วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 771 แจ้งข่าวร้าย


ตอนที่  771  แจ้งข่าวร้าย
ทางลับแสงสว่าง
คุกต้องห้ามอยู่ห่างออกไปไม่ถึงกิโลเมตร มีทางลับสายที่สอง มีชายชราหน้าทารกกำลังคร่ำเคร่งไตร่ตรองกระดานหมากรุกที่อยู่ข้างหน้า
 
เหมือนกับว่าการเปลี่ยนแปลงของวันเวลาด้านนอกไม่ส่งอิทธิพลต่อเขา เมื่อเห็นเจ้าเมืองถูไห่ ราชาหลิงหวินนำองค์ชายแปดอูไห่ พระชายา เย่ว์หยางและคนอื่นมาด้วยเขายังคงไม่เงยหน้ามอง  เขาไตร่ตรองเป็นเวลานานกว่าจะวางได้แต่ละหมากและถอนหายใจลึกๆ “หมากกลสิบกระดานนับเป็นหมากชั้นยอดของโลกจริงๆ  น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาพอจะคลี่คลายได้...”
 “ผู้เฒ่าหมากรุก!  ที่ข้างนอกมีนักรบปราณฟ้าที่ถูกจองจำอยู่ในแดนทมิฬฝ่าผนึกออกมาได้นับร้อยคนและเตรียมตัวจะเชื่อมโยงเส้นทางจากภายในแดนทมิฬแล้ว”  เจ้าเมืองถูไห่กังวลอยู่ภายใต้เกมหมากรุกเช่นกัน!
 “รู้แล้ว”  ผู้เฒ่าถอนหายใจพยักหน้าเล็กน้อย
 “ตอนนี้ไม่ว่าเราจะเริ่มเปิดโล่แสงศักดิ์สิทธิ์ทันทีหรือไม่ก็ตาม? เราต้องอดทนอยู่ในทางแสงสว่างนี้ก่อน ทางลับแสงสว่างและด้วยความช่วยเหลือของพลังผนึกของผู้อาวุโสยากที่ศัตรูจะผ่านเข้ามาหรือออกไปข้างนอกได้” ถูไห่ต้องการให้เริ่มใช้โล่พลังแสงศักดิ์สิทธิ์ทันที  แต่กุญแจการใช้โล่แสงอยู่ที่ผู้เฒ่าหมากรุก
 “พวกเจ้าทุกคน..ไปให้หมด!  ผู้เฒ่าหมากรุกเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเหลือบตาขึ้นมองเจ้าเมืองถูไห่ องค์ชายแปดอูไห่ และเย่ว์หยางและส่ายหัวปฏิเสธจะเปิดและกล่าว “ข้าจะไม่เปิดโล่แสงให้แน่นอน แม้ว่าเปิดโล่แสงแล้วจะทำให้เราโชคดีรอดชีวิตได้ก็ตาม  แต่ในฐานะผู้พิทักษ์ข้าจะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่  ต่อให้ข้าตาย ข้าจะไม่ยอมปล่อยนักรบหอทงเทียน  ก่อนที่ศัตรูจากแดนทมิฬจะเชื่อมโยงทางภายในได้  ข้าจะเปิดดาวระเบิดต้องห้ามพร้อมกับทำลายคุกใต้ดินต้องห้ามแห่งนี้”
 “อะไรนะ?”  ราชาหลิงหวินได้ยินคำนี้แล้วถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
 “แต่ถ้าเราไปจากที่นี่ สุดท้ายเราก็ตาย!  เจ้าเมืองถูไห่ประหลาดใจ
ถ้าหนีได้ ถูไห่หนีแล้ว แต่ปัญหาก็คือศัตรูจากแดนทมิฬมีพลังปราณฟ้าระดับห้าถึงสิบคน และมีนักรบแดนทมิฬที่พลังระดับปราณฟ้าขึ้นไปเกือบร้อยคน ขืนหนีออกไปก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกฆ่า
ถ้าไม่จากไป และรั้งอยู่ที่นี่ ก็อาจตายโดยไม่มีที่กลบฝัง
