วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 7-8 มือข้างนั้น




ตอนที่  7-8  มือข้างนั้น

ในลานที่เป็นสัดส่วนเงียบสงบภายในวัง สมาชิกคนสำคัญที่สุดของราชตระกูลแห่งเมืองเฟนไลมารวมตัวกันรวมทั้งเคลย์, ราชินี, พระสนมและโอรสธิดาของเขาอีกหลายคน

 “ทั่วทั้งเมืองเฟนไลมีอสูรเวทเพ่นพ่านเต็มไปหมด  เราไม่อาจรวมตัวเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ได้อย่างแน่นอน  เพราะจะตกเป็นเป้าสนใจดึงดูดอสูรเวทที่พลังมากเข้ามาก็เป็นได้”  เคลย์พูดอย่างเคร่งเครียด  เหตุผลนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจได้และเป็นเหตุผลที่ผู้อำนวยการไมอาและมอนโร ดอว์สันเดินทางด้วยกองคาราวานเล็ก
กองคาราวานของคนไม่กี่สิบคนมีอยู่ทั่วเมืองเฟนไลและจะไม่ตกเป็นที่สนใจแต่อย่างใด
แต่กองคาราวานที่มีคนหลายร้อยจะดึงดูดความสนใจของอสูรเวทระดับเก้าและบางทีอาจส่งผลให้อสูรเวทระดับเซียนเข้าโจมตีก็ได้
เรื่องที่อันตรายที่สุดในตอนนี้ก็คือ การตกเป็นเป้าดึงดูดความสนใจจากอสูรเวท
 “คาร์ล!  เจ้ากับแม่ของเจ้าจะต้องเป็นผู้นำกองทัพพายุสายฟ้า  นี่คือการ์ดเครดิตเวทที่ยังไม่ได้ใช้หรือดัดแปลง จำเอาไว้ นี่คือสมบัติที่สั่งสมมาเป็นพันๆ ปีของราชตระกูลพวกเรา”  เคลย์มองดูบุตรชายของตนอย่างจริงจัง
มีคนในราชตระกูลไม่มากนัก  พวกเขาต้องแยกกันไปเป็นกลุ่ม
เคลย์ไม่ต้องการให้ตระกูลของเขาถูกกำจัด วิธีแยกกลุ่มกันเดินทาง อย่างน้อยที่สุด โอกาสรอดชีวิตจะมีมากขึ้น
 “พะย่ะค่ะ, พระบิดา”  คาร์ลตื่นเต้นดีใจ
สมบัติที่สั่งสมมาหลายพันปี... นั่นจะมีมูลค่ามากมายเพียงไหน?
 “ชาร์ค!  เจ้า, แม่ของเจ้าและน้องสาวเจ้าจะต้องนำกองกำลังพายุสายฟ้าอีกหน่วยหนึ่ง  และนี่การ์ดเครดิตเวทห้าใบสำหรับเจ้าเช่นกัน” เคลย์ดึงการ์ดเครดิตเวทออกมาและยื่นให้โอรสองค์รอง  เจ้าชายทั้งสองตื่นเต้นมาก
หน้าของเคลย์จริงจังมาก  เขากล่าว “ทหารฝีมือดีของตระกูลเราถูกแบ่งเป็นสามกอง  คาร์ล, ชาร์คและข้าเอง ไม่ว่าใครจะรอดได้ในที่สุด อย่างน้อยตระกูลของเราก็ยังดำเนินต่อไปได้  เอาล่ะพอแค่นี้ ไปกันได้แล้ว!
