วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 978 คุกเข่า เจ้ามดแมลงน้อย


ตอนที่  978  คุกเข่า เจ้ามดแมลงน้อย
แท่นบูชายัญ
 
ปากขนาดมหึมาของพระยาราชสีห์พ่นลมกรดราชสีห์อย่างต่อเนื่อง ในท่ามกลางสนามพลังอธิฐานของราชาเฉินม่อ พลังลำแสงคอยช่วยเสริมพลัง  สีของพลังเป็นสีทองเข้ม เหมือนกับคำสั่ง นักสู้ปราณฟ้าคนใดมีระดับต่ำกว่าราชา อาจถูกฆ่าตายทันทีที่ถูกโจมตี  แค่นั้นยังไม่พอ อสูรพิทักษ์วิญญาณนามว่า เคร่งครัด จะช่วยเสริมพลังทักษะแฝงเร้นและช่วยเพิ่มพลังทำลายล้างให้กับพลังลมกรดสิบเก้าราชสีห์
พลังลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีเข้าตัวของเย่ว์หยาง
ไม่มีความผิดพลาด
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง... เสียงระเบิดดังต่อเนื่อง... รอบแท่นบูชายัญ แรงระเบิดฉีกพื้นที่โดยรอบ
ภูเขาในหุบเขาถล่มทลาย หินก้อนใหญ่มหึมาปลิวขึ้นฟ้าจนคลุมฟ้าคลุมดิน  จุดใจกลางระเบิดเหมือนกับมีดวงอาทิตย์เจิดจ้าจนไม่อาจลืมตาได้
มีลูกไฟเผาผลาญเต็มท้องฟ้าเป็นเวลานาน
ประกายไฟฟ้าราวกับงูสีทอง
หากพลังโจมตีที่น่ากลัวนี้ใช้กับคนอื่น  พระยาราชสีห์ไม่สงสัยเลยว่าศัตรูของเขาจะไม่มีทางรักษาชีวิตไว้ได้  เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องดี!
อย่างไรก็ตาม พลังลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีใส่เย่ว์หยาง จักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่  แต่พระยาราชสีห์ไม่กล้ามั่นใจเต็มร้อย   สำหรับบุรุษผู้พลิกมือก็สลับพื้นฟ้าพื้นดินได้อย่างง่ายดายทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว  เพราะจ้าวสุริยาถูกหลอกไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เขาหลบหนีออกมาจากพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพกลับออกมาที่ทะเลคลั่ง  และหลอกราชาเฉินม่อ (ราชาเงียบ) และตัวเขา คนกลุ่มใหญ่อีกครั้งด้วยพลังลับที่ไม่รู้จักพาเทเลพอร์ตมายังหอทงเทียนและบันไดสวรรค์... เด็กหนุ่มที่ร้ายกาจอย่างนั้น ลมกรดสิบเก้าราชสีห์จะฆ่าเขาได้หรือ?
แค่ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว!
พระยาราชสีห์ปลอบใจตนเอง
ถ้าไม่ใช่เพราะราชาเฉินม่อ เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลากถ่วงเด็กหนุ่มนั่นไว้ เขาคงไม่มีโอกาสใช้ลมกรดสิบเก้าราชสีห์แน่  โชคดีที่ลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีถูกเป้าหมาย
แม้ว่าพลังของเขาจะไม่ธรรมดา  แต่ร่างของเขาก็ยังเป็นร่างมนุษย์  ตราบใดที่เป็นร่างมนุษย์ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บ
ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางที่สุด
ก่อนเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ร่างมนุษย์มีความเปราะบาง
เย่ว์หยางผู้ถูกลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีอย่างจัง เงียบไปเป็นเวลานานไม่มีเสียงแม้แต่น้อย และไม่มีความรู้สึกถึงการหายใจ  หรือว่าเขาจะถูกฆ่าด้วยพลังโจมตีนี้จริงๆ?
