วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 37 สุดยอดไม้ตาย


เล่ม 19 เติบโตเปลี่ยนแปลง - ตอนที่ 37 สุดยอดไม้ตาย
บีบีตะลึง..และจากนั้นเขาดีใจแทบคลั่ง  เขาโยนผลไม้ในมือที่กินไปครึ่งไปข้างหนึ่ง  ฮ่าฮ่า, พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านจะต้องบรรลุระดับใหม่ได้ภายในสามร้อยปี  ข้าพูดถูกไม่ใช่หรือ?   นี่แค่สามปีแต่ท่านก็บรรลุผ่านสภาพคอขวดได้!  ในการหลอมรวมเคล็ดลึกลับยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งเคล็ดก็ยากมากยิ่งขึ้น

เมื่อผู้ฝึกบรรลุระดับใหม่ นั่นเป็นเครื่องหมายว่าพลังของผู้นั้นจะเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างไม่ธรรมดา!
 “ข้าบรรลุระดับใหม่จริงๆ  ข้าบรรลุก่อนจะถึงศึกสุดท้าย”  ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้น  จากก้นบึ้งหัวใจของเขา  ความยากลำบากจากการหลอมรวมเคล็ดลึกลับสามเคล็ดเพิ่มเป็นสี่เคล็ดนับเป็นเรื่องยากมาก  ตอนนี้ในสมรภูมิมหาพิภพ  ในที่สุดแล้วเขาไม่ใช่ผู้บัญชาการระดับล่างต่อไป  ถ้าเขาเผชิญพบเจอผู้บัญชาการที่น่ากลัว เขาก็สามารถสู้ตอบโต้ได้
ผู้บัญชาการที่ไม่กลัวการท้าทายต้องไม่มีจุดอ่อนอย่างสิ้นเชิง  ในอดีตพลังป้องกันวิญญาณของลินลี่ย์ยังอ่อนแอ  แต่ตอนนี้ในแง่พลังป้องกันวิญญาณ  เขาไม่มีจุดอ่อนอีกต่อไป  การหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ดและได้พลังสนับสนุนจากพลังวิญญาณเทพธรรมชาติสีฟ้าก็ยังเพิ่มขึ้นเช่นกัน  ขณะที่สมบัติมหาเทพชำรุดสำหรับปกป้องวิญญาณก็เหมือนกัน  ความจริงลินลี่ย์ไม่กลัวพลังโจมตีวิญญาณจากยอดฝีมือระดับเดียวกับรีสเจมและมอนเตโลอีกต่อไป
แต่แน่นอนว่า..ถ้าเขาไปเจอกับเทพชั้นสูงระดับพารากอน  ลินลี่ย์ต้องเผ่น  ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์เท่านั้น ต่อให้เป็นรีสเจมพบเจอกับพารากอน เขาก็ยังไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้
 “ข้าอยากจะออกไปลุยนานแล้ว  ตอนนี้ท่านบรรลุพลังระดับใหม่ได้แล้ว พี่ใหญ่!  ออกไปข้างนอกกันเถอะ”  บีบีดีใจอย่างบอกไม่ถูก  “เราต้องทนอยู่ในที่บ้าๆ นี่มาเกือบหกร้อยปีแล้ว ได้เวลาที่เราสองพี่น้องต้องออกไปแสดงพลังเสียที”  บีบีเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ลินลี่ย์เพียงแต่หัวเราะ  จากนั้นส่ายศีรษะ  “อย่าเพิ่งใจร้อน”
 “จะให้ข้าไม่ใจร้อนได้ยังไง?  ข้าใจร้อน!  บีบีจงใจเม้มริมฝีปาก  “ท่านก็มีพลังเพิ่มแล้ว เรายังต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีกหรือ?”
 “ไม่, แม้ว่าข้าจะหลอมรวมเคล็ดได้สี่เคล็ดสำเร็จ  แต่ข้ายังไม่ได้พัฒนาพลังโจมตีที่เหมาะกับตัวข้าเลย”  ลินลี่ย์หัวเราะ
การหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างๆ จะส่งผลให้พลังโจมตีที่ทรงพลังมีรูปแบบต่างกันไปด้วยเช่นกัน
