เล่ม 13 เกบาโดส – ตอนที่ 36 ความลับ
หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน เนื่องจากเขาจำสิ่งที่มูบาเคยบอกเขาไว้แต่เดิม...
“ลินลี่ย์,
เจ้าเมืองบลูไฟร์คือหนึ่งในห้าราชันย์
ลอร์ดบลูไฟร์! ลอร์ดบลูไฟร์ลึกลับมาก ไม่เพียงแต่เขาจะทรงพลังมากเท่านั้น แต่เขาแทบไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็น
ไม่แน่ใจว่าเขายังพำนักอยู่ในเมืองบลูไฟร์หรือไม่
ภายในเมืองบลูไฟร์ คนที่มีชื่อเสียงและอำนาจเป็นรองเพียงลอร์ดบลูไฟร์ก็คือ
ลอร์ดแอดกินส์”
ลินลี่ย์มองดูลีย์ลินที่อยู่ใกล้ๆ
“เขา...เขาคือบลูไฟร์ หนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดสจริงๆ
หรือนี่?”
เป็นเรื่องยากจะบอกกล่าวว่าพิภพเกบาโดสมีอยู่มานานเท่าใดแล้ว ภายในเกบาโดส จำนวนของเทพมีนับไม่ถ้วน
อย่างไรก็ตามมีคนอยู่ห้าคนที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดได้รับการเทิดทูนในฐานะ ‘ราชันย์’ การได้ฉายาราชันย์ในดินแดนจองจำ.. ใครก็ตามที่มีสามัญสำนึกก็จะเข้าใจว่าคนเช่นนั้นจะต้องทรงพลังเพียงไหน
“แอดกินส์,
ลุกขึ้น เราทั้งสองออกจากเกบาโดสแล้ว และข้าไม่ได้เป็นเจ้าเมืองบลูไฟร์อีกต่อไปแล้ว
ไม่จำเป็นที่เจ้าต้องเรียกข้าว่าเจ้าเมืองอีกต่อไป” ลีย์ลินพูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น
แอดกินส์ยืนขึ้นอย่างเคารพและกล่าว “ขอรับ,
แต่ความเคารพที่แอดกินส์มีต่อท่านเจ้าเมืองบลูไฟร์จะไม่มีวันเปลี่ยน” ขณะเดียวกัน
บาร์นาสเพียงแต่ยืนอยู่ข้างหนึ่งด้วยความเคารพ
ชื่อเสียงของบลูไฟร์น่าทึ่งและน่ากลัวเกินไป
ห้าราชันย์ไร้เทียมทานและน่ากลัว
“ท่าน...ท่านคือบลูไฟร์หรือ?” บีบีมองดูลีย์ลินด้วยความประหลาดใจ
“อะไรกัน
ข้าดูไม่เหมือนเหรอ?”
ลีย์ลินเลิกคิ้วสีแดงและเขาหัวเราะให้บีบี
บีบีพึมพำ
“ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่, ข้าได้ยินพี่ใหญ่บอกว่าบลูไฟร์คือหนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดส เนื่องจากเขาทรงพลังมาก ข้าเห็นว่าบริวารของเขาคงจะเป็นเทพชั้นสูง นอกจากนี้... ข้าคิดว่าบลูไฟร์จะเป็นชื่อของเขาเสียอีก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า....”
ลีย์ลินเริ่มหัวเราะลั่น
“ทำไมข้าบลูไฟร์จะต้องมีเทพชั้นสูงเป็นบริวารโดยไม่จำเป็นด้วยเล่า?
หรือว่านั่นเป็นเพียงวิธีเดียวที่ข้าสามารถใช้ยืนยันสถานะตัวข้า?”
แอดกินส์ถอยมายืนด้านข้างและหัวเราะกล่าวด้วยความเคารพ
“ทำไมลอร์ดบลูไฟร์จะต้องการบริวารด้วยเล่า?
