ตอนที่ 772
ข้าคือข้า เขาคือเขา
ผู้เฒ่าหมากรุกแค่นเสียงไม่หยุดหย่อน
“คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต” เขาวิ่งเข้าหาราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงตั้งใจจะให้ฝ่ายตรงข้ามระเบิดเป็นผุยผงไปพร้อมกับระเบิดดวงดาวต้องห้าม
ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงเหยียดมือควบคุมอากาศทำให้ผู้เฒ่าหมากรุกลอยคว้างอยู่กลางอากาศและยิ้มให้ “ข้า..ไม่เหมือนเมื่อหกพันปีที่แล้ว นอกจากนี้ในอดีตที่ผ่านมา
ถ้าข้าไม่ต่อสู้จนหมดแรง ด้วยระดับพลังอย่างเจ้าจะฆ่าข้าได้อย่างไร? ราชาหมากรุกสหายเก่าของข้า
เจ้ายังคงต้องเดียวดายไปก่อน ข้ามีภารกิจไม่อาจร่วมทางกับเจ้าได้” เขาผลักมือเบาๆ
ผู้เฒ่าหมากรุกก็ลอยละลิ่วกระเด็นถอยหลังออกไป
เมื่อผู้เฒ่าหมากรุกวิ่งเข้ามาเป็นครั้งที่สอง
และถูกเหวี่ยงกระเด็นไปกองบนแผ่นภาพหมากรุกนับพัน
ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงก็หายเข้าไปในทางแสงสว่าง
“โอว.. ข้าแก่แล้ว”
ผู้เฒ่าหมากรุกชะงักก้มลงเก็บตัวหมากรุกบนพื้นถอนหายใจและนั่งลงอย่างทอดอาลัย
แม้เป็นองครักษ์ตั้งแต่หกพันปีที่แล้ว
แต่ก็ต้องพลอยคุมขังตัวเองไปด้วย
จนกระทั่งบัดนี้เขาหมดหน้าที่ผู้คุ้มกันแล้ว
อิสรภาพเป็นของเขา
ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตนี้
แม้ว่าจะเป็นเวลาชีวิตสั้นๆ แต่เขาก็รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้เล่นหมากรุก
เมื่อเขาวางตัวหมากลงบนกระดาน ใบหน้าเขามีรอยยิ้ม
ปากก็พูดสิ่งที่คิดออกมาดังๆ
“เหมือนกับที่มีคนกล่าวไว้ ในที่สุดก็ได้เล่นหมากรุกอย่างสบายอารมณ์ เจ้ายังมีเรื่องต้องเสียใจ
แม้ว่าจะหยุดเรื่องเหล่านี้ไม่ได้
แต่เจ้าก็ยังมีส่วนร่วมได้ส่งต่อคัมภีร์หมากกลกระอักเลือดให้กับคนรุ่นหลังที่เกิดมาในหอทงเทียนได้ ข้าเองก็ยังอยากจะเห็นด้วยเหมือนกัน”
เมื่อเขาวางหมากอย่างแผ่วเบาบนกระดาน
เขาพบว่าหมากบนกระดานแตกต่างไปเล็กน้อย
“อะไรกันนี่
นี่สำนึกศักดิ์สิทธิ์ของข้าหรือ?”
ผู้เฒ่าหมากรุกตะลึงในตอนแรก และจากนั้นเขาฝืนยิ้ม
การได้รับอิสรภาพก็คือการปล่อยวางความรับผิดชอบ
เขาได้เข้าใจสัจจธรรมในช่วงท้ายของชีวิต ช่างน่าขันจริงๆ
หน้าที่รับผิดชอบที่เขาทำมาหกพันปี
กลับกักขังความรู้แจ้งสัจจธรรมของเขาเอาไว้หรือ?