อย่างนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร!
พลังเทพของราชาเฉินม่อยังคงใช้ได้ดี  ร่างของเจ้าเด็กนี่จะต้านทานพลังโจมตีได้หรือ ทั้งยังป้องกันพลังลมกรดของเขาได้หรือ  นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?
จุดอ่อนของเขาก็คือ เขาไม่สามารถต้านทานผลกระทบจากการเผาผลาญพลังงานไม่ใช่หรือ?  ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าเด็กนี่เอาตัวรอดจากพลังพายุสุริยะของจ้าวสุริยาได้อย่างไร?
 “ตายจริงหรือ?”  ราชาจินกวนและพระยาราชาสีห์มองหน้ากันเองอย่างงงงวย
ทั้งสองคนเดินขึ้นไปข้างหน้าเล็กน้อย และถูกราชาเฉินม่อผลักออก
เขาประกบมือด้วย
ฝ่ามือของเขาสร้างพลังลมรุนแรง
พลังลมกวาดไปทั่วบริเวณราวกับพายุหมุนพัดผ่าน  แรงลมกวาดเอาควันและกรวดออกไปในทันทีเผยให้เห็นท่านบูชายัญว่างเปล่า
บนแท่นบูชายัญสีแดงไม่มีใคร  ดูเหมือนเป็นการพิสูจน์อย่างเงียบงันกับความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มนั่นคงถูกฆ่าแน่นอน... ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้พระยาราชสีห์และราชาจินกวนประหลาดใจและดีใจทั้งคู่  เหมือนฝัน  นี่เป็นความจริงหรือเปล่า?
 “ร่างกายมนุษย์เปราะบางเกินไปหรือเปล่า?”  ราชาจินกวนตัวสั่นด้วยความดีใจ
 “ไม่แน่ใจ!  พระยาราชสีห์มีความสุข  แต่ยังออกปากถ่อมตัว และนั่นเป็นผลงานของราชาเฉินม่อ
ขณะที่ทั้งสองเดินขึ้นไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบร่องรอย  ราชาเฉินม่อใจหายวูบ ราวกับเห็นบางอย่างที่น่ากลัว
เขาหันกลับไปช้าๆ
หน้าของเขาถอดสี
ใบหน้าของเขามีแววหวาดกลัวราวกับคนธรรมดาถูกผีหลอก
พระยาราชสีห์และราชาจินกวนเห็นท่าทีสนองตอบที่ผิดปกติของราชาเฉินม่อ  พวกเขาตกใจวิ่งออกไปสองสามก้าว จากนั้นหันหลังกลับราวกับว่ามีบางคนจะโจมตีด้านหลัง
ไม่มีใครโจมตี และไม่มีมนุษย์อยู่ข้างหลัง มีแต่เพียงโลกที่ว่างเปล่า  มีแต่เศษหินหักพังอยู่ทั่วทุกที่  มีความเย็นยะเยือกที่อธิบายไม่ถูกยามเมื่อสายลมพัดผ่าน
 “มีสิ่งใดผิดปกติ?”  พระยาราชสีห์มองไม่เห็น
 “ทุกอย่างปกติ!  ราชาจินกวนมองซ้ายมองขวาม แต่ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ
 “......”  ราชาเฉินม่อไม่บอก  แต่ทันใดนั้นเขาเตะอสูรสุนัขนำทางที่อยู่ใกล้ๆ อย่างไร้น้ำใจ  มันลอยคว้างและกระแทกเข้ากับภูเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายพันเมตร
 “แต่..นั่นมันอสูรสุนัขนำทางไม่ใช่หรือ?”  พระยาราชสีห์รู้สึกผิดหวังกับราชาเฉินม่อ  อสูรสุนัขนำทางมีแต่ระดับเจ้าตำหนักขึ้นไปเท่านั้นจึงจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของ เขาเตะมันออกไปได้ยังไง?  และด้วยพลังขนาดนั้น อสูรสุนัขนำทางจะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก  ถึงแม้ราชาเฉินม่อจะจริงจังมากเพียงไหน  แต่เขาก็รักอสูรที่อยู่ในความดูแลของเขามาก  และอสูรสุนัขนำทางก็เป็นอสูรที่เขารัก  ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะต้องทำเช่นนี้  เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
