ตอนที่ 827 ความเร็วและสถานะไม่คาดคิด
เงาร่างกระพริบวาบ
ผู้อาวุโสหวีมู่กลับมายืนอยู่ในที่เดิม
ในมือขวาของเขาถือลูกตาโชกเลือด
เจ้าเมืองไถ่ถอนยิ้มมุมปาก
เขารู้ว่าผู้อาวุโสหวีมู่ลงมือในกระบวนท่าเดียว ท่าควักนัยน์ตา
เขาสามารถใช้สุดยอดความเร็วควักดวงตาศัตรูได้อย่างแยบยลทันทีทันใด
ดวงตาที่ถูกควักออกมาแทบจะไม่เสียหายราวกับถูกผ่าตัดออกมาด้วยมีดหมอชั้นดี ด้วยความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้อาวุโสหวีมู่
สามารถใส่ดวงตากลับคืนได้จากนั้นเชื่อมดวงตาให้หายได้ราวกับว่าไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน
เพราะผู้อาวุโสหวีมู่ไม่เคยคิดจะใส่ดวงตากลับคืน
เขาไม่แสดงความรู้สึกทางดวงตาแม้แต่น้อย
เขาบีบทำลายดวงตาทีละดวง!
ผู้ชมดูโดยรอบสูดลมหายใจหนาวเหน็บ ผู้อาวุโสหวีมู่ผู้นี้อำมหิตไร้น้ำใจจริงๆ
อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นในถนน
คนผู้นี้ไม่ใช่เย่ว์หยาง
แต่เป็นผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างผู้อาวุโสหวีมู่
เขาเป็นหัวหน้าองครักษ์ของเจ้าเมืองไถ่ถอนและอีกข้างหนึ่งเป็นพ่อบ้านจวนเจ้าเมือง เวลานี้ไม่ทราบว่าเพราะเหตุอะไร
นัยน์ตาทั้งสองของเขาถูกควักออกไปเหลือแต่เพียงเบ้าตากลวงเปรอะเลือด แต่เจ้าผู้นี้ยังไม่รู้ตัวทันที
เมื่อไม่อาจทนความเจ็บปวดได้เขาเอามือปิดเบ้าตาทั้งสองข้างร้องโหยหวนอย่างบ้าคลั่ง
ม่านตาของผู้อาวุโสหวีมู่หดลีบอย่างรวดเร็ว
เจ้าเมืองไถ่ถอนและคนโดยรอบมีความรู้สึกยิ่งกว่าถูกผีหลอก
หน้าของทุกคนตกใจเหลือเชื่อ
เย่ว์หยางปรบมืออยู่คนเดียว
ในท่ามกลางเสียงร้องเจ็บปวดสยดสยองที่ไม่ธรรมดา
เสียงปรบมือนั้นดังสะท้านเหมือนค้อนกระหน่ำใส่หัวใจผู้คน
“ถ้าเจ้าคิดว่าจะควักลูกตาข้าได้ด้วยความเร็วราวกับเต่าคลาน
อย่างนั้นเจ้าคิดผิดถนัด” เย่ว์หยางพูดไม่ทันจบนิ้วทั้งสองของผู้อาวุโสหวีมู่เริ่มแทงหนังตาเขาทันที ครั้งนี้ทุกคนมองเห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มถูกควักนัยน์ตาแน่
ผู้อาวุโสหวีมู่เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถจับได้ แต่การโจมตีของเขาทุกคนเห็นได้ชัด
ทันทีที่ผู้อาวุโสหวีมู่กลับมา
เขาทำลายลูกตาที่อยู่ในมือของเขาทันที ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ศัตรูมีโอกาสเสียใจ
“โอ๊ย..เจ็บ อู๊ยย เจ็บ!”
เย่ว์หยางปิดหน้าตะโกน
“ฮึ่ม!” เจ้าเมืองไถ่ถอนแค่นเสียงเย็นชา
ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ประมาท
บางทีผู้อาวุโสหวีมู่คงไม่มีโอกาสควักตาเป็นครั้งที่สอง
ก่อนการบาดเจ็บนั้น
ครั้งก่อนเจ้าเด็กนี่เหมือนกับมีความสามารถอยู่บ้างสามารถเปลี่ยนการบาดเจ็บของตนเองได้ แต่ครั้งที่สองนี้เล่า
เขาสามารถหลบหนีอาการบาดเจ็บได้หรือไม่?
