ตอนที่ 547 ข้าจะไม่ชดใช้ต่อให้กลัวเจ้าแทบตายก็ตาม
เฮยหูตายด้วยอาการอย่างนั้นจริงหรือ?
หวงฉวน,
เฝินเทียนและหวิ่นซิงตะลึง
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นการต่อสู้ทั้งหมดตลอดกระบวนการ แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าตนเองกำลังฝันไป
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังไม่ทันได้เป็นนักสู้ปราณฟ้า
ก็สามารถฆ่าเฮยหูนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าได้... ใครจะยินยอมเชื่อเรื่องเช่นนี้กัน! แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน! แม้ว่าเฮยหูจะตายหลังจากถูกจื้อจุน,
จักรพรรดินีราตรี,
หมาป่าปีศาจทำลายโลกและเทพธิดาศึกของแดนสวรรค์ตะวันตกทำร้ายก็ตาม
และแม้แต่จะถูกอาวุธระดับเทพของเย่ว์หยางทำร้าย
หวงฉวนและพวกพ้องก็ยังไม่อยากเชื่อเรื่องนี้
สำหรับพวกเขา ชางเหยียน, เฮยหูและคนระดับนั้นนับว่าสูงส่งเกินเอื้อมจริงๆ
คนแบบไหนกันที่สามารถเป็นผู้อาวุโสตำหนักไฟและตำหนักน้ำในตำหนักกลางได้?
“พวกเจ้าจะจ้องมองหาอะไรกัน? คะแนนของพวกเจ้ายังไม่พอ พวกเจ้าจะเอาแต่ยืนอยู่อย่างนั้นหรือ? รีบฆ่าพวกมันซะ! เจ้าบัดซบชางเหยียนนั่นจะกลับมาโดยเร็วพร้อมกับกำลังเสริมเป็นจำนวนมากได้นะ...” เมื่อเย่ว์หยางมองดูหวงฉวนและคนอื่นที่เอาแต่จ้องมองด้วยสีหน้าโง่งม เขาอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้ คนพวกนี้ไม่รู้สึกถึงสถานการณ์วิกฤติหรือไง
“อา.. ได้”
หวงฉวนและคนอื่นๆ สะดุ้งทันที เหมือนกับว่าพวกเขาเพิ่งตื่นจากฝัน
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น
แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพก็เริ่มโจมตีสังหารปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาก็ต้องเก็บคะแนน
เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่ต้องถูกกฎรหัสโบราณสังหาร
กฎรหัสโบราณของสังเวียนมรณะไม่สนใจถึงสภาพเหตุการณ์
ตราบใดที่คะแนนพวกเขาไม่เพียงพออย่างนั้นพวกเขาจะต้องตายแน่นอน
จักรพรรดิใต้พิภพยอมละความตั้งใจจะฆ่าพะยูนนรกให้ได้ มันเป็นอสูรที่เขาไม่สามารถจะฆ่าได้ภายในวันหรือสองวัน แต่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตในแดนสวรรค์ได้อย่างนี้ก็ทำให้เขาภูมิใจได้แล้ว
แดนสวรรค์มีแต่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย อย่างไรก็ตาม
เมื่อสามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งทั้งที่ตนเองอ่อนแอกว่า
พิสูจน์ให้เห็นว่าระดับปราณฟ้ามิใช่ว่าจะเข้าถึงไม่ได้
เป็นเพียงเพราะเขายังไม่พบโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำเช่นนั้นได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากศึกใหญ่ครั้งนี้แล้ว
เขาจะไม่ลังเลสับสนเมื่อเขาพยายามไต่ระดับฝีมือให้ถึงระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดให้ได้อีกครั้ง ครั้งนี้ เขาเข้าใจแล้วว่ามันอยู่ใกล้ๆ
ในอนาคต เขาจะกลับมาที่นี่ให้ได้!
พะยูนนรกหนีกระจายไปทั่วทุกทิศ
เนื่องจากเจ้านายของมันเฮยหูตายแล้ว พวกมันสูญเสียผู้สนับสนุนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด เนื่องจากพลังมหาศาลของพวกมันได้จากพวกมันไป
พวกมันจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
ความสามารถในฐานะที่เป็นองครักษ์ของพวกมันถูกทิ้งไปตามปกติ ในฐานะอสูรปราณฟ้าระดับสอง ไม่มีใครขวางพวกมัน
ขณะที่ปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก
หรืออสูรปราณดินระดับหก กลับพบกับโชคร้ายครั้งใหญ่ พวกมันแตกต่างจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดในดินแดนที่ต่ำกว่า พวกมันไม่มีคัมภีร์อัญเชิญและไม่มีสติปัญญา เมื่อเจ้านายของพวกมันตาย
กลุ่มของพวกมันทั้งหมดก็เริ่มวุ่นวาย และทุกตัวก็เริ่มแตกตื่น....
