วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 650 อัศจรรย์


ตอนที่  650  อัศจรรย์
กองสมบัติดวงดาวกองย่อมๆ ส่องประกายแวววาว ทำให้เรือรบสว่างไสว มองเห็นสีหน้าซึมเซาของทุกคนอย่างชัดเจน

ในท่ามกลางความเงียบ ทุกคนอ้าปากค้าง พวกเขาจ้องมองกองสมบัติที่อยู่ต่อหน้าถังเทียน  พวกเขาไม่เคยเห็นสมบัติวิญญาณมากมายมาก่อน  คลื่นพลังงานที่แผ่ออกมาในอากาศ  ทำให้พลังงานภายในเรือรบได้รับผลกระทบ จนเกิดสภาวะที่แปลกประหลาด
 ทั้งหมดเป็นสมบัติวิญญาณ...’
 เป็นไปได้อย่างไร...’
หลิงเซี่ยมีสีหน้าที่ทึ่งอัศจรรย์เป็นที่สุด ดวงตานางแทบทะลุจากเบ้า  ลมหายใจของนางชะงัก  ความมั่งคั่งในชีวิตประจำวันของถังเทียนทำให้นางตกตะลึงได้ครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ทุกอย่างที่นางรู้  ความรู้ที่นางรวบรวมในเรื่องสมบัติวิญญาณที่กองอยู่ข้างหน้า  นางรู้สึกเหมือนตนเองจะกลายเป็นคนโง่เง่า
 ทวีปกวงหมิงไม่มีสมบัติวิญญาณมากนัก...”
 เขาเป็นใคร?’
แม้ว่าการแสดงออกทางสีหน้าของทุกคนจะทำให้หนุ่มน้อยถังดีใจ  แต่เขารู้ว่าพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน  ดังนั้นเขาไม่มีเวลาดีใจ  เขาใช้กำลังปรบมือปลุกเรียกความสนใจของทุกคนให้กลับมา
 “จากนี้ไป พวกเจ้าทั้งห้าตระกูลจะแบ่งออกเป็นห้าแผนก  ตระกูลเว่ยคือกลุ่มดาวคนธนู  ตระกูลหลี่ คือกลุ่มดาวกรกฎ  ตระกูลหวีคือกลุ่มดาวแกะ  ตระกูลเย่คือกลุ่มดาวคันชั่ง  ตระกูลจางคือกลุ่มดาวกุมภ์”
ถังเทียนลอกเลียนและสมอ้างห้าตระกูลใช้ชื่อของตำหนักระนาบสุริยุปราคาโดยไม่รู้สึกอาย  ด้วยวิธีนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เขามากขึ้น
ทุกคนไม่มีใครคัดค้าน  แต่แทนที่จะรู้สึกว่าเป็นชื่อใหม่ พวกเขารู้สึกว่าเหมาะสมดี  เพียงแต่...
 “เดี๋ยวๆ  ไอ้กลุ่มดาวนี่มันคืออะไร?”  เว่ยถิงถิงถาม
 “เอ่อออออ” ถังเทียนตะลึง  ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช้ชื่อกลุ่มดาว  ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกได้แต่กล้อมแกล้มอธิบาย  “ก็คือๆ กับทวีปนั่นแหละน่า”
ทุกคนมีความรู้ชัด บางคนก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็รู้สึกตื่นเต้น  เป็นไปได้ไหมว่าปรมาจารย์หวังว่าแต่ละตระกูลจะสามารถมีทวีปได้ในอนาคต?
 “เอาล่ะนะ” ถังเทียนเริ่มแบ่งแยกสมบัติดวงดาว  และพึมพำกับตนเอง  “กุมภ์, คนธนู, กรกฏ, แกะ, คันชั่ง  โชคดีที่ข้ายังมีสมบัติมากมาย  ข้ายังจำเป็นต้องได้สมบัติในอนาคตเพิ่มขึ้นอีก  ใช่แล้ว ใช่แล้ว ข้ายังมีสมบัติสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาอยู่อีกหลายชิ้น  แต่ข้ายังต้องหาเพิ่มอยู่ดี..”
แม้ว่าเขาจะมีสมบัติดวงดาวอยู่หลายอย่าง แต่เขาเก็บทั้งหมดไว้ในคลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่  แต่เพื่อให้เสี่ยวเอ้อได้ปรับแต่งสมบัติวิญญาณเพิ่มขึ้น  เขาจึงนำติดตัวมาด้วยไม่กี่ชิ้น