ต่อให้มีกลุ่มเทพชั้นสูงมาอยู่ต่อหน้าลอร์ดบลูไฟร์ พวกเขาก็มีกันไม่มาก” นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ห้าราชันย์เกบาโดสเอาชนะและพิสูจน์พลังตนเองผ่านการประหัตประหาร
แม้แต่ในบรรดาห้าราชันย์
ลอร์ดบลูไฟร์ก็ยังใช้เวลาฝึกฝนที่สั้นที่สุด
เขาเป็นผู้ที่มีรูปร่างเด่นสะดุดตาที่สุด
บลูไฟร์ มีชื่อว่า แซ็คคาเรียส
ลีย์ลินผุดขึ้นมาอย่างโดดเด่นในพิภพจองจำ เอาชนะได้ทุกศึกที่เขาต่อสู้ แม้แต่เทพชั้นสูงที่ทรงพลังที่สุด
เมื่ออยู่ต่อหน้าบลูไฟร์ก็ต้องก้มหัวยอมรับสภาพตนเอง
สำหรับวันนี้ไม่มีใครสามารถต้านทานพลังโจมตีของลอร์ดบลูไฟร์ได้
“บลูไฟร์ไม่มีอะไรมากไปกว่าฉายา” ลีย์ลินหัวเราะอย่างใจเย็น
แต่แอดกินส์กล่าว
“ชื่อบลูไฟร์
เป็นชื่อที่ได้มาเนื่องจากการประหัตประหารนับไม่ถ้วนที่ท่านเข้าร่วมสู้
ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนทั่วทั้งเกบาโดสรู้จักและยอมรับ
ใครบ้างในเกบาโดสไม่เคยได้ยินการสู้รบที่แม่น้ำบลู?”
ลีย์ลินยังคงหัวเราะ
ไม่ว่าแอดกินส์จะหยิ่งเพียงไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลีย์ลิน
เขาต้องนอบน้อมตัว
นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าความเป็นจริง!
แอดกินส์เมื่อเผชิญหน้ากับลีย์ลินไม่มีความคิดแม้แต่จะต่อต้านเขาแม้แต่น้อย!
เพราะแอดกินส์รู้ว่าเขาไม่สามารถรับพลังโจมตีของบลูไฟร์ได้แม้แต่ท่าเดียว!
การสู้รบที่แม่น้ำบลูคือสิ่งที่สร้างชื่อให้กับ ‘บลูไฟร์’
นอกจากนี้ยังสร้างความหวาดกลัวให้กับคนนับไม่ถ้วน หลายๆ คนยังเชื่อกระทั่งว่าบลูไฟร์เป็นนักสู้ทรงพลังที่สุดในห้าราชันย์ แต่แน่นอนว่านี่ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ เพราะเกบาโดสกว้างใหญ่ไพศาลมาก และห้าราชันย์ก็แยกกันอยู่ในดินแดนของตน
นอกจากนี้พวกเขายังตั้งใจหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกัน ที่สำคัญ ไม่มีสมบัติในเกบาโดสคุ้มค่าให้พวกเขาต้องต่อสู้เอาชนะกันและกัน
“นี่คือสุดยอดฝีมือที่แท้จริง!” หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความเลื่อมใสต่อลีย์ลินผู้นี้อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันขณะเดียวกันก็รู้สึกร้อนรุ่มในใจของเขา
แม้แต่แอดกินส์ก็ยังกริ่งเกรงและแสดงความเคารพต่อหน้าลีย์ลินที่สามารถเป็นนักสู้สุดยอดในเกบาโดส
“แอดกินส์! อย่าเอาแต่ยืนอยู่เลย มานั่งเถอะ
เจ้าไปนั่งข้างลินลี่ย์ก็ได้”
ลีย์ลินชี้ขณะที่เขาพูด
เป็นธรรมดาที่แอดกินส์ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของลีย์ลิน เขาคำนับด้วยความเคารพทันที “ขอบคุณลอร์ดบลูไฟร์” และจากนั้นเขานั่งลงข้างลินลี่ย์
ขณะที่ยิ้มให้ลินลี่ย์อย่างเป็นมิตร
ลินลี่ย์ได้แต่ยิ้มตอบรับเช่นกัน
“ฮึ” บีบีที่อยู่ข้างๆ ลินลี่ย์แค่นเสียงเย็นชา
แอดกินส์เลิกคิ้วทันที เขาชำเลืองมองบีบี
และจากนั้นก็หัวเราะทันที “นี่ต้องเป็นบีบีแน่”
บีบีตอบรับแบบกระด้าง แต่แอดกินส์ไม่ถือสา
เขาหัวเราะพลางกล่าว “บีบี,
ข้ารู้ว่าเจ้าค่อนข้างไม่พอใจ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นความผิดคนของข้าเอง”
ลินลี่ย์และบีบีชำเลืองมองแอดกินส์อย่างค่อนข้างประหลาดใจ
“เกิดอะไรขึ้นหรือ แอดกินส์?” ลีย์ลินถาม
แอดกินส์ยิ้มและกล่าว
“ลอร์ดบลูไฟร์! นี่ความเป็นปัญหาเล็กน้อย
บริวารของข้าเทพชื่อโอจวินมีความแค้นเล็กน้อยกับสหายของลินลี่ย์ผู้นี้ หลังจากนั้นโอจวินก็เชื้อเชิญเทพแท้ที่เป็นบริวารของข้าไปยังที่พำนักของลินลี่ย์เพื่อล้างแค้น อย่างไรก็ตาม
ในที่สุดเป็นฝ่ายข้าที่ประสบความสูญเสียพ่ายแพ้”
“โอว?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลีย์ลินรู้สึกทึ่งเล็กน้อยเช่นกัน
ลินลี่ย์กับบีบีมองหน้ากันเอง
“พี่ใหญ่,
ดูเหมือนว่าแอดกินส์ผู้นี้ต้องการจะขอโทษใช่ไหม?”