 “ไกเซอร์ในฐานะผู้นำกองกำลังพายุสายฟ้า  เจ้าจะต้องมากับข้า” เคลย์มองดูไกเซอร์
 “พะย่ะค่ะ, ฝ่าบาท”  ไกเซอร์พยักหน้ารับคำ
กองกำลังพายุสายฟ้าเป็นหน่วยคุ้มกันที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุดในอาณาจักรเฟนไล กองกำลังในหน่วยนี้ทั้งหมดรวมทั้งไกเซอร์มีเพียงร้อยคน จึงแบ่งออกเป็นสามหน่วยๆ ละ 33 คน แต่แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนที่น้อย พวกเขาก็ยังมีสมรรถนะที่สูงส่ง สมาชิกที่อ่อนแอที่สุดในกองกำลังนี้เป็นนักรบระดับเจ็ด
ครั้นแบ่งกองกำลังออกเป็นสามหน่วยแล้ว  ราชตระกูลก็เริ่มแยกย้ายกันหนีไปสามทางทันที
….

 “ควั่บ!” ลินลี่ย์กระโดดขึ้นด้วยความเร็วสูง ขณะเดียวกันมีประกายแสงม่วงวูบหนึ่ง เพกาซัสปีกสายฟ้าที่กำลังตามราวีลินลี่ย์ถูกตัดเป็นสองท่อนทันที  ลินลี่ย์ยังคงวิ่งมุ่งหน้าไปวังหลวงด้วยความเร็วสูง
ระหว่างทางเขาผ่านซากศพมนุษย์และอสูรเวทมากมาย
 “ถึงวังแล้ว”  ลินลี่ย์พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนร่างของเขากลายเป็นภาพเลือนราง และในแต่ละย่างก้าวเขาจะไปได้ไกลหลายสิบเมตร ความเร็วที่น่าทึ่งระดับนี้ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เหล่าอสูรเวทระดับห้าและระดับหกจะหยุดเขาได้
 “ฟิ้ววว”
ลินลี่ย์กระโดดขึ้นไปในอากาศสูงเกินกว่าสิบเมตรได้อย่างง่ายดาย และพลิกตัวเข้าไปในวัง
 “โฮกกกกก!  เสียงคำรามของอสูรเวทสามารถได้ยินจากภายใน พอๆ กับเสียงร้องของทหารดังออกมา  ตอนนี้ไม่มีทหารเฝ้าประตูวังอีกต่อไป สิ่งที่ปรากฏอยู่ตอนนี้มีแต่ซากศพ เลือด และเนื้อที่ถูกฉีกขาด และซากศพของอสูรเวทขนาดมหึมาเป็นระยะ
ลินลี่ย์คล่องแคล่วเหมือนแมวป่า เขากระโจนขึ้นไปบนยอดอาคารราชวัง
แต่เมื่อลินลี่ย์ขึ้นไปถึงด้านบนสุดของยอดอาคารหลังหนึ่ง  ทันใดนั้นเขามองเห็นขบวนพาหนะไกลออกไป  ตอนนี้ไม่มีใครใช้รถม้าโดยสารอีกต่อไป รถม้าโดยสารช้าเกินไปสำหรับใช้หนี
 “นั่นมัน....”
ทันใดนั้นลินลี่ย์สามารถจำบุรุษผมทองที่อยู่กลางขบวนได้ เขาคือราชสีห์ทองเคลย์   ตอนนี้เคลย์กำลังออกคำสั่งให้ทหารของเขาฆ่าอสูรเวทที่รายล้อมพวกเขา  การทำงานกันเป็นกลุ่มนี้น่าทึ่งมากจริงๆ
เมื่อกลุ่มของนักรบฝีมือดีระดับเจ็ดและแปดร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พวกเขายังแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่ากลุ่มนักรบที่มีขนาดเท่ากันเป็นเพียงนักรบระดับแปด แต่ไม่มีการทำงานเป็นทีม
 “เคลย์”  ลินลี่ย์นัยน์ตาเป็นประกาย
 “เจ้านาย, เราลงมือกันเถอะ”  บีบีก็ตื่นเต้นเช่นกัน
 “เดี๋ยวก่อน  เราอาจผิดพลาดได้ในเวลานี้ รอให้หน่วยทหารเข้ามาใกล้เราเสียก่อน และจากนั้นเราค่อยลอบโจมตีฉับพลัน”  ลินลี่ย์ยังคงอยู่บนหลังคา นัยน์ตาเยียบเย็นขอเขาจ้องมองขบวนเดินทางที่อยู่ห่างออกไป
….