เมื่อดาวระเบิดต้องห้ามเครื่องมือต้องห้ามเริ่มทำงาน พลังทำลายล้างตัวเองจะรุนแรงกล้าแข็ง  เกาะสุริยันต์ทั้งหมดจะระเบิดตัวเองเป็นชิ้นๆ ในเวลานั้นไม่เพียงแต่เมืองลี่จ้าวเท่านั้น ภูเขา หุบเขาในระยะพันตารางกิโลเมตรจะถูกทำลายกลายเป็นซากหักพัง  ก่อนถูไห่จะรับตำแหน่งเจ้าเมือง เขาได้ยินคำเตือนจากเหล่าผู้อาวุโสหลายครั้งแล้ว และเขาจะไม่มีวันเปิดอุปกรณ์ต้องห้ามสำหรับระเบิดดวงดาวแน่นอน
นี่ต้องบอกว่าเป็นพลังของเพชฌฆาตทอง
ทันทีที่ใช้ จะต้องถูกเทพยดาสาปแช่งแน่นอน
ตอนนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องโน้มน้าวให้ผู้เฒ่าหมากรุกเปลี่ยนการตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นต้องตายแน่ ไม่ว่ารั้งอยู่หรือวิ่งออกไป
เจ้าเมืองถูไห่พยายามอดกลั้นความโกรธในใจและโน้มน้าวอย่างดี “ผู้เฒ่าหมากรุก!  ข้ารู้ถึงความรับผิดชอบดี  แต่เราต้องทิ้งซากศพที่มีประโยชน์ไว้ ถ้าเราตายกันหมดอย่างนั้นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เหล่าผู้ปกครองระดับจักรพรรดิขึ้นไปก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และจะทำให้การสู้รบเกิดความเสียเปรียบได้”
 “เจ้าเมือง!  ที่เจ้าพูดมานั้นข้าเข้าใจ” ผู้เฒ่าหมากรุกโบกมือด้วยอาการเรียบเฉย “เจ้าไม่รู้จักพลังยิ่งใหญ่ของกองทัพกบฏของหอทงเทียน เทียบกับพลังของกองกำลังแดนทมิฬแล้ว กองทัพกบฏของหอทงเทียนคือหายนะของแดนสวรรค์เรา”
 “กองทัพกบฏหอทงเทียนพินาศไปแล้ว  พวกเขาไม่มีนักสู้ปราณฟ้าแม้แต่ตอนนี้”  เจ้าเมืองถูไห่พยายามโน้มน้าวผู้อาวุโสหมากรุกอย่างเต็มความสามารถ
 “สิ่งที่เจ้าเห็นเป็นแค่ภาพลวงตา” ผู้เฒ่าหมากรุกแค่นเสียง  “พลังของพวกเขาไม่เคยอ่อนแอลงเลยแม้แต่น้อย  ข้ามั่นใจได้ถึง 80%  แน่ใจได้ว่าการฝ่าผนึกแดนทมิฬออกมาเป็นการกระทำของพวกเขา  เจ้าไม่จำเป็นต้องโน้มน้าว การตัดสินใจนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าจะมาเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ เจ้าเมืองถูไห่, ขอบคุณที่หลายปีมานี้เจ้ามาอยู่ร่วมเป็นเพื่อน แต่ผู้พิทักษ์ที่แท้จริงจะต้องอยู่ในคุกต้องห้ามด้วย  ดังนั้นเจ้าออกไปได้แล้ว!
 “เราไปกันเถอะ!  เย่ว์หยางเอื้อมมือห้ามเจ้าเมืองถูไห่ที่ยังจะพยายามโน้มน้าวต่อ
 “แต่...”  เจ้าเมืองถูไห่วิตกกังวล มีนักรบปราณฟ้ารออยู่ข้างนอกเป็นร้อย  บางทีทางออกอาจถูกศัตรูฉีกออกเป็นชิ้นไปแล้ว
 “ผู้เฒ่าหมากรุกเริ่มใช้เครื่องมือต้องห้ามระเบิดดวงดาวไปแล้ว”  เย่ว์หยางหมุนตัวและพาเย่คง เจ้าอ้วนไห่และคนที่เหลือออกไป  คำพูดของเขาทำให้ถูไห่ตกใจกลัว แต่ก็สนองตอบทันทีและมองดูผู้เฒ่าหมากรุกด้วยความกลัว
ผู้เฒ่าหมากรุกใบหน้าทารกมองดูเย่ว์หยางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
