วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 781 ตัวประหลาดหนุ่ม ตัวประหลาดเฒ่า


ตอนที่  781  ตัวประหลาดหนุ่ม ตัวประหลาดเฒ่า
ในท่ามกลางพายุ ในที่สุดก็มาถึงท้ายหุบเขาพิรุณ
 
ที่นี่มีศาลาหลบฝนที่ดูแปลกประหลาด  สิ่งก่อสร้างในแดนสวรรค์มีนับไม่ถ้วน เว่ยซู่ไม่เคยเห็นบ้านรูปลักษณ์แบบนี้มาก่อน  ด้านทั้งสี่เปิดโล่งมีเสาสี่ต้นค้ำซุ้มหลังคาแปดเหลี่ยม  ภายในศาลามีชายชราคนหนึ่งดูเหมือนกำลังนั่งคิด
พอมีคนเข้าไปใกล้ จึงรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติเล็กน้อย
ชายชราผู้นี้ไม่ได้นั่ง แต่เป็นกึ่งนั่ง เพียงเพราะร่างของเขาครึ่งหนึ่งกลายเป็นหินตั้งแต่ใต้ขาลงไป ยืนไม่ถนัด นั่งลงก็ไม่ได้ มองดูห่างๆ เหมือนกับนั่ง ความจริงในท่าอย่างนี้ไม่สามารถนั่งลงได้ จะยืนก็ไม่ได้ ตอนนี้ชายชราคงอยู่ในท่านี้เป็นเวลานาน น่ากลัวคงทรมานยิ่งกว่าตาย
ที่ด้านหน้าชายชราที่ขากลายเป็นหิน  มีเหยือกและแก้วหนึ่งใบ
ทุกคนเอื้อมถึง
อย่างไรก็ตามเหยือกและแก้วอยู่ไกลเกินกว่าชายชราจะเอื้อมถึง  และแม้แต่เขาจะขยับร่างกาย ก็เอื้อมนิ้วไปไม่ถึงเหยือกและแก้วน้ำ
จะนั่งก็ไม่ได้ จะยืนก็ไม่ถนัด  มองเห็นอยู่ว่ามีเหล้าอยู่ข้างหน้า แต่ไม่สามารถรินใส่แก้วและดื่มได้
ดูเผินๆ การลงโทษนี้ดูเหมือนกับไม่มีอะไร แต่เมื่อลองคิดดู นี่เป็นการลงโทษที่โหดร้ายที่สุดในโลก  เว่ยซู่มองดูและอดลอบถอนใจมิได้  ถ้าทำให้คนต้องเป็นเช่นนี้ ฆ่าตัวตายยังเป็นเรื่องง่ายกว่า แน่นอนว่าเขาเข้าใจว่าสุดยอดนักสู้ผู้ลงโทษชายชรานี้  จะไม่ยอมให้ชายชรานี้มีโอกาสฆ่าตัวตาย ดังนั้นในกรณีนี้เป็นการมีชีวิตอยู่ที่แย่ยิ่งกว่าตาย  ความตายย่อมต้องมีความเจ็บปวดน่ากลัวอย่างแน่นอน แต่ต้องทนทรมานอย่างนี้ตลอดไป   เว่ยซู่ยินยอมเลือกความตาย  ที่สำคัญความตายผ่านไปเร็ว ขณะที่ความทรมานนี้คงอยู่ตลอดไป
 “ผู้เฒ่า!  เชิญดื่ม” เว่ยซู่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าขาที่เป็นหินทั้งสองข้างของชายชราถูกจองจำด้วยกฎสวรรค์ ไม่เพียงแต่ไม่สามารถโยกย้ายได้เท่านั้น เขาอาจจะกลายเป็นหินก็ได้
อย่างไรก็ตามการรินเหล้าในแก้วน้ำให้ผู้เฒ่า
เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย
ถ้าท่านสามารถทำเช่นนี้ได้ สามารถได้มาซึ่งข้อมูลการออกไปจากหุบเขาพิรุณในตัวของชายชรายังเป็นเรื่องง่ายมาก
เว่ยซู่ค้อมศีรษะและไม่กล้ามองดูเย่ว์หยางข้างหลังเขา  เขารินเหล้าใส่แก้วและส่งให้บุรุษที่ขากลายเป็นหินด้วยมือทั้งสอง
ชายชราคงจะเป็นขี้เหล้าเก่าที่ไม่สามารถได้รับเหล้า พอเขารับเหล้า
ก็รีบกรอกเหล้าลงคอทันที
นั่นแหละ
เว่ยซู่รู้สึกว่าในที่สุดเขาก็ได้แสดงบทบาทเสียที  อะไรก็ตามที่เป็นการถือโอกาสรับใช้คุณชายสามต้องไม่พลาด แม้แต่เรื่องการรินเหล้าให้ชายชรา จะช่วยไม่ให้คุณชายสามต้องลงมือเองใช่ไหม? นี่ไม่ใช่นิสัยของตัวเขาเอง  ต่อไปก็เป็นวิธีพูดคุยกับชายชราและเอาความลับในการออกจากหุบเขาพิรุณ
อ๊า..อ๊า... อ๊า..
