วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 577 ความเข้าใจที่แจ่มชัด


ตอนที่  577  ความเข้าใจที่แจ่มชัด
 “งานแรกของท่านก็คือ ช่วยฝึกซ้อม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสือเซินสบายใจทันที  ฝึกซ้อมเป็นงานหมู ประจวบกับเราจะได้ทดสอบอาวุธคู่มือใหม่ด้วย  แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ซ้อมมือ แต่สือเซินไม่เกรงใจแต่อย่างใด
 
 “ก่อนอื่นจัดแบ่งเป็นห้ากลุ่มและไปทดสอบ”
สือเซินพอใจกับแนวความคิดของถังเทียนอย่างรวดเร็ว  หลังจากนึกย้อนไปถึงผลงานของหนุ่มชาวฟ้าแล้ว  เขาอดสั่นไม่ได้  เขารู้ว่าพลังส่วนใหญ่มาจากปราสาทดำ  แต่เขายังสงสัยมากกับพลังที่แท้จริงของนายท่าน
สือเซินเลือกห้าคนออกมาก่อน  แต่ที่เหลือให้รอก่อนทุกคน  เขารู้สึกสบายใจมาก  แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเจ้านายน่าจะมีมาก ห้าคนที่จัดให้ก็ยากจะเอาชนะได้  แต่พวกเขามี 46 คน ไม่ว่าพวกเขาจะแย่ยังไงก็ตาม แต่ 46 ต่อ 1 พวกเขาจะแพ้หรือ?  เป็นไปไม่ได้
โอว.. ทำไมคนหน้าไพ่ถึงมีสีหน้าแปลกประหลาด..
สือเซินไม่เก็บเอามาใส่ใจ กลุ่มหนึ่งซ้อมกับคนๆ เดียว แม้ว่านี่จะค่อนข้างเหนือกว่า  แต่เจ้านายก็มีสิทธิ์ทำเช่นนั้นได้   นี่หมายความว่าเจ้านายยังคงมีใจแสวงหาความก้าวหน้า ไม่ยินดีจะตกรุ่นล้าหลัง นั่นเป็นเรื่องที่ดี  สมควรให้กำลังใจ
สือเซินชื่นชมคนที่รักความก้าวหน้า
ชุดการซ้อมเริ่มแล้ว และสือเซินแสดงฝีมือของตนง่ายๆ  ตอนแรกเริ่ม  พวกเขาพ่ายถังเทียน  แต่เนื่องจากยิ่งคนเพิ่มเข้ามาสู้ ภายใต้การแนะนำของสือเซิน พวกเขาข่มถังเทียนได้อย่างรวดเร็ว  แต่ในจุดนี้ต้องใช้คนสิบคนเพื่อซ้อมกับเขา
โอว นายท่านแข็งแกร่งจริงๆ  แต่กลยุทธ์ของเขาก็เป็นหลักสำคัญจริงๆ  ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเจ้านายฝีมือก็งั้นๆ  แต่ตราบใดที่นายท่านอดทนและฝึกฝนหนัก นิสัยแปลกๆ ของเขาก็อาจเปลี่ยนไปได้
สือเซินกำลังคิดขณะที่มองดูเวลา  โอว 10 ชั่วโมงผ่านไปแล้ว  นายท่านขยันขันแข็งจริงๆ จากนั้นเขาพูด  “นายท่าน ทำไมไม่พักสักสองชั่วโมงและจากนั้นค่อยซ้อมต่อ?”
 “พวกท่านเหนื่อยกันแล้วหรือ?”  ถังเทียนมองดูพวกเขา
 “เรา? ไม่เลย, พวกเราไม่มีใครเหนื่อยเลย  แต่เราเป็นห่วงนายท่าน...”  สือเซินอธิบาย
 “โอวดี, งั้นมาต่อกันเลย  ข้ายังไม่เหนื่อย”  ถังเทียนไม่ได้เงยหน้าด้วยซ้ำขณะพูด
สือเซินไม่คัดค้าน แต่เขาบ่นพึมพำเข้าข้างตนเอง  กำลังใจของนายท่านกล้าแข็งจริง  ข้าจำเป็นต้องหาเวลาเตือนเขา  เหนื่อย? ชุดการซ้อมเหล่านี้ ยังไม่มีอะไรสำหรับเขา  พวกเขาอยู่ที่กองพลปีศาจแห่งทวีปโยวโจว  กองพลปีศาจทวีปโยวโจวมีชื่อเสียงมาก