 “หือ?”  ราชาจินกวนตกใจอย่างหนักเช่นกัน  แต่ไม่ช้าเขาก็พบปัญหา
อสูรสุนัขนำทางกระแทกเข้าไปในภูเขา
พื้นผนังหินสั่นสะเทือน ภูเขาถล่มทลาย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเสียงร้องโหยหวนตามที่คาดว่าจะได้ยิน.... อสูรสุนัขนำทางไม่ส่งเสียง  มันพังทลายกลายเป็นกองหิน
อสูรสุนัขนำทางที่อยู่แทบเท้าของราชาเฉินม่อกลายเป็นอสูรปลอม  ถ้ามันเป็นศัตรู นั่นจะอันตรายไม่ใช่หรือ?  พระยาราชสีห์และราชาจินกวนไม่เข้าใจ  สิ่งมีชีวิตอย่างอสูรสุนัขนำทาง เย่ว์หยางเอาหินมาเปลี่ยนแทนมันได้ออย่างไร?
อสูรสุนัขนำทางหายไปไหน?
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
มีเสียงเห่าดังขึ้นสองสามครั้ง
ภายใต้สายตาของพระยาราชสีห์และราชาจินกวน มีอสูรสุนัขนำทางอีกตัวหนึ่งมาอยู่แทบเท้าราชาเฉินม่อ
เจ้านี่ตัวจริงหรือตัวปลอม?
ราชาเฉินม่อสีหน้าเปลี่ยน เขาหงายฝ่ามือทั้งสองขึ้นและแยกออก  อสูรพิทักษ์ เคร่งครัด รวมพลังกับเขาสร้างบอลพลังสำนึกเทพขนาดมหึมา  เมื่อบอลสำนึกเทพขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมา มันกระแทกกับพื้นอย่างน่ากลัว  พระยาราชสีห์และราชาจินกวนต่างตกใจ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าศัตรูซ่อนตัวอยู่หรือไม่  แต่ตัวพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน!
ขณะที่พวกเขาเหาะหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกพลังแรงระเบิด
ทันใดนั้นโลกเปลี่ยนไป
เหมือนกับม่านที่ค่อยรูดเปิดฉากภาพที่ถูกปิดบังบนเวทีแสดง  และเหมือนกับมีสายลมโชยพัดไล่ควันที่คลุมพื้นโลกให้กลับคืนสู่สภาพปกติอีกครา
ในช่วงเวลาสั้นๆ โลกเปลี่ยนลักษณะภายนอกไปอย่างสิ้นเชิง หุบเขาที่พังทลายดั้งเดิม สายลมพัดเย็นยะเยือก และแท่นบูชายัญ รูปสลักเทพธิดาหายไป
พระยาราชสีห์พบว่าตัวเขาและสหายลอยอยู่ในอากาศ
พื้นด้านล่างเป็นทุ่งหิมะกว้างใหญ่
ดูเหมือนจะมีก้อนน้ำแข็งแปลกประหลาดมากมายลอยอยู่ในท้องฟ้า และน้ำแข็งเหล่านั้นกำลังละลายด้วยความเร็วช้าอย่างน่าเหลือเชื่อ.... ราชาเฉินม่อยกแขนตนเองดูและพบว่าผิวของเขากำลังละลายต่อเนื่อง จนถึงบัดนี้ เขาพบว่าร่างกายของเขากำลังถูกพลังเทพอย่างหนึ่งกลืนกินอย่างน่ากลัว
ความเร็วในการกลืนกินนี้ช้า  แต่ไม่สามารถต้านทานได้
พลังงานในตัวของเขาเทียบกับมิติที่กลืนกินนี้ ช่างน้อยนิดเหมือนโคดินปั้นที่ถมทิ้งทะเล
 “เฉินม่อ! ข้านึกว่าใครเสียอีกที่เหิมเกริมบังอาจบุกหอทงเทียน  เป็นเจ้านั่นเอง!  เสียงไพเราะราวเสียงสวรรค์ดังออกมาจากวังน้ำแข็งบนทุ่งน้ำแข็ง เสียงนี้ไม่ดังมาก แต่กึกก้องไปทั่วโลกน้ำแข็ง แต่ดังก้องสะท้อนไปทั่วโลกหิมะน้ำแข็ง ขณะที่ราชาเฉินม่อ, พระยาราชสีห์และราชาจินกวนกลับได้ยินชัดราวถูกค้อนสายฟ้าหวดอยู่ในหัวใจ  มีความมั่นใจอย่างหนึ่งที่อธิบายไม่ถูก  เหมือนกับธนูปักอยู่ในหัวใจของราชาเฉินม่อ