ชายชรากรีดเสียงร้องโหยหวน ใบหน้าเปล่งปลั่งของเขากลายเป็นสีดำเหมือนคนตาย
ริมฝีปากม่วงคล้ำ
ทั้งดวงตาและรูจมูกมีเลือดดำไหลออกมา เป็นลักษณะอาการตายที่เกิดจากพิษ
 “ไม่นะ,  ข้าเปล่าทำ!  เว่ยซู่ตกใจและรีบตรงไปหาเย่ว์หยาง นี่ต้องเป็นฝีมือของหมอปีศาจ ราชันย์เนตรปีศาจและคนอื่นที่ผ่านทางมาก่อนแล้ววางยาพิษไว้ในแก้ว  มิฉะนั้นตัวเขาเองไม่ได้ทำอะไร แล้วชายชราจะต้องพิษได้ยังไง?   แต่สิ่งที่ทำให้เว่ยซู่มึนงงก็คือเมื่อเขาเอาแก้วเหล้ามาดู กลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแก้วเหล้าไม่มีพิษ  มิฉะนั้นเขาคงไม่ส่งให้ชายชราดื่ม  แต่ว่าเขาถูกพิษเมื่อตอนดื่มได้อย่างไร?
 “โง่จริง”  เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชา  “นี่เป็นพลังแห่งการลงทัณฑ์”
พอเย่ว์หยางพูดเช่นนั้นเว่ยซู่จึงเข้าใจได้ทั้งหมด
ไม่ใช่มือของเขาเองที่มีปัญหา
ทั้งไม่ใช่หมอปีศาจวางยาพิษชายชรา  แต่เป็นพลังทัณฑ์สวรรค์กำลังทำงาน  ไม่ว่าใครแสดงความเห็นใจชายชราผู้นี้แล้วรินเหล้าให้เขา  พอเหล้าล่วงลงลำคอจะกลายเป็นพิษทันที  พูดอีกอย่างก็คือแม้ว่าชายชรานี้จะได้ดื่มเหล้า แต่เขาไม่ได้อาการดีขึ้น  กลับย่ำแย่และเจ็บปวดมากกว่าเดิม!
พฤติกรรมช่วยรินเหล้าให้ชายชรามองดูอย่างผิวเผินเป็นความปรารถนาดี  แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงก็คือทรมานอีกฝ่ายหนึ่งอย่างหนัก
 “ใช่แล้วๆๆ ข้าเลินเล่อไปหน่อย”
เว่ยซู่คิดได้ดังนี้รู้สึกอายจนแทบสิ้นสติ
แม้แต่ในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เขาถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่มีปัญญา แต่เรื่องนี้เขาผิดพลาดได้อย่างไร?