 “อย่ามัวแต่เสียเวลา, เร็วเข้า”  เคลย์ควงดาบยักษ์ในมือเขาและฟันใส่เหยี่ยวมังกรที่โฉบลงมาจากอากาศ
ช่วงเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เคลย์ได้ขับพิษสลายโลหิตออกไปจากสายเลือดได้บ้างทำให้เขาฟื้นพลังปราณขึ้นมาได้หนึ่งในสิบ  แม้ว่าจะเป็นพลังเพียงหนึ่งในสิบส่วน แต่ก็ยังมีพลังมากกว่านักรบระดับแปด
แต่เคลย์จำได้ว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกครึ่งปีจึงจะกำจัดพิษสลายโลหิตอีกเก้าส่วนที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย
 “อสูรเวทพวกนี้มาจากไหนกันมากมายอย่างนี้ บัดซบจริงๆ”  เคลย์ยิ่งโกรธมากขึ้น
อสูรเวทเหล่านี้ทำลายเมืองหลวงของเขา  และตอนนี้พวกมันยังคุกคามชีวิตของเขา และเขาจะไม่โกรธพวกมันได้ยังไง?
 “เร็วเข้า”
หลังจากฆ่าอสูรเวทที่บุกเข้าโจมตีทุกตัวแล้ว  เคลย์เร่งรัดคนของเขาให้รีบและกองกำลังอัศวินก็เดินหน้าไปอีกครั้ง  ขณะที่เคลย์และคนของเขาเดินทางไปตามเส้นทางด้วยความเร็วสูงระหว่างอาคารในวัง  พวกเขาไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังหมอบรออยู่บนหลังคา
เมื่อเห็นเคลย์และบริวารของเขาเคลื่อนขบวนเข้ามาใกล้ทุกที ลินลี่ย์หรี่ตา
ขนบนตัวของบีบีลุกชัน
 “ตอนนี้..ได้เวลาแล้ว!
เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นในหัวของบีบีและคนกับอสูรเวททั้งสองบินมาด้วยความเร็วสูงตรงเข้าหาเคลย์ ในเสี้ยววินาที  ตลอดทั้งตัวลินลี่ย์ปกคลุมไปด้วยชั้นเกล็ดสีดำทันที หนามแหลมงอกออกมาจากหน้าผากของเขา ข้าศอกและเข่าและหางมังกรงอกออกมาจากด้านหลังด้วยเช่นกัน
ร่างมังกร
กลุ่มของอัศวินนั้นมีชื่อเสียงเป็นพวกที่มีฝีมือดี   ทันทีที่ลินลี่ย์และบีบีบินตรงมาทางพวกเขา  พวกเขาก็สังเกตได้และตอบสนองทันที  แต่ลินลี่ย์กับบีบีเร็วเกินไป
 “อ๊า, เป็นเจ้า!” ทันใดนั้นเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว เคลย์ไม่สงสัยเลยว่าลินลี่ย์มาถึงแล้ว
เขาไม่มีเวลาประหลาดใจว่าทำไมลินลี่ย์ถึงยังไม่ตาย  เพราะหางมังกรของลินลี่ย์หวดใส่เขาอย่างเกรี้ยวกราดกระเด็นไปสองเมตร  ด้านหลังเขา ไกเซอร์ถูกหนูเงาสีดำพัวพันอยู่ไม่สามารถปลีกตัวมาช่วยเขาได้
 “ควั่บ!
หางมังกรลินลี่ย์ฟาดใส่อย่างไม่ปราณีและเคลย์หลบกลิ้งกับพื้นได้อย่างรวดเร็ว หางของลินลี่ย์จึงหวดถูกม้าและแม้ม้าก็ขาดเป็นสองท่อนเพราะแรงหวดที่รุนแรงนั้น ม้าศึกร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มลง
พอร่วงลงพื้น เคลย์แนบตัวกับพื้นแล้วใช้หมัดยันพื้นดึงตัวถอยอย่างรวดเร็ว
แต่ครั้งนี้ลินลี่ย์ไล่ตามเขาอย่างกระชั้น
 “ควับ ควับ” ขณะเดียวกันหอกวาววับแปดเล่มพร้อมกับปราณยุทธเต็มเปี่ยมพุ่งเข้าหาลินลี่ย์
 “อ๊า....”