 “......” หลังจากได้ยินเสียงนี้แล้ว ราชาเฉินม่อตกใจสั่นสะท้านหลั่งเหงื่อเยียบเย็นทางหน้าผาก
 “เจ้าคือจื้อจุนอย่างนั้นหรือ?” พระยาราชสีห์เคยได้รับข้อมูลข่าวกรองหอทงเทียนจากเสี่ยวโฉ่ว รู้ว่าหอทงเทียนนอกจากเย่ว์หยางที่เป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แล้วยังมีสตรีผู้แข็งแกร่งที่สุดเรียกว่า จื้อจุน!
 “รู้สึกว่าเสียงคุ้นๆ”  ราชาจินกวนพยายามอย่างหนักเพื่อนึกให้ได้ เขารู้สึกว่าเสียงนี้เขาคุ้นเคยว่า เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน
 “ข้าจะแนะนำให้เอง”  เย่ว์หยางไม่ทราบว่าโผล่ออกมาจากที่ใด  เขาปรบมือเรียกความสนใจให้ทุกคนมองดูเขา  ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มกวนประสาท จนคนที่เห็นนึกอยากจะทุบเขา  เย่ว์หยางออกมาตามด้วยเสี่ยวเหวินหลี เธอโบกมือเบาๆ  ก็โยนอสูรสุนัขนำทางลงบนพื้นหิมะ  อสูรสุนัขนำทางต้องการรีบกลับไปอยู่ข้างตัวราชาเฉินม่อเจ้านายของมันทันที
อย่างไรก็ตามครั้งนี้ไม่เหมือนเหตุการณ์ที่แท่นบูชายัญอีกต่อไป
เมื่ออสูรสุนัขนำทางกระโดดขึ้นจากพื้นหิมะน้ำแข็ง
มันกลายเป็นน้ำแข็งทันที
อย่างไรก็ตามพลังการเคลื่อนไหวยังไม่เปลี่ยนแปลง
แม้แต่มันก็ตายในทันทีร่างกายเป็นน้ำแข็ง แต่แรงเหวี่ยงยังคงอยู่มันปลิวกลับมาที่แทบเท้าราชาเฉินม่อเจ้านายของมันกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็ง  มองจากผิวน้ำแข็ง  พระยาราชสีห์สามารถเห็นว่ามันยังมีสีหน้าดีใจขณะวิ่งกลับไปหาเจ้านายของมัน  เขารู้สึกประหลาดใจตกใจ เพราะอสูรสุนัขนำทางจะมีความคล้ายคลึงกับอสูรพิทักษ์มาก  พวกมันตายยาก
แต่ตอนนี้พระยาราชสีห์มีความมั่นใจเต็มร้อย อสูรสุนัขนำทางตายแล้ว
ไม่มีทางช่วยเหลือได้แน่นอน!
มันตายภายใต้พลังกฎสวรรค์น้อย  ภายใต้พลังกฎสวรรค์นี้ อย่าว่าแต่อสูรสุนัขนำทางเลย ต่อให้เทวดาลงมาช่วย มันก็ยากจะรอดชีวิตได้
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดก็คืออสูรสุนัขนำทางที่ถูกแช่แข็งด้วยพลังกฎสวรรค์ เริ่มละลายไม่ถูกแช่คงอยู่ตลอดกาล
พลังกฎสวรรค์อีกสายหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่ากลืนกินพลังงานในร่างของมันโดยตรง
ในกรณีนี้ทำให้มันสูญเสียพลังค้ำจุนชีวิตของมัน
ซากน้ำแข็งหายไปอย่างรวดเร็วมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า   ตอนแรกกลายเป็นผงธุลีและหายไปไม่เหลืออะไร  เป็นการหายไปตลอดกาลอย่างแท้จริง
 “อะแฮ่ม... ดูเหมือนว่าข้าจะแนะนำช้าไปเล็กน้อย  แต่ไม่เป็นไร ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าก็เห็นได้เช่นกัน  ที่นี่คือมิติหลุมดำ  ใช้สำหรับผนึกเทพเจ้าโบราณ ทุ่งหิมะน้ำแข็งข้างล่างคือที่อยู่ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี เพราะโลกหิมะน้ำแข็งยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ปราสาทน้ำแข็งก็เลยสร้างอย่างง่ายๆ  อย่างไรก็ตามเมื่อมีการกล่าวหาว่าข้าเป็นศิษย์ของนาง  ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่ต้อนรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ...”  เย่ว์หยางขออภัยอย่างจริงใจ  “ที่บันไดสวรรค์ชั้นห้าข้าไม่ค่อยมีมารยาทนัก ข้าเพิ่งได้เป็นจักรพรรดิอวี้ได้ไม่นาน ยังไม่เข้าใจธรรมเนียมมารยาทเท่าใดนัก  หวังว่าจะอภัยให้ข้าสักครั้งนะ ฝ่าบาท”
