ตอนที่
903 การกลับมาของโซเฟีย
ชิวเทียนชิงสงบใจได้มาตั้งแต่เริ่มแรก
แม้ว่าพลังโจมตีของคู่ต่อสู้จะดุร้ายรุนแรงมาก
แต่สนามยะเยือกใบไม้ร่วงของพวกเขาไม่ใช่วิชาง่ายๆ
เขามั่นใจไม้ตายสนามยะเยือกใบไม้ร่วง แม้ว่าจะเป็นความจริงที่ว่าเป็นครั้งแรกของพวกเขาที่ได้ใช้ออก
นับตั้งแต่สร้างขึ้นมา
เพราะไม้ตายสนามยะเยือกใบไม้ร่วงแตกต่างจากไม้ตายสังหารของกองทัพทั้งปวง
กฎธรรมชาติ!
เหตุผลเดียวว่าทำไมถึงได้แตกต่างจากไม้ตายสังหารของกองทัพอื่นเป็นเพราะสนามยะเยือกใบไม้ร่วงบรรจุไปด้วยกฎธรรมชาติของฤดูใบไม้ร่วง ในแก่นสาระสำคัญ
สนามยะเยือกใบไม้ร่วงจะเหนือกว่ากลุ่มไม้ตายของทหารไปแล้ว
ต้องใช้เวลาถึงสิบห้าปีจึงจะสร้างไม้ตายนี้ออกมาได้
เมื่อชิวเทียนชิงสร้างไม้ตายพายุใบไม้ร่วง
เขามักไตร่ตรองหาวิธีสร้างไม้ตายสังหารที่แข็งแกร่งมากกว่าไม้ตายพายุใบไม้ร่วง
แนวคิดนี้ใช้เวลานานนับทศวรรษ
และจากนั้นความเข้าใจอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
ทำให้เขาได้รับการรู้แจ้ง
แต่เป็นแค่ตอนแรก สำหรับไม้ตายสังหารของกองทัพไม่ใช่สิ่งที่แม่ทัพทหารลำพังจะทำสำเร็จได้
เขาใช้เวลาอีกห้าปีทำให้เขาและบริวารของเขาสร้างไม้ตายที่สมบูรณ์ต่อไป จนกระทั่งสร้างไม้ตายสังหารขั้นสูงสุด
สนามยะเยือกใบไม้ร่วง!
เมื่อไม้ตายสนามยะเยือกใบไม้ร่วงถูกใช้งาน พื้นดินที่กองทัพยืนอยู่จะมีกฎธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วงถูกกระตุ้นใช้งาน
สร้างเป็นพื้นที่แห่งฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่เหมือนใคร
พื้นที่ฤดูใบไม้ร่วงสามารถสร้างพลังงานอย่างต่อเนื่อง
น้ำแข็งฤดูใบไม้ร่วงจะถูกเปลี่ยนเป็นหมอกกว้างไกลไม่สิ้นสุด
เมื่อเทียบกับวิทยายุทธส่วนบุคคล วิชาไม้ตายสังหารของกองทัพมีความซับซ้อน
เป็นเรื่องที่แม่ทัพนายกองและทหารจะได้รับการรู้แจ้งกฎธรรมชาติ
ดังนั้นความต้องการไม้ตายสังหารก็ยิ่งยากมากขึ้น แต่เมื่อทำได้สำเร็จ พลังของมันจะเหนือกว่าจินตนาการใดๆ ทุกอย่าง
ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่าเขาตัดสินใจพลาด
กฎธรรมชาติในสนามยะเยือกไม้ไม้ร่วงไม่เพียงแต่สร้างด้วยสายใยกฎธรรมชาติ แต่เป็นผิวกฎธรรมชาติ! นอกจากนี้ ยังไม่ใช่แค่ผิวกฎธรรมชาติเท่านั้น
กฎธรรมชาติฤดูใบไม้ร่วงภายในพื้นที่นี้มีสัญญาณการสร้างสนามพลังกฎธรรมชาติ ตัวอย่างเช่นการฟื้นฟูตัวเอง
นี่เป็นลักษณะเฉพาะทั่วไปของสนามพลังกฎธรรมชาติ
‘อีกครึ่งก้าวจะเข้าสู่ระดับสนามพลังกฎธรรมชาติ!’