ปราณยุทธเลือดมังกรในร่างของลินลี่ย์ระเบิดออกและเขาใช้ขาขวาของเขาถีบพื้นอย่างรุนแรง เขาไปถึงทันทีด้วยแรงดันที่สูง เขาพุ่งเข้าหาราวกับลูกหินที่ถูกยิงด้วยความโกรธ  ร่างของลินลี่ย์กระแทกใส่หอกอย่างดุร้าย
หอกทั้งแปดเล่มสั่นเกือบจะในเวลาเดียวกันและกระแสพลังทั้งแปดเป็นหลักต้านทานพลังโจมตีของลินลี่ย์
 “อย่างนี้คงจะลำบาก”  ลินลี่ย์หงุดหงิด
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าอัศวินทั้งแปดจะสามารถป้องกันพลังโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์ไม่รู้ก็คืออัศวินทั้งแปดคนนั้นตกใจและหวาดหวั่นเช่นกัน  อัศวินทั้งแปดคนนี้เป็นองครักษ์ส่วนตัวของเคลย์  และทั้งหมดฝีมือดีที่สุดของหน่วยพายุสายฟ้า ทุกคนเป็นนักรบระดับแปด การร่วมสู้ด้วยกันทำให้ทั้งแปดคนสามารถต้านได้กระทั่งนักรบระดับเก้า
อย่างไรก็ตาม  แม้นักรบระดับเก้าจะไม่กล้าวิ่งประจันหน้ากับหอกของพวกเขาโดยตรง  แต่ลินลี่ย์กล้า
 “พลังป้องกันที่น่าทึ่ง” เคลย์ซ่อนตัวอยู่ในที่ห่างไกลและถูกอัศวินที่เหลือปกป้องไว้  เขาใจสั่นสะท้าน
 “ชรีคคคคค!
บีบีปล่อยเสียงกรีดแหลม จากนั้นตวัดกรงเล็บใส่ไกเซอร์อย่างดุร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่บางทีมันก็ใช้เขี้ยวกัดเขาด้วยเช่นกัน  แต่ไกเซอร์สามารถใช้ดาบยักษ์ของเขาป้องกันการโจมตีแต่ละครั้งของบีบีไว้ได้  วิชาดาบของไกเซอร์ดูเหมือนเรียบง่าย แต่ทรงประสิทธิภาพสูง
เขาถอยหลังหนึ่งก้าวจากนั้นใช้ดาบแทงใส่ซึ่งดูเหมือนยากจะป้องกันได้
 “เคลย์, วันนี้ใครจะมาช่วยเจ้าได้?”  ลินลี่ย์มองดูนักรบที่ทรงพลังต่อหน้าเขาและคำราม  “ก็ได้  พวกเจ้าต้องการผนึกพลังเป็นกลุ่มร่วมโจมตีใช่ไหม?” ทันทีที่ลินลี่ย์พูดจบเขาพุ่งเข้าจู่โจมใส่อัศวินคนหนึ่งทันที
ลินลี่ย์ไม่กลัวหรือต้องระมัดระวังการโจมตีของอัศวินคนอื่น เขาโถมตัวเข้าหาอัศวินคนหนึ่งตรงๆ
