เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 37 สุดยอดไม้ตาย
บีบีตะลึง..และจากนั้นเขาดีใจแทบคลั่ง เขาโยนผลไม้ในมือที่กินไปครึ่งไปข้างหนึ่ง ฮ่าฮ่า, พี่ใหญ่
ข้ารู้ว่าท่านจะต้องบรรลุระดับใหม่ได้ภายในสามร้อยปี ข้าพูดถูกไม่ใช่หรือ? นี่แค่สามปีแต่ท่านก็บรรลุผ่านสภาพคอขวดได้!”
ในการหลอมรวมเคล็ดลึกลับยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งเคล็ดก็ยากมากยิ่งขึ้น
เมื่อผู้ฝึกบรรลุระดับใหม่ นั่นเป็นเครื่องหมายว่าพลังของผู้นั้นจะเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างไม่ธรรมดา!
“ข้าบรรลุระดับใหม่จริงๆ ข้าบรรลุก่อนจะถึงศึกสุดท้าย” ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้น จากก้นบึ้งหัวใจของเขา
ความยากลำบากจากการหลอมรวมเคล็ดลึกลับสามเคล็ดเพิ่มเป็นสี่เคล็ดนับเป็นเรื่องยากมาก ตอนนี้ในสมรภูมิมหาพิภพ
ในที่สุดแล้วเขาไม่ใช่ผู้บัญชาการระดับล่างต่อไป ถ้าเขาเผชิญพบเจอผู้บัญชาการที่น่ากลัว
เขาก็สามารถสู้ตอบโต้ได้
ผู้บัญชาการที่ไม่กลัวการท้าทายต้องไม่มีจุดอ่อนอย่างสิ้นเชิง ในอดีตพลังป้องกันวิญญาณของลินลี่ย์ยังอ่อนแอ แต่ตอนนี้ในแง่พลังป้องกันวิญญาณ เขาไม่มีจุดอ่อนอีกต่อไป
การหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ดและได้พลังสนับสนุนจากพลังวิญญาณเทพธรรมชาติสีฟ้าก็ยังเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขณะที่สมบัติมหาเทพชำรุดสำหรับปกป้องวิญญาณก็เหมือนกัน ความจริงลินลี่ย์ไม่กลัวพลังโจมตีวิญญาณจากยอดฝีมือระดับเดียวกับรีสเจมและมอนเตโลอีกต่อไป
แต่แน่นอนว่า..ถ้าเขาไปเจอกับเทพชั้นสูงระดับพารากอน ลินลี่ย์ต้องเผ่น ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์เท่านั้น
ต่อให้เป็นรีสเจมพบเจอกับพารากอน เขาก็ยังไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้
“ข้าอยากจะออกไปลุยนานแล้ว
ตอนนี้ท่านบรรลุพลังระดับใหม่ได้แล้ว พี่ใหญ่! ออกไปข้างนอกกันเถอะ” บีบีดีใจอย่างบอกไม่ถูก “เราต้องทนอยู่ในที่บ้าๆ นี่มาเกือบหกร้อยปีแล้ว
ได้เวลาที่เราสองพี่น้องต้องออกไปแสดงพลังเสียที”
บีบีเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ลินลี่ย์เพียงแต่หัวเราะ
จากนั้นส่ายศีรษะ
“อย่าเพิ่งใจร้อน”
“จะให้ข้าไม่ใจร้อนได้ยังไง? ข้าใจร้อน!” บีบีจงใจเม้มริมฝีปาก “ท่านก็มีพลังเพิ่มแล้ว
เรายังต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีกหรือ?”
“ไม่,
แม้ว่าข้าจะหลอมรวมเคล็ดได้สี่เคล็ดสำเร็จ
แต่ข้ายังไม่ได้พัฒนาพลังโจมตีที่เหมาะกับตัวข้าเลย” ลินลี่ย์หัวเราะ
การหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างๆ
จะส่งผลให้พลังโจมตีที่ทรงพลังมีรูปแบบต่างกันไปด้วยเช่นกัน
บางคนเชี่ยวชาญในทางสนับสนุน ขณะที่คนอื่นเชี่ยวชาญโจมตีวิญญาณหรือโจมตีวัตถุ
หรือพรางตัวและหลบหลีก..ในช่วงเวลาสั้นๆ
หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ด
พวกเขาจะพัฒนาทักษะที่เหมาะกับตัวพวกเขา
ในอดีตทักษะหลักของลินลี่ย์ก็คือสนามพลังศิลาดำ
และพลังผ่าฟ้า
อย่างไรก็ตามลินลี่ย์มีพลังเพิ่มมากขึ้น
สุดยอดไม้ตายของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
“โอว.. สุดยอดไม้ตายหรือ?”
