วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 776 ตามหาคน สมาชิกครอบครัว หญิงวัยกลางคน


ตอนที่  776  ตามหาคน สมาชิกครอบครัว หญิงวัยกลางคน
จากเมืองเจิ้งฝู เย่ว์หยางได้ผลเก็บเกี่ยวยิ่งใหญ่โดยไม่รู้ตัว คุ้ก แคริบเบียนก็คือจักรพรรดิแดนฟ้านั่นเอง
 
แต่เขากำลังทำความเข้าใจเสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ต่อหน้ารูปปั้นยักษ์ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
เมื่อเย่ว์หยางมาถึงรูปปั้นใหญ่สูงเทียมฟ้า เสี่ยวเหวินหลีออกมาทันที
เธอกำลังค้นหาสิ่งของบางอย่างๆ ต่อเนื่อง ผ่านรูปปั้นนักรบทหารองครักษ์เกือบร้อยรูป ในที่สุดเธอเงยหน้ามองดูรูปปั้นใหญ่ขนาดรองลงมาสูงสองร้อยเมตร รูปปีศาจอสรพิษทางขวา
เธอจ้องมองเขม็ง
ดูเหมือนกับว่ารูปปั้นนี้ทำให้เธอระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เย่ว์หยางมองดูรูปปั้นปีศาจอสรพิษนั้น นางกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีดูคล้ายกันมาก บนศีรษะนางสวมมงกุฏเงินสดใส เหมือนเจ้าหญิงในราชตระกูลงดงามไม่มีใครเทียบได้ นางจับดาบคู่ทอดตามองดูระยะไกลเหมือนกับว่าเชื่อฟังนางพญาเฟ่ยเหวินหลี พร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ  ในบรรดารูปปั้นองครักษ์มากมาย มีหลายรูปที่มาจากเผ่าปีศาจอสรพิษ  มีแต่รูปปั้นนี้ที่ดูคล้ายกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีมากที่สุด
เสี่ยวเหวินหลียืนนิ่ง
เป็นเวลานาน
ราวกับรูปปั้น
จนกระทั่งพระอาทิตย์อัสดงค์ แสงสายัณห์สุดท้ายลับขอบฟ้า รูปปั้นปีศาจอสรพิษที่อยู่ใต้เงารูปปั้นนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเหลือให้เห็นแต่เค้าโครง ร่างของเสี่ยวเหวินหลีเปล่งรัศมีสีทองออกมาในทันใด ทั้งนี้ไม่ได้ใช้พลังกฎสวรรค์ของเย่ว์หยางช่วยสนับสนุน  รัศมีนั้นหลอมรวมเป็นร่างมายาของปีศาจอสรพิษทองขนาดใหญ่ ร่างมีขนาดสองร้อยเมตรโดยอัตโนมัติมองดูมีขนาดเท่ากับรูปปั้นปีศาจอสรพิษเต็มที่
พวกทหารผ่านศึกบนถนนต่างมองดูภาพที่ปรากฏนี้ด้วยความประหลาดใจ
ปีศาจอสรพิษทั้งสองคล้ายกันมาก
เสี่ยวเหวินหลีกรีดร้องออกมาในท่ามกลางความเงียบ คลื่นเสียงกระจายไปทั่วปลุกจนคนตกใจกันทั้งเมือง
แม้แต่พวกขี้เมาและขอทานแก่ที่งีบหลับอยู่บนพื้นต่างสะดุ้งตกใจตื่น หันมองมาทางตำแหน่งรูปปั้นยักษ์ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
มงกุฏเงินที่ศีรษะของรูปปั้นปีศาจอสรพิษแตกสลายกลายเป็นแสงหลากสีสัน
พลังแสงหลากสีสันไหลเข้าไปในร่างปีศาจอสรพิษทอง
