เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 33 การต่อสู้

เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 33 การต่อสู้

ถ้ามงกุฎคร่ำคร่านี้ตกอยู่บนพื้น ลินลี่ย์คงไม่ให้ความสนใจมอง

มันดูคร่ำคร่าอย่างเหลือเชื่อและเบ้าใส่อัญมณีว่างเปล่าทั้งหมด  ไม่มีรัศมีใดเลย  ตอนแรกที่มองเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่ามงกุฏธรรมดาที่สร้างกันในภพโลกธาตุ  อาวุธเทพหรือสมบัติมหาเทพ.. สมบัติทั้งหมดที่มีพลังหล่อเลี้ยงโดยทั่วไปจะมีรัศมีไม่ธรรมดา

 

แม้แต่ของราคาถูกอย่างศิลาดำและศิลายมโลกก็มีรัศมีไม่เหมือนใคร

แต่มงกุฏนี้เหมือนวัตถุธาตุธรรมดา

แต่เมื่อลินลี่ย์ถือมงกุฎในมือเขา พลังงานที่ไม่เหมือนใครถ่ายเทเข้ามาในร่างของลินลี่ย์  พลังงานนี้ไม่ธรรมดา เหมือนกับน้ำฝนชโลมลงบนบาดแผลของลินลี่ย์  ในทันใดนั้นแขนที่แหลกและบาดแผลบนร่างสมานตัวและหายไปในระดับความเร็วที่น่าอัศจรรย์

ในทันใดนั้น!

นอกจากบาดแผลเล็กที่ยังคงเหลือบนอกของเขา  ร่างกายส่วนต่างๆ ของลินลี่ย์รวมทั้งแขนที่แตกหักล้วนได้รับการรักษาจนหายดี

 “เป็นแบบนั้นได้ยังไง?”  บีบีตกใจเช่นกัน  เขารู้สึกได้เช่นกันว่านี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง

ร่างที่แข็งแกร่งยากจะซ่อมแซมฟื้นฟูได้โดยเร็ว  แม้ว่าร่างแปลงมังกรของลินลี่ย์จะด้อยกว่าบีบีมาก แต่ก็ยังเหนือกว่าสมบัติเทพชั้นสูงทั้งหมด  แล้วมันจะเยียวยารักษาตัวเองได้ง่ายยังไง?

 “พี่ใหญ่, เกิดอะไรขึ้น?บาดแผลท่านหายอย่างรวดเร็วได้ยังไง?  นอกจากนี้ แผลเล็กแผลน้อยบนอกท่าน ทำไมถึงไม่หาย?”  บีบีรีบส่งสำนึกเทพถาม “นั่นเกี่ยวกับมงกุฎคร่ำคร่านั่นหรือเปล่า?”

ลินลี่ย์ก็รู้สึกตะลึงเช่นกัน

 “บีบี!  ข้ายังไม่ค่อยแน่ใจ  ในมงกุฎคร่ำคร่านี้มีพลังงานแปลกประหลาดที่เข้ามาในร่างของข้า  ความจริงในทันทีที่มันเข้ามา พลังนั้นช่วยรักษาบาดแผลให้ข้า  แต่ดูเหมือนว่ามีพลังงานเหลืออยู่เล็กน้อย และถูกใช้ไปทั้งหมดก่อนที่จะฟื้นฟูความเสียหายที่หน้าอกของข้าได้”  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพคุย

หลังส่งพลังเสร็จสิ้น มงกุฏคร่ำคร่าก็ไม่เหลือพลังอีกต่อไป

มงกุฎคร่ำคร่าในมือของลินลี่ย์ปรากฏเหมือนกับไม่มีอะไรน่าสนใจอีกครั้ง  แต่ลินลี่ย์ยังจำได้ชัดว่าความรู้สึกเมื่อตอนมงกุฏคร่ำคร่าส่งพลังเข้ามาในร่างของเขา  “มงกุฎคร่ำคร่านี้ลอยออกมาจากรอยฉีกของมิติ  เห็นได้ชัดว่ามันบินออกมาจากมิติปั่นป่วน  สำหรับของบางอย่างที่ยังคงอยู่ได้ภายในมิติปั่นป่วนโดยไม่แตกทำลาย.. มงกุฎคร่ำคร่านี้น่าจะสร้างมาจากวัสดุที่แข็งแรงมากกว่าสมบัติเทพชั้นสูง”

