ตอนที่ 779
โจมตี สาเหตุความตายลึกลับ
หุบเขาพิรุณมีทางเลี้ยวเก้าแห่ง
ทางผ่านตรงสิบแปดแห่ง
สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือทางเดินเขาวงกตนี้เต็มไปด้วยทางเดินเชื่อมถึงกันมากมาย
ไม่ใช่แค่มีทางเลือกเดียวสำหรับเดินขึ้นหน้า ภายใต้พายุลมรุนแรง
ผู้เข้าทดสอบจะหลงตำแหน่งทิศทางได้ง่าย
จนถึงบัดนี้เย่ว์หยางจึงค่อยเข้าใจชัดเจนว่าทำไมถึงไม่อนุญาตให้บินขึ้นฟ้า
เพราะการบินขึ้นฟ้าจะทำให้มองเห็นเขาวงกตได้ทั้งหมด
และไม่อนุญาตให้อัญเชิญอสูร เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้อสูรที่มีประสาทดมกลิ่นที่ดีในการนำทาง
โดยให้ผู้เข้าทดสอบสามารถใช้ความสามารถของตนเองหาทางออกที่แท้จริงในหุบเขาพิรุณให้พบ
นี่คือการฝึกฝนอย่างหนึ่ง
เย่ว์หยางรออยู่ที่สามแยกอยู่นานและพบว่ารองเจ้าตำหนักไม่พบเส้นทางที่แท้จริงถึงสองครั้ง เขาไม่สามารถค้นพบเส้นทางที่แท้จริง
จึงอดรู้สึกเบื่อไม่ได้
รองเจ้าตำหนักก็มีความสามารถในการจำดีเป็นพิเศษ ตราบใดที่มีทางผ่านไปได้
เขาจะไม่มาย้อนซ้ำทางเดิม
อย่างไรก็ตามในการเผชิญกับทางแยกที่แปลกประหลาดอย่างสิ้นเชิง
เขาได้แต่เลือกเส้นทางในลักษณะเสี่ยงดวงเท่านั้น
และไม่สามารถมองออกได้เหมือนกับเย่ว์หยางที่ใช้พลังตาทิพย์
“อ๊า.....”
มีเสียงร้องโหยหวนดังในที่ห่างไกลออกไป
แม้ว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง
แต่เสียงร้องโหยหวนของการโจมตีและมีคนได้รับบาดเจ็บยังคงดังชัดเจนเหมือนฟ้าร้องกึกก้องดังผ่านท้องฟ้า
แม้แต่รองเจ้าตำหนักที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าหันขวับกลับมาทันที
ด้วยสีหน้าระมัดระวัง
นอกจากตัวเขาเองแล้ว
ยังมีคนอื่นเข้ามาในสถานที่นี้
นอกจากนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่คนเดียว
รองเจ้าตำหนักวิ่งไปตำแหน่งนั้นทันทีและพบบุรุษชุดดำถือดาบสั้นเปื้อนเลือด
มีดสั้นระดับศักดิ์สิทธิ์สีเข้มเหมือนหมึก
เลือดแต่ละหยดที่หยดลงน้ำ จะก่อให้เกิดพิษกลายเป็นควันสีฟ้ากลุ่มหนึ่ง
บุรุษชุดดำเมื่อเห็นรองเจ้าตำหนักมาแต่ไกลเขาแค่นเสียงเยาะเย้ยทันที “ผู้ที่ขวางทางข้าก็คือเจ้าตำหนักเว่ยซู่นี่เอง
ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ประกาศว่าจะไม่เข้ามาแทรกแซงการสำรวจไม่ใช่หรือ?
แล้วทำไมไม่รักษาสัญญา?”
“หมอปีศาจเว่ยจิงหลิว!
ความตั้งใจเดิมของข้าคือไม่เข้าไปยุ่ง
แต่เจ้ากระทำการวุ่นวายไร้เหตุผลเกินไป
ทั้งพวกเจ้าก็ฆ่ากันเองและชิงสมบัติกันอย่างโหดเหี้ยมที่นี่
ถ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ของข้าไม่เข้ามาก้าวก่าย
จะให้ข้านั่งดูนักสำรวจที่มาตั้งค่ายจำนวนมากต้องสูญเสียชีวิตไปหรือ?” รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่มีประสบการณ์ต่อสู้ยาวนาน
เขาปรับตัวตามสถานการณ์อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ยอมถูกฝ่ายตรงข้ามกล่าวหา เขาถามด้วยความสงสัย “ใครกันที่วางพิษในร่างหมอปีศาจอย่างเจ้าได้?