ด้วยพลังของหวงฉวน เฝินเทียน หวิ่นซิงและคนอื่นๆ ที่เริ่มต้นสังหารพวกมัน
ทำให้กลุ่มพวกมันทั้งหมดอยู่ในสภาพน่าเอน็จอนาถ
“เหวี่ยงแหเลย!”
มนุษย์สมิงสามตาคำรามเหมือนสัตว์ป่า
กรงเล็บของเขาฉีกคู่ต่อสู้ทุกครั้งที่เขาลงมือโจมตี
“ยิงปืนใหญ่”
มนุษย์ไซบอร์กร่างกายเสียหายไปครึ่งหนึ่งจนต้องอยู่กับพื้น อย่างไรก็ตาม
การสังหารปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกและพะยูนนรกที่อ่อนแอก็ยังเป็นงานง่าย
ด้วยพลังปืนใหญ่พลังงานที่ยิงออกไปหนึ่งครั้ง
ศัตรูมากกว่าสิบพ่ายแพ้น่าอนาถทันที
คนที่ฆ่าได้ช้าที่สุดก็คือเวิ่งจิน
หลังจากเขาฆ่าได้ถึงร้อยคะแนนแล้ว
ทุกคนมาฉลองแสดงความยินดีกับเย่ว์หยางและเตรียมจะอำลาจากไป
ชางเหยียนอาจกลับมาได้ทุกเมื่อ
ยิ่งกว่านั้นเขาจะต้องนำยอดฝีมือระดับสูงมาจากตำหนักกลางเป็นแน่ สถานการณ์วิกฤติขนาดนั้น
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องเกรงใจต่อไป หลังจากรอจนเวิ่งจินมาถึง หวงฉวนพยักหน้าทักทายเย่ว์หยาง “เรากำลังจะจากไปแล้ว คุณชายสาม
เมื่อเจ้ามาถึงแดนสวรรค์ในอนาคตข้างหน้าอีก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ข้าหวงฉวน
ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะมาพบเจ้าให้ได้”
“เผ่ามนุษย์เพลิงยินดีต้อนรับอาคันตุกะสำคัญจากทวีปมังกรทะยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชายสาม
เราจะถือว่าเจ้าคือญาติมิตรของเราแน่นอน”
เฝินเทียนรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก
“ได้ต่อสู้แลกเปลี่ยนกันทำให้มิตรภาพของพวกเราแนบแน่นขึ้น ในอนาคตเราคือพี่น้องกัน” หวิ่นซิงพยักหน้าให้เขา
“อะแฮ่ม.. เวิ่งจินผู้นี้ได้พ่ายแพ้เจ้ามาก่อนหน้านั้น
เจ้าเอาชนะข้าได้แล้ว ดังนั้นข้าหวังว่าเราจะสามารถระงับข้อขุ่นข้องหมองใจกันในอดีตได้ เผ่ากระดูกของเราจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นสหายเช่นกัน” เวิ่งจินรีบแสดงความปรารถนาดีต่อเย่ว์หยาง ความจริง
ถ้าเย่ว์หยางไม่มีฝีมือน่าประทับใจมากขนาดนี้ พวกเขาคงตายกันหมดอยู่ในสังเวียนมรณะแน่นอน
คงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่เพียงแต่พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้พ้นวิกฤติร้ายแรง
แต่เขายังเอาชนะเฮยหูผู้ทรงพลังและสามารถสร้างโอกาสให้ทุกคนมีชีวิตต่อไปได้ ในช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าเย่ว์หยางไม่อยู่ที่นั่นด้วย
แดนสวรรค์ระดับล่างทั้งสามดินแดนคงจบสิ้นด้วยเช่นกัน
“ข้าซานเหยี่ยน (สามตา) ไม่มีอะไรจะพูดมาก
ครั้งต่อไปหากมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก
อย่าลืมเรียกข้าด้วย
มันตื่นเต้นดีเหลือเกิน”
มนุษย์สมิงสามตาหัวเราะลั่น
“.....” คนสุดท้าย มนุษย์แสงไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ตาม เขาคำนับเย่ว์หยางอย่างไม่ถือตัว
หวงฉวนและคนอื่นๆ
ต่างคนต่างใช้ม้วนเทเลพอร์ตจากไป เป็นการประกาศว่าการต่อสู้ยุติแล้ว
กฎรหัสโบราณอนุญาตให้พวกเขาไปและไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด
หวงฉวนและพวกจากไปโดยปลอดภัย
คนอื่นๆ รีบเข้ามาเช่นกัน
จักรพรรดิใต้พิภพ ผู้เฒ่าหนานกง ราชันย์ปีศาจใต้ นางเซียนหงส์ฟ้า
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆ
ไม่เพียงแต่ได้คะแนนกันเพียงพอเท่านั้น
พวกเขายังคงจับปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้อีกมาก
ความจริง
ปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกต่างยอมแพ้กันหมดแล้ว พวกมันเห็นว่าสถานการณ์เลวร้าย
พวกที่ฉลาดก็หมอบลงกับพื้น
เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมดีกว่า
พวกมันทั้งหมดเป็นตระกูลข้ารับใช้ทั้งนั้น
แม้ว่าพวกมันจะติดตามเฮยหูมาเป็นเวลานาน แต่ความภักดีของพวกมันไม่มากขนาดนั้น
ความสัมพันธ์ของพวกมันกับเฮยหูไม่ดีนัก
“ดาวตก”
เสียงของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น
เกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์กับสนามพลังดารานภากาศ
ขณะที่ดวงดาวนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา
ศัตรูพวกนั้นที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปไกลกว่าสิบกิโลเมตรตกตะลึงในทันใด ขณะที่พวกเขาเห็นภาพนี้ ในท้องฟ้ามีดาวตกนับไม่ถ้วนตกลงมาราวกับห่าฝน เทียบกับแสงทำลายล้างของจื้อจุนแล้ว
พลังของฝนดาวตกนี้มีเป็นเวลาสั้นๆ ตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ระยะโจมตีกลับทำได้ไกลยิ่งกว่าเมื่อเทียบกัน... ยิ่งกว่านั้น
ไม่ว่าเป้าหมายอยู่ไกลเพียงไหน พลังฝนดาวตกก็ไม่ลดพลังลงเลย
ฝนดาวตกเป็นไปตามความต้องการของจักรพรรดินีราตรี
ไม่ว่าศัตรูจะหลบหนีดาวตกยังไงก็ตาม
แต่พวกมันถูกจับเป็นเป้าหมายแล้วจะไม่มีใครหลบเอาชีวิตรอดไปได้
แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังอึ้งเมื่อเขาเห็นความเคลื่อนไหวของจักรพรรดินีราตรี
พลังควบคุมของจักรพรรดินีราตรีแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า?
ระยะมากกว่าสิบกิโลเมตร
และไม่ใช่แค่สองสามกิโลเมตร!
“อู๋เสีย เชี่ยนเชี่ยน! เข้ามายืนอยู่ใกล้สนามพลังดารานภากาศ
ผู้อาวุโสหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพก็ควรเข้ามาใกล้ๆ ด้วย! เย่ว์หยาง,
ไปฆ่าพะยูนปีศาจเหล่านั้นซะ”
จื้อจุนหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และยกมือขาวผ่องของนางอย่างสง่างาม “พวกเจ้าเอาแต่ซุกหัวโผล่แต่หางออกมา
ต้องการให้ข้าลากเจ้าออกมาหรือไม่?”
“แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมทวีปมังกรทะยานถึงให้กำเนิดนักสู้ผู้แข็งแกร่งได้..
อย่างไรก็ตาม เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ
เรื่องนี้ช่างคาดไม่ถึงเสียจริง”
ยักษ์ตนหนึ่งที่ตลอดร่างของเขามีเพลิงลุกฮือเต็มไปหมด
และหน้าของเขามองเห็นไม่ชัดปรากฏออกมาจากพื้นที่ว่างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
เพียงเมื่อเขาปรากฏตัว
จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางจึงค่อยตรวจพบยักษ์เพลิงกำลังใกล้เข้ามา จากตรงนี้
อาจเห็นได้ว่าพลังของยักษ์เพลิงเหนือกว่าระดับของเย่ว์หยางมากมาย
“แล้วอีกคนหนึ่งเล่า? เขาไม่ได้เตรียมจะออกมาหรือ?” จากนั้นจื้อจุนหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
“ไม่เลว
ชางเหยียนบอกข้าว่ามีนักสู้จากทวีปมังกรทะยานที่น่าสนใจมาถึง
ข้าเองยังไม่กล้าเชื่อเขา แต่ก็เป็นความจริง ฮ่าฮ่า
ดูเหมือนว่าข้าสามารถได้เล่นบ้างแน่
ทั้งหมดอย่าเพิ่งรีบตายก็แล้วกัน
ข้ามีชีวิตมาหลายพันปีแล้วยังไม่เคยพบใครที่เป็นคู่มือข้าได้เลย!”
