วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 783 แม่เสือสาวผู้น่ารัก



ตอนที่  783  แม่เสือสาวผู้น่ารัก
เย่ว์หยางผ่านด่านที่สองหุบเขาสายลมได้  และปล่อยขนจิ้งจอกขาวไว้เพื่อเป็นจุดเทเลพอร์ต และใช้เข็มทิศสามภพเทเลพอร์ตจากไปทันที
 
เขากลับมาที่ค่ายพักแรมและเตือนอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นๆ เล็กน้อย
เจ้าอ้วนไห่และพวกหลังจากได้รับรู้แผนการร้ายของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็รีบตามหาราชาหลิงหวิน  พวกเขาปรึกษาหารือวิธีการรับมือนักรบแดนทมิฬ เมื่อราชาหลิงหวินได้ทราบข่าวก็ตกใจ รีบตามหาผู้นำเขตร้างที่แปดมาพูดคุยปรึกษา เย่ว์หยางไม่ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้  แต่เจ้าอ้วนไห่และพวกพ้องอื่นควรจะระมัดระวังและหลบหนีไปยังเมืองเจิ้งฝูซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในแดนสวรรค์
ในที่สุด เขาทิ้งภาระให้ฮุยไท่หลางรับมือเรื่องนี้
เรื่องของแดนสวรรค์ตะวันตกนั้นวุ่นวาย  เย่ว์หยางไม่มีความตั้งใจจะไกล่เกลี่ย
ในทางกลับกันเขาหวังว่ายิ่งวุ่นวายก็ยิ่งดี เพราะหอทงเทียนต้องการใช้โอกาสนี้ในการปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง เย่ว์หยางกลับไปที่ประตูเป็นตาย หอทงเทียนและพบว่าจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนกำลังฝึก จึงรายงานถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในแดนสวรรค์ตะวันตก
 “บางทีก็ดีเหมือนกัน  ความวุ่นวายนี้เกิดจากสงคราม ข้าเกรงว่าสงครามนี้จะยังไม่สงบในช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจได้ หอทงเทียนจะมีโอกาสกลับไปปรากฏที่แดนสวรรค์  สิ่งที่ยังขาดตอนนี้ก็คือพลัง  เราจะต้องฝึกฝนกันให้หนัก  เสี่ยวหยาง! เจ้าเองก็ต้องขยันให้มากขึ้น!  จักรพรรดินีราตรีมักจะอ่อนโยนเสมอ  นางสนับสนุนการเดินทางไปแดนสวรรค์ของเย่ว์หยาง  แต่ก็เตือนเย่ว์หยางให้ฝึกฝนตลอดเวลา  ที่สำคัญพลังอำนาจคือกุญแจทุกอย่าง
 “ให้เจ้าหยุดพักผ่อนได้หนึ่งวัน  พรุ่งนี้รวมตัวกันที่นี่และเดินทางไปที่แท่นบูชา บันไดสวรรค์พร้อมกัน” จื้อจุนกำหนดวันหยุดพักให้เย่ว์หยาง
 “พี่สาม! ทำไมเราไม่กลับไปเยี่ยมท่านแม่เล่า?” เย่ว์ปิงรู้สึกว่าหยุดพักวันหนึ่ง ควรจะได้กลับไปที่วังเทียนหลัว
 “ก็ได้ แต่ว่าเราเพิ่งจะกลับออกมาไม่นาน ต้องวิ่งเต้นอยู่ตลอด แม่สี่จะว่าได้ว่าพวกเราไม่ขยันนะ” เย่ว์หยางเหงื่อตกเล็กน้อย  ถ้าเขากลับไปเยี่ยมแม่สี่ที่วังเทียนหลัว ทวีปมังกรทะยาน ความจริงก็ไม่เลว แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการแสดงออกถึงความรักของเขากับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  เมื่อกลับไปถึงวังเทียนหลัว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังเรียนรู้จากแม่สี่ เขาไม่อาจทำเสียงอึกทึกได้  แม้ยามพักผ่อนในตอนกลางคืนเขาก็ต้องอยู่คนเดียว
