วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 232 กลุ่มห้ามือสังหาร

ตอนที่  232  กลุ่มห้ามือสังหาร

“จอมยุทธ!  ข้ากำลังจะไปยอดเขากระบี่ศิลา!
คำพูดของเซี่ยชิงทำให้ทุกคนประหลาดใจ

 “ไปยอดเขากระบี่ศิลา?”  ถังเทียนตะลึง
 “ใช่แล้ว!  เซี่ยชิงโพล่งความลับออกมา ทำให้เขาโล่งใจและน้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมากขึ้น  “หลังได้รับพลังร่ำร้องของกระบี่หัวใจองครักษ์ ข้ารู้สึกได้เลือนรางว่ามีเสียงเพรียกจากยอดเขากระบี่ศิลา  สองวันมานี้เสียงเพรียกหารุนแรงขึ้น มันกำลังเรียกหาข้า”
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย และคิดทันที “อย่าบอกนะว่ากระบี่ผนึกปีศาจกำลังเรียกหาเจ้า?”
 “ข้าไม่รู้” เซี่ยชิงสั่นศีรษะ  “ข้าเพียงแต่รู้สึกว่ามันดังมาจากยอดเขากระบี่ศิลา  มันเรียกให้ข้าขึ้นไปหา”
 “ฮ่าฮ่า นั่นนับเป็นเรื่องที่ดี!  ถังเทียนตื่นเต้น  “ต้องเป็นกระบี่ผนึกปีศาจเรียกหาเจ้าแน่นอน มันต้องรู้ถึงความเพียรหนักของเจ้า ไปกันเร็ว ไปเถอะ  ที่นี่ปล่อยให้เราจัดการ”
ทันใดนั้น เสียงเย็นชาของอาเฮ่อดังขึ้น “นั่นใคร?”
สีหน้าของถังเทียนกลายเป็นเย็นชา
 “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  โสตประสาทของเจ้าเด็กน้อยนี่ไม่เลว!” ร่างที่กำลังลอยอยู่ในกลางอากาศค่อยๆ สว่างขึ้น เพลิงสีแดงครอบคลุมร่างของเขาทั้งหมด
ลูกกลมสว่างขึ้นในกลางอากาศทีละลูกๆ ทั้งหมดเป็นบอลสีสันแตกต่างกัน รูปลักษณ์ที่อยู่ข้างในไม่ว่าอ้วนหรือผอม แต่พวกเขาทุกคนหน้าเคร่งขรึมและไม่มีท่าทีแยแสอะไร
ปราณที่รุนแรงน่ากลัวระเบิดออกมาจากท้องฟ้า ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
ติงตังสีหน้าเปลี่ยน  “กลุ่มห้ามือสังหาร”
 “โห, ข้าไม่เคยคิดเลยว่ายังจะมีคนจากหมู่บ้านยากจนและห่างไกลจำเราได้ด้วย”  บุรุษร่างใหญ่ที่น่าจะเป็นผู้นำกลุ่มหัวเราะ แววตาของเขาลึกและคล้ำ มีเคราแข็งราวกับลวดเต็มหน้า เขาเปลือยกายท่อนบน  บนอกของเขามีรอยสักรูปกิเลนห้าสี
จู่ๆ บุรุษร่างใหญ่ก็โยนของบางสิ่งเข้ามาในกลุ่ม
หือ!
