วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 909 มาเร็ว


ตอนที่  909  มาเร็ว
หัวหลี่รั่ว อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลหัว  ในตระกูลหัวรุ่นปัจจุบัน ไม่มีใครโดดเด่นถึงกับเป็นแม่ทัพใหญ่  และภายใต้พวกเขา หัวหลี่รั่วเป็นผู้บัญชาการทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นปัจจุบัน

สำหรับตระกูลชั้นสูงห้าตระกูล มีแม่ทัพใหญ่คนหนึ่งในรุ่นปัจจุบันจะหมายถึงช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ  แต่ต่อให้พวกเขาไม่มีแม่ทัพใหญ่  ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีพลังอำนาจ  ในช่วงเวลาระยะยาวของการสะสม  แม่ทัพใหญ่จะมาจากห้าตระกูลใหญ่และเริ่มมีการลอบเพาะสร้างอำนาจ โดยไม่มีใครรู้ถึงพลังลึกๆ ของพวกเขา
การสืบทอดของตระกูลไม่ใช่ว่าจะสะสมกันในรุ่นเดียว  จำเป็นต้องสืบทอดกันหลายรุ่นเพื่อให้สามารถสร้างผลกระทบได้  ในอดีตมีหลายตระกูลที่มีลูกศิษย์คนในตระกูลผู้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ได้และได้รับความนิยมอย่างมาก  แต่หลังจากนั้น พวกเขาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
มีเพียงไม่กี่ตระกูลซึ่งมีการสืบทอดอำนาจผ่านมากันเป็นรุ่นๆ จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จ สำหรับตระกูลทั้งหลายที่มีประวัติศาสตร์มากมาย  พวกเขาวิจัยค้นคว้ากว้างขวางให้การบำรุงดูแลคนในตระกูลของพวกเขา  พวกเขารู้ว่าศิษย์รุ่นเยาว์เป็นหัวใจต่อการตัดสินความรุ่งเรืองหรือตกต่ำของอนาคตตระกูล   พวกเขาได้รับการส่งเสริมให้มีการแข่งขันกันภายในระหว่างศิษย์ด้วยกัน  ดังนั้นการแข่งขันภายในระหว่างคนในตระกูลใหญ่จึงมีความรุนแรงมากเป็นธรรมดา
การแข่งขันของตระกูลหัวรุนแรงเป็นพิเศษ  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหลายคนต้องเรียกว่าโหดเหี้ยม
หัวหลี่รั่วเป็นผู้บัญชาการทหารที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นปัจจุบัน  เขามีพรสวรรค์และพลังที่โดดเด่นมาก  สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคต่อเขาก็คือความเจ้าโทสะที่ชอบระเบิดอารมณ์ของเขา  สำหรับคนอื่นๆ ก็เป็นแค่บรรทัดฐานสำหรับสมาชิกตระกูลสูงส่งที่ต้องมีความเจ้าอารมณ์  แต่อารมณ์ของหัวหลี่รั่วเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้ำกลืนได้
เขาก่อเรื่องกับทุกคนในบ้านอื่น สำหรับตระกูลชั้นสูงอื่นและทุบตีเล่นงานศิษย์อื่นรุ่นเดียวกันจนยับมาแล้ว  แน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เขามีชื่อเสียง  สิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักแท้จริงก็คืออารมณ์ที่วู่วามฉุนเฉียว  เขาเคยทะเลาะกับผู้อาวุโสของวิหารมาก่อน และลอบเข้าไปวิหารทุบตีอีกฝ่ายจนหน้าตาบวมปูดต่อหน้าทุกคน
เมื่อเรื่องนี้รั่วไหลออกไป  ทั่วทั้งทวีปกวงหมิงถึงกับโกลาหล  ทุกคนตะลึง ไม่เคยมีคนกล้าใช้แผนเช่นนั้นต่อวิหาร  วิหารโกรธแค้น จนประมุขตระกูลหัวต้องไปขอขมากับประมุขผู้อาวุโสด้วยตนเอง และนั่นเองจึงทำให้เรื่องลงเอยลงได้