ในทิศตะวันตกเฉียงใต้
บุรุษร่างสีน้ำเงินคล้ายมนุษย์มากกำลังปลดปล่อยอุณหภูมิสูง ปรากฏตัว
ทันทีที่เขาปรากฏตัว
เย่ว์หยางและคนอื่นๆ รู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งร่างกำลังถูกเผา
แม้ว่าเขาจะอยู่ในกลางอากาศ สภาพแวดล้อมก็ยังหลอมละลาย
ตรงกันข้ามนี่ไม่มีผลกระทบใดๆ
ต่อยักษ์เพลิงด้านข้าง
ราวกับจะอธิบายต่อเย่ว์หยางและคนอื่นๆ
เสียงนุ่มนวลของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น “แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรจากตำหนักกลาง แต่ระดับของพวกเขาเป็นชั้นนักสู้ปราณฟ้าระดับหกแล้ว พวกเขาน่าจะเป็นพวกมีระดับในแดนสวรรค์ นอกจากนี้ ชางเหยียนก็ยังอยู่ที่นี่
การต่อสู้ครั้งนี้คงลำบาก!”
มนุษย์เพลิงโบกมือและพูดยืนยัน “ไม่เลย
นี่จะไม่ยากลำบากอะไร พวกเจ้าคลายกังวลใจได้เลย”
ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพไม่พูดอะไร
ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง
ราชันย์ปีศาจใต้ต้องการจะคุยกับเย่ว์หยาง
แต่นางเซียนหงส์ฟ้ารีบฉุดรั้งนางไว้
ด้วยความไม่เต็มใจนัก
ราชันย์ปีศาจใต้กลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยางโดยการนำของเสี่ยวเหวินหลี เดิมทีนางต้องการจะบอกเขาให้ระวัง แต่นางเกรงว่าจะรบกวนสมาธิเขา
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเย่ว์หยางและรีบกลับเข้าไปยังโลกคัมภีร์ พวกนางรู้ว่าศัตรูที่แท้จริงมาถึง
พวกนางยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้
นอกจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี
เย่ว์หยางจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด แค่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว
เขาอาจถูกศัตรูฆ่าตายได้ทันที
เสวี่ยอู๋เสียต้องการเรียกสาวกิเลนออกมาปกป้องเย่ว์หยาง แต่โชคร้ายที่ สาวกิเลนเป็นอสูรอมตะ
นางมีกฎอยู่ว่าจะต้องไม่เข้าไปแทรกแซงเว้นแต่เขาตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง นางพญากระหายเลือดหง นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่ว
โคเงาอาหมัน สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและอสูรสาวอื่นๆ ที่กำลังเก็บกวาดสนามรบ
ต่างถอนกำลังกลับเข้าไปทีละคนๆ
นอกจากเสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ข้างๆ
เย่ว์หยางแล้ว ฮุยไท่หลางยังคงรั้งอยู่
เด็กสาวยักษ์ที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม
ต้องการจะรั้งอยู่ เย่ว์หยางจ้องมองนางแล้วดุนาง “อย่าก่อเรื่องยุ่งยาก ถ้าเจ้าไม่กลับเข้าไป พี่ชายคนนี้จะหวดก้นของเจ้าให้บวมเลย
คอยดูสิ”
“พี่ใจร้าย!”
เด็กสาวยักษ์สะดุ้งและรีบเอามือปิดก้นของนาง พร้อมกับเสียงดังสะเทือนนางรีบยื่นหน้าล้อเลียนเย่ว์หยางก่อนจะหายกลับเข้าไป
“.......” สำหรับการกระทำของนาง ทำให้ทุกคน
แม้แต่จื้อจุนก็พูดไม่ออก
นางเข้าใจเสน่ห์ของเจ้าเด็กนี่แล้ว
สำหรับเจ้านายระดับสูง
นี่ยังพอรับกันได้ และดูไม่เป็นการพูดเกินจริง
อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กสาวยักษ์ผู้บริสุทธิ์
ความคงอยู่ของเขานั้นยอดเยี่ยม
ไม่เคยมีเด็กสาวสักคนที่ไม่ชอบเขามาก่อน นี่อาจเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของเขา!
นอกจากเขาแล้ว จะมีใครอื่นที่สามารถควบคุมเด็กสาวยักษ์เผ่าไตตันได้กัน?