ใครไม่รู้จะคิดว่าเย่ว์หยางพูดเหมือนล้อเล่นสนุกสนาน
ความจริงใจ นั่นเป็นเรื่องดี
อย่างน้อยก็ควรเป็นเช่นนี้
ราชาเฉินม่อหลั่งเหงื่อเต็มหน้า และตอนนี้เขาตระหนักถึงผลร้ายแรงของสถานการณ์
ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนกับสู้ตาย...  ถ้านางพญาผู้พิชิตปรากฏตัวออกมา เขาเกรงว่าเขาจะไม่สามารถรักษาความลับของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่าว่าแต่พระยาราชสีห์และราชาจินกวนเลย นางพญาผู้พิชิตเตรียมจะทำลายผนึกมิติหลุมดำ และปรากฏตัวขึ้นใหม่
เขาส่งสัญญาณมือทำลายตัวเองให้พระยาราชสีห์และราชาจินกวน
พระยาราชสีห์และราชาจินกวนตกใจอย่างหนัก
ทำลายตัวเอง
ยังไม่ทันเห็นนางพญาผู้พิชิตเลย ก็คิดจะระเบิดทำลายตัวเองหรือ?
แม้ว่านางพญาผู้พิชิตนั้นจะแข็งแกร่ง แต่นางสูญเสียพลังงานในพื้นที่ผนึกมิติไปแล้ว  และตอนนี้บางทีนางอ่อนแออย่างมาก  พวกเขาไม่เข้าใจว่าจะกลัวนางไปทำไมกัน ถึงกับต้องระเบิดทำลายตนเองอย่างไรสาระ?
 “ต้องการตาย?  ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!
รังสีทองฉายวาบเร็วกว่าเสียง  ขณะที่คำพูดนั้นดังกึกก้องสะเทือนแก้วหูของพวกเขา นัยน์พวกเขาเบิกค้างตกตะลึง พวกเขาเห็นภาพที่น่ากลัว ขณะที่ราชาเฉินม่อเตรียมจะระเบิดร่าง ศีรษะของเขาถูกสตรีในชุดรบเกราะแก้วผลึกกดลงไปในพื้นน้ำแข็ง และเปลี่ยนสภาพกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็ง  สตรีนางนั้นเอาชนะราชาเฉินม่อในท่าเดียว นางค่อยๆ หันหน้าเผยให้เห็นวงหน้าที่งดงามจนโลกตะลึง... ต่อให้พระยาราชสีห์และราชาจินกวนไม่รู้จักพ่อแม่ตนเอง แต่พวกเขาจะต้องจำใบหน้านี้ได้ เพราะนี่คือใบหน้าของยอดฝีมือผู้สั่นสะเทือนแดนสวรรค์และเอาชนะตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้  เมื่อพวกเขาเห็นหน้านาง หัวใจของพวกเขาสะท้านราวกับถูกสายฟ้าฟาด พวกเขาตกใจร้องอุทานพร้อมกัน “นางพญาผู้พิชิต!
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกวาดตามองผ่านพวกเขา ราวกับว่ากำลังมองมดแมลงน้อยสองตัว
รังสีฆ่าฟันแผ่ออกจากร่างของนาง
เสียงเยือกเย็นของนางดังขึ้น  “เจ้าต้องการให้ข้าลงมือก่อน หรือเจ้าจะลงมือเอง?”
พระยาราชสีห์ขุนพลผู้แกล้วกล้าที่สุดในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  แต่ในขณะนั้นเขากลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แทบจะไม่มีแรงคุกเข่า เขาพยายามกลืนน้ำลายเพื่อขอความเมตตา แต่เขากลับพบว่าไม่มีเสียงออกมา
 “คุกเข่า! พอข้าไม่ออกไปข้างนอกหมื่นปี พวกแมลงเล็กน้อยอย่างพวกเจ้านึกว่าหอทงเทียนไม่มีผู้คนอย่างนั้นหรือ?”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกริ้วมาก  ผลร้ายที่ตามมานับว่าร้ายแรงจริงๆ

