ตอนที่ 745 สิบวินาทีฆ่าหนึ่งคน?
ในความรู้สึกของเย่ว์หยางพลังระเบิดหกแสงทั้งหมดแทบจะเท่ากับระเบิดปรมาณู
ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย
ความรู้สึกถึงพลังทำลายล้างเต็มอยู่ในใจของผู้อยู่ในเหตุการณ์
พวกเขาตกตะลึงกันทุกคน
“หลบ” เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาเป็นคนแรกเขาโอบตั่วตั่วไว้ในวงแขนปกป้องนางด้วยปีกเพลิงอมฤต
และห่างออกไปครึ่งทางเขาฉุดมืออิคคาไปหลบอยู่ด้านหลังจ้าวปีศาจโบราณ ความจริงในแง่พลังป้องกันอสูรสาวทั้งสองไม่ได้อ่อนแอกว่าเขา
แต่จิตสำนึกทำให้เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาเช่นนั้นทำให้เขารู้สึกว่าจะต้องปกป้องพวกนาง
“ซวยบัดซบจริงๆ!”
จ้าวปีศาจโบราณเองก็ต้องการช่วยเย่เซียวและจื่อกวงบริวารของเขาเอง
เย่ว์หยางใช้โซ่ชีวิตฉุดดึงเขาและเสี่ยวเหวินหลียังใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการตรึงจ้าวปีศาจโบราณไว้ในกลางอากาศ
เมื่อจ้าวปีศาจโบราณทำลายพันธนาการเป็นอิสระ
ลูกบอลพลังงานทั้งหกก็เกิดระเบิดขึ้นแล้ว
คลื่นแรงระเบิดที่น่ากลัวแผ่ขยายออกไปอย่างน่ากลัว
ภายในรัศมีระเบิดขนาดใหญ่
ทุกอย่างพังพินาศ เยี่ยสิ่วและเป่ยหวาดผวา
คนหนึ่งไปทางทิศตะวันออก และอีกคนหนึ่งเผ่นไปทางทิศตะวันออกอย่างจนใจ แต่จำต้องหนีอย่างหวาดผวา แต่ความเร็วในการหนีของพวกเขาช้ากว่าแรงระเบิด
ร่างของพวกเขาไหม้เกรียมหล่นกระแทกภูเขาห่างออกไปหมื่นเมตร เย่เซียวและจื่อกวงไม่มีเวลาพอจะหนี
จ้าวปีศาจโบราณได้แต่มองอย่างช่วยอะไรไม่ได้
มารดาของอาหงไม่สามารถต้านทานแรงระเบิดได้แน่นอน
แต่นางกดปุ่มกลไกปิดประตูที่ฐานแท่นบูชายัญโดยไม่รู้ตัว
แท่นบูชายัญและรูปสลักหักพังเทพสตรีตกอยู่ภายในรัศมีระเบิดเป็นสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่
จักรพรรดินีฟ้าที่อยู่ในสภาพล่องหนกางโล่พลังป้องกันไว้ได้
โล่พลังงานจะมีอักษรรูนธาตุทองและอสูรพิทักษ์ปกป้องตัวหนึ่ง
ด้วยพลังตาทิพย์ของเย่ว์หยางไม่สามารถมองผ่านได้
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าใด
หลังจากระเบิดครั้งใหญ่ทำลายภูเขาในหุบเขาทั้งหมด
ในที่สุดทัศนวิสัยก็ค่อยๆ ชัดขึ้น
ยอดเขาภูเขาและหุบเขาหายไป
เห็นแต่ช่องว่างเว้าแหว่งขนาดใหญ่ เหมือนโดนสุนัขยักษ์กัดจนแหว่ง กรวดและหินจำนวนมากถูกแรงระเบิดกวาดลอยขึ้นไปในท้องฟ้า
และครั้งนี้เกิดรอยแยกลึกลงไปและพื้นลึกลงไปเป็นอุโมงค์ลึกหลายร้อยเมตรเหมือนสัตว์ร้ายขนาดยักษ์อ้าปากรออยู่
มีอย่างเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือแท่นบูชายัญ
ที่ฐานด้านล่างแท่นบูชายัญยังมีเสาค้ำอยู่ข้างล่าง
เพียงแต่เพราะสุดยอดผนึกนั้นไม่ได้ป้องกันพื้นที่โดยรอบเผื่อไว้
