ตอนที่ 828
หญิงสาวพราวเสน่ห์
เมื่อกลับมาที่เรือเหาะที่มีสัญลักษณ์เพลิงพิโรธจอดลอยตัวรออยู่ เหยียนเจ้ายืนรอคอยด้วยความเคารพ
เขารายงานเย่ว์หยางด้วยภาษาลับ
หลังจากที่เย่ว์หยางคิดเล็กน้อย ก็ส่งเขาออกไปหาข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับนักสู้ปราณฟ้าที่มาชมดูและต้องการประจบประแจง เย่ว์หยางไม่ให้ความสนใจแม้แต่น้อย แม้แต่พ่อบ้านที่เจ้าเมืองไถ่ถอนใช้ให้มาส่งมุกอัญมณี
เย่ว์หยางก็ไล่ตะเพิดเขาออกไป คนชั้นสูงระดับนั้นจะให้พบเจอได้อย่างไร?
พ่อบ้านพอถูกปฏิเสธก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ เขาคำนับและพยายามมอง
แม้จะพยายามมองก็มองไม่เห็นเจ้าเมืองโล่วฮัว
แต่เขามีความหวังว่าเย่ว์หยางจะรับมุกที่ล้ำค่านี้ไว้
ตราบใดที่เขารับไว้ นั่นหมายความว่ายังมีความหวัง
เย่ว์หยางหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัว
ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเขายังไง และเขาไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะอยู่อย่างนี้อีกนานเท่าใด
“เราไม่ต้องการให้คนมากมายรู้ว่าจะไปที่ใด
หลังจากดำเนินพิธีประหารชีวิต เราจะจากไปทันที
ที่นี่เราหวังว่าเจ้าเมืองไถ่ถอนจะให้ความสนใจควบคุมไม่ให้คนมากมายเกินไปมารบกวนเรา ทางที่ดีที่สุดให้แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพวกเราเป็นชนชั้นสูง แม้จะพูดว่าท่านผู้นี้เดินทางมาเป็นส่วนบุคคล
แต่คนสถานะสูงส่งทรงเกียรติมาปรากฏอยู่ในแดนสวรรค์ล่างเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ...วันนี้ท่านผู้สูงศักดิ์นี้อารมณ์ยังไม่ค่อยดี
ไม่ต้องการพบอาคันตุกะ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เราหัวหน้าองครักษ์จะพูดคุยกับเจ้าเมืองเอง เนื่องจากท่านผู้นี้ไม่ต้องการพบ
เราหัวหน้าองครักษ์ก็ฝืนไม่ได้ ขอให้โชคดี”
เย่ว์หยางในฐานะหัวหน้าองครักษ์มีคุณสมบัติมากเกินไป
ถึงกับหลอกพ่อบ้านผู้นั้นได้
“เจ้าเมืองเฉียนหู่ (ชื่อจริงของเจ้าเมือง)
จะทำตามต้องการของท่านผู้สูงศักดิ์แน่นอน
และจะไม่มีผู้ใดเข้ามากวนใจท่าน”
พ่อบ้านทำความเคารพแสดงความนับถือหมดใจ
หลังจากนั้นเขาเอาหินเลือดมังกรคุณภาพดียัดใส่มือของเย่ว์หยาง
เขาขออภัยซ้ำแล้วซ้ำอีก
ก่อนหน้านั้นอ้างว่าไม่ประสงค์จะดูหมิ่น
แค่ขอให้เย่ว์หยางช่วยเปิดเผยข้อมูลสักเล็กน้อยเพื่อที่ว่าเขาจะได้กลับไปรายงานเจ้าเมืองไถ่ถอน