เจ้าเมืองไถ่ถอนกวาดตามองด้านหนึ่งพบว่าบริเวณรอบนอกไม่มีทหารได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา
แต่ฝ่ายตรงข้ามปิดหน้าร้องตะโกนอย่างน่ารังเกียจ เขาต้องการเปิดหน้าเจ้าเด็กนั่น และเยาะเย้ยเจ้าเด็กนั่นที่ถูกลงโทษ
คาดไม่ถึงเลยว่าเขาไม่ได้แหกปากร้องอีกต่อไป แต่เป็นทหารที่อยู่ด้านหลังร้องอย่างคลุ้มคลั่ง “ไม่ใช่ๆ,
นั่นมันตาข้า มาควักตาข้าทำไม ตาข้าหายไปแล้ว ข้ามองไม่เห็น!”
คนที่ชมดูรอบๆ มองไปที่เจ้าเมืองไถ่ถอนทันที
และพบว่ามีทหารคนหนึ่งในกลุ่มคนดูสะบัดศีรษะไปมาด้วยความเจ็บปวด
ดวงตาของเขาถูกควักเหลือแต่หลุมเบ้าตาที่น่ากลัว
ครั้งนี้คนชมดูถอยออกไปอีกหลายสิบเมตรทันที
เพราะกลัวจะเป็นเป้าหมายถ่ายเทอาการบาดเจ็บรายต่อไป
ชัดเจนแล้ว
ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงไม่กลัวถูกโจมตี?
เหตุผลก็คือเขามีวิธีถ่ายโอนอาการบาดเจ็บได้
ดังนั้นเขาที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสามจึงกล้าท้าทายผู้อาวุโสหวีมู่!
“กร๊อบ”
ผู้อาวุโสหวีหมู่ควบแน่นกลุ่มพลังงานไว้ที่มือขวา ทันทีที่ยิงพลังออกไป
ไม่เพียงแต่นักสู้ปราณฟ้าระดับสามเท่านั้น
แม้แต่สิ่งก่อสร้างในเมืองไถ่ถอนจะพินาศพังทลายไปถึงครึ่งเมือง ผู้ชมดูกลัวมากกว่าพวกตนจะตาย ผู้อาวุโสหวีมู่เตรียมตัวจะลงมือ
“เดี๋ยวก่อน”
ครั้งนี้คนที่กล้าขัดขวางก็คือทอเรนลิมา
ทอเรนรีบเข้ามาอยู่ข้างตัวเจ้าเมืองไถ่ถอนและรีบโบกมืออย่างเร่งรีบ “นั่นไม่ใช่การยักย้ายอาการบาดเจ็บ ฝ่ายตรงข้ามใช้สุดยอดความเร็วได้
การใช้พลังโจมตีทำลายล้างเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ เมืองใหญ่มีแต่จะถูกทำลาย” คำพูดนี้ทำให้ผู้อาวุโสหวีมู่หันมามอง ทุกคนเต็มไปด้วยความงงงวย
ทอเรนกลืนน้ำลายเอื๊อกใช้นิ้วสั่นเทาชี้ไปที่เย่ว์หยาง
ทักษะฝีมือของเขาไม่ใช้ยักย้ายอาการบาดเจ็บ แต่เป็นการเร่งความเร็ว! ตอนค้นหาแรกๆ ลิมามองเห็นไม่ชัด
แต่สำหรับทหารคนที่สอง
ข้าเห็นคนผู้นั้นเคลื่อนไหวก่อนผู้อาวุโสหวีมู่ไปที่ด้านหลังเจ้าเมือง
จับตัวทหารและจากนั้นรอให้ผู้อาวุโสหวีมู่เข้ามาควักตาด้วยความเร็วสูง
เป็นความเร็วที่ไม่สามารถจินตนาการได้”
เจ้าเมืองไถ่ถอนสะดุ้ง
หนาวสะท้านไปทั้งร่าง “ว่าไงนะ?”