จึงกลายเป็นเหมือนเสาหินกลมค้ำไว้โดยมีเหวลึกอยู่รอบๆ แท่นบูชายัญ
เมื่อเย่ว์หยางประคองตั่วตั่วและอิคคาลงบนพื้นแท่นบูชายัญอย่างนุ่มนวล
และพบว่าแท่นบูชายัญไม่ได้รับความเสียหายแม้เท่าเส้นผม เพียงแต่ระเบิดทำให้เกิดพลังแผดเผาโดยรอบ
จึงทำให้เกิดเปลวไฟใหญ่เหมือนกับหม้อต้มน้ำร้อน
ภายใต้เสาค้ำแท่นบูชายัญ
จ้าวปีศาจโบราณช่วยเย่เซียวให้หลีกหนีจากการระเบิดครั้งใหญ่
ครั้งนี้จื่อกวงตลอดทั้งตัวไหม้ดำ
เขาหมดสติและยังไม่ฟื้น
ในท้องฟ้าสูงมีร่างหนึ่งที่หมดสติกำลังร่วงอย่างเร่งร้อน
จ้าวปีศาจโบราณรีบคว้าตัวเขาไว้
เป็นเย่เซียวนั่นเอง
เมื่อครู่ก่อนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเย่เซียวผลักจื่อกวง ดังนั้นจึงเป็นเขาที่เสี่ยงเข้ารับพลังระเบิดแทน เขาทำให้จื่อกวงมีโอกาสรอด
และเพราะหลบหลีกแรงระเบิดใหญ่บินขึ้นไปในอากาศ.. แม้ว่าเขาจะไม่ตาย
แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบตาย
เยี่ยสิ่วซึ่งเป็นคนแรกที่หนี เขาถูกแรงระเบิดกระเด็นไปกองรวมกับกองกรวดหิน
หน้าตาเขามอมแมมไม่เหลือเค้าความหล่ออีกต่อไป
ถ้าไม่ใช่เพราะระยะทางที่เขาหนีไปได้ไกลจนสุดขอบเขตแรงระเบิดใหญ่
และด้วยพลังในปัจจุบันของเขา คงจะไม่รอดจากแรงระเบิดครั้งใหญ่เป็นแน่ อาเป่ยยังดีกว่าเยี่ยสิ่ว แต่ไม่มากเท่าใดนัก
หลังจากจื้อจุนและราชาเก้าแสงสู้กัน พวกเขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองไร้พลังอำนาจ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักสู้ปราณฟ้า
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขาก็แค่ใหญ่กว่ามดเท่านั้น
นักสู้ปราณฟ้าระดับราชา มีพลังที่น่ากลัวมาก
ระเบิดพลังธาตุหกแสงยังร้ายกาจขนาดนั้น
แล้วจะน่ากลัวขนาดไหนถ้าผสานกับพลังเก้าแสง?
เย่ว์หยางมองดูรอบๆ
เขาไม่ใส่ใจถึงความเป็นความตายของเย่เซียว จื่อกวงและคนอื่นมากนัก
มีเพียงคนเดียวที่เขาห่วง
นั่นคือจื้อจุน!
แม้ว่าคนที่ถูกกระสุนระเบิดพลังธาตุทั้งหกก็คือราชาเก้าแสง
แต่จื้อจุนก็ยังอยู่ในใจกลางจุดระเบิดด้วยเช่นกัน เกิดอะไรขึ้นกับนาง? นางหลบได้อย่างปลอดภัยหรือได้รับบาดเจ็บ?
ยังคงไม่เห็นจื้อจุน แต่ราชาเก้าแสงเริ่มปรากฏตัว
ลึกลงไปในอุโมงค์ใต้แท่นบูชายัญ
ร่างของราชาเผ่าเก้าแสงแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเพียงผิวเผินหลั่งโลหิต
แต่ร่างเปลือยท่อนบนไม่ได้รับความเสียหายเท่าใดนัก
ไม่มีรอยไหม้แม้แต่ปลายเส้นผม
ใบหน้าของเขาไม่มีแววโกรธและหยิ่งยโส
มีแต่จุดสีดำเล็กน้อยซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าจุดที่เขาอยู่เป็นใจกลางพื้นที่ระเบิดครั้งใหญ่
ระเบิดรุนแรงขนาดนั้น
ไม่เพียงแต่เขาไม่ตาย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วยหรือ?