เขาพยักหน้า
เป็นการยืนยันคำพูดของเย่ว์หยางต่อทุกคน
และยังเตือนเจ้าเมืองถูไห่  “ก่อนที่เจ้าจะเข้ามา ข้าเริ่มใช้งานเครื่องมือต้องห้ามระเบิดดวงดาวแล้ว เจ้ามีเวลาไม่ถึงสิบนาที
เจ้าเมืองถูไห่อยากตบหน้าฝ่ายตรงข้ามสองทีจริงๆ แต่โกรธไปก็ไร้ประโยชน์  เขามองดูราชาหลิงหวินและติดตามเย่ว์หยางไปทันที  “คุณชายสาม ก็ได้เราบุกฝ่าออกไป เราจะร่วมมือกันเปิดทางออกไปอย่างนั้นหรือ?”
เขาถามเช่นนี้ เพื่อยกอำนาจการตัดสินใจให้กับเย่ว์หยาง
เดิมทีพลังขององค์ชายแปดอูไห่ก็นับว่าไม่เลว  แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว ทั้งยังห่วงพะวงกับชายาของตนเอง
พระชายาสามารถเข้าไปในโลกคัมภีร์ได้  องค์ชายแปดอูไห่ยังคงกังวลห่วงใยพระชายาและลูก  ทั้งยังต้องคอยดูแลตัวเองคงไม่เหมาะที่บุกเบิกทางผ่านกองกำลังข้างหน้าอีกครั้ง  ราชาหลิงหวินถามสถานการณ์กับเย่ว์หยาง และอีกประการหนึ่งเขาหวังจะร่วมมือกับเย่ว์หยาง  นอกจากนี้ยังมีระดับความสำเร็จที่สูงกว่า  การติดตามคนฉลาดดีกว่าฝืนบุกฝ่าข้างหน้า  “ฝ่าบาท, ท่านเจ้าเมืองและองค์ชาย  ถ้าท่านเชื่อใจข้า พวกท่านตามข้ามาก็ได้   ถึงข้าจะไม่กล้าคุยโตโอ้อวด แต่ข้าสัญญาได้อย่างหนึ่งว่า  เมื่อมีข้าเย่ว์ไตตันอยู่ จะไม่มีสหายหรือพันธมิตรคนใดถูกทิ้ง”  ครั้งนี้เย่ว์หยางยืนยันหนักแน่น
 “ตกลง, เราทุกคนจะฟังเจ้า” ราชาหลิงหวินมองดูรอบๆ และพบว่าทุกคนทั้งที่เป็นยอดฝีมือและไม่ใช่ ต่างพยักหน้าทันทีและฝากความหวังไว้กับเย่ว์หยาง
เมื่อกลับไปยังผิวด้านบนเกาะสุริยันต์
ใต้เมืองลี่จ้าวชาวเมืองนับไม่ถ้วน ตกอยู่ในสภาพโกลาหลเพราะถูกมังกรปีศาจรุกราน
ชาวเมืองมากมายต่างหลีกหนีกันอย่างบ้างคลั่ง
คนนับไม่ถ้วนถูกนักรบแดนทมิฬและมังกรปีศาจพุ่งลงมาทำร้าย  แต่ในท้องฟ้ามีผู้คนหนาแน่นต่างอพยพหนี มีคนขี้ขลาดบางส่วนมองหาอุโมงค์ห้องมืดและซ่อนตัวหวังจะหาโอกาสหลบหนี  และมีทหารรับจ้างหลายคนที่สู้และต่อต้านนักรบทมิฬ เพื่อเอาชีวิตรอดพวกเขารวมกลุ่มหลายสิบคน หรืออาจจะเป็นร้อยและโจมตีใส่ศัตรู
มังกรปีศาจโฉบเฉี่ยวอยู่ในอากาศ และทุกที่ดำดิ่งพุ่งโจมตี จะมีคนตายหลายคน
เปลวไฟฉีดพุ่งออกจากปากใส่สิ่งก่อสร้างข้างล่าง
ต่อให้เป็นกองทัพเมื่อเผชิญหน้ากับมังกรปีศาจหลายตัว ไม่มีทางจะต่อต้านได้เลย  คงจะเป็นเรื่องดีแน่ถ้าเป็นการเผชิญพบเจอโจรเล็กโจรน้อย แต่นี่สิ่งที่พวกเขาต้องสู้กลับเป็นมังกรปีศาจที่มีพลังปราณฟ้าตั้งแต่ระดับสองขึ้นไป
กองกำลังหลายพันนาย พอถูกมังกรปีศาจพ่นไฟใส่เพียงไม่กี่ครั้งก็ถูกกำจัดออกไปถึงครึ่ง
ทหารพ่ายแพ้
