วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 547 ข้าจะไม่ชดใช้ต่อให้กลัวเจ้าแทบตายก็ตาม



ตอนที่  547  ข้าจะไม่ชดใช้ต่อให้กลัวเจ้าแทบตายก็ตาม

เฮยหูตายด้วยอาการอย่างนั้นจริงหรือ?
หวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงตะลึง  แม้ว่าพวกเขาจะเห็นการต่อสู้ทั้งหมดตลอดกระบวนการ แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าตนเองกำลังฝันไป

คุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังไม่ทันได้เป็นนักสู้ปราณฟ้า ก็สามารถฆ่าเฮยหูนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าได้... ใครจะยินยอมเชื่อเรื่องเช่นนี้กัน!  แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน!  แม้ว่าเฮยหูจะตายหลังจากถูกจื้อจุน, จักรพรรดินีราตรี, หมาป่าปีศาจทำลายโลกและเทพธิดาศึกของแดนสวรรค์ตะวันตกทำร้ายก็ตาม และแม้แต่จะถูกอาวุธระดับเทพของเย่ว์หยางทำร้าย หวงฉวนและพวกพ้องก็ยังไม่อยากเชื่อเรื่องนี้
สำหรับพวกเขา ชางเหยียน, เฮยหูและคนระดับนั้นนับว่าสูงส่งเกินเอื้อมจริงๆ
คนแบบไหนกันที่สามารถเป็นผู้อาวุโสตำหนักไฟและตำหนักน้ำในตำหนักกลางได้?
 “พวกเจ้าจะจ้องมองหาอะไรกัน?  คะแนนของพวกเจ้ายังไม่พอ  พวกเจ้าจะเอาแต่ยืนอยู่อย่างนั้นหรือ?  รีบฆ่าพวกมันซะ! เจ้าบัดซบชางเหยียนนั่นจะกลับมาโดยเร็วพร้อมกับกำลังเสริมเป็นจำนวนมากได้นะ...”  เมื่อเย่ว์หยางมองดูหวงฉวนและคนอื่นที่เอาแต่จ้องมองด้วยสีหน้าโง่งม  เขาอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้  คนพวกนี้ไม่รู้สึกถึงสถานการณ์วิกฤติหรือไง
 “อา.. ได้”  หวงฉวนและคนอื่นๆ สะดุ้งทันที เหมือนกับว่าพวกเขาเพิ่งตื่นจากฝัน
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น  แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพก็เริ่มโจมตีสังหารปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก  ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาก็ต้องเก็บคะแนน เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่ต้องถูกกฎรหัสโบราณสังหาร
กฎรหัสโบราณของสังเวียนมรณะไม่สนใจถึงสภาพเหตุการณ์
ตราบใดที่คะแนนพวกเขาไม่เพียงพออย่างนั้นพวกเขาจะต้องตายแน่นอน
จักรพรรดิใต้พิภพยอมละความตั้งใจจะฆ่าพะยูนนรกให้ได้  มันเป็นอสูรที่เขาไม่สามารถจะฆ่าได้ภายในวันหรือสองวัน  แต่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตในแดนสวรรค์ได้อย่างนี้ก็ทำให้เขาภูมิใจได้แล้ว  แดนสวรรค์มีแต่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย  อย่างไรก็ตาม เมื่อสามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งทั้งที่ตนเองอ่อนแอกว่า พิสูจน์ให้เห็นว่าระดับปราณฟ้ามิใช่ว่าจะเข้าถึงไม่ได้ เป็นเพียงเพราะเขายังไม่พบโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำเช่นนั้นได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากศึกใหญ่ครั้งนี้แล้ว  เขาจะไม่ลังเลสับสนเมื่อเขาพยายามไต่ระดับฝีมือให้ถึงระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดให้ได้อีกครั้ง  ครั้งนี้ เขาเข้าใจแล้วว่ามันอยู่ใกล้ๆ
ในอนาคต เขาจะกลับมาที่นี่ให้ได้!