บางคนเชี่ยวชาญในทางสนับสนุน ขณะที่คนอื่นเชี่ยวชาญโจมตีวิญญาณหรือโจมตีวัตถุ หรือพรางตัวและหลบหลีก..ในช่วงเวลาสั้นๆ  หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่เคล็ด  พวกเขาจะพัฒนาทักษะที่เหมาะกับตัวพวกเขา
ในอดีตทักษะหลักของลินลี่ย์ก็คือสนามพลังศิลาดำ และพลังผ่าฟ้า
อย่างไรก็ตามลินลี่ย์มีพลังเพิ่มมากขึ้น สุดยอดไม้ตายของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
 “โอว.. สุดยอดไม้ตายหรือ?”  บีบีหัวเราะเบาๆ  จากนั้นนั่งลงที่ข้างถ้ำ  “พี่ใหญ่, เชิญพัฒนาตามที่ท่านต้องการเลย  ข้าจะมองเฉยๆ โดยไม่พูดอะไร!  ใช่แล้วท่านจะต้องใช้เวลาพัฒนาวิชาของตนเองนานไหม?”
 “ข้ามีความคิดของตัวเองบางอย่างแล้ว  น่าจะใช้เวลาไว”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
จากนั้นลินลี่ย์ก็เริ่มพัฒนาสุดยอดวิชาของตนเอง  เวลาผ่านไปและมีการทดสอบต่อเนื่อง ลินลี่ย์เพราะกลัวว่าถ้ำจะเสียหายจึงสร้างคุกศิลาดำไว้ และทดสอบภายในนั้นอย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะมีพลังรั่วไหลออกมาจากเขา แต่ก็ยังอยู่ภายในคุกศิลาดำ
มืดสนิทไม่มีร่องรอยแห่งแสงที่สามารถเห็นจากคุกศิลาดำ
ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่  ใจของเขามีภาพผุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า
 “นี่คือพลังป้องกันการโจมตีวัตถุ ควรจะเริ่มที่เกราะชีพจรเก่าของข้า  จากนั้นค่อยปรับแต่งมัน...”  ลินลี่ย์ในอดีตไม่ค่อยใส่ใจพลังป้องกันการโจมตีวัตถุเท่าใดนัก  เพราะร่างมังกรแปลงของเขาทรงพลังมากพออยู่แล้ว  อย่างไรก็ตามเวลานี้เมื่อเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สี่เคล็ด  เมื่อใช้พลังมหาเทพเพื่อเสริมให้พลังป้องกันของเขา เพิ่มขึ้นเทียบได้กับร่างมังกรแปลง จึงเป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะไม่ใส่ใจในการเพิ่มชั้นป้องกันพิเศษ
ภายในคุกศิลาดำที่มืดมิด ลินลี่ย์ยังคงวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง
 “แครกกกก...”
พลังเทพธาตุดินยังคงแผ่ออกมาจากร่างของลินลี่ย์  ในใจของลินลี่ย์ กลไกอย่างหนี่งหลังจากที่ใช้พลังขยายมาถึงใจ  พลังเทพธาตุดินที่รายล้อมร่างเขาเปลี่ยนวิธีการไม่หยุด
ร่างหลักของเขาและร่างแยกธาตุดินร่วมฝึกด้วยกัน  หลังจากใช้เวลาสิบเอ็ดวัน ในที่สุดลินลี่ย์ก็พัฒนาสุดยอดไม้ตายที่ทำให้เขาพอใจ
 “เกราะนี้ ถ้าสร้างจากพลังเทพธาตุดิน ยังด้อยกว่าพลังในร่างมังกรของข้า  อย่างไรก็ตามเมื่ออาศัยพลังมหาเทพ  พลังก็จะเหนือกว่าร่างแปลงมังกร  ใช่แล้วเกราะนี้สร้างมาจากพลังเทพธาตุดิน  ข้าเรียกว่าเกราะธาตุดิน”  ลินลี่ย์อดคิดถึงมันไม่ได้  ดังนั้นเขาเลือกชื่อธรรมดา จากนั้นวิเคราะห์ถึงพลังป้องกันวิญญาณของเขาต่อ
ลินลี่ย์ใส่ใจเกี่ยวกับพลังป้องกันวิญญาณของเขาสูงมาก