ลินลี่ย์รู้ว่ามิติปั่นป่วนอันตรายมากเพียงไหน  รอยฉีกมิติมีพลังขนาดทำลายสมบัติเทพชั้นสูงจนกลายเป็นผุยผงได้

แต่มงกุฏคร่ำคร่านี้ไม่ถูกทำลาย

เฉพาะเรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่าไม่ธรรมดา

 “นั่นอะไร?  โอมานบุรุษชุดทองจ้องมองมงกุฎในมือของลินลี่ย์  จากนั้นหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ฮ่าฮ่า, โชคของเจ้าไม่เลว  มงกุฎนี้ผ่านออกมาจากรอยแยกมิติได้จนมาถึงที่นี่ นั่นน่าจะเป็นสมบัติมหาเทพ  ข้าคิดว่าในอดีตเมื่อผู้บัญชาการสู้กันที่นี่คงจะมีผู้บัญชาการตายอยู่ในรอยแยกมิติและสมบัติมหาเทพสูญหายไปในนั้นด้วย  แต่จากที่เห็น นี่เป็นแค่สมบัติมหาเทพชำรุด”

ลินลี่ย์พลิกมือและเก็บมงกุฏคร่ำคร่าไว้ในแหวนเก็บของ

นี่ไม่ใช่เวลามาวิเคราะห์มงกุฏคร่ำคร่า

 “บีบี! ฉวยโอกาสนี้ รีบหนีกัน  อย่าเสียเวลากับเจ้าผู้นี้เลย”  ลินลี่ย์ควบคุมสนามพลังโน้มถ่วงของเขาอีกครั้งและเสริมพลังมหาเทพวิถีทำลายล้างและใช้พลังผลักกับร่างของโอมาน  “คนชุดทองตัวโตนี้ไม่ได้รับผลจากทักษะเทพธรรมชาติของข้า  เขายากจะรับมือได้จริงๆ”

บีบีไม่ต้องการทะเลาะกับคนตัวโตนี้เหมือนกัน

ลินลี่ย์และบีบีรีบบินขึ้นไปในอากาศ  ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนทิศทางบินของเขา

พลังผลักเปลี่ยนเป็นพลังดันขึ้นบน!

โอมานได้แต่เคลื่อนไหวตาม  แม้แต่เขาก็คุ้นเคยกับแรงโน้มถ่วงนี้อย่างรวดเร็ว

 “เจ้าต้องการหนีหรือ?”  โอมานจ้องมองรอยแยกมิติข้างหน้าเขา ตอนแรกเขาบินขึ้นด้านบน ตั้งใจจะบินข้ามรอยแยกมิติ  ในสมรภูมิมหาพิภพโดยเฉพะอย่างยิ่งลึกลงไปขนาดนั้น  แม้แต่ยอดฝีมืออย่างโอมานก็ต้องระมัดระวัง  มิฉะนั้นถ้าเขาพลาดพลั้งตกลงไปในรอยแยกมิติ  นั่นจะกลายเป็นเรื่องน่ากลัวมาก

แต่ขณะที่เขาบินเหนือพื้นที่มิติแยก...

พลังดึงดูดที่ดึงขึ้นพลันเปลี่ยนเป็นแรงดึงดูดลง!