ท่าทีมารยาทของเขาถือว่าประสบความสำเร็จเต็มที่
และเขาไม่ต้องถึงกับฆ่าตัวตายต่อหน้าเย่ว์หยางเพื่อแสดงความจริงใจ เย่ว์หยางลอบตำหนิเขาว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกดีๆ
นี่เอง นอกจากนี้เขามีท่าทีลำบากใจ ในที่สุดภายใต้คำอ้อนวอนของอีกฝ่าย
เขากัดฟันให้ข้อมูลอีกฝ่ายหนึ่ง ตอนแรกเขาชี้นิ้ว จากนั้นพ่อบ้านแบมือออก
เย่ว์หยางไม่ได้เอาอะไรใส่มือของเขา แต่วาดวงเวทลึกลับวงหนึ่ง
นอกจากนี้
เขาใช้ภาษาลับกระซิบที่หูของพ่อบ้านเจ้าเมือง “เมื่อไม่นานมานี้
เราได้พบกับฉางฟงแห่งสี่ตระกูลใหญ่โดยบังเอิญ
เขาเรียกเจ้าหน้าฝ่ายปกครองมาพบ ขณะที่เขาขอใช้กระจกวิเศษที่เขานำไปด้วย
เขาต้องการคุ้มกันตลอดเส้นทาง
แต่ท่านผู้สูงศักดิ์นี้ไม่ชอบกระจกชั่วร้าย จึงให้ข้าถือไว้ คุณชายฉางฟงอายมากและไม่กล้าติดตามมา”
เย่ว์หยางเอากระจกทนทุกข์ออกมาจากเจดีย์ปราบปีศาจ
ถ้าจะมีข้อสงสัยเล็กน้อยของพ่อบ้านอยู่ก่อนหน้านี้บ้าง แต่พอได้ฟังเย่ว์หยางพูด เขาหวาดกลัว
หลั่งเหงื่อเยียบเย็นและโบกมือพัลวัล
ในแดนสวรรค์มีจักรวรรดิกว้างใหญ่มากมายเกินไป ถ้าในบางที่ไม่มีคนรู้จัก
นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะแดนสวรรค์กว้างใหญ่เกินไป
ยอดฝีมือที่ไม่รู้จักจึงมีอยู่มากมาย
อย่างไรก็ตามถ้านักสู้ปราณฟ้าไม่รู้จักสี่ตระกูลใหญ่
นั่นเป็นเรื่องน่าขันเกินไป
ไม่ต้องพูดถึงนักสู้ปราณฟ้าทั่วไป
แม้แต่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดก็ยังรู้
สำหรับสี่ตระกูลใหญ่ พวกเขาย่อมต้องได้พบเห็นได้ยินมาบ้าง
พ่อบ้านผู้นี้คุ้นเคยกับชื่อคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ แล้วคุณชายฉางฟงแห่งตระกูลตู๋กูเล่า?
ครั้งหนึ่งเจ้าเมืองไถ่ถอนเคยจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อจ้างทหารที่เป็นศิษย์ของตระกูลๆ
เดียวเท่านั้น เขาแค่อยากใช้เป็นทางผ่านเพื่อทำความรู้จักคุณชายฉางฟงผู้ไม่มีข้อบกพร่องและไม่ทำตัวโดดเด่น พ่อบ้านมีความเข้าใจลักษณะนิสัยอารมณ์
และสมบัติของคุณชายฉางฟง สำหรับกระจกทนทุกข์ พ่อบ้านไม่เคยเห็นมาก่อน
และเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาหลายครั้ง ตอนนี้เขาเห็นมันปรากฏอยู่ในมือของเย่ว์หยาง
แล้วจะไม่ประหลาดใจได้ยังไง...
“นั่นเป็นสมบัติของรักของคุณชายฉางฟง ถ้าเขายินดีให้มันออกไป
ใครจะชิงไปจากมือเขาได้?
นี่คนชั้นสูงระดับไหนกันถึงกับทำให้คุณชายฉางฟงสละสมบัติของรักออกไปได้?