 “ครอบครัวข้า!  ถูตั่วตะโกนอย่างเศร้าใจ เขามีคนที่เขารักมากมายอยู่ที่นี่  “เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะช่วยคนเหล่านี้  เขาเองยังไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของตนเองได้”
 “โธ่..” การกระทำแรกที่ทำได้ก็คือถอนหายใจอย่างสิ้นแรง
 “สถานการณ์เกินกว่าจะเยียวยา  ไปกันเถอะ!  เจ้าเมืองถูไห่เป็นคนฉลาด  ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีสมาชิกครอบครัว  แต่สมาชิกครอบครัวทั้งหมดอยู่ในอาณาจักรหลิงหวิน ไม่ได้อยู่ในเมืองลี่จ้าว  ที่นี่แม้จะมีสตรีอยู่บ้าง แต่เจ้าเมืองถูไห่ไม่สนใจความเป็นความตายของผู้หญิงซึ่งเป็นที่ระบายอารมณ์ของเขา  พูดให้ถูกก็คือ  ในเวลานี้เขาได้แต่ปกป้องตนเอง
 “ฮุยไท่หลาง..”
เย่ว์หยางยกมือขวา ฮุยไท่หลางกระโดดมาอยู่แทบเท้าของเขา
เขาใช้มือแตะหลังและฮุยไท่หลางกลายเป็นหมาป่าปีศาจล้างโลกทันที
ใหญ่โตไม่มีใดเปรียบ
กลืนกินได้ทั้งสวรรค์และโลก
ภาพมายาของหมาป่าปีศาจทำลายโลกของฮุยไท่หลาง ไม่ว่าจะเป็นราชาหลิงหวิน เจ้าเมืองถูไห่และองค์ชายอูไห่รวมทั้งยอดฝีมือปราณฟ้าฝ่ายศัตรูถึงกับหน้าถอดสี  พลังกฎสวรรค์  แม้ว่าจะไม่เคยเห็นพลังกฎสวรรค์เป็นอย่างไร  แต่พวกเขาเห็นว่าพลังที่เย่ว์หยางใช้ก็คือพลังกฎสวรรค์นั่นเอง
ขณะที่พวกที่กำลังชมดูตกใจ ฮุยไท่หลางก็เริ่มโจมตี
มันอ้าปากขนาดยักษ์และกลืนกินนักรบปราณฟ้าของแดนทมิฬไปตรงๆ ถึงสองคน
วงล้อมที่ศัตรูสร้างไว้เกิดช่องว่างอย่างเงียบ
ราชาหลิงหวินและคนอื่นพากันดีใจ และไล่ตามติดฮุยไท่หลางไปทันที.. ศัตรูที่ขัดขวางมัน มีแต่จะถูกฮุยไท่หลางขู่ขวัญตกใจและใช้ปากยักษ์ของมันไล่งับไล่กินนักสู้ปราณฟ้า แต่ก็ยังไม่พอ มันเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาในท้องฟ้า   ขณะที่พวกศัตรูตกใจที่เห็นอสูรเทพออกมา  มีร่างของฮุ่ยไท่หลางปรากฏสองร่างพร้อมกัน ร่างหนึ่งจริง ร่างหนึ่งเท็จ ทั้งร่างซ้ายและร่างขวาโจมตีไล่กินนักสู้ปราณฟ้า
 “พาพวกเขาออกไป” เย่ว์หยางใช้พลังปราณกระบี่ฟันใส่ธนูสีดำและหอกแสงสีทองที่นักรบปราณฟ้าระดับห้าของแดนทมิฬโจมตีและเหาะขึ้นไปข้างบนจนสูงลิบ และควงมือทั้งสองสร้างเพลิงฟ้าบัวแดงยิงใส่นักรบปราณฟ้าระดับห้าแดนทมิฬสองคนที่กำลังไล่กวดฮุยไท่หลาง
 “วู้ววววว!” ร่างมายาของฮุยไท่หลางปกป้องกลุ่มและจากไปอย่างรวดเร็ว
ราชาหลิงหวินและองค์ชายแปดโจมตีศัตรูจากระยะไกลอย่างหนักบีบบังคับศัตรูให้หยุดการเคลื่อนไหว
ถูไห่ช่วยสร้างแรงลมทำให้ทุกคนเคลื่อนที่หนีได้เร็ว
เมื่อพวกเขาฝ่าวงล้อมออกไปได้และหันกลับมามองก็พบว่าเย่ว์หยางใช้วงจักรนิรันดรกักนักรบแดนทมิฬจนทำให้พวกเขาเชื่องช้า