ชายชราไออยู่นานและดูเหมือนไอจนปอดแทบกระเด็นหลุดออกมาจากตัว
เป็นเวลานาน
เขาค่อยหยุด
สีหน้าของเขาค่อยดูดีขึ้นมาเล็กน้อย  นัยน์ตาเขาค่อยมีประกายขึ้นบ้างไม่เหลือกขาวไร้สีสันเหมือนเมื่อก่อนที่ประกายแตกซ่าน  เขายังไอด้วยความเจ็บปวด และโบกมือให้ “ไม่, ไม่เป็นไร เราผู้เฒ่าไม่ได้ดื่มกินมานานแล้ว นานมากจริงๆ มันน่าอึดอัดจริงๆ  อย่างไรก็ตาม ข้าไม่อาจตายได้ และได้ดื่มสักแก้วนับเป็นเรื่องดีจริงๆ พวกเจ้าแข็งแกร่งและมีประสบการณ์ แต่ด้วยพลังความแข็งแกร่งอย่างเจ้ามีอยู่มากมายในอดีต  แต่ตอนนี้หาได้ยาก.... ต้องการจะผ่านหุบเขาพิรุณเป็นเรื่องที่ง่ายมาก  ตราบใดที่จับนางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นๆ กลับมาได้ภายในหนึ่งวัน จากนั้นบินขึ้นไปบนยอดศาลาหลบฝน”
นางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นอสูรบินชนิดพิเศษที่มีความเร็วมาก
มันบินอยู่ในท้องฟ้าตลอดทั้งปี
ต่อให้มันหลับ มันก็ยังไม่หยุดบิน  ถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษมันแทบจะไม่หยุดบินเลย
ในแดนสวรรค์ยังคงรู้จักนกชนิดนี้กันว่านกไร้เท้า  แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือแม้ว่าพลังของนกนางแอ่นพายุสายฟ้านี้จะไม่เลว ความเร็วในการบินรวดเร็ว แต่มันขี้ขลาดมาก  มันมีขนาดเล็กกว่าและอ่อนแอกว่าอสูรหลายชนิด มันจะกลัวจนตื่นหนีอย่างบ้าคลั่ง ถ้าให้อสูรหรือนักรบไล่จับมัน  มันจะกลัวอย่างหนักและอาจตายได้ทันที
แน่นอนว่านักรบแดนสวรรค์หลายคนเรียกมันว่านกไร้ถุงน้ำดี
ด้วยพลังของเว่ยซู่  แม้ว่าในหุบเขาพิรุณนี้จะมีข้อจำกัด แต่ไม่ใช่เรื่องยากกับการจับนางแอ่นพายุสายฟ้า
แต่จะเอามันกลับมาเป็นๆ ได้อย่างไร และบินขึ้นไปบนยอดหลังคาศาลาหลบฝน  มีความยากอยู่เล็กน้อย.. เว่ยซู่มองดูเย่ว์หยางและพบว่าเขาไม่แสดงสีหน้าอะไร  เขาแค่โบกมือและออกไปค้นหานางแอ่นพายุสายฟ้า
ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่ต้องนำนางแอ่นพายุสายฟ้ากลับมาเท่านั้น  แต่ต้องนำมาถึงสอง
อย่างคุณชายสามจะเข้าใจเรื่องการจับนางแอ่นพายุสายฟ้าหรือไม่?
คิดว่าเป็นไปไม่ได้
เว่ยซู่คิดหาว่าจะจับนางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นๆ ได้อย่างไร?
หลังจากเย่ว์หยางและเว่ยซู่เดินออกไป  หลังจากไม่เห็นใครแล้ว ชายชรานั่งบนม้านั่งหินหยิบเหยือกเหล้าและเทใส่ปาก  ชายชราเหมือนกับว่าถูกหนอนสุรารบกวน นิ้วของเขาสั่น  เมื่อเย่ว์หยางไม่อยู่เขากัดฟันดื่มเหล้าที่เหลืออยู่เพียงครึ่งกาเล็ก ก่อนที่จะเหือดแห้งไปหมด
 “นี่เป็นเหล้าชั้นเลว เผ็ดร้อนบาดคอยากจะดื่มได้”  เย่ว์หยางอยู่ต่อหน้าชายชราและเทเหล้าที่เหลือในกาลงบนพื้น