บีบีพูดทางใจกับลินลี่ย์
“ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ลินลี่ย์ยังคงงงอยู่
ที่สำคัญแอดกินส์เป็นเทพชั้นสูง เขาจะยอมขอโทษหรือ?
“บาร์นาส มาตรงนี้” แอดกินส์กล่าว
“แม้ว่าท่านจะสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไประหว่างสู้รบ
แต่ที่สำคัญคือเจ้ากับคนของเจ้าเป็นผู้ต่อสู้
ถ้าเราคิดๆ ดูแล้ว ก็นับว่าเป็นความผิดของกลุ่มของเจ้า
ไปขอโทษลินลี่ย์กับบีบีเถอะ”
ลินลี่ย์กับบีบีสะดุ้ง
บาร์นาสเข้ามาหาจริงๆ
เขาพูดด้วยความรู้สึกต้องการขอโทษ “ท่านลินลี่ย์, ท่านบีบี ข้าเสียใจจริงๆ
ที่ก่อเรื่องในปีนั้น”
“ท่านบาร์นาส! ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ก็ได้ เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากโอจวินผู้นั้น” ลินลี่ย์กล่าว
“ท่านบาร์นาส
ข้าคิดว่าท่านคงถูกเขาล่อลวง”
เนื่องจากเขายอมเสียหน้า
ลินลี่ย์จึงต้องรักษาหน้าของเขาเช่นกัน
แอดกิสน์พยักหน้า
“ลินลี่ย์, เจ้าไม่ต้องห่วง จากวันนี้ไป
ข้ารับรองกับเจ้าได้ว่าโอจวินจะไม่สร้างความลำบากใจให้พวกเจ้าในอนาคตอีก”
ลินลี่ย์อดหัวเราะในใจไม่ได้
ดูเหมือนว่าโอลิเวอร์จะไม่ต้องซ่อนตัวอยู่ภายในห้องมิติอีกต่อไปแล้ว
เมื่อแอดกินส์พาบาร์นาสมาเยี่ยมเจ้าภูเขาฆ้องทองแดงพบกับ
‘บลูไฟร์’ ลีย์ลิน
โอจวินยังครั้งอยู่ที่จักรวรรดิโอวเบรียนที่ห่างไกล เขา ฮันบริทและเกเทนบีร่วมดื่มและสนทนากัน
ทั้งสามคนมีสัมพันธ์อันดีเกินกว่ายี่สิบปีแล้ว
ที่สำคัญคือบาร์นาสมีสถานะที่พิเศษ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างจะห่างเหินจากสามคนนั้น
“คลื่นพลังงานประหลาดที่มาจากทางทิศตะวันตกนั้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นของเทพชั้นสูง”
เกเทนบีรำพึง
“ใช่แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรา” โอจวินหัวเราะ
“ในเมื่อเป็นเรื่องของพวกเทพชั้นสูง
เราก็แค่ดื่มกินอย่างสงบอยู่ที่นี่พอ”
ฮันบริทส่ายศีรษะ
“เทพระดับสูง?
พวกเขาทรงพลังมาก ถ้าสักวันข้าได้รับประกายเทพระดับสูง ข้าอาจกลายเป็นเทพระดับสูงด้วยกระมัง? เพียงแต่
โชคไม่ดีที่ข้าไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าข้าจะได้รับประกายเทพระดับสูง”
“ประกายเทพระดับสูงเป็นสิ่งที่ข้าได้แต่ฝัน” โอจวินถอนหายใจด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นฮันบริทวางแก้วเหล้าลง เขายิ้มเขินๆ ให้กับโอจวิน “โอจวิน, ข้าจะบอกความลับอะไรให้เจ้าสักอย่าง!”
“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังจะพูดอะไร!” เกเทนบีหัวเราะ
เกเทนบีหัวเราะลั่นเช่นกัน
“ความลับบ้าอะไรกัน, บาร์นาสกับข้ารู้หมดแล้ว”
ฮันบริทเหลือกตาจากนั้นกล่าว “เจ้ารู้แล้ว
ข้ารู้ แต่... โอจวินไม่รู้นี่นา”
คำพูดเหล่านั้นทำให้ใจของโอจวินเต็มไปด้วยความสงสัย และเขามองเร่งเร้าฮันบริท
ฮันบริทยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“โอจวิน!
