วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 673 สามก้าวโจมตี


ตอนที่  673  สามก้าวโจมตี
เมื่อเห็นกองพลเขากระทิงเข้ามาใกล้  แบร็ดลี่ยอดยิ้มไม่ได้  เจโรมมีความโดดเด่นจริงๆ  กระแสคลื่นเงินเคลื่อนตัวมาเป็นกระบวนหนาแน่น แรงกระตุ้นที่น่าประทับใจทำให้ความหนาวเหน็บเย็นชาที่แบร็ดลี่ย์เจอมาในช่วงไม่กี่วันนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้น  ข้าเองก็มีปรมาจารย์และนักสู้ฝีมือดีอยู่ในกลุ่มดาววัวอยู่มากมาย  และข้ายังมีแม่ทัพผู้แข็งแกร่งทรงพลัง!’

เขาไม่ทันได้ตระหนักว่า  แรงกดดันบนตัวเขาจากกองพลภูผาน้ำแข็งเพิ่มขึ้นมาก
ไม่ใช่แต่เพียงแบร็ดลี่ย์เท่านั้น  แม้แต่ขุนนางอื่นก็พากันยินดีทั้งหมด
 “ใครจะสามารถหยุดแรงเฉื่อยนั้นได้!”
 “น่าตื่นเต้นเหลือเกิน! โอว..พระเจ้า.. คลื่นสีเงินช่างทรงพลังมากมายแท้จริง!”
 “ท่านเจโรมโดดเด่นอย่างแท้จริง  เมื่อมีเวลาพอ  เขาอาจสร้างกองพลทอรัสขึ้นมาอีกก็ได้!”
เสียงสนทนารอบด้านทำให้แบร็ดลี่ย์ปลาบปลื้มใจ  ก็เหมือนอย่างกองทัพแกะน้ำแข็งเงินของกลุ่มดาวแกะ  ในประวัติศาสตร์กลุ่มดาววัวที่ยาวนาน  ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีกองทัพที่น่าเกรงขามมีชื่อเสียงเลื่องลือในสวรรค์วิถี  กองพลทอรัส  กองพลทอรัสคือกองพลเกราะหนักที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์  ชุดเกราะทอรัสทองของพวกเขาไร้เทียมทาน
นั่นคือช่วงเวลาที่กลุ่มดาววัวรุ่งเรืองสุดขีด เกราะทอง 160 ชุดเป็นเรื่องที่คนรุ่นหลังคิดไม่ออก
เกราะทองคือสัญลักษณ์ของกองพลทอรัส  เขากระทิงสีทองมีรัศมีพร่างพรายรูปลักษณะคมชัด สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสวรรค์วิถี
แต่เมื่อเวลาผ่านไป  กลุ่มดาววัวเริ่มตกต่ำ  กองพลทอรัสเริ่มจางหายไปตามกาลเวลา เกราะทองนับวันมีแต่จะหายาก  และเมื่อกองพลเกราะหนักที่แข็งแกร่งที่สุดหายไปตามกระแสกาลเวลา  สำหรับทหารที่รู้จักกลุ่มดาววัว   การทำให้กองพลทอรัสปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขา
 กลุ่มดาววัวตกต่ำมายาวนาน’  แบร็ดลี่ย์ถอนหายใจอีกครั้ง  สถานะของพวกเขาที่ยังคงเหลืออยู่ทำให้กลุ่มดาววัวสูญเสียความปรารถนาที่จะพัฒนาให้ก้าวหน้า  ผู้มีอำนาจระดับสูงติดอยู่กับความสุขและความเพลิดเพลิน  พญาอุสภราชานี้นับวันมีแต่จะผอมลงและอ่อนแอลงทุกที
ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาในปัจจุบันนี้  กลุ่มดาวที่มีสถานการณ์คล้ายกันมากที่สุดก็คือกลุ่มดาวแกะ  กลุ่มดาวแกะมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังอยู่คนหนึ่งอยู่แล้ว  นั่นคือหลิงซิ่ว การแบกภาระในฐานะผู้สืบทอดของกองกำลังแกะน้ำแข็งเงิน และมีผนึกเขาแกะน้ำแข็งเงินอยู่ในมือ  แม้ว่าเขาจะไม่เคยกลับไปที่กลุ่มดาวแกะมาก่อน  แต่หลิงซิ่วกลายเป็นแบบอย่างที่พลเมืองชาวดาวแกะสรรเสริญชื่นชม