มีอีกคนหนึ่งที่สามารถรับรู้ข้อเท็จจริงนอกจากถังเทียน
นั่นคือจี๋เจ๋อ
คนในกองพลเกราะเทพเจ้าค่อนข้างจะมีความรู้ธรรมดา
รวมทั้งฝูเจิ้งจือที่มีความพลังค่อนข้างโดดเด่นยกเว้นอายุเขาเท่านั้น
ในบรรดาคนเหล่านี้มีเพียงคนเดียวที่นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ นั่นคือจี๋เจ๋อ
ตอนแรกจี๋เจ๋อมองดูกองทัพตระกูลชิวอย่างเหยียดหยาม แต่เมื่อหมอกขัดขวางกระบี่แสงได้ หน้าของเขาพลันจริงจัง จากความเครียดจริงจังกลายเป็นความทึ่ง
และลงท้ายเหมือนกับว่าเขาเห็นผี
‘ข้าถูกผีหลอกจริงๆ
หรือนี่!’
จี๋เจ๋อไม่อยากเชื่อสายตาของเขา ‘นี่มันตลกแล้ว!
พวกเขาก้าวเข้าไปในสนามพลังกฎธรรมชาติครึ่งก้าว!’
แม้แต่ในแดนบาป มีเพียงคนเดียวที่ได้รับการรู้แจ้งระดับสนามพลังกฎธรรมชาติ
และนั่นทำให้ตู้เค่อกลายเป็นนักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาปที่ได้รับการยอมรับทั่วไป
ในความเป็นจริง
ตั้งแต่จี๋เจ๋อเข้ามาในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
เขาดูถูกขุนพลของกองทัพทั่วไป
ไม่มีสักคนเดียวที่รู้แจ้งกฎธรรมชาติ
กฎธรรมชาติและพลังงานคือระดับพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่เขาจะคุ้นกับการใช้กฎธรรมชาติควบคุมพลังงาน เขาอ่อนแอมาก
แต่ทันทีที่เขาบรรลุผ่านอุปสรรคได้
พลังของเขาปะทุออกมาในชั่วข้ามคืน ใครก็สามารถพูดได้ว่ามีอุปสรรคขนาดกระดาษบางคั่นระหว่างกฎธรรมชาติและพลังงาน
ไม่ว่ากระดาษจะบางมากเพียงเมื่อมีการเคลื่อนไหวจากกฎธรรมชาติไปหาพลังงาน แต่จากพลังงานไปหากฎธรรมชาติ
กระดาษนั้นจะหนามาก
ดังนั้นสายตาของเขาที่มองดูแม่ทัพนายกองของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มักจะมองด้วยความหยิ่งผยองเสมอ
แต่นั่นคือกองทัพที่เขาดูถูก กลับได้รู้แจ้งกฎธรรมชาติ
และสามารถสร้างพื้นที่คล้ายสนามพลังกฎธรรมชาติด้วยตัวเองได้ แล้วจะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง?
เขาไม่คาดเลยว่าจะได้เห็นสนามพลังกฎธรรมชาติครึ่งก้าวซึ่งใช้ออกโดยเหล่านักสู้ที่ทรงพลังผู้ยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
แต่เหมือนกับว่าถังเทียนจะประเมินสนามยะเยือกใบไม้ร่วงต่ำเกินไป
ในทำนองเดียวกันชิวเทียนชิงก็ประเมินกระบี่อมตะต่ำเกินไป
พายุกระบี่แสงไม่สุดสิ้นดูเหมือนจะทำให้อารมณ์ของชิวเทียนชิงเคร่งเครียดยิ่งขึ้น
หลังจากผ่านไปห้านาที
กระบี่แสงไม่มีทีท่าว่าจะพร่องลง
‘นั่นคือวิชาอะไร?’
‘บุรุษนั้นสามารถทนใช้พลังที่แข็งแกร่งอย่างนั้นได้นานเพียงไหน?’
‘นี่คือพลังโจมตีระดับเดียวกับอาวุธเรือรบ ไม่ว่าพลังของกระบี่แสงจะโจมตีได้ถี่เพียงไหน ทั้งหมดก็เป็นอาวุธระดับเรือรบ! นอกจากนี้ ยังเป็นเรือรบระดับทอง!’