 “แม่สี่คิดว่าเจ้าไม่ควรพูดเรื่องไร้สาระ”  เสวี่ยอู๋เสียเป็นคนฉลาด ปกตินางจะรู้ทันความกรุ้มกริ่มของเย่ว์หยาง นางจับมือเขาอย่างอ่อนโยน เป็นการเตือนให้เขาทำตัวเรียบร้อยเป็นสมาชิกครอบครัวที่ดี
 “ข้าผิดไปแล้ว” เย่ว์หยางยอมความผิดพลาด แต่เหมือนไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาจับมือเสวี่ยอู๋เสียแน่นไม่ยอมปล่อย
 “...” เสวี่ยอู๋เสียทำตาดุเขา  แต่ก็อนุโลมตามเขาโดยปริยาย
 “เสี่ยวเหวินหลีดูเหมือนจะแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย” ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคมกล้า นางพบว่าเสี่ยวเหวินหลีโตขึ้นเล็กน้อย
 “เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเราไปที่เมืองเจิ้งฝูซึ่งเป็นเมืองแรกที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีสร้างขึ้นในแดนสวรรค์  ข้าได้พบกับคนเก่าแก่บางส่วนและได้เห็นรูปปั้นที่นั่น” เย่ว์หยางเล่าย่อๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองเจิ้งฝูทบทวนอีกครั้ง  หลังจากเล่าให้ฟังแล้วสาวๆ มองหน้ากันบ่งบอกว่าเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
 “แปลก!  ทำไมเจ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย?”  คำถามของนางเซียนหงส์ฟ้าเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจที่สุด
 “เจ้าพูดเหมือนกับว่าการบรรลุระดับใหม่ง่ายเหมือนกินหัวผักกาด!” เย่ว์หยางเองต้องการบรรลุผ่านระดับปัจจุบันเข้าสู่ขอบเขตปราณราชันย์เหมือนกัน บางทีเขาอาจจะเปิดคัมภีร์เทพฤทธิ์ได้
 “เรื่องดินแดนฝึกฝนในแดนสวรรค์  จะเข้าไปในนั้นได้ จะต้องเป็นนักสู้ระดับปราณฟ้าหรือเปล่า?” เจ้าเมืองโล่วฮัวถามปัญหา
 “ไม่  แต่คาดว่าจะมีความยากลำบากในด่านต่อๆ ไป”  เย่ว์หยางส่ายศีรษะ
ต่อให้เป็นนักสู้ปราณฟ้า ก็ต้องผ่านสามด่านแรกให้ได้ก่อน แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
เขาเองยังไม่สามารถคิดหาทางผ่านได้
ต้องเป็นนักสู้ปราณราชันย์ที่แท้จริงก่อน และการร่วมมือกันโดยมีวัตถุประสงค์เดียวกัน อาศัยพลังของการทำงานร่วมกัน การรวมพลังความคิดกันจะทำให้ไปได้ไกล!
การฝึกในแดนสวรรค์มีสิบด่านสิบระดับ ดูอย่างผิวเผินอาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ลองคิดดู จักรพรรดิอวี้และนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังผ่านไม่ครบทุกด่าน และดูเหมือนว่าจักรพรรดิอวี้ผ่านไปได้แค่แปดด่าน  ควรจะรู้ว่าแต่ละระดับยากเย็นเพียงไหน  แม้แต่จักรพรรดิอวี้และนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังไม่กล้าท้าทายระดับสูงสุดโดยไม่จำเป็น นั่นแสดงว่าพื้นที่ฝึกฝนนั้นยากลำบากเพียงไหน