แบร็ดลี่ย์ได้ลอบศึกษาเรื่องราวของกลุ่มดาวแกะมาแล้ว  เขาแอบปลื้มและไม่พอใจคนรุ่นหลังแห่งกองกำลังกวางขนดำที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในเงามืด  กล่าวกันว่าพวกเขากำลังสร้างกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินขึ้นใหม่  ข่าวลือว่าผู้นำกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินก็คือหลิงซิ่ว!
 อย่างน้อยกลุ่มดาวแกะยังมีหลิงซิ่ว’
แบร็ดลี่ย์สูญเสียความคิดของเขาไป  แต่เสียงฮือฮารอบๆ ทำให้เขาตื่นตัวขึ้น
 แต่เจโรมก็ยังทำได้ค่อนข้างดี
 “เราต้องให้พวกเศรษฐีใหม่นี้ได้เห็นว่าเราเป็นยังไง!”
 “ต้องให้พวกเขาได้ประจักษ์ตาว่านักรบฝีมือดีเป็นเช่นไร!”
 “โค่นพวกมัน!”
ฝูงชนมีอารมณ์ร่วม เริ่มคุยกันเสียงจอแจ  แบร็ดลี่ย์เข้าใจ ว่าทุกคนไม่พอใจต้องทนอึดอัดมาในช่วงไม่กี่วันจึงยิ้มให้  นอกจากนี้เขายังคิดว่าจะให้เซรีนและทหารของนางได้เห็นดี เพื่อข่มการกระทำที่กองพลภูผาน้ำแข็งแสดงออกมา  ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาคงถูกดูหมิ่นและถูกเหยียดหยามหมดแน่
ครืน ครืน คลื่นสีเงินของกองพลเขากระทิงเคลื่อนตัวมาอย่างเมามัน  พื้นสั่นสะเทือนยิ่งขึ้น  ความเร็วของพวกเขามากขึ้น
แบร็ดลี่ย์หันไปมองกองกำลังภูผาน้ำแข็งด้วยความกระตือรือร้น  เขาต้องการดูหน้าของกองพลที่หยิ่งผยอง  สายตาของเขามองดูอาหลุน  เขาอดหัวเราะไม่ได้  หน้าของพวกเขาปิดคลุมแน่นหนา  และเขาไม่เห็นสีหน้าพวกเขาแต่อย่างใด  น่าเสียดาย
ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาสลายไป  เพราะเขาเห็นว่าอาหลุนชักดาบเงินใหญ่ออกมาทันที
 พวกเขา...’
ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว,  อาหลุนระเบิดเสียงคำรามลั่น
 “กองหลังปกป้องยานโดยสาร  แถวหน้าตามข้าไปโจมตี!”
 เดี๋ยวก่อน!’
หน้าของแบร็ดลี่ย์ขาวซีดราวกับกระดาษ  หน้าของเขาเปลี่ยนจากสับสนเป็นความกลัว
ก่อนที่เขาจะทันส่งเสียง  เสียงกึกก้องก็ดังขึ้น
กองกำลังภูผาน้ำแข็งทั้ง 500 ทะยานขึ้นจากพื้นพร้อมกัน ทำให้เกิดเสียงสั่นสะเทือนจนทุกคนไม่สามารถทรงตัวได้มั่นคง  เสียงทุ้มต่ำจนหูอื้อ และผงคลีฟุ้งขึ้นในท้องฟ้า
ร่างสีเงินร่างแล้วร่างเล่าพุ่งออกมาจากผงคลีเหมือนกับลูกธนู
ครืน ครืน!
พวกขุนนางหน้าซีดปราศจากสีเลือดโดยสิ้นเชิง  สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจตัว  เทียบกันสองกองทัพ  การโจมตีของกองพลเขากระทิงสามารถทำให้พวกเขารู้สึกพื้นสั่นสะเทือน  แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคง  บางคนล้มพับกับพื้น และสองสามคนถึงกับปัสสาวะอุจจาระราด
 “พวกเขามีเซียนสิบคน เราจะขึ้นไปช่วยด้วยไหม?”  มอนตามาถึงข้างยานโดยสารและถาม