เหมือนกับที่จี๋เจ๋อรู้สึกเหมือนว่าเขาถูกผีหลอกเมื่อเขาเห็นว่ากองทัพดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์สามารถใช้พลังระดับสนามพลังกฎธรรมชาติครึ่งก้าว ชิวเทียนชิงกำลังรู้สึกทำนองเดียวกัน
ในโลกของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งกองทัพปกครอง
การได้เห็นพลังส่วนบุคคลเทียบได้กับเรือรบไม่ต่างอะไรกับการเห็นผี
กองทัพส่วนใหญ่
การสู้ด้วยเรือรบและการสู้โดยไม่ใช้เรือรบต่างกันราวฟ้ากับดิน
ถ้ากองทัพไม่มีเรือรบสามารถปลดปล่อยพลังโจมตีที่เทียบได้กับเรือรบลำหนึ่ง พวกเขานับได้ว่าเป็นยอดฝีมือชั้นสูง ‘แต่เพราะพลังส่วนตัวที่ทำได้เช่นนั้น
… นั่นจะทำให้เขาเป็นเหมือนมนุษย์เรือรบหรือ? มีคนแบบนั้นในโลกได้ยังไง?’
พลังของเรือรบยิ่งใหญ่มาก ตามด้วยความทนทานของพลังป้องกัน แต่ประโยชน์ของมันมีอย่างจำกัด ตัวอย่างเช่นมีอ่าวอย่างจำกัด
หรือข้อจำกัดในสงครามขนาดเล็ก
สมรภูมิของเรือรบปกติจะอยู่ในทะเลพลังงานที่กว้างขวาง
‘แต่...มนุษย์ที่มีพลังเท่าเรือรบ...
นั่นน่ากลัวเกินไป! ไม่ถูกขัดขวางด้วยภูมิประเทศ
คล่องแคล่วว่องไวมาก
สามารถลอบโจมตีที่ทรงพลังเทียบเท่าเรือรบ’
‘นี่มันคืออาวุธระดับสูงสุดแล้ว’
ก่อนนี้
ชิวเทียนชิงสงสัยว่าอีกฝ่ายปลอมตัวเป็นหนึ่งในอัศวินพิเศษกวงหมิง แต่เมื่อเห็นพลังโจมตีของถังเทียน เขานึกว่าถังเทียนมาจากวิหาร ชิวเทียนชิวเชื่อแน่วแน่ว่ามีแต่วิหารจึงจะสามารถสร้างสัตว์ร้ายเช่นนั้นขึ้นมาได้
โชคดีที่สนามยะเยือกใบไม้ร่วงยังคงไม่มีอันตราย
ทำให้เขาถอนหายใจโล่งอก แต่ความโกรธพลุ่งขึ้นในใจของเขา
‘วิหารต้องการทำลายตระกูลชิวของข้า!’
‘อย่างนั้นก็มาเลย พวกเจ้าคิดจริงๆ
หรือว่าตระกูลชิวจะยอมแพ้ง่ายๆ?’
บุรุษวัยกลางคนที่กำลังมองดูจากที่ไกลถึงกับเปลี่ยนสีหน้า เขาและชิวเทียนชิงมีความคิดเหมือนกัน สามารถสร้างนักสู้พลังเรือรบได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาต้องเป็นไพ่เด็ดของวิหารอย่างแน่นอน!
ถ้าตระกูลชิวถูกวิหารทำลายจริงๆ วิหารก็สามารถแสดงพลังของพวกเขาผ่านการรบได้
จะมีสักกี่คนที่กล้าต่อต้านพวกเขา?