ทอเรนกลืนน้ำลายอีกครั้ง “ลิมาไม่ได้พูดไม่ถูก
แม้ว่าความเร็วของผู้อาวุโสหวีมู่จะมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งแดนสวรรค์ใต้
แต่ฝ่ายตรงข้ามว่องไวกว่า!”
ผู้อาวุโสหวีมู่หันไปจ้องเย่ว์หยางอย่างจริงจังครั้งแรก
ภายใต้การจับจ้องของสาธารณชน เจ้าเด็กนี่แอบย่องเข้ามาข้างตัวเขาก่อนเล่นงานทหารปล่อยให้ถูกควักดวงตา
และกลับมาได้ในที่สุด และด้วยการกระทำต่อเนื่องก็ยังผ่านสายตาของเขาไปได้หรือ?
เจ้าเด็กนี่รวดเร็วขนาดไหนกันแน่?
ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่สามารถคิดได้ ครั้งแรกเขาคิดว่าเจ้าเด็กนี่ใช้กลอุบาย
เจ้าเมืองไถ่ถอนยังไม่อาจทำใจเชื่อและถามทอเรนอีกครั้ง “เจ้าเห็นได้ยังไง?”
ทอเรนฝืนยิ้ม
“ลิมาสามารถใช้คลื่นกระแทกจากเท้าที่พิเศษซึ่งหูคนธรรมดาไม่ได้ยินเหมือนกับคลื่นพิเศษอย่างหนึ่งของค้างคาว
ก็สามารถขยายครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นข้าจะสามารถฟังได้
ในช่องว่างเสียงสะท้อนนี้ เสียงจะบอกข้าทุกอย่างราวเห็นกับตา ข้าสามารถเห็นได้ แต่ไม่มีทางหยุดได้ ในทางตรงกันข้าม
ข้าช้าเหมือนกับทากคลาน
ครั้งสามนี้หวีมู่เร่งความเร็วสูงสุด
คราวนี้เขาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด และทิ้งกลุ่มพลังเมือกหนืดแปลกประหลาดล้อมตัวเย่ว์หยาง
สองนิ้วของมือขวาเล็งที่ดวงตาของเย่ว์หยาง...
เมื่อคนชมดูรู้สึกว่าเหมือนตกอยู่ในแอ่งเมือก
ก็เหมือนมดตกลงไปในบ่อน้ำลึก
ไม่ว่าดิ้นรนยังไงความเร็วจะช้าลง มองดูเหมือนเป็นภาพสโลว์โมชัน
พลังงานจากเมือกหนืดอยู่ในพื้นที่ตรงกลางส่วนใหญ่ ผู้คนเห็นผู้อาวุโสหวีมู่เป็นเหมือนปลาทะเล
รวดเร็วเหมือนสายฟ้า
ว่ายตรงมาอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางและแทงนิ้วทั้งสอง
แต่เรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น
ในพริบตาทุกคนเห็นว่าเด็กหนุ่มเคลื่อนไหวเร็วกว่าผู้อาวุโสหวีมู่
เทียบกับเขาแล้ว
ความเร็วที่เหมือนสายฟ้าของผู้อาวุโสหวีมู่เหมือนกับเป็นความเร็วปกติธรรมดา
การเคลื่อนไหวโต้ตอบของเขาหลบเลี่ยงจะจับนิ้วทั้งสองอย่างชัดเจน และถลันวูบมาอยู่ที่ข้างตัวของเจ้าเมืองไถ่ถอนและลากทหารองครักษ์กลับมาด้วยและวางรับหน้าผู้อาวุโสหวีมู่
ผู้อาวุโสหวีมู่ทั้งที่มองเห็นแต่ไม่สามารถยั้งมือไว้ได้
เมื่อเขามองดูขณะที่ตนเองควักตาของทหารนั้นออกมา
จากนั้นเขาลากทหารที่บาดเจ็บสาหัสกลับไป และเพียงก้าวเดียวเขากลับมาประจำที่ก่อน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเพราะความเร็วนี้รวดเร็วเกินไป
ทหารองครักษ์นั้นไม่ทันตระหนักว่าดวงตา ของเขาถูกควักออกไป
