วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 782 การคำนวณ สะเทือนใจที่สุดในชีวิต


ตอนที่  782  การคำนวณ สะเทือนใจที่สุดในชีวิต
 “ท่านช่างน่าสงสัยมากจริงๆ”
 
เย่ว์หยางวางมาดสอบสวนเหมือนกับเชอร์ล็อค โฮล์ม  เขาพูดถึงจุดที่น่าสงสัย “ท่านบอกว่า ท่านอยู่ที่นี่มาเกือบสองหมื่นปี ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจริงหรือไม่จริงก่อน ท่านอ้างว่าอยู่ที่มาถึงสองหมื่นปี แล้วรู้จักจักรพรรดิอวี้และนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้ยังไง?”
ชายชราตอบอย่างใจเย็น “ทั้งจักรพรรดิอวี้และนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ก็เข้ารับการทดสอบฝึกฝนที่นี่ เจ้ายังจะกล่าวหาว่าข้าไม่รู้จักพวกเขาอีกหรือ? สองสามพันปีที่ผ่านมาช่างเงียบเหงาน่าเบื่อ ก่อนหน้านี้ที่นี่คึกคัก  เจ้าว่ายังไงนะ?  ทดสอบน่ะหรือ? ไม่, คนที่เข้ามาฝึกฝนทดสอบไม่มีใครผ่านด่านทดสอบได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีแม้แต่จักรพรรดิอวี้  และเฟ่ยเหวินหลีที่เจ้าเทิดทูนบูชาก็ยังทดสอบผ่านด่านไม่สำเร็จ  ใช่แล้วพวกเขาผ่านไปถึงสิบด่าน จักรพรรดิอวี้ไม่ผ่านด่านที่แปด  แม่หนูเฟ่ยเหวินหลี ผ่านด่านที่เก้า และพอมาถึงด่านที่สิบ  เพราะเงื่อนไขบางอย่างไม่ครบนางจึงถอยกลับในที่สุด  ตัวประหลาดน้อย บอกความลับกับเจ้าก็ได้ ด่านฝึกฝนที่นี่ยากกว่าประตูเป็นตายของหอทงเทียนชั้นสิบ เงื่อนไขในการผ่านได้ทั้งหมดไม่ใช่แค่พลังและความกล้าหาญ!
เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชาและตอบกลับ “แดนสวรรค์กว้างใหญ่ไพศาล ยอดฝีมือมากมายเหมือนกับขนโค ไม่ใช่ว่าพวกเขามีแค่ความแข็งแกร่งและกล้าหาญก็พอแล้วหรอกหรือ?”
ชายชรามีความสุข “เด็กน้อยอย่างเจ้าไม่เชื่อเช่นนั้น แต่เรื่องของมนุษย์ บางครั้งมีพลัง ไม่จำเป็นต้องมีความกล้า  บางครั้งมีความกล้าไม่จำเป็นต้องมีพลัง มีทั้งสองอย่างไม่จำเป็นต้องมีโชคได้หรือ นี่เป็นเงื่อนไขสำคัญ!
โชค
เย่ว์หยางยังคงเงียบ
ถ้าชายชราพูดเรื่องอื่น  เย่ว์หยางต้องปฏิเสธแน่นอน
แต่พอเขาบอกว่าโชค นี่ไม่สามารถสงสัยได้  เพราะโชคมีอยู่จริง แต่ไม่สามารถเห็นได้  และไม่ใช่ว่าไม่มี ต่อให้เป็นคนๆ เดียวกันก็อาจจะให้ผลแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  คนผู้หนึ่งไม่มีพลังความแข็งแกร่ง ไม่มีความกล้าหาญ แต่ย่อมมีโชคได้  ชายชราเมื่อเห็นเย่ว์หยางเงียบก็อดพูดล้อเลียนเขาไม่ได้  “ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ตัวว่าไม่มีโชค เด็กน้อย และเจ้าคงรู้ว่าโชคคืออะไร ฮ่าฮ่า!