ที่สำคัญวิญญาณของคนเป็นพื้นฐานของเขา  ในทะเลจิตสำนึกของลินลี่ย์มีพลังวิญญาณมากมายและสิ่งต่างๆ ก็ผุดขึ้นตามๆ กันให้เขาได้ทดสอบ
พลังกฎธรรมชาติธาตุดินมีเคล็ดที่ลึกซึ้งมาก โดยแบ่งเคล็ดลึกลับออกเป็นหกอย่าง และต้องเชี่ยวชาญให้ได้ในแต่ละกฎไม่มีอะไรมากไปกว่าได้รับพื้นฐานความเข้าใจในกฎธาตุดิน  เพียงเมื่อหลอมรวมได้ เขาจะได้รับความรู้ความเข้าใจกฎธรรมชาติลึกซึ้งขึ้นไปอีก
ตัวอย่างเช่น เคล็ดชีพจรโลกเริ่มกับจำนวนชั้นรวม 256 ชั้น และจากนั้นหลอมรวมต่อเนื่องและลดชั้นลงทีละคลื่น นั่นมีหลักการอย่างเดียวกัน... ยิ่งหลอมรวมเคล็ดลึกลับของกฎธาตุดิน ก็ยิ่งเข้าใจได้มาก  ลินลี่ย์หลอมรวมได้สี่เคล็ด และนี่เป็นผลให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นทั้งพลังป้องกันวิญญาณและพลังป้องกันการโจมตีหยาบ
 “วงจรความก้าวหน้ายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง พลังป้องกันวิญญาณนี้ก็คงพอแล้ว”
หลังจากใช้เวลาเก้าวัน พลังป้องกันวิญญาณของเขาลินลี่ย์ก็มาถึงขีดจำกัด  นอกจากลินลี่ย์สามารถเข้าใจเคล็ดลึกลับได้เพิ่มขึ้น วิธีของเขาใช้พลังกฎธรรมชาติจนถึงที่สุด
 “ในเวลายี่สิบวัน ข้าก็เชี่ยวชาญวิธีป้องกันวิญญาณและพลังป้องกันธาตุหยาบ  ตอนนี้..ข้าจำเป็นต้องเพ่งส่วนที่สำคัญที่สุด คือพลังโจมตีวัตถุ”
ลินลี่ย์รู้ดีว่าเคล็ดลึกลับที่เขาหลอมรวมก็คือ เคล็ดชีพจรโลก เคล็ดแก่นธาตุดิน เคล็ดพลังธาตุ และเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วง การหลอมรวมเคล็ดเหล่านี้เหมาะสมที่สุดกับพลังโจมตีธาตุวัตถุ  นอกจากนี้ในร่างมังกร ร่างของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเหลือเชื่อ ถ้าไม่ใช้พลังโจมตีวัตถุถือเป็นการสูญเปล่าอย่างมาก
ลินลี่ย์เริ่มเพ่งและพัฒนาสุดยอดวิชาโจมตีทันที
การวิเคราะห์สุดยอดวิชาโจมตีซับซ้อนมาก
ตัวอย่างเช่น พลังป้องกันวิญญาณ ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับส่วนของแก่นธาตดิน  สำหรับพลังป้องกันพลังโจมตีวัตถุ  ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับสนามพลังโน้มถ่วง  ดังนั้นจึงง่ายมากที่จะพัฒนาวิชา
แต่สุดยอดวิชาโจมตีนั้นแตกต่างออกไป  นี่จะต้องเกี่ยวกับสี่เคล็ดทั้งหมด
เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำ อย่างเงียบๆ ในพริบตาเดียว ลินลี่ย์ใช้เวลาไปสองเดือนเต็มกับการทำงานในคุกศิลาดำ
ภายในถ้ำ
 “ฮึ่ม!  บีบีย่นจมูกจ้องมองดูคุกศิลาดำที่อยู่ด้านข้าง  “พี่ใหญ่บอกว่าจะฝึกอย่างเร็วมาก  แต่ก็ผ่านไปหกสิบสามวันแล้ว เขาก็ยังฝึกไม่เสร็จ”
ทันใดนั้น....
คุกศิลาดำไร้เสียงสำเนียงค่อยๆ สลายลง พลังงานกลับคืนสู่โลกและเหลือไว้แต่เพียงลินลี่ย์ในชุดยาวสีฟ้าและตาของเขายังหลับอยู่  เขายืนนิ่งกับที่ มือยังคงถือกระบี่เงาลวง  เห็นได้ชัดว่าลินลี่ย์ไม่ได้บรรจุพลังเทพในกระบี่ ขณะที่เห็นได้ชัดว่ากระบี่อยู่ในมือเขา