ตอนนี้ การร่วมพลังโจมตีของพวกเขาไร้ประโยชน์
 “ควั่บ!  ลินลี่ย์รวดเร็วเกินไป ในพริบตา เขาก็มาถึงด้านข้างนักรบระดับแปดผู้นั้น   เขาเปลี่ยนจากการใช้กรงเล็บเป็นกำหมัดและปล่อยหมัดเข้าใส่นักรบคนนั้น นักรบผู้นั้นเอนหลังหลบหมัด  แต่ถึงตอนนี้ หางมังกรของลินลี่ย์หวดไปข้างหน้าและกระแทกใส่กะโหลกของนักรบผู้นั้น
 “ซาร์!  อัศวินหลายคนร้องกราดเกรี้ยวด้วยความแค้น
กองทหารพายุสายฟ้ามักจะฝึกฝนด้วยกันเสมอ ความผูกพันของพวกเขาแต่ละคนไม่ต่างจากพี่น้องร่วมสายโลหิต  นักรบหลายคนโจมตีใส่ลินลี่ย์อย่างเกรี้ยวกราด และแม้ว่าพวกเขาจะโกรธ แต่พวกเขาก็ยังสามารถร่วมประสานโจมตีได้ดีมาก  ขณะที่ดาบยักษ์โจมตีต่อเนื่องได้สมบูรณ์แบบ
 “ควั่บ!  เทพกระบี่เลือดม่วงปรากฏอยู่ในมือของลินลี่ย์ทันที สกัดการโจมตีที่มุ่งเป้ามาที่เขา  ลินลี่ย์บินไปที่อัศวินอีกคนขณะที่แทงกระบี่เลือดม่วงตรงใส่นัยน์ตาของเขา  กระบี่เสียบทะลุกะโหลกของเขา บุรุษคนนั้นตายทันที
 “ตาย!” อัศวินคนหนึ่งใช้หอกของเขาแทงใส่ศีรษะของลินลี่ย์ทันที
ลินลี่ย์พลิกตัวหมุนหลบและโจมตีตอบโต้  ขณะที่อัศวินคนนั้นพยายามตั้งท่าป้องกัน กระบี่เลือดม่วงพุ่งโค้งฉับพลันในกลางอากาศและตัดศีรษะของอัศวินผู้นั้น  แม้ว่าจะไม่ได้ถ่ายพลังปราณยุทธลงไป แต่เทพกระบี่เลือดม่วงในมือของลินลี่ย์ก็สามารถสังหารนักรบระดับเจ็ดได้อย่างง่ายดาย  และตอนนี้ลินลี่ย์เสริมปราณเลือดมังกรลงไป เทพกระบี่เลือดม่วงก็ยิ่งมีความสามารถสังหารนักรบระดับแปดได้เช่นกัน
พลังโจมตีประหลาด!
นักรบระดับแปดสามคนตายลงในพริบตา
 “ข้าต้องการดูว่าพวกเจ้าจะขัดขวางข้ายังไง!  ลินลี่ย์พุ่งเข้าโจมตีเคลย์อีกครั้ง เทพกระบี่เลือดม่วงที่ร้ายกาจเป็นประกายในอากาศไม่หยุด  ไม่มีอัศวินคนใดกล้าเข้ามาใกล้ลินลี่ย์  เพราะเทพกระบี่ในมือของลินลี่ย์แปลกประหลาดเกินไป
 “โฮกกกกก!