 “กลุ่มคนธนูและแกะทำหน้าที่รุกสู้, กลุ่มคันชั่งทำหน้าที่ควบคุม, กลุ่มกรกฎทำหน้าที่ป้องกัน  แล้วกลุ่มกุมภ์ล่ะ ทำอะไรดี? เอ่.. นักสู้จากกลุ่มดาวกุมภ์เขาสู้ยังไงกัน?”  ถังเทียนถือสมบัติดวงดาวชิ้นหนึ่งและพึมพำกับตนเอง
เสี่ยวเอ้อลอยออกมาและกระซิบกับถังเทียนอย่างเฉยเมย  “ใช้เงิน”
สีหน้าของถังเทียนชะงักค้าง  เขาไม่ได้พูดอะไร  คำพูดแบบนั้นไม่สามารถพูดได้  แต่ในสวรรค์วิถี  เป็นความจริงที่พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสู้ที่รวยที่สุด
หลังจากคัดเลือกสมบัติของห้ากลุ่มดาวเสร็จแล้ว  ถังเทียนถอนหายใจโล่งอก  แค่นี้พอแล้ว สมบัติดวงดาวถูกแยกเป็นหกกอง  นอกจากห้าตระกูลแล้ว  มีเหลืออีกหนึ่งกองเพื่อกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว จากนั้นถังเทียนชี้แต่ละกองและอธิบาย
 “นั่นสำหรับกลุ่มกุมภ์  นั่นกลุ่มแกะ กองนั้นกลุ่มกรกฎ กองนั้นกลุ่มคนธนู  กองนี้กลุ่มคันชั่ง  และนี่สำหรับกองกำลังปีศาจ  หนึ่งคนต่อหนึ่งชิ้น”
แม้ว่าพวกเขาคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  แต่พอเกิดขึ้นจริงๆ ทุกคนรู้สึกยินดีและเหลือเชื่อ
หลังจากนั้นสักครู่ ทุกคนก็สงบลงได้
 “พวกเจ้ายังจะหยอกล้ออะไรกันอีก?  รีบๆ หน่อย!”  ถังเทียนถลึงตาและพูดอย่างเหลืออด  “จงใช้เวลาตอนนี้ทำความคุ้นเคยกับมัน”
พวกเขาตื่นจากฝันกลางวันและรีบเดินขึ้นมาทันที
สมบัติหนึ่งชิ้นต่อคน  พลังของศิษย์ห้าตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย  แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขา  ถ้าพวกเขาต้องการจะแสดงศักยภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่แท้จริง  ถังเทียนไม่ใช่มือสมัครเล่นอีกต่อไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผ่านการฝึกฝนกับปิง  อย่างน้อยเขารู้ว่าเขากำลังทำอะไร  เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะประสานงานกันได้ในระยะเวลาสั้นๆ
เรือธนูดำมีปืนใหญ่ระดับเงินอยู่สามกระบอก  ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอีกหกกระบอก  หอกถล่มดวงดาวระดับเงินสามชุด  ดาบล้างสวรรค์อีกสิบสองชุด
กองกำลังปีศาจของสือเซินเหมาะกับสิบสองดาบล้างสวรรค์
สำหรับหอกถล่มดวงดาวระดับเงิน จะให้ตระกูลหวีแห่งกลุ่มดาวแกะซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาหอกรับผิดชอบ
Tang Tian left the Honeycomb Sword Cannons for himself.
ถังเทียนปล่อยปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งไว้สำหรับตัวเขาเอง
ปืนใหญ่เงินสามชุดไม่เหมาะสมรับมือกับเรือรบโจรสลัดที่คล่องแคล่ว  ดังนั้นถังเทียนกับเสี่ยวเอ้อจึงปล่อยเอาไว้เฉยๆ
ทันใดนั้น ถังเทียนและเสี่ยวเอ้อประหลาดใจกับกระแสไหลเวียนของรังสีแสง  พวกเขาหยุดพูดคุยกัน  และตกตะลึงกับฉากภาพข้างหน้าพวกเขา
แต่ละคนถูกแสงครอบคลุมไว้ แสงเหล่านั้นมีสีสันที่แตกต่างทำให้เรือรบดูมีสีสันสดใส
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้หน้าของถังเทียนและเสี่ยวเอ้อเปลี่ยน
*********************

