วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 35 ก้อนหิน


เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 35 ก้อนหิน
เงาดำสองร่างกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ขณะที่ด้านหลังพวกเขามีเงาร่างเจ็ดคนกำลังไล่โจมตี  เพียงแต่เงาร่างทั้งเจ็ดข้างหลังสองคนยังทอดระยะห่างจากกัน

 “รีสเจมผู้นี้มีความเร็วมาก  มีแต่คุณชายท่านที่ติดตามได้ ส่วนคนอื่นๆ แทบไม่สามารถตามได้ทัน  เราควรจะทำยังไงดี?”  ผู้อาวุโสผมขาวติดตามมอนเตโลขณะส่งสำนึกเทพถามอย่างเร่งร้อน  พวกเขาสองคนฝึกมาทางกฎธาตุแสง  และเชี่ยวชาญเรื่องความเร็ว  ขณะที่คนอื่นๆ ฝึกมาทางสายธาตุน้ำบ้าง, วิถีชะตาบ้าง, และพวกเขาไม่ถนัดใช้ความเร็ว
 “ไล่ตาม!
มอนเตโลจ้องมองเงาร่างข้างหน้าเขม็ง
 “ครืน...”  ทันใดนั้นพื้นดินลอยขึ้น และหินขนาดใหญ่จำนวนมากพุ่งออกมาจากพื้น  หินทุกก้อนบินออกมาพร้อมกับแสงสีดำ  เห็นได้ชัดว่าหินทุกก้อนแฝงไปด้วยพลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง
มอนเตโลและคนของเขาไม่สนใจก้อนหิน  แต่พวกเขาไม่กล้าประมาทพลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง
 “ปัง!  “ปัง!
มอนเตโลและพวกที่เหลือ ทั้งเจ็ดคนต่างก็หลบหรือไม่ก็กระแทกก้อนหินให้แหลก  หินศิลาเหล่านี้ไม่ได้คุกคามพวกเขามากนัก แต่ทำให้พวกเขาช้าลง
 “พวกเขาทอดระยะห่างออกไปอีกแล้ว!  มอนเตโลหรี่ตาของเขา มีความรู้สึกโกรธอยู่ในอก  “รีสเจมนี้ได้ผู้ช่วยอย่างเขาและยินดีจะใช้พลังมหาเทพจำนวนมากเพื่อใช้ไม้ตายนี้...”  ทันใดนั้นมอนเตโลสังเกตว่าพลังมหาเทพในร่างของเขาค่อยๆ เหือดหายไป เขาอดถอนหายใจไม่ได้  “ช่างเถอะ, แค่นี้ก็พอจะทำให้รีสเจมอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่แล้วในครั้งนี้”
 “หยุด!  มอนเตโลตวาด
หลังจากที่เขาหยุด  อีกหกคนก็หยุดเช่นกัน
แม้ว่ามอนเตโลจะใช้หยดพลังมหาเทพ แต่อีกหกคนไม่ได้ใช้อย่างทุ่มเท  ดังนั้นมอนเตโลจึงทุ่มใช้พลังใยไหมแสงนับไม่ถ้วนพัวพันรีสเจมไว้ตั้งแต่เริ่มต้น และยังใช้พลังมหาเทพเสริมพลังเข้าไปอย่างต่อเนื่อง  ก่อนนั้นเขาใช้พลังมากเกินไป  ดังนั้นพลังมหาเทพของเขาจึงสลายไปก่อนเป็นธรรมดา
 “ไม่ต้องไล่ตามต่อไปแล้ว  นี่มีแต่จะทำให้สิ้นเปลืองพลังมหาเทพ  ข้าไม่มีพลังมหาเทพมากพอจะเสียไปกับรีสเจม”  มอนเตโลแค่นเสียง  “รีสเจม, เจ้าเด็กนั่น ชอบหยิ่งยโสอยู่เสมอ  แต่ครั้งนี้เราทำให้เขาหนีหัวซุกหัวซุนได้  แค่นั้นก็พอแล้ว”
ราเนซซาแค่นเสียง  “พอสำหรับเจ้า  แต่เราไม่ได้ป้ายประจำตัวแม้แต่ป้ายเดียว”