เย่ว์หยางไม่พูดมาก แต่พวกนางหลงรักคำพูดของเจ้าเมืองโล่วฮัว
ต้องการก้าวหน้า ก็ต้องแข็งแกร่ง!
 “ประสบการณ์ในดินแดนบันไดสวรรค์จะช่วยให้เราก้าวหน้า ข้าหวังว่าเราจะก้าวหน้าขึ้นไปเป็นนักสู้ปราณราชันย์ได้เร็ว  เราจะไปกันเมื่อไหร่  เข้าไปกันเถอะ”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถ้าเป็นเรื่องของการฝึกฝน  แม้ว่าตอนนี้นางจะก้าวหน้าไปได้ไว แต่นางยังไม่พอใจ ทั้งยังหวังจะเลื่อนระดับขึ้นเป็นนักสู้ปราณราชันย์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
แน่นอนว่าความตั้งใจนี้ไม่ใช่มีแต่เฉพาะนางเท่านั้นก็หาไม่
เสวี่ยอู๋เสีย เจ้าเมืองโล่วฮัวและอี้หนานก็มีความคิดเดียวกันทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าเข้าสู่ขอบเขตปราณราชันย์ได้เร็วกว่า ก็ยิ่งทิ้งห่างทุกคนมากขึ้น และพวกนางกังวลเรื่องที่ยังตามหลังอยู่มากกว่าเข้าถึงระดับปราณราชันย์
เพราะสถานการณ์เป็นอย่างนี้จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีตัดสินใจก่อนเวลา นำทุกคนไปยังประตูทางเข้าประตูเทเลพอร์ตที่เย่ว์ชิวปกป้อง นั่นคือโลกของบันไดสวรรค์!
ที่นั่นคือบันไดสวรรค์สวรรค์แท้จริง!
การกลับมาพบกันครั้งนี้ เหมือนกับคู่แต่งงานใหม่ได้พบกันอีกครั้ง
จื้อจุนต้องการให้กำลังใจเย่ว์หยางจึงอนุญาตให้เขาพักวันหนึ่งและได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากับทุกคน
ความจริงไม่ใช่แค่เย่ว์หยางเท่านั้นที่คิดถึงพวกนาง  แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ยังคิดถึงตัวร้ายนี่ด้วยเช่นกัน  ถึงแม้ปากจะไม่ได้พูดออกมา แต่เมื่อเห็นเขากลับมาจากแดนสวรรค์ ทุกคนรู้สึกสดชื่นหน้าตาผ่องใส พวกนางไม่ไปไหน แต่กลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ ในบ้านที่อบอุ่นงดงาม ทุกคนไม่คิดอะไรมากผ่อนคลายใจและกายเต็มที่ พูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข
เมื่อสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์, อู๋เหินและเย่ว์ปิงสามสาวร่วมกันจัดเตรียมอาหาร ทุกคนร่าเริงมีความสุข พวกเขาไม่ได้ไปที่ห้องอาหารในที่พัก  แต่ย้ายไปนั่งกันที่พื้นสนาม
เพลิดเพลินกับเวลาว่างที่หาได้ยาก มีความสุขกับอาหารชั้นดี
 “เจ้าจะไม่ไปนั่งกับเขาหรือ?”  ลี่เยี่ยนและจุ้ยมาวอี้ (สาวขี้เมา) นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน จู่ๆ นางก็พูดประโยคนี้ขึ้น
 “แค่กๆ, ข้ากับเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิด”  หน้าของจุ้ยมาวอี้แดง  นางโบกมือปฏิเสธพัลวัลว่าไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับเย่ว์หยาง