 “ตายซะเถอะ!”  ลินลี่ย์ที่เตรียมตัวกับเรื่องนี้มาตลอดเวลาคำรามลั่นในใจ

ใครจะคาดคิดกันได้เล่าว่าสนามพลังศิลาดำทรงพลังขนาดไหนทั้งยังถูกสร้างมาจากพลังมหาเทพ  แม้ว่าโอมานจะเป็นทูตของประมุขมหาเทพธาตุแสงที่ทรงพลัง  เดิมทีเขาต่อต้านแรงดึงขึ้นด้านบน จึงเป็นธรรมดาที่ร่างของเขาจะต้องฝืนถ่วงลงล่างเพื่อต้านทานพลังดูดขึ้นนั้น

แต่เมื่อแรงดึงดูดเปลี่ยนจากดึงขึ้นด้านบนเปลี่ยนเป็นดูดลงข้างล่างกะทันหัน!  ในทันใดนั้นพลังในตัวเขาที่ถ่วงร่างลงจึงรวมกับพลังดูดลงล่างของสนามพลังโน้มถ่วง

โอมานที่ถือความได้เปรียบมาตลอดเวลา  แม้ว่าเขาจะระมัดระวังเป็นอย่างดี  แต่การเปลี่ยนแปลงฉับพลันเป็นตรงกันข้ามนี้ทำให้ร่างของโอมานตกวูบทันทีเช่นกัน!

อะไรอยู่ที่ด้านล่างของเขา?  เป็นรอยแยกมิติขนาดมหึมา

 “อื๋อ!”  โอมานพลาดท่า  หน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้  เขารู้สึกได้ถึงพลังประหลาดจากรอยแยกมิติเช่นกัน  ทันใดนั้นร่างของเขาระเบิดพลังสีขาวทันที  “ปัง!  คทาหนามสั่นสะท้านรุนแรงทำให้พื้นที่มิติด้านข้างบิดเบือน

อาศัยพลังโต้ตอบนี้โอมานสามารถหลบออกมาจากรอยแยกมิติได้

 “บัดซบทั้งสองคน”  แม้ว่าโอมานจะหลบพ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ลินลี่ย์กับบีบีก็หนีไปไกลกว่าสองสามร้อยเมตร

 “สาบานเลยว่าจะต้องฆ่าพวกเจ้าสองคนให้ได้”  โอมานตะโกนอย่างโมโหจากนั้นไล่ตามต่อ

ลินลี่ย์กับบีบีตอนนี้หนีพ้นความยากลำบากมาได้ระดับหนึ่ง  แต่ที่พื้นโลกเหนือศีรษะพวกเขา รีสเจมกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างหนัก

 “ฮ่าฮ่า...”

เสียงหัวเราะของมอนเตโลดังกึกก้องไปทั้งท้องฟ้า  ขณะเดียวกันสายใยไหมเหมือนงูแผ่ออกมาจากตัวเขาคอยพัวพันรีสเจม  ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่แค่เส้นใยเหล่านี้เหนียวทนเท่านั้น  ทุกเส้นเคลื่อนไหวราวกับประกายไฟเมื่อยิงออกมา

สายใยเหล่านั้นพุ่งเข้าพันตัวรีสเจมอย่างต่อเนื่อง

 “มอนเตโล, ถ้าเจ้ามีความสามารถพอก็มาสู้กับข้าโดยตรง  ทั้งหมดที่เจ้าทำได้ก็แค่อาศัยฝีมือที่น่ารังเกียจ จะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเจ้ามีฝีมือมากแค่ไหนกัน?”  หอกยาวของรีสเจมยงคงควงเป็นเงาเลือนรางและคอยทำลายเส้นใยได้หลายเส้น

น่าเสียดาย แม้ว่าเขาอาจทำลายเส้นใยออกไปพันเส้น เส้นใยขาวหมื่นเส้นจะผุดออกมาจากร่างมอนเตโล

ตราบใดที่พลังมหาเทพของมอนเตโลยังไม่ถูกใช้เพิ่ม  เขาก็ยังไม่ได้รับอันตรายจากเส้นใยเหล่านั้น  แม้ว่ามอนเตโลจะไม่มีพลังมหาเทพมากเท่ารีสเจม  แต่ก็มีสำรองไม่รู้จักหมด  เขายังเป็นสมาชิกของตระกูลออกุสตา และในฐานยอดฝีมือผู้มีพรสวรรค์ของตระกูล  เขาย่อมได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีและได้รับพลังมหาเทพไว้ค่อนข้างมาก

