เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 666 ยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้า

ตอนที่  666  ยาเม็ดพลังยุทธปราณฟ้า

กระบวนการหลอมรวมภูตแสงกับดาบนางฟ้านั้นยากลำบากมาก ยากยิ่งกว่าการสร้างนางฟ้าศึกอย่างเดียวเสียอีก

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางมักได้รับผลตอบแทนที่แตกต่างกันทุกวัน

ในกระบวนการหลอมรวม เกือบทุกวันเขาจะได้รับความรู้ความเข้าใจใหม่

เย่ว์หยางพบว่าความรู้ของมารดาสหายผู้น่าสงสารที่มอบให้เขาสามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงด้วยการสนับสนุนจากเคล็ดหัวใจปราณราชันย์  สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญอยู่ก่อนนั้นคือความรู้ง่ายๆ ระดับก้าวแรกสู่ประตูเท่านั้น  เขาไม่นึกเลยว่ามารดาของสหายผู้น่าสงสารจะสามารถรู้ได้มากขนาดนี้ ถ้ามีคนสามารถเข้าใจความรู้ได้สักหนึ่งในร้อยหรือสักหนึ่งในพัน  แสดงว่านางเป็นคนฉลาดและใฝ่รู้คนหนึ่ง!

เย่ว์หยางบรรลุถึงระดับปราณราชันย์ (สุดยอดปราณก่อกำเนิด)  ดังนั้นเขารู้สึกว่าสมองของเขามีการพัฒนาขึ้นมาก  ความทรงจำของเขาดีขึ้นและความเร็วในการสนองตอบเร็วมากขึ้นเช่นกัน

เป็นไปไม่ได้ที่ก่อนนั้นเขาจะจำได้มากขนาดนี้

ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งเหยิงแน่นอน

ตอนนี้คลื่นความทรงจำถูกปลดผนึกทะลักออกมาจากทุกตำแหน่ง  เขารู้สึกว่าเขาสามารถจดจำความทรงจำก่อนนั้นได้ง่าย  และทั้งหมดของความทรงจำจะถูกเชื่อมกันและกัน  เป็นเรื่องง่ายพอๆ กับคำนวณเลขดิจิตัลในใจ

มีเพียงความรู้ที่ลึกซึ้งเล็กน้อยเท่านั้นที่จำเป็นต้องไตร่ตรองอย่างระมัดระวัง

แน่นอนว่ายังคงมีส่วนของความรู้ที่แม้แต่ปราณราชันย์ก็ไม่สามารถเปิดผนึกออกมาได้

บางทีความลึกลับเหล่านั้นจำเป็นต้องให้เย่ว์หยางถึงระดับสูงก่อนจึงจะปลดผนึกออกได้

 “ทำไมเจ้าถึงสนใจปรุงยาพลังยุทธในวันนี้อีกเล่า?”  เย่ว์หวี่ใช้เวลาในช่วงสองสามวันฝึกวิทยายุทธกับเย่ว์หยาง  นางได้รับอนุญาตโดยปริยายให้ฝึกปรือคู่เพื่อหลอมรวมภูตแสงกับดาบนางฟ้าทำให้พลังปราณก่อกำเนิดของเขาโคจรผ่านร่างพวกเขา  แม้ว่าเย่ว์หยางจะล้มเหลวในการหลอมรวมและทำให้ชุดระเบิด  นางก็ไม่หนีเหมือนเมื่อก่อน  แต่คอยอยู่ด้านหลังให้กำลังใจและสนับสนุนเขา  เพราะความร่วมมือเต็มกำลังของนาง  เย่ว์หยางจึงเพ่งความสนใจไปที่การค้นคว้าและได้รับความก้าวหน้าระหว่างล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง

 “โล่วฮัวกลับมาเมื่อวานนี้พร้อมกับวัสดุสำคัญ อย่าปล่อยให้เสียเปล่า”  มีสองเหตุผลที่เย่ว์หยางจะปรุงยาพลังยุทธในวันนี้

เหตุผลแรกเพราะเย่ว์หวี่คลายปมในใจนางได้แล้ว ด้วยพลังและความร่วมมือของนางทั้งหมดความเร็วในการฝึกปรือของนางก้าวหน้าอย่างมาก  ถ้านางใช้ยาเม็ดพลังยุทธวิเศษจากเย่ว์หยาง  เชื่อได้ว่านางจะบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดได้

ประการที่สอง เย่ว์หยางได้รับข้อมูลเปิดเผยใหม่จากมารดาสหายผู้น่าสงสาร  เขาตั้งใจจะใช้วิธีลับที่ดีกว่าในการยกคุณภาพยาพลังยุทธให้สูงยิ่งขึ้น

สิ่งที่เย่ว์หยางปรุงไว้ก่อนนั้นไม่ใช่ยาพลังยุทธธรรมดา

หลังจากสาวกิเลนพูดถึง นี่อาจเป็นยาเม็ดพลังยุทธสุดยอดที่สุดที่ปรุงจากสาวกิเลนซึ่งเป็นคุณภาพสูงสุด

อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าติดอุปสรรคอยู่ที่ระดับเตรียมปราณก่อกำเนิด แต่ทันใดนั้นก็ได้เลื่อนระดับพลังหลังจากได้กินยาพลังยุทธของเย่ว์หยาง!