ร่างของนางเปล่งประกายรัศมีหลากสีสัน  เกราะรบ อักษรรูนและผิวพรรณบนร่างกายดูละเอียดอ่อนสมจริง ราวกับว่าท่านผู้นั้นปรากฏมีชีวิตอีกครั้ง  แต่ร่างปีศาจอสรพิษทองที่ฉายจากเสี่ยวเหวินหลีนั้นหลั่งน้ำตา ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่อยู่ต่อหน้าเธอปลุกให้เธอระลึกถึงความทรงจำที่ยาวนาน
บนตัวของเสี่ยวเหวินหลีมีอักษรรูนสีเงินผุดขึ้นเหมือนกับอักษรรูนที่ปรากฏอยู่บนเกราะรบของปีศาจอสรพิษทอง
แม้แต่ดาบคู่ในมือก็ยังวิวัฒนาการส่องประกายหลากสีสัน
เปลี่ยนรูปเป็นดาบศึกชนิดใหม่
ดาบดูคล้ายดาบคู่มือของเดิมที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ดาบคู่ใหม่นี้มีขนาดใหญ่กว่า ยาวกว่าและคมกว่า
เย่ว์หยางไม่กล้ารบกวนเสี่ยวเหวินหลีที่กำลังทำความเข้าใจถึงความรู้สึกในอดีต เขาหวังจะให้ลูกรักของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว  ขณะที่เย่ว์หยางคิดว่าเสี่ยวเหวินหลีจะได้ฟื้นฟูความทรงจำจากครั้งก่อน  คาดไม่ถึงเลยว่าเสี่ยวเหวินหลีจะปาดน้ำตาและโผเข้าอ้อมกอดของเย่ว์หยางและกลับไปเป็นเหมือนก่อน  “ไม่เป็นไร เจ้าเกิดใหม่แล้วไม่สามารถกลับคืนความทรงจำปกติได้ ได้มาเท่านี้ก็นับว่าไม่เลว”  เขาลูบหลังเสี่ยวเหวินหลีอย่างนุ่มนวลและปลอบโยนเธอ ไม่ว่าเธอจะจำความทรงจำเก่าได้หรือไม่ก็ตาม  เขาก็ยังรักเธอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง!
 “เกิดอะไรขึ้น?”
เย่ว์หยางไม่กล้ารบกวนเสี่ยวเหวินหลีที่กำลังสำรวจรูปปั้นอย่างสงบ เจ้าอ้วนไห่ เย่คงกระตือรือร้นใคร่รู้  ราชาหลิงหวิน เจ้าเมืองถูไห่และคนอื่นต่างกลัวผู้เฒ่าในร้านเหล้า แต่เพราะความผันผวนของพลังงาน พวกเขาจึงวิ่งออกมานอกร้านเหล้ารีบโลดแล่นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น 
เสี่ยวเหวินหลีกลายเป็นแสงสีรุ้งกลับเข้าไปอยู่ในร่างของเย่ว์หยาง
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่ทหารผ่านศึกที่ใกล้ที่สุดก็ยังไม่รู้ไม่เห็นความคงอยู่ของเสี่ยวเหวินหลี
พวกเขามาถึงนานแล้ว แต่ทั่วทั้งรูปปั้นยักษ์ทั้งหมดมีโล่พลังงานกันไว้ห้ามมิให้ใครเข้ามา
สิ่งที่พวกเขาสามารถเห็นได้ก็คือภาพปีศาจอสรพิษทองสูงสองร้อยเมตรกว่า ที่เกิดจากพลังงาน  ขณะรอคอยให้ม่านพลังขัดขวางหายไป และผู้คนบินเข้ามา เสี่ยวเหวินหลีก็กลับเข้าไปซ่อนตัวแล้ว เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นมองเห็นว่ารูปปั้นยักษ์ค่อยๆ หักและพังทลายลงทีละชิ้นไม่หยุดหย่อนและถล่มลงกับพื้นกลายเป็นเศษซากก้อนศิลา
 “ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรา  ข้าเพิ่งมาถึง”  เจ้าอ้วนไห่ยืนอยู่ข้างเย่ว์หยางและเสแสร้งว่าไม่เกี่ยวกัน  ความจริงเขารู้แน่นอนว่านี่เป็นการกระทำของเย่ว์หยาง แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องแบบนี้ไม่มีทางยอมรับได้แน่นอน