เจ้าผู้นี้เป็นคนหรือเปล่า?
เย่ว์หยางเห็นว่ามีมุกร่วงหล่นออกมา
เดิมทีเขาคิดว่าเขายังสามารถทำให้ราชาเก้าแสงบาดเจ็บที่แขนหรือทำร้ายซี่โครงหรือโจมตีเขาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน...
คาดไม่ถึงเลยว่าคนผู้นี้ยังรอดชีวิตอยู่ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดหกธาตุ เย่ว์หยางคิดว่าเขาคงจะหลบได้ในช่วงสุดท้าย
ทนต่อระเบิดพลังธาตุทั้งหกได้
โดยที่ร่างกายไม่ได้รับความเสียหาย นับว่าไม่เลว
คนผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
เย่ว์หยางรู้สึกจนใจ
แน่นอนว่าเย่ว์หยางไม่รู้ว่าราชาเก้าแสงและราชาใจสิงห์ทั้งสองเป็นนักสู้แดนสวรรค์ระดับราชา
แต่พวกเขามีพลังเหนือกว่านักสู้ระดับราชาโดยทั่วไปมาก และใกล้จะเป็นนักสู้ระดับจักรพรรดิเต็มที ไม่ต้องพูดถึงราชาใจสิงห์
ราชาเก้าแสงรู้จักหอทงเทียนและแดนล่มสลายแห่งทวยเทพดีว่าทุกคนมิอาจได้มา แต่เขาก็ยังกล้าโน้มน้าวเผ่าตระกูลจนได้
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของเขา
ในแดนสวรรค์
ความทะเยอทะยานเป็นการแสดงความแข็งแกร่งโดยตรง
ราชาเก้าแสงมีความทะเยอทะยานต้องการสมบัติในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ
เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขามีพลังน่ากลัวเพียงไหน
“เห็นข้าปลอดภัยดีเจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”
ราชาเก้าแสงมองดูเย่ว์หยางพลางส่ายศีรษะถอนหายใจ จากนั้นเขาพูดอย่างจริงจัง “ความจริงข้ายังบาดเจ็บอยู่
พลังทำลายล้างของการผสานพลังหกแบบนี่ไม่ดีเลยจริงๆ”
“เฮ้, เจ้าจะเอาแต่อวดอ้างตนเอง
และชื่นชมตัวเองเท่านั้นเองหรือ?”
เย่ว์หยางไม่สามารถทนได้
คนผู้นี้ใช้พลังหกสายผสานโจมตี แต่เขายังกล้าชื่นชมตัวเองโดยตรงด้วยหรือ
“พลังระเบิดหกแสงอย่างนี้
ข้ายังยังสามารถใช้โจมตีได้อย่างน้อยอีกห้าสิบครั้ง แล้วเจ้าล่ะ
ยังจะสามารถหลบได้อีกกี่ครั้ง?”
ราชาเก้าแสงพยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายยอมแพ้
ในใจของเขาถือว่าเย่ว์หยางเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง ถ้าเขายินดีร่วมมือ อย่างนั้นแดนล่มสลายแห่งทวยเทพก็เข้าได้สะดวก
เย่ว์หยางจะได้รับการส่งเสริมให้มีความเชี่ยวชาญในกฎมิติภพภูมิเหมือนอย่างจื้อจุน
นอกจากนี้ถ้าทั้งสองเข้าร่วมสำรวจแดนล่มสลายแห่งทวยเทพย่อมเหมือนกับพยัคฆ์ติดปีกอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้าอาจจะหลบไม่ทันก็ได้” เย่ว์หยางเลิกคิ้วช้าๆ ในนัยน์ตาเขามีรอยยิ้มเย้ยหยัน “แต่ไม่ลองดูแล้วใครจะรู้?”
“เจ้าจะสู้จนถึงที่สุดสินะ?”
ราชาเก้าแสงรู้ว่าการเอาแต่โจมตีอย่างเดียวไม่มีผลลงเอยที่ดี
“ข้าแค่บอกว่าไม่แน่” เย่ว์หยางทำตัวเป็นเด็กดีทันที
และหันไปด้านข้างแสดงความเคารพ
“ข้าเชื่อฟังอาจารย์อยู่แล้ว
อาจารย์บอกให้ไปทางตะวันออก
รับรองว่าข้าไม่กล้าไปทางตะวันตก!”