ศีรษะมนุษย์สองหัวถูกโยนลงมาต่อหน้าทุกคน  นั่นคือศีรษะของกัวตงและกัวอวี่ ทั้งสองนัยน์ตาเบิกโพลงเหมือนกับว่าพวกเขาเห็นบางอย่างที่น่ากลัวและตายโดยไม่กระพริบตา
 “กระบี่ผนึกปีศาจอยู่ที่ไหน?”  บุรุษร่างใหญ่หัวเราะ พลางกวาดตามอง  “โปรดอย่าบอกข้านะว่า พวกเจ้าทุกคนไม่รู้”
ในระหว่างทางพวกเขาสะดุดกับกัวตงและกัวอวี่ที่วิ่งหนีอย่างแตกตื่น  พวกเขาจึงต้องการปล้นพวกเขา  แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าพวกเขากลับได้รับข่าวเกี่ยวกับกระบี่ผนึกปีศาจจากกัวตง
รังสีอำมหิตจำนวนมหาศาลแผ่ขยายออกมา
ติงตัง เซี่ยชิง เฒ่าบอดซอกำศรวลสีหน้าเปลี่ยน  รังสีฆ่าฟันช่างกดดันและป่าเถื่อน ราวกับมาจากสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ที่มีมาแต่กำเนิด ทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งชะงักและความคิดของพวกเขาว่างเปล่านึกอะไรไม่ออก
 “หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า” ถังเทียนชี้ไปที่บอลแสงพร้อมกับนับดู
 “ขึ้นยอดเขา ไล่ตีเสือ” จู่ๆ เสียงของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้าซึ่งปรากฏออกมาจากความมืด  เขาไม่ได้คิดและต่อปากคำของถังเทียน (เป็นบทเพลงเด็กของจีน)
พยัคฆ์ “....”
 “พยัคฆ์ไม่อยู่ในบ้าน”  หลิงซิ่วคว้าหอกของเขาแค่นเสียงเดินออกมา
พยัคฆ์ “.....”
อาเฮ่อที่เงียบอยู่ในตอนแรกมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก  “ขอโทษจริงๆ คำอุปมานั้น..มาจากตำราเล่มไหน?”
ทั้งสามคนหันมาจ้องมองเขา
บุรุษตัวใหญ่ที่เป็นผู้นำหรี่ตามอง ไอปราณเย็นแผ่กดดันหนักและแววเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าเขา   เขาพูดอย่างสนุกสนาน “นั่นก็ดีแล้ว ข้าชอบคนกล้าหาญ  ยิ่งกล้าด้วยแล้ว เวลาฆ่ามันน่าสนุกจะตาย”
ถังเทียนลดเสียงพูดกับเซี่ยชิงที่มัวตะลึงเบาๆ  “เจ้าจงไปที่ยอดเขากระบี่ศิลา  เราจะช่วยเจ้าต้านทานพวกมันไว้เอง”
เซี่ยชิงค่อยรู้สึกตัว  หน้าของเขาซีดขาวเต็มไปด้วยความกลัว  “แต่...”
นี่คือ ห้ามือสังหาร, ห้ามือสังหารเชียวนะ!  พวกมันเป็นกลุ่มคนที่ฆ่าคนได้ไม่กระพริบตา และไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวของพวกมันแม้แต่เศษเสี้ยว  สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันมีชื่อติดอยู่ในทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถีซึ่งห่างจากโซนท้ายร้อยคนอยู่มาก  จ้าวกิเลนหัวหน้าของพวกมันเป็นนักสู้ประหลาดติดอยู่ในอันดับที่ 9736 ทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถี เทียบกันแล้วเพชฌฆาตกาเพลิงกัวตงเป็นเหมือนเด็กน้อยเมื่อเทียบกับห้ามือสังหาร
พวกเขาเป็นคนที่มีรางวัลค่าหัวมหาศาล แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ  ดังนั้นรางวัลค่าหัวพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่า
พวกเขาเป็นเครื่องจักรสังหารที่อำมหิตและไร้ความปราณี!
พวกเขา...
พวกเจ้าทุกคนจะถูกฆ่า...
 “อย่าพูดไร้สาระ! รีบไป!  ถังเทียนเสียงนุ่มนวลขึ้น
เซี่ยชิงหน้าซีด ริมฝีปากสั่นไม่หยุด ขณะที่เขาจ้องดูถังเทียนอย่างสิ้นหวัง
พวกเจ้าจะถูกฆ่ากันหมด...