 “งั้นก็ดี, มีเหล้าให้ดื่ม ก็ดื่มกันเถอะ”  ลี่เยี่ยนแม้ว่าจะมีอัธยาศัยหยาบกระด้าง แต่นางไม่โง่แน่นอน นางไม่ถามอีก  แต่นางถือขวดเหล้าและยิ้ม
 “....” จุ้ยมาวอี้กำลังดื่ม แต่นัยน์นางลอบมองเย่ว์หยาง
ไม่มีใครสนใจการกระทำของจุ้ยมาวอี้ มีแต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้มีทักษะแฝงเร้นสัมผัสหกรับรู้สามารถจับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้
นางไม่ได้เปิดเผยอะไร และมองดูเสวี่ยอู๋เสียพร้อมกับยิ้ม เสวี่ยอู๋เสียเอนตัวพิงหลังเย่ว์หยางและอ่านหนังสือ นัยน์ตาเป็นประกาย นางกระพริบตาสามครั้งบอกใบ้ว่ารับรู้แล้ว  เจ้าเมืองโล่วฮัวเหมือนกับกำลังเมานอนหนุนตักเย่ว์หยาง นางดมกลิ่นดอกไม้ต่างๆ ที่เย่ว์หยางตัดมาจากสวนดอกไม้ของหญิงวัยกลางคนในเมืองเจิงฝูด้วยความพึงพอใจ “หอมจริงๆ กลิ่นเหมือนกับกลิ่นตัวพี่หวี่”
เย่ว์หวี่ฟังแล้วเขินอาย
นางดูว่าเย่ว์หยางได้ยินหรือไม่ และนางกระซิบเบาๆ “เจ้าจะพูดกับข้าว่าไง..ดื่ม!  พอนางดื่มเหล้าลงคอเสร็จ เจ้าเมืองโล่วฮัวหลับพอดี ดอกไม้ในมือนางร่วงอยู่บนเนินอก  เย่ว์หวี่ฝืนยิ้มแล้วหยิบดอกไม้ให้นาง และใช้มือแต่งผมที่ยุ่งเหยิงเบาๆ จากนั้นส่งแก้วเหล้าให้เย่ว์หยาง
เย่ว์หยางชนแก้วกับนางเซียนหงส์ฟ้าและชูแก้วมาทางลี่เยี่ยนและจุ้ยมาวอี้เช่นกัน
เมื่อเขาดื่ม เย่ว์หวี่จำได้ว่านางเพิ่งจะเริ่มดื่มตอนนี้
นางรู้สึกเขินอายในใจ
มองผิวเผินนางทำเป็นไม่รู้
อี้หนานและเย่ว์หยางทั้งสองนอนหนุนอยู่อีกข้างหนึ่งของเย่ว์หยาง  ทั้งสองนางพูดไม่หยุด บางครั้งก็หัวเราะออกมา
อู๋เหินเริ่มค้นคว้ารูปแบบยันต์เวทอักษรรูนสวรรค์ที่เย่ว์หยางนำกลับมาครั้งนี้อยู่ข้างๆ ตัวเขา  นางมีแรงบันดาลใจมากที่สุด  สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์และอาหงอยู่ข้างๆ นางคอยช่วยบันทึกการเปลี่ยนแปลง หรือบางทีก็ช่วยเตรียมเครื่องมือวาดเขียนใหม่ให้นาง.. ห่างออกไปไม่ไกล อาหมันกำลังหัดดื่ม นางกำลังเรียนรู้อย่างหนัก  ตั่วตั่วชิมเหล้าเล็กน้อย ขณะสอนทักษะชิมเหล้าให้นาง และอดปิดปากยิ้มไม่ได้
เมื่อทุกคนเพลีย เย่ว์หยางค่อยๆ อุ้มเจ้าเมืองโล่วฮัวที่กำลังหลับพาไปส่งห้องพัก
หลังจากผ่านเข้าประตูไปได้ไม่นาน องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์ปิงไล่ตามหลังมาทันที
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพอเห็นว่าไม่มีใครให้ความสนใจ นางรีบจูบเขาอย่างรวดเร็ว
เหมือนแมงปอโฉบผิวน้ำ