แม้ว่าพวกเขาจะมีเซียนเพียงแปดคน  ขณะที่กองพลเขากระทิงมีเซียนสิบคน  แต่มอนตาไม่กลัวแม้แต่น้อย  เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา การได้อาศัยอยู่ที่กลุ่มดาวหมีใหญ่ ทำให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
 “ไม่จำเป็น”  เซรีนพูดอย่างเกียจคร้าน”  ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีให้พวกเขาได้ทดสอบฝีมือ  เรามาดูว่ากองพลภูผาน้ำแข็งจะสามารถก้าวหน้าได้ไหม?”
ภูผาน้ำแข็ง
อาวุธจักรกลวิญญาณรุ่นล่าสุดของกลุ่มดาวหมีใหญ่ สร้างมาจากห้องวิจัยค้นคว้าจักรกลของกลุ่มดาวหมีใหญ่  วิทยาการล่าสุดที่เกิดจากการกลั่นควบรวมกัน เซรีนทุ่มเทเลือดเนื้อและความพยายามอย่างเต็มที่ จึงสร้างให้มีขนาดที่เล็กลง ทั้งยังแข็งแกร่งและคล่องแคล่วมากขึ้น และเป็นอาวุธจักรกลวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนวันที่นางจะคิดเรื่องเกราะเซียนเพื่อนักสู้ระดับเซียน
แค่เพียงชื่อว่าภูผาเป็นตัวแทนของพลังอันยิ่งใหญ่  และน้ำแข็งแทนความเยือกเย็นและคมกล้า
เช่นเดียวกับนาง อาหลุนมีความเชื่อมั่นต่อภูผาน้ำแข็ง  เขาไม่สามารถเข้าใจว่าเกราะเซียนที่เซรีนคิดจะเป็นอย่างไร  เขารู้สึกว่าภูผาน้ำแข็งคืออาวุธจักรกลวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว
พวกเขาเป็นกองทัพที่เอาชนะกองทัพอื่นอย่างต่อเนื่องในการซ้อมรบภายใน จึงได้รับภูผาน้ำแข็งเป็นกลุ่มแรก  ทำให้กองพลอื่นรู้สึกอิจฉา  และนี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจในชีวิตของอาหลุนเป็นที่สุด
ในขณะเร่งฝีเท้า  ดาบเงินใหญ่ลากอยู่ข้างตัวพวกเขา  ปลายดาบชี้ลงพื้น
 “ผ่อนคลายข้อมือ!”
 “ผ่อนคลายไหล่!  “มองดูฝีเท้าของพวกเจ้า!”  “ควบคุมจังหวะลมหายใจให้ดี!”
อาหลุนยามอยู่ในสภาพพร้อมรบ มีบุคลิกแตกต่างเป็นคนละคน  เสียงคำรามของเขาดังก้องทุกที่  และเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น  ทหารที่อยู่ภายในบังคับบัญชาเขาพากันคำรามโห่ร้องเหมือนเขา  แม้ว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกับกิจวัตรมานาน  แต่เสียงคำรามของผู้บัญชาการของพวกเขาเพิ่มกำลังใจให้มากขึ้น  และรู้สึกเหมือนมีเปลวไฟร้อนรุมอยู่ในอก
และรองผู้บัญชาการของพวกเขากลับตรงข้าม  เขาหายไปมองไม่เห็น  ราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเลย
แต่ทันทีที่เฉินจื่อหลินไม่อยู่รอบๆ  นี่กลับให้ผลที่แตกต่าง  นั่นคือความรู้สึกที่ราบรื่นและสะดวกสบาย  กลายเป็นเหมือนกับเครื่องฝืดราวกับเครื่องที่ไม่ได้หยอดน้ำมัน
การวิ่งถาโถมของคนห้าร้อยคน พร้อมกับรัศมีของพวกเขาที่พร้อมเพรียงกันโดยไม่มีพลังรั่วไหล นี่คือเงินเหลวอย่างแท้จริง
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ม่านตาของเจโรมหรี่แคบ  ตอนแรกเขาตั้งใจจะหยุดในระยะ 90 เมตรห่างจากอีกฝ่าย  แต่เขาไม่คาดเลยว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้าหาพวกเขาเช่นกัน!  แต่ก็เอาตามนั้นก็ได้