 “เจ้าเด็กโง่, นี่คือเหล้าที่หมักจากผลไม้ในแดนสวรรค์ถึงร้อยชนิด เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดเหล้าของแดนสวรรค์เลยทีเดียว ของแบบนี้จะดื่มยากได้ยังไง!  นอกจากนี้ถ้ามันดื่มยากนัก  แล้วเจ้าเล่า? เจ้าดื่มหรือเปล่าถึงได้ทิ้งขว้างของอย่างนี้!  ชายชรามองเย่ว์หยางเทเหล้าทิ้งกับพื้นรู้หัวใจแหลกสลาย
 “ก็ข้าพอใจเสียอย่าง” น้ำเสียงของเย่ว์หยางคล้ายกับคนฟุ่มเฟือย
 “ข้ากลัวเจ้าจริงๆ ถ้าเจ้าไม่ต้องการดื่ม ถ้าเจ้าต้องการจะเททิ้ง มิสู้เทใส่ปากข้าดีกว่าหรือ?” ชายชราทำอะไรไม่ได้นอกจากดึงดันถามเย่ว์หยาง
 “ดื่มไปแล้วกลายเป็นยาพิษ  ท่านก็เพิ่งได้รับผลร้ายของมันไปหยกๆไม่ใช่หรือ? แล้วจะดึงดันดื่มอีก?”  เย่ว์หยางไม่หันมามอง  แต่พฤติกรรมเทเหล้าในมือดูเหมือนเป็นสาเหตุให้เขาฟังชายชรา
 “เจ้าเห็นแต่แรกแล้ว.. ใช่แล้ว ข้าไม่ได้ถูกวางยาพิษ  ถ้าข้าไม่กินเหล้า  ข้าจะต้องแก้พิษวันละสิบครั้ง  ข้าจะกินพิษจากเส้นผมและปล่อยให้พิษกำเริบเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามข้าจะไม่ตาย เจ้าให้ข้าดื่มเถอะ และคนที่ทรมานจากยาพิษก็เป็นข้า ไม่ใช่เจ้าสักหน่อย!” ชายชราพูดว่าเขาคงไม่ตาย นั่นคือเขาอาจตายได้   แต่บางทีจมน้ำตายอาจจะดีที่สุด
 “นั่นใช้ไม่ได้  ข้าไม่คิดจะเอาเปรียบท่าน มีแต่ความเห็นอกเห็นใจ ปกติข้าจะไม่ทำอันตรายผู้คนอยู่แล้ว”  เย่ว์หยางพูดอย่างนี้ ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ยินคำพูดนี้ นางคงไม่เห็นด้วยเด็ดขาด
 “พ่อหนุ่ม! คนที่ไร้เมตตาจึงจะแข็งแกร่งอย่างนี้ได้!  ชายชราให้คำแนะนำ  “ให้ข้าดื่มเถอะ  อย่างน้อยก็ทำให้ข้ารู้สึกโล่งใจได้!
 “ให้ท่านดื่ม แล้วข้าจะได้อะไรขึ้นมา?”  เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
เขาบอกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ให้ความสนใจก่อนนั้น
เรื่องทำร้ายผู้อื่นสามารถทำได้  แต่ทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์?  เขาไม่เคยทำ
ชายชราพอได้ยินเช่นนี้ถึงกับตะลึง  เด็กคนนี้นิสัยเหมือนกับมีชีวิตมาอย่างยาวนาน  ข้าไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน  เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญนี้ไม่ธรรมดา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือทัศนคติของเด็กหนุ่มนี้ดึงดัน และคุยโต ดูเหมือนว่าจะจัดการได้ยากกว่าที่คิดมาก  แต่ต้องมีความเชื่อมั่น ชายชราให้ความสนใจเย่ว์หยาง และไม่พูดถึงเรื่องการดื่มอีกเลย  จากนั้นเขาถาม “เด็กน้อย!  เจ้าเป็นใคร มาจากตระกูลไหน?”
เย่ว์หยางอวดอ้างหน้าตาเฉย “หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่,  ตระกูลเย่ว์”
ชายชราถามด้วยอาการงงงวย “ข้าเคยได้ยินชื่อสี่ตระกูลใหญ่มาก่อน  แต่ดูเหมือนจะไม่มีตระกูลเย่ว์อยู่เลย!
เย่ว์หยางวิเคราะห์ “ท่านจะรู้ได้ยังไง? นี่มันปีไหนกันแล้ว? ข้อมูลความรู้ของท่านยังไม่ได้ปรับปรุง  ตอนนี้สี่ตระกูลใหญ่เป็นสี่ตระกูลรุ่นใหม่!