ข้างนอกเกาะสุริยันต์ เย่ว์หยางหายไปไม่เหลือร่องรอย
เกี่ยวกับการแยกจากไปของกลุ่มผู้เยาว์ประหลาด
นักรบแดนทมิฬไม่กล้าไล่ตามอีก
พวกเขาพยายามเชื่อมการติดต่อกับประตูภายในแดนทมิฬ
นักรบระดับเตรียมปราณฟ้าหมื่นคนภายใต้การร่วมมือกับนักสู้ปราณฟ้านับร้อยวิจัยเส้นทางผ่านของแดนทมิฬมาหลายพันปี
“มีการเชื่อมต่อเข้ากับคุกต้องห้ามได้สำเร็จ ด้วยการวิเคราะห์ของนักสู้ภายในผนึกพบว่าทุกคนหนีไปให้ไกลเท่าที่ทำได้โดยไม่มีเวลาอย่างเพียงพอ
แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าเกาะสุริยันต์ตอนนี้กำลังจะระเบิดในอีกไม่ช้า
พลังงานของผนึกเกิดความปั่นป่วนสับสนอย่างหนัก สายฟ้าแลบแปลบปลาบอย่างบ้าคลั่ง
เพราะการทำงานของพลังงานผนึกกำลังพุ่งขึ้นถึงขีดจำกัดและจะเกิดการระเบิดทำลายล้างครั้งใหญ่
หลังจากเกิดระเบิดทำลายล้างครั้งใหญ่
พื้นที่ทั้งหมดจะแตกพังทลาย มิติจะเกิดสภาพบิดเบือน พายุมิติจะดูดกลืนสิ่งต่างๆ
มากมายนับไม่ถ้วนเข้าไปในมิติหลุมดำ
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ตกเข้าไปในหลุมดำจะไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิดอีกเลย
เพราะการเชื่อมโยงภายในแดนทมิฬ
ทั้งโลกและแดนสวรรค์จึงเกิดภาพที่ดูแปลกประหลาด พื้นดินพื้นฟ้าแตกแยก
แม้แต่กลางเกาะสุริยันต์เริ่มฉีกขาดเป็นสองส่วน
พื้นที่มากมายนับไม่ถ้วนถูกกระแสพลังปั่นป่วนกระแทกฉีกขาด
และทำลายสิ่งที่เคลื่อนไหว
จวนเจ้าเมืองที่มั่นคงพังทลาย
ยกเว้นแต่ทางลับแสงสว่าง
ทั่วทั้งเกาะสุริยันต์บิดเบี้ยวผิดรูปราวกับว่ามีปีศาจที่มองไม่เห็นจับบิด
คนที่หลบหนีต่างบินขึ้นไปในท้องฟ้าทั้งหมด
หนีไปทางภูเขาหุบเขาที่อยู่ไกลๆ ตั้งใจจะใช้หุบเขาช่วยบดบังพลังทำลายล้าง มีบางคนก็เลือกวิธีการที่แน่นอน บ้างก็บินไปที่เกาะสุริยันต์เหมือนคนตาบอด บนถนนสายหลักเกิดการระเบิด
พื้นแยกออกเหมือนอสูรยักษ์อ้าปาก
เมืองลี่จ้าวที่ไม่เคยถูกยึดเลยในประวัติศาสตร์หกพันปี
ซึ่งเป็นฐานหนุนเกาะสุริยันต์แดนสวรรค์ ในที่สุดก็ถึงคราวล่มสลาย
ทางเดินแสงสว่าง
ผู้เฒ่าหมากรุกหลับตาใช้นิ้วคีบวางหมากชิ้นสุดท้ายอย่างแผ่วเบา
เหลือเวลาอีกสิบวินาที
นี่จะเป็นเวลาสิบวินาทีสุดท้ายของชีวิตเขา
ขณะที่ผู้เฒ่าหมากเผยอยิ้มโดยไม่รู้สึกเสียใจ
เมื่อเขาเตรียมตัวตายอย่างเงียบสงบ จู่ๆ เขาเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าในทางลับ
ที่ยืนอยู่ข้างหลังของเด็กหนุ่มนี้เป็นคนกลุ่มหนึ่งเหมือนกลุ่มวิญญาณในยมโลก
หลายคนเป็นคนที่ผู้อาวุโสหมากรุกรู้จัก
“เป็นไปไม่ได้!”