ข้าจะบอกอะไรบางอย่างแก่เจ้า
ในแหวนมิติเก็บสมบัติของลอร์ดแอดกินส์ มีประกายเทพชั้นสูงเก็บไว้!”
“อะไรนะ?” หัวใจของโอจวินสั่นสะท้าน
ประกายเทพชั้นสูง?!
โอจวินฝันว่าสักวันจะได้รับประกายเทพชั้นสูง แต่โอจวินมีแต่เพียงร่างแยกธาตุแสง
ใครจะรู้ว่าประกายเทพชั้นสูงนั้น
จะเป็นประกายเทพธาตุแสงหรือเปล่า
เกเทนบีพยักหน้าและกล่าว
“เขามีประกายเทพระดับสูง
เพียงแต่เราไม่แน่ใจว่าเป็นธาตุชนิดใด
แต่ข้ามั่นใจว่าไม่ใช่ธาตุแสงและธาตุดิน”
“ทำไมเจ้าถึงมั่นใจมากขนาดนั้น?” โอจวินรีบถาม
เกเทนบีหัวเราะ
“ลอร์ดแอดกินส์เองไม่จำเป็นต้องได้เลย
แน่นอนว่าเจ้าต้องรู้ความสัมพันธ์ระหว่างลอร์ดแอดกินส์กับบาร์นาสว่าเป็นยังไง ถ้าบาร์นาสสามารถใช้มันได้ ลอร์ดแอดกินส์คงจะมอบให้บาร์นาสแน่ บาร์นาสมีร่างศักดิ์สิทธิ์อยู่สองร่าง ที่ปราสาทเลือดมังกร
เป็นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุดินของเขาที่ถูกทำลาย
ตอนนี้ร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาเป็นสายธาตุแสง เนื่องจากบาร์นาสไม่สามารถใช้ได้ อย่างนั้นก็ต้องไม่ใช่ธาตุดินแน่นอน
และไม่ทั้งไม่ใช่ธาตุแสงด้วย”
“ถูกแล้ว”
โอจวินพยักหน้าเล็กน้อย
“เป็นไปได้ไหมว่าพวกเจ้าทั้งสองสหายของข้า
ก็ไม่สามารถใช้ประกายเทพชั้นสูงนั้นได้?”
โอจวินถาม
ฮันบริทแค่นเสียง
“ในใจของท่านลอร์ด เราสามคนยังด้อยมากกว่าบาร์นาสอย่างห่างไกล เราเป็นแค่ลูกน้องของเขา ลอร์ดแอดกินส์จะยอมให้ประกายเทพชั้นสูงแก่เราได้ยังไง?”
“เมื่อใดก็ตามที่ข้าคิดเรื่องนี้ ข้ารู้สึกไม่สบายใจ ดื่มกันเถอะ”
เกเทนบีรีบกล่าว
“ดื่ม ดื่ม”
โอจวินรีบชูแก้วเหล้า
เพียงแต่ในใจของเขา โอจวินเริ่มวางแผน...
เสียงลมหวีดหวิว
ชายชราผมขาวบินตามอยู่ด้านหลังบุรุษหนุ่มรูปงามด้วยความเคารพ
ขณะที่พวกเขาบินอยู่ในอากาศ
เมื่อเขาอยู่ที่ภูเขาฆ้องทองแดงแอดกินส์ยิ้มตลอดเวลา เมื่ออยู่ต่อหน้าบลูไฟร์หรือลีย์ลิน
แอดกินส์สุภาพมากมารยาท และเขายังมีความเป็นกันเองกับลินลี่ย์และบีบี
แต่ตอนนี้ที่พวกเขาบินออกมาจากภูเขาฆ้องทองแดง แอดกินส์อดขมวดคิ้วไม่ได้ ใจของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“ลอร์ดบลูไฟร์ซ่อนตัวอยู่ภายในทวีปยูลานเช่นกัน
มีโอกาสเก้าในสิบที่เขากำลังทำเพื่อสมบัติของสุสานเทพเจ้าเช่นกัน”
ใจของแอดกินส์ปั่นป่วนว้าวุ่นเมื่อคิดเรื่องนี้
เขาต้องการได้รับสมบัติภายในสุสานเทพเจ้าอย่างแท้จริง “ข้า, จะต้องแข่งกับลอดร์ดบลูไฟร์หรือนี่?”