ชายชราพอได้ยินก็ตวาดกลับทันที  “กลับกลายเป็นว่าเจ้าไม่ใช่คนของสี่ตระกูลใหญ่ที่แท้จริง  ข้าก็คิดไว้อย่างนั้นเช่นกัน ด้วยคุณภาพของคนจากสี่ตระกูลใหญ่  จะสอนให้คนมีนิสัยแปลกประหลาดได้ยังไง  ตัวประหลาดน้อย!  เจ้าเป็นตัวปลอม! เฮ่ย.. เจ้าไม่ใช่เป็นตัวปลอม  เราไม่ต้องพูดถึงปัญหานี้ดีกว่า  เจ้ามาจากไหน ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า!  แต่ตอนนี้ข้ามีข้อสงสัย เจ้าอายุเพียงยี่สิบปี  แต่เจ้าสร้างพลังปราณราชันย์ได้ยังไง?  เป็นผู้ใดกัน ที่มีความสามารถยิ่งใหญ่ทำให้เด็กน้อยทรงพลังได้มากถึงเพียงนี้!
 “สุดยอดปราณราชันย์ เกือบถูก!  เย่ว์หยางผายมือด้วยอาการนอบน้อมเมื่อพูดคุยถึงอาจารย์ของเขา  “เมื่อพูดถึงอาจารย์ข้า ถ้าพูดถึงอาจารย์ของข้า รับประกันได้ว่าท่านจะต้องกลัวแทบตาย!
 “จริงหรือ? เขาเป็นใคร?”  ชายชราพอได้ยินชื่อ เขาหายใจถี่เร็ว  หน้าของเขาดูเหมือนจะคาดเดาชื่อได้ไม่กี่คน ก่อนจะได้รับคำเฉลย
 “อาจารย์ของข้านามว่าสุ่ยตงหลิว รองผู้อำนวยการสถาบันฉางชุนเถิง  เขาเก่งในเรื่องการเทเลพอร์ตผ่านมิติ  และพัฒนาม้วนเวท และผลึกเวทเทเลพอร์ตผ่านมิติ มาเป็นเวลานานแล้ว ทำให้เวลาในการเดินทางสั้นลง แต่ระยะทางเพิ่มขึ้น  อีกเรื่องก็คือภาพวาดปลุกใจเสือป่าของเขาก็เป็นศิลปะที่ผ่านการวิจัยมาอย่างลึกซึ้ง”  ขณะที่เย่ว์หยางเล่าเรื่องชายชราส่ายศีรษะอย่างระอา เจ้าเด็กคนนี้ช่างตลกจริงๆ
 “เจ้าไปที่หอทงเทียนมาเมื่อไหร่? แล้วประตูแดนสวรรค์ไม่ใช่ว่าถูกผนึกไปแล้วหรือ?”  ชายชราดูเหมือนจะรู้บางเรื่องของอีกโลกหนึ่ง
 “ข่าวย้อนหลังไปนานมากแล้ว ที่ท่านได้ยินมานั้นมาจากปฏิทินยุคเก่า” เย่ว์หยางวิจารณ์และพูดอย่างเป็นกันเอง  “ข้าไม่สามารถเดินผ่านประตูแดนสวรรค์ได้ แล้วข้าจะกลับมาได้อย่างไร? ตราบใดที่ยังมีคนหนุนหลังอยู่  การกลับมาจึงเป็นเรื่องง่ายและธรรมดามาก”
 “มีคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าหรือ?”  ชายชราถามด้วยความแปลกใจ  “เจ้ารู้ไหมว่าเป็นใคร? เจ้าเด็กจักรพรรดิอวี้ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? เขาสร้างเจ้าขึ้นมาใช่ไหม?”