 “ดูนั่น ไปกันเถอะ!  เย่คงแนะนำเย่ว์หยางให้จากไป
ไม่มีใครสนใจเจ้าอ้วนไห่และเย่คง
ทหารผ่านศึกเหล่านี้ตกใจและกลับคืนความสงบอีกครั้ง
กองเศษรูปปั้นมีคนหลายร้อยคนพันคนมองดูอยู่ ไม่มีใครพูดอะไร พื้นที่เงียบกริบ
บรรยากาศกดดันจนถึงขีดสุด ราชาหลิงหวินและถูไห่คิดว่าผู้เฒ่านี้จะต้องโกรธแน่นอน ทันทีที่เขาระเบิดอารมณ์โกรธเหมือนสายฟ้าฟาด พวกเขาควรจะทำยังไง?  ราชาหลิงหวินไม่เชี่ยวชาญพลังวิญญาณพื้นฐานทั้งหก ได้แต่มองดูเย่ว์หยาง  เขากับถูไห่ไม่ใช่คนโง่และรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณชายสามแน่นอน เพราะก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น เขายืนอยู่หน้ารูปปั้น มิหนำซ้ำยืนถึงสองชั่วโมง
เย่ว์หยางดูเหมือนไม่เห็นภาพเหมือนจะขอความช่วยเหลือของราชาหลิงหวิน เขายืนนิ่งอยู่กับที่อย่างสบายใจเหมือนกับว่าเขามีสิทธิ์จะยืนดู
ผู้เฒ่าที่อยู่ในร้านเหล้าเดินออกมา
จากนั้นก็เป็นชายชราที่หลับอยู่บนพื้น หญิงชราที่กวาดพื้น
ทั้งสามคนอยู่ข้างกองหินและก้าวไปบนกองหินมองหาชิ้นส่วนขนาดเล็กอย่างระมัดระวังตามลำดับและเก็บไว้ในอกไม่พูดอะไรและเดินออกไปเงียบๆ ผู้เฒ่าในร้านเหล้าคงกลับไปดื่มเหล้า  ขอทานเฒ่ามองหามุมสงบและล้มตัวลงนอน แต่แม่เฒ่ากวาดพื้นยังคงทำความสะอาดถนนต่อไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทหารผ่านศึกเดินมาข้างหน้าและทำอย่างเดียวกัน
ทุกคนเก็บเศษหินไว้คนละชิ้น
เมื่อเก็บแล้วก็เดินออกมาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น... เจ้าอ้วนไห่และเย่คงกับคนอื่นยืนงงอยู่กับที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
ห่างออกไปนอกเมืองห้าสิบกิโลเมตร มีขโมยระดับปราณฟ้าคนหนึ่งรีบเร่งเดินทางด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ที่เมืองเจิ้งฝูในระยะห้าสิบกิโลเมตรเป็นพื้นที่ห้ามส่งเทเลพอร์ต โจรผู้มีพลังปราณฟ้าผู้นี้ลอบออกมาจากเมืองขณะที่รูปปั้นปีศาจอสรพิษพังทลายกลายเป็นเศษซากหิน เสียงกรีดร้องปลุกทุกคนในเมืองขณะที่มองดูด้วยความงงงวย  เขารีบเร่งบินด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อส่งข่าว
หนึ่งกิโลเมตรสำหรับเขาใช้เวลาไม่กี่วินาที
โจรระดับปราณฟ้าดึงหินผลึกเทเลพอร์ตสีทองออกมาจากอก ผลึกเทเลพอร์ตนี้มีราคาถึงหมื่นเหรียญทองแดนสวรรค์  ผลึกเทเลพอร์ตในเมืองธรรมดาเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ไม่มีใครยินยอมใช้กันง่ายๆ  ตอนนี้เขาต้องใช้เพื่อจะได้จากไปอย่างปลอดภัย  เขาเชื่อว่าเมื่อส่งข่าวนี้ออกไปจะทำเงินได้เป็นจำนวนมากแน่นอน และจะมีแต่รายรับเพิ่มพูนทับทวีเป็นพันเท่า