เย่ว์หยางฟังแล้วหน้าแดงด้วยความอยาย  ถ้านี่เป็นคนอื่นพูด นั่นอาจจะมีเหตุผลบ้าง
แต่เมื่อพูดเตือนตนเองย่อมทำให้คนรู้สึกละอาย
ความจริงแม้แต่เย่ว์หยางเองก็ต้องยอมรับว่าถ้าเขาโชคดี ทั่วทั้งหอทงเทียนหรือทั่วโลกคงไม่มีใครโชคดีไปกว่าเขาแล้ว
ชายชราคิดว่าเย่ว์หยางเป็นผู้เยาว์ที่มีความแข็งแกร่งน่าเกรงขาม เพราะได้อาจารย์ช่วยกวดขันให้ฝึกฝนทั้งวันและคืนเก็บกดความทุกข์ทรมานไว้มาก  ใครกันที่ช่วยให้เย่ว์หยางฝึกฝนอย่างนี้?  เด็กคนนี้ไม่มีใครเหมือนแม้แต่น้อย  แม้ว่าเขาจะมีกระบวนการฝึกฝน  แต่ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจและความรู้สึกรับรู้ที่รวดเร็ว  ความเร็วในการฝึกฝนของเย่ว์หยางนั้นมากมายกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ที่น่าทึ่งก็คือนอกจากความฉลาดของของเขาแล้ว เขายังมีความรับรู้เป็นเลิศ และเป็นเพราะเทพธิดากระบี่ฟ้าและความรู้ของพี่สาวแม่สี่และนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
กล่าวคือชายชรามองเย่ว์หยางอย่างเข้าใจผิดประเมินเย่ว์หยางด้วยสายตาของคนธรรมดา
เย่ว์หยางยิ้ม
เขาคงไม่กระโดดโลดเต้นหัวเราะร่าและประกาศความเป็นเด็กน้อยผู้โชคดีแน่  การแสดงออกอย่างนั้นเป็นเรื่องโง่ๆ มีแต่เจ้าอ้วนไห่เท่านั้นที่ทำ!
 “เข้าไปทดสอบได้เลย และดูว่าเจ้าจะทำได้แค่ไหน หุบเขาพิรุณของข้าเป็นระดับที่ง่ายที่สุดแล้ว  ทุกครั้งที่เจ้าเข้าไปสู่ระดับหนึ่ง ความยากจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า หลังจากผ่านระดับหกความยากจะผิดไปจากธรรมดา เจ้าจะต้องผ่านระดับหกได้  เจ้าสามารถมีชื่อเสียงในโลกขึ้นบ้าง”  ชายชราแสดงสีหน้าเป็นจริงจังครั้งแรก การทดสอบสามระดับแรกแม้ว่าจะเป็นมาตรฐานระดับธรรมดา หลังจากนั้นจนถึงระดับหกเป็นระดับที่ยากอย่างแท้จริง หลังจากผ่านระดับหกไปนั่นคือการทดสอบนักสู้ที่แท้จริง
 “จะได้รางวัลอะไรบ้างหลังจากผ่านได้แล้ว?”  เย่ว์หยางคิดว่าถ้ามีสมบัติเทพเป็นรางวัล แม้ว่าจะต้องใช้เวลาทดสอบบ้างก็นับว่าไม่เลว
 “อย่าฝันหวานดีกว่า  แม้แต่แม่หนูเฟ่ยเหวินหลีก็ยังไม่กล้าท้าทายด่านที่สิบ”  ชายชราส่ายศีรษะและโบกมือ  “เด็กน้อย, เจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอ เจ้ารู้ไหม? ข้าผ่านได้ถึงระดับไหน? ระดับหก และติดอยู่ที่ด่านที่เจ็ดยังไม่สามารถผ่านไปได้!
 “ผู้อาวุโส!  ข้ามีสิ่งที่ท่านไม่มี”  เย่ว์หยางยิ้ม เขายิ้มด้วยความภาคภูมิใจ “ท่านไม่ผ่านระดับที่เจ็ด ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะผ่านไม่ได้!
 “เจ้าว่ายังไงนะ?  เจ้าหมายความว่าเจ้าฉลาดกว่าข้าอย่างนั้นหรือ?”  ชายชราแค่นเสียง “เด็กน้อย!  อย่านึกว่าฉลาดขึ้นนิดหน่อย แล้วจะทำโอหังได้!