บีบีหัวเราะเบาๆ จากนั้นนั่งลงที่ข้างถ้ำ “พี่ใหญ่, เชิญพัฒนาตามที่ท่านต้องการเลย ข้าจะมองเฉยๆ โดยไม่พูดอะไร!
ใช่แล้วท่านจะต้องใช้เวลาพัฒนาวิชาของตนเองนานไหม?”
“ข้ามีความคิดของตัวเองบางอย่างแล้ว น่าจะใช้เวลาไว” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
จากนั้นลินลี่ย์ก็เริ่มพัฒนาสุดยอดวิชาของตนเอง เวลาผ่านไปและมีการทดสอบต่อเนื่อง
ลินลี่ย์เพราะกลัวว่าถ้ำจะเสียหายจึงสร้างคุกศิลาดำไว้
และทดสอบภายในนั้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจะมีพลังรั่วไหลออกมาจากเขา แต่ก็ยังอยู่ภายในคุกศิลาดำ
มืดสนิทไม่มีร่องรอยแห่งแสงที่สามารถเห็นจากคุกศิลาดำ
ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่
ใจของเขามีภาพผุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า
“นี่คือพลังป้องกันการโจมตีวัตถุ
ควรจะเริ่มที่เกราะชีพจรเก่าของข้า
จากนั้นค่อยปรับแต่งมัน...”
ลินลี่ย์ในอดีตไม่ค่อยใส่ใจพลังป้องกันการโจมตีวัตถุเท่าใดนัก
เพราะร่างมังกรแปลงของเขาทรงพลังมากพออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเวลานี้เมื่อเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สี่เคล็ด
เมื่อใช้พลังมหาเทพเพื่อเสริมให้พลังป้องกันของเขา
เพิ่มขึ้นเทียบได้กับร่างมังกรแปลง
จึงเป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะไม่ใส่ใจในการเพิ่มชั้นป้องกันพิเศษ
ภายในคุกศิลาดำที่มืดมิด
ลินลี่ย์ยังคงวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง
“แครกกกก...”
พลังเทพธาตุดินยังคงแผ่ออกมาจากร่างของลินลี่ย์ ในใจของลินลี่ย์
กลไกอย่างหนี่งหลังจากที่ใช้พลังขยายมาถึงใจ
พลังเทพธาตุดินที่รายล้อมร่างเขาเปลี่ยนวิธีการไม่หยุด
ร่างหลักของเขาและร่างแยกธาตุดินร่วมฝึกด้วยกัน หลังจากใช้เวลาสิบเอ็ดวัน
ในที่สุดลินลี่ย์ก็พัฒนาสุดยอดไม้ตายที่ทำให้เขาพอใจ
“เกราะนี้ ถ้าสร้างจากพลังเทพธาตุดิน
ยังด้อยกว่าพลังในร่างมังกรของข้า
อย่างไรก็ตามเมื่ออาศัยพลังมหาเทพ
พลังก็จะเหนือกว่าร่างแปลงมังกร
ใช่แล้วเกราะนี้สร้างมาจากพลังเทพธาตุดิน
ข้าเรียกว่าเกราะธาตุดิน”
ลินลี่ย์อดคิดถึงมันไม่ได้
ดังนั้นเขาเลือกชื่อธรรมดา จากนั้นวิเคราะห์ถึงพลังป้องกันวิญญาณของเขาต่อ
ลินลี่ย์ใส่ใจเกี่ยวกับพลังป้องกันวิญญาณของเขาสูงมาก
ที่สำคัญวิญญาณของคนเป็นพื้นฐานของเขา ในทะเลจิตสำนึกของลินลี่ย์มีพลังวิญญาณมากมายและสิ่งต่างๆ
ก็ผุดขึ้นตามๆ กันให้เขาได้ทดสอบ
พลังกฎธรรมชาติธาตุดินมีเคล็ดที่ลึกซึ้งมาก
โดยแบ่งเคล็ดลึกลับออกเป็นหกอย่าง และต้องเชี่ยวชาญให้ได้ในแต่ละกฎไม่มีอะไรมากไปกว่าได้รับพื้นฐานความเข้าใจในกฎธาตุดิน เพียงเมื่อหลอมรวมได้
เขาจะได้รับความรู้ความเข้าใจกฎธรรมชาติลึกซึ้งขึ้นไปอีก
ตัวอย่างเช่น เคล็ดชีพจรโลกเริ่มกับจำนวนชั้นรวม 256 ชั้น
และจากนั้นหลอมรวมต่อเนื่องและลดชั้นลงทีละคลื่น นั่นมีหลักการอย่างเดียวกัน...