“ระเบิดพลังหกสาย, ก็แค่นั้นเอง” จื้อจุนปรากฏตัวอยู่ใกล้เย่ว์หยาง
มือของนางประคองดวงสว่างเล็กๆ เหมือนดวงอาทิตย์สองลูก
ดวงสว่างสองลูกนี้ถูกควบกลั่นเป็นเวลานานแล้ว
ดูเหมือนไม่ต่างจากครั้งก่อน
แต่ภายในดวงสว่างนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าคว่ำดิน
ดวงพลังงานสว่างที่เพิ่งสร้างขึ้นก่อนนั้นไม่มีแก่นแกน
แต่ตอนนี้ดวงสว่างทั้งสองมีแกนพลังงาน
ผิวของมันมีคุณสมบัติคล้ายหลุมดำซึ่งดูดกลืนสรรพสิ่งได้ ที่สำคัญที่สุดแกนทั้งสองนี้ถูกควบคุมโดยจื้อจุน
พร้อมใช้งาน
ดวงพลังงานทั้งสองจะยังไม่หายไปเหมือนกับดวงพลังก่อนนี้
เมื่อมันดูดกลืนพลังงานอย่างเพียงพอ
ดวงพลังงานในปัจจุบันนี้เว้นแต่เป็นความต้องการของจื้อจุน
มันจึงจะหายไป
แต่มันจะไม่หายไปและสามารถทำลายศัตรูได้
เย่ว์หยางมองดูดวงพลังงานทั้งสอง
ใจของเขาสั่นสะท้าน
ทันใดนั้นเขามีความรู้สึกเข้าใจอย่างชัดเจน ดวงพลังงานทั้งสองนี้
ถ้าถูกขยายออกไปพันเท่า หมื่นเท่า แสนเท่า
ล้านเท่าและขยายขนาดจนเท่ามิติหลุมดำของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ก็จะเป็นผนึกเทพที่ใช้ผนึกนักสู้โบราณไม่ใช่หรือ?
ผนึกหลุมดำนี้สร้างได้อย่างไร?
เย่ว์หยางไม่สามารถค้นหาคำตอบนี้ได้
แต่บัดนี้ ในที่สุดเขาก็พบคำตอบ
ผนึกหลุมดำของแท้นี้ใช้กฎภพภูมิมิติและเจตจำนงสุดยอดฝีมือไร้เทียมทาน...
สิ่งที่จื้อจุนเชี่ยวชาญในตอนนี้ก็คือต้นแบบของมิติหลุมดำนี้ แม้ว่ายังจะห่างไกลจากผนึกหลุมดำ
แต่นางก็เข้าใจหลักการนั้น สิ่งที่ยังด้อยอยู่ก็คือการเสริมพลังงานและเจตจำนง
ถ้าหากมีเวลานางอาจสำเร็จวิชานี้ได้เหมือนสุดยอดนักสู้โบราณ
สามารถกักสิ่งมีชีวิตเข้าไปในมิติหลุมดำได้โดยตรงแทนที่จะใช้สิ่งนี้ฆ่า.. นั่นคือทักษะฝีมือที่น่ากลัวที่สามารถกักขังวิญญาณได้
ถ้าจื้อจุนมีฝีมือแบบนี้
อย่าว่าแต่จ้าวปีศาจโบราณเลย
จักรพรรดิชื่อตี้และราชาเผ่าเก้าแสง ต่อให้เป็นจักรพรรดินีฟ้าที่อยู่อย่างเงียบงันก็ไม่สามารถหลบหนีจากผนึกได้
การพิชิตนางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้กวาดล้างแดนสวรรค์ได้
ทำให้นางถูกกักอยู่ในมิติหลุมดำและไม่สามารถออกมาได้!
“ขอเวลาข้าสักสิบวินาที”
จื้อจุนไม่ได้ยิงดวงพลังงานที่น่ากลัวทั้งสอง
แต่ยังคงประคองกลั่นพลังอย่างต่อเนื่อง
นางส่งสัญญาณให้เย่ว์หยางบังนางเอาไว้
นางฟ้าโลหิตหกปีกที่บินอยู่รอบๆ นางเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเป็นอาวุธเทพร่างมนุษย์
“ได้เลย!”