 “ฮ่าฮ่า!  บีบีกระโดดเข้ามาทันที
ลินลี่ย์ลืมตามองดู หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
 “พี่ใหญ่!  ท่านทำสำเร็จแล้วหรือ?”  บีบีหัวเราะ
 “ใช่ ข้าทำได้สำเร็จ”  ลินลี่ย์หัวเราะพยักหน้า
 “แข็งแกร่งขนาดไหน?”  บีบีพูดอย่างคาดหวัง
 “แข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อนแน่นอน”  ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ไม่ตายผ่าฟ้าของข้าเพียงแต่หลอมรวมพียงสองเคล็ดเท่านั้น  เคล็ดชีพจรโลกและเคล็ดพลังธาตุ ทั้งนี้เพราะไม่มีวิธีที่ข้าจะเพิ่มเคล็ดแก่นธาตุดินลงไปได้เลย  แต่...ตอนนี้พอข้าหลอมรวมเคล็ดสนามพลังโน้มถ่วง ข้าสามารถเพิ่มเคล็ดแก่นธาตุดินเข้าไปในพลังโจมตีของข้าได้เช่นกัน  ตอนนี้มีสี่เคล็ดลึกลับแล้ว  พลังของกระบี่นี้เพิ่มขึ้นกว่าในอดีตอีกหลายสิบเท่า!
ลินลี่ย์มีความมั่นใจมาก  ในอดีตกระบี่ของเขาอาศัยพลังของร่างมังกรแปลงของเขาเป็นหลักซึ่งเป็นเหตุผลให้สามารถคุกคามผู้บัญชาการอื่นได้
แต่ตอนนี้ เพียงแค่อาศัยเคล็ดความรู้ของเขาลินลี่ย์ก็สามารถอยู่ในระดับเดียวกับผู้บัญชาการคนอื่นได้  บวกกับพลังของร่างมังกรและกระบี่เงาลวง ตอนนี้ลินลี่ย์มีคุณสมบัติให้มั่นใจตนเอง
 “โฮะโฮะ, พี่ใหญ่, ลองดู มาลองดูกัน”  บีบีร้องเรียกตื่นเต้นขณะมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์ยิ้มและพยักหน้า
 “เมื่อต่อสู้ ข้าจะใช้สนามพลังศิลาดำก่อน จากนั้นใช้พลังกระบี่โจมตี”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะขยายสนามพลังศิลาดำที่ทรงพลัง  ขณะที่ลินลี่ย์เตรียมจะใช้กระบี่ เมื่อเห็นรัศมีแสงสีเหลืองเรืองแสงขึ้นในสนามพลังศิลาดำ ลินลี่ย์ชะงักทันที ยืนนิ่งกับที่เหมือนคนโง่งม
บีบีตกใจและถามทันที  “เฮ้, พี่ใหญ่, ท่านทำอะไร?”
แต่ดูเหมือนลินลี่ย์ไม่ได้ยินเขา
 “พี่ใหญ่ทำอะไร?  เขาบอกว่าเขาจะแสดงฝีมือให้ข้าดูไม่ใช่หรือ?”  บีบีไม่เข้าใจ
 “ฮ่าฮ่า...”
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะลั่นทันที
 “พี่ใหญ่, มีอะไร, มีอะไร?”  บีบีลนลานพูด
 “อย่างนั้นข้าก็ทำได้เหมือนกัน  ข้าก็ทำได้เหมือนกัน!  ข้านี่โง่เกินไป โง่จริงๆ!  หน้าของลินลี่ย์เต็มไปด้วยอาการดีใจ
 “พี่ใหญ่?”  บีบีรีบเรียก
ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ค่อยคิดถึงบีบี เขาหันหน้ามองและหัวเราะ  “บีบี! เมื่อครู่นี้เองข้าเกิดความคิดอย่างหนึ่งเป็นเหตุผลให้ข้าค่อนข้างตื่นเต้น”
 “คิดอะไรได้หรือ?”  บีบีขมวดคิ้ว
 “ถูกแล้ว!  ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะ  “เจ้ายังจำวิธีที่เมื่อตอนเราเผชิญพบกับพารากอนไบเออร์ได้ไหม  พลังโจมตีของเขาที่มีต่อเจ้าจะตรึงความเคลื่อนไหวของเจ้าไว้ใช่ไหม?”