ยิ่งหลอมรวมเคล็ดลึกลับของกฎธาตุดิน ก็ยิ่งเข้าใจได้มาก ลินลี่ย์หลอมรวมได้สี่เคล็ด
และนี่เป็นผลให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นทั้งพลังป้องกันวิญญาณและพลังป้องกันการโจมตีหยาบ
“วงจรความก้าวหน้ายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
พลังป้องกันวิญญาณนี้ก็คงพอแล้ว”
หลังจากใช้เวลาเก้าวัน
พลังป้องกันวิญญาณของเขาลินลี่ย์ก็มาถึงขีดจำกัด
นอกจากลินลี่ย์สามารถเข้าใจเคล็ดลึกลับได้เพิ่มขึ้น
วิธีของเขาใช้พลังกฎธรรมชาติจนถึงที่สุด
“ในเวลายี่สิบวัน
ข้าก็เชี่ยวชาญวิธีป้องกันวิญญาณและพลังป้องกันธาตุหยาบ ตอนนี้..ข้าจำเป็นต้องเพ่งส่วนที่สำคัญที่สุด
คือพลังโจมตีวัตถุ”
ลินลี่ย์รู้ดีว่าเคล็ดลึกลับที่เขาหลอมรวมก็คือ ‘เคล็ดชีพจรโลก’ เคล็ดแก่นธาตุดิน เคล็ดพลังธาตุ
และเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วง การหลอมรวมเคล็ดเหล่านี้เหมาะสมที่สุดกับพลังโจมตีธาตุวัตถุ นอกจากนี้ในร่างมังกร
ร่างของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเหลือเชื่อ
ถ้าไม่ใช้พลังโจมตีวัตถุถือเป็นการสูญเปล่าอย่างมาก
ลินลี่ย์เริ่มเพ่งและพัฒนาสุดยอดวิชาโจมตีทันที
การวิเคราะห์สุดยอดวิชาโจมตีซับซ้อนมาก
ตัวอย่างเช่น พลังป้องกันวิญญาณ
ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับส่วนของแก่นธาตุดิน
สำหรับพลังป้องกันพลังโจมตีวัตถุ
ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับสนามพลังโน้มถ่วง
ดังนั้นจึงง่ายมากที่จะพัฒนาวิชา
แต่สุดยอดวิชาโจมตีนั้นแตกต่างออกไป นี่จะต้องเกี่ยวกับสี่เคล็ดทั้งหมด
เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำ อย่างเงียบๆ ในพริบตาเดียว
ลินลี่ย์ใช้เวลาไปสองเดือนเต็มกับการทำงานในคุกศิลาดำ
ภายในถ้ำ
“ฮึ่ม!”
บีบีย่นจมูกจ้องมองดูคุกศิลาดำที่อยู่ด้านข้าง “พี่ใหญ่บอกว่าจะฝึกอย่างเร็วมาก แต่ก็ผ่านไปหกสิบสามวันแล้ว
เขาก็ยังฝึกไม่เสร็จ”
ทันใดนั้น....