ตอนนี้เขารู้สึกโกรธ  เขาเชื่อคำของออสตินแล้ว พวกเขาเหิมเกริมมากเกินไป 
 พวกเขาอยู่ในแผ่นดินของกลุ่มดาววัว ยังกล้าทำเช่นนั้น  พวกเขาไม่เห็นเราอยู่ในสายตา!
ในนาทีต่อมาเขาตัดสินใจ  ต่อให้เขาต้องเจ็บตัวจากการถูกลงโทษ  เขาก็ยังต้องการสั่งสอนคนกลุ่มนี้ที่มีความเห็นแก่ความสามารถตนเองเป็นใหญ่ให้ได้รับบทเรียนเสียบ้าง
 “โจมตีเต็มกำลัง!
คำสั่งที่แฝงไปด้วยความโกรธดังก้องทั่วกองทัพ  กองกำลังเขากระทิงเพิ่มความเร็วขึ้นทันที
อาหลุนรู้สึกได้ทันทีถึงความเร็วที่อีกฝ่ายเร่งเพิ่มขึ้น  เขาแค่นเสียง และจากนั้นตวาดลั่น “เตรียมใช้กระบวนศึกสามก้าว!
กองพลที่กำลังเร่งความเร็วย่อเอวพวกเขาทันที
 “สามก้าว!
เสียงคำรามของอาหลุนเหมือนฟ้าผ่าดังก้องเหมือนอยู่บนหัวทุกคน
ทุกคนก้าวเท้าอย่างหนักพร้อมกัน  พลังมหาศาลของกองกำลังภูผาน้ำแข็งแสดงออกมาเต็มประสิทธิภาพ เหมือนกับค้อนยักษ์ห้าร้อยด้ามกระแทกใส่พื้นพร้อมกัน
บึ้ม!
ถ้าใครมองข้ามจากฟากฟ้า  พวกเขาจะประหลาดใจที่เห็นว่าพื้นตรงที่อาหลุนยืนอยู่ยุบลงไปครึ่งเมตรเกิดเป็นรอยบุ๋มแบนกว้างใหญ่
กลุ่มร่างสีเงินกลุ่มใหญ่พุ่งไปข้างหน้าจะหลุมยุบเหมือนกับสายฟ้า  ในขณะนั้นพวกเขาปรากฏในระยะห่างกัน 60 เมตรจากตำแหน่งเดิม และพวกเขากระแทกพื้นอีกครั้ง
บึ้ม!
พื้นยุบลงไปอีกครั้ง  และพวกเขาก็พุ่งขึ้นไปอีกครั้ง  และแล้วพวกเขาก็กระแทกพื้นอีกครั้ง!
บึ้ม!
ก้าวที่สามไวกว่าฟ้าแล่บ หนักเหมือนฟ้าผ่า เสียงย่างสามก้าวดังเหมือนเป็นหนึ่ง  ทุกคนหูอื้อไปหมด  ฉากภาพข้างหน้าพวกเขาแพรวพราว  กองพลภูผาน้ำแข็งประกฎในระยะ 300 เมตรห่างจากตำแหน่งเดิมของพวกเขา
เจโรมตกใจหนัก  เขาเห็นแต่ฉากข้างหน้าพร่าเลือน  พอเขาตาลายอีกฝ่ายหนึ่งก็มาอยู่ห่างจากพวกเขาไม่เกิน 300 เมตร
 นี่มันเวทมนตร์อะไรกัน?
ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เสียงคำรามเหมือนฟ้าผ่าก็ดังข้างหน้า  “ฆ่า!
พอก้าวสุดท้ายพลังของพวกเขาก็ถึงระดับสุดยอด!
กองกำลังภูผาน้ำแข็งทะยานขึ้นไปในอากาศและปรากฏในท้องฟ้าระยะ 30 เมตรในทันที  กองกำลังภูผาน้ำแข็งถือดาบยักษ์ลอยตัวสูงอยู่ในอากาศ  และทหารกองกำลังภูผาน้ำแข็งร่างบาง แต่ขณะนั้นเองทหารทั้ง 500 คนเต็มไปด้วยพลังต่างยกดาบขึ้นสูงด้วยความกราดเกรี้ยว
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งกับที่
 “ฆ่า!
เสียงคำรามของอาหลุนทำลายความเงียบ  ดาบยักษ์เงินทั้งห้าร้อยเล่ม  ยืมพลังแรงเหวี่ยงพุ่งกระแทกข้างล่าง
รังสีทั้งห้าร้อยเชื่อมบรรจบกันเหมือนแม่น้ำสายใหญ่
แม่น้ำสายใหญ่เต็มไปด้วยรอยแสงที่เข้าไปในดาบอาหลุน
ทั่วทั้งตัวของอาหลุนมีรังสีแสงหุ้มครอบคลุมมองดูเหมือนกับเทพเจ้า หรือผู้เหี้ยมหาญผู้มีรัศมีมั่นคงให้ความรู้สึกเหมือนกับภูเขาไท่ซาน มีพลังสะกดข่มจนทุกคนหายใจไม่ออก
สามก้าวโจมตี ของกองกำลังภูผาน้ำแข็ง!