สี่ตระกูลใหญ่และคุณชายฉางฟงไม่ต้องพูดถึง
ถ้าท่านผู้สูงศักดิ์นั้นไม่ต้องการให้พบในเวลานี้
แม้แต่ลักษณะขององครักษ์ส่วนตัวก็ยังยากจะหยั่งรู้ได้
ขนาดหัวหน้าองครักษ์ยังมีสมบัติวิเศษที่ทรงพลัง
และสามารถใช้ออกได้ง่ายๆ
เมื่อมองดูอัญมณี
การให้บรรณาการไข่มุกพวกนี้เต็มไปด้วยความยินดี ถ้าไม่ได้เห็นมาจนเป็นเรื่องปกติ
สีหน้าของเขาจะเฉยเมยเบาหวิวได้ยังไง
ในที่สุดก็แค่ด้วยพลังปราณฟ้าระดับสาม
เขายังไม่กลัวพลังปราณฟ้าระดับห้าของผู้อาวุโสหวีมู่
ทั้งที่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังยั่วยุและตอบโต้
จนแทบทำให้ผู้อาวุโสหวีมู่พลาดท่าเสียที.... ด้วยสติปัญญาและความคิดเห็นอย่างนั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะสุดยอดพลังและมีผู้ยิ่งใหญ่หนักแน่นดุจขุนเขาหนุนหลัง
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงมือเคลื่อนไหวท้าทายผู้อาวุโสตำหนักกลางได้! คนโง่จะไม่พยายามท้าทายผู้อาวุโสตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
นั่นคือภัยพิบัติและหายนะแน่นอน
แต่วันนี้เด็กหนุ่มนี่ไม่เพียงแต่ลงมือเท่านั้น
แต่ยังลงมือด้วยอาการเย้ยหยัน!
คำนวณตามข้อมูลทุกอย่างที่เป็นไปได้ ท่านผู้สูงศักดิ์นี้อาจเป็นบุคคลในตำนาน...
พ่อบ้านของเจ้าเมืองไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะกลัวว่าเขาจะหวาดหวั่นตกใจ
และโดยไม่รู้ตัว
เขาหลั่งเหงื่อพรั่งพรูจนชุดเปียกโชกราวกับถูกน้ำราด
เมื่อมองดูเย่ว์หยางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
เขารู้สึกกลัวในหัวใจรีบคุกเข่ากับพื้นและพูดด้วยความจริงใจที่สุด
เขาคารวะไปทางเรือเหาะเลิศหรู
เขาขออภัยเย่ว์หยางซ้ำๆ
พร่ำบอกว่าไม่ได้จะล้วงเอาความลับข้อมูลของผู้ยิ่งใหญ่ แค่เป็นเพราะเจ้าเมืองเฉียนหู่มีใจชื่นชมสรรเสริญ
เขาจึงขวนขวายมาพบเพื่อขอความเห็นใจ..
“กลับไปก่อน
มีข่าวดีแล้วข้าจะส่งเหยียนเจ้าไปบอกท่าน”
ในที่สุดเย่ว์หยางก็ส่งคนผู้นี้ออกไป
เขาเกรงว่าคนผู้นี้จะหวาดกลัวจนกระทั่งฆ่าตัวตาย!