เมื่อผู้อาวุโสหวีมู่ถือลูกตาทั้งสองไว้ในมือ
องครักษ์ผู้นั้นจึงตระหนักได้ว่าเขาตาบอด
เจ็บปวดร้องครวญครางคุกเข่าลงกับพื้น
หากไม่มีกลุ่มพลังเมือกหนืดทอนความเร็วให้ช้าลง
คงไม่มีใครเห็นความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยาง หรือแม้แต่การโจมตีของผู้อาวุโสหวีมู่
ตอนนี้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน
ความเร็วของผู้อาวุโสหวีมู่นั้นเร็วมาก คนทั่วไปมาเทียบกับเขาเท่ากับทากคลาน
อย่างไรก็ตามความเร็วที่น่าภาคภูมิใจของเขาเมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มอีกฝ่ายหนึ่งพบว่าไม่ได้อยู่ในระดับใดๆ
เลย ถ้าความเร็วของผู้อาวุโสหวีหมู่เหมือนกับปลา
ความเร็วของเด็กหนุ่มก็เหมือนกับอินทรีเหิน หรืออาจไวกว่าสายฟ้า
ไม่มีใครเคยคิดว่าคนเราจะมีความเร็วได้ถึงระดับนั้น
ภายใต้การควบคุมของพลังเมือกหนืด
เขาสามารถใช้ทหารที่อยู่ห่างออกไปสิบเมตรมาถูกควักนัยน์ตาแทนได้แล้วเอากลับไปคืนที่เดิม
น่ากลัวเหลือเกิน!
ความเร็วขนาดนี้ทำให้ผู้คนตกใจอย่างหนัก
ไม่ใช่แค่ความเร็วเท่านั้น แต่เป็นความน่ากลัว
ความน่ากลัวจนผู้คนรู้สึกเย็นสันหลังวาบ....
เมื่ออยู่ต่อหน้าความเร็วอย่างนี้
ทุกคนจะรู้สึกว่าเหมือนกับตัวเล็กและไร้ประโยชน์
“เรื่องในวันนี้เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น”
ผู้อาวุโสหวีมู่ขยี้ดวงตาที่อยู่ในมือของเขาและทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้เย่ว์หยางก่อนจากไปอย่างว่างเปล่าและหายวับไปในทันที
“แล้วข้าจะรอนะ เจ้าเต่าเชื่องช้า!”
เย่ว์หยางโบกมือให้ในทิศที่ผู้อาวุโสหวีมู่หายไปเหมือนกำลังส่งเพื่อนเก่า
เจ้าเมืองไถ่ถอนตอนนี้รู้สึกอึดอัดใจ
ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่สามารถทำอะไรเจ้าเด็กนี่ได้
แต่กลับได้รับความอับอายเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้าปัญหานี้เขาได้บอกก่อนแล้ว เขาไม่ต้องการจะทำอะไร
แต่เจ้าเมืองไถ่ถอนนี้ไม่ใช่คนตาขาว
เขาตั้งหลักได้และปรบมืออย่างหนักหน่วง “ก็ได้ เจ้าไวมาก มีร่างกายที่ดี
เคลื่อนไหวได้ยอดเยี่ยม!
ความจริงในหมู่พวกเราคงจะมีความเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ถ้าทุกคนพูดกันชัดเจนแล้วก็ไม่เป็นไร โจรผู้มีความกล้าหาญอย่างหัวหน้าลี่เยี่ยน
เราเจ้าเมืองชื่นชมเสมอ สำหรับน้องชายผู้นี้ผู้อาวุโสหวีมู่กลายเป็นวีรบุรุษผู้น่าสงสารและเขาถูกชิงคันชั่งดีชั่วที่เขารัก ข้าดีใจที่มีเด็กหนุ่มอย่างนี้
สำหรับเรื่องนี้...”
คำพูดของเจ้าเมืองไถ่ถอน
ทำให้คนบนถนนแทบจะเลี่ยนตาย
หัวหน้าลี่เยี่ยนมีจิตใจที่กล้าหาญมานานแล้ว
เจ้าเพิ่งจะมาชมเอาตอนนี้หรือ?