มอนเตโลชำเลืองมองราเนซซา  จากนั้นหัวเราะเบาๆ  “ราเนซซา!  ยังมีโอกาสในอนาคตอีกมาก  ตอนนี้อีกเดี๋ยวโอมานก็กลับมา  เขาต้องฆ่าอีกสองคนได้อย่างแน่นอน  ถ้าเขาได้รับป้ายใดป้ายหนึ่งมาด้วย เราจะมอบให้เจ้า  เจ้าจะว่ายังไง?”
 “ข้าเชื่อคำพูดเจ้า”  ในที่สุดราเนซซาก็ยิ้มจนได้
ขณะนั้นเอง..
 “มอนเตโล! ข้ารีสเจมจะจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้!  เสียงรีสเจมตะโกนก้องดังมาจากที่ไกล
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนขุ่นเคืองไม่พอใจนั้น มอนเตโลไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย  เขากลับเริ่มหัวเราะลั่น  เขาบอกกับอีกหกคน  “ฮ่าฮ่า, ทุกคน, ได้ยินไหมนั่น?  รีสเจมโกรธจัดแล้ว!  ครั้งก่อนเราฆ่าบอสลีย์นั่นไป  แต่เขาก็ยังทำอะไรเราไม่ได้  ครั้งนี้เราให้บทเรียนเขาอีกครั้งหนึ่ง  ต่อให้ข้ายืนอยู่ข้างหน้าเขา  เขาก็ยังทำอะไรข้าไม่ได้”
 “คุณชาย! ท่านมีสมบัติมหาเทพป้องกันพลังโจมตีวัตถุ  อย่างมากรีสเจมก็คงได้แต่ด่าทอท่าน  เขายังจะทำอะไรได้?  เป็นไปได้ว่ามหาเทพจะเข้ามาแทรกแซงกับเรื่องเล็กน้อยนี่หรือ?”  สตรีผมเขียวหัวเราะ
มอนเตโลและรีสเจมไม่สามารถทำอันตรายกันเองได้
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่ามอนเตโลมีผู้ช่วยมากกว่ารีสเจม  ดังนั้นเป็นธรรมดาที่รีสเจมต้องเจ็บปวดจากความพ่ายแพ้
 “อืม..โอมานกลับมาแล้ว”  มอนเตโลหันไปมองทันที
ข้างตัวมอนเตโลตอนนี้มีอีกหกคนที่เปล่งรัศมีพลังมหาเทพ  รัศมีพลังมหาเทพหกสายนั้นสว่างเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ ที่นี่คือสมรภูมิมหาพิภพ  ใครเล่าจะไม่รู้สึกถึง?  โอมานสามารถติดตามรัศมีพลังมหาเทพมาถึงด้วยความเร็วสูง
 “มอนเตโล!  จำคำสัญญาของเจ้าได้ไหม”  ราเนซซาหัวเราะเบาๆ
 “แน่นอน”  มอนเตโลพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
 “โอมาน”  มอนเตโลยิ้มให้ขณะรับเขา  แม้ว่าโอมานจะติดตามเขา  แต่เขาเป็นทูตมหาเทพมีสมบัติมหาเทพใช้ถึงสองชิ้น  เขามีพลังมากมายยิ่งกว่า
โอมานลงมายืนที่พื้น  “คุณชาย”
 “ก่อนหน้านี้แม่นางราเนซซากับข้าตกลงกันว่าหลังจากฆ่าคนของรีสเจม เราจะมอบป้ายประจำตัวให้ราเนซซา  ส่งป้ายทั้งสองมาให้ข้า”  มอนเตโลพูดพลางหัวเราะ
โอมานส่ายหน้า  “ข้ายังไม่ได้รับป้ายมา”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้  หน้าของมอนเตโลเขียวคล้ำทันที  ขณะที่หน้าของราเนซซาพลันเย็นชา  นางพูดแค่นเสียง  “โอว, เราทุกคนรู้ดีว่าท่านโอมานแข็งแกร่งทรงพลังมากเพียงไหน เป็นไปได้ยังไงว่าท่านไม่สามารถฆ่าเด็กสองคนได้?  ข้าคิดว่าท่านฆ่าพวกเขาแล้วเอาป้ายประจำตัวมาแล้ว แต่ไม่ยินดีจะส่งมอบให้เสียมากกว่า”