จักรพรรดิในจักรพรรดิ หรือว่าเป็นจักรพรรดิแห่งแดนดิน?”
“ไม่ใช่, มันคือราชาเนตรปีศาจ” หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวแค่นเสียงตอบ
“ราชาเนตรปีศาจก็มาด้วยหรือ?” เว่ยซู่ได้ยินชื่อก็ประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ราชันย์หกจักรา
ราชันย์วารีฟ้าและราชันย์กลืนสมุทรก็มา
แต่พวกเขาอยู่ในหุบเขาพิรุณทิ้งข้ากับราชันย์เนตรปีศาจไว้ล่วงหน้าไปก้าวหนึ่ง” หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวถอนหายใจพ่นหมอกดำคลุมตัว
และร่างกายที่บาดเจ็บหนักของเขาฟื้นฟูเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
รองเจ้าหนักเว่ยซูซ่อนรังสีฆ่าฟันไว้ครึ่งหนึ่ง
ดวงตามีแววเสียใจ และเสียดายที่พลาดโอกาสสำคัญได้
แน่นอนว่าคำเตือนของเขาก็มีส่วนจริง
หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวแม้ว่าระดับพลังจะไม่แข็งแกร่งเท่าเขา
แต่ขึ้นชื่อในการใช้พิษ
ระดับเทียบได้กับนักสู้แดนสวรรค์ระดับราชาชั้นธรรมดาในดินแดนที่ห่างไกล
แม้ว่าจะมีโอกาสที่ดี
แต่รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่ไม่สามารถกำจัดเขาได้ง่าย ก็เหมือนกับหมอปีศาจ
ถ้าไม่สามารถฆ่าเขาได้ เขาจะสร้างความยุ่งยากได้ไม่สิ้นสุด นอกจากนี้ยังมีราชันย์เนตรปีศาจ ราชันย์หกจักรา
ราชันย์วารีฟ้าและราชันย์กลืนสมุทร
แม้ว่ารองเจ้าตำหนักเว่ยซู่จะคิดว่าเขามีระดับสูงกว่าเล็กน้อย แต่ทุกคนไม่อาจประมาทศัตรูได้
ถ้าสามารถมองหาพันธมิตรสักคน เช่นร่วมมือกับหมอปีศาจเว่ยจิงหลิว
นั่นถือว่าเป็นความคิดที่ดี
สองต่อสี่
ต่อสู้กับสี่ราชันย์ที่แข็งแกร่งมากกว่า
รองเจ้าตำหนักคิดได้เช่นนี้
และหัวเราะทันที “หมอปีศาจ, สถานการณ์บังคับเช่นนี้ทำไมเราไม่ร่วมมือกันเล่า? ถ้าสามารถค้นพบสมบัติในหุบเขาพิรุณได้
ข้าจะให้เจ้าเลือกก่อน ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เราให้ความสำคัญแก่พันธมิตรเสมอ
เราไม่เคยคืนคำ” หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวพูดประชดทันที “ใช่สิ, ถ้าราชันย์เนตรปีศาจทำให้สมองข้ากระทบกระเทือนได้
ข้าคงเชื่อเจ้าแน่!”
“ความจริงไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์บังคับหรือมีความสนใจร่วมกัน
ความร่วมมือของเราย่อมไม่มีความอันตรายแน่นอน
ทำไมเจ้าถึงไม่เต็มใจที่จะเอาชนะศัตรู?”