“ขอรับ, ข้าน้อยกับเจ้าเมืองเฉียนหู่จะน้อมรอต้อนรับท่านด้วยความเคารพ”
พ่อบ้านมองดูท่าทีเย่ว์หยางค่อยรู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้าง เขารีบคำนับอำลาแล้วจากออกมา
เขารู้ว่าเขาไม่มีคุณสมบัติเพื่อคบหากับหัวหน้าองครักษ์ของท่านผู้สูงศักดิ์มากเกินไป
แต่สามารถติดต่อสมาคมกับเหยียนเจ้าก็ยังนับว่าเป็นความสำเร็จสุดยอด
ด้วยแนวทางนี้ก็สามารถสอบถามข้อมูลลับของฝ่ายตรงข้ามได้
เขาสามารถรับประกันได้ว่าเจ้าเมืองเฉียนหู่คงมีความพึงพอใจแน่นอน
ขณะที่การแสดงท่าทีของผู้สูงศักดิ์ท่านนี้เขาไม่จำเป็นต้องคิดถึง
นั่นจะทำให้เจ้าเมืองเฉียนหู่จะต้องกังวลมากไป
เย่ว์หยางกลับไปที่เรือเหาะลอยฟ้าและเดินไปตามระเบียงเข้าห้องโถง
เขาพบว่าไป่ลู่สาวงามมากเสน่ห์กวักมือเรียกและยิ้มให้เขา แม้จะมีพลังปณิธานราชันย์
แต่เขาก็ยังอดหวั่นไหวไม่ได้
เจ้าเมืองโล่วฮัวหายไป
นิสัยของนางรักสะอาด เพราะต้องเดินซื้อของในเมืองถึงครึ่งค่อนวัน
พอกลับมาถึงคาดได้ว่านางก็ไปอาบน้ำทันที
ลี่เยี่ยนจัดการให้สาวเผ่ามนุษย์มังกรแดนสวรรค์ไปจัดเตรียมพื้นที่และเดินเข้ามาอีกด้านหนึ่งคิดว่าเขาไม่เห็นไป่ลู่
เขาดึงศิลาเลือดมังกรคุณภาพอย่างดีที่สุดออกมาดู ตอนแรกใช้เพลิงอมฤตกลั่น
จากนั้นโยนให้หัวหน้าลี่เยี่ยน “ต่อไปอู๋เหินจะเขียนอักษรรูนสวรรค์ให้เจ้า
ไม่ว่าจะใช้ติดอาวุธหรือเกราะ นี่มีคุณสมบัติไม่เลวสำหรับเจ้า”
ลี่เยี่ยนพยักหน้า
สำหรับเรื่องเกี่ยวกับเย่ว์หยางหลายอย่าง
นางจะไม่คัดค้านมากเหมือนเมื่อก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากหลอมรวมพลังในสนามพลังงาน
นางเข้าใจเย่ว์หยางมากขึ้น และค่อยๆ ซึมซับแนวความคิดของเย่ว์หยางไม่ต่อต้านแข็งขืนเหมือนเมื่อก่อน
“สวยมาก ให้ข้าสักชิ้นได้ไหม!” ไป่ลู่คว้ามาจากในมือของลี่เยี่ยนและดูอยู่ชั่วขณะไม่ทีท่าว่าจะวางลง
ลี่เยี่ยนต้องการให้นางส่งคืน แต่ไป่ลู่ยิ้มและคืนหินเลือดมังกรอย่างดีให้ลี่เยี่ยน
นางมานั่งข้างเย่ว์หยางและแบมือขอของบ้าง
“ไม่, เจ้าคิดว่าข้ามีเป็นตะกร้าหรือ
คนผู้นั้นให้มาชิ้นเดียว”
เย่ว์หยางตอนแรกทำเป็นไม่สนใจนางก่อน แต่อดมองมือที่งดงามของนางมิได้
เขามิอาจทนการยั่วยวนของไปลู่
แม่สาวนี่มีเสน่ห์ยั่วยวนเป็นพิเศษ
เท่าที่เย่ว์หยางเห็น นอกจากนางเซียนหงส์ฟ้าและสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงที่งดงามน่าลุ่มหลงแทบตาย
ก็มีหญิงสาวผู้นี้แหละที่น่าลุ่มหลงที่สุด
หลังจากพิจารณาถึงความจริงได้
เขารู้สึกว่านางมีพลังเสน่ห์ยั่วยวนน่าลุ่มหลง
เย่ว์หยางดึงมุกที่ล้ำค่าออกมา
เขาไม่ได้วางลง
แต่วางลงในฝ่ามือนาง เพื่อดูว่านางเต็มใจหรือไม่
ไม่ต้องคำนึงว่าเย่ว์หยางจะคิดยังไง
ไข่มุกเป็นจุดเริ่มต้น ไป่ลู่ยิ้ม
“มุกนี้ไม่มอบให้น้องโล่วฮัวหรือ? ข้าเองไม่มีปัญหาแน่ แต่ระวังน้องโล่วฮัวจะดึงหูเจ้า” แม้ว่านางจะคืนให้เย่ว์หยางได้
แต่เขาคาดว่าคงยากที่จะเอาคืนจากนาง
เย่ว์หยางพอฟังนางเรียกเจ้าเมืองโล่วฮัวว่าน้อง
เขาลอบหลั่งเหงื่อ พวกนางสนิทกันตั้งแต่เมื่อใด
ถึงกับเรียกพี่เรียกน้องได้!