ป้ายผู้บัญชาการสองป้ายเป็นวัตถุที่ทรงคุณค่ามาก
 “หืม?”  โอมานแค่นเสียงเย็นชาและหันไปถลึงตามองราเนซซา  “เจ้าพูดว่าไง? กล้าเรียกข้าว่าโอมานเฉยๆ หรือนังตัวดี?”
ราเนซซาเลิกคิ้ว จากนั้นหัวเราะ  “อะไรกัน, โอมาน เจ้าพยายามจะใช้กำลังข่มพวกเราหรือ?”
 “ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่ได้ของมา  อย่างนั้นก็คือข้าไม่ได้ของมา!  อย่าให้มันมากเกินไป!  โอมานแค่นเสียงเย็นชา  ไม่มีทางที่เขาจะพิสูจน์อะไรอย่างนี้ได้เลย
แต่เห็นได้ชัดว่าเท่าที่ราเนซซากังวล  โอมานเป็นผู้บัญชาการที่น่ากลัวมาก  ขณะที่ลินลี่ย์และบีบีเป็นคนที่ราเนซซาไม่เคยพบเห็นมาก่อน  พวกเขาไม่ควรจะทรงพลังมาก  ดังนั้นนางปักใจว่าโอมานฆ่าพวกเขาไปแล้ว
 “ฮ่าฮ่า...”  ราเนซซาหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ในเมื่อเป็นคำที่ท่านพูด  โอมาน อย่างนั้นข้าเชื่อคำพูดของเจ้าแน่นอน  ไปกันเถอะ!
เห็นได้ชัดว่าราเนซซารู้ว่าไม่มีอะไรที่นางจะทำได้ในที่นี้  แล้วนางจะอยู่ไปทำไม?
บุรุษหนุ่มอีกสองคนบินออกไปพร้อมกับราเนซซาเช่นกัน
 “พวกเขาไปแล้ว”  มอนเตโลหันไปมองโอมาน  จากนั้นหัวเราะ  “โอมาน!  ตอนนี้เจ้าบอกข้าได้หรือยัง ว่าเจ้าฆ่าสองคนนั้นได้หรือไม่?”  มอนเตโลเชื่อว่าโอมานโกหกในก่อนหน้านั้นเช่นกัน
 “ข้าฆ่าไม่ได้จริงๆ”  โอมานส่ายศีรษะ  “สองคนนั้นไม่ได้อ่อนแอเลย  เด็กหนุ่มเผ่ามังกรฟ้าสามารถรับพลังโจมตีของข้าได้ตรงๆ โดยไม่ตาย  ขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งใช้ร่างกายของเขารับพลังโจมตีจากอาวุธมหาเทพของข้าได้โดยตรง  แต่เขาก็ไม่ตายอีกเหมือนกัน  หลังจากนั้นข้าไล่ตามพวกเขา  แต่เจ้าเด็กจากเผ่ามังกรฟ้ามีทักษะสนามพลังโน้มถ่วงที่คล้ายกับของรีสเจม  ข้าไม่สามารถเข้าไปถึงตัวเขาได้  ดังนั้นข้าจึงต้องล้มเลิกความพยายาม”
มันเตโลขมวดคิ้ว
 “เด็กหนุ่มนั่นรับพลังโจมตีโดยตรงด้วยร่างของเขาหรือ?  ดูเหมือนเขาต้องมีสมบัติมหาเทพป้องกันพลังโจมตีวัตถุแน่  เจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าสามารถใช้วิชาสนามพลังอะเมทิสต์หรือ?  ความสัมพันธ์ของเขากับรีสเจมลึกซึ้งมาก  ช่างเถอะ ไปหาที่พักผ่อนกันก่อน”  มอนเตโลนำกลุ่มแยกออกไปจากที่นี้ทันที
ในที่รกร้างกว้างไกล ลินลี่ย์และบีบีพรางตัวเดินทางไปข้างหน้า  ตอนนี้พลังมหาเทพในตัวของพวกเขาสลายออกไปแล้ว  ก่อนนี้เมื่อลินลี่ย์แผ่พลังมหาเทพ คนอื่นจะพบพวกเขาได้ง่าย ดังนั้นลินลี่ย์จึงบินด้วยความเร็วตามปกติ  ตอนนี้พลังมหาเทพสลายไปแล้ว  ลินลี่ย์จึงเลือกไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง
 “พี่ใหญ่,  ต่อไปเราควรจะทำอะไรกันดี?”  บีบีถาม
 “มีเวลาอีกสองหรือสามร้อยปีก่อนสงครามมหาพิภพช่วงสุดท้ายจะเริ่มขึ้น  ข้าหวังว่าก่อนหน้านั้น ข้าจะบรรลุการหลอมรวมเคล็ดลึกลับที่สี่ได้”  ลินลี่ย์รู้ว่าทุกคนที่กล้าเที่ยวไปในสมรภูมิมหาพิภพ เป็นผู้บัญชาการชั้นยอด  “หลังจากข้าหลอมรวมเคล็ดลึกลับที่สี่ได้  ข้าค่อยออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง  ถึงตอนนั้น ข้าคงแข็งแกร่งพอทำเช่นนั้นได้”
พลังอำนาจของคนผู้หนึ่งขึ้นอยู่กับฐานพลังของเขา  เคล็ดความรู้ลึกลับของพวกเขา และอาวุธของพวกเขา
ตัวอย่างเช่นแฮมเมอร์ที่ร่างดั้งเดิมเป็นภูเขาสีทองซึ่งถูกพลังธาตุดินศักดิ์สิทธิ์หล่อเลี้ยงมานานนับปีไม่ถ้วนจากนั้นจึงถือกำเนิด  พลังร่างกายของเขานับว่ายิ่งใหญ่  และแม้จะไม่ต้องหลอมรวมเคล็ดลึกลับ เขาก็ยังเหนือกว่าอสูรเจ็ดดาวและแทบจะใกล้เคียงเทพอสูร  นี่คือเหตุผลที่เขากลายเป็นทูตมหาเทพทันทีเมื่อเขาเกิด
หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สี่เคล็ด  ลินลี่ย์ไม่กล้ารับหมัดของเขาโดยตรงอยู่ดี
แม้ว่าจะชกอากาศที่ว่างเปล่าแต่ก็ยังมีพลังทะลุทะลวงอกของลินลี่ย์ได้  พลังที่น่ากลัวของพลังโจมตีของเขาแทบจะเทียบได้กับพารากอน  ฐานพลังระดับนี้นับว่ายิ่งใหญ่มาก
ฐานพลังของลินลี่ย์เองไม่อาจเทียบได้กับแฮมเมอร์  แต่เขาก็ยังเหนือกว่าเทพชั้นสูงทั่วไป
 “เมื่อพลังของข้าเพิ่มขึ้นสิบเท่า  ข้าจะไม่กลัวคนอื่นอีกต่อไป”
ลินลี่ย์และบีบีมองหาที่พัก  พวกเขาไม่ให้ความสนใจก้อนหินเรียบที่อยู่ห่างออกไปในที่รกร้างไม่ถึงร้อยเมตร บนพื้นมีก้อนหินมากเกินไป  ใครเล่าจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ?
 “ในที่สุดก็มีบางคนมาทางนี้  จากเท่าที่เห็น เด็กหนุ่มนั่นเป็นผู้นำ  ข้าจะซุ่มทำร้ายเขาก่อนและค่อยฆ่าเขา   ฆ่าคนแข็งแกร่งก่อนแล้วค่อยฆ่าคนอ่อนแออีกคน”
ทันใดนั้นเอง...
 “ควั่บ!  หินก้อนหนึ่งพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ด้วยความเร็วสูง
ขณะที่ลินลี่ย์เดินขึ้นหน้าก็พบเห็นด้วยความประหลาดใจว่ามีหินก้อนหนึ่งพุ่งเข้าหาเขาทันที  “มีคนอยู่ที่นี่!  ลินลี่ย์เพิ่มความระมัดระวังทันที  เขาแปลงร่างเป็นมังกรทันที  ขณะเดียวกันก็ขยายสนามพลังศิลาดำออกไปในระยะห้าร้อยเมตร  ทันใดนั้นหินก้อนที่เข้ามาในสนามพลังศิลาดำร่วงลง แต่ก็เข้ามาใกล้ลินลี่ย์มากแล้ว