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือสาวกิเลนปิงหยินยังไม่พอใจกับยาชนิดนี้  พวกเขารู้สึกว่าถ้าพวกเขาใช้วัสดุที่ดีกว่าและวิธีการที่ดีกว่า  พวกเขาจะสามารถปรุงยาเม็ดพลังยุทธคุณภาพดีที่สุด  นี่คือเหตุผลที่เย่ว์หยางไม่ผลิตยาเม็ดพลังยุทธคุณภาพสูงสุด ซึ่งเป็นเพราะสาวกิเลนไม่ให้ความสนใจกับยาครอบจักรวาลระดับต่ำอย่างยาเม็ดพลังยุทธ    นางมองว่าไร้ประโยชน์

ถ้าเย่ว์หยางปรุงยาเม็ดพลังยุทธที่สามารถเพิ่มศักยภาพของวิทยายุทธ  นางอาจจะกระตือรือร้นขึ้นมาก... น่าเสียดาย วัสดุสำหรับปรุงยาไม่ค่อยเพียงพออยู่เรื่อย

สาวกิเลนใช้เวลาส่วนใหญ่กับการจำศีล, ฟื้นฟูตัวนางเอง  นางไม่สามารถออกมาร่วมศึกษาความรู้เรื่องยาวิเศษกับเขาได้ทุกวัน

เย่ว์หยางต้องฝากความหวังไว้กับความรู้ของมารดาของสหายผู้น่าสงสาร

จนกระทั่งบัดนี้  ยังไม่มีข้อมูลที่ลึกซึ้งใหม่เลย  ดังนั้นเขาจึงหยุดปรุงยาวิเศษชั่วคราว

ตอนนี้เย่ว์หยางถึงระดับปราณราชันย์และเปิดระดับความรู้ใหม่  แน่นอนเขาต้องการลองดูยาวิเศษที่เขาสามารถปรุงได้

ในห้องค้นคว้า เย่ว์หวี่เป็นผู้ช่วยของเขา ตามปกตินอกจากอู๋เหินและเย่ว์หยางผู้กำลังศึกษาค้นคว้าอักษรรูนสวรรค์จะร่วมกันศึกษาค้นคว้าที่นี่  สาวๆ จะไม่มารบกวนนาง นี่เป็นเพราะสังเกตจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสีย  พวกนางต้องการให้เย่ว์หวี่สามารถทำบางอย่างด้วยความพยายามอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่อยู่เฉยๆ  นอกจากนี้เย่ว์หวี่สามารถช่วยเย่ว์หยางได้ ความละเอียดและความรอบคอบของนางควบคู่กับความกล้าหาญของเย่ว์หยางและความคิดสร้างสรรค์ของเขาสามารถแสดงถึงความได้เปรียบได้ นอกจากนี้พลังหยินในธาตุน้ำก็ยังช่วยเย่ว์หยางได้เช่นกัน

เมื่อเย่ว์หยางรู้สึกเหนื่อยกับการค้นคว้า นางใช้พลังของนางช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าให้เขา

นางสามารถปลอบโยนเขาทำให้เขาสงบลงได้เมื่อเขาล้มเหลวหลายครั้งในการเรียนรู้และรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า

ในช่วงเวลาสั้นๆ มีพี่สาวของเขาอยู่ที่นี่ เย่ว์หยางจะหลีกเลี่ยงการนอกลู่นอกทาง  ทุกคนเห็นว่าเย่ว์หวี่ช่วยการค้นคว้าของเขาได้มาก  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รบกวนทั้งสอง

 “หนักแน่นไว้!”  เย่ว์หวี่เตรียมวัสดุทั้งหมด และเย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตกลั่นวัสดุทั้งหมดจนอยู่ในสภาพดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

เขาใช้พลังงานไปมากมาย  มือและเท้าของเขารู้สึกอ่อนแรง  แต่เขาไม่ต้องการหยุดพัก  เขากลัวลึกๆ ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาวะปราณราชันย์ และนั่นจะทำให้เขาไม่สามารถคงสถานะที่สามารถควบคุมทุกอย่าง  เย่ว์หวี่เช็ดเหงื่อให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่าจนรู้สึกท้อ ทุกคนในโลกรู้ว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์คือยอดฝีมือที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อนและว่าเขาสามารถเอาชนะยอดฝีมือปราณฟ้าทั้งที่อายุเยาว์เพียงเท่านั้น  แต่ใครจะรู้กันว่าความพยายามที่เขาใช้นั้นมากกว่าคนอื่นเป็นร้อยเท่า

ใครจะรู้กันว่าเขาต้องหลั่งเหงื่อมากกว่าคนอื่นเป็นร้อยเท่า พันเท่า?