ไปลู่นั่งใกล้ชิดกับเย่ว์หยางมากจนได้กลิ่นกายสาว
เสียงหัวเราะของนางดังไพเราะราวกับระฆังเงิน เย่ว์หยางมีความปรารถนา
เขารีบลุกขึ้นและรีบตามหาเจ้าเมืองโล่วฮัวและอาบน้ำด้วยกันและระบายอารมณ์ที่สุมทรวง
คาดไม่ถึงเลยว่าโล่วฮัวนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากอ่างอาบน้ำ
และนางปฏิเสธที่จะกลับไปอาบน้ำพร้อมกับเย่ว์หยาง
รอจนเย่ว์หยางอาบน้ำเย็นเสร็จและออกมา
เขาพบว่าสามสาวกำลังคุยกันถึงสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเคร่งเครียด
“เป็นภาษารูนอมตะหรือเปล่า?” เจ้าเมืองโล่วฮัวถาม
“มั่นใจถึงเก้าในสิบ ไม่ผิดแน่
แต่ข้าไม่รู้ว่าอักษรรูนอมตะนี้มีลักษณะพิเศษอะไร ตามข้อมูลที่ส่งมาทางช่องทางลับ
เพราะเกี่ยวกับผนึกต้องการให้ภาษารูนอมตะเกิด
ต้องบูชายัญด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของนักสู้ปราณฟ้าหมื่นคน นอกจากนี้ยังต้องใช้นักสู้ระดับราชันย์ถึงร้อยคน การประหารราชาไท่หลุนเป็นเพียงข้ออ้างบังหน้า
แต่เป้าหมายก็คือดึงดูดนักสู้ปราณฟ้ามากมายให้เข้ามา
ตามธรรมดาราชาไท่หลุนต้องมีสหายที่ดีมาช่วยไกล่เกลี่ยและช่วยเหลือ พูดง่ายๆ ก็คือผู้คุ้มกฎของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ถานไถถูเมี่ย
เพื่อให้ได้อักษรรูนอมตะ เขาทุ่มเทเต็มที่”
ไป่ลู่เลิกพูดล้อเล่นกับเย่ว์หยางก่อนนั้น ตอนนี้นางมีสีหน้าจริงจัง
“แหล่งข่าวน่าเชื่อถือไหม?” เย่ว์หยางเพิ่งอาบน้ำเสร็จและฟังอย่างระมัดระวังและรีบย้อนถาม
“ข่าวลับสุดยอดนี้ส่งมาจากภรรยาของราชาไท่หลุน แหล่งข่าวมาจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
น่าจะเป็นว่าคนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์บางคนกังวลว่าถานไถถูเมี่ยจะได้อักษรรูนอมตะไป
ความก้าวหน้าและความแข็งแกร่งคุกคามสถานะของเขาอย่างมาก
แน่นอนว่าข่าวนี้ถูกส่งไปยังภรรยาของราชาไท่หลุนและกองกำลังของสี่ตระกูลใหญ่ผ่านช่องทางลับ เพื่อให้พวกเขาทำลายพิธีบูชายัญ
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เป็นภัยพิบัติของอาณาจักรไท่หลุน
แต่ยังเป็นการต่อสู้ภายในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเราเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่เราพบมาเท่านั้น”
ไป่ลู่พยักหน้าให้เย่ว์หยางอย่างเคร่งขรึมรับรองว่าข่าวน่าเชื่อถือ