เว่ยซู่เหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดประชดประชันของหมอปีศาจ เขาหัวเราะ
“ข้าเชื่อว่าราชันย์เนตรปีศาจคงซ่อนอยู่ในที่ห่างออกไป ตราบเท่าที่เราร่วมแรงกัน
นอกจากเขาแล้ว ศัตรูที่เหลือยังมีราชันย์หกจักรา ราชันย์วารีฟ้า
และราชันย์กลืนสมุทร เจ้าเองก็รู้ว่าราชันย์หกจักราเจ้าเล่ห์
นอกจากนั้นยังเห็นแก่ตัว คาดว่าเขาจะรักษาความเป็นกลางจะไม่เข้าร่วมต่อสู้ระหว่างเรา
ที่เหลือก็คือราชันย์วารีฟ้าและราชันย์กลืนสมุทร พวกเขาจะขัดแย้งกันเสมอ แม้ว่าจะถูกบังคับให้ร่วมมือกัน
แต่พลังความแข็งแกร่งก็ยังต่ำกว่าเรา
ข้าขอรับประกัน ตราบใดที่เจ้าร่วมมือกับข้าเว่ยซู่ ในการต่อสู้ทั้งหมด
จะไม่ใช้ชีวิตของพันธมิตรแลกเอาชัยชนะแน่นอน คิดว่ายังไง?” “พูดน่าฟัง แต่ข้าจะไม่เชื่อใจใครอีก
ราชันย์เนตรปีศาจกับข้าเป็นสหายรักมาหลายร้อยปีแล้ว ทั้งหมดนั้นเริ่มมาจากผลประโยชน์ เจ้ายังจะยกเว้นได้หรือ?” หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวปฏิเสธการร่วมมือ
และใช้มีดสั้นดำนำทาง
“เอาเถอะ, เรายังมีเวลา เจ้าค่อยๆ คิดดู” เว่ยซู่ไม่รีบร้อน
และการกระทำของทั้งสองฝ่ายไม่ถือว่าจำเป็น
ตราบใดที่มีความต้องการเร่งด่วน
ย่อมจะมีพันธมิตรคอยช่วยเหลือในเส้นทาง
ในเวลานั้นไม่ใช่แต่เพียงเขาเองเท่านั้น หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวก็ต้องการคนช่วย
ดังนั้นความเป็นพันธมิตรดังกล่าวจึงถูกนำมาพิจารณาโดยธรรมดา
ในสนามรบเว่ยซู่มีประสบการณ์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อออกจากเขาวงกตของหุบเขาพิรุณเว่ยซู่ได้ยินเสียงแผ่วเบา
แม้จะไม่ชัดเจนในท่ามกลางเสียงลมและฝน
แต่เว่ยซู่แน่ใจว่านี้คือราชันย์เนตรปีศาจ
ถ้าตกอยู่ภายใต้การโจมตีของราชันย์เนตรปีศาจและตอบโต้กลับได้สำเร็จ
และทำร้ายราชันย์เนตรปีศาจจนบาดเจ็บสาหัสได้
เชื่อได้ว่าหมอปีศาจเว่ยจิงหลิวจะต้องยอมเชื่อความจริงใจของเขา
เพื่อให้บรรลุความเป็นพันธมิตร
หรือกำจัดคู่แข่งที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็สมควรทำ รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่ลอบตื่นตัว
อย่างนั้นก็ต้องเป็นราชันย์เนตรปีศาจลอบโจมตี
ถ้าไม่ใช่เพราะในหุบเขาพิรุณเต็มไปด้วยพลังกฎสวรรค์ แต่เป็นสถานที่อื่น
เว่ยซู่คงรอรับการโจมตีจากราชันย์เนตรปีศาจไปแล้ว
เพราะว่าด้วยพลังของรองเจ้าตำหนัก จะจัดการกับนักสู้ระดับราชาถือว่ามีพลังเพียงพอ น่าเสียดายที่ในหุบเขาพิรุณ
พลังของเขาลดลงไปมาก
แน่นอนว่าราชันย์เนตรปีศาจก็มีขีดจำกัดมากกว่าเช่นกัน
ทำยังไงจึงจะคว้าโอกาสโจมตีได้เต็มที่และทำให้ราชันย์เนตรปีศาจบาดเจ็บหนัก?
ราชันย์เนตรปีศาจมีพลังที่แข็งแกร่งมากและถนัดในเรื่องพลังโจมตีวิญญาณ ตราบเท่าที่ใครมองดูตาของเขา
จะตกอยู่ในความปั่นป่วนและพลังอ่อนแอลง และอาจทำให้ราชันย์เนตรปีศาจใช้เนตรปีศาจทำลายวิญญาณโดยตรง
และฆ่าได้ทันที
อย่างไรก็ตามราชันย์เนตรปีศาจยังมีจุดอ่อน
นั่นคือตาที่ใช้สร้างแสงสว่างจะได้รับบาดเจ็บ
จุดอ่อนนี้รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่ก็เพิ่งรู้
“หือ?”