 “ลองดูไหมเล่า?” เย่ว์หยางผายมือและท้าทายผู้อาวุโส
 “ถึงเวลาให้เจ้าได้เรียนรู้วิธีให้เกียรติรุ่นบรรพบุรุษเสียแล้ว”  ชายชรารู้สึกไม่ยินยอม
 “ถ้าแพ้แล้วอย่ามาโอดครวญว่าข้ารังแกคนแก่อ่อนแอเจ็บป่วยก็แล้วกัน...”  คำพูดของเย่ว์หยางทำให้ชายชราแทบคลั่ง  เขาเคยเห็นเด็กผยองมามากมาย  แต่ไม่เคยพบเจอพวกหน้าหนาอย่างเย่ว์หยางมาก่อน
 “เราผู้เฒ่าถนัดในเรื่องนี้  อย่าหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กเลย! ช่างเถอะ ข้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ”  ชายชรายกตัวอย่างทันที “1 คูณ 9 บวก 2 เท่ากับ 11, 12 คูณ 9 บวก 3 เท่ากับ 111 ... และไปเรื่อย 123456789 คูณ 9 บวกเท่าไหร่จึงจะเท่ากับ  1111111111? เป็นไงบ้างเด็กน้อย ข้าให้เวลาเจ้าสิบนาที คำนวณออกมาให้ได้!
 “หมูมาก” เย่ว์หยางมองตาไม่กระพริบ แล้วตอบทันที “บวก 10”
 “อะไรนะ?”  ชายชราตะลึง
 “ข้าคงลำบากแย่ ถ้าท่านเอาปัญหาระดับนักเรียนชั้นประถมมาถาม ปัญหานี่ข้าเห็นมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลแล้ว ถ้ายังตั้งปัญหาตื้นเขินแบบนี้อีก ข้าจะถุยละนะ” คำตอบของเย่ว์หยางทำให้ชายชราสั่น
 “เจ้าพบคำตอบนี้ได้ยังไง?”  ชายชราไม่เข้าใจ คำถามยากขนาดนั้นเจ้าเด็กนี่คำนวณคำตอบออกได้ยังไง?
 “ไม่มีคำอธิบาย” เย่ว์หยางทำเป็นแหงนหน้า 45 องศามองดูดวงดาว
 “เฮอะ..ก็แค่แมวตาบอดวิ่งชนหนูตาย (ฟลุ้ค)  ขนาดคนมีปัญญายังไม่มีทางคิดคำตอบได้ในหนึ่งวินาที” ในใจของชายชราเชื่ออย่างมั่นใจว่า ถ้าไม่รู้คำตอบล่วงหน้า เขาคงไม่สามารถตอบได้ทันที  เขาตั้งใจจะตั้งคำถามอีกสองสามข้อและค่อยทุบเจ้าเด็กปากเหม็นนี่ พอคิดในใจแล้วเขาพูดขึ้นทันที “1 คูณ 1 เท่ากับ 1, 11 คูณ 11 เท่ากับ 121, 111111111 คูณด้วย 111111111 ตอบมาเดี๋ยว ไม่ต้องเสียเวลาคิด..”
 “เท่ากับ 12345678987456321” เย่ว์หยางพูดตอบทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิดแม้แต่วินาทีเดียว
 “ไม่มีทาง!!” ชายชราสั่น
 “123456789 ต้องคูณด้วยเท่าไหร่ถึงจะได้ค่า 987456321?” ชายชราถามคำถามที่ยากขึ้น
 “คูณด้วย 8 บวกด้วย 9”  เย่ว์หยางยักไหล่กล่าว “ปัญหานี้มันง่ายเกินไป เอาปัญหายากกว่านี้ ปัญหาสำหรับผู้ใหญ่มีไหม ท่านผู้อาวุโส?”
 “เจ้ารู้คำตอบได้ยังไง?  แม่หนูเฟ่ยเหวินหลีทดสอบแล้วยังไม่ใช่ระดับเดียวกับข้า นี่คือโจทย์ของข้า  เจ้ารู้คำตอบได้ยังไง?”  ชายชราแทบจะคลั่ง ถ้าเย่ว์หยางพบคำตอบได้เร็วก็ยังไม่เป็นไร  แต่เขากลับตอบได้โดยไม่ต้องยั้งคิด เรื่องนี้ไม่อาจยอมรับได้จริงๆ
แน่นอนว่าชายชราไม่รู้ว่าเย่ว์หยางเคยอ่านหนังสือคณิตคิดสนุกมาก่อนแล้ว