เทียบกับเทพธิดาศึกสองพี่น้องอาเหยาอาหยูของเย่ว์หยางแล้ว
นางฟ้าโลหิตหกปีกยังมีศักยภาพและพลังต่อเนื่องที่ด้อยกว่า
แต่ภาพพจน์และความเชี่ยวชาญยังเหนือกว่าห่างไกล
อาเหยาและอาหยูในตอนนี้ไม่สามารถแปลงร่างเป็นอาวุธเทพร่างมนุษย์อย่างนางฟ้าโลหิตหกปีกได้
แต่กลับเพิ่มพลังให้กับจื้อจุนได้อย่างมากมายมหาศาล
กระบี่ในมือของจื้อจุนเปลี่ยนแปลงอย่างสง่างาม
ความสง่างามของนางโดดเด่นมิอาจดูแคลนได้
นางมีปณิธานราชันย์ที่ไร้เทียมทานและเพิ่มขยายขึ้นจนตอนนี้ไม่เป็นรองราชาเก้าแสงแต่อย่างใด
ลำแสงสีแดงฉายออกจากมือของอาวุธเทพร่างมนุษย์ไกลถึงเก้าไมล์
จื้อจุนเรียกคัมภีร์เพชรที่ใกล้จะยกระดับเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มทีออกมา
มือซ้ายของนางวางอยู่บนผิวคัมภีร์เหมือนกับไม่ตั้งใจ
แต่พื้นที่ทั้งหมดเปลี่ยนไปทันที นรกหินเพลิงของจ้าวปีศาจโบราณที่พังเสียหายด้วยพลังระเบิดหกแสงพังทลาย ยกเว้นแต่แท่นบูชายัญพื้นที่ที่เหลือถูกพลังระเบิดหกแสงทำลาย
เนื่องจากราชาเก้าแสงมีเจตนาจะครอบครองพื้นที่นี้ แม้แต่จักรพรรดิชื่อตี้และจักรพรรดินีฟ้าก็ยังลอบสังเกตการณ์
แต่จื้อจุนพลิกสถานการณ์อย่างนี้ ด้วยพลังปณิธานและสนามพลังทั่วพื้นที่ถูกสลายออกไป
แต่เป็นพลังปณิธานของจื้อที่ทำให้ทุกคนเสียวสันหลังแทน
นี่คือพลังปณิธานของยอดฝีมือในยอดฝีมือ และพลังปณิธานนั้นตรึงร่างราชาเก้าแสงไว้
แม้ว่าจื้อจุนจะยังไม่ได้ยิงพลังออกมาก็ตาม แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าไม่ว่าราชาเก้าแสงจะหนีไปที่ใดในโลก
ไม่ว่าเขาจะเร็วเพียงไหน เขาไม่มีทางหลบหนีพ้นจื้อจุนได้
“หือ?” ราชาเก้าแสงหน้าถอดสีทันที
เขายังคงรู้สึกได้ถึงสภาวะวิกฤติได้
กระบี่ของฝ่ายตรงข้ามมิอาจหลีกเลี่ยงได้?
อะไรกัน ไม่สามารถหลีกหนีได้หรือนี่?
พลังพิฆาตของสนามพลังและปณิธานขนาดนี้ เมื่อเผชิญกับกระบี่นี้ ผลที่ตามมาช่างน่ากลัวจริงๆ..
จักรพรรดินีฟ้าซึ่งเงียบมาได้ชั่วขณะจู่ๆ
ก็หยุดเอาแต่ดูและพูดขึ้นเป็นครั้งแรก
“เด็กน้อยทั้งสองน่าสนใจมากจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นแม่สาวผู้ทรงพลัง หรือเจ้าเด็กน้อยที่ยังเก็บซ่อนพลังยังไม่ได้ทุ่มออกใช้เต็มที่ หอทงเทียนนับเป็นสถานที่ดีงามอย่างแท้จริง
คนยุคหลังที่มีพรสวรรค์ปรากฏตัวออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องได้เรื่อยๆ ตงเย่า!
เจ้าคงไม่ถือสานะถ้าคนแก่จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย?”