บนเรือโจรสลัด
 “อีกนานเท่าใดกว่าเราจะไล่ทัน?”  เหมยเฉินซิ่วถาม
รองหัวหน้าที่อยู่ด้านข้างเขาให้เวลาอย่างแม่นยำ  “อีกราวสิบห้านาที  โชคดีสำหรับเรา  ความเร็วของเรือเราทำได้ดี  และเหมิ่งหนานนั่นบรรทุกคนขึ้นเรือมากเกินไป  ถ้าไม่อย่างนั้น เราคงยากจะไล่ตามเรือรบธนูดำได้ทัน”
รองหัวหน้าตื่นเต้น  เหมยเฉินซิ่วไม่เปลี่ยนท่าที  ลักษณะของเรือรบธนูดำคือเรือรบที่ดีที่สุดในบรรดาเรือรบขนาดเล็ก  และราคาของมันสูงจนน่ากลัว  ถ้าเขาเป็นผู้บัญชาการใช้อุปกรณ์เลิศหรูและจัดเตรียมกองทัพให้กวงหมิง  เหมยเฉินซิ่วคงมีหลายวิธีสำหรับไล่กวด  แต่ปัจจุบันนี้เขาเป็นหัวหน้าโจรสลัด  ไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจ  ไม่มีการติดต่อสื่อสารใดๆ ระหว่างโจรสลัดกับทวีปกวงหมิง  แม้แต่การติดต่อสื่อสารระหว่างเหมยเฉินซิ่วและครอบครัวของเขาก็ยังถูกตัดขาด
 “ให้ทุกคนเตรียมตัวสู้รบ  ฝีมือการต่อสู้ของเหมิ่งหนานจะประมาทไม่ได้”  เหมยเฉินซิ่วไม่ประมาทคู่ต่อสู้  แม้ว่าพวกเขาจะมีกองเรือก็ตาม
เหมิ่งหนานได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งมาครั้งแล้วครั้งเล่า  และสำหรับเหมยเฉินซิ่วก็พิสูจน์มาด้วยตนเอง  เขาไม่มีทางดูแคลนคนอย่างนั้น
ทันใดนั้น รองหัวหน้าร้องออกมาอย่างประหลาดใจ  “โอวพระเจ้า  นั่นอะไร?”
เหมยเฉินซิ่วตกใจ  เขาหันไปมองฝ่ายตรงข้ามเขาทันที  ม่านตาของเขาหดลีบ
เรือธนูดำข้างหน้าพวกเขาเปล่งแสงรัศมีหลากหลายสีสัน  แสงรัศมีกระจายออกมาจากเรือ!
 เกิดอะไรขึ้น?’
เรือรบธนูดำไม่รู้วิธีการป้องกันมัน  แต่ตัวเรือสร้างจากไม้หมอกดำ  ไม้หมอกดำค่อนทึบ  ดังนั้นจึงเก็บแสงไม่ให้รั่วกระจาย  แต่เพราะรัศมีส่องทะลุได้  แสงนั้นจะสว่างเพียงไหน?
 แสงเหล่านั้นคืออะไร?’
ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในหัวใจของเหมยเฉินซิ่ว  ขณะนั้นเองเขารู้สึกถึงบางอย่าง และรำพึง  “ระลอกพลังงาน  ระลอกพลังงานที่กล้าแข็ง...”
รองหัวหน้ามองออกไปนอกท้องฟ้า  ทันใดนั้นมีกระแสพลังงานเชี่ยวกรากปรากฏในท้องฟ้า  เหมือนใบพัดตัดขวางน้ำตัดผ่านน้ำด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดา
ซู่....!
กระแสคลื่นพลังงานกวาดผ่านเรือรบของพวกเขาไป เสียงหวีดหวิวทำให้เรือสั่นสะเทือน
 “แย่แล้ว!”  ม่านตาของเหมยเฉินซิ่วขยายทันที  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ  “พวกเขากำลังดูดซับพลังงาน
ซี่...  ซี่.....  ซี่....!
กระแสเชี่ยวกรากของพลังงานทั้งหมดเป็นเหมือนธนูใส ยิงข้ามท้องฟ้ามาทุกตำแหน่ง เหมือนสายฝนลงใส่เรือรบธนูดำ
เหมยเฉินซิ่วและกลุ่มของเขามองดูฉากภาพที่น่าจดจำซึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา
กระแสพลังงานนับไม่ถ้วนทะลักเข้ามาพร้อมกัน เหมือนกับธนูหมื่นดอกถูกยิงเข้ามาที่เรือรบ