 “ใช่แล้ว” บีบีนึกย้อนไปถึงภาพที่เขารู้สึกจนใจอีกครั้งหนึ่ง  “พลังโจมตีนั้นของเขา...เมื่อมันมาถึงข้า  ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าพื้นที่มิติบีบข้าเอาไว้  ความเร็วของข้าตกลงอย่างมากมาย  ความจริงข้ายังสามารถเคลื่อนไหวได้  เพียงแต่ความเร็วตกลงไปอย่างมาก ช้ากว่าปกติถึงสิบเท่า  ด้วยความเร็วช้าขนาดนั้น ในการต่อสู้จริงก็หมายความว่าข้าจะถูกฆ่า”
ลินลี่ย์หัวเราะ  “เมื่อครู่นี้เมื่อข้าเห็นสนามพลังโน้มถ่วงของข้า  ข้าคิดถึงคนผู้นั้นได้ทันที  ข้าเองก็สามารถทำให้ศัตรูมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามิติพื้นที่บีบเขาได้ และทำให้เขารู้สึกเหมือนกับปลาที่ติดอยู่ในโคลน ความเร็วตกลงอย่างมากมาย”
 “เอ๋?” บีบีไม่เข้าใจ  “พี่ใหญ่!  สนามพลังศิลาดำของท่านมีแรงดึงดูดใช้ได้เพียงทิศทางเดียว  แล้วจะบีบอัดคนได้ยังไง?”
ความจริงพลังของแรงดึงดูดของสนามพลังศิลาดำจะใช้ดึงขึ้น ดูดลง ผลักออกหรือไม่ก็ดึงดูดเข้าหาลินลี่ย์
มีความเป็นไปได้เพียงทิศทางเดียว!
ตัวอย่างเช่น แรงโน้มถ่วงลงที่ใช้กักศัตรูจะส่งผลให้ศัตรูคนหนึ่งเมื่อเผชิญกับกระบี่ของลินลี่ย์ยากจะหาทางบินขึ้นได้  แต่สามารถดำลงไปใต้ดินได้ง่าย  แม้ว่าเขาจะไม่สามารถดำดิน ความเคลื่อนไหวขึ้นหน้า ถอยหลังและไปด้านข้างจะทำได้ไม่ถนัดนัก
แต่พื้นที่บีบอัดจะแตกต่างออกไป
มันจะทำให้นักสู้รู้สึกเหมือนกับว่าถูกบีบอัดจากทุกทิศทาง  ไม่ว่าท่านจะเคลื่อนไหวยังไง  พลังจำกัดก็ยังมากมายน่าทึ่ง เหมือนกับถูกจับอยู่ในตาข่าย
 “ฮ่าฮ่า...”  ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะทันที  “บีบี, ข้าเคยเจอกับพลังจำกัดความเคลื่อนไหวเมื่อตอนอยู่ที่ภูเขาอะเมทิสต์แล้ว”
ลินลี่ย์ยังคงจำได้ชัดถึงเมื่อตอนที่เขาใช้เคล็ดเดินดินในภูเขาอะเมทิสต์  เขาไปเผชิญพบเจอกับรีสเจมภายในภูเขา  หลังจากนั้นรีสเจมกักลินลี่ย์ไว้ในสนามพลังอะเมทิสต์เป็นเหตุให้แรงดึงดูดใช้พลังบีบอัดใส่ลินลี่ย์  แม้แต่กระดูกของเขาก็เริ่มแตกเป็นชิ้นและโลหิตไหลออกมา  นี่เป็นแรงกดที่มาจากทุกทิศทาง!
 “พลังกระบี่โจมตีในปัจจุบันของข้าเหมือนกับยอดฝีมือกฎธรรมชาติธาตุดินอื่น แฝงไปด้วยพื้นฐานแรงดึงดูด  สิ่งที่ข้าต้องการทำก็คือทำให้สนามพลังศิลาดำไม่ยึดข้าเป็นจุดศูนย์กลางต่อไป และเพื่อให้มันปลดปล่อยพลังเข้าไปในกระบี่ของข้าเอง”  ลินลี่ย์รู้ว่านี้เป็นเรื่องที่ยากมาก
ถ้าลินลี่ย์ไม่เข้าใจหลักการของสนามพลังอะเมทิสต์และเพียงแต่ใช้งานได้แต่พื้นฐานศิลาดำในการใช้งานสนามพลังศิลาดำ  ก็ไม่มีทางเลยที่จะหลอมรวมความสามารถนี้ของสนามพลังอะเมทิสต์เข้ามาใช้ได้
ที่สำคัญศิลาดำอยู่ภายในร่างของลินลี่ย์ซึ่งเป็นการรับประกันได้ว่าถ้าลินลี่ย์อาศัยศิลาดำสนามพลังโน้มถ่วงจะใช้ร่างลินลี่ย์เป็นศูนย์กลาง
แต่ลินลี่ย์มีระดับความเข้าใจเกี่ยวกับสนามพลังศิลาดำมากขึ้น