คันชั่งฟ้าตัดสินดีชั่วถูกคนอื่นยึดไป! ผู้อาวุโสหวีมู่ได้แต่ผายลม ความเร็วก็สู้คนอื่นไม่ได้ ผู้อาวุโสหวีมู่ตั้งใจจะควักลูกตาของเจ้าเด็กนั่น
และเขาหลบหลีกได้อย่างสบาย
แต่เจ้าเมืองผู้นี้กลับพูดขึ้นอย่างไร้ยางอาย ไม่สามารถอธิบายให้ถูกต้อง! ถ้าบอกว่าเจ้าผู้นี้หน้าหนา
ก็ยังถือว่าพูดสุภาพเกินไป?
ความจริงเจ้าเมืองไถ่ถอนนับเป็นบุคคลเจ้าเล่ห์คนหนึ่งในแดนสวรรค์ใต้!
เดิมทีเจ้าเมืองไถ่ถอนให้ความสนใจหญิงงามอย่างเจ้าเมืองโล่วฮัว แต่นางไม่เปิดโอกาสให้เขา
ดวงตาของนางไม่ได้มองมาทางฝั่งตรงข้าม
เหมือนกับว่าเจ้าเมืองไถ่ถอนไม่มีตัวตน
นางสั่งนักสู้ปราณฟ้ารอบๆ
ตัวนางให้ช่วยย้ายกระถางดอกไม้และกวักมือเรียกเย่ว์หยางและลี่เยี่ยน “ไปกันเถอะ,
ไม่มีอะไรสนุกสักหน่อย ผู้อาวุโสตำหนักอะไรกัน
เหมือนกับลิงค่าง น่าเบื่อ น่าเบื่อเหลือเกิน! เอาล่ะ องครักษ์ส่วนตัวของข้า จะทำยังไงกับดวงตาของเขา?”
“กำลังรอคำสั่งของท่านอยู่?” เย่ว์หยางพูดว่าถ้าไม่มีคำสั่ง หัวหน้าองครักษ์ที่ว่าง่ายนี้ก็ไม่สามารถฆ่าใครได้
“อย่างนั้นค่อยทุบตีเขาในครั้งต่อไป ข้าเกลียดคนที่ไม่รู้จักประมาณตนเองนัก!” เจ้าเมืองโล่วฮัวพูดด้วยความเข้าใจ
“ตามที่ท่านปรารถนา” เย่ว์หยางในฐานะหัวหน้าองครักษ์แสดงได้สมบทบาท
“เอาคันชั่งฟ้าออกมาดูหน่อย..ดูแล้วไม่ใช่ของดีเลย
คันชั่งฟ้าดำนี้เป็นของเจ้า ส่วนขนนกเงินข้าจะเก็บไว้!”
เจ้าเมืองโล่วฮัวส่งคันชั่งฟ้าดำให้เย่ว์หยาง แต่ด้วยการกระทำที่กลมกลืน
เย่ว์หยางทำสีหน้าเหมือนสำนึกบุญคุณ “ขอบคุณท่านเจ้าเมือง วันนี้ท่านเป็นเจ้าเมืองที่ใจดีที่สุดในสวรรค์บนแล้ว”
“เรื่องเล็กน้อย,
ต่อไปอย่าให้เราเจ้าเมืองต้องขายหน้าอีก
มิฉะนั้นเจ้าจะไม่ได้เป็นหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัว
ใครตอแยข้าอีก ให้ฆ่าได้โดยตรง
และข้าเกลียดพวกเห็บเหาอย่างผู้อาวุโสตำหนัก! แต่ว่าช่างเถอะ กลับกันเถอะ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวส่งขนนกเงินให้ลี่เยี่ยน
ลี่เยี่ยนพลอยผสมโรงกับนาง
นางคำนับด้วยความเคารพและรับของไว้
คนที่อยู่รอบๆ ปล่อยให้เจ้าเมืองโล่วฮัวผ่านไป
พวกเขาตัวสั่น
ผู้อาวุโสตำหนักกลางซึ่งมีสถานะที่มีเกียรติ
ยังไม่คู่ควรพูดต่อหน้านาง
อย่างนั้นหญิงงามผู้นี้มีสถานะใดกันแน่?