แสงรัศมีของเรือรบ ยิ่งกล้าแข็งรุนแรงมากขึ้น ขณะที่รัศมีหลากสีหนาแน่นมากขึ้น
ซี่... ซี่.... ซี่....
พลังงานแม้จากที่ไกลเริ่มถูกดึงเข้ามา ภายใต้แรงดึงดูดที่รุนแรง  กระแสพลังงานค่อยๆ โค้งจนกระทั่งเป็นวังวนพายุที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแต่ไกล
พายุพลังงาน!
เหมยเฉินซิ่วไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่เขาเห็นการก่อตัวของพายุได้อย่างสมบูรณ์กับตาตัวเอง  พายุพลังงานขยายใหญ่ขึ้นทุกทีจนเกินกว่า 1.5 กิโลเมตรอย่างรวดเร็ว มันมีพลังกดดันมากมาย พลังงานที่บรรจุในนั้นมากพอทำให้คนหัวใจวายได้
พลังงานที่รุนแรงและบ้าคลั่งกวาดเข้าใส่เรือรบ
กับเรือรบธนูดำตกอยู่ในใจกลางพายุ  แสงยังคงสว่างขึ้นเรื่อยๆ พายุพลังงานที่ใสหมุนอย่างรวดเร็วเหมือนกับชั้นน้ำ  แสงรัศมีของเรือรบธนูดำสว่างขึ้นจนไม่มีใครมองเห็นเรือรบธนูดำได้อีกต่อไป
 “แย่แล้ว! เจ้านาย, พลังงานของเรือรบเราเริ่มตก!  รองหัวหน้าตะโกนอย่างตื่นเต้นปลุกเหมยเฉินซิ่วจากอาการตกตะลึง  หน้าของเขาเปลี่ยนทันที
เรือรบทุกลำมีพลังงานมากมาย  นั่นคือแหล่งที่มาของพลังงานที่ทำให้เรือรบขับเคลื่อน  พลังงานทั้งหมดนี้ถูกผนึกไว้หลายชั้นและปลอดภัยอย่างมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เหมยเฉินซิ่วเผชิญกับอาการพลังงานของเรือรบตกลง
พลังดึงดูดที่รุนแรง
เหมยเฉินซิ่วมองดูเรือรบธนูดำอย่างตกใจ  เกิดอะไรขึ้นในนั้น?
 “ถอนกำลัง!’
เหมยเฉินซิ่วตะโกน  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นน่าตกใจเกินไป  แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเรือรบธนูดำ
หลังจากถอยมาเกินกว่า 200 ลี้แล้ว อาการพลังงานตกฮวบฮาบก็หายไป  ขณะเดียวกันกลุ่มโจรสลัดที่รบเสร็จแล้วก็ตามมาสมทบ
เหมยเฉินซิ่วรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
กองเรือโจรสลัดสองกองแล่นอ้อม  พวกเขาหลีกเลี่ยงพายุพลังงานที่น่ากลัวโดยการตีโค้งอ้อมไปรอบๆ  และเพื่อขัดขวางทางหนีของเรือรบธนูดำ
นี่ยังคงหมายความว่าพวกเขาล้อมเรือรบธนูดำไว้แล้ว
โดยไม่นึกถึงตำแหน่งที่เรือรบธนูดำต้องการไป  พวกเขาจะถูกขัดขวางไว้ นี่เป็นเหตุให้ทวีปกวงหมิงมั่นใจมากขึ้น  แม้ว่าฉากภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาจะเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงก็ตาม  แต่พวกเขาเชื่ออย่างหนักแน่นว่าพวกเขาเป็นต่อ  แม้ว่าเรือรบธนูดำจะได้เปรียบในเรื่องความเร็ว  แต่ตราบใดที่พวกเขายังถูกกักเอาไว้  พวกเขาก็จะสูญเสียความได้เปรียบ  และเป็นเหมือนปลาที่อยู่ในชาม รอให้คนจับเชือด
มีเรื่องเดียวที่ทำให้พวกเขาลังเล  เกิดเรื่องที่เขาไม่รู้ในเรือธนูดำ
****************