ทวีปโยวโจวไม่ใช่ทวีปใหญ่ แต่ชื่อของมันนั้นแพร่หลายไปกว้างขวาง  เพราะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นที่ผลิตทหารชั้นยอด  ทวีปโยวโจวมีวิธีการฝึกหัดที่รุนแรง  เมื่อคนท้องถิ่นอายุห้าปี  พวกเขาจะได้รับคำแนะนำให้ฝึก  พวกเขาจะสำเร็จการฝึกฝนเมื่อพวกเขาอายุ 20
ผู้คนชาวทวีปโยวโจวให้คุณค่ากับการต่อสู้ที่ดี  และเป็นที่นับถือกันอย่างมาก  หลังจากผ่านการอบรมที่เหน็ดเหนื่อย ทหารที่เกิดตามธรรมชาติจะมีมาตรฐานที่สูงมาก  ในทวีปโยวโจว ทหารที่แข็งแกร่งที่สุดจะกลายเป็นหน่วยกองกำลังปีศาจ  นอกจากทหารทั้งหมดที่ฝึกสำเร็จแล้ว มีเพียง 2% ของพวกเขาที่ได้รับชื่อว่ากองกำลังปีศาจ
ทหารทวีปโยวโจวถือเป็นแกนกำลังที่ทุกทวีปต้องการ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองพลปีศาจทวีปโยวโจว  พวกเขาถูกมองว่าเป็นพวกที่แข็งแกร่งทรงอำนาจจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้  สิ่งที่ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงมากก็คือสงครามในแดนเหนือเมื่อหกร้อยปีที่แล้ว  มีขุนพลทหารที่มีชื่อเสียงนามว่าเตอร์โก นำกองพลปีศาจ 96 คนเข้าต่อกรกับ 19 ทวีป และมีวันหนึ่งซึ่งเป็นวันรบเด็ดขาด  พวกเขาปรากฏเหมือนกับภูตพรายด้านหลังกองทัพใหญ่ของทัพเหนือทำลายฐานทัพห้าแห่งอย่างต่อเนื่องราวกับสายน้ำบ่า
ไม่มีใครในกองพลปีศาจทวีปโยวโจวได้รับบาดเจ็บ
จากการรบครั้งนั้น กลับกลายเป็นแบบอย่างรุ่นพ่อของผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง  มีการจัดตั้งทวีปแห่งแรกในภูมิภาคใต้ และกองพลปีศาจแห่งโยวโจวได้รับการยกย่องว่า ทหารราชาแดนใต้”
หลังจาการสู้รบ กองพลปีศาจทวีปโยวโจวกลายเป็นทหารที่มหาอำนาจทั้งหมดโหยหาต้องการมีไว้  ดังนั้นจึงเริ่มมีการเสแสร้งปลอมตัวปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วนและเข้าร่วมกับมหาอำนาจต่างๆ หลังจากการสังหารหมู่ของยอดฝีมือและช่วงชิงทรัพย์ จึงทำให้ชื่อเสียงของกองพลปีศาจทวีปโยวโจวตกต่ำอย่างรวดเร็ว
ในเวลาอันรวดเร็ว ชื่อเสียงของพวกเขาก็กลายเป็นคนเลวและทำให้สภาพแวดล้อมเลวร้ายมากทำให้พวกเขาตัดสินใจเดินเส้นทางโจร
กองพลปีศาจทวีปโยวโจวค่อยๆ กลายเป็นโจรที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์และถูกเกลียดทั้งวันและคืน
หลังจากผ่านไป 600 ปีจำนวนทหารที่เข้าฝึกฝนทดสอบในกองพลปีศาจลดลง  การทดสอบค่อยๆ กลายเป็นประเพณีที่ถูกลดค่าในสังคมและเป็นเพียงหมู่บ้านดั้งเดิมที่ยังอยู่กับพวกเขาเท่านั้น  แม้จะสอบผ่านการทดสอบแล้วก็ยังต้องปกปิดตัวตนในฐานะที่เป็นศิษย์กองพลปีศาจทวีปโยวโจว
