการสังหารจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณ?  พวกเขาขยายสำนึกค้นหาทันที  พวกเขารู้สึกได้ว่ามีการปรากฏตัวของเย่ว์หยางที่ทางผ่านแก้วผลึกตรงด้านทางเดินทิศตะวันตก  พลังของเขาพุ่งถึงขีดสูงสุดทันที  ความห้าวหาญของเขาไม่มีผู้ใดเทียบได้ และทำให้คนอื่นสะท้าน
จากนั้นเสียงโห่ร้องดังขึ้นเป็นครั้งที่สองที่ทางผ่านแก้วผลึก ครั้งแรกก็คือเมื่อเย่ว์หยางฆ่าเพชรฆาตโบราณตนแรกได้
เป็นไปได้หรือว่าเขาฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้?
เป็นไปได้อย่างไร?
เขาเป็นแค่เพียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ  แม้ว่าเขาจะมีเพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลกก็ตาม  แต่พลังของเขาไม่ควรจะมากกว่านักสูปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสอง ซึ่งมีคุณสมบัติพอจะฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่มีพลังเทียบเท่านักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสอง ไม่ใช่หรือ?  ต่อให้นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด  หวงฉวน, เฝินเทียน หวิ่นซิงและราชาเฮยอวี้ก็ยังไม่สามารถทำได้  ทั้งที่พวกเขาร่วมมือกัน!
 “เป็นไปไม่ได้!  เขาคงต้องทำร้ายมันบาดเจ็บ แล้วฉวยโอกาสที่ได้เปรียบ”  มนุษย์สมิงสามตาโบกมือ
ทุกคนรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เย่ว์หยางจะฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้  แค่ทำร้ายมันให้ได้รับบาดเจ็บได้ก็น่าประทับใจเหลือเฟือแล้ว
ใครกันจะคิดว่าภายในไม่กี่วินาที การปรากฏตัวและวิญญาณของจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณจะหายไปไม่เหลือร่องรอย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นกับตาตนเอง  แต่ความรู้สึกที่คมชัดของพวกเขาไม่มีทางโกหกพวกเขา
สีหน้าของหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงซีดขาว  ขณะที่ราชาเฮยอวี้กัดฟันกรอดๆ เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป เนื่องจากอกของเขากำลังจะระเบิด  เขาไม่สบายใจอย่างมากเรื่องที่เย่ว์หยางฆ่าเพชรฆาตโบราณได้ครั้งแรก  ยอดฝีมือทั้งหกคนทำร้ายเพชรฆาตโบราณอาการสาหัส แต่ยังไม่ทันได้ฆ่า เย่ว์หยางก็กำจัดเพชรฆาตโบราณได้อีกตนแล้ว... ถ้าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป  เขาสามารถชิงคะแนนทั้งหมดไปได้ง่ายๆ แล้วจะเป็นยังไงต่อไป?  ที่สำคัญที่สุด  ถ้าเขายังคงพัฒนาเติบโตต่อเนื่องอย่างนี้  ราชาเฮยอวี้ยังจะมีที่ยืนในอนาคตอีกหรือ?
 “อา..ฮู้ววววว!” มนุษย์เพลิงเฝินเทียนถึงกับบ้าคลั่งทันทีขณะที่เขาคว้าร่างเพชรฆาตโบราณที่ล้มอยู่และโจมตีใส่มัน
หวงฉวนและยอดฝีมือที่เหลือมีปฏิกิริยาตอบสนองไม่ช้า  พวกเขาโจมตีใส่มันพร้อมกัน
มีเพียงมนุษย์สมิงสามตาที่ลงมือช้าขณะที่เพชรฆาตโบราณตายแล้วเมื่อเขาลงมือ
หลังจากฆ่าเพชรฆาตโบราณแล้ว  หัวหน้ากลุ่มทั้งสามคือหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงก็ได้คะแนนเท่าเทียมกันแต่ละคนได้ 0.4 คะแนน  กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีเพียง 2 คะแนนเท่านั้นสำหรับการฆ่าเพชรฆาตโบราณ ทำให้พวกเขาต้องแบ่งคะแนนกัน
คนที่น่าสมเพชที่สุดก็คือมนุษย์สมิงสามตาที่เสียพลังงานไปเปล่าๆ
แน่นอนว่าหวงฉวนและหัวหน้ากลุ่มที่เหลือคงไม่บอกกับเขาเช่นนั้น
 “เพชรฆาตโบราณหนึ่งตนได้สองคะแนน  ดังนั้นพวกเขาแต่ละคนจึงได้กันคนละ 0.3 คะแนน”  เฝินเทียนกลัวว่าหวงฉวนจะเปิดเผยระบบคะแนนให้มนุษย์สมิงสามตา ดังนั้นเขาจึงลงมือก่อนที่หวงฉวนจะทำ