สมองของเขาเต็มไปด้วยคำเหล่านี้
เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยชิง  ถังเทียนเกิดเพลิงโทสะไม่รู้ตัว เขาถลึงตามือซ้ายคว้าคอเสื้อเซี่ยชิงเร็วราวกับสายฟ้าและกระชากเขาเข้ามาทันที เขาใช้มือข้างขวาตบ “บัดซบเอ๊ย!  ตื่นได้แล้ว! เจ้าขี้ขลาด! แค่นี้ทำให้เจ้ากลัวด้วยหรือ? เจ้าต้องการเป็นต้นเหตุให้พวกเจ้าตายกันหมดหมู่บ้านใช่ไหม?  เจ้าโง่!  เจ้ารีบไปเร็วๆ จะดีกว่า! ถ้าเจ้ากล้าพิรี้พิไรอีก ข้าจะหักขาของเจ้าซะ! ไป!
พูดจบ เขาใช้แรงเหวี่ยงเซี่ยชิงไปด้านหลังเขา
เซี่ยชิงลอยไปสิบเมตร  เขาซวนเซลงพื้น หน้าของเขาตะลึง ใบหน้าเป็นรอยริ้วสีแดง  เขาเหม่อมองด้านหลัง ตาของเขาแดงระเรื่อ โดยไม่พูดอะไรเขาหันหลังและวิ่งตะบึงไปที่ยอดเขากระบี่ศิลาราวกับคนบ้า
พวกเจ้า... ไม่ว่ายังไง... พวกเจ้าต้องไม่ถูกพวกมันฆ่า!
ลมยามราตรีโกรกใส่หน้าของเขา  น้ำตาอุ่นไหลพรากเต็มดวงตา
เมื่อสังเกตเห็นเซี่ยชิงวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง  สายตาของจ้าวกิเลนกลายเป็นเย็นชา  เขายกฝ่ามือเล็งไปที่หลังของเซี่ยชิงอย่างใจเย็น
วูบ!
เสียงกระหึ่มแหวกอากาศสั่นสะท้านหัวใจผู้คน
ลำแสงแดงสายหนึ่งยิงตรงออกมาเป้าหมายก็คือเซี่ยชิง
ทันใดนั้น ประกายไฟแพรวพราวพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างสะกัดลำแสงสีแดงได้อย่างแม่นยำ
ปัง!
ปราณแท้สองรูปแบบปะทะกันและกันทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นทันที
คลื่นแรงระเบิดกระจายออกมาเหมือนกับพายุหมุน เซี่ยชิงที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งถูกกวาดกระเด็น  ทรายปลิวเข้าในปากของเขา เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งต่อไปโดยไม่พูดอะไร
เร็วเข้า!  ข้าต้องเร็วขึ้น!  ความเคลื่อนไหวของข้าจำเป็นต้องเร็วขึ้น!
ทำไม... ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงได้ยินดีช่วยข้ามากมายอย่างนี้...
****************

 “เอ๊ะ?” จ้าวกิเลนประหลาดใจเล็กน้อยที่คนผู้นี้สามารถป้องกันได้ด้วยพลังดรรชนีของเขา
น่าสนใจดี
 “อย่าปล่อยให้ใครรอดชีวิต”
เสียงของเขาก้องกระจายอยู่ในอากาศและจ้าวกิเลนก็หายไป
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย เขาแค่นเสียงขณะที่กรงเล็บเพลิงภูตพรายรับมือกับหมัดเพลิงแดงของเขาได้โดยบังเอิญ
ปราณไร้สภาพระเบิดออก
ปัง ปัง ปัง
ทั้งสองปะทะกันอย่างรวดเร็ว  คลื่นพลังปราณที่มองไม่เห็นระเบิดออกระหว่างหมัดและกรงเล็บของคนทั้งสอง
สีหน้าของจ้าวกิเลนเคร่งขรึม  พลังของคู่ต่อสู้ของเขาแกร่งมากกว่าที่เขาคิด  เมื่อพลังเจอพลัง คู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้เสียเปรียบ
เขายากจะจัดการอยู่บ้าง
เขากวาดตามองดูคนอื่น   หน้าของเขาประหลาดใจและตกใจ  จากที่เขาเห็น เขาไม่ได้มีเปรียบเลยแม้แต่น้อย
คนพวกนี้มาจากไหนกัน...