ทันใดนั้นเสียงคำรามดังขึ้นได้ยินแต่ไกล
 “ครืน, ครืน ครืน”  เสียงฝีเท้าที่หนักอุ้ยอ้ายดังจนพื้นดินสะเทือน  เสียงนั้นดังทุ้มและสั่นสะเทือนชัดเจนมากขึ้นทุกที  เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าอสูรเวทขนาดมหึมากำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขาและมันเข้าใกล้เข้ามาทุกขณะ
แต่ลินลี่ย์ไม่สนใจอะไรอื่นเมื่อมาถึงจุดนี้
 “ขัดขวางเขาไว้, ขัดขวางเขาไว้!” เคลย์ตะโกนลั่น ขณะที่เขายังคงถอยต่อไป
ทันใดนั้นลินลี่ย์กระโจนขึ้นในอากาศทิ้งตัวลงจากกำแพงและบินเข้าหาเคลย์ด้วยความเร็วสูง ไกเซอร์ดีดตัวถอยไปเช่นกันและร่างเขาดูเลือนรางพร้อมกับวาดดาบยักษ์ในมือใส่ลินลี่ย์
 “เข้ามา” ลินลี่ย์ไม่ได้พยายามป้องกันดาบยักษ์เลยแม้แต่น้อย ยังคงแทงเทพกระบี่เลือดม่วงในมือใส่เคลย์
 “ครั้งสุดท้าย เจ้ามีเกราะชะตาระดับเซียนคอยคุ้มครองเจ้าและไฮเดนส์มาช่วยเหลือเจ้า ข้าอยากดูว่าใครจะมาช่วยเจ้าในครั้งนี้”  นัยน์ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองเคลย์ไม่กระพริบและเทพกระบี่เลือดม่วงในมือของเขาฉกเข้าหาลำคอของเคลย์เหมือนกับอสรพิษ  ตอนนี้เคลย์แทบจะเป็นบ้าแล้ว ขณะที่เขาเริ่มตวัดดาบยักษ์ในมือของเขาพยายามป้องกันตัว
 “ฮ่าห์!” ทันใดนั้น ไกเซอร์ปล่อยดาบของของตนให้พุ่งแหวกอากาศ
 “บึ้ม!” ลินลี่ย์ตอบสนองไม่ทันเวลา และแขนขวาของเขาถูกดาบยักษ์กระแทกใส่อย่างรุนแรง  ในช่วงเวลานั้นพลังปราณที่เผาผลาญแฝงอยู่ในดาบยักษ์ก็ระเบิดออกมา  ลินลี่ย์รู้สึกว่าแขนของเขาชาทันที เนื่องจากแรงกระแทกครั้งนี้ทำให้เทพกระบี่เลือดม่วงในมือของเขาพลาดเป้าหมายก็คือเคลย์ไปหนึ่งเมตร
 “ฮึ่ม!
เทพกระบี่เลือดม่วงแหวกโค้งในกลางอากาศและพันรอบดาบยักษ์ในมือของเคลย์ จากนั้นเลื่อนลงมาจนพันข้อมือของเคลย์  แล้วตัด!
 “ฉับ!
มือขวาเคลย์ถูกตัดร่วงหล่นกับพื้น ทั้งมือทั้งนิ้วและดาบร่วงลงกับพื้นเช่นกัน  นอกจากนี้มือข้างที่ถูกตัดนั้นมีแหวนติดอยู่ด้วย แหวนนั้นคือของที่มีค่ามากที่สุดของราชตระกูลเฟนไล แหวนมิติเก็บสมบัติ
 “มือของข้า! เอาคืนมา, เอามันคืนมา”  หน้าของเคลย์ซีดขาวด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
แหวนมิติเก็บสมบัตินี้บรรจุการ์ดเครดิตเวทไว้ยี่สิบสองใบ มูลค่ารวมสองพันสองร้อยล้านเหรียญทอง!  นอกจากนี้ยังมีสมบัติมีค่าอีกนับสิบที่ราชตระกูลสั่งสมมาเป็นเวลานับพันปี  เคลย์รู้สึกอยากตายที่ปล่อยให้แหวนมิติเก็บสมบัติสูญหายไป  นี่คือความมั่งคั่งที่สั่งสมไว้ผ่านมาหลายชั่วรุ่นนับไม่ถ้วน
 “ควั่บ!
เงาร่างดำวาบผ่านมาแล้วเก็บมือที่ขาด จากนั้นกระโจนขึ้นไปอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์
 “เจ้านาย, มีบางอย่างที่เคลย์ยิ่งต้องการมาก เราจะต้องป้องกันไม่ให้เขาได้มันไป” บีบียืนอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์  มันพูดกับลินลี่ย์ผ่านทางใจ “แต่เจ้านาย ทำไมเขาถึงต้องการมือที่ขาดข้างนี้นักเล่า?  มือของเขาไม่มีอะไรพิเศษนี่ หรือว่าเขาต้องการแหวนวงนี้?”
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น