เมื่อเขาใช้เวลาอยู่ในภูเขาอะเมทิสต์ห้าร้อยปี  ลินลี่ย์ได้ความรู้แจ้งระดับความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีใช้รังสี 108 ของพลังเทพ แม้ว่าพลังที่เขาใช้กับรังสีเหล่านั้นจะไม่ทรงพลังเท่ากับตัวศิลาดำเอง แต่ความแตกต่างก็มีไม่มากนัก
 “บีบี คอยก่อน  คอยให้ข้าใช้วิชาต่อไป!  เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ทันทีที่กระบี่ของข้าเข้าไปใกล้บางคน  มันจะทำให้คนผู้นั้นรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาถูกบีบอัดจากรอบด้าน!  แม้ว่าข้ายังจะด้อยกว่าไบเออร์  แต่ข้าคงไม่ด้อยจนห่างไกลแน่”  ลินลี่ย์คาดหวังไม้ตายใหม่ของเขาอย่างกระตือรือร้น
ลินลี่ย์สร้างสนามพลังศิลาดำอีกครั้งทันที  จากนั้นก็เข้าไปศึกษาเรียนรู้
เคล็ดนี้..จะช่วยกักศัตรูไว้ในทิศทางหนึ่งและบีบอัดพวกเขา
เมื่อลินลี่ย์ใช้คุกศิลาดำอีกครั้งเพื่อวิเคราะห์เคล็ดวิชานี้  เขาเริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวังทันที
ทั้งนี้เป็นเพราะเคล็ดที่เขาใช้กับศัตรูขณะที่เป้าหมายถูกบีบีอัด  ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะอาศัยศิลาดำใช้เคล็ดวิชานี้  เขาต้องอาศัยตนเอง
นอกจากนี้...
เคล็ดนี้ใช้เข้ากันได้ดีกับกระบี่ของลินลี่ย์
การพัฒนาในรอบนี้นานมาก  บีบีได้ยินผนังภายในคุกศิลาดำสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง  แต่น่าเสียดาย ลินลี่ย์ป้องกันเสียงทั้งหมดไว้
ภายในคุกศิลาดำ
ลินลี่ย์หมกมุ่นกับการฝึกโดยไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปทั้งหมด
 “ฉัวะ!
ลินลี่ย์แทงกระบี่ออกง่ายๆ  แต่กระบี่เงาลวงปล่อยรัศมีธาตุดินสีเหลือง  ทันใดนั้นทิศทางที่กระบี่ชี้ใส่ จะมีลูกโลกกลมขนาดสามเมตรก่อตัวขึ้น  ขณะที่กระบี่เงาลวงแทงใส่ รัศมีกลมจะเริ่มหดตัวอย่างรวดเร็ว
 “ปัง!
และระเบิดทำลาย!

14 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สุดยอดคับ ขอบคุณผู้แปล

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Ko Surapong กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Toffee กล่าวว่า...

ยังได้อีกนะ ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Ko Surapong กล่าวว่า...

สงสัยคงต้องเจอหินลับมีดอีก 1ครั้ง เพื่อลองวิชา ก่อนศึกสุดท้ายสินะ อิ อิ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ขอฟาร์มแปป

Unknown กล่าวว่า...

ลินลีย์แข็งแกร่งไวขนาดนี้ พอจบศึก อิงู9หัวทูตมหาเทพตัวนั้นมีสยองอ่ะ เคยเปนศัตรูกะลินลีย์

Unknown กล่าวว่า...

คำถามคือ บลูไฟร์เออ็งหายไปไหนหลายตอนเกิ้น

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

มะเหนก กล่าวว่า...

ผมว่าคงเมา แฮงค์อยู่แน่นอน ตื่นมาอีกที สงครามสุดท้าย

Rewma กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น