วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 912 แววตกต่ำของวิหาร


ตอนที่  912  แววตกต่ำของวิหาร
 “ถึงเวลาหงายไพ่ของเราบนโต๊ะแล้ว”  หัวหลิวซางมองเมืองหิมะขาวที่อยู่ห่างไกล  หน้าของเขามีแววจริงจัง  “ถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เลือกเข้าร่วมกับวิหาร  เราจะใช้มาตรการอะไรจัดการ?”

ตาของทุกคนหันไปมองซาดรา  เขาคือผู้นำของกลุ่มพันธมิตรอย่างชัดเจน
 “อย่างนั้นเราจะทำลายพวกเขา”  ซาดราพูดโดยไม่ลังเล  เขาพูดอย่างใจเย็น  “เราจะทุ่มเทกำลังของเราเต็มที่ทำลายพวกเขา”
ทุกคนพยักหน้าของพวกเขา  ถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เลือกวิหาร  พวกเขาจะเป็นภัยคุกคามต่อสี่ตระกูลใหญ่อย่างใหญ่หลวง  และไม่ว่าพวกเขาจะต้องทุ่มเทกำลังมากมายเพียงใด  พวกเขาต้องทำลายกลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์ให้ได้
ดังนั้น พวกเขาจึงนำกองทัพของพวกเขา กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของสี่ตระกูลใหญ่ มาควบคุมเมืองหิมะขาว
เมืองหิมะขาวถูกวางกำลังไว้และตกอยู่ในสภาพกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก  อำนาจของสี่ตระกูลใหญ่ครอบคลุมท้องฟ้าทวีปเซียน
เทียบกับพฤติกรรมที่บีบบังคับของตระกูลชั้นสูงแล้ว  การกระทำของวิหารดูเหมือนอ่อนแอกว่ามาก  การกระทำของโซเฟียที่กวาดล้างค่ายตระกูลชิวด้วยกองอัศวินกวงหมิง ไม่ใช่แค่เรื่องระบายความโกรธของนาง  เกือบทั้งหมดของผู้อาวุโสของวิหารถูกระดมเรียกตัวมาทั้งหมด  พวกเขาถูกส่งไปยังสถานที่ต่างของทวีปเซียนเพื่อสร้างการเชื่อมโยงกับกองทัพต่างๆ และเตรียมพร้อมสำหรับความพยายามสุดท้ายของพวกเขา
แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นก็คือสัตว์ร้ายที่ดิ้นรนพยายามเป็นครั้งสุดท้าย  ประมุขตระกูลใหม่ทั้งหมดผู้ถูกถามหาต่างก็รับคำ  แต่ในความเป็นจริง กลับย่อหย่อนในการกระทำ
วิหารมีอำนาจต่อรองน้อยเกินไปจริงๆ  นอกจากอัศวินกวงหมิงแล้ว  พวกเขาไม่มีอะไร  เจียย่าประจำการอยู่ที่ทวีปเว่ยเย่กวน  และไม่ชัดเจนว่ามู่จื่อเสียตายแล้วหรือว่ายังอยู่ และกองทัพหลวงของวิหารก็อยู่ในภูมิภาคใต้ทั้งหมด  สำหรับนายพลโทของทวีปกวงหมิง  พวกเขาล้วนโยงใยเกี่ยวข้องกับตระกูลชั้นสูงในหลายทาง และทัศนคติของพวกเขายังคลุมเครือ