ผู้เฒ่าหมากรุกค่อนข้างเชื่อว่านี่คือภาพนิมิตก่อนตาย
“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถหยุดระเบิดต้องห้ามได้ แต่ข้าสามารถถ่วงเวลาได้สามนาที สามนาทีไม่นับว่ามากพอสำหรับเล่นหมากรุกได้
แต่ก็ยังสามารถรับมือได้หลายอย่าง”
เด็กหนุ่มที่ทักทายผู้เฒ่าหมากรุกย่อมเป็นเย่ว์หยางอย่างมิต้องสงสัย
แต่กลุ่มคนที่เดินตามเขาออกมาเหมือนเงาวิญญาณก็คือนักรบหอทงเทียนที่ถูกผนึกอยู่ภายใน
หรือหัวหน้ากบฏชาวหอทงเทียนที่ยังเหลือรอดอยู่
“กลับกลายเป็นว่าเกาเผิงเข้ามาก็เพื่อปกป้องเจ้าสินะ” ตอนนี้ผู้เฒ่าหมากรุกเข้าใจแล้ว
ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงเหตุใดจึงต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถป้องกันระเบิด
จึงต้องยอมเปิดเผยสถานะอย่างนั้นหรือ? เขาไม่ได้มาเพื่อเปิดเผยตัวเอง
แต่เขามาคุ้มครองเด็กหนุ่มคนนี้
เมื่อเขาเห็นราชันย์คุกฟ้า เขาตกใจ
ความคิดของเขาทั้งหมดเพ่งไปที่เกาเผิงศัตรูเก่าแก่ของเขา
เขาไม่ตระหนักเลยว่ายังมีเด็กหนุ่มอีกคน ทั้งยังช่วยคนไปต่อหน้าต่อตาเขา เด็กหนุ่มคนนี้คือจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่
เขาอายุเยาว์กว่าจักรพรรดิอวี้คนก่อนทั้งยังมีสติปัญญาฉลาด ผู้เฒ่าหมากรุกเหมือนกับไม่มองดูตัวเอง
เขาแพ้แล้ว แพ้จริงๆ
ครั้งนี้ไม่ได้แพ้พลังไร้เทียมทานของจักรพรรดิอวี้คนก่อน แต่พ่ายแพ้สติปัญญาของเด็กหนุ่มผู้นี้
ถ้าไม่ใช่เพราะฝ่ายตรงข้ามตั้งใจปรากฏตัว
เกรงว่าเขาคงตายไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองล้มเหลว
เงาที่เหมือนวิญญาณสีดำมีทั้งสูงและผอมยืนยิ้มให้ผู้เฒ่าหมากรุก
“จ้าวหมากรุก!
พวกเราทุกคนแก่กันหมดแล้ว โลกปัจจุบันนี้เป็นของผู้เยาว์ ทำไมเจ้าจึงยังยึดมั่นอยู่อีก? ตามเราไปหอทงเทียนและเล่นหมากรุกให้สาแก่ใจกันดีกว่าต้องมาเป็นสุนัขเฝ้าบ้านให้กับพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เวลาผ่านไปนานปีแล้ว ความเป็นปฏิปักษ์ในอดีตมันผ่านไปแล้ว
ตราบใดที่เจ้ายินดีปล่อยวาง
ก็จงปล่อยวางเถอะ แล้วไปพร้อมกับเรา
เราเสียเวลาไปหกพันปีนับว่ามากพอแล้ว”
ผู้เฒ่าหมากรุกส่ายหน้าหนักแน่น
เขาถอนหายใจ “ขอบคุณ แต่พวกเจ้าก็รู้จักข้าดี ข้าไม่คุ้นกับการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเป็นที่สุด
เมื่อพวกเจ้ายอมตายเพื่อจักรพรรดิอวี้
ข้าชื่นชมอิจฉาจริงๆ ถ้าวันนี้ข้าจากไปพร้อมกับพวกเจ้า ก็เท่ากับดูถูกตนเอง
ข้าอิจฉาพวกเจ้าจริงๆ หกพันปีผ่านไป แต่ก็ยังมีคนคิดจะมาช่วยพวกเจ้า นี่คือประเพณีของชาวหอทงเทียนหรือ?”