พะยูนนรกหนีกระจายไปทั่วทุกทิศ
เนื่องจากเจ้านายของมันเฮยหูตายแล้ว  พวกมันสูญเสียผู้สนับสนุนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด  เนื่องจากพลังมหาศาลของพวกมันได้จากพวกมันไป พวกมันจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง  ความสามารถในฐานะที่เป็นองครักษ์ของพวกมันถูกทิ้งไปตามปกติ  ในฐานะอสูรปราณฟ้าระดับสอง ไม่มีใครขวางพวกมัน ขณะที่ปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก หรืออสูรปราณดินระดับหก กลับพบกับโชคร้ายครั้งใหญ่  พวกมันแตกต่างจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดในดินแดนที่ต่ำกว่า  พวกมันไม่มีคัมภีร์อัญเชิญและไม่มีสติปัญญา เมื่อเจ้านายของพวกมันตาย กลุ่มของพวกมันทั้งหมดก็เริ่มวุ่นวาย และทุกตัวก็เริ่มแตกตื่น.... ด้วยพลังของหวงฉวน เฝินเทียน หวิ่นซิงและคนอื่นๆ ที่เริ่มต้นสังหารพวกมัน ทำให้กลุ่มพวกมันทั้งหมดอยู่ในสภาพน่าเอน็จอนาถ
 “เหวี่ยงแหเลย!  มนุษย์สมิงสามตาคำรามเหมือนสัตว์ป่า  กรงเล็บของเขาฉีกคู่ต่อสู้ทุกครั้งที่เขาลงมือโจมตี
 “ยิงปืนใหญ่”  มนุษย์ไซบอร์กร่างกายเสียหายไปครึ่งหนึ่งจนต้องอยู่กับพื้น  อย่างไรก็ตาม การสังหารปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกและพะยูนนรกที่อ่อนแอก็ยังเป็นงานง่าย
ด้วยพลังปืนใหญ่พลังงานที่ยิงออกไปหนึ่งครั้ง ศัตรูมากกว่าสิบพ่ายแพ้น่าอนาถทันที
คนที่ฆ่าได้ช้าที่สุดก็คือเวิ่งจิน
หลังจากเขาฆ่าได้ถึงร้อยคะแนนแล้ว ทุกคนมาฉลองแสดงความยินดีกับเย่ว์หยางและเตรียมจะอำลาจากไป
ชางเหยียนอาจกลับมาได้ทุกเมื่อ  ยิ่งกว่านั้นเขาจะต้องนำยอดฝีมือระดับสูงมาจากตำหนักกลางเป็นแน่  สถานการณ์วิกฤติขนาดนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องเกรงใจต่อไป หลังจากรอจนเวิ่งจินมาถึง หวงฉวนพยักหน้าทักทายเย่ว์หยาง  “เรากำลังจะจากไปแล้ว  คุณชายสาม เมื่อเจ้ามาถึงแดนสวรรค์ในอนาคตข้างหน้าอีก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ข้าหวงฉวน ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะมาพบเจ้าให้ได้”
 “เผ่ามนุษย์เพลิงยินดีต้อนรับอาคันตุกะสำคัญจากทวีปมังกรทะยาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชายสาม เราจะถือว่าเจ้าคือญาติมิตรของเราแน่นอน”  เฝินเทียนรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก
 “ได้ต่อสู้แลกเปลี่ยนกันทำให้มิตรภาพของพวกเราแนบแน่นขึ้น  ในอนาคตเราคือพี่น้องกัน”  หวิ่นซิงพยักหน้าให้เขา
 “อะแฮ่ม.. เวิ่งจินผู้นี้ได้พ่ายแพ้เจ้ามาก่อนหน้านั้น เจ้าเอาชนะข้าได้แล้ว ดังนั้นข้าหวังว่าเราจะสามารถระงับข้อขุ่นข้องหมองใจกันในอดีตได้  เผ่ากระดูกของเราจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นสหายเช่นกัน”  เวิ่งจินรีบแสดงความปรารถนาดีต่อเย่ว์หยาง  ความจริง ถ้าเย่ว์หยางไม่มีฝีมือน่าประทับใจมากขนาดนี้ พวกเขาคงตายกันหมดอยู่ในสังเวียนมรณะแน่นอน คงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่เพียงแต่พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้พ้นวิกฤติร้ายแรง  แต่เขายังเอาชนะเฮยหูผู้ทรงพลังและสามารถสร้างโอกาสให้ทุกคนมีชีวิตต่อไปได้  ในช่วงเวลาสั้นๆ  ถ้าเย่ว์หยางไม่อยู่ที่นั่นด้วย  แดนสวรรค์ระดับล่างทั้งสามดินแดนคงจบสิ้นด้วยเช่นกัน