 “ข้าไม่มีความสามารถจะฆ่าเจ้าได้”  มอนเตโลลอยตัวอยู่ในกลางอากาศและยิ้มขณะคุยทางใจ  “ฝ่ายข้าสู้กับเจ้าตัวต่อตัว มีแต่โอมานที่เป็นภัยคุกคามเจ้ามาก  แต่เราไม่ได้เตรียมจะฆ่าเจ้า  ภารกิจของเราคือฆ่าสหายทั้งสามของเจ้า  ฮ่าฮ่า..ข้าคิดว่าสหายสองคนของเจ้าที่อยู่ใต้ดินคงตายไปแล้ว”

หน้าของรีสเจมซีดขาวทันที

เขาเข้าใจว่ายอดฝีมือของตระกูลออกุสตาเหล่านี้ทรงพลังมากมายแค่ไหน  ยอดฝีมือของตระกูลออกุสตาแบ่งเป็นสมาชิกแท้จริงของตระกูลออกุสตา  ขณะที่ทูตของประมุขมหาเทพแห่งแสงก็เหมือนกัน  ทูตมหาเทพเหล่านี้จะช่วยเหลือตระกูลออกุสตาเช่นกัน  สำหรับโอมาน  เขาเป็นทูตของประมุขมหาเทพแห่งแสงและเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นกัน

 “โกรววววว!”

เสียงคำรามดุร้ายดังขึ้น

 “บึ้ม!”  ทันใดนั้นทั่วทั้งพื้นแผ่นดินสั่นสะเทือนและลอยขึ้นทันที  ก้อนหินศิลามากมายพุ่งออกมาจากพื้นกระเด็นไปทุกทิศ

 “เรย์โฮม”  รีสเจมสีหน้าเปลี่ยน

โอมานไล่ล่าลินลี่ย์กับบีบี  ขณะที่มอนเตโลพัวพันรีสเจมไว้  อย่างนั้น..ก็มีหกคนที่สู้กับเรย์โฮม!  แม้ว่าหกคนจะไม่ใช่ระดับผู้บัญชาการ  แต่พวกเขาก็มีพลังระดับของผู้บัญชาการอย่างเห็นได้ชัด  แม้แต่รีสเจมยังพบว่ายากจะทนรับมือการผนึกพลังของคนหกคนได้

 “เฮ้, คนของเจ้าแข็งแกร่งทรงพลังมากจริงๆ”  มอนเตโลยิ้มเย้ย

 “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าจะฆ่าเรย์โฮม”  แม้ว่ารีสเจมจะห่วงใย  แต่เขาก็ยังมีความหวังในใจ  เพราะเรย์โฮมเป็นทูตมหาเทพที่ทรงพลังที่สุดที่รับใช้มารดาของเขา  แม้ว่าเรย์โฮมจะเงียบขรึมอยู่เสมอ  แต่พลังของเขา..น่ากลัวไม่ธรรมดาเลย

และขณะนี้เรย์โฮมเข้าสู่สภาวะคลั่ง!

 “โกรวววว!”  มีเสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง และร่างของเรย์โฮมขยายขึ้นอีกทันที

ขณะที่ยืนอยู่บนพื้นร่างเรย์โฮมยืดขยายสูงถึงสิบเมตร  หมัดของเขาเหมือนกับดาวตกสองลูกที่ฟาดกระหน่ำไปทุกทิศทางและแฝงไปด้วยพลังที่น่ากลัว  และแม้แต่หกคนที่โจมตีเขายังไม่กล้ารับหมัดของเขาโดยตรง