ขณะที่เขาวิ่งหลบออกมาในระยะห้าสิบกิโลเมตรพ้นเขตจำกัดการเทเลพอร์ต เขาใช้มือกระแทกผลึกเทเลพอร์ตสีทองทันที
รัศมีเทเลพอร์ตฉายแสงสว่างวาบ
เขาจะสามารถหนีได้อย่างรวดเร็วทันที
ขโมยปราณฟ้าดูมีสีหน้ากระหยิ่มปลาบปลื้มในโชคดีของตนเอง
เขาไม่ได้รู้สึกเลยว่า ในที่ด้านหลังมีกุหลาบสีแดงกำลังเร่งไล่ล่าตามหลังอย่างเร่งร้อน
ดอกกุหลาบบินอย่างแผ่วเบาเข้าที่หลังศีรษะของขโมยระดับปราณฟ้าและทะลุออกระหว่างคิ้วของเขา... รัศมีเทเลพอร์ตฉายประกายวาบ  แต่ที่ผ่านเทเลพอร์ตเข้าไปได้นั้นเป็นร่างไร้วิญญาณ
ขณะนั้นในเมืองเจิ้งฝู มีสวนดอกไม้ที่หญิงวัยกลางคนปลูกไว้ นางกำลังตำหนิเด็กสาวที่ขายข้าวสาลีหิมะหวาน “ถ้าเจ้าไม่อยากถูกกำจัด ก็ต้องเร่งลงมือก่อน ปล่อยให้แมลงเล็กแมลงน้อยหนีไปได้ยังไม่เท่าใด แต่ทำให้ข้าสิ้นเปลืองดอกกุหลาบไปด้วยนี่สิ!  เด็กสาวหวาดกลัวและแอบแลบลิ้นรับปากว่าครั้งต่อไปไม่กล้าแล้ว
 “ข้าวสาลีหวานนี้ขายยังไง ขายยังไง?”  เย่ว์หยางไม่ทราบว่ามายืนข้างพวกนางเมื่อใด และถือวิสาสะเปิดตะกร้าของเด็กสาวและหยิบของออกมา
 “ข้าไม่ขายให้เจ้า  ของหวานของข้าขายให้เฉพาะคนที่มีสายตาชื่นชมเท่านั้น”  เด็กสาวถลึงตาใส่  นางไม่เคยเห็นคนไร้มารยาทหยาบคายเหมือนอย่างเย่ว์หยางที่เที่ยวเปิดตะกร้าของผู้หญิงโดยไม่บอกกล่าว  นางต้องการเอาคืนแต่เย่ว์หยางใส่ปากเคี้ยวหน้าตาเฉย ดังนั้นนางถลึงตาไม่พอใจ
 “งั้นแสดงว่าฟรี” ปฏิภาณของเย่ว์หยางไม่มีใครเทียบได้  เขาเอาของในจานในตะกร้าเทใส่กระเป๋าเขาโดยตรง
หญิงสาวแทบอยากกรีดร้อง
เจ้าผู้นี้เป็นใครกัน?
ของๆ ผู้หญิงใครจะหยิบฉวยได้หรือ?
ใบหน้าของสตรีวัยกลางคนมีสีหน้าเอ็นดูคนทั้งสอง เหมือนกับผู้ใหญ่มองดูเด็กเล่นหยอกหัวกัน
เย่ว์หยางนอกจากจะกลั่นแกล้งหญิงสาวแล้ว เขายังทำธุระที่สมควร เขาดึงภาพวาดด้านหน้าแม่สี่ออกมาและให้หญิงวัยกลางคนดูและถามด้วยความจริงใจ “ท่านเคยเห็นคนที่คล้ายกับรูปวาดนี่บ้างไหม? ถ้าท่านรู้จักนาง ช่วยเล่าเรื่องนางให้ข้าฟังสักเล็กน้อยได้ไหม?  ข้าเกรงอยู่บ้างเหมือนกัน ข้าตามหานางมาเป็นเวลานานแล้ว!
สตรีวัยกลางคนมองดูภาพวาดและส่ายศีรษะเล็กน้อยบอกว่านางไม่รู้
นางถามลอยๆ “นางเป็นเป็นอะไรกับเจ้า?”
 “สมาชิกครอบครัว”  เย่ว์หยางตอบตามความเป็นจริง
 “ข้าอิจฉานางจริงๆ มีสมาชิกมาตามหานางในแดนสวรรค์ สัมพันธ์ครอบครัวที่เก่าแก่ โอว..บางทีข้าเกรงว่า...”  ดูเหมือนสตรีวัยกลางคนจะนึกถึงเรื่องในอดีตบางเรื่องได้ สีหน้านางดูสลดลงเล็กน้อย จากนั้นสีหน้านางคืนเป็นปกติ นางยิ้มขณะมองเย่ว์หยางด้วยความเอ็นดู  “หนุ่มน้อยเจ้าแค่มาเที่ยวหรือตามหาญาติ? มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้าต้องการหาคนช่วย ข้ายังไม่พบเจอคนที่เหมาะสม  เจ้าจะช่วยข้าสักเล็กน้อยได้ไหม?”