ดูเหมือนว่าเป็นเสียงลมและเหมือนกับเป็นเสียงสายฝน
เว่ยซู่เข้าใจว่านี่เป็นเสียงลมและฝนที่ราชันย์เนตรปีศาจสร้าง นี่คือการเริ่มต้นของฝ่ายตรงข้าม
“ราชันย์เนตรปีศาจ ข้ารอเจ้ามานานแล้ว”
รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่ระเบิดออกมาเต็มที่ทันที
ทั่วทั้งร่างของเขาเปล่งแสงราวกับดวงอาทิตย์
รัศมีแสงส่องผ่านม่านสายฝนส่องสว่างไปทั่วหุบเขาพิรุณ
ทำให้คนไม่สามารถลืมตาขึ้นได้ ในมือขวาของรองเจ้าตำหนักเว่ยซู่
ควบแน่นลูกบอลพลังแสงสว่างเทียบได้กับดวงอาทิตย์
ในขณะนั้นเองมันหมุนรอบตัวเอง
เว่ยซู่ตวัดมือยอย่างรวดเร็วบอลแสงสว่างพุ่งผ่านราวกับสายฟ้า “ราชันย์เนตรปีศาจ จงตาบอดเสียเถอะ!”
บอลแสงระเบิดทันที
แรงระเบิดทำให้ทั่วทั้งหุบเขาพิรุณสั่นสะเทือน
และพลังแสงสว่างเจิดจ้าทำให้ฟ้าและดินสูญเสียสีสัน
และประกายแสงส่องอยู่ทั่วทั้งหุบเขาพิรุณอยู่นาน
จนกระทั่งสามนาทีผ่านไปแสงจึงค่อยสลัวลงจนหายไปเหมือนเมื่อก่อน
หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวไม่ต้องการก่อความยุ่งยาก แต่ก็อดอยากรู้ไม่ได้
เขาต้องการเห็นว่ารองเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์จะมีพลังระดับไหน นักสู้ปราณฟ้าระดับราชาจะต้านรับพลังนี้ได้หรือไม่ ราชันย์เนตรปีศาจและรองเจ้าตำหนักเว่ยซู่ไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าใด?
ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาทำให้เขาตกตะลึง
น่าตกตะลึงอย่างเหลือเชื่อ
หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวยืนนิ่งอยู่กับเป็นเวลานานราวกับโดนฟ้าผ่าใส่
ศีรษะมึนชาคิดอะไรไม่ออก
ไม่รู้ว่าเงาร่างสามร่างมาอยู่เงียบๆด้านหลังหมอปีศาจเว่ยจิงหลิวเมื่อใด
พวกเขาต้องการฉวยโอกาสนี้ฆ่าหมอปีศาจผู้ไม่ต้องการเห็นฉากภาพข้างหน้า และได้แต่หยุดตกตะลึง
และไม่รู้ตัวว่าจะตอบสนองอย่างไรเป็นเวลานาน ที่ด้านหน้าของคนสี่คน พื้นที่ถูกพลังระเบิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ นอกจากนี้มีการปกป้องพื้นที่โดยรอบด้วยพลังกฎสวรรค์
ด้านล่างถูกระเบิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่เท่าอุโมงค์เข้าเหมือง
ที่กลางอุโมงค์มีเสาหลักเพียงเสาเดียว
มีคนยืนอยู่บนนั้นคนเดียว
รองเจ้าตำหนักเว่ยซู่
เว่ยซู่ยังคงอยู่ในท่าควบคุมบอลพลังแสงเข้าโจมตีศัตรู
แต่ร่างที่เห็นนั้นเป็นร่างตายแล้ว
แม้แต่เว่ยซู่ไม่รู้ว่าเขาตายเมื่อไหร่
แต่ใบหน้าของเขามีความพึงพอใจเหมือนกับว่าเขาเห็นราชันย์เนตรปีศาจกลายเป็นคนตาบอด อย่างไรก็ตามเขาตายไปแล้ว..
ไม่มีบาดแผลบนร่างกาย
ยกเว้นดวงตาสูญเสียประกายชีวิตของคนที่มีชีวิตพึงมี และรอยฟัน แม้แต่เกราะสมบัติก็ยังรักษาสมดุลร่างกายไว้ได้
ใครกันที่ฆ่าเว่ยซู่จากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้?
นี่คือรองเจ้าตำหนักที่มีสุดยอดพลังปราณฟ้าระดับหก
เทียบกับนักสู้ปราณฟ้าระดับราชาเว่ยซู่ยังน่ากลัวมากกว่า
แต่เขากลับตายอย่างเงียบงันในหุบเขาพิรุณนี้
ใครมีพลังความสามารถที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้?