พื้นที่มิติบิดเบือนขณะที่แต่ละหมัดกระแทกเกิดแรงระเบิดและรอยฉีกมิติปรากฏ

เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่ทำให้คนสีหน้าเปลี่ยน

ทั่วทั้งร่างของเรย์โฮมเรืองแสงสีทองเป็นลวดลาย  คนที่อยู่ใกล้เรย์โฮมจะตระหนักได้ว่าลวดลายสีทองเหล่านี้ก่อตัวเป็นรูปร่างที่ดูแปลกคล้ายหมัด  เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว  หกคนที่จู่โจมอยู่อดขมวดคิ้วไม่ได้  และหัวใจพวกเขาตกวูบทันที

โลกธาตุนับไม่ถ้วนให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดจริงๆ

ตัวอย่างเช่นอสูรโลหะหรือสิ่งมีชีวิตประเภทต้นไม้  ในทางกลับกันยักษ์ภูเขาไฟและยักษ์แผ่นดินก็หาได้ยากมาก  พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งนัก  สำหรับเรย์โฮมเขาเป็นหนึ่งในราชาของเผ่าพันธุ์ไตตันธาตุดินซึ่งหาได้ยากมาก  พูดโดยทั่วไป สิ่งมีชีวิตที่รู้กันว่าจ้าวอสูรดิน เกิดมาพร้อมกับทักษะที่ควบคุมดินและหินได้และดูดซับแร่ธาตุทุกอย่างมาเสริมพลังร่างกายให้พวกเขา

 “ดังนั้นจึงมียอดฝีมืออย่างเขาปรากฏตัวขึ้น!”  ตอนนี้ทั้งหกคนเพิ่มความระมัดระวัง

เรย์โฮมเป็นคนที่ไม่เคยเปิดเผยตนเอง  ตั้งแต่บอสลีย์สหายของเขาถูกฆ่า  เขาก็เริ่มร่วมทางกับรีสเจมเข้ามาในสมรภูมิมหาพิภพ  ไม่ว่าลินลี่ย์ ไม่ว่าคนอื่นก็รู้จักเรย์โฮมไม่มากนัก

 “พวกเจ้าจงตายให้หมด”

ตาของเรย์โฮมเรืองแสงสีเหลือง  และหมัดขนาดใหญ่ของเขากระหน่ำใส่ศัตรูอย่างดุร้าย แต่ละหมัดแฝงไปด้วยพลังฉีกพื้นที่มิติจนแยกและแตกกระจาย  เขาเกิดมาพร้อมกับความแข็งแรงไม่มีขีดจำกัด  และเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับสายธาตุดินได้ห้าเคล็ดแล้ว  เขายังมีสมบัติมหาเทพชนิดป้องกันวิญญาณ  ทำให้เขาทรงพลังอย่างแท้จริง

 “ฮ่าฮ่า, ทุกคนมาดูกันซิว่าใครจะฆ่าเขาได้ก่อน”  สตรีชุดเงินชื่อราเนซซาหัวเราะลั่น

แม้ว่าเรย์โฮมจะทรงพลังแข็งแกร่ง  แต่ศัตรูอีกหกคนก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน  และพวกเขามีกันหกคน  ทุกคนเป็นสุดยอดฝีมือ

 “ฮึ่ม!”  สตรีผมเขียวเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงทันที หลบหมัดยักษ์ของเรย์โฮมได้  แต่หลังจากหลบหมัดเรย์โฮมได้    แขนขวาของเรย์โฮมบิดทันทีและศอกของเขากระแทกใส่สตรีผมเขียวอย่างรุนแรง  พลังโจมตีนี้รวดเร็วมากจนสตรีผมเขียวมีเวลาแค่เพียงใช้หมัดของนางเองรับไว้

กำปั้นน้อยของนางสวมถุงมือดำปะทะเข้ากับศอกที่เหมือนกับค้อน

 “ปัง!”  ร่างของหญิงสาวผมเขียวถูกกระแทกจมลงไปในพื้นเป็นหลุมลึก

ขณะที่เรย์โฮมมีรอยฉีกปรากฏที่ศอกของเขาเช่นกัน  มันดูน่ากลัว แต่ไม่มีเลือดไหลออกมาสักหยด และในพริบตารอยฉีกนั้นก็หายไป