เวลานั้นความเป็นพันธมิตรระหว่างตระกูลชั้นสูงจะพังทลาย
ความกลัวที่รุนแรงเต็มอยู่ในใจเขา พวกเขาเหมือนกับยิงธนูออกไปแล้ว และไม่สามารถเอากลับมาได้
พวกเขาคุ้นเคยกับรูปแบบการรับมือของวิหารมากเกินไป แม้ว่าเรื่องจะสงบลงชั่วคราว
แต่ทันทีที่สถานการณ์มั่นคง จะเป็นเวลาที่ตระกูลชิวต้องชดใช้หนี้ พวกเขาไม่สามารถหนีพ้น
บุรุษวัยกลางคนสงบจิตใจตนเอง มีแววเข้มงวดในประกายตาขณะที่เขาเรียกหาองครักษ์ใกล้ๆ
เขาและออกคำสั่งเบาๆ
หน้าขององครักษ์เคร่งเครียดและพยักหน้า จากนั้นหันหน้าบินจากมา
*****************
โซเฟียยืนอยู่ด้านนอกประตูวิหาร จากภายในประตูที่ใหญ่เด่นสง่า
แสงสีขาวที่เปล่งออกมาจากพลังงานที่หนาแน่นสว่างไสว ราวกับว่าภายในของตำหนักจะเป็นโลกต่างกันสิ้นเชิง
นางยืนอยู่ที่นั่นหันหน้าเข้าหาประตูยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นไม่พูดอะไรสักคำ
นางเข้าออกในที่นี้มานับครั้งไม่ถ้วน นั่นคือบ้านของนาง และที่ซึ่งนางคุ้นเคยเป็นส่วนใหญ่ มีคนที่นางคุ้นเคยที่สุดอยู่ด้วย ประตูใหญ่ยังคงเด่นสง่า แสงสีขาวยังคงหนาแน่น แต่คนที่นางคุ้นเคยที่สุดยังไม่ปรากฏ
การกลับมาของโซเฟียทำให้ผู้อาวุโสทุกคนประหลาดใจ
เมื่อโซเฟียก้าวเข้ามาในวิหาร สิ่งที่ต้อนรับนางคือสายตาที่ซับซ้อนจากผู้อาวุโส นางรู้ว่าพวกเขาคิดอะไร แต่นางไม่สนใจพวกเขา ชีวิตของพวกเขาสำคัญกับนางตั้งแต่เมื่อไหร่?
นางทำราวกับว่าไม่เห็นพวกผู้อาวุโส กุมดาบที่เอวนาง นางค่อยๆ
เดินลึกเข้าไปในวิหารโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ผ่านไปครึ่งทางนางจึงพูดขึ้น
“ห้องโถงไหนที่ฝ่าบาทถูกปลงพระชนม์?”
หนึ่งในผู้อาวุโสผู้มีปัญญาฉับไวตอบทันที “เป็นห้องอาทิตย์อัศดงค์”
โซเฟียพยักหน้านาง จากนั้นเปลี่ยนทิศเดินไปที่ห้องอาทิตย์อัศดงค์
พวกผู้อาวุโสดูนางเดินจากไป จากนั้นยังปรึกษากันในหมู่พวกเขา
“นางบุ่มบ่ามเกินไป นางกล้ากวาดล้างตระกูลชิว
นั่นจะกระตุ้นความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นหรือเปล่า?”
“เฮ้อ,
เจ้าอย่าโทษว่านางเลย นางและฝ่าบาทชาร์ลส์มีความสัมพันธ์ต่อกันที่ลึกซึ้ง เมื่อได้ยินว่าเขาถูกลอบฆ่า นางจะควบคุมตัวเองได้ยังไง? ความจริงตระกูลเหล่านั้นก็ป่าเถื่อนเกินไป พวกเขาหยิ่งผยองและบังอาจ เราต้องรับมือพวกเขาให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่ภัยพิบัติจะมาเยือน”
“เฮ้,
ระวังคำพูดของเจ้าไว้! กำแพงมีหู ประตูมีตา
นี่คือกลุ่มของคนเสียสติที่กล้าลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาท เจ้านึกหรือว่าพวกเขาจะเห็นเราอยู่ในสายตา?”
“เจ้ากลัวอะไรด้วย! อัศวินกวงหมิงยังอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขากล้ามา ก็เท่ากับหาที่ตาย!”
“ถูกแล้ว อัศวินพิเศษกวงหมิงกลับมาแล้ว เราหลับได้อย่างสบายใจ”
…..
โซเฟียยืนอยู่นอกประตูห้องอาทิตย์อัศดงค์ เรื่องที่เกิดในห้องอาทิตย์อัศดงค์เป็นเรื่องร้ายแรงมาก และทั่วทั้งสถานที่ถูกตรวจสอบค้นหามานับครั้งไม่ถ้วน แม้แต่พื้นก็ยังถูกขุดลึกลงไปสองสามนิ้ว จนสถานที่ยุ่งเหยิง
นางยืนอยู่ด้านนอกประตูอย่างเงียบงัน แต่ไม่เข้าไป
ภายในวิหาร
ผู้อาวุโสยังคงจับกลุ่มเล็กสนทนากันเอง
สายตาของพวกเขาหันไปมองส่วนลึกของวิหารเป็นครั้งคราว
“นางยังคงอยู่ที่ทางเข้าห้องอาทิตย์อุทัยหรือ? นี่ก็สองชั่วโมงแล้ว!”
“นางเจ็บปวด
คนที่ตายคือฝ่าบาทนะ!”
