วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก – ตอนที่ 13 การมาเยือนของเคย์ลัน


เล่มที่ 9  สร้างชื่อสะท้านโลก ตอนที่ 13 การมาเยือนของเคย์ลัน
ตกเวลากลางคืน  ในเมืองแซนน์ เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิโอเบรียน จักรวรรดิที่ทรงอำนาจทางทหารมากที่สุดในทวีปยูลาน  ชีวิตยังดำเนินไปตามปกติ  นอกจากถนนคนกลางคืนที่แออัดสองสามสายแล้ว  เมืองยังดูสงบสุข

เมืองแชนน์ตะวันออก  ถนนโบลเดอร์  หลังจากต้องต้อนรับรถม้านับไม่ถ้วนในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  คฤหาสน์ของเคานท์วอร์ตันค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบสุขเช่นกัน
ภายในห้องโถงของเคานท์วอร์ตัน
ลินลี่ย์ พ่อบ้านแอชลีย์ ฮิลแมน บาร์เกอร์และน้องๆ ซาสเลอร์และสมาชิกหลักอื่นๆ ในกลุ่มของพวกเขากำลังประชุมกัน พวกเขากำลังปรึกษากันถึงวิธีรับมือในเรื่องการตัดสินเรื่ององค์หญิงเจ็ด
 “ถ้าฝ่าบาททรงเลือกบลูเมอร์จริงๆ  อย่างนั้นข้าจะทำตามแผนของพี่ใหญ่”  วอร์ตันไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ฮิลแมนพยักหน้าจริงจังเช่นกัน  “ทหารของจักรวรรดิมีชื่อเสียงในเรื่องความกล้าหาญและไม่กลัวตาย  ขณะที่องค์หญิงเจ็ดอยู่ในตำหนักในลึกๆ  ถ้าเจ้าถูกพบตัวขณะลอบเข้าไป ต่อให้พวกเจ้าฆ่าพวกเขาตลอดทาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องมีการตายนับไม่ถ้วน”
หลังจากมาถึงจักรวรรดิโอเบรียนแล้ว  ฮิลแมนตะลึงกับจิตวิญญาณและราศีของจักรวรรดิ
การต่อสู้!
ทั่วทั้งจักรวรรดิเคารพเทพสงคราม และนักสู้ระดับเทพที่พวกเขาเทิดทูนบูชาก็คือเทพสงคราม  ประเทศนี้นับถือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลัง  ทุกคนรู้สึกได้ง่ายว่าแค่เพียงมองดูปฏิกิริยาที่แทบบ้าคลั่งของผู้ชมในสนามชมการประลองเหล่านั้น
คนขี้ขลาดที่หนีการต่อสู้จะถูกดูถูกเหยียดหยามจากทั่วจักรวรรดิ
จักรวรรดิโอเบรียนตั้งอยู่ในทวีปยูลานตอนเหนือ  ทั่วทั้งจักรวรรดิส่วนใหญ่จะหนาวตลอดทั้งปีซึ่งช่วยให้พลเมืองทั้งจักรวรรดิได้พัฒนาความอดทนของพวกเขา
 “ลุงฮิลแมน  ถ้าเราต้องพาองค์หญิงเจ็ดหนีไป เราคงไม่ส่งคนไปแค่คนเดียวแน่  แม้ว่าทหารของจักรวรรดิจะแข็งแกร่งมาก  แต่เท่าที่ข้าบอกได้ พวกเขาคงไม่อาจคุกคามเราได้  เว้นแต่จะมีเหตุแทรกซ้อนได้ก็คือมียอดฝีมือระดับเซียนอาศัยอยู่ในวัง”
จักรพรรดิไม่มีความสามารถจะสั่งการยอดฝีมือระดับเซียนให้มาเป็นองครักษ์ส่วนตัวได้  แต่เทพสงครามอาจจะให้ยอดฝีมือระดับเซียนประจำการอยู่ในวังได้แน่เพื่อคอยช่วยเหลือป้องกัน    คุณค่าของสมบัติในคลังหลวงและห้องสมบัติลับต่างๆ สำคัญมากกว่าตัวจักรพรรดิเองเสียอีก!  พวกเขาจะต้องปกป้องเอาไว้เป็นปกติ