 “.......” เย่ว์หยางเหงื่อหยด เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนที่ไม่รู้จักเรียกจักรพรรดิอวี้เป็นเด็ก
 “เฮ้ เฮ้, เดี๋ยวก่อน ข้ารู้แล้ว เจ้าเป็นศิษย์ของแม่หนูเฟ่ยเหวินหลี  ใช่แน่นอน  แม่หนูนั่นเอาเข็มทิศสามพิภพไปจากมือของสหายเก่าผู้โชคร้ายของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีพลังของเผ่าปีศาจอสรพิษปรากฏออกมาเป็นระยะๆ ข้าคงคาดเดาไม่ออก!  ใช่แล้ว ตัวประหลาดน้อย กลับกลายเป็นว่าเจ้าเป็นศิษย์ของเฟ่ยเหวินหลี เป็นคนที่แม่หนูนั่นฝึกขึ้นมานี่เอง  เอ่..ไม่ถูก แม่หนูเฟ่ยเหวินหลีถูกผนึกไปแล้วไม่ใช่หรือ?  นางออกมาแล้วหรือ?  เหลวไหลจริงๆ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย  ความผิดของข้ายังไม่ได้ครึ่งของนาง  นางออกมาได้แล้ว แต่ข้ายังต้องรับโทษอยู่ที่นี่ ไม่ยุติธรรมเลย!  ชายชราเริ่มร้องดังขึ้นทุกที
 “ถ้าท่านยังร้องอยู่อีก ข้าจะไม่ช่วยท่าน”  เย่ว์หยางเพิ่งหายตกใจ  แน่นอนแล้วว่า ชายชรานี้คือคนที่เขาคิดไว้  ความคิดของเขาพลุกพล่าน ขณะที่มองดูเหมือนปกติ เขาเอาเหล้าฉีหลานที่เก็บไว้ในแหวนซึ่งเป็นเหล้ารสดีออกมาและรินใส่แก้วแล้วสูดกลิ่น
 “ข้าไม่ต้องให้เจ้าช่วย.. เฮ้.. เจ้าใช้เหล้าแบบไหนกัน กลิ่นหอมเหลือเกิน อา.. เจ้าทำให้หนอนสุราของเราผู้เฒ่ากำเริบแล้ว” ชายชราอ้าปากอย่างน่าสงสาร
 “ไม่ได้!  เย่ว์หยางปฏิเสธเสียงแข็ง
 “เฮ้ย.. เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไง ถึงอย่างไรข้าก็ยังเป็นรุ่นอาวุโสของเจ้า  นี่เป็นมารยาทที่ผู้เยาว์มีต่อผู้อาวุโสหรือ?” ชายชรารีบอวดอ้างความเป็นอาวุโสทันที
 “ผู้อาวุโสจริงเหรอ? งั้นบอก ชื่อ, ภูมิลำเนา, เมือง สัญชาติ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน ฯลฯ แจ้งมาให้หมด!  เย่ว์หยางวางมาดราวกะเป็นนายทะเบียนสำมะโนครัว ชายชรารู้สึกเหมือนจะเป็นลม
เขาเคยเห็นแต่ผู้อาวุโสถามลำดับกับผู้เยาว์ แต่ไม่เคยเห็นผู้เยาว์ซักประวัติจากผู้อาวุโสมาก่อน
วันนี้เขาได้พบเจอในที่สุด
ชายชราหน้าแดงด้วยความละอาย  “ตัวประหลาดน้อย, เราผู้เฒ่าก็อยู่หอทงเทียนเหมือนกับเจ้า  ถ้าใครตาไม่บอดก็คงมองเห็น  เจ้าอย่าทำเป็นงี่เง่ากับเราผู้เฒ่าเลย”
เย่ว์หยางตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง  “เฒ่าประหลาด!  ถ้าท่านไม่ยืนยัน ก็ต้องรู้ไว้นะว่าในโลกนี้มีพวกหลอกลวงโกงทั้งการกิน โกงทั้งเงินทอง ข้าต้องกำหนดสถานะของท่านก่อน มิฉะนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าข้าจะได้ข้อมูลไม่ครบ ว่าต่อไป ขอเลขรหัสลงทะเบียน .. ชื่อ  เพศ”
ชายชราทึ้งศีรษะร้องด้วยความเจ็บปวด  “ข้าอยากต๊ายย! อยู่มาจนสองหมื่นปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าอยากตาย!  ตัวประหลาดน้อย!  นี่เจ้าโผล่มาจากไหนกันแน่?”

6 ความคิดเห็น:

WingF กล่าวว่า...

โอ้วผู้ทรงพลังเมื่อ 20000 ปีก่อน

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

nutzido กล่าวว่า...

แสบกว่ากันเยอะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น