 “ปัง!
ก้อนหินหายไปและกลายเป็นร่างของคนผู้หนึ่ง
 “ยอดฝีมือกฎธาตุดินอีกคนหนึ่ง”  ลินลี่ย์ตกใจเช่นกัน
เดิมทีลินลี่ย์คิดว่ามีคนยิงก้อนหินเข้าใส่เขา...แต่ว่าก้อนหินกลับกลายเป็นคนที่ฝึกมาทางกฎธาตุดิน  ลินลี่ย์ถอนหายใจชมเชยความสามารถในการลอบทำร้ายและอำพรางรัศมีของเขา   นี่มีระดับแทบจะใกล้เคียงกับรีสเจม
รังสีดาบตัดผ่านจากระยะไกลไม่ถึงสิบเมตร  ในทันใดนั้นสายตาของลินลี่ย์ไม่เห็นอะไรนอกจากรังสีดาบแพรวพราว
เมื่อรังสีดาบฟันแหวกอากาศ พื้นที่มิติบิดเบือนในตัว!
 “แคล้ง!
ดาบที่ไร้ต่อต้านนี้ปล่อยเสียงและประกายแพรวพราว และพลังของมันอ่อนลงเช่นกัน
 “เอ๊ะ?”  นักฆ่าตะลึงเช่นกัน  “กระบี่ล่องหน?”  ช่วงเวลาก่อนหน้านี้เขาไม่ทันสังเกต  แต่ตอนนี้ด้วยการใช้สำนึกเทพแผ่ออกตรวจดู  เขาจึงตระหนักว่าลินลี่ย์ถือกระบี่อยู่ในมือ และกระบี่นั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า!
 “ควั่บ!  นักฆ่านั้นล้มเหลวในการในดาบฟันครั้งแรกจึงรีบหันหลังหนีทันที
 “ลูป!  เจ้าจะหนีหลังจากโจมตีครั้งแรกล้มเหลวหรือ?”  เสียงหัวเราะของลินลี่ย์ดังได้ยินชัด  “เจ้าอยู่ตรงนี้ต่อจะดีกว่า”  หลังจากเห็นดาบโจมตีนั้น ลินลี่ย์คิดถึงข้อมูลที่ได้มาจากเบรุต ก็รู้ว่าเขาเป็นใคร  นี่คือยอดฝีมือสายกฎธาตุดินลูป  ขณะเดียวกันลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงความกลัว  ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าสนามพลังศิลาดำทำให้ลูปเปิดเผยร่างจริงเร็วขึ้นและทำให้เขาช้าลง พลังโจมตีก่อนหน้านี้ของลูปอาจทำให้ลินลี่ย์ตกอยู่ในอันตรายก็ได้
ทันทีที่คำพูดของลินลี่ย์ดังขึ้น สนามพลังศิลาดำก็เปลี่ยนตำแหน่งทิศทางดึงดูด!
จากแรงดึงดูดลงกลายเป็นแรงดึงดูดเข้าหาลินลี่ย์!
 “เอ๊ะ?”  ความเร็วของร่างนั้นตกลงอย่างมากมาย
ลินลี่ย์รู้ดีว่าลูปผู้นี้มีทักษะอะไร  ลูปเชี่ยวชาญในการหลอกล่อและพรางตัว!  เขามีความไวมาก!  อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาติดอยู่ในสนามพลังศิลาดำของลินลี่ย์  ลูปพบว่าเขาพบกับดาวข่ม  ความเร็วของเขาและความสามารถในการพรางตัวของเขาช่วยไม่ได้อีกต่อไป
 “เอ๊ะ?”  ความรู้สึกว่าทิศทางแรงดึงดูดเปลี่ยนเป็นดึง ลูปตกใจทันที
 “แย่แล้ว!  ลูปเริ่มรู้สึกเสียใจหลังจากเห็นการแปลงตัวของลินลี่ย์    เขาแน่ใจว่าในฐานะสมาชิกเผ่ามังกรฟ้า  ลินลี่ย์สามารถใช้ทักษะเทพธรรมชาติได้แน่นอน  “ข้าไม่จำเป็นต้องเอาชนะยอดฝีมือเผ่ามังกรฟ้าผู้นี้ และเขายังมีบริวารอยู่ด้วย  ถ้าเราเริ่มสู้กัน...นั่นไม่ดีแน่!
เขาไม่ลังเลใจอีกต่อไป