 “ข้าซานเหยี่ยน (สามตา) ไม่มีอะไรจะพูดมาก ครั้งต่อไปหากมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก  อย่าลืมเรียกข้าด้วย  มันตื่นเต้นดีเหลือเกิน”  มนุษย์สมิงสามตาหัวเราะลั่น
 “.....” คนสุดท้าย มนุษย์แสงไม่ได้พูดอะไร  อย่างไรก็ตาม เขาคำนับเย่ว์หยางอย่างไม่ถือตัว
หวงฉวนและคนอื่นๆ ต่างคนต่างใช้ม้วนเทเลพอร์ตจากไป เป็นการประกาศว่าการต่อสู้ยุติแล้ว
กฎรหัสโบราณอนุญาตให้พวกเขาไปและไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด
หวงฉวนและพวกจากไปโดยปลอดภัย
คนอื่นๆ รีบเข้ามาเช่นกัน จักรพรรดิใต้พิภพ ผู้เฒ่าหนานกง ราชันย์ปีศาจใต้ นางเซียนหงส์ฟ้า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆ ไม่เพียงแต่ได้คะแนนกันเพียงพอเท่านั้น  พวกเขายังคงจับปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้อีกมาก
ความจริง ปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกต่างยอมแพ้กันหมดแล้ว พวกมันเห็นว่าสถานการณ์เลวร้าย พวกที่ฉลาดก็หมอบลงกับพื้น
เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ  ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมดีกว่า
พวกมันทั้งหมดเป็นตระกูลข้ารับใช้ทั้งนั้น
แม้ว่าพวกมันจะติดตามเฮยหูมาเป็นเวลานาน  แต่ความภักดีของพวกมันไม่มากขนาดนั้น ความสัมพันธ์ของพวกมันกับเฮยหูไม่ดีนัก
 “ดาวตก”  เสียงของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น
เกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์กับสนามพลังดารานภากาศ ขณะที่ดวงดาวนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา
ศัตรูพวกนั้นที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปไกลกว่าสิบกิโลเมตรตกตะลึงในทันใด  ขณะที่พวกเขาเห็นภาพนี้  ในท้องฟ้ามีดาวตกนับไม่ถ้วนตกลงมาราวกับห่าฝน  เทียบกับแสงทำลายล้างของจื้อจุนแล้ว พลังของฝนดาวตกนี้มีเป็นเวลาสั้นๆ ตามธรรมชาติ  อย่างไรก็ตาม ระยะโจมตีกลับทำได้ไกลยิ่งกว่าเมื่อเทียบกัน... ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าเป้าหมายอยู่ไกลเพียงไหน พลังฝนดาวตกก็ไม่ลดพลังลงเลย
ฝนดาวตกเป็นไปตามความต้องการของจักรพรรดินีราตรี ไม่ว่าศัตรูจะหลบหนีดาวตกยังไงก็ตาม  แต่พวกมันถูกจับเป็นเป้าหมายแล้วจะไม่มีใครหลบเอาชีวิตรอดไปได้
แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังอึ้งเมื่อเขาเห็นความเคลื่อนไหวของจักรพรรดินีราตรี
พลังควบคุมของจักรพรรดินีราตรีแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า?