 “เมื่อไหร่เราถึงจะรวมคะแนนได้ถึงร้อย..”  มนุษย์สมิงสามตาตกใจ ระบบคะแนนแบบนี้สูบเลือดกันชัดๆ
ราชาเฮยอวี้ลอบหัวเราะในใจ
พวกเขาจะไม่มีทางได้คะแนนร้อยคะแนนจากการฆ่าเพชรฆาตโบราณอย่างเดียว  วิธีดีที่สุดก็คือฆ่าคน
เขาจะตัดสินใจลงมือต่อเมื่อเวลาสุกงอมและจะฆ่านักสู้ที่เข้าร่วมซึ่งมีระดับต่ำกว่าปราณก่อกำเนิดฟ้าให้หมด เมื่อเขารวบรวมคะแนนได้ถึงร้อยแล้ว  เย่ว์หยาง, หวงฉวนและคนที่เหลือก็จะต้องดิ้นรนต่อสู้และตายอย่างน่าเวทนา  ด้วยทักษะแฝงเร้นของเขา  ราชาเฮยอวี้มั่นใจว่าเขาสามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ  แน่นอนว่าเขาต้องการชิงคะแนนให้ได้มากที่สุด  เพราะคะแนนทุกคนสามารถชิงได้  ถึงตอนนี้คนอื่นก็จะได้คะแนนน้อย
ราชาเฮยอวี้มองดูหวงฉวน คนเพียงคนเดียวที่เขาเกรงกลัวก็คือบุรุษผมเงินผู้หลับตาคนนี้
แต่คนผู้นี้จดจ่ออยู่กับเย่ว์หยาง  และราชาเฮยอวี้จะใช้ประโยชน์ตรงนี้กำหนดวางแผนต่อพวกเขา
มนุษย์สมิงสามตาและมนุษย์แสงวิ่งหาเป้าหมายต่อไป
หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงวิ่งไปที่ทางเดินแก้ว  เนื่องจากพวกเขาต้องการเห็นด้วยตาตนเองว่าเย่ว์หยางฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้อย่างไร
พวกเขามองเห็นสระน้ำมหึมาใหญ่เกือบเท่าทะเลสาบแต่ไกล  นางเงือกวายุและอสูรบางตนยังคงเรียกพายุขณะที่พวกทหารโบราณกำลังผ่าศพของจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่ลอยอยู่ในทะเลสาบอย่างกระหาย  เย่ว์หยางไม่อยู่แถวนั้น  แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกง, ราชันย์ปีศาจใต้และจักรพรรดิใต้พิภพไม่ทราบว่าไปอยู่ไหน มีแต่เพียงจักรพรรดิฟ้าที่ยังอยู่และมีท่าทีไม่ถูกต้อง
 “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”  ราชาเฮยอวี้เหาะลงมาอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฟ้า
 “เจ้าหมอนั่น  มีพลังซ่อนเร้น น่ากลัวเหลือเกิน...”  จักรพรรดิฟ้ามองดูหวงฉวนและคนที่เหลือ  เขาต้องการพูดแต่กล้ำกลืนไว้  เมื่อระลึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้  เขาถึงสั่นอย่างมิอาจระงับได้
 “ยักษ์ทองตนหนึ่งปรากฏอยู่บนร่างของคุณชายสาม  มันสูงราวสองสามร้อยเมตร และฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณตายทันที” จ้านหู่รายงานปากคอสั่น
 “นั่นอาจเป็นทักษะที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว และคงอยู่ได้ระยะเวลาสั้นๆ  แต่ความเสียหายที่มันสร้างขึ้นช่างน่าสยดสยอง”  เป่ยเหลียวหยาก็หน้าซีดเช่นกัน
 “ยักษ์ทองตัดศีรษะจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณใช่หรือเปล่า?”  หวงฉวนถามขึ้นทันที
 “ข้าไม่แน่ใจเพราะเราถูกยักษ์ทองกดดันอยู่แทบเท้าของมัน เราจมอยู่ในน้ำ แต่เท้าของมันครอบคลุมท้องฟ้า เราไม่อาจเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านบนได้”  จ้านหู่กลืนน้ำลายขณะที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อระงับความวิตกกังวล  “เมื่อเราเงยหน้าขึ้นมาได้ จ่าฝูงเพชรฆาตโบราณก็ถูกฆ่าเรียบและศีรษะของมันร่วงลงมา มันเกิดขึ้นเร็วมาก ใช้เวลาไม่กี่วินาที”
 “การพิชิตของเขาไม่ได้เกิดจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้  แต่เป็นยักษ์ทอง  เป็นอสูรของคุณชายสามหรือว่าคุณชายสามเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจากเทพจริงๆ?”  คำพูดของเฝินเทียนทำให้หวงฉวนและหวิ่นซิงรู้สึกถูกคุกคาม   ผู้ที่สามารถเปิดสมรภูมิโบราณได้ต้องเป็นผู้ได้รับเลือกแน่นอน  เย่ว์หยางไม่ใช่ผู้นำทีมตัวจริง  ดังนั้นหัวหน้าทีมตัวจริงน่าจะซุ่มซ่อนอยู่รอบๆ ตัวเขา เป็นไปได้สูงที่คนผู้นั้นจะร่วมมือกับเย่ว์หยาง