ถังเทียนรู้สึกว่าสงบใจลงได้  ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าฉากภาพข้างหน้าเขาคุ้นเคยมาก  เหตุนี้เคยเกิดขึ้นกับเกราะทั้งเจ็ดในป้อมไพรกระบี่มาแล้วไม่ใช่หรือ?
แต่ขนาดของมันยังน่ากลัวกว่า
สมบัติที่ถังเทียนเอาออกมาเป็นระดับเงินเกือบทั้งหมด  แต่เมื่อสมบัติระดับเงินตื่นขึ้นในมือของเหล่าศิษย์ทั้งหลาย  จิตวิญญาณยุทธภายในสมบัติรู้สึกได้ถึงพลังงานหนาแน่นทันที  พลังงานที่หนาแน่นเป็นประวัติการณ์
สัญชาตญาณในการดูดซับพลังงานเพิ่มขึ้นทันทีและระเบิดออกมา
เมื่อสมบัตินับร้อยชิ้นต่างดูดซับพลังงานพร้อมกัน มันสร้างผลกระทบ ยิ่งใหญ่กว่าเกราะทั้งเจ็ดชุดที่ป้อมไพรกระบี่ และยังน่ากลัวมากกว่า
พลังงานทั้งหมดในเกาะใต้ถูกดึงดูดและหลั่งไหลเข้ามาในสมบัติทั้งหมด
รัศมีแสงก็คือพลังงานดูดซับอย่างบ้าคลั่งของสมบัตินั่นเอง
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าสมบัติเสริมพลังความแข็งแกร่งในระดับความเร็วสูง   ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือสมบัติบรอนซ์  ทั้งหมดกลายเป็นสีเงินเพิ่มมาตรฐานกลายเป็นสมบัติระดับเงิน  สำหรับสมบัติเงินก็เริ่มมีชั้นรัศมีทองจางๆ บ้างแล้ว
ทันใดนั้น ถังเทียนตบหน้าผากตนเองทันที
 ข้าช่างโง่จริงๆ  นี่ช่างง่ายมาก ทำไมข้าไม่คิดถึงเรื่องนี้?
เหมือนกับว่าเขาเห็นถนนเต็มไปด้วยทอง

10 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ได้ช่องทางอัพเกรดสมบัติแล้วสินะ ตอนนี้สู้ก่อนค่อยติดเรื่องเงินครับ ขอบคุณครับที่วันนี้ส่งมาให้อ่านตั้งสองตอนเลยครับอิ่มอกอิ่มใจเลย

หวังปี้เจ้า กล่าวว่า...

ครวย คับ ครวย เอ้ย รวยยย

Unknown กล่าวว่า...

ว้าว อัพเกรด ของ ขอบทอง เกือบยกคลัง สู้ทีนี้พินาศกันไปข้าง

22 กล่าวว่า...

กองทัพติดอาวุธเลยทีเดียว อัพง่ายๆก็เสร็จพี่ถัง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แจกกะจาย

Et009 กล่าวว่า...

เออพลังดวงดางมันเข้มข้นกว่าสวรรค์วิถีนี่หว่า

แสดงความคิดเห็น