ระยะมากกว่าสิบกิโลเมตร และไม่ใช่แค่สองสามกิโลเมตร!
 “อู๋เสีย เชี่ยนเชี่ยน! เข้ามายืนอยู่ใกล้สนามพลังดารานภากาศ  ผู้อาวุโสหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพก็ควรเข้ามาใกล้ๆ ด้วย!  เย่ว์หยาง, ไปฆ่าพะยูนปีศาจเหล่านั้นซะ”  จื้อจุนหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และยกมือขาวผ่องของนางอย่างสง่างาม  “พวกเจ้าเอาแต่ซุกหัวโผล่แต่หางออกมา ต้องการให้ข้าลากเจ้าออกมาหรือไม่?”
 “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมทวีปมังกรทะยานถึงให้กำเนิดนักสู้ผู้แข็งแกร่งได้.. อย่างไรก็ตาม เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ  เรื่องนี้ช่างคาดไม่ถึงเสียจริง”  ยักษ์ตนหนึ่งที่ตลอดร่างของเขามีเพลิงลุกฮือเต็มไปหมด และหน้าของเขามองเห็นไม่ชัดปรากฏออกมาจากพื้นที่ว่างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพียงเมื่อเขาปรากฏตัว จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางจึงค่อยตรวจพบยักษ์เพลิงกำลังใกล้เข้ามา  จากตรงนี้ อาจเห็นได้ว่าพลังของยักษ์เพลิงเหนือกว่าระดับของเย่ว์หยางมากมาย
 “แล้วอีกคนหนึ่งเล่า? เขาไม่ได้เตรียมจะออกมาหรือ?”  จากนั้นจื้อจุนหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
 “ไม่เลว ชางเหยียนบอกข้าว่ามีนักสู้จากทวีปมังกรทะยานที่น่าสนใจมาถึง ข้าเองยังไม่กล้าเชื่อเขา แต่ก็เป็นความจริง ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าข้าสามารถได้เล่นบ้างแน่  ทั้งหมดอย่าเพิ่งรีบตายก็แล้วกัน ข้ามีชีวิตมาหลายพันปีแล้วยังไม่เคยพบใครที่เป็นคู่มือข้าได้เลย!
ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ บุรุษร่างสีน้ำเงินคล้ายมนุษย์มากกำลังปลดปล่อยอุณหภูมิสูง ปรากฏตัว
ทันทีที่เขาปรากฏตัว เย่ว์หยางและคนอื่นๆ รู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งร่างกำลังถูกเผา
แม้ว่าเขาจะอยู่ในกลางอากาศ  สภาพแวดล้อมก็ยังหลอมละลาย
ตรงกันข้ามนี่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อยักษ์เพลิงด้านข้าง
ราวกับจะอธิบายต่อเย่ว์หยางและคนอื่นๆ เสียงนุ่มนวลของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น  “แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรจากตำหนักกลาง  แต่ระดับของพวกเขาเป็นชั้นนักสู้ปราณฟ้าระดับหกแล้ว    พวกเขาน่าจะเป็นพวกมีระดับในแดนสวรรค์  นอกจากนี้ ชางเหยียนก็ยังอยู่ที่นี่ การต่อสู้ครั้งนี้คงลำบาก!