ดังนั้นเมื่อหวังจุนเซียนและสือหย่งได้ยินสือเซินเกิดเผยสถานะของกองพลปีศาจทวีปโยวโจว  อาการตกใจที่แสดงออกมาทางสีหน้าของพวกเขาไม่ใช่เรื่องหลอกลวง
46 คนของพวกเขาผ่านการฝึกซ้อมและฝึกฝนหนักมาแล้วถึงกลายเป็นกองพลปีศาจทวีปโยวโจวได้  ซ้อมกับคนๆ เดียวพวกเขาจะรู้สึกเหนื่อยได้ยังไง? นั่นตลกจริงๆ!
สือเซินไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว
สามวันต่อมา
ชุดการฝึกซ้อมของถังเทียนเพิ่มขึ้นถึง 15 คน  เขามองดูสิบห้าคนซึ่งยืนในลักษณะสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอย่างระมัดระวังในแต่ละคน
 “เริ่มได้”
สือเซินประกาศ และคนทั้งสิบห้าคนเปล่งประกายแสงทันที รังสีสิบห้าสายบรรจบกลายเป็นหนึ่ง ถังเทียนลอบประหลาดใจ  ถ้าเขาหลับตา  เขาก็ยังคิดจริงๆ ว่าเป็นร่างเดียวไม่ใช่สิบห้าร่าง
ปิงที่มองอยู่ข้างๆ แสดงสีหน้าที่เคร่งขรึม นั่นคือผสานพลังงานในจังหวะเดียวกัน  สำหรับกองทัพยิ่งผสานพลังพร้อมเป็นจังหวะเดียวกันก็หมายความว่าพลังงานมหาศาลจะถูกควบคุมได้มากขึ้น
ความถี่ในการผสาน 80%
ปิงแอบตัดสิน  สีหน้าของเขาน่าเกลียด  ก่อนหน้านี้เมื่อมีแค่เพียง 5 คน ความถี่ในการผสาน 80% ซึ่งเขาก็ไม่สนใจ แต่ต่อมาพอกำหนดกลุ่มเป็น 10 คน, 15 คนพวกเขาก็ยังรักษาระดับความถี่เอาไว้ที่ 80% และนั่นสร้างผลกระทบต่อปิงอย่างมาก  ในกรณีปกติ  จำนวนคนและความถี่ในการผสาน จะมีส่วนสัมพันธ์กัน  แต่กลุ่มของสือเซินกลับมิได้ลดลงเลย
80% ไม่มีกองทัพไหนของกลุ่มดาวหมีใหญ่สามารถสร้างการผสานพลังงานที่งดงามได้ขนาดนั้น  แต่กลุ่มของสือเซิน ไม่ว่าจัดใครลงใน 15 คนกลับสามารถผสานพลังงานได้สำเร็จ  ปิงสงสัยว่าถ้าทั้งหมด 46 คนเข้าร่วมรบด้วย สือเซินคงสามารถรักษาความถี่ของการผสานไว้ที่ 80%
เป็นไปได้ไหมว่ากองทัพดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งได้มากขนาดนั้น?
ทันใดนั้นปิงรู้สึกกดดันอย่างมาก
ถังเทียนไม่คิดอะไรมาก  เขาเข้าสู่สภาวะพร้อมสู้รบและเพ่งสมาธิหนักขึ้น  เขาเป็นเหมือนสัตว์ป่าพยายามหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ของเขาอย่างต่อเนื่อง
เขาตัดสินใจทดสอบเข้าโจมตี
ร่างของเขากระพริบเกิดเป็นภาพเงาตามหลัง  และมาปรากฏที่ด้านปีกซ้ายของกลุ่ม
ทั้งสิบห้าคนสะบัดดาบพร้อมเพรียงกันสร้างระลอกพลังงานที่น่าตกตะลึงให้กับถังเทียน  เมื่อเพิ่มคนขึ้นมาอีก 5 คน ความกดดันในตัวถังเทียนเพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที
แสงรัศมีรอบๆ ทีมพลันสว่างขึ้น พร้อมกับรังสีดาบกว้างส่งเสียงหวีดหวิวตรงเข้าหาถังเทียน