ถ้าใครบางคนบังอาจบุกรุกเข้าไปในวังเพื่อชิงตัวองค์หญิง ยอดฝีมือระดับเซียนเหล่านั้นอาจจะเข้ามาขัดขวางเองก็ได้  ลินลี่ย์มั่นใจในความสามารถของตนเองว่าจัดการกับยอดฝีมือระดับเซียนได้  แต่ถ้าเขานำคนธรรมดาอย่างนีน่าไปกับเขาด้วย  ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยาก
ลินลี่ย์มองดูบีบีที่นั่งอยู่บนตักของเขา  “บีบี, เมื่อถึงเวลา ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือเจ้าแล้วนะ”
บีบีกระโดดลุกขึ้นยืน แล้วกระโจนขึ้นมาอยู่บนโต๊ะ”
 “หืม? ขึ้นอยู่กับข้า?”  บีบีกลอกดวงกลมเหมือนลูกปัดขณะมองดูวอร์ตัน  “วอร์ตันน้อย ไม่ต้องห่วง ข้า, บีบีจะพาสตรีของเจ้ากลับมาให้เจ้าโดยไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อย”
 “บีบีจะไป?”  วอร์ตันตะลึง
 “วอร์ตันน้อย, เจ้าไม่เชื่อใจข้าบีบีเหรอ?”  บีบีเชิดหัวน้อยๆ ด้วยความหยิ่ง พลางถลึงตามองดูวอร์ตันอย่างไม่พอใจ
วอร์ตันรีบส่ายศีรษะทันที  “ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเจ้า  เป็นแต่ว่า วังหลวงจะต้องมียอดฝีมือระดับเซียนพักอยู่ที่นั่นแน่ ถ้าพวกเขาลงมือเอง บีบีเจ้าจะพาคนอ่อนแออย่างนีน่าออกมาได้อย่างปลอดภัยหรือ?”
 “วอร์ตัน, เนื่องจากระดับพลังของบีบี การจะพาองค์หญิงเจ็ดออกมาจากวังหลวง ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด”  ลินลี่ย์ค่อนข้างมั่นใจความสามารถของบีบี  “ความเร็วของบีบีรวดเร็วที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา”
 “ไวที่สุด?  พี่ใหญ่ ท่านบอกว่าเขาไวกว่าท่านและโอลิเวอร์อีกหรือ?”  วอร์ตันพูดอย่างประหลาดใจ
 “ความเร็วของบีบีไวที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นในหมู่อสูรเวท”  เสือดำเมฆาแฮรุพูดทันทีจากจุดที่เขานอนอยู่บนพื้น  เสือดำเมฆาขึ้นชื่อในเรื่องความเร็วของพวกเขา เมื่อพวกเขายังอยู่ที่เทือกเขาอสูรเวท  บีบีเป็นเพียงอสูรเวทระดับเก้าชั้นต้น  แต่ตอนนั้นบีบีก็เร็วเทียบเท่าเสือดำเมฆาแล้ว
หลังจากห้าหกปีผ่านมา ความเร็วของบีบีเหนือกว่าเสือดำเมฆาช่วงใหญ่ แทบจะถึงระดับใหม่ที่น่ากลัวแล้ว
และตอนนี้? หลังจากที่บรรลุถึงระดับเซียน  ความเร็วของบีบีก็ทะยานอีกครั้ง!