มนุษย์เพลิงโบกมือและพูดยืนยัน “ไม่เลย นี่จะไม่ยากลำบากอะไร พวกเจ้าคลายกังวลใจได้เลย”
ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพไม่พูดอะไร ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง
ราชันย์ปีศาจใต้ต้องการจะคุยกับเย่ว์หยาง แต่นางเซียนหงส์ฟ้ารีบฉุดรั้งนางไว้
ด้วยความไม่เต็มใจนัก ราชันย์ปีศาจใต้กลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยางโดยการนำของเสี่ยวเหวินหลี  เดิมทีนางต้องการจะบอกเขาให้ระวัง  แต่นางเกรงว่าจะรบกวนสมาธิเขา
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเย่ว์หยางและรีบกลับเข้าไปยังโลกคัมภีร์  พวกนางรู้ว่าศัตรูที่แท้จริงมาถึง พวกนางยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้  นอกจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี  เย่ว์หยางจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด  แค่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว เขาอาจถูกศัตรูฆ่าตายได้ทันที  เสวี่ยอู๋เสียต้องการเรียกสาวกิเลนออกมาปกป้องเย่ว์หยาง  แต่โชคร้ายที่ สาวกิเลนเป็นอสูรอมตะ นางมีกฎอยู่ว่าจะต้องไม่เข้าไปแทรกแซงเว้นแต่เขาตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง  นางพญากระหายเลือดหง นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่ว โคเงาอาหมัน สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและอสูรสาวอื่นๆ ที่กำลังเก็บกวาดสนามรบ ต่างถอนกำลังกลับเข้าไปทีละคนๆ
นอกจากเสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ข้างๆ เย่ว์หยางแล้ว ฮุยไท่หลางยังคงรั้งอยู่
เด็กสาวยักษ์ที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม ต้องการจะรั้งอยู่ เย่ว์หยางจ้องมองนางแล้วดุนาง “อย่าก่อเรื่องยุ่งยาก  ถ้าเจ้าไม่กลับเข้าไป พี่ชายคนนี้จะหวดก้นของเจ้าให้บวมเลย คอยดูสิ”
 “พี่ใจร้าย!  เด็กสาวยักษ์สะดุ้งและรีบเอามือปิดก้นของนาง   พร้อมกับเสียงดังสะเทือนนางรีบยื่นหน้าล้อเลียนเย่ว์หยางก่อนจะหายกลับเข้าไป
 “.......” สำหรับการกระทำของนาง ทำให้ทุกคน แม้แต่จื้อจุนก็พูดไม่ออก
นางเข้าใจเสน่ห์ของเจ้าเด็กนี่แล้ว
สำหรับเจ้านายระดับสูง นี่ยังพอรับกันได้ และดูไม่เป็นการพูดเกินจริง  อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กสาวยักษ์ผู้บริสุทธิ์ ความคงอยู่ของเขานั้นยอดเยี่ยม  ไม่เคยมีเด็กสาวสักคนที่ไม่ชอบเขามาก่อน นี่อาจเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของเขา!  นอกจากเขาแล้ว จะมีใครอื่นที่สามารถควบคุมเด็กสาวยักษ์เผ่าไตตันได้กัน?
ชางเหยียนปรากฏตัว
ตอนนี้เขากลับคืนสู่ลักษณะที่สงบแล้วเหมือนกับว่าได้รับการรักษาเป็นอย่างดี
ผมหยักศกสีทองยาวประบ่าอย่างสง่างาม หน้าตาที่หยิ่งยโสโผล่มาให้เห็นอีกครั้ง  สภาพไม่น่าอนาถเหมือนเมื่อตอนถูกรังสีทำลายล้างแผดเผา
ชางเหยียนผู้หนีจากไปแล้วกลับมาขมวดคิ้วและจ้องดูสนามต่อสู้ เขาถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย  “เฮยหูอยู่ไหน?”