13 ความคิดเห็น:

Yod กล่าวว่า...

แบ็ค ระดับซุปเปอร์ มาแล้ว ใครจะกล้าละทีนี้ 😆

เดือนดับ กล่าวว่า...

ยังพาออกไปไม่ได้ เลยลากศัตรูเข้ามาให้แทน

Boybravo กล่าวว่า...

ลากมาให้ตบ ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

ดีนะที่พระยาราชสีห์ มันไม่ฉี่ราด

Danupong กล่าวว่า...

ให้เมียหลวงจัดการแทน

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

zen zen กล่าวว่า...

เมียและอาจารคนแรกของเย่หยางคือนางพญากระบี่ฟ้านะครับถ้าใครอ่านตั้งแต่ตอนที่1จะรู้

zen zen กล่าวว่า...

ตัวบัคของเรื้องจริงๆโผล่มาแล้ว

ILove@ART กล่าวว่า...

ไหนพวกเมิงก็ถามหากันนัก อะกุลากพวกเมิงมาเจอะละ เชิญ

Unknown กล่าวว่า...

ได้กันตอนไหนอ่ะคับ กับนางพญากระบี่ฟ้า ขอตอนหน่อยคับ

Lucky กล่าวว่า...

อาจารย์คนแรกคือนางกระบี่ฟ้า ได้กันในจินตนาการของเฮียเย่ว์หยาง 555 เพราะมันยกให้นางกระบี่ฟ้าเป็นเมียเอกอันดับ1

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chay กล่าวว่า...

ถ้าในฝันก็ถูกต้องละคร้าบบบบ

แสดงความคิดเห็น