เย่ว์หวี่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้วที่นางต้องเปลี่ยนผ้าเช็ดหน้า

และกี่ครั้งแล้วที่นางต้องหาน้ำให้เขากิน

ทั้งหมดที่นางรู้ก็คือหนึ่งวันหนึ่งคืน เขาไม่ได้พักเลย เขาไม่ต้องการจะเสียเวลากินอาหาร  แม้แต่น้ำเขาก็แค่รีบดื่ม เมื่อเย่ว์หวี่จ่อแก้วน้ำกับปากเขา

เย่ว์หวี่เชื่อว่าคงจะไร้ประโยชน์ ถ้าน้องชายนางไม่สามารถทำได้

น้องชายของนางไม่เพียงแต่เป็นอัจฉริยะ แต่ยังคงเป็นคนที่พากเพียรอย่างหนัก

ส่วนหลังก็คือกุญแจให้เขาเหนือล้ำคนอื่น

 “บึ้มมมม”

เนื่องจากวัสดุไม่ดีพอและมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยระหว่างดำเนินการ เกิดการระเบิดขนาดเล็ก 

เย่ว์หยางรีบหมุนตัวกลับมาป้องกันเย่ว์หวี่  แต่เขาสามารถทนพลังแรงระเบิดได้ เขาไม่สามารถใช้พลังานต้านทานได้ เพราะเมื่อเขาเพิ่มพลังงาน พลังสุดพิเศษของเขาจะทำลายห้องค้นคว้าและวัสดุภายในทั้งหมด  เย่ว์หยางยังคงอยู่ในสภาวะของปราณราชันย์  แต่เขาไม่สามารถใช้พลังระดับปราณราชันย์ได้

แน่นอนแรงระเบิดไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเขาสิ้นเชิง

แต่ไม่ใช่กับเสื้อผ้าของเขา

ชุดทั้งหมดกระจุยกลายเป็นฝุ่น

ตอนแรกเย่ว์หยางต้องการเปลี่ยนส่วนผสมอีกสองสามชุด  แต่เนื่องจากการระเบิดยังเกิดขึ้น เขาต้องยอมแพ้กับความพยายามที่ไร้ประโยชน์

เย่ว์หวี่แกล้งทำเป็นไม่เห็นเขา  นางไม่สนใจสภาพที่น่าอึดอัดและมองแต่หน้าเขา  นอกจากนี้นางยังช่วยแกะชิ้นส่วนวัสดุและเช็ดเหงื่อ น้ำให้เขา และใช้พลังหยินของน้ำช่วย  เสื้อผ้าของนางถูกทำลายไปนานแล้ว  โชคดีที่ดาบนางฟ้ากลายเป็นชุดดาบที่ปกปิดส่วนสงวนของสตรีไว้ได้

 “แย่เป็นบ้า ใครส่งของอย่างนี้มาให้นะ?”  อารมณ์โมโหของเย่ว์หยางเพิ่มขึ้นทันที  เขาระบายอารมณ์กับวัสดุชิ้นอื่น

 “ไม่ต้องห่วงนะ ต้องมีวัตถุดิบคุณภาพสูงบางอย่างแน่  มีวัตถุดิบอยู่มากมายที่สามารถทำได้  นี่เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ทำต่อไปเถอะ!”  เย่ว์หวี่ปลอบโยนเย่ว์หยางผู้อยู่ในอาการตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นางหยิบวัตถุดิบที่เขาโยนลงกับพื้น ประการแรก เขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น ต้องรอให้อารมณ์ของเขาสงบก่อนและจากนั้นค่อยรับมือเขา  เพียงแต่เพราะนางเป็นคนมีอารมณ์นุ่มนวล นางจึงอดทนได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่น คงไม่สามารถเป็นผู้ช่วยเย่ว์หยางได้แน่

 “บารุธเจ้าหน้าเลือด ไม่มีดอกศิลาปีศาจถูกส่งมาที่นี่เลย แล้วจะใช้ได้ยังไง”  เย่ว์หยางล้มเหลวอีกครั้ง ถึงกับสบถด่าลั่น

 “ดอกศิลาปีศาจยังมีอยู่ตรงนี้อีก  ดื่มน้ำเสียก่อนเถอะ...”  เย่ว์หวี่รู้ว่าไม่ใช่ความผิดของบารุธ