ทันทีที่เขาคิดเรื่องนี้ แอดกินส์รู้สึกจนใจ เขารู้ดีว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าบลูไฟร์ เขาไม่มีความสามารถโต้ตอบได้เลย
ชื่อเสียงที่น่ากลัวของราชันย์บลูไฟร์ไม่ได้แค่มาจากคำเยินยอสรรเสริญเท่านั้น
แต่เป็นเพราะลีย์ลินชนะและเข่นฆ่ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเลือดนองเป็นแม่น้ำ ไม่มีความจำเป็นต้องมีความสงสัยใดๆ
เกี่ยวกับพลังที่บลูไฟร์
“ท่านลอร์ด? ท่านเตรียมตัวจะยกเลิกหรือ?” บาร์นาสถามผ่านสำนึกเทพ
แอดกินส์สูดหายใจลึก จากนั้นตอบกลับด้วยสำนึกเทพของเขา “ยกเลิก? เป็นไปไม่ได้!”
บาร์นาสตกใจ
แอดกินพูดกับตนเอง
“อย่างมากก็ตาย
ถ้าข้าทำได้สำเร็จ
ข้าหวังเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถมีพลังเหนือบลูไฟร์ได้ ข้าไม่อาจสู้กับบลูไฟร์โดยตรงได้ สำหรับตอนนี้
ข้ามีทางสายเดียวอยู่ข้างหน้า..”
แอดกินส์ทำใจ และสายตาของเขามุ่งมั่นทันที
“เราถึงเมืองหลวงแล้ว”
บาร์นาสและแอดกินส์พุ่งลงไปทันทีตรงลงไปที่วังหลวง
เมื่อกลับไปที่วังหลวง
สิ่งแรกที่แอดกินส์ทำคือเรียกโอจวินเข้าวัง
โอจวินที่กำลังดื่มและคุยกับฮันบริทและเกเทนบีเข้ามาในวังตามคำสั่งทันที
ไม่สนใจเรื่องอื่น
“ท่านลอร์ด”
โอจวินคุกเข่าข้างหนึ่งแสดงความเคารพ
แอดกินส์หันมาจ้องเขาอย่างเย็นชา “โอจวิน! มีเรื่องที่ข้าต้องเตือนเจ้า ข้ารู้ว่าลูกชายของเจ้าถูกฆ่า แต่จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี.. ตั้งแต่นี้ไปให้ลืมเรื่องล้างแค้น
ไม่ว่ายังไงอย่าไปหาเรื่องกับคนในปราสาทเลือดมังกรแม้แต่คนเดียว!”
โอจวินตกใจ
ให้ลืมเรื่องแก้แค้น?
แม้จะผ่านไปยี่สิบปี โอจวินจะสงบใจลงได้บ้าง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขายอมสลายความแค้น
เป้าหมายแก้แค้นให้กับลูกที่ตายไปยังคงอยู่ในใจของเขา
“ฮึ่ม!” แอดกินส์แค่นเสียงเย็นชา “เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”
บาร์นาสที่อยู่ใกล้ๆ พูดเสียงจริงจังเช่นกัน “โอจวิน,
นี่เป็นเรื่องสำคัญต่อกิจการของท่านลอร์ด ถ้าเป็นเพราะเรื่องเล็กน้อยของเจ้า
ทำให้งานใหญ่ของท่านลอร์ดต้องพังทลาย, อย่างนั้น... ต่อให้ตายไป
เจ้าก็ยังไม่พ้นผิด”
โอจวินรีบปรับเปลี่ยนท่าทีตนเองและรีบกล่าว “ลอร์ดแอดกินส์ ไม่ต้องห่วง จากวันนี้ไป ข้า, โอจวินจะไม่ไปก่อเรื่องยุ่งยากในปราสาทเลือดมังกรอีก เกี่ยวกับเรื่องล้างแค้นนี้ ข้า
โอจวินจะไม่เอามาคิดอีก! แต่ในใจของเขา โอจวินคร่ำครวญด้วยความโกรธ “แก้แค้น? ไม่, ต่อให้ข้าตาย
ข้าจะไม่ยอมยกเลิก
ทั้งหมดที่ข้าจะทำคือหักห้ามใจตัวเองชั่วคราว หลังจาก...หลังจากที่ข้าได้ประกายเทพชั้นสูง...
โอจวินมีความปรารถนายิ่งใหญ่ว่าจะได้รับประกายเทพชั้นสูง
“เจ้าไปได้แล้ว”
แอดกินส์กล่าวอย่างใจเย็น
“ขอรับ” โอจวินคำนับแล้วออกมา

7 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณคร๊าบบบบบ
แสดงความคิดเห็น