วิหารที่ทรงอำนาจสามารถพึ่งพาได้แต่เพียงตระกูลชั้นสูงใหม่  แต่การเพิ่มขึ้นของตระกูลชั้นสูงใหม่ซึ่งเป็นเรื่องที่หละหลวมและซับซ้อนยังคงมีความคิดที่ซ่อนเร้น  กองทัพของพวกเขาอ่อนแอและพวกเขายังขาดความน่าเชื่อถือ  สิ่งที่ร้ายแรงมากกว่าก็คือ พวกเขากังวลกับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของวิหาร
หลายๆ ตระกูลชั้นสูงใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาลอบก่อตั้งความเป็นพันธมิตรกับสี่ตระกูลชั้นสูง
แม้จะรู้ความจริงว่าอาจเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับพวกเขาถ้าตระกูลชั้นสูงชนะ  แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะสามารถรอดอยู่ได้โดยยืนเคียงข้างผู้ชนะ
ความขัดแย้งกันระหว่างตระกูลชั้นสูงได้เพิ่มขึ้นและการเอาใจออกห่างและอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับวิหารไม่ใช่เรื่องลับอีกต่อไป
วิหารตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย  เนื่องจากพวกเขาตกต่ำลงทุกที
วิหารมีแนวโน้มตกต่ำ แต่ยังได้เปรียบตระกูลระดับสูงเอาชนะใจกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ได้หรือ?
การตกต่ำครั้งนี้ขนาดที่ผู้อาวุโสซีอุสถึงกับปรากฏตัวในเมืองหิมะขาวตามลำพัง
บนถนนว่างเปล่า ร่างเดียวดายของผู้อาวุโสซีอุสมองเยือกเย็น  ไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่หนาแน่นรอบตัวเขา  ไม่มีพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่  ไม่มีคนมายืนคำนับเขาหรือมีแสงฉายลงมาที่ตัวเขา
ทุกคนที่ได้เห็นภาพเช่นนี้ก็คงรู้สึกท้อแท้
เป็นวิหารที่สร้างทวีปกวงหมิง  วิหารที่ดำรงตำแหน่งถืออำนาจปกครองโดยไม่ถูกทำลายมานานหลายปี  ดูเหมือนว่าจะพังทลายลงเหมือนตึกในชั่วค่ำคืน
ในท้องฟ้าโฮลอดยิ้มอย่างช่วยไม่ได้  “วิหารรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถชิงคนไปจากเราได้ และส่งซีอุสมาเพียงลำพัง
หัวหลิวซางและม่ออี้กู่ยิ้ม  พลังของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ลึกล้ำยากจะหยั่ง  เว้นแต่พวกเขาถูกบังคับ พวกเขาจะไม่มีทางทำสงครามกับพวกเขา  และถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เข้าร่วมเป็นพันธมิตร  การล่มสลายของวิหารจะเป็นเรื่องของเวลา
ตาของซาดราเป็นประกายดูจริงจัง  “อย่าประมาท”
ม่ออี้กู่หยิ่งผยอง  “ท่านยังคิดว่าวิหารยังจะมีกลอุบายอย่างอื่นอีกหรือ?”
 “ฮ้า!” หัวหลิวซางมีสีหน้าเหยียดหยาม  “วิหารจบสิ้นแล้ว  เวลาของพวกเขามาถึงแล้ว ดูซีอุสที่เงียบปิดปากไม่พูดแล้ว ตอนนี้ข้ารู้สึกดีใจจริงๆ  ปกติเขามักจะหยิ่งยโส เขากับวิหารก็เหมือนกันนั่นแหละ”