มีทั้งการจัดเรียงเลขอนุกรม และการคำนวณรูปแบบต่างๆ
เลขอนุกรมทั้งหมดที่ชายชราใช้ทดสอบเย่ว์หยางเป็นแค่ความสัมพันธ์กันอย่างง่ายๆ ไม่ซับซ้อน อาจกล่าวได้ว่าแม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่เคยเห็นชุดเลขอนุกรมดังกล่าวแต่ก็ยังคำนวณได้ไม่ยาก ด้วยสติปัญญาของเขาและความรู้เรื่องจินตคณิต จึงไม่ยากที่จะคิดออก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเงื่อนไขชี้นำอยู่ก่อน หากไม่สามารถคำนวณออกมาได้ คงเป็นเรื่องอายเด็กน้อยจากอีกโลกหนึ่งแน่
ชายชราไม่รู้ความจริงนี้ และรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก ในชีวิตของเขา เขายังไม่เคยพบเรื่องกระทบกระเทือนใจมาก่อน
พลังไม่แข็งแกร่งเท่าคนอื่น นั่นไม่มีปัญหา  แต่สติปัญญาไม่ดีเท่าคนอื่น นั่นเป็นเรื่องจนใจจริงๆ
เขารำพึงกับเย่ว์หยาง “เด็กน้อย เจ้าเป็นตัวประหลาดน้อยจริงๆ!  ช่างเถอะ ไม่มีความหมายอะไรต่อเจ้า.. เจ้าเข้าไปเถอะ!
เย่ว์หยางมองดูและรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขายื่นมือจับไหล่ชายชรา “อย่าเศร้าใจไปเลย คนฉลาดอย่างข้า หาได้เพียงคนเดียวในหอทงเทียนและมีเพียงคนเดียวในแดนสวรรค์  และคาดว่าคงไม่มีคนที่สองในที่ไหนๆ อีกแน่”
ชายชราแทบลมจับอีกครั้งหลังจากฟังคำของเขา “นี่คำปลอบโยนของเจ้าหรือ?  หรือว่าจะซ้ำเติมกันแน่?”
ถ้ามีกำแพงอยู่ข้างหน้า
เขาคงต้องเอาศีรษะโขกพังทลายแน่
เขาไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษของเขา
เขาเปิดประตูเทเลพอร์ตของศาลาหลบฝนและรีบไล่เจ้าเด็กประหลาดออกไปจากหุบเขาพิรุณอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปเร็วก็ยิ่งดี ขืนให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปมีแต่จะทำให้เขาต้องแสดงความนอบน้อมมากขึ้น
หัวข้อเหล่านี้ถ้ายังไม่เอาชนะอุปสรรคที่เป็นเงื่อนไขในหัวข้อได้ ก็ไม่ถึงกับยากเกินไป!  ท่านรู้ไหม ทำไมถึงมีสองเงื่อนไขอยู่ข้างหน้าคำถาม?  ถ้าท่านสามารถค้นพบปมนี้ได้ ท่านจะไม่ติดอยู่ที่ระดับเจ็ด!  เย่ว์หยางพยายามรับมือชายชราด้วยสีหน้าเหมือนเป็นคนดี ปล่อยให้เด็กสั่งสอน แม้ว่าเขาจะไม่ตั้งใจ  แต่เป็นการแสดงจิตใจดีงาม  แต่เขายากจะพูดออกมาได้จริงๆ
 “ข้าเป็นเฒ่ากระดูกผุกร่อนแล้ว  จะทำอะไรอื่นได้อีก  เจ้าผู้เยาว์ไปเสียเถอะ!  ชายชราเห็นเย่ว์หยางจากไปในที่สุดและทิ้งเหล้าฉีหลานไว้ เขารู้สึกเป็นเรื่องน่าอาย เด็กคนนี้เมื่อมองดูแล้ว ไม่น่าพอใจจริงๆ  แต่บางครั้งก็ทำให้คนรู้สึกตื่นเต้น