หลังจากนั้นข่าวของหัวหลี่รั่วก็หายไปเป็นเวลานาน  เขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นอกจากมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่ง เขายังเดินไปตามเส้นทางและกลายเป็นพลโทที่มีอายุเยาว์ที่สุด  แต่ในการคัดเลือกแม่ทัพใหญ่  เขาไม่ได้รับเลือก
การกระทำที่เขาทำต่อมาทำให้เขาตกเป็นหัวข้อวิจารณ์ไปทั่วทวีปกวงหมิงอีกครั้งหนึ่ง  เมื่อเขาไม่ได้รับเลือก  เขาลาออกจากตำแหน่งพลโทโดยไม่ลังเลใจและกลับตระกูลหัว
หัวหลี่รั่วกลับไปตระกูล แต่ไม่หยุดเพียงแค่นั้น  เขาสร้างกองทัพของตนเองด้วยมือตนเอง  และเป็นเวลาสองปี  ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเขา  หลังจากผ่านไปสองปี  จู่ๆ เขาปรากฏตัวพร้อมกับทหารของเขา  และเริ่มมองหาคนสู้ด้วย  และเรียกว่าฤดูกาลซ้อมมือ ทำให้เกิดวิกฤติไปทั่วทวีปกวงหมิง  การต่อสู้และการเผาบ้านเมืองกลายเป็นมาตรฐาน  กองทัพ หน่วยทหารท้องถิ่น และกองทัพของตระกูลต่างๆ ไม่รอด
ในเวลานั้นหัวหลี่รั่วกลายเป็นผู้อื้อฉาวไปทั่วทวีปกวงหมิง
ตั้งแต่เด็ก เมลิซซาได้ยินเรื่องอื้อฉาวและวิธีการก้าวร้าวของหัวหลี่รั่ว  ดังนั้นเมื่อนางพบว่าบุรุษที่ยืนอยู่หน้านางคือหัวหลี่รั่วนางแทบลมจับ
เมลิซซารู้สึกว่าสมองนางลั่นอึงอล เหมือนกับถูกทุบศีรษะ แต่นางคงเหมือนกับถูกตีศีรษะหนักกว่าหน้าของหัวหลี่รั่ว
แต่ต้องใช้เวลาปรับตัวนานและเพื่อไม่ให้เสียเวลา นางสูดหายใจลึกฉีกยิ้มที่ดูประหลาดยิ่งกว่าร้องไห้  “ข้าไม่คิดเลยว่าแม่ทัพหัวจะมาเยี่ยม  แม่ทัพมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันทั่ว  ได้พบเห็นท่านนับว่าเป็นวาสนาของข้านัก”
เห็นได้ชัดว่าหัวหลี่รั่วพอใจกับคำเยินยอของนางและนางพูดต่อ
นางยังพูดอ้อมไปอ้อมมา  แต่ความกังวลในใจนางสงบลง  นางไม่เข้าใจความตั้งใจของหัวหลี่รั่ว  ดังนั้นนางได้แต่หัวเราะและชวนคุยต่อ  นางชวนคุยเรื่องอากาศหรือไม่ก็ชาพันธุ์ใหม่ที่นางเพิ่งได้รับ
หลังจากสนทนาครึ่งค่อนวัน ในที่สุดหัวหลี่รั่วก็หมดความอดทน  เขาวางแก้วชาลงและพูดขึ้น  “ข้ามาเยี่ยมเยียนวันนี้ก็เพื่อคารวะผู้อาวุโสซิ่นแห่งกองพลหน้ากากเหล็ก”
 ในที่สุดก็มาถึงตรงนี้จนได้  ใจของเมลิซซาตึงเครียด  เมื่อคิดถึงเกี่ยวกับท่าทีผิดหวังของถังเทียนและพวกที่เหลือ  และการปรากฏตัวของหัวหลี่รั่ว  นางรู้ว่าพวกเขาคงประสบปัญหาลึกๆ เสียแล้ว!
เมลิซซาถึงกับหนังศีรษะชา  นางไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร  แต่หน้าของนางยังคงมาดมั่น  “โอว, แม่ทัพหัวรู้จักกองพลหน้ากากเหล็กด้วย?”
หัวหลี่รั่วเตรียมจะอธิบายว่า เขาตามหลังพวกเขา  ขณะนั้นบริวารคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงาน  “คุณหนู  ทูตของวิหารกวงหมิงคนหนึ่งขอเข้าพบ”
 ทูตวิหารกวงหมิง?’  เมลิซซาตกใจ  แต่นางยังกล่าว  “เชิญเขาเข้ามา”
เมื่อได้ยินว่าทูตของวิหารกวงหมิงมาถึง  หน้าของหัวหลี่รั่วเขียวคล้ำ  วิหารมีปฏิกิริยาเร็วจนเขาประหลาดใจ  เขารู้สึกว่าเขารวดเร็วพอแล้ว  แต่เมื่อคิดว่าเมื่อเขาก้าวเข้ามาในกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  วิหารก็คงมาถึงแล้ว
 ดูเหมือนว่าวิหารจะมีหูตาวางไว้ที่ตระกูลชิวมานานแล้ว’  หัวหลี่รั่วคิด  เขารู้สึกว่านี่คือเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุด  ตระกูลชิวมาตอแยตระกูลเมซฟิลด์  และลงเอยด้วยการตอแยเครื่องจักรสังหารขนาดใหญ่
 ขุนพลวิญญาณระดับพลเอก...หึหึหึ...’
กับควมตายของชิวเทียนชิง  กำลังของตระกูลชิวได้รับผลกระทบครั้งใหญ่  แม้ว่าพวกเขายังมีชิวซิ่วหัว  แต่ชิวซิ่วหัวยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในภูมิภาคใต้ กำลังพบกับอุปสรรคจากสัมพันธมิตรใต้  พวกเขาไม่สามารถมาสมทบกับโกวเฉิงเวิ่นเต้าได้  และไม่ทราบว่าเมื่อใดพวกเขาจึงจะกลับมาได้
 กับความตายของชิวเทียนชิง  ถ้าชิวซิ่วหัวไม่กลับมา  ตระกูลชิวจะตกอยู่ในอันตราย’
หัวหลี่รั่วไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลชิว  เนื่องจากเป็นเรื่องที่ระดับสูงจะต้องกังวลกันเอง
เมื่อได้ยินว่าวิหารส่งทูตมา  เขากังวลทันที  ถ้าตระกูลกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ถูกวิหารคล้องตัวไปได้  พวกเขาจะต้องคุกคามต่อตระกูลหัวอย่างมิต้องสงสัย
หัวหลี่รั่วเริ่มรู้สึกกังวล  เขามีเป้าหมายลับที่คนอื่นไม่รู้  เขาไม่ได้รับอำนาจจากผู้บริหารระดับสูง  แต่ปฏิกิริยาของวิหารไวกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ผู้อาวุโสซีอุสเดินเข้ามา  และเมื่อเห็นเมลิซซา  ตาของเขาเป็นประกาย  เขาเดินตรงเข้ามาทักทายอย่างจริงใจ  “คุณหนูเมลิซซา  ข้าคือผู้อาวุโสซีอุสแห่งวิหารกวงหมิง  ข้าต้องขอโทษที่มาเยี่ยมถึงหน้าประตูบ้านเจ้าอย่างกะทันหัน”
การมาเยี่ยมกะทันหันของผู้อาวุโสวิหารทำให้เมลิซซารู้สึกสับสน  แต่การทักทายอย่างจริงใจทำให้เมลิซซาสับสนมากยิ่งขึ้น
 เราเคยมีปฏิสัมพันธ์กับวิหารมาก่อน  แต่กับการมาเยี่ยมของผู้อาวุโสเล่า?  พวกเขาพยายามจะทำอะไร?  พวกเขามักส่งคนมาหลายคนเสมอ  แต่ตอนนี้ กลับเป็นคนที่สำคัญมาเอง!’
ถ้าเป็นวันปกติ  เมลิซซาคงจะรู้สึกอึดอัด  แต่นางรู้สึกตื้นตันที่ได้รับการโปรดปรานจากพวกเขา  แต่ปัจจุบันนี้นางช่วยเจ้านายถังเทียนเจาะกำแพงเข้าไปในวิหาร  พวกเขารู้สึกอะไรบางอย่างที่เป็นเหตุผลให้พวกเขาต้องมาหาเรา? 
เมลิซซากังวลมากขึ้น  แต่นางยังคงยิ้ม  “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ผู้อาวุโสซีอุสมาด้วยตนเอง  การมาของท่านนำแสงสว่างมาให้ที่อยู่อันต่ำต้อยของข้า  ทำไมท่านไม่พูดถึงวัตถุประสงค์การมาของท่านเล่า  เราจะมองไปข้างหน้าเพื่อให้วิหารช่วยนำแสงสว่างมาให้ธุรกิจของตระกูลน้อยๆ ของเราอยู่เสมอ”
ซีอุสหัวเราะ  “งั้นข้าจะต้องมาให้บ่อยขึ้นเสียแล้ว”
เมื่อเข้ามาในประตู  เขาประเมินเมลิซซาอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าเขาจะมองยังไง  เขาไม่ไม่สามารถเห็นความผิดปกติใดๆ  แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันก่อน  เขารีบเปลี่ยนทัศนคติ และใจของเขาเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
เขาปรากฏตัวในเวลาที่เหมาะ
โซเฟียนำอัศวินพิเศษกวงหมิงกวาดล้างค่ายทหารตระกูลชิว ทั้งสองฝ่ายกลายเป็นศัตรูต่อกันเหมือนน้ำกับไฟ  และไม่มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกลับมาคืนดีได้ต่อไป  เพราะห้าตระกูลชั้นสูงก็วางแผนเพื่ออำนาจ ทำให้วิหารโกรธมาก
วิหารต้องการลงมือกับตระกูลชิว ดังนั้นซีอุสจึงถูกส่งไปดำเนินการ
แน่นอนว่าการโต้ตอบของวิหารไม่เพียงแต่ทำลายตระกูลชิวเท่านั้น ดังนั้นซีอุสแบกความรับผิดชอบไว้บนหลังของเขามากขึ้น
เมื่อประมุขผู้อาวุโสตัดสินใจ  ทั่วทั้งวิหารจะทำตามอย่างเต็มกำลัง  ทั่วทั้งวิหารร่วมมือสู้กับศัตรูเหมือนกัน ขณะที่อำนาจของวิหารไม่เคยถูกท้าทายมาก่อน
เมื่อซีอุสเห็นการกำจัดกองพลตระกูลชิวกับตาตนเอง  เขาได้รับผลกระทบใหญ่  และไม่อาจสงบใจลงได้เมื่อเขามาถึงกลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์  เขายังถูกความตกใจเรื่องตระกูลชิวปกปิดพลังของชิวเทียนชิงครอบงำ  ถ้าเขาทำการตามแผนและลงมือกับตระกูลชิว  พวกเขาคงได้เจ็บตัวกันหนัก
เมื่อคิดถึงโซ่ที่ห้อยลงมาจากท้องฟ้า เซอุสยังคงสั่นสะท้าน  ดูเหมือนมีเพียงคนเดียวในวิหารที่สามารถรับมือโซ่เหล่านั้นได้ก็คือโซเฟีย
 โชคดีที่กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ปะทะกับพวกเขาก่อน และช่วยวิหารให้พ้นจากปัญหาใหญ่
 มิน่าเล่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่ยอมเห็นแก่หน้าตระกูลชิว  พวกเขาเองก็มีไพ่ที่ทรงอำนาจเอาไว้เล่นเช่นกัน  และไม่กลัวตระกูลชิวเลยแม้แต่น้อย  ตระกูลชิวอาจนับได้ว่าโชคร้าย ทำให้ผู้อาวุโสซีอุสฉลองกับภัยพิบัติของพวกเขา
ซีอุสตัดสินใจผูกสัมพันธ์กับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  ด้วยพลังต่อสู้ที่ทรงอำนาจขนาดนั้น ถือว่ามีระดับเพียงพอ  ขุนพลวิญญาณชั้นพลเอกที่สามารถฉีกมิติได้ทรงพลังจริงๆ  ไม่ต้องคำนึงถึงความจริงที่ว่าพวกเขาอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  แม้ว่าจะเป็นวันธรรมดา  วิหารคงยินดีจ่ายเพื่อให้ได้พลังนั้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ซีอุสถามอย่างกระตือรือร้นทันที  “ข้าจะขอพบกับผู้อาวุโสซิ่นได้ไหม?”
เมลิซซาลอบตกใจ แต่ก็สงบใจได้ น้ำเสียงการพูดและทัศนคติของอีกฝ่ายไม่ได้มาหาเรื่อง ตอนนี้ ทำไมพวกเขามาที่นี่เพื่อหาผู้อาวุซิ่น?  เมลิซซาคิดเรื่องนั้น  หัวหลี่รั่วดูเหมือนจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับผู้อาวุโสซิ่นเช่นกัน  แต่เรากลับให้ความสนใจไปที่กองพลหน้ากากเหล็ก'
 “ผู้อาวุโสซิ่น?”  เมลิซซามีสีหน้าสงสัย  ดูเมหมือนว่าข้าไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย  นางคาดเดาอายุของซีอุส  จากที่เขาเรียกใครบางคนว่าเป็นผู้อาวุโส  ผู้นั้นจะต้องเป็นคนแก่ชราผมหงอก
 แต่ฝ่ายนายท่านไม่มีคนแก่ที่แข็งแกร่งทรงพลังอยู่เลย
 “ถูกแล้ว  ข้าซีอุสได้เห็นพลังของผู้อาวุโสซิ่น และชื่นชมผู้อาวุโสซิ่นจริงๆ  ข้าบากหน้ามาที่นี่ หวังว่าคุณหนูเมลิซซาจะไม่กีดกันหรอกนะ”  ซีอุสหัวเราะ
เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าหัวหลี่รั่วอยู่ข้างๆ หน้าของเขาบึ้งตึง
 “แต่ไม่มีผู้อาวุโสที่ชื่อซิ่นในสาขาของข้าเลย”  เมลิซซามีสีหน้าสงสัย  “ข้าไม่แน่ใจว่าท่านไปได้ยินชื่อผู้อาวุโสซิ่นจากที่ใด?  ข้าคิดว่าคงมีคนเข้าใจผิด"
 “เป็นไปไม่ได้!
เสียงทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน
ใจของซีอุสเครียด  เมื่อเขาเข้ามา  เขาไม่สังเกตเลยว่ายังมีคนอื่นอีก!
เขาหันหน้าไปดู  และเมื่อเขาเห็นว่าเป็นใคร  รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปทันที  “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าแม่ทัพหัวจะมาที่นี่ด้วย”
ซีอุสเชิดหน้าทันที  และพูดต่อ  “กลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นตระกูลที่ทวีปกวงหมิงของข้าจะขาดไปไม่ได้  ใครก็ตามที่ต่อต้านกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ ก็ถือว่าต่อต้านวิหารไปด้วย”
หัวหลี่รั่วไม่กลัวขณะที่เขาแค่นเสียง  “กลุ่มการค้าเมซฟิลด์คือสหายตลอดกาลของตระกูลหัวของข้า สำหรับวิหาร  ท่านแค่เป็นตัวแทนของวิหารคนเดียวเท่านั้น!
 “สหาย?”  ซีอุสตอบ  “ข้าคิดว่าไม่  ใครกันที่ช่วยตระกูลชิวสู้กับผู้อาวุโสซิ่น?”
หัวหลี่รั่วแค่เสียง  “น่าขัน!  ตระกูลหัวของข้าลงมือตั้งแต่เมื่อไหร่?  ผู้อาวุโสซีอุสแก่แล้ว และหูไม่ดี เป็นธรรมดาที่ท่านจะเข้าใจผิด”
ซีอุสหัวเราะ  “ถ้าข้าจำได้ไม่ผิด  ตระกูลชิวเป็นพันธมิตรกับตระกูลหัว  ตระกูลหัวปฏิบัติต่อพันธมิตรของตนเองอย่างนั้นหรือ?  เจ้าเลือดเย็นจริงๆ”
หน้าของหัวหลี่รั่วเขียวคล้ำ  แค่เมื่อทุกคนคิดว่าเขาเตรียมระเบิดอารมณ์  เขาหัวเราะทันที  “เลือดเย็น?  ใครจะเทียบได้กับวิหารเมื่อว่ากันถึงเรื่องความเลือดเย็น?  พันธมิตรทั้งหมดปีกลายอยู่ที่ไหนเล่า?   รสชาติของคนที่ก่อกบฏและการต้องแตกจากสหายคงไม่ดีแน่”
เมลิซซาอยู่ในอาการตะลึง  ขณะที่นางดูทั้งสองคนเถียงกันคอเป็นเอ็น  หน้าของนางเหม่อมอง
 นี่...เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

8 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้าาา

แอบอ่าน กล่าวว่า...

สงสารนางบอกนางหน่อย

สมประสงค์ อินทรกำแหง กล่าวว่า...

อ่านไปอ่านมาเหมือนวิหารก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แค่ทะเยอทะยานมากไปหน่อย

Neoplasm24 กล่าวว่า...

เดวนางจะช๊อค ตอนที่รู้ว่าทั้ง2คน ขอมาซูฮกนาง ฮ่าๆ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น