ซาดราส่ายศีรษะ “พวกเจ้าทุกคนลืมไปคนหนึ่ง”
โฮลสะดุดเล็กน้อย จากนั้นถาม “ประมุขผู้อาวุโสหรือ?”
หัวหลิวซางยิ้มแหยๆ เขาฝืนตัวยิ้ม  “พวกเจ้าก็คิดมากเกินไป  ประมุขผู้อาวุโสทรงพลังมาก  ข้ายอมรับเรื่องนั้น  แต่ข้าไม่เชื่อว่าแค่ลำพังประมุขผู้อาวุโสจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมดได้”
ม่ออี้กู่พยักหน้า  “ถูกแล้ว  แม่ครัวที่ฉลาดที่สุดย่อมไม่ทำอาหารโดยไม่มีข้าว เขาไม่มีไพ่ไว้เล่น แล้วเขาจะสู้ได้ยังไง?”
ซาดราพูดอย่างเฉื่อยชา  “หวังว่าข้าคงจะคิดมากไป”
ความกังวลของเขาไม่เพียงแต่ไม่ลดลง  แต่ยังเพิ่มขึ้น  เขาแตกต่างจากพวกที่เหลือ  เนื่องจากเขารู้สึกประมุขผู้อาวุโสมาก่อน  และมีความเข้าใจต่อประมุขผู้อาวุโสอย่างลึกซึ้ง  เขารู้ว่าประมุขผู้อาวุโสทรงพลังแค่ไหน  แม้ว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวบ่อยนักก็ตาม
ตั้งแต่เริ่มต้น ซาดรากังวลถึงประมุขผู้อาวุโสเป็นที่สุด  คนที่ไม่เคยมีความรู้สึกว่ามีความคงอยู่ และไม่ใช่โซเฟีย หรืออัศวินกวงหมิง
แต่เขารู้ว่าไม่มีประโยชน์กับการพูดมากเกินไป และเขาทำได้แต่เพียงระมัดระวัง  การวิเคราะห์สถานการณ์ต่อหน้าเขา  แม้ว่าจะรอบคอบและมองการณ์ไกลแล้วก็ตาม  แต่เขาไม่สามารถคิดออกว่าวิหารจะกลับมาได้อย่างไร  แต่เขารู้ว่าประมุขผู้อาวุโสไม่ใช่คนที่ยอมแพ้หรือยอมรับความพ่ายแพ้
โฮลเลิกดีใจและกล่าว  “ข้าจะไปทดสอบเขาดู”
ไม่มีในพวกเขาที่เป็นคนธรรมดา และพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่อาจประมาทได้จนกว่าทุกอย่างจะจบลง  การสู้รบจะเป็นตัวกำหนดว่าตระกูลของพวกเขาจะอยู่หรือตาย  ถ้าพวกเขาชนะ  พวกเขาจะกลายเป็นเจ้าทวีปกวงหมิงอย่างแท้จริง  และถ้าพวกเขาแพ้  ตระกูลของพวกเขาจะติดตามพวกเขาดิ่งเหวจมสู่การสาปแช่งนิรันดร์
ซีอุสเดินไปตามถนน  เขากลัว เมืองหิมะขาวถูกศัตรูครอบครอง  และเขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนลูกแกะที่เดินเข้าถ้ำเสือ  แต่เขาต้องทำให้ได้  เพราะเป็นคำสั่งของประมุขผู้อาวุโส
เขายังคงเค้นสมองของเขาต่อเนื่อง  แต่ไม่สามารถเข้าใจความหมายของประมุขผู้อาวุโส  แม้ว่าเขาเขาจะโน้มน้าวให้กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ให้ร่วมกับวิหาร  ศัตรูก็จะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