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็น่าประหลาดเกินไป!” ลี่เยี่ยนอดคิดไม่ได้
ถ้าการบูชายัญทำได้สำเร็จ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
“คงจะดีกว่า ถ้ามาเร็วกว่านี้” เย่ว์หยางยิ้ม “นั่งบนภูดูเสือกัดกัน ถ้าการต่อสู้ภายในของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เกิดความเสียหายทั้งคู่
ชาวประมงอย่างเราจะได้รับประโยชน์”
“ยาก” ไป่ลู่ส่ายหน้า “เจ้ามีฝีมือก้าวหน้ารวดเร็ว แต่ยังห่างไกลจากถานไถถูเมี่ยอยู่มาก”
“ถ้าจอมวายร้ายยังไม่บรรลุพลังปราณราชันย์ ข้าคงไม่ยินดีนัก แต่ในเวลานี้ข้าขอเสนอพ่อตัวร้าย! เจ้าเมืองโล่วฮัวลุกขึ้นและเข้ามานั่งในอ้อมกอดของเย่ว์หยาง
อยู่ต่อหน้าสตรีสองคนนางจับศีรษะและกอดคอเขาจูบแก้มเขาโดยไม่ลังเล “เย่ว์หยาง!
เจ้าเมืองผู้นี้สนับสนุนท่าน
อย่าให้ผู้คนผิดหวังนะ!”
“ตามบัญชา เจ้าเมืองที่รัก,
โปรดวางใจได้ว่าผู้น้อยจะต้องทำอย่างสุดฝีมือที่สุดเพื่อให้งานสำเร็จ” เย่ว์หยางถูกเจ้าเมืองโล่วฮัวยั่วจนสุดทน
เขารีบอุ้มเจ้าเมืองโล่วฮัวเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว
ไป่ลู่ประหลาดใจกับทัศนคติของเจ้าเมืองโล่วฮัว
แม้แต่นางก็เข้าใจพลังปราณราชันย์ได้อย่างไร?
ฝ่ายตรงข้ามคือถานไถถูเมี่ย!
แต่ทันใดนั้นนางเขาใจอีกครั้ง
นี่เป็นสิ่งที่ภรรยาควรทำ เชื่อใจสามีนางโดยไม่คัดค้านและสนับสนุนสามีนางเต็มที่
หลังจากนางพบเหตุผลแล้ว
นางหันไปทางลี่เยี่ยนและถามพร้อมกับยิ้ม “เจ้าเชื่อว่าเขาจะทำได้สำเร็จไหม?”
หัวหน้าลี่เยี่ยนขมวดคิ้ว “ถานไถถูเมี่ยแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่เย่ว์หยางไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ เขาสร้างปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้มาแล้ว!
นอกจากนี้นี่ไม่จำเป็นต้องต่อสู้
บางทีอักษรรูนอมตะยอมรับเย่ว์หยาง ไม่ใช่ถานไถถูเมี่ย! เจ้ารู้เรื่องของเขาไม่มาก ข้าได้ไปฝึกกับเขาในหอทงเทียนเป็นเวลานาน ข้าไม่เคยวุ่นวายกับเรื่องของเขา โดยเฉพาะอย่างได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ คน
เจ้าไม่รู้หรอกว่าคนเหล่านั้นโดดเด่นแค่ไหน
โดยสรุปก็คือ เขาจะประสบความสำเร็จ
อาจจะไม่ใช่ในวันเดียว แต่ข้าเชื่อว่าเขาจะประสบความสำเร็จแน่นอน!”