“หอทงเทียนไม่ได้มีประเพณีอย่างนั้น ถ้าอ้างว่ามี
นั่นคงเป็นสหายเก่าเบิกทางไว้ให้รุ่นผู้เยาว์ได้เติบโต”
เงาร่างคล้ายวิญญาณเหล่านั้นหัวเราะ
“น่าเสียดาย, ข้าไม่ได้เกิดที่หอทงเทียน”
ผู้เฒ่าหมากรุกนั่งลงช้าๆ เอื้อมไปล้างกระดานหมากรุกต่อหน้าเขา
ตัวหมากร่วงตกลง
เหมือนกับอารมณ์เขาในตอนนี้
มีเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาหา
เขาปาดมือใส่กระดานหมากรุก
หมากทั้งหมดกลับคืนไปตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิมซึ่งเหมือนหมากที่ผู้เฒ่าหมากรุกเพิ่งวางก่อนหน้านี้
เขาพูดอย่างจริงจัง
“ท่านเข้าใจผิดถนัด
มรดกของหอทงเทียนไม่ได้ตกทอดผ่านสถานที่เกิด ไม่ใช่เผ่าพันธุ์
ไม่ใช่ทางสายเลือด แต่เป็นที่จิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณ ร่างกาย ความตั้งใจ ความรู้ ไม่มีที่ใดที่ไม่เต็มไปด้วยมรดกทางวิญญาณ เป็นเรื่องลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายได้
มีแต่ความรู้สึกถึงความคงอยู่
เรานักรบแห่งหอทงเทียนจะแตกต่างจากแดนสวรรค์ จิตวิญญาณของพวกเราตกทอดให้กับคนรุ่นหลัง
พวกเขาไม่ได้รับมรดกความแข็งแกร่ง แต่เป็นแรงบันดาลใจทางวิญญาณ
เป็นนักสู้ที่แท้จริง เราต้องยอมรับฝ่ายตรงข้ามก็คือหอทงเทียน”
“พวกท่านไม่ได้รับการยอมรับจากเราในอดีตไม่ใช่เพราะสถานที่เกิดของท่านคือแดนสวรรค์
ไม่ใช่เพราะสายเลือดท่านแตกต่างจากเรา
แต่เป็นเพราะพวกท่านไม่เคยเป็นนักสู้ที่แท้จริง
เหตุผลที่ทำให้ชีวิตน่าเกรงขามไม่ใช่เพราะพลังอย่างเดียวเท่านั้น”
หลังจากนั้นร่างเงานั้นเดินจากไปอย่างทรนง
ร่างเงาอื่นๆ เดินติดตามกันไป
ผู้เฒ่าหมากรุกหลับตาตัวสั่น
เขารู้สึกละอายใจเป็นระยะๆ
เขายืนซวนเซอยู่ที่ท้ายทางเดินแสงสว่างและเดินไปที่จุดที่ระเบิดดวงดาวต้องห้ามกำลังทำงาน
ปากเขาพึมพำ “ข้าไม่เคยเป็นนักสู้ที่แท้จริง? สายเกินไปแล้ว
ถ้าข้ารู้เร็วกว่านี้ข้าคงจะทุ่มชีวิตให้กับหมากรุกของข้า ข้าผิดไปแล้ว!” เกาะสุริยันต์เปล่งแสงเจิดจ้าและระเบิดทันที
ทั่วทั้งเมืองลี่จ้าว และแม้แต่ภูเขา
หุบเขาน้อยใหญ่พังพินาศทันที
หนึ่งนาทีหลังจากระเบิดครั้งใหญ่
เกาะสุริยันต์หายไปไม่เหลือซาก ปรากฏแต่เพียงหลุมดำขนาดเล็กและเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบหลุมดำไม่ว่าจะเป็นเปลวเพลิง พลังงาน เศษซากและแรงระเบิดถูกดูดกลืนเข้าไปหมด
กลายเป็นพื้นที่แห่งความตายไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่
ห่างออกไปร้อยกิโลเมตรต่อหน้าเย่ว์หยางมีกลุ่มเงาเหมือนวิญญาณยืนอยู่ต่อหน้าเขา
คนเหล่านี้
ที่อายุน้อยที่สุดยังคงไว้เครายาว แต่ละคนล้วนอายุมากแล้ว
ชุดที่สวมใส่ดูราวกับผ้าขี้ริ้ว
ความจริงพวกเขาไม่มีร่างกายหยาบอีกแล้ว
มีแต่สภาพวิญญาณที่คงอยู่ ด้วยพลังของพวกเขาตราบเท่าที่พวกเขาคิดและปล่อยวางได้แต่ละคนก็จะมีรัศมีเปล่งปลั่งได้ เย่ว์หยางไม่เข้าใจ ต่อให้พวกเขาไม่ใช่คนหล่อเหลา
แต่ทำไมพวกเขาต้องคงอยู่ในสภาพที่น่าอึดอัดด้วย? คนเมื่อตายไปแล้ว
จิตใจของพวกเขายังจะเศร้าหมองอีกหรือ?
“เรื่องเป็นอย่างนี้
เป็นผู้เฒ่าเต่ามังกรขอให้ข้าตามหาพวกท่าน
ความจริงข้าไม่คิดเลยว่าจะช่วยท่านได้เร็วขนาดนั้น” เย่ว์หยางมองดูราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงที่ตอนนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของพ่อบ้านเจียวซือ เขาถาม
“ท่านจะกลับไปพบผู้เฒ่าเต่ามังกรเมื่อใด?”