 “ถ้าให้ดูแลเด็ก อย่าถามหาข้า!” เมื่อเย่ว์หยางพูดเช่นนี้เขาหันไปมองทางหญิงสาวที่กำลังโกรธ
 “เจ้าคิดว่าใครยังเป็นเด็ก? ช่างไม่รู้จักดูตัวเองเสียเลย อายุแค่ยี่สิบ ยังเป็นแค่เด็กน้อย ข้ายังเป็นผู้ใหญ่กว่าเจ้ามาก” หญิงสาวไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้เปรียบ ลักษณะเขายังดูเด็ก แต่ไม่ได้หมายความเด็กจะถูกแกล้งไม่ได้
 “ผู้ใหญ่เค้าจะคุยกัน เด็กอย่าพูดแทรกสิ”  เย่ว์หยางโต้ตอบทันควันทำให้หญิงสาวโกรธมากขึ้น
 “ไม่ต้องรบกวนให้เจ้ามาดูแลนาง ข้าคงไม่สบายใจนักถ้าปล่อยให้นางวิ่งวุ่นไปทุกที่ บางทีหลังจากผ่านไปสักช่วงหนึ่งข้าคงจะพานางกลับไปดูแลก็ได้ !  ข้าอยากขอให้เจ้าช่วยตามหาสหายเก่าสองคน  เดิมทีเรามีกันสามคน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราพบกับศัตรูแข็งแกร่งทรงพลังหลายคน  ข้าได้รับบาดเจ็บไม่รู้จะไปที่ไหน   ข้าอยากให้เจ้าช่วยตามหาให้ที”  หญิงวัยกลางคนถอดแหวนระดับแค่เป็นรองสมบัติชั้นเทพจากนิ้วและส่งให้เย่ว์หยางเพื่อระบุว่านี่เป็นของที่ระลึกที่ทั้งสองรู้จัก
 “ตามหาคนหาย ภารกิจนี้ไม่ยาก เอาของให้ข้าก็ได้!  เย่ว์หยางมองดูคนทั้งสอง และรับแหวนระดับเป็นรองจากสมบัติเทพไว้ และตบอกรับรองว่าไม่มีปัญหา
 “คนผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อย!” หญิงสาวมึนงง  นางคิดว่าเย่ว์หยางจะทำเสียของ
 “รอข่าวดีจากข้าก็แล้วกัน”  เย่ว์หยางไม่สนใจหญิงสาวหันกายจากไปอย่างอารมณ์ดี ขณะเดียวกันก็ชื่นชมแหวนระดับรองสมบัติเทพ ซึ่งทำให้หญิงสาวโกรธมาก นางยกเท้าเตะเย่ว์หยางหลายเท้า น่าเสียดายที่เย่ว์หยางเหมือนกับมีตาข้างหลังใช้ท่าเท้าหลบหลีกได้อย่างแยบยล หญิงสาวไล่จับอย่างอารมณ์เสีย ตะกร้าข้าวสาลีหิมะหวานตกลงพื้น นางชูกำปั้นด่าว่าไล่หลัง “เจ้าวายร้าย สักวันข้าจะต้องเอาชนะเจ้า และดูซิว่าเจ้าจะกระหยิ่มใจได้นานแค่ไหน” 
 “วันนี้อากาศดี๊ดี!” เย่ว์หยางหัวเราะไม่สนใจหญิงสาวที่กำลังโกรธ เขารู้สึกสดชื่น
 “เจ้าคนขี้โกง”  นางร้องอย่างโมโห
 “หนุ่มน้อยที่น่าสนใจ เด็กคนนี้เป็นใครกัน?”  หลังจากเห็นภาพนี้สตรีวัยกลางคนคิดอยู่นาน ในที่สุดนางได้แต่ส่ายศีรษะหาคำตอบไม่ได้!

7 ความคิดเห็น:

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ จะเพิ่มอีกสักคนหล่ะสิ

WingF กล่าวว่า...

ยังยัง ยังไม่หยุดปักธงอีก

thaiskynews กล่าวว่า...

แกล้งเด็ก หึ หึ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

บางครั้งอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลี่ กับ เสี่ยวเหวินหลี่ คือคนๆเดียวกัน
แต่มันจะเป็นแบบนั้นไหมน้อ.....

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น