ชางเหยียนปรากฏตัว
ตอนนี้เขากลับคืนสู่ลักษณะที่สงบแล้วเหมือนกับว่าได้รับการรักษาเป็นอย่างดี
ผมหยักศกสีทองยาวประบ่าอย่างสง่างาม
หน้าตาที่หยิ่งยโสโผล่มาให้เห็นอีกครั้ง
สภาพไม่น่าอนาถเหมือนเมื่อตอนถูกรังสีทำลายล้างแผดเผา
ชางเหยียนผู้หนีจากไปแล้วกลับมาขมวดคิ้วและจ้องดูสนามต่อสู้
เขาถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “เฮยหูอยู่ไหน?”
ชางเหยียนรู้สึกว่าเฮยหูสามารถใช้สนามพลังของเขาและใช้วงเวทเทเลพอร์ตที่ก้นทะเลสาบหลบหนีไปได้
แต่ก่อนนั้นเขาคงต้องถูกเล่นงานย่ำแย่สภาพน่าอนาถ
เมื่อเห็นว่าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด เขาคาดว่าเฮยหูจะต้องเจ็บตัวอย่างหนัก ยิ่งกว่านั้น คู่ต่อสู้ยังคงมีพลังเหลืออยู่ หากไม่มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยเหลือ
ชางเหยียนคงไม่หวนกลับมาแน่ ทั้งนี้เพราะ
ไม่ว่าจะเป็นจื้อจุนผู้มีพลังโจมตีที่น่ากลัว หรือจักรพรรดินีราตรีผู้ลึกลับ เขาไม่สามารถตอแยได้เลย... ตามธรรมดา
ชางเหยียนไม่ได้ลืมเย่ว์หยางที่มีพลังทำให้คนตะลึงได้ เขาไม่อาจลืมเพลิงอมฤตที่ไม่มีเพลิงใดในโลกเทียบได้
“เสียเวลาพูดเปล่าๆ” เย่ว์หยางไม่เห็นชางเหยียนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เขาชูกริชสังหารเทพขณะที่ฆ่าพะยูนนรกที่ไม่ตายทันทีเพราะฝนดาวตก
“เจ้าเด็กนั่นคือจักรพรรดิอวี้คนใหม่หรือ?” บุรุษร่างสีน้ำเงินเข้มถาม
“ผู้อาวุโสเหยียนจง, เหยียนจุน คนที่น่ากลัวที่สุดคือสตรีคนนั้น นอกจากทักษะต่อสู้ระยะประชิดที่อ่อนแล้ว
ฝีมืออื่นๆ ของนางแข็งแกร่งมาก
นอกจากนี้นางยังมีพลังที่ไม่ธรรมดาอยู่มาก
นางสามารถทำลายมิติให้แตกและควบกลั่นวัตถุได้” ชางเหยียนมองดูเย่ว์หยาง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังคงฆ่าพะยูนนรกต่อไป
ทั้งที่อยู่ในเงื้อมมือแล้ว
“เทียนหลุน,
เชียนเย่และอู๋เซ่อสบายดีหรือเปล่า?” จู่ๆ
ยักษ์เพลิงก็เอ่ยปากถามถึงชื่อที่ไม่รู้จักสามคน
“.....” จื้อจุนไม่ตอบ
“เป็นไปได้ไหมว่านักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดจากทวีปมังกรทะยาน,
บันไดสวรรค์และแดนนรกตายกันหมดแล้ว?”
เสียงของบุรุษร่างน้ำเงินเข้มมีแววประหลาดใจ
“เทียนหลุน, เชียนเย่และอู๋เซ่อจะแค่ไหนกันเชียว อาจารย์อีกคนของข้าก็คือนางพญาเฟ่ยเหวินหลี”
เย่ว์หยางตะโกนขณะที่เขาบินกลับมา
เมื่อพูดเช่นนี้ ชางเหยียน,
ยักษ์เพลิงและบุรุษร่างน้ำเงินเข้มอดสะดุ้งไม่ได้
ชางเหยียนแทบอยากจะเผ่นหนีทันที แต่เมื่อเห็นว่ายักษ์เพลิงและบุรุษร่างน้ำเงินเข้มไม่ขยับ
เขาได้แต่ข่มความกลัวและอยู่ต่อไป
เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชาและหัวเราะอย่างลี้ลับ เขาต้องการขู่พวกเขาให้ขวัญฝ่อตาย

10 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
สนุกมากครับ
โอ้...แบบนี้ท่าทางเย่ว์หยางคงมีไพ่ตายอะไรบางอย่างสิเนี่ย ถึงได้อยู่รอต่อสู้กับพวกนี้
สุโค่ยยยยย
แลดูมีวิธีเอาชนะ ถึงไม่เกรงกลัวอะไร
ขอบคุณครับ
Thx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น