“เราจะไม่กลับ”
ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงส่ายศีรษะ
“หอทงเทียนเป็นของเจ้าแล้ว
พวกเราแก่เสียแล้ว ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
“ท่านสามารถพาหยวนหลงมาพบพวกเราได้”
ร่างวิญญาณหัวเราะ
“ความจริงเรายังมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ
งานบางอย่างยังทำไม่สำเร็จ
พวกเราไม่สามารถกลับไปหาฝ่าบาทเพื่อถวายรายงานจักรพรรดิอวี้
เราทำให้พระองค์ผิดหวัง หนุ่มน้อย, ปล่อยพวกเราไว้เถอะ
เจ้าสามารถจัดการธุระของเจ้าได้
ส่วนพวกเรา..เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล
เงาร่างที่เสียงดังเป็นพิเศษคว้าคอเสื้อของเย่ว์หยางและกล่าว “หนุ่มน้อย!
เจ้าต้องการกลายเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่
พลังของเจ้าเกือบจะได้แล้ว เจ้าต้องขยันให้มากไว้” “ข้าก็คือข้า
เขาก็คือเขา”
เย่ว์หยางเหงื่อตก
ใครอยากจะเป็นจักรพรรดิอวี้ที่สองกันเล่า เขาต้องสร้างชื่อในแดนสวรรค์
ไม่ใช่เพื่อเป็นนางพญาเฟ่ยเหวินหลี นางพญาผู้พิชิตคนที่สอง
ไม่ใช่เพื่อเป็นจักรพรรดิอวี้คนที่สอง
แต่เป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ผู้สืบทอดหงเทียน
ตำนานบทใหม่ของหอทงเทียนต่างหาก!
“อีกหนึ่งปีให้หลัง ท่านจะต้องมาพบเราที่นี่อีก
คุณชายสาม, ท่านจะต้องฝึกให้มากกว่านี้ และเราจะต้องฟื้นฟูพลังก่อน มิฉะนั้นจะไม่พอรับมือแดนสวรรค์ได้” ราชันย์คุกฟ้าเกาเผิงตบไหล่เย่ว์หยาง
ข้าพบเห็นผู้เยาว์หอทงเทียนมามากมาย
แต่ไม่เคยพบเห็นผู้เยาว์อย่างเจ้า คุณชายสาม, ท่านไม่ธรรมดาจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นผู้สืบทอดจักรพรรดิอวี้ ข้าคงยั้งใจอดที่จะกำจัดเจ้าไม่ได้”
“เฮ้, เป็นผู้อาวุโส
ควรพูดอย่างนี้ได้หรือ?”
พวกเขาไม่ให้ของวิเศษอะไรเลย ก็ช่างเถอะ แต่ล้อเล่นอย่างนี้ได้ด้วยหรือ?
“เมื่อเจ้าได้รับการยอมรับจากตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้
เจ้าจึงสั่งการเราได้”
เงาร่างที่จริงจังที่สุดและดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่ม
เขาขวางมือแตะที่อกและพูดกับเย่ว์หยางเบาๆ
“ขอล่วงหน้าไปก่อน” เย่ว์หยางพูดไม่ออก
ตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ตอนนี้เขาให้ซวงเอ๋อไว้ใช้ทุบเปลือกลูกเกาลัดมาแล้ว
เมื่อไหร่เขาจะได้รับการยอมรับจากมัน
ช่างเถอะ
พึ่งพาสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังของตัวเองก็ได้
ไม่ต้องอาศัยสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของคนอื่น
เหมือนกับว่าได้ยินเสียงตอบจากในใจของเย่ว์หยาง
ไม่ว่าจะเป็นแมงป่องดาวฟ้า หรือดาบเทาเถี้ย
หรือแม้อสูรในตำนานที่พักผ่อนอย่างเกียจคร้านอยู่ที่ข้อมือเย่ว์หยางล้วนเปล่งคลื่นแสดงอารมณ์ดีใจออกมา
…——……,! ~!
11 ความคิดเห็น:
แข็งใช้ได้สินะ เอาไปทุบเกาลัด อนาจดีแท้
ขอบคุณมากเลยนะครับ
น่าสงสารตราจักรพรรดินะเนี่ย
เสร็จกิจแล้ว ป่ะ กลับไปหาเมียๆๆๆๆๆๆๆๆ...ฯลฯ
555 ถ้ารู้จะตายรอบสองกันไหมเนี้ย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ทุบเกาลัดก้อมา
ขอบคุณมากครับ
น่าจะขนาดเหมาะมือไว้ทุบเปลือก...
แสดงความคิดเห็น