 “แน่นอนว่าเขาไวกว่าโอลิเวอร์”  ลินลี่ย์หัวเราะพลางลูบศีรษะบีบี  “วอร์ตัน ข้าจะบอกอะไรเจ้านะ  ความเร็วและพลังป้องกันของบีบียิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น  ในอดีตเมื่อข้ายังศึกษาอยู่ที่สถาบันเอินส์ บีบีอยู่ในช่วงเจริญเติบโต เขาก็มีพลังของอสูรเวทระดับเจ็ดหรือแปดแล้ว  แต่ตอนนั้นขนาดว่าถูกไม้ตายของมังกรเกราะหนาม อสูรเวทระดับเก้าชั้นสูงเล่นงาน  เขาเพียงแต่ได้รับบาดแผลรุนแรงเท่านั้น”
นี่เป็นครั้งแรกที่วอร์ตันได้ยินเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกที่ซาสเลอร์และคนอื่นๆ ได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน
 “เป็นไปได้ยังไงกัน?”
พวกเขาตะลึงกันหมด  มังกรเกราะหนามคือหนึ่งในอสูรเวทประเภทมังกรที่น่ากลัวที่สุด
 “เมื่อข้าพบกับแฮรุในเทือกเขาอสูรเวท แฮรุยังไม่สามารถโจมตีทำร้ายบีบีได้แม้แต่น้อย  ตอนนั้นบีบีเป็นเพียงอสูระดับเก้าชั้นต้น   เจ้าต้องรู้ไว้ว่าพลังโจมตีของแฮรุสามารถทำอันตรายข้าได้ในตอนนั้น แม้ว่าข้าจะมีพลังป้องกันของนักรบระดับเก้าชั้นกลางหลังจากที่แปลงกายแล้ว”
บีบีเชิดหัวขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินลินลี่ย์สรรเสริญ  พลางกวาดตามองไปรอบๆ เหมือนผู้บัญชาการที่ชนะศึก
 “ข้าสามารถบอกเจ้าได้แค่นี้ว่า ความเร็วของบีบีเหนือกว่าโอลิเวอร์แน่นอน  นอกจากนี้ ต่อให้โอลิเวอร์ใช้กระบี่แสงอุษาโจมตีถูกบีบีก็ตาม บางทีเขายังไม่อาจทำร้ายฝ่าแนวป้องกันของบีบีได้ด้วยซ้ำ”
ลินลี่ย์หัวเราะ
พลังป้องกันที่ขนของบีบีนั้นน่ากลัวจริงๆ
 “กระบี่แสงอุษามีแนวโน้มว่าไม่สามารถทำลายพลังป้องกันของเขาได้เหรอ?”  วอร์ตัน ฮิลแมนและคนอื่นๆ เงียบกันหมด หนูเงาน้อยที่ดูธรรมดาซึ่งลินลี่ย์ได้มาเมื่อเขายังเด็กเมื่อโตขึ้นแล้วจะแข็งแกร่งทรงพลังมาก
บีบีส่ายศีรษะ  “ฮ่าฮ่าฮ่า พลังป้องกันของข้าบีบีเป็นพลังตามธรรมชาติ  นั่นไม่จำเป็นต้องพูดเลย  อย่างไรก็ตาม... ข้าไม่มั่นใจเลยว่าความสามารถของข้าจะรับพลังโจมตี สัจธรรมแห่งธาตุดินของพี่ใหญ่ได้”
สัจธรรมแห่งธาตุดินของลินลี่ย์ไม่สนใจพลังป้องกัน  การป้องกันทำได้อย่างเดียวคือลดแรงสั่นสะเทือนขณะที่มันส่งพลังผ่านเข้ามา
 “เนื่องจากความเร็วของบีบี การนำองค์หญิงจ็ดออกมา จากนั้นหนีไปด้วยความเร็วสูงจากวังหลวงจึงไม่น่าเป็นปัญหา มีแนวโน้มว่ายอดฝีมือระดับเซียนในวังก็คงไม่มีเวลาได้ติดตามทัน”
 “ฮะฮะ พี่ใหญ่แค่มอบความไว้วางใจครั้งนี้ให้ข้า” บีบีตื่นเต้นมาก  เขามองดูราวกับว่าต้องการจะไปพาตัวองค์หญิงเจ็ดมาเดี๋ยวนี้
 “อย่าเพิ่งใจร้อน  ที่สำคัญคือจักรพรรดิโจฮันน์ยังไม่ได้ประกาศเลยว่าจะเลือกใคร”  ตอนนี้ ลินลี่ย์เตรียมพร้อมสำหรับรับเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง  เขาไม่ยอมประมาท
……….