************************

คนที่อยู่ข้างหน้าอาเฮ่อลักษณะผอมสูง บนอกของเขามีรอยสักรูปอสรพิษร้าย  ในมือเขาถือมีดสั้นสีดำคู่หนึ่ง บางครั้ง เขาจะเคลื่อนไหวด้วยท่าทางแปลกๆ ที่ยากจะป้องกันได้  เขาคือ เขี้ยวอสรพิษในกลุ่มมือสังหารทั้งห้า
แต่อาเฮ่อยังคงใจเย็นเหมือนเคย  กระบี่กระเรียนในมือของเขายังคงอยู่ในฝัก
รังสีกระบี่ขาวเป็นเหมือนปราณกระเรียน
ท่าทางของเขาสง่างามเหมือนกระเรียนดำมีชีวิตชีวาและมาดมั่น  เขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบงันและในเสี้ยววินาที ร่างของเขาเปลี่ยนไป  ทุกครั้งที่อาเฮ่อเข้าใจปราณร่างกระเรียนลึกซึ้งขึ้น  พลังของอาเฮ่อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  การเตรียมตัวเป็นอย่างดีก็คือพื้นฐานที่มั่นคงของเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก  เขาฝึกฝนเสียเหงื่อมากมายเพื่อให้ได้ผลดังกล่าว
นักฆ่าเขี้ยวอสรพิษเหลือแต่เงาดำจางหลายสาย  เงาดำนั้นวนเวียนรอบเขาอย่างต่อเนื่องคอยหาโอกาส 
คนหนึ่งสงบขณะที่อีกคนหนึ่งเคลื่อนไหว  เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความถนัดในการโจมตีรูปแบบแตกต่างกันมาก  พวกเขาจึงมุ่งโจมตีที่ความสมดุล
หน้าของเขี้ยวอสรพิษเคร่งเครียด ขณะที่หรี่ตาซึ่งเต็มไปด้วยความยินดี  แต่ในใจของเขากลับประหลาดใจ
แข็งแกร่งมาก!
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายพยายามจะค้นหาระดับการฝึกฝนกัน  แต่เขารู้ว่า เขาพบศัตรูแข็งแกร่งเข้าให้แล้ว
แต่ เป็นเวลานานมาแล้วตั้งแต่เขาเผชิญหน้ากับคนที่คู่ควรสู้ด้วย
เขี้ยวอสรพิษเผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวที่น่าสยดสยองของเขา
*****************************
หอกทะเลจุดในมือของหลิงซิ่วขยายตัวออกไปช้าๆ
ขณะที่ดวงดาวเยือกเย็นส่องประกายล้อมคู่ต่อสู้ไว้ภายใน
คู่ต่อสู้ของเขาเป็นบุรุษอ้วนเตี้ยมีรอยสักรูปจระเข้ที่อก  เขาเรียกว่าจระเข้เฒ่า, ทั้งตัวของเขาดูท่าทางโหดเหี้ยมป่าเถื่อน  ในมือของเขาถือกระบองสั้นคู่ เขาควงกระบองสั้นคู่อย่างรวดเร็วมองดูเหมือนพายุหมุนส่งเสียงหวีดหวิว  ปลายหอกของหลิงซิ่งถูกพลังลมป้องกันไว้ประกายไฟกระจายไปทั่ว
แต่หลิงซิ่วไม่ได้รู้สึกท้อถอย ขณะที่ตวาดลั่น หอกทะเลจุดยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
 “ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า!
นัยน์ตาของหลิงซิ่วเหมือนไฟสองดวง  ผมเงินของโบกสะบัดรุนแรง  นิ้วทั้งสิบของเขาซึ่งแข็งเหมือนเหล็กหมุนปั่นอย่างรุนแรงทำให้เกิดเสียงแหวกอากาศดังออกมาเสียดแก้วหู
ตั้งแต่เขาพ่ายแพ้และฟื้นขึ้นมาจากความทรงจำเลวร้าย สภาวะใจของเขายกระดับขึ้น ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นด้วย
หอกทะเลจุดสมบูรณ์ดียิ่งขึ้น ถูกสร้างขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่า กลายเป็นระลอกคลื่นโจมตีใส่คู่ต่อสู้ของเขา
ติง ติง ติง!