ชางเหยียนรู้สึกว่าเฮยหูสามารถใช้สนามพลังของเขาและใช้วงเวทเทเลพอร์ตที่ก้นทะเลสาบหลบหนีไปได้ แต่ก่อนนั้นเขาคงต้องถูกเล่นงานย่ำแย่สภาพน่าอนาถ  เมื่อเห็นว่าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด  เขาคาดว่าเฮยหูจะต้องเจ็บตัวอย่างหนัก  ยิ่งกว่านั้น คู่ต่อสู้ยังคงมีพลังเหลืออยู่  หากไม่มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยเหลือ ชางเหยียนคงไม่หวนกลับมาแน่  ทั้งนี้เพราะ ไม่ว่าจะเป็นจื้อจุนผู้มีพลังโจมตีที่น่ากลัว หรือจักรพรรดินีราตรีผู้ลึกลับ  เขาไม่สามารถตอแยได้เลย... ตามธรรมดา ชางเหยียนไม่ได้ลืมเย่ว์หยางที่มีพลังทำให้คนตะลึงได้  เขาไม่อาจลืมเพลิงอมฤตที่ไม่มีเพลิงใดในโลกเทียบได้
 “เสียเวลาพูดเปล่าๆ” เย่ว์หยางไม่เห็นชางเหยียนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ  เขาชูกริชสังหารเทพขณะที่ฆ่าพะยูนนรกที่ไม่ตายทันทีเพราะฝนดาวตก
 “เจ้าเด็กนั่นคือจักรพรรดิอวี้คนใหม่หรือ?”  บุรุษร่างสีน้ำเงินเข้มถาม
 “ผู้อาวุโสเหยียนจง, เหยียนจุน คนที่น่ากลัวที่สุดคือสตรีคนนั้น  นอกจากทักษะต่อสู้ระยะประชิดที่อ่อนแล้ว ฝีมืออื่นๆ ของนางแข็งแกร่งมาก  นอกจากนี้นางยังมีพลังที่ไม่ธรรมดาอยู่มาก  นางสามารถทำลายมิติให้แตกและควบกลั่นวัตถุได้”  ชางเหยียนมองดูเย่ว์หยาง  เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังคงฆ่าพะยูนนรกต่อไป ทั้งที่อยู่ในเงื้อมมือแล้ว
 เทียนหลุน, เชียนเย่และอู๋เซ่อสบายดีหรือเปล่า?”  จู่ๆ ยักษ์เพลิงก็เอ่ยปากถามถึงชื่อที่ไม่รู้จักสามคน
 “.....” จื้อจุนไม่ตอบ
 “เป็นไปได้ไหมว่านักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดจากทวีปมังกรทะยาน, บันไดสวรรค์และแดนนรกตายกันหมดแล้ว?”  เสียงของบุรุษร่างน้ำเงินเข้มมีแววประหลาดใจ
 “เทียนหลุน, เชียนเย่และอู๋เซ่อจะแค่ไหนกันเชียว  อาจารย์อีกคนของข้าก็คือนางพญาเฟ่ยเหวินหลี” เย่ว์หยางตะโกนขณะที่เขาบินกลับมา  เมื่อพูดเช่นนี้ ชางเหยียน, ยักษ์เพลิงและบุรุษร่างน้ำเงินเข้มอดสะดุ้งไม่ได้  ชางเหยียนแทบอยากจะเผ่นหนีทันที แต่เมื่อเห็นว่ายักษ์เพลิงและบุรุษร่างน้ำเงินเข้มไม่ขยับ เขาได้แต่ข่มความกลัวและอยู่ต่อไป
เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชาและหัวเราะอย่างลี้ลับ  เขาต้องการขู่พวกเขาให้ขวัญฝ่อตาย
 

10 ความคิดเห็น:

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chaidet076 กล่าวว่า...

สนุกมากครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

โอ้...แบบนี้ท่าทางเย่ว์หยางคงมีไพ่ตายอะไรบางอย่างสิเนี่ย ถึงได้อยู่รอต่อสู้กับพวกนี้

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

สุโค่ยยยยย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แลดูมีวิธีเอาชนะ ถึงไม่เกรงกลัวอะไร

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น