เย่ว์หยางคิดว่าเร็วไป ต้องอีกครั้ง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่กล้าคัดค้านเขา กลัวว่าจะปลุกเย่ว์ปิงตื่น ได้แต่ถลึงตามองเขาอย่างดุดัน ทำให้เขาถอยกรูด  นางมองดูรอบๆ อย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจทางด้านนี้ นางรีบโน้มหน้าเข้าไปหาและประทับจูบเขา เมื่อนางเห็นว่าเจ้าผู้นี้เอาเปรียบ นางค้อนเขาอย่างดุดัน เมื่อเย่ว์หยางเข้ามาในห้องนางถึงกับหน้าแดงและจูบปากเขาอย่างดูดดื่ม
 “ความจริงยังดีไม่พอ!  นางได้ข้อสรุปอย่างนี้
 “ข้าคิดว่าใช้ได้เลยทีเดียว” เสวี่ยอู๋เสียเดินเข้ามาในห้องและแสดงความเห็นตรงข้ามกับความคิดนาง  องค์หญิงเชี่ยนถึงกับเวียนหัว  “เฮ้ เฮ้ ถ้าเจ้าแอบเข้ามาอย่างนี้ ก็อย่าพูดออกมาดังๆ จนคนอื่นรู้สึกอายสิ ผู้อื่นต้องรวบรวมความกล้าขนาดไหนกว่าจะจูบเขาได้  อู๋เสียไม่ไว้หน้าข้าเลย .. ข้าต้องตำหนิเจ้าคนลามกนั่น นั่นเลย ประตู!
วันต่อมานางยังหาโอกาสทุบเย่ว์หยางไม่ได้  ในช่วงมื้อเช้าขณะที่ไม่มีใครสนใจเขารีบจับมือนางอย่างรวดเร็ว
นางกัดทันที
เมื่อคืนนี้ นางต้องการหาตัวเขาเพื่อคิดบัญชี
แต่ก่อนที่นางจะผลักเปิดประตู  นางได้ยินเสียงนางเซียนหงส์ฟ้ากำลังทำศึกรักกับเขา เวลานั้นนางไม่กล้าเข้าไป มิฉะนั้นอาจจะพลาดท่าเสียทีเขาก็ได้
นางเซียนหงส์ฟ้าได้รับความรักสนองตอบ ใบหน้าของนางเปล่งปลั่ง
นางมีเสน่ห์เย้ายวนใจที่ยอดเยี่ยม
เขาเพลิดเพลินใจกับอาหารเช้า และกระตุ้นทุกคนให้กระตือรือร้น  “ต้องเคลื่อนไหวให้คล่องแคล่วและมีชีวิตชีวาได้แล้ว อย่าให้จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีต้องรอคอยนาน  ข้ามีลางสังหรณ์ว่าวันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงโกรธอยู่   “ถ้าเจ้ากังวลนัก  แล้วกลางคืนเจ้าทำอะไร  ทำให้คนต้องการพักผ่อนหลับไม่ลง” นางไม่ได้ต้องการให้นางเซียนหงส์ฟ้าโกรธ แค่ต้องการเหยียบเท้าเย่ว์หยางระบายความขุ่นเคืองในใจนาง
 “แม่เสือสาว! เจ้าเหยียบเท้าข้าอยู่นะ!” เสวี่ยอู๋เสียทำสีหน้าเหมือนกล่าวหาว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำร้ายคนบริสุทธิ์
 “เท้าของเจ้าไปอยู่กับเขาได้ยังไง?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนงง
 “ความจริงข้าก็ต้องการจะเหยียบเท้าเขาเหมือนกัน แต่ติดอยู่ตรงขาเขา” เสวี่ยอู๋เสียอธิบายอย่างไร้เดียงสา  แต่สาวๆ สองสามคนกลับหัวเราะจนน้ำตาไหล มีแต่เย่ว์ปิงที่ไม่เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นางพยายามจะก้มดูใต้โต๊ะ แต่อี้หนานรีบคว้าตัวนางไว้
ทุกคนดูมีความสุขกันมาก

7 ความคิดเห็น:

Pingku กล่าวว่า...

ขอบคุณคับขอบคุณคับ

Emptiest กล่าวว่า...

อิจฉา เห็นความรักมากกกก

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ


Nopanser Kung กล่าวว่า...

น่ารักจริง แม่เสือสาวของเย่ว์หยาง~ :3

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

สุดยอด

แสดงความคิดเห็น