ทั้งวอร์ตันและบลูเมอร์ใช้เวลาช่วงสองสามวันนี้อย่างกังวล ขุนนางหลายคนจากนครหลวงยังคงแอบคาดเดาว่าคนใดคนหนึ่งจะได้แต่งงานกับองค์หญิงเจ็ด
ในวังหลวง
จักรพรรดิกำลังนั่งคุยอยู่กับบุรุษวัยกลางคนผมน้ำเงิน  ต่อหน้าพวกเขาเป็นเกมกระดานสำหรับแผนรบ เกมเหล่านี้เป็นที่นิยมในหมู่ทหาร  และจักรพรรดิโจฮันน์โปรดเล่นเกมนี้บ่อยเช่นกัน
 “ฝ่าบาท พระองค์ทรงเลี้ยงพระธิดาได้ดี  นางเป็นที่สนใจหนุ่มๆ หลายคนรวมบุตรน้อยของข้าด้วย”  บุรุษวัยกลางคนผมสีฟ้าหัวเราะ
บุรุษวัยกลางคนผมสีฟ้านี้ก็คือมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายจั๊ดด์ ดาร์รีล  จั๊ดด์กับโจฮันน์มีความเห็นต่อกันที่ดีและโดยส่วนตัวแล้วพวกเขาสนิทกันเหมือนกับพี่น้อง
 “จั๊ดด์ อย่าล้อข้าเล่นเลย”  ต่อหน้าจั๊ดด์ โจฮันน์จะใช้คำว่า ‘ข้า’ ไม่ใช้คำที่สูงกว่าว่า ‘เรา’ ก็แค่ช่วงเวลาส่วนตัวนี้ ทุกคนสามารถบอกได้ว่าพวกเขาสนิทกันเพียงไหน แต่แน่นอนว่าเขาจะทำเช่นนี้ต่อเมื่อไม่มีคนอื่นปรากฏอยู่ด้วย
 “เจ้าไม่รู้เรื่องนี้  แต่เรื่องนี้สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าครั้งใหญ่ให้กับข้า  บลูเมอร์กับวอร์ตันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เกินไป ไม่ว่าใครก็เป็นตัวเลือกที่ดี  แต่พี่ชายของพวกเขา...”  จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจ  “โอลิเวอร์กับลินลี่ย์น่ากลัวทั้งคู่แน่นอน”
จั๊ดด์พยักหน้า  “แน่นอน ข้าเห็นการต่อสู้ที่ประหลาดนั้นในกลางอากาศเหนือสนามประลองเช่นกัน  โอลิเวอร์และลินลี่ย์แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีพลังระดับเซียนชั้นสูงกันตั้งแต่แรก  ข้าไม่คาดเลยว่าพลังที่พวกเขาแสดงออกมาตอนแรกจะเป็นแค่เพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง  ความจริงทั้งสองคนนี้ยังมีพลังโจมตีสุดยอดเป็นของตนเอง  และโอลิเวอร์กลับกล้าท้าทายเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนอีกด้วย”
โจฮันน์พยักหน้า  “โอลิเวอร์และเซียนดาบจ้าวภูผาเคยประมือกันมาก่อน  ครั้งก่อนนั้นโอลิเวอร์พ่ายแพ้  แต่แม้ว่าจะเคยประฝีมือกันมาแล้วและรู้ว่าเซียนดาบจ้าวภูผาแข็งแกร่งทรงพลังขนาดไหน  เขาก็ยังกล้าท้าทายเขาอีกครั้งหรือ?  นั่นก็หมายความว่าเขาต้องมีบางอย่างที่ทำให้ตนเองมั่นใจแน่นอน”
 “ข้ามีความรู้สึกว่า ทั้งโอลิเวอร์และลินลี่ย์จะเป็นคนในระดับเดียวกับเซียนดาบจ้าวภูผาในอนาคต”  โจฮันน์ถอนหายใจ  “เรื่องที่แย่ที่สุดก็คือ บุรุษทั้งสองคนนี้ปกป้องน้องชายของตนเองมาก  จั๊ดด์ เจ้าบอกข้าที  ข้าจะไม่ปวดหัวได้ยังไง?”
จั๊ดด์เริ่มหัวเราะ
 “อย่างนั้น ฝ่าบาท  พระองค์ตัดสินใจหรือยัง?”  จั๊ดด์มองดูโจฮันน์
โจฮันน์พยักหน้า  “ข้าตัดสินใจแล้ว”
 “ใคร?”  จั๊ดด์สงสัยมาก
โจฮันน์พูดอย่างยอมจำนน  “ข้ายอมรับว่าลินลี่ย์เป็นคนที่ฉลาดเฉิดฉายที่สุด ข้าเห็นมาแล้วทั้งชีวิตของเขา  เขาสร้างความประหลาดใจได้ทุกด้าน  แต่เทียบกับเขาแล้ว  โอลิเวอร์ไม่ด้อยกว่าเท่าใด  ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงด้านอื่น บางทีข้าอาจจะเลือกวอร์ตัน”
 “อย่างนั้น..ฝ่าบาท พระองค์หมายความตามที่ตรัสก็คือ พระองค์เลือกบลูเมอร์?”  จั๊ดด์บอกได้จากความหมายในคำพูดของโจฮันน์
 “ถูกแล้ว”  โจฮันน์พยักหน้า
 “ไม่มีอะไรสำหรับเรื่องนั้น ที่สำคัญคือ บลูเมอร์เป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพสงคราม  เจ้าควรจะรู้ว่าเทพสงครามมีอิทธิพลในจักรวรรดิมากเพียงไหน  นอกจากนี้... ศิษย์ร่วมสำนักมากกว่าสี่คนก็มาคุยกับข้า พวกเขาทุกคนทำเพื่อประโยชน์ของบลูเมอร์”  จักรพรรดิโจฮันน์พูดอย่างจนใจ
 “สี่คนเหรอ?”
จั๊ดด์ตกใจเช่นกัน  “ข้าได้ยินว่าศิษย์ส่วนตัวของเทพสงครามยากจะเข้ามาพัวพันในเรื่องสำคัญ  นึกไม่ถึงเลยว่าแทบจะทันทีที่กลายเป็นศิษย์ส่วนตัว ศิษย์ส่วนตัวอีกสี่คนจะเข้ามาพูดคุยในนามของเขา”
 “จั๊ดด์, เจ้าน่าจะรู้ว่าแม้ว่าโดยหลักการแล้ว ข้าจะมีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดิ  แต่ในความเป็นจริง... เทพสงครามยังมีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินนี้”
ในที่สุด จักรพรรดิโจฮันน์ก็ตัดสินใจเลือกข้างวิทยาลัยเทพสงคราม
…..