 “ควั่บ”  หญิงสาวผมเขียวบินออกมาจากใต้ดิน

 “ร่างเจ้ายักษ์นี่แข็งมาก  อาวุธมหาเทพของข้าแค่สร้างรอยแผลให้เขาเท่านั้น  ทุกคนระวังให้ดี”  หญิงสาวผมเขียวเตือนผ่านสำนึกเทพ  ทันใดนั้นอีกห้าคนเริ่มลงมือโจมตีอย่างดุดัน  แม้ว่าจะมีบาดแผลมากมายและรูหลุมปรากฏอยู่รอบตัวเรย์โฮม  แต่บาดแผลเรย์โฮมก็สมานตัวได้ในทันที

ไม่ใช่แค่พลังโจมตีวัตถุเท่านั้น  แต่ทั้งหกยังใช้พลังโจมตีวิญญาณด้วยเช่นกัน!!

 “ไม่มีประโยชน์  เจ้าตัวใหญ่นี่อาจมีสมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันวิญญาณได้”  บุรุษชุดขาวส่งสำนึกเทพบอก

ขณะนั้นไม่มีใครรู้ว่าจะทำยังไง

 “ทุกคน,  ข้าจะมัดเจ้าตัวใหญ่นี่ชั่วขณะ ส่วนเรื่องการฆ่าข้าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าทั้งห้าคน”  ราเนซซาบอกทางสำนึกเทพ  รอยยิ้มเย็นชาปรากฏอยู่บนใบหน้านาง  รูปลักษณะของราเนซซาที่งดงามพลันมีร่างมายาของปลาหมึกยักษ์ปรากฏทันที

ทันใดนั้นนางใช้ทักษะเทพธรรมชาติที่ได้รับตกทอดมา

 “อา...”  เรย์โฮมรู้สึกเหมือนกับว่าตลอดทั้งร่างของเขาเหมือนถูกพันธนาการด้วยเชือกอย่างแน่นหนา  มิติพื้นที่บิดเบี้ยวกดทับลงบนตัวเขา  เรย์โฮมคำรามด้วยความโกรธ  และกล้ามเนื้อที่เหมือนกับเหล็กกล้าของเขาปูดโปนพยายามทำลายให้หลุดพ้นจากพันธนาการให้ได้

 “ควั่บ!”  “ควั่บ!”

ทั้งสองร่างโจมตีใส่ศีรษะของเรย์โฮมอย่างต่อเนื่อง  สองคนนี้ก็คือสตรีผมเขียวและบุรุษหนุ่มชุดเทา  สตรีผมเขียวใช้หมัดของนาง ขณะที่บุรุษหนุ่มชุดเทาใช้ดาบเล่มหนา

หมัดของสตรีผมเขียวกระแทกใส่สุดกำลัง...

 “แครก...”  ดาบศึกเรืองแสงด้วยพลังมหาเทพธาตุน้ำ  ฟันฉีกผ่านมิติเข้าที่ศีรษะของเรย์โฮม

 “โกรววววว!” เรย์โฮมคำรามลั่นด้วยความโกรธ

 “บึ้ม!”

หมัดและดาบศึกฟันลงที่ศีรษะของเรย์โฮม  มีเสียงดังบึ้ม ศีรษะของเรย์โฮมถูกโจมตีทำร้ายด้วยอาวุธสมบัติมหาเทพสองชิ้น  และแตกกระจายในที่สุด  เศษชิ้นส่วนกระเด็นไปทั่ว  แต่แปลกที่ไม่มีประกายเทพหล่นลงมา

 “ระวัง!”  เสียงร้องดังตื่นเต้นดังขึ้นในใจของทั้งสอง

หมัดทั้งสองข้างของเรย์โฮมตวัดใส่พวกเขา!