 “ปัง!” ลูปกัดฟันใช้หยดพลังมหาเทพที่ล้ำค่า  ทันใดนั้นรัศมีสีเหลืองทะลักออกมาจากร่างของเขา
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้นลินลี่ย์ไม่ลังเลใจ ร่างของเขาระเบิดพลังรัศมีสีดำออกมาบ้าง  ลูปในบรรดาระดับผู้บัญชาการถือว่ามีพลังต่ำกว่าโดยทั่วไป  เพียงแต่เขามีชื่อเสียงในเรื่องการพรางตัวและความเร็วที่สูงส่ง
 “อะไรกัน? เขาใช้พลังมหาเทพด้วยเหมือนกันหรือนี่?  เจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้ายินยอมสละจริงๆ หรือนี่”  ลูปเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น เขารู้สึกใจสั่นสะท้าน
 “คู่ต่อสู้แบบนี้เหมาะกับการซ้อมฝีมือด้วย!  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอกบีบี  “บีบี, อย่าเข้ามาแทรกแซง  ลูปผู้นี้มีพลังโจมตีเทียบได้กับข้า  แต่การหลอมรวมเคล็ดลึกลับกฎธาตุดินของเขาทำได้มากกว่าข้า!  เขาเหมาะจะให้ข้าใช้ฝึกฝนได้ดีที่สุด  ข้าอาจได้รับความรู้แจ้งก็ได้”
บีบีแค่นเสียงตอบ  “ก็ได้, พี่ใหญ่ ข้าจะดูเฉยๆ”  บีบีจงใจถอยออกมาในระยะร้อยเมตร ปล่อยให้ลินลี่ย์กับลูปมีพื้นที่สู้กันได้มากพอ
เมื่อรู้ว่าเป็นลูป บีบีไม่กังวลอีกต่อไป
 “ฮึ่ม!” ลูปเมื่อเห็นสถานการณ์ รู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ  เขาสามารถบอกได้ว่าคู่ต่อสู้ไม่รู้สึกว่าเขาคู่ควรให้กังวล  “ถ้าไม่ใช่เพราะสนามพลังโน้มถ่วงนี้ เจ้าจะไม่มีทางแตะต้องข้าได้”  ลูปรู้สึกว่าพลังของสนามพลังโน้มถ่วงเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน  เขาไม่สามารถหลบหนีออกไปได้  เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบออกไปได้ ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ..สู้!

11 ความคิดเห็น:

BB กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ท่างานนี้พี่ลินลี่จะได้รู้แจ้ง จะบวกได้สมาชิกเพิ่มด้วยมั้ยเนี่ย

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Toffee กล่าวว่า...

ฝึกต่อไป ะ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Boybravo กล่าวว่า...

เจอะหินลับมือ ขอบคุณครับ

Ko Surapong กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับไม่ต่อยตีไม่รู้จักกันสินะ อาจได้คนมาเสริมทีมอีกคนก็เป็นได้

Unknown กล่าวว่า...

ถ้าหลอมเคล็ดสี่ได้นี่ เจอพวก7คนเดิมคงมีโดนลินลีย์ตบกบาลมั่งอ่ะ

WingF กล่าวว่า...

หินลับมีดชัดๆ

Rewma กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ได้เบ้ 1 ea

แสดงความคิดเห็น