คุกศิลาดำไร้เสียงสำเนียงค่อยๆ
สลายลง
พลังงานกลับคืนสู่โลกและเหลือไว้แต่เพียงลินลี่ย์ในชุดยาวสีฟ้าและตาของเขายังหลับอยู่ เขายืนนิ่งกับที่ มือยังคงถือกระบี่เงาลวง เห็นได้ชัดว่าลินลี่ย์ไม่ได้บรรจุพลังเทพในกระบี่
ขณะที่เห็นได้ชัดว่ากระบี่อยู่ในมือเขา
“ฮ่าฮ่า!” บีบีกระโดดเข้ามาทันที
ลินลี่ย์ลืมตามองดู หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่ใหญ่! ท่านทำสำเร็จแล้วหรือ?” บีบีหัวเราะ
“ใช่
ข้าทำได้สำเร็จ” ลินลี่ย์หัวเราะพยักหน้า
“แข็งแกร่งขนาดไหน?”
บีบีพูดอย่างคาดหวัง
“แข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนแน่นอน” ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ไม่ตายผ่าฟ้าของข้าเพียงแต่หลอมรวมพียงสองเคล็ดเท่านั้น เคล็ดชีพจรโลกและเคล็ดพลังธาตุ
ทั้งนี้เพราะไม่มีวิธีที่ข้าจะเพิ่มเคล็ดแก่นธาตุดินลงไปได้เลย แต่...ตอนนี้พอข้าหลอมรวมเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วง
ข้าสามารถเพิ่มเคล็ดแก่นธาตุดินเข้าไปในพลังโจมตีของข้าได้เช่นกัน ตอนนี้มีสี่เคล็ดลึกลับแล้ว พลังของกระบี่นี้เพิ่มขึ้นกว่าในอดีตอีกหลายสิบเท่า!”
ลินลี่ย์มีความมั่นใจมาก
ในอดีตกระบี่ของเขาอาศัยพลังของร่างมังกรแปลงของเขาเป็นหลักซึ่งเป็นเหตุผลให้สามารถคุกคามผู้บัญชาการอื่นได้
แต่ตอนนี้
เพียงแค่อาศัยเคล็ดความรู้ของเขาลินลี่ย์ก็สามารถอยู่ในระดับเดียวกับผู้บัญชาการคนอื่นได้ บวกกับพลังของร่างมังกรและกระบี่เงาลวง
ตอนนี้ลินลี่ย์มีคุณสมบัติให้มั่นใจตนเอง
“โฮะโฮะ, พี่ใหญ่, ลองดู มาลองดูกัน” บีบีร้องเรียกตื่นเต้นขณะมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์ยิ้มและพยักหน้า
“เมื่อต่อสู้ ข้าจะใช้สนามพลังศิลาดำก่อน
จากนั้นใช้พลังกระบี่โจมตี”
ลินลี่ย์หัวเราะขณะขยายสนามพลังศิลาดำที่ทรงพลัง ขณะที่ลินลี่ย์เตรียมจะใช้กระบี่
เมื่อเห็นรัศมีแสงสีเหลืองเรืองแสงขึ้นในสนามพลังศิลาดำ ลินลี่ย์ชะงักทันที
ยืนนิ่งกับที่เหมือนคนโง่งม
บีบีตกใจและถามทันที
“เฮ้, พี่ใหญ่, ท่านทำอะไร?”
แต่ดูเหมือนลินลี่ย์ไม่ได้ยินเขา
“พี่ใหญ่ทำอะไร?
เขาบอกว่าเขาจะแสดงฝีมือให้ข้าดูไม่ใช่หรือ?” บีบีไม่เข้าใจ
“ฮ่าฮ่า...”
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะลั่นทันที
“พี่ใหญ่, มีอะไร, มีอะไร?” บีบีลนลานพูด
“อย่างนั้นข้าก็ทำได้เหมือนกัน ข้าก็ทำได้เหมือนกัน! ข้านี่โง่เกินไป โง่จริงๆ!”
หน้าของลินลี่ย์เต็มไปด้วยอาการดีใจ
“พี่ใหญ่?” บีบีรีบเรียก
ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ค่อยคิดถึงบีบี
เขาหันหน้ามองและหัวเราะ “บีบี!