นอกจากนี้ ซีอุสไม่มีความมั่นใจในเงื่อนไขที่พวกเขาสามารถเสนอได้  เขาไม่เข้าใจคำสั่งของประมุขผู้อาวุโสแม้แต่น้อย ทางวิหารได้ระดมสถานที่ต่างของทวีปเซียนตามคำสั่งของประมุขผู้อาวุโส ซีอุสเห็นว่าเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ซึ่งมีแต่จะทำให้คนอื่นเห็นว่าวิหารสูญเสียการควบคุมสถานการณ์เพียงไหน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการกระทำอย่างนั้น นั่นคล้ายกับกางข่าย  ซีอุสคิดว่าพวกเขาอาจพิจารณาทุ่มกำลังโจมตีและทำลายกตรกูลกลุ่มการค้าเมซฟิลด์
 กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ก็คือทุนต่อรองสุดท้ายที่ข้าสามารถได้
แต่ประมุขผู้อาวุโสไม่สนใจคำแนะนำของเขา และยังคงดื้อรั้น
ซีอุสเต็มไปด้วยความเศร้าใจ  เขารู้สึกว่าวิหารตกอยู่ในอันตรายจริงๆ  บางทีครั้งนี้ หรือว่าข้าจะตายในเมืองหิมะขาว เขาเต็มไปด้วยอารมณ์แง่ลบ
ทันใดนั้น ตาของเขางุนงง ร่างๆ หนึ่งปรากฎตัวขวางทางเขาไว้
เขาเงยหน้าและจำได้ว่าเป็นโฮล
โฮลหัวเราะ  “ทำไมผู้อาวุโสถึงมาที่นี่ตามลำพังเล่า  หรือว่าวิหารไม่กังวลห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้อาวุโสซีอุส?  หรือว่าท่านคิดว่าดาบในมือของเราไม่คมพอ? และเราไม่สามารถตัดศีรษะของผู้อาวุโสได้?”
ซีอุสทิ้งอารมณ์แง่ลบทั้งหมดออกไปจากใจและพูดอย่างสงบ  “ไม่ว่าเจ้าจะสามารถฆ่าข้าได้หรือไม่ รอจนกว่าข้าพบกับผู้อาวุโสซิ่นก่อน  ข้าเชื่อว่าผู้อาวุโสซิ่นมีการตัดสินใจที่ถูกต้องเอง”
โฮลแค่นเสียง  “ดูจากท่าทางของท่าน  ท่านไม่ได้ต้องการมาพบผู้อาวุโสซิ่นเลย”
ซีอุสหัวเราะ  “หรือว่าเจ้าสามารถทำการตัดสินใจแทนผู้อาวุโสซิ่นได้?  ข้าว่าผู้อาวุโสซิ่นคงเห็นด้วยกระมัง”
โฮลสะดุ้ง  เขามีความกลัวผู้อาวุโสซิ่นอย่างมาก เขาไม่กล้าขวางซีอุสและห้ามเขาไม่ให้พบกับผู้อาวุโสซิ่น
คำพูดของผู้อาวุโสซิ่นและความตั้งใจของเขาชัดเจน เขาต้องการให้พวกเขาเตรียมคุณค่าพร้อมกัน  ในสถานการณ์ที่เขาได้เปรียบ   เป็นเรื่องไร้เหตุผลมากกับการตอแยผู้อาวุโสซิ่นและกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  นอกจากนี้ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น  โฮลไม่เชื่อว่าวิหารจะยื่นข้อเสนออะไรที่ดีกว่าพวกเขา
การมาโดยลำพังของซีอุสคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด
โฮลเปิดทางให้ และแสดงท่าทางสุภาพ  “เราไปด้วยกัน”
ซีอุสสูดหายใจลึก จากนั้นเดินต่อ
***************