เพราะความแตกต่างในระดับพลัง  จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะกลับไปช่วย
ขืนกลับไปอีกครั้งก็เท่ากับสิ่งที่เย่ว์หยางทำไปนั้นสูญเปล่า... ราชาหลิงหวินคว้าตัวเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวไปด้วยทันที  “หนี, คุณชายสามจะต้องหนีพ้นอันตรายออกมาได้แน่!
ถูไห่เข้าไปใกล้ราชาหลิงหวิน และองค์ชายอูไห่พาเย่คงและเจ้าอ้วนไห่และพวกที่เหลือออกมาได้  พ่อบ้านเจียวซือไม่อาจติดตามต่อไปได้ เขาตะโกน  “พวกท่านทั้งหมดหนีไป ข้าจะกลับไปช่วยคุณชายสามอีกแรง”
เจียวซือหันหลังกลับไปมองและกลับไปช่วยเย่ว์หยาง ถูไห่ถึงกับตื้นตัน
แม้ว่าเขาจะจ้างเจียวซือให้เป็นพ่อบ้านและมอบหมายงานทั้งหมดให้เจียวซือทำ  แต่ในใจเขาไม่เคยเชื่อใจคนผู้นี้เลย
คาดไม่ถึงเลยว่าในท้ายชีวิต พ่อบ้านที่เขาไม่เคยไว้วางใจอย่างแท้จริง กลับพิสูจน์ความจริงได้ว่าเขาคือพ่อบ้านที่ดีที่สุดในโลก
เจียวซือจะหันกลับไปช่วยด้วยคุณธรรมน้ำมิตร  ถูไห่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย  ด้วยพลังของศัตรู เป็นไปไม่ได้ที่เจียวซือจะเข้าไปใกล้เย่ว์หยาง และศัตรูจะฆ่าเขาตายได้ทันที  แทนที่จะพูดว่ากลับไปช่วยคุณชายสามด้วยคุณธรรมน้ำมิตร ต้องบอกว่าเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า  เพราะไม่ต้องการลากสหายไปตายด้วย เพราะไม่ต้องการรู้สึกผิด เจ้าเมืองถูไห่ในตอนนี้ถึงกับคิดว่า ต่อให้ต้องสูญเสียเจ้าขยะถูตั่วในตอนนี้ไป ข้าจะไม่ยอมเสียบริวารผู้ซื่อสัตย์และภักดีอย่างเจียวซือแน่
แต่เขาเสียใจในขณะที่สายไปเสียแล้ว
 “ไปกันเถอะ” ราชาหลิงหวินบินเข้ามาห้ามถูไห่ไม่ให้เสียเวลามองกลับไป เขาตวาดลั่น “เจ้าต้องการให้เจียวซือเสียสละอย่างสูญเปล่าหรือ?  ยิ่งเราจากไปเร็ว คุณชายสามก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้น”
 “หลีกไป!  แม้ว่าองค์ชายแปดอูไห่แห่งเผ่ากาทองจะได้รับบาดเจ็บ  แต่ก็ยังดูถูกพลังของเขาไม่ได้
รัศมีสุริยะของเขากับพลังน้ำแข็งของเสวี่ยทันหลางและอุกกาบาตขององค์ชายเทียนหลัวระเบิดใส่นักรบปราณฟ้าที่ไล่มาทันอย่างรวดเร็ว
ฮุยไท่หลางคอยช่วยระวังหลังด้วยตนเอง มันกินนักรบทมิฬสองคนที่ไล่เข้ามาใกล้ทำให้นักรบปราณฟ้าอื่นต้องถอย  ในท่ามกลางท้องฟ้า ราชาหลิงหวิน เจ้าเมืองถูไห่และองค์ชายอูไห่ต่างช่วยโจมตีในระยะไกลและหนีขึ้นท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงสุดในชีวิต พวกเขาต้องหนี และถ้าพวกเขาไม่เปิดทางหนีให้ได้ ระเบิดดวงดาวต้องห้ามจะกวาดล้างพวกเขาที่เหลือที่ยังต่อสู้อยู่กับคุณชายสาม
แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งนาที พวกเขายังหนีไม่พ้นเกาะสุริยันต์
ภายในสิบนาทีจะมีอันตรายร้ายแรงกวาดออกไปถึงภูเขาและหุบเขา
ขณะที่พวกเขาหนี ยังคงมีอสูรปีศาจและพวกอสูรชนิดต่างๆ  บางเผ่าพันธุ์ก็แข็งแกร่ง บางเผ่าพันธุ์ก็ไร้ประโยชน์ แต่ทั้งหมดนี้ไวต่อความรู้สึกถึงอันตราย  พวกมันไล่ตามราชาหลิงหวินที่นำหน้าพวกมันอยู่
 “โอว!
องค์ชายแปดอูไห่แห่งเผ่ากาทองหันไปมอง
และร้องออกมาอย่างตกใจ
ถูไห่และหลิงหวินหันไปมองและพบว่าสนามรบที่ห่างออกไปด้านหลังของพวกเขา มีระเบิดดวงดาวขนาดใหญ่ ซึ่งระดับนี้สร้างแรงอัดแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง
นี่ไม่ใช่ระเบิดต้องห้าม  แต่ระเบิดใหญ่ขนาดนี้เป็นความเคลื่อนไหวของคุณชายสามอย่างมิต้องสงสัย ทรงพลังน่ากลัวมาก
องค์ชายอูไห่ลอบเปรียบเทียบอยู่ในใจ ทันใดนั้นเขาตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อเขาแผ่รัศมีสุริยะซึ่งเป็นความสามารถของเผ่ากาทองโดยพยายามเทียบกับแรงระเบิดนี้และพบว่า พลังของเขาด้อยกว่าพลังระเบิดนี้อย่างห่างไกล  อย่างนั้นคุณชายสามผู้นี้มีพลังมากกว่าปราณฟ้าระดับห้าอย่างนั้นหรือ? มิน่าเล่าเขาถึงกล้าเผชิญหน้ากับนักสู้ปราณฟ้าได้เป็นร้อยด้วยอาการเฉยเมย
 “ไม่ถูก, พลังแบบนี้..”  ผู้เฒ่าหมากรุกที่นั่งเฝ้าอยู่ทางเดินแสงสว่างชะงักมือทันที
หมากในมือของเขาร่วงลงบนกระดาน
เขารู้สึกถึงอันตรายของพลังระเบิดดวงดาวที่เย่ว์หยางเพิ่งปล่อยออกมา
ขณะที่ผู้เฒ่าหมากรุกลุกขึ้นยืน ในทันใดนั้นมีมือยื่นออกมาที่ด้านหลังของเขาและค่อยๆ หยิบหมากที่ร่วงลงบนกระดาน  ผู้เฒ่าหมากรุกตกใจและหันไปมอง  บุคคลนั้นค่อยๆ ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
 “เป็นเจ้าเองหรือ?”  ผู้เฒ่าหมากรุกตกใจ คนที่อยู่ต่อหน้าเขากลับกลายเป็นพ่อบ้านเจียวซือผู้ปะปนอยู่ในกลุ่มคนทั่วไป
 “เป็นข้าเอง”  พ่อบ้านเจียวซือเป็นเหมือนนักธุรกิจและนั่งลงที่ด้านตรงข้ามเหมือนกับจะเล่นหมากรุกกับผู้เฒ่าหมากรุก
 “เจ้าคือเกาเผิง หนึ่งในสี่ราชันย์บริวารของจักรพรรดิอวี้  ราชันย์คุกฟ้า เจ้ายังคงมีชีวิตอยู่”  ผู้เฒ่าหมากรุกมองดูด้วยสายตาเหลือเชื่อและสีหน้าของเขาตกใจยิ่งกว่าเห็นคนตายคลานออกมาจากโลงเสียอีก  โลกที่มีคนตายหลายคนฟื้นคืนชีพ ผู้เฒ่าหมากรุกไม่ตกใจ  อย่างไรก็ตามคนที่อยู่ต่อหน้าเขาผู้นี้ถูกฆ่าตายไปเมื่อหกพันปีก่อน
 “ใช่แล้ว ข้ายังคงมีชีวิต แต่ข้าต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นฟูพลังได้เต็มที่  สิ่งที่สำคัญที่สุด ข้าสูญเสียความจำส่วนสำคัญไปซึ่งจะต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก”  ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงถอนหายใจ เพราะเขาต้องปลอมตัวเป็นพ่อบ้านเจียวซือ “เวลาผ่านไปเร็ว พริบตาเดียวมากกว่าหกพันปีแล้ว”