พวกที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปก่อนก็คือเซียนแห่งกองกำลังเขากระทิงผู้ซึ่งสงบมั่นคงต่างจากเจโรม  ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่แปดเซียนที่อยู่รอบยานโดยสารเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งให้ความรู้สึกที่น่าสงสัย  ตอนแรกพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไร  เมื่อคิดว่าแค่เจโรมก็คงรับมือได้  แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายหนึ่ง  พวกเขาหวังว่าพวกแปดเซียนคงไม่ลงมือทำอะไร
แต่วิชาฝีมือของอาหลุนทำให้พวกเขาต้องทิ้งแผนเดิมทันที
ร่างของพวกเขาหายไปทันที  และมาปรากฏตัวที่ด้านหน้ากองทัพ
รังสีดาบของอาหลุนเข้ามาถึงแลว  รังสีดาวที่กว้างหนา 90 เมตร พลังที่เหี้ยมหาญนี้ดูเหมือนสามารถผ่าสวรรค์และโลกออกเป็นสองส่วน
เสียงหวีดหวิวของรังสีดาบที่ธรรมดาคมชัด  แต่รังสีหวีดหวิวของดาบนี้ทำให้เกิดพลังสั่นสะเทือนนับไม่ถ้วนเกิดเป็นเสียงกึกก้อง กระตุ้นความรู้สึกกดดันในหัวใจผู้คน  ทุกๆ ตารางนิ้วของผิวพวกเขาสั่นสะท้านและพวกเขารู้สึกชาหนังศีรษะ
เซียนทั้งสิบคนลงมือพร้อมกัน!
รัศมีต่างๆ มาปรากฏอยู่ต่อหน้ารังสีดาบ
บึ้ม!
แสงรังสีแพรวพราวฉายแสงเจิดจ้าเหมือนกับดวงอาทิตย์  แสงรัศมีแสบตาทำให้พื้นที่ทั้งหมดขาวโพลนไปหมด
แสงสีขาวที่น่ากลัวดูเหมือนจะกั้นขวางเสียงไว้ทั้งหมดได้ 
อาหลุนที่รับพลังตอบโต้รู้สึกถึงพลังที่สามารถกระแทกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ กำลังทะลักเข้าหาเขา และในขณะเดียวกัน เฉินจื่อหลินที่อยู่เบื้องหลังเขามีนัยน์ตาทอประกายวูบ  พลังที่ถาโถมเข้ามาข้างหน้าเขาแตกกระจายทันที แตกกระจายเป็นชิ้นๆ กระจายไปทั่วกองทัพ
สองสามวินาทีต่อมา เจโรมที่ตกใจยังคงรักษาความสงบไว้  ทั้งหน่วยของเขากำลังโยกโคลงจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง  เซียนทั้งสิบคนที่ลงมือพร้อมกันสามรถป้องกันพลังดาบไว้ได้  แต่พลังดาบที่ตามหลัง ก็เพียงพอจะฉีกแยกกระบวนทัพได้ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความยุ่งเหยิง
ทันใดนั้น ม่านตาของเจโรมหดลีบเล็กทันที
ต่อหน้าของเขาเป็นกองกำลังภูผาน้ำแข็ง ยังคงถือดาบถือพวกเขายืนตรงเหมือนรูปสลักเทพเจ้าสงคราม 500 ร่างมีไอพลุ่งออกมาจากร่างพวกเขา ปลดปล่อยความหลงใหลต้องการต่อสู้ของพวกเขาออกมาทันที
ตาของเจโรมถึงกับแดงทันที

7 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เอิกๆๆ

มารทมิฬ กล่าวว่า...

ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ หาเรื่องตายจริงๆเจโรม

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ลาก่อนตัวปลากรอบ

Unknown กล่าวว่า...

ลาก่อนตัวปลากรอบ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากจ้า

แสดงความคิดเห็น