ถังเทียนไม่ได้หลบ  เขาต้องการทดสอบกำลังของดาบ
เขาตั้งท่านั่งม้า สูดหายใจลึกแล้วใช้หมัดของเขาเผชิญกับรังสีดาบ
ทันทีที่หมัดของเขาและรังสีดาบปะทะกัน  ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจทันทีกับพลังมหาศาลที่มาจากหมัดของเขา พลังที่รุนแรงทำให้เขามั่นใจว่าถ้าเขาไม่ถอนหมัดกลับมา แขนเขาคงได้หักแน่นอน
ความกดดันที่รุนแรงทำให้ถังเทียนระเบิดศักยภาพออกมาทันที  เขาไม่ลังเลในการรั้งหมัดขวากลับเขายิงหมัดซ้ายออกไป ด้วยความเร็วราวสายฟ้า  ในช่วงเวลาสั้นๆ หมัดสิบหมัดปะทะเข้ารังสีดาบ
ปัง!
รังสีดาบแตกกระจาย
สือเซินลุกพรวดพราดโดยอัตโนมัติ  ความเร็วของหมัดทั้งสิบนั้นไวมากเกินกว่าเขาจะเข้าใจได้  เขาไม่เคยเห็นความเร็วขนาดนั้นมาก่อน  หมัดที่เร็วเหมือนกับสายฟ้า จนขนาดที่เขามองไม่เห็นหมัดที่ออกมา
และเขาไม่เห็นแม้กระทั่งรังสีหมัด  นั่นก็หมายความว่า เมื่อนายท่านปล่อยหมัดเหล่านั้น เขาไม่ได้ใช้พลังงานใดๆ
หรือว่าเป็นพลังกายล้วนๆ?
หลังจากสังเกตดูมาหลายวัน สือเซินรู้สึกว่าแทบไม่น่าเชื่อ
แขนของถังเทียนชา  แต่หน้าของเขากระตือรือร้น และความสงสัยและความงุนงงในใจของเขาถูกกวาดหายไป  หลังจากซ้อมมาสองสามวัน  เขาเข้าใจว่าแม้ว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่ง  ไม่สามารถจะเอาชนะพวกเขาได้  ในพลังรูปแบบต่างๆ ทั้งหมด  ไม่มีการแบ่งแยกว่าพลังงานใดเหนือกว่าหรือด้อยกว่า  ก็แค่ว่าพวกเขาเดินตามเส้นทางที่ต่างกัน  ไม่สำคัญว่าเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าหรือไม่  ไม่สำคัญว่าท่านจะเลือกเส้นทางเดินไหน  แต่ขึ้นอยู่กับว่าเส้นทางที่ท่านเลือกจะได้ไปได้ไกลแค่ไหน
ด้วยความเข้าใจกระจ่างอย่างฉับพลัน  หัวใจของถังเทียนก็สงบลง  ความกระวนกระวายและความหวั่นวิตกที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ถูกกวาดหายเรียบ
ทันใดนั้นทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยรังสีดาบที่ยิงออกมาจากแสงรอบตัวทั้ง 15 คนฉวัดเฉวียนอยู่รอบตัวถังเทียนเหมือนกับฝูงแตน  รังสีดาบทุกสายมีขนาดเท่าฝ่ามือพุ่งออกมาส่งเสียงหวีดหวิวสะท้านหัวใจ
ถังเทียนสงบเยือกเย็น ร่างกายส่วนล่างของเขาไม่ขยับเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย  ขณะรับพลังรังสีดาบ  เขาก้มต่ำ
เขาไม่เคยรู้สึกชัดเจนขนาดนั้นมาก่อน  วิทยายุทธทุกอย่างที่เขาได้ฝึกมาก่อนผ่านเข้ามาในใจของเขา  วิทยายุทธทุกอย่างที่เขารู้จัก ยิ่งมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
ส่วนที่ทำให้วิทยายุทธมีความชัดเจนก็เพราะจำเป็นต้องใช้ปราณแท้ ซึ่งถูกกวาดหายไปเหมือนกับหมอก เหลือไว้แต่แก่นวิชาบริสุทธิ์ซึ่งผุดขึ้นมาเงียบๆ