คฤหาสน์ของมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย
บุรุษหนุ่มผู้งามสง่าอย่างน่าประหลาดไว้ผมยาวสีน้ำเงินกำลังเดินเล่นตามปกติตามถนนศิลาในพื้นที่ของตระกูล  เมื่อใดก็ตามที่เขาพบทุกคน แม้แต่บ่าวรับใช้ เขาจะยิ้มและพยักหน้าให้พวกเขาเสมอ
เคย์ลัน ดาร์รีลจอมเวทอัจฉริยะ
 “ในที่สุด ฝ่าบาทก็ตัดสินพระทัยเลือกบลูเมอร์?”  เคย์ลันส่ายศีรษะและถอนหายใจ  จั๊ดด์บิดาของเขารักเคย์ลันมาก  เขายังบอกเคย์ลันเกี่ยวกับเรื่องนี้
 “ทำไม?  ทำไมฝ่าบาทไม่ทรงตรองถึงความรู้สึกของธิดาตนเอง?”  ในหัวใจของเขา เคย์ลันไม่พอใจวิธีปฏิบัติที่เย็นชาบางอย่างซึ่งตระกูลขุนนางและราชตระกูลใช้จัดการกิจการแบบนี้
ในใจของเขา คนเราควรปฏิบัติต่อผู้อื่นให้ดี  ถ้าคนสองคนอยู่ด้วยกัน ก็ควรเป็นเพราะพวกเขามีความรักต่อกัน  จักรพรรดิโจฮันน์ไม่ได้คิดถึงจิตใจของนีน่าเลย
 “นีน่า..นาง”
เมื่อคิดย้อนไปถึงเมื่อเขากับนีน่ายังเล่นด้วยกันสมัยยังเด็ก  เคย์ลันจึงตัดสินใจ เขาออกจากคฤหาสน์มหาเสนาบดีซ้ายทันที เขาเพียงแต่บอกกับพ่อบ้านเท่านั้น “ข้าจะออกไปเดินเล่น”  เคย์ลันมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของเคานท์วอร์ตันที่ถนนโบลเดอร์
เคย์ลันตัดสินใจแล้ว
เขาต้องแจ้งให้วอร์ตันทราบเรื่องนี้
….