ไป่ลู่ประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่คิดว่าลี่เยี่ยนจะตอบกลับมาอย่างนี้
ในที่สุดนางก็หัวเราะ
นางเข้าใจว่าลี่เยี่ยนพูดปลอบใจตัวเอง
แต่ไม่จำเป็นต้องปลอบใจลี่เยี่ยน แม้ว่าปากจะพูดอย่างนั้น
แต่ใจนางสนับสนุนเจ้าเด็กนั่น
มิฉะนั้นนางจะบอกความลับที่น่าตกใจอย่างนั้นกับเขาได้ยังไง! นอกจากนี้แม้จะบอกเขา
กระตุ้นให้เขาจากไป และไม่ให้เขามายังอาณาจักรไท่หลุน
ความจริงนางเชื่อว่า
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้มากที่สุดก็คือเขาเอง
ประตูห้องนอน
แม้จะมีฉนวนกันเสียงเล็ดรอด แต่ก็ยังมีเสียงหอบหายใจดังมาให้ได้ยิน
สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไปพร้อมกัน
ไป่ลู่อายหน้าแดง นางบีบขาชิดแน่นและนิ้วที่จับแก้วน้ำสั่น
ลี่เยี่ยนรู้สึกอายยิ่งกว่า
ความจริงนางได้ยินอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว
นางคุ้นเคยกับเสียงทำศึกรักของเย่ว์หยางนานแล้ว แต่นี่ไม่ใช่บันไดสวรรค์
ไป่ลู่ไม่ใช่อู๋เหิน ดังนั้นนางรู้สึกอายเล็กน้อย
“เขากับน้องโล่วฮัวเป็นอย่างนี้บ่อยไหม?”
ไป่ลู่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการสนองตอบต่อการยั่วยวนนาง ไม่อย่างนั้นเย่ว์หยางคงไม่ทำอย่างนี้ง่ายๆ
“ชินแล้ว”
หัวหน้าลี่เยี่ยนไม่ต้องการพูดคุยเรื่องนี้กับไป่ลู่อีก
นางลุกขึ้นยืนและกลับไปที่ห้อง
“บางครั้งเจ้ามีความคิดอะไรบ้างไหม?”
ไป่ลู่โพล่งถามขึ้น
“ข้าเป็นเผ่ายักษ์” ลี่เยี่ยนรีบปฏิเสธ
“ไม่ต้องเดา ข้าไม่มีอารมณ์สุนทรีย์ และข้าไม่ได้มีอะไรกับเขา!”
“เอ่อ.. ข้าเชื่อเรื่องนั้น..” ไป่ลู่เมื่อลี่เยี่ยนเกือบจะเข้าไปในห้อง
จู่ๆ นางวางแก้วน้ำและพูดกับลี่เยี่ยนด้วยภาษาลับ “เจ้าเคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่าการรู้แจ้งของหญิงงามบ้างไหม
แม้แต่หญิงที่ดูธรรมดายังกลายเป็นสาวงามได้
มีความสามารถที่จะปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ บางทีเจ้าน่าจะลองดูนะ”
“ขอบคุณ
ของอย่างนั้นมีแต่ในตำนานไม่มีอยู่จริง ข้าคงไม่ไล่ตามหาแน่ ตอนนี้ก็รู้สึกดีมากอยู่แล้ว
ข้าไม่คิดอะไรมาก
ความสัมพันธ์ของข้ากับเขาก็คือเป็นคู่หู
ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด”
ลี่เยี่ยนส่ายหัวและดึงประตูเตรียมจะปิด
“ถ้าข้าบอกว่าข้ามีของดีเล่า?” คำพูดของไป่ลู่ทำให้ลี่เยี่ยนนิ่งอึ้ง!-!
6 ความคิดเห็น:
เยว่หยางเตรียมรับคู่ฝึกอีกสองคนแล้ว
ขอบคุณครับ
สบายตัวละพี่เยว่เรา
พี่เย่วสู้ไหวอยู่แล้ว รับได้ทั้งยักทั้งมังกร 555
ภาพลี่เยี่ยนตอนกินยาแปลงโฉม ขอให้นักภาพตอนแก้วหน้าม้าถอดรูปก็ได้ครับ
แสดงว่าลี่เยี่ยนตอนนี้หน้าตาเหมือนแก้วหน้าม้า
แสดงความคิดเห็น