หมอปีศาจมองดูด้วยสีหน้าตกตะลึง
เขานึกไม่ถึง
“ลักษณะของเว่ยซู่ดูเหมือนเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ภายในร่างกายเขามีบาดแผลรุนแรงอย่างน้อยสามแห่ง
จุดแรกผลึกพลังงานในศีรษะของเขาแหลก
ตราบเท่าที่เว่ยซู่ไม่มีสิ่งนี้เขาไม่สามารถสู้ได้ ประการที่สอง หัวใจปีศาจถูกฉกออกไป
ในทำนองเดียวกันไม่มีหัวใจปีศาจ ต่อให้เว่ยซู่ไม่ตาย
เขาก็ไม่สามารถรักษาร่างกายได้ ประการที่สามจุดเชื่อมวิญญาณ
เว่ยซู่แผ่จุดเชื่อมวิญญาณไปที่แขนเพื่อค้นหาศัตรูและทำลาย
ดังนั้นแม้เว่ยซู่จะมีเกราะสมบัติป้องกันร่างกาย ต่อให้มีผลึกสวรรค์คืนชีพ
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรอดชีวิตได้อีก
เพราะวิญญาณของเขาถูกทำลาย”
เงาร่างที่ผอมสูงพูดเสียงเย็นชาราวกับมนุษย์น้ำแข็ง
“ราชันย์เนตรปีศาจ! เป็นฝีมือเจ้าหรือเปล่า?” เงาร่างทางซ้ายมือของสามคนเปล่งเสียงขึ้น
“เหลวไหล!
ราชันย์หกจักรา!
เจ้าคิดว่าเนตรปีศาจของข้าสามารถฆ่ารองเจ้าตำหนักของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หรือ?
ถ้ามีพลังขนาดนี้ทำไมข้าต้องมาเสี่ยงชีวิตที่นี่
มิสู้ไปที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ท้าทายตำแหน่งรองเจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ไม่ดีกว่าหรือ?” คนผอมสูงและราชันย์เนตรปีศาจหลับตา
“เจ้าไม่ได้ทำ
อย่างนั้นใครทำ?”
หนึ่งในสามคนพูดถึงปัญหานี้
“ต้องมีคนอื่นอีกแน่
อาจจะมีมากกว่าคนหนึ่ง”
เงาร่างที่อยู่ขวามือสุดของสามคนคาดการณ์เช่นนี้
“สามารถฆ่าเว่ยซู่ได้อย่างง่ายดายก่อนเรามาถึง
คนผู้นี้อย่างน้อยต้องมีพลังระดับจักรพรรดิ
คราวนี้เราตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว”
หมอปีศาจเว่ยจิงหลิวหัวเราะ
“สั่นกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้าสถานที่โบราณ ทุกชีวิตไร้ค่า
ขนาดชีวิตของรองเจ้าตำหนักแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ยังไม่มีค่าอะไร
ฆ่านักรบปราณฟ้าระดับราชาได้ก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน! อยู่ต่อหน้านักสู้ที่แท้จริงเราแค่ใหญ่กว่ามดแมลงเล็กน้อยเท่านั้น
ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ดีแล้ว
คนที่ฆ่ารองเจ้าตำหนักของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูของเรา” ราชันย์เนตรปีศาจแค่นเสียง “ข้าคิดว่าเรื่องเดียวที่เราต้องกังวลในตอนนี้ก็คือตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะได้ข้ออ้าง และส่งกองทัพเข้ามา”
ในจุดค่ายพักแรมที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่
บุรุษคนหนึ่งอยู่ในชุดคลุม
เมื่อเขาเห็นลูกผลึกบนโต๊ะแตกออกเป็นชิ้นๆ
เขาลุกขึ้นยืนทันทีและจับมือผู้อาวุโสของตำหนักด้วยความเคารพ เขาโบกมือไปที่นอกประตูและสั่งการ “สหายเว่ยซู่ที่อยู่ในเส้นทางสำรวจ
ถูกฆ่าตายแล้ว เตรียมการเดี๋ยวนี้ แก้แค้นเพื่อล้างอายให้ได้
ฆ่านักสู้ปราณฟ้าที่อยู่ข้างในให้หมด
ส่วนพวกที่ตั้งค่ายพักแรมข้างนอกเมื่อเราจากไป
ปล่อยให้นักรบแดนทมิฬลงมือโจมตีทันที... แดนสวรรค์ตะวันตกสงบสุขมานานเกินไปแล้ว” !-!
8 ความคิดเห็น:
ใครลงมือ พี่เย่ หรือ น้องฮุย
ขอบคุณครับ
หมาฆ่ารึป่าว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ใช่ไอ้สาม กะ น้องฮุย หรือเปล่าที่ลงมือฆ่า
ขอบคุณมากครับ
เจ้าตำหนักเปนฆาตกร ฟันธง
แสดงความคิดเห็น