 “เจ้าทำทุกอย่างเพื่อวันนี้น่ะหรือ? น่าเสียดาย เจ้าช้าไปก้าวเดียว ข้าเปิดการทำงานของดาวระเบิดต้องห้ามไปแล้ว”  ผู้เฒ่าหมากรุกสงบใจได้อย่างรวดเร็วและนั่งลง และหยิบตัวหมากรุกวางบนกระดานอีกครั้ง
 “เจ้าก็ยังคงเหมือนเดิม ยังคิดว่าตัวเจ้าเป็นฝ่ายชนะอยู่เสมอ” เกาเผิงที่ปลอมตัวเป็นพ่อบ้านเจียวซือจู่ๆ ก็ยิ้มขึ้น  “จะให้ข้าบอกข่าวร้ายเจ้าดีไหม?”
 “ไม่มีอะไรมากกว่าภาพสหายถูกระเบิดถูกดูดหายเข้าไปในผนึกหลุมดำ มันรู้สึกแย่ที่ช่วยพวกเขาไม่ได้” ผู้เฒ่าหมากรุกพูดประชด
 “เอ..., แล้วถ้าจักรพรรดิอวี้ถือกำเนิดแล้วเล่า!  เกาเผิงหัวเราะ  “เป็นไปไม่ได้!  ผู้เฒ่าหมากรุกสะดุ้งตัวลอยด้วยความตกใจ
 “ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดิอวี้จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง  แต่หอทงเทียนให้กำเนิดจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ ซึ่งอายุเยาว์กว่า แข็งแกร่งกว่า น่าเกรงขามและสง่างามยิ่งกว่า!   เกาเผิงหยิบหมากตัวหนึ่งและวางลงบนกระดาน “รุก! หมากตานี้ของเจ้าแย่จริงๆ  เจ้ารู้ไหมว่าคู่มือหมากกลนี้มาจากไหน?  นี่คือสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนั้นนำมาจากหอทงเทียน มันคือคู่มือของราชันย์หมากรุกนักรบผู้ทรงพลังปัญญาของเรา  เจ้ายังคิดว่าเจ้าถูกต้องอีกหรือ  เจ้าแพ้แล้ว!
 “เป็นเขาเองหรือ?”  ผู้เฒ่าหมากรุกเข้าใจได้ทันที และเขาเพิ่งจำเย่ว์หยางได้ ในของเขาสั่นสะท้านทันที
เขาเกลียดจริงๆ ที่ได้รับรู้ว่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่อุบัติขึ้นแล้ว
เขาไม่อาจยอมรับได้
ทั้งยังเดินหมากรุกแข่งกับเขา ฝ่ายตรงข้ามที่เขาไม่ต้องการเล่นด้วยตัวเอง
ทรวงอกของเขาสะท้อนขึ้นลงผิดปกติ  เขากระอักโลหิตทันที ใบหน้าชราภาพลงราวกับคนอายุเป็นพันปี

9 ความคิดเห็น:

Numton กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยครับ

Tony กล่าวว่า...

สุดยอดมาก

ulomzx กล่าวว่า...

5555555557ถึงกระอักเลือดเลย

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

นี่แร่ะหมากกระอักเลือดของจริง

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

พ่อบ้านเจียวเป็นเพื่อนผู้เฒ่าเต่านี่เอง บักหยางยังไม่เอะใจเลยน่าจะโหดน่าดู คุณได้เติมทรูได้รับตัวละครลับมาแล้ว 55

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น