เมื่อครู่นี้เองข้าเกิดความคิดอย่างหนึ่งเป็นเหตุผลให้ข้าค่อนข้างตื่นเต้น”
“คิดอะไรได้หรือ?” บีบีขมวดคิ้ว
“ถูกแล้ว!” ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะ
“เจ้ายังจำวิธีที่เมื่อตอนเราเผชิญพบกับพารากอนไบเออร์ได้ไหม
พลังโจมตีของเขาที่มีต่อเจ้าจะตรึงความเคลื่อนไหวของเจ้าไว้ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว”
บีบีนึกย้อนไปถึงภาพที่เขารู้สึกจนใจอีกครั้งหนึ่ง “พลังโจมตีนั้นของเขา...เมื่อมันมาถึงข้า ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าพื้นที่มิติบีบข้าเอาไว้ ความเร็วของข้าตกลงอย่างมากมาย ความจริงข้ายังสามารถเคลื่อนไหวได้ เพียงแต่ความเร็วตกลงไปอย่างมาก
ช้ากว่าปกติถึงสิบเท่า
ด้วยความเร็วช้าขนาดนั้น ในการต่อสู้จริงก็หมายความว่าข้าจะถูกฆ่า”
ลินลี่ย์หัวเราะ
“เมื่อครู่นี้เมื่อข้าเห็นสนามพลังโน้มถ่วงของข้า ข้าคิดถึงคนผู้นั้นได้ทันที
ข้าเองก็สามารถทำให้ศัตรูมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามิติพื้นที่บีบเขาได้
และทำให้เขารู้สึกเหมือนกับปลาที่ติดอยู่ในโคลน ความเร็วตกลงอย่างมากมาย”
“เอ๋?” บีบีไม่เข้าใจ
“พี่ใหญ่!
สนามพลังศิลาดำของท่านมีแรงดึงดูดใช้ได้เพียงทิศทางเดียว แล้วจะบีบอัดคนได้ยังไง?”
ความจริงพลังของแรงดึงดูดของสนามพลังศิลาดำจะใช้ดึงขึ้น
ดูดลง ผลักออกหรือไม่ก็ดึงดูดเข้าหาลินลี่ย์
มีความเป็นไปได้เพียงทิศทางเดียว!
ตัวอย่างเช่น แรงโน้มถ่วงลงที่ใช้กักศัตรูจะส่งผลให้ศัตรูคนหนึ่งเมื่อเผชิญกับกระบี่ของลินลี่ย์ยากจะหาทางบินขึ้นได้ แต่สามารถดำลงไปใต้ดินได้ง่าย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถดำดิน
ความเคลื่อนไหวขึ้นหน้า ถอยหลังและไปด้านข้างจะทำได้ไม่ถนัดนัก
แต่พื้นที่บีบอัดจะแตกต่างออกไป
มันจะทำให้นักสู้รู้สึกเหมือนกับว่าถูกบีบอัดจากทุกทิศทาง ไม่ว่าท่านจะเคลื่อนไหวยังไง พลังจำกัดก็ยังมากมายน่าทึ่ง
เหมือนกับถูกจับอยู่ในตาข่าย
“ฮ่าฮ่า...”
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะทันที “บีบี,
ข้าเคยเจอกับพลังจำกัดความเคลื่อนไหวเมื่อตอนอยู่ที่ภูเขาอะเมทิสต์แล้ว”
ลินลี่ย์ยังคงจำได้ชัดถึงเมื่อตอนที่เขาใช้เคล็ดเดินดินในภูเขาอะเมทิสต์ เขาไปเผชิญพบเจอกับรีสเจมภายในภูเขา
หลังจากนั้นรีสเจมกักลินลี่ย์ไว้ในสนามพลังอะเมทิสต์เป็นเหตุให้แรงดึงดูดใช้พลังบีบอัดใส่ลินลี่ย์
แม้แต่กระดูกของเขาก็เริ่มแตกเป็นชิ้นและโลหิตไหลออกมา นี่เป็นแรงกดที่มาจากทุกทิศทาง!