พลังโจมตีระดมใส่ราวกับสายฝน เนื่องจากพายุหมุนนับไม่ถ้วนก่อตัว จึงเกิดประกายไฟนับไม่ถ้วนด้วย  จระเข้เฒ่าถูกประกายไฟล้อมรอบไว้ก็เบิกตากว้างทันที เขาได้ยินเสียงตวาดของหลิงซิ่ว จึงเริ่มเยาะเย้ย
ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถทนอยู่ได้นาน
นี่คือเหตุผลที่ชัดเจนแจ่มชัดในการเรียนรู้วิทยายุทธ  คู่ต่อสู้ของเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นมือใหม่  และปลดปล่อยระดับพลังโจมตีสูงอย่างนี้  เขาคงทนอยู่ได้ไม่นาน
เฒ่าจระเข้เป็นเหมือนจระเข้ที่กบดานอยู่ในบึงรอโอกาสโจมตี
**************************************

 “นักสู้สายจักรกลหรือ?”  บุรุษหนุ่มที่มีรูปวาดจิ้งจอกหิมะบนตัวยิ้ม เขาคือจิ้งจอกหิมะจากห้ามือสังหาร  เขาดูอ่อนโยนและหล่อเหลา แต่มีแววชั่วร้ายแฝงอยู่ในรอยยิ้มของเขา
 “นั่นแย่หน่อยนะ นักสู้สายจักรกลสวะๆ จะช่วยให้ข้าสมหวังได้ยังไง?  ถ้านี่ถูกมองดูว่าเป็นความสำเร็จ  ข้าคงถูกหัวเราะเยาะแน่”  จิ้งจอกหิมะพึมพำกับตนเอง  “แม้ว่าเจ้าจะดูเหมือนเสือ เอ้อ..   เพื่อขึ้นยอดเขาไปตีเสือ  อย่าบอกข้านะว่าคนที่ถูกเล่นงานก็คือเจ้า?”
ทันใดนั้น อาหู่พูดกับปิง “ตอนนี้ข้าชักจะโกรธแล้ว”
หลังจากสู้มาเป็นเวลาทั้งคืนและไม่ได้สะดวกสบาย   แม้แต่หุ่นกระบอกก็ยังโกรธได้ แล้วอาหู่ผู้สงบใจเย็นอยู่เสมอก็โกรธจนได้
ปิง “.....”
ปิงผู้น่าสงสารไม่รู้จะปลอบอาหู่ผู้ถูกทำร้ายจิตใจในระยะเวลาสั้นๆ ได้ยังไง  เขากลับนิ่งงัน  วันนี้ อาหู่ผู้นี้คงได้รับความกระทบกระเทือนมากเกินไป
 “ข้าต้องการฆ่าเขา!  น้ำเสียงของอาหู่เย็นชา
ปิงหลั่งเหงื่อเยือกเย็นเป็นครั้งแรกที่อาหู่ไม่พอใจเพราะเพลงๆ หนึ่ง
แต่ปิงไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว  เหมือนกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะห้าม  โดยไม่มีความลังเลใจ เขาเร่งเชื้อสุมไฟเพิ่ม “เฮอะ ฟังเขาน่ะหรือ เขาก็แค่สุนัขจิ้งจอกก็ยังกล้าท้าทายความภาคภูมิใจของอาหู่หรือ อาหู่เอย, ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดยังไง  ยังไงก็ตาม ถ้าเขายั่วโมโหข้า ข้าก็คงทนไม่ได้”
ฮึ่ม!
อาหู่แหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้าและแสงรัศมีน้ำเงินสว่างตัดกับความมืด
 

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น