“ตงเย่าได้รับความเอ็นดูจากบรรพชน ข้ามิกล้า”
ราชาเก้าแสงมีความสุข เขาคิดว่าเมื่อบรรพชนเข้ามาแทรกแซง เย่ว์หยางและจื้อจุนถึงจะไม่ตายหรือกลัว
เมื่อพวกเขาเอาชนะทั้งสองได้
พวกเขาจะได้รับกุญแจเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ สำหรับจ้าวปีศาจโบราณถ้าสำรวจแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้สำเร็จ
อย่างนั้นไม่จำเป็นต้องคงความเป็นพันธมิตรอีกต่อไป
สมบัติโบราณของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพควรใช้ประโยชน์กับนักรบเผ่าเก้าแสง และจะต้องไม่ถูกมอบให้ศัตรูแข็งแกร่งแน่นอน
“เจ้าถ่วงเวลานางสิบวินาทีให้ได้” จื้อจุนดูเหมือนคาดไว้แล้วว่าจักรพรรดินีฟ้าจะต้องเข้ามาแทรกแซง
นางย้ำกับเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางกลืนน้ำลายเอื๊อก
ต้านทานให้ได้สิบวินาที แม้ว่าจักรพรรดินีฟ้าจะทรงพลังมากกว่าที่คิดเอาไว้ แต่เย่ว์หยางก็มีความมั่นใจแน่นอน
อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินราชาเก้าแสงและจ้าวปีศาจโบราณพูดไว้ก่อนนั้น ใบหน้าของเขาแสดงความไม่มั่นใจ เย่ว์หยางจะสามารถขัดขวางจักรพรรดินีฟ้าได้สักสิบวินาทีหรือไม่? สิบวินาทีสำหรับการต้านยอดฝีมือระดับจักรพรรดินีฟ้าหรือ?
แน่นอนว่าสามารถทำลายหุบเขาแม่น้ำขาวได้หลายครั้งเลยทีเดียว! แม้ว่าเย่ว์หยางจะขัดขวางจักรพรรดินีฟ้าไว้ได้สิบวินาที
แต่จะมีประโยชน์อะไร?
จื้อจุนมั่นใจว่าจะสามารถฆ่าราชาเก้าแสงในสิบวินาทีอย่างนั้นหรือ?
ในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าจะไม่มีจ้าวปีศาจโบราณและจักรพรรดิชื่อตี้ที่คอยหันเหความสนใจ แค่เพียงความแข็งแกร่งของราชาเก้าแสง
นักสู้ระดับราชาในแดนสวรรค์อย่างเดียว
สิบวินาทีใครจะขัดขวางเขาได้
สามจอมภพแดนสวรรค์,
ยอดฝีมือจากตำหนักกลางแดนสวรรค์ยังไม่กล้าพูดเช่นนี้
อย่างไรก็ตามความมั่นใจตัวเองของจื้อจุน
ไม่อาจจะเอามาตั้งข้อสงสัยและปฏิเสธได้
“ 10, 9, 8...” ตอนนี้จักรพรรดิชื่อตี้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในโลกคัมภีร์อย่างมีความสุข เขาจงใจสร้างความปั่นป่วน ไม่ว่าจื้อจุนจะฆ่าราชาเก้าแสงได้สำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม
เมื่อเย่ว์หยางขัดขวางจักรพรรดินีฟ้าและพ่ายแพ้เจ็บตัวจากการรบ ต่อให้จ้าวปีศาจโบราณบาดเจ็บทรุดกับพื้น นี่จะเป็นผลเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา
“ฆ่าได้!”
จื้อจุนยกอาวุธเทพร่างมนุษย์
ลูกศิษย์นางเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง
ท่าทีเช่นนี้ไม่มีใครสงสัยนางอีก
ราชาเก้าแสงสีหน้าเปลี่ยน
เมื่อครู่นี้เขายังจะหัวเราะได้อยู่
แต่คิ้วลึกของเขาพลันเหยียดตรง
เขาเกร็งหมัดรอดูว่าศัตรูจะบุกหรือหลบ!!
6 ความคิดเห็น:
อย่างงงลุ้นนน มันสุดๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
สอบถามผู้รู้หน่อยครับนักรบระดับ ราชาและจักพรรดิ เทียบเท่ากับนักรบปราณฟ้าระดับเท่าไหร่บ้างครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น