 “ศาลาหลบฝนแห่งนี้ผูกพันกับท่านอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประตูเทเลพอร์ต พื้นที่ต้องห้าม ท่านคิดยังไงถึงให้เว่ยซู่ไปไล่จับนางแอ่นพายุสายฟ้า?”  เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจก่อนจากไป
 “อะแฮ่ม, ความน่าเบื่อสองหมื่นปี พอไม่รู้จะหาอะไรทำก็ยิ่งน่าเบื่อใหญ่! มีเพียงเจ้าเด็กนี่ที่รู้ว่านางแอ่นพายุสายฟ้าไม่ใช่เงื่อนไข  ในอดีตที่ผ่านมาหมื่นปี มีเพียงเจ้าเด็กนี่ที่ถูกถาม แม้แต่จักรพรรดิอวี้ก็จับนางแอ่นพายุสายฟ้ามาทั้งฝูงอย่างพาซื่อ  ขณะที่แม่หนูเฟ่ยเหวินหลี สตรีดุร้าย นางไม่ยอมฟังเงื่อนไขข้าแม้แต่น้อย  นางชักดาบคู่ออกมาพาดคอขู่ข้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยไปได้ยังไง”
 “ข้าเข้าใจแล้ว ผู้อาวุโส  ท่านยิ่งแก่ก็ยิ่งไม่ธรรมดาจริงๆ”  ยิ่งกว่านั้นเย่ว์หยางยังได้บทสรุป
 “เจ้ามันเป็นเด็กผิดปกติ ไม่มีใครผิดปกติเหมือนเจ้า”  ชายชราทั้งโกรธทั้งอาย จึงอดสบถด่ามิได้
 “ก็ได้, ก่อนข้าจะจากไป ข้าอยากทราบชื่อท่าน  ดูซิว่าจะผิดปกติสมชื่อท่านหรือไม่?”  คำพูดเย่ว์หยางทำให้คนตายแทบลุกออกมาจากโลงได้
 “เจ้า.... ก็ได้ ข้าไม่ลดตัวไปเถียงกับเด็กอย่างเจ้า  ข้าชื่ออวี่ปัว”  เมื่อชายชราบอกชื่อเย่ว์หยางแล้ว ดูเหมือนเขาต้องการเห็นสีหน้าตกใจของเย่ว์หยาง
 “ไม่เคยได้ยินมาก่อน” ใครจะคิดกันเล่าว่าคำตอบของเย่ว์หยางจะเป็นเช่นนี้
 “เฮอะ!  ตอนนี้ชายชราโกรธจริงๆ  ความจริงเขาสังหรณ์ใจแล้วว่าคำตอบต้องเป็นเช่นนี้
 “ไม่ว่าใครที่ผ่านระดับทั้งสิบไปได้ ท่านสามารถปลดปล่อยจากการจองจำได้หรือ”  แต่ก่อนที่ชายชราจะตอบ เขาผ่านเข้าประตูมิติและหายไปจากหุบเขาพิรุณ
 “อย่างเจ้าน่ะหรือ”  ชายชราตะโกนอย่างไม่พอใจ
แต่เขาเปลี่ยนใจเปลี่ยนความคิดทันที บางทีอาจมีความเป็นไปได้  เจ้าเด็กนี่เป็นเด็กผิดธรรมดา โดดเด่นขึ้นมาจากหลายคน คงเป็นศิษย์ของเฟ่ยเหวินหลี  บางทีอาจจะผ่านได้ทุกด่านทดสอบก็ได้... ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็คงจบกัน  ข้าโชคร้ายเสียแล้ว!  ชายชราคิดเรื่องนี้จนปวดหัว รู้สึกอยากจะเอาหัวโขกเต้าหู้ตายยิ่งนัก

8 ความคิดเห็น:

WingF กล่าวว่า...

ชนะ 10 ด่านได้เป็นทาสแน่ๆ

Exboss กล่าวว่า...

ฮ่าๆๆๆๆๆ อยู่อย่างไม่กลัวตายมา สองหมื่น ปีกว่าๆ แต่เจอ ตัวเอก เราไป ปวดหัว อยาก ตายในเวลาไม่ถึง ชั่วโมง ฮ่าๆๆๆๆๆ ขอบคุณสำหรับตอนใหม่

Numton กล่าวว่า...

ขอคุณมาก ๆ ครับ

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Bank กล่าวว่า...

5555 จักพรรดิอวี้พาซื่อ
เจ๊นางพญาสุดโหด
ส่วนพี่เย่วนี่ฉลาดเป็นกรด

Bearsan กล่าวว่า...

จัดรพรนดิอวี้คือน่ารักเลยทีนี้ 5555

chay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น