เหตุผลที่ว่าทำไมวิทยายุทธต้องอาศัยพลังงานเป็นเพราะร่างกายหลักของนักสู้ไม่สามารถเติบโตในระดับที่สามารถสร้างผลลัพธ์อย่างเดียวกันได้
ประกายแสงพลันฉายผ่านดวงตาของถังเทียน เกิดเสียงหวีดแหลมที่มือขวาของเขา  นิ้วทั้งห้าซึ่งงอเหมือนกรงเล็บต้านรับรังสีดาบขณะที่เขาตะปบโดยตรง
วีดดดด
ประกายแสงแพรวพราวส่องกระจายออกมาจากปลายนิ้วของถังเทียน
ปิงตกตะลึง นั่นคือ... กรงเล็บเพลิงภูตพราย?  แต่พลังนั่น ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่ามาก...
กรงเล็บทั้งห้าของถังเทียนสั่นสะท้านเล็กน้อยขณะเคลื่อนไหวเล็กน้อย สร้างแรงเสียดทานกับอากาศ  อุณหภูมิของประกายไฟเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแสงสีแดงแต่เดิมเปลี่ยนเป็นสีขาวราวกับว่าร้อนขึ้น
พลังงานในอากาศเผาไหม้อย่างรวดเร็ว  รังสีแสงขาวแพรวพราวหดเล็กอย่างรวดเร็วกลายเป็นจุดเล็กเหมือนดวงดาว
หือ!
ในวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตรรอบตัวถังเทียน  มีดวงดาวเริ่มลอยอยู่รอบๆ คล้ายกับหิ่งห้อยนับไม่ถ้วน  พวกมันมารวมตัวอยู่ที่ปลายนิ้วของถังเทียน สร้างเป็นสายพานแสงที่หมุนวนห้าสาย
เมื่อรังสีดาบเข้มข้นสัมผัสกับแสง ก็สลายไปทันที
สีหน้าของบุรุษทั้ง 15 คนซีดขาวทันที  จุดแสงนั้นพุ่งเข้าหาพวกเขาเหมือนหิ่งห้อย
เมื่อเห็นหิ่งห้อยแสงบินอยู่รอบๆ  ใจของถังเทียนสงบสุข  หิ่งห้อยจ้าวปีศาจดูงดงามเสมอ  ในอดีตหิ่งห้อยจ้าวปีศาจมีเพียงแสงห้าจุด  แต่หิ่งห้อยจ้าวปีศาจในปัจจุบันนี้มีจำนวนนับพัน
ข้าแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพราย  ท่านเห็นไหม?  กรงเล็บเพลิงภูตพรายแข็งแกร่งขึ้นแล้ว  ท่านต้องมีความสุขแน่นอน
ในท่ามกลางความภูมิใจ มีความเศร้าสร้อยแฝงอยู่ด้วย
ปัง แสงรอบตัวบุรุษทั้ง 15 คนแตกสลายไป

12 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เสี่ยวถังเวลอัพละ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

มารทมิฬ กล่าวว่า...

55555555555555555555555555555.....ตกตะลึง ตึ่ง ตึ้ง ตึ่งงงง..

Unknown กล่าวว่า...

ชอบชอบบักถัง

Unknown กล่าวว่า...

อย่างโหดเลยพี่ถัง

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ🌸😊

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

คิดถึงมาก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

สงสารเด็กใหม่ ทั้ง46 สู้ๆนะครับ
นอกจากพี่ถังยังมี3บ้า กับ1ลุง อีกนะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

แสดงความคิดเห็น