หรือว่านางคือบุคคลในตำนาน... เจ้าเมืองไถ่ถอนหลั่งเหงื่อพรั่งพรู แต่ไม่กล้าเช็ด
เขารีบคำนับด้วยท่าทีนอบน้อม เขากลัวจริงๆ
ว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวจะบอกเย่ว์หยางให้ทำลายเขา
สำหรับทอเรนลิมายิ่งไม่ง่ายหนักขึ้น
เขากลัวจนคุกเข่ากับพื้น
ตอนนี้ต่อให้เจ้าเมืองโล่วฮัวตัดศีรษะของเขา
เขาย่อมไม่กล้าคัดค้าน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มที่เอาชนะความเร็วของผู้อาวุโสหวีมู่ได้
และหัวหน้าลี่เยี่ยนที่มีพลังปราณฟ้าระดับห้าล้วนทำงานให้นาง
มิน่าเล่านางถึงกล้าบอกให้คนแปลกหน้าทำงานให้นางได้เหมือนกับสั่งงานตามปกติ
คนเหล่านั้นหลายคนถือกระถางดอกไม้ให้นางอาจมีความภูมิใจก็ได้
หากพวกเขารู้สึกตัวเองว่าไม่มีคุณสมบัติ พวกเขาอาจจะเกลียดตัวเองที่ยืนห่างเกินไป ถ้าพวกเขายืนอยู่ด้านหลังสาวงามชนชั้นสูง
พวกเขาเชื่อว่ามีโอกาสที่จะกลายเป็นคนมีเกียรติมากไปด้วย
ลี่เยี่ยนและเย่ว์หยางลอยตัวขนาบเจ้าเมืองโล่วฮัวบินจากไป
ผู้คนที่อยู่บนถนนเหมือนกับปั่นป่วนตะลึงมอง
และใช้สายตาส่งนางจากไป ไม่มีใครกล้าดูแคลนนางแม้แต่น้อย
เจ้าเมืองไถ่ถอนตัวเปียกโชก ทุกคนเป็นเหมือนกับปลาได้น้ำ แต่ผู้อาวุโสหวีมู่นับว่าโชคดีแล้ว
มิฉะนั้นเขาคาดว่าเขาคงไม่ยอมให้สาวงามตัดศีรษะแน่
อย่างน้อยก็คงควักตาเขาจนบอดเหมือนกับบริวารเคราะห์ร้ายทั้งสามของเขา
“เร็วเข้า มุกมีค่าที่ข้ารวบรวมเก็บไว้
ให้ส่งไปให้ท่านผู้มีเกียรตินี้ นอกจากนี้พยายามรวบรวมข่าวทั้งหมด ข้าต้องการรู้สถานะของท่านผู้มีเกียรตินี้ให้ได้ ถ้าพวกเจ้าขัดขวางพวกเขา ข้าจะตัดศีรษะของเจ้า! เดี๋ยวก่อน จำเอาไว้
เมื่อพวกเจ้าไป อย่าได้เสียมารยาทเด็ดขาด!” เจ้าเมืองไถ่ถอนรู้สึกคันหัวใจยากจะเกา
เขารู้ว่าเพราะการดำเนินการประหารราชาไท่หลุน เมืองของเขาจะมีผู้มีสถานะสูงส่งมาเยือน
คนผู้นี้คือใคร?
ไม่สามารถนึกภาพออก!
แต่คงเป็นบุคคลชั้นสูงในสวรรค์บนแน่
เป็นการยากที่จะแนะนำตัว
และเป็นไปไม่ได้ที่จะขอพบเป็นการส่วนตัว
คนชั้นสูงแบบนั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะพบได้
ถ้านางรู้ว่าผู้อาวุโสตำหนักกลางเป็นคนอย่างนั้น
แล้วยังไม่แลมองหรือให้ความสนใจเหมือนกับเป็นมดแมลง ใครจะนึกจะฝันกันเล่า!
9 ความคิดเห็น:
สุดยอดของเยว่หยางเป็นแบบนี้มานานแล้วสิ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ทั้งองค์หญิง ทั้งหัวหน้าผู้ซื่อตรง เสียนิสัยเพราะตาเย่ว์นี่แหละ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ละครได้ดี
แสดงความคิดเห็น