“พลังกระบี่โจมตีในปัจจุบันของข้าเหมือนกับยอดฝีมือกฎธรรมชาติธาตุดินอื่น
แฝงไปด้วยพื้นฐานแรงดึงดูด
สิ่งที่ข้าต้องการทำก็คือทำให้สนามพลังศิลาดำไม่ยึดข้าเป็นจุดศูนย์กลางต่อไป
และเพื่อให้มันปลดปล่อยพลังเข้าไปในกระบี่ของข้าเอง” ลินลี่ย์รู้ว่านี้เป็นเรื่องที่ยากมาก
ถ้าลินลี่ย์ไม่เข้าใจหลักการของสนามพลังอะเมทิสต์และเพียงแต่ใช้งานได้แต่พื้นฐานศิลาดำในการใช้งานสนามพลังศิลาดำ
ก็ไม่มีทางเลยที่จะหลอมรวมความสามารถนี้ของสนามพลังอะเมทิสต์เข้ามาใช้ได้
ที่สำคัญศิลาดำอยู่ภายในร่างของลินลี่ย์ซึ่งเป็นการรับประกันได้ว่าถ้าลินลี่ย์อาศัยศิลาดำสนามพลังโน้มถ่วงจะใช้ร่างลินลี่ย์เป็นศูนย์กลาง
แต่ลินลี่ย์มีระดับความเข้าใจเกี่ยวกับสนามพลังศิลาดำมากขึ้น
เมื่อเขาใช้เวลาอยู่ในภูเขาอะเมทิสต์ห้าร้อยปี ลินลี่ย์ได้ความรู้แจ้งระดับความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีใช้รังสี
108 ของพลังเทพ
แม้ว่าพลังที่เขาใช้กับรังสีเหล่านั้นจะไม่ทรงพลังเท่ากับตัวศิลาดำเอง
แต่ความแตกต่างก็มีไม่มากนัก
“บีบี คอยก่อน คอยให้ข้าใช้วิชาต่อไป! เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น
ทันทีที่กระบี่ของข้าเข้าไปใกล้บางคน
มันจะทำให้คนผู้นั้นรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาถูกบีบอัดจากรอบด้าน!
แม้ว่าข้ายังจะด้อยกว่าไบเออร์
แต่ข้าคงไม่ด้อยจนห่างไกลแน่”
ลินลี่ย์คาดหวังไม้ตายใหม่ของเขาอย่างกระตือรือร้น
ลินลี่ย์สร้างสนามพลังศิลาดำอีกครั้งทันที จากนั้นก็เข้าไปศึกษาเรียนรู้
เคล็ดนี้..จะช่วยกักศัตรูไว้ในทิศทางหนึ่งและบีบอัดพวกเขา
เมื่อลินลี่ย์ใช้คุกศิลาดำอีกครั้งเพื่อวิเคราะห์เคล็ดวิชานี้ เขาเริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวังทันที
ทั้งนี้เป็นเพราะเคล็ดที่เขาใช้กับศัตรูขณะที่เป้าหมายถูกบีบีอัด
ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะอาศัยศิลาดำใช้เคล็ดวิชานี้ เขาต้องอาศัยตนเอง
นอกจากนี้...
เคล็ดนี้ใช้เข้ากันได้ดีกับกระบี่ของลินลี่ย์
การพัฒนาในรอบนี้นานมาก
บีบีได้ยินผนังภายในคุกศิลาดำสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดาย ลินลี่ย์ป้องกันเสียงทั้งหมดไว้
ภายในคุกศิลาดำ
ลินลี่ย์หมกมุ่นกับการฝึกโดยไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปทั้งหมด
“ฉัวะ!”
ลินลี่ย์แทงกระบี่ออกง่ายๆ
แต่กระบี่เงาลวงปล่อยรัศมีธาตุดินสีเหลือง
ทันใดนั้นทิศทางที่กระบี่ชี้ใส่ จะมีลูกโลกกลมขนาดสามเมตรก่อตัวขึ้น ขณะที่กระบี่เงาลวงแทงใส่
รัศมีกลมจะเริ่มหดตัวอย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
และระเบิดทำลาย!
14 ความคิดเห็น:
สุดยอดคับ ขอบคุณผู้แปล
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
ยังได้อีกนะ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
สงสัยคงต้องเจอหินลับมีดอีก 1ครั้ง เพื่อลองวิชา ก่อนศึกสุดท้ายสินะ อิ อิ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอฟาร์มแปป
ลินลีย์แข็งแกร่งไวขนาดนี้ พอจบศึก อิงู9หัวทูตมหาเทพตัวนั้นมีสยองอ่ะ เคยเปนศัตรูกะลินลีย์
คำถามคือ บลูไฟร์เออ็งหายไปไหนหลายตอนเกิ้น
ขอบคุณมากครับ
ผมว่าคงเมา แฮงค์อยู่แน่นอน ตื่นมาอีกที สงครามสุดท้าย
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น