ทุกคำพูดสนทนาสามารถได้ยิน เนื่องจากไม่มีผู้อาวุโสคนใดจากไป พวกเขาอยู่ในพื้นที่ใหญ่ที่สุดของวิหาร รอข่าวคราวล่าสุด
ประมุขผู้อาวุโสไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
ต่อการที่โซเฟียกวาดล้างค่ายทหารตระกูลชิว
ประมุขผู้อาวุโสไม่พูดอะไรสักคำเมื่อโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ถูกลอบสังหาร
พวกเขารู้ว่าประมุขผู้อาวุโสกำลังรอให้โซเฟียกลับ
ทันใดนั้นพวกผู้อาวุโสกลับกลายเป็นกระวนกระวาย
ข่าวแพร่สะพัดไปว่าโซเฟียออกจากห้องอาทิตย์อัศดงค์ไปที่ห้องเจิดจรัส ผู้อาวุโสเริ่มกังวลใจ เมื่อประมุขผู้อาวุโสพูดขึ้น
วิธีการและจุดยืนของวิหารจะต้องได้รับการแก้ไขทันที
กลุ่มผู้อาวุโสไม่เพียงแต่ห่วงใยเท่านั้น
แม้แต่ตระกูลชั้นสูงที่ได้รับทราบข่าวก็กังวลใจเช่นกัน ประมุขผู้อาวุโส
คือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจวิหาร
ถ้าเขาบอกว่าต้องสู้
ทั่วทั้งวิหารจะต้องไม่สนใจทุกอย่างและเข้าสู้ทันที ไม่ว่าจะต้องทุ่มเทเพียงไหน ไม่ว่าจะต้องเสียสละเพียงใดก็ตาม วิหารจะสู้จนถึงที่สุด ถ้าประมุขผู้อาวุโสพูดถึงสันติ อย่างนั้นไม่ว่าก่อนนั้นการสู้รบจะรุนแรงเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าผู้คนจะโกรธแค้นเท่าใดก็ตาม
วิหารต้องอยู่ร่วมกับอีกฝ่ายให้ได้
โซเฟียเดินไปที่ทางเข้าห้องเจิดจรัสและคุกเข่า ไหล่ของนางสะท้าน
ขณะที่นางหลั่งน้ำตาอย่างควบคุมไม่ได้
นางขดตัวกับพื้น หลั่งน้ำตานองหน้า นางเศร้ามากจนรู้สึกอ่อนแอลง
“สร้างความลำบากให้เจ้าแล้ว
ลูกเอ๋ย!
ร้องไปเถอะ,
อย่าเก็บมันเอาไว้เลย”
เสียงนุ่มนวลดังออกมาจากเหนือศีรษะนาง
ทำให้หัวใจนางรู้สึกย่ำแย่ นางร้องออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ประมุขผู้อาวุโสถอนหายใจ จากนั้นลูบศีรษะโซเฟีย
ฝ่ามือของประมุขผู้อาวุโสมีเพลิงศักดิ์สิทธิ์คลุม ไม่ได้มีความอบอุ่นแต่อย่างใด แต่มีพลังทำให้ใจนางสงบ
อารมณ์ของโซเฟียค่อยๆ มั่นคง
ตาของนางแดงขณะที่นางสารภาพผิดต่อประมุขผู้อาวุโส “ข้าน้อยไม่ได้รับคำสั่งและถือความคิดเห็นตนเองเป็นใหญ่โจมตีตระกูลชิว
ข้าน้อยเป็นต้นเหตุสร้างผลกระทบตามมา
ขอผู้อาวุโสลงโทษ!”
“ข้าจะลงโทษเจ้าทำไม?”
เสียงทรงพลังแต่อ่อนโยนดังขึ้นจากภายในเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโชน
เสียงของประมุขผู้อาวุโสแฝงไปด้วยความโกรธที่พยายามเก็บกดไว้
“พวกมันคิดว่าพวกมันสามารถทำให้ข้ายอมอ่อนข้อให้หรือ? พวกมันเข้าใจผิดแล้ว! ข้ายอมให้วิหารถูกทำลาย แต่จะไม่ประนีประนอมกับพวกมัน!”
“ข้าต้องให้พวกมันได้รู้ว่า พวกมันประเมินตนเองสูงเกินไปเพียงไหน!”
ทั่วทั้งวิหารเริ่มกระหึ่ม
ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน

5 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุนครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น