 “ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้”  ราชาเฮยอวี้รู้สึกหนาวจับใจ มิน่าเล่าเย่ว์หยางถึงได้ยโสลำพองมาตลอด และไม่ให้ความสนใจเขา  เขามีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่ง
จะเป็นจื้อจุนหรือเปล่า?
ราชาเฮยอวี้ไม่แน่ใจ เนื่องจากในหอทงเทียนมีคนไม่มากนักที่สามารถฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้ในกระบวนท่าเดียว
นอกจื้อจุนผู้ลึกลับและแข็งแกร่งที่สุดแล้ว  ใครอื่นจะทำได้?
แต่ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่  นางจะซ่อนตัวอยู่หรือ?  ถ้านางทรงพลังขนาดนั้น  ทำไมนางถึงปล่อยให้หวงฉวนควบคุมสมรภูมิโดยตรงเล่า?  ทำไมนางไม่ก้าวออกมานำ?
ไม่มีใครสามารถเข้าใจเหตุผลได้... พวกเขาไม่เหลือเวลาจะให้คิดอีกต่อไป
เวลาผ่านไปเร็ว  เหลืออีกครึ่งชั่วโมงเพชรฆาตโบราณชุดที่สองจะถูกส่งเข้ามา แต่พวกเขาเพิ่งฆ่าคู่ต่อสู้ไปได้แค่สาม
เมื่อพูดถึงเรื่องคะแนนอีกครั้ง  ถ้าพวกเขาไม่ได้คะแนนทั้งหมด  พวกเขาจะถูกเย่ว์หยางชิงคะแนนไป  ด้วยเหตุนี้ทุกคนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ  หวงฉวนและพวกที่เหลือรีบจากไปทันทีขณะที่พวกเขามองหาเป้าหมายต่อไป  พวกเขาแค่ยืนยันได้ว่า ถ้ามีเพียงสองคะแนนเป็นรางวัลสำหรับการฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณ  เย่ว์หยางก็ต้องมีคะแนนอย่างน้อยสี่คะแนนซึ่งมากกว่าที่พวกเขามีถึงสิบเท่า
แน่นอนว่า แม้แต่หัวหน้ากลุ่มทั้งสาม หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงก็ไม่รู้ว่ามีคะแนนอยู่ห้าคะแนนเป็นรางวัลสำหรับคนลุยเดี่ยวฆ่าเพชรฆาตโบราณได้  ขณะที่ฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณจะได้ถึงสิบคะแนนเลยทีเดียว
เย่ว์หยางได้รับรางวัลอย่างนั้นถึงกับคลั่งไคล้
เขาตัดสินใจชิงคะแนนมาให้ได้ทั้งหมด
ที่สำคัญที่สุดก็คือ  เขาต้องรักษาความลับที่มีค่านี้ไว้ทั้งหมด  จะดีที่สุดถ้าเขาสามารถรักษาความลับนี้ไว้ได้จนถึงการต่อสู้สุดท้ายในสังเวียนมรณะ
ถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมากที่ทำเช่นนี้  แต่เย่ว์หยางไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นพ่อพระอยู่แล้ว  ยิ่งกว่านั้นการแสดงความใจกว้างต่อราชาเฮยอวี้และพวกที่เหลือก็เหมือนกับการทำร้ายตัวเอง  เย่ว์หยางไม่โง่  ดังนั้นเขาไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน
คนเลว, ใช่แล้ว  เย่ว์หยางเกิดมาเป็นคนเลวอยู่แล้ว
 “อย่านึกว่าข้าไม่ซ่อนพลังที่แท้จริงไว้นะ”  เย่ว์หยางตัดสินใจจะบอกเรื่องนี้กับราชาเฮยอวี้ในเวลาที่จะฆ่าเขา
 

14 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ชอบมากเรื่องนี้พระเอกเลว เลว เลวและหื่นด้วย ^^

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ^_^

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

555+ คมเฉือนคมจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โห้วว เทพสุดๆ ถ้าพี่เลื่อนเป็นก่อกำเนิดระดับหกในนี้แล้ว เฮยอี้คงได้แต่ฝันที่จะฆ่าพี่ได้ แค่ลำพังตอนนี้ก็ยากละ พี่เขามีภารกิจฆ่าจักรพรรดิตี้ ราชาอย่างเอ็งแค่ก้อนหินลับคมมีด

Unknown กล่าวว่า...

ของคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น