ตกกลางคืน วอร์ตันยังคงฝึกอยู่ในลานฝึกของคฤหาสน์  ใกล้ๆ เขาก็คือลินลี่ย์กำลังทำสมาธิอยู่เงียบๆ  ขณะนั้นบ่าวรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาแจ้ง  “ใต้เท้าขอรับ  ท่านเคย์ลันแห่งบ้านมหาเสนาบดีซ้ายมาเยือนขอรับ”
 “เคย์ลัน?”
วอร์ตันชะงัก ในใจของเขา วอร์ตันรู้สึกซาบซึ้งอดีตคู่แข่งความรักของเขานัก  ที่สำคัญ เคย์ลันยอมเลิกพัวพันด้วยความเต็มใจ  ถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น เรื่องนี้คงจะซับซ้อนมากขึ้น
 “เคย์ลันมา?  วอร์ตัน, ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”  ลินลี่ย์ค่อนข้างอยากรู้เรื่องของเด็กหนุ่มผู้นี้ซึ่งสมัครใจเลิกตามพัวพันเป็นคู่แข่งความรักเช่นกัน
ลินลี่ย์และวอร์ตันตรงไปที่ห้องโถงต้อนรับอาคันตุกะ  เมื่อพวกเขาเห็นเคย์ลัน ความประทับใจแรกพบที่ลินลี่ย์รู้สึกก็คือ คนผู้นี้มีความเป็นมิตรมากและง่ายต่อการเข้าใจ
 “วอร์ตัน”  เมื่อเห็นวอร์ตัน เคย์ลันยิ้ม จากนั้นมองลินลี่ย์  “และท่านผู้นี้คงจะเป็นพี่ชายของเจ้า อาจารย์ลินลี่ย์  ข้าได้ยินชื่อเสียงของอาจารย์ลินลี่ย์มานานแล้ว”
ลินลี่ย์ยิ้มให้เขาเช่นกัน
 “เคย์ลัน, เชิญนั่ง”  วอร์ตันมีความเป็นมิตรต่อเขามาก
เคย์ลันส่ายศีรษะ  “ไม่จำเป็น  ข้ามาวันนี้เพื่อแจ้งบางเรื่องกับเจ้า เมื่อเสร็จแล้วข้าจะไปทันที”  หน้าของเคย์ลันเคร่งขรึม
 “บอกเรื่องอะไรข้างั้นหรือ?”  วอร์ตันพูดอย่างงงงวย
เคย์ลันกล่าวอย่างจนใจ  “วอร์ตัน เกี่ยวกับข้อมูลคือข้าได้รับทราบมาว่า วันที่ 15 มีนาคม ฝ่าบาทมีแนวโน้มว่าจะเลือกบลูเมอร์  ไม่ใช่เจ้า แต่แน่นอนว่า.. เนื่องจากยังไม่ถึงวันที่ 15 มีนาคม ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน  อย่างไรก็ตาม  ข้อมูลนี้ ข้ายืนยันความถูกต้อง 90%”

11 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เดี๋ยวรู้แน่!!!

Kanteen กล่าวว่า...

เสียดายที่ต้องเก็บไพ่เซียนไว้ไม่งั้นลงไปโชว์พร้อมกันคงสนุกน่าดู

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

อย่าให้ลินลี่ย์ได้รวมแบ็คทุกคนที่รู้จัก

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

นั้นงายยยย ตีมันๆๆๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

จัดการเลยลินลีย์

Bel กล่าวว่า...

ยกให้วอร์ตัน พระเอกก็อดโชว์เทพดิ 55

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

แสดงความคิดเห็น