กลุ่มการค้าเมซฟิลด์
จี๋เจ๋อมองอาซิ่นด้วยสายตาเหลือเชื่อ  “เจ้าหยุดทำตัวแบบนี้ได้ไหม? เจ้าอย่าทำตัวเหลวไหลในช่วงเวลาสำคัญแบบนั้นดีกว่า คุณหนูเสี่ยวม่านคงไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
เสี่ยวม่านที่มุมห้องแค่นเสียง  แต่นางพอใจกับคำว่า “คุณหนูเสี่ยวม่าน” ของจี๋เจ๋ออย่างเห็นได้ชัด
อาซิ่นมองดูจี๋เจ๋ออย่างเหยียดหยาม “เจ้าคิดแทนข้าหรือ?  มา มาเรียกข้าว่าผู้อาวุโสซิ่นอย่างว่าง่ายเสียดีๆ”
จี๋เจ๋อแค่นเสียงจากนั้นเบนหน้าหนี  “คุณหนูเสี่ยวม่าน เขาให้ข้าเรียกเขาว่าผู้อาวุโส”
เสี่ยวม่านจ้องมองอาซิ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
อาซิ่นตะลึง  เขาตะลึงกับความหน้าด้านของจี๋เจ๋อ ที่สามารถใช้คำพูดเหล่านั้นออกมาได้...
ถังเทียนและเชียนฮุ่ยนั่งอยู่ที่มุมด้านหนึ่งมองดูทั้งสามอย่างมีความสุข เชียนฮุ่ยหัวเราะ  แต่รอยยิ้มของนางหายไปทันที ขณะที่นางพูดขึ้นด้วยความกังวล  “พี่เทียน, ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”
 “บางอย่างผิดปกติ?”  ถังเทียนให้ความสนใจนางทันที  เขาถาม  “มีอะไรผิดปกติ?”
ถังเทียนเชื่อใจการตัดสินใจของเชียนฮุ่ย   เขารู้ว่าเชียนฮุ่ยมีสติปัญญาฉลาดกว่าเขามาก
พวกที่เหลือหยุดหยอกล้อและมองดูเชียนฮุ่ย
เชียนฮุ่ยไม่ตอบถังเทียน  แต่หันไปถามเมลิซซา  “คุณหนูเมลิซซา, อาคันตุกะที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้เป็นทางวิหารมากกว่าหรือว่าตระกูลชั้นสูง?”
เมลิซซาตกใจ  นางสนองตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปนับสถิติเดี๋ยวนี้”
มีลูกค้าหลายคนในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจดีจนเหนื่อยกับการจัดการรับมือ
หลังจากนั้นไม่นานเมลิซซากลับมา  นางมีสีหน้าสับสน “นายท่าน, คุณหนูเชียนฮุ่ย, เราได้บันทึกไว้ มีลูกค้าฝั่งพันธมิตรตระกูลชั้นสูงมากกว่า น่าจะราวๆ 60%
 “วิหารตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ  ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเนื่องมาจากหลายเหตุผล  ดังนั้นวิหารและพันธมิตรตระกูลชั้นสูงจึงต้องการเรา  และตามเหตุผล วิหารต้องการเรามากกว่า  แต่ทำไมยังมีอาคันตุกะจากพันธมิตรตระกูลชั้นสูงมากกว่า  มันแปลกไม่ใช่หรือ?”  เชียนฮุ่ยให้ความสนใจปัญหาทันที
เมื่อเชียนฮุ่ยเอาปัญหาออกมาพูดอย่างชัดเจน  ถังเทียนจึงได้ตระหนัก และสับสน  “นั่นก็ถูก  พวกเขาไม่กังวลหรือไง?”
 “วิหารทำตัวแปลกเมื่อเร็วๆ นี้  พวกเขาทำอยู่เพียงเรื่องเดียว”  เชียนฮุ่ยเสริม  “พวกเขาแยกย้ายพวกผู้อาวุโสทั้งหมด  ผู้อาวุโสทั้งหมดไปพบกับตระกูลต่างๆ  แต่พวกเขาดูเหมือนไม่ใส่ใจถึงผลการปฏิบัติงาน  ข้าสังเกตว่าสถานที่ซึ่งผู้อาวุโสวิหารแยกย้ายกันไปก็ไม่มีกองทัพอยู่ที่นั่น”
 “พวกเขาพยายามจะรับทุกคนเนื่องจากพวกเขาอยู่ในวิกฤติหรือเปล่า”  ฝูเจิ้งจือถาม
 “ไม่, มีบางอย่างผิดปกติ”  อาซิ่นสีหน้าจริงจังขณะที่เขาส่ายศีรษะ
ในบรรดาพวกเขา นอกจากเชียนฮุ่ย คนที่ฉลาดที่สุดก็คืออาซิ่น  เขายังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ  และมีอันตรายแอบแฝงซุ่มซ่อนอยู่ในอากาศ
 “วิหารถือครองอำนาจปกครองทวีปกวงหมิงมานานมาก  แต่การตอบโต้นั่นของพวกเขา มันอ่อนแอไปหน่อยไม่ใช่หรือ?”
หน้าของเชียนฮุ่ยดูเหมือนมีแสงเปล่งออกที่สามารถมองหลายอย่างออก ทำให้นางได้รับความเคารพนับถือ  ขณะนั้นทุกคนจำฉายานางได้  เทพธิดาสงคราม
 “ดูเหมือนเราจำเป็นต้องคลี่คลายความลึกลับให้ได้ในวันนี้”  ถังเทียนพึมพำ  ดวงตาของเขาเป็นประกายแวววาว

7 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

โคตรหัวหน้า จะโชว์ฝีมือละเว้ย

Unknown กล่าวว่า...

ผมจับจุดได้ละ ผู้แต่งแม่มกลัวเมีย

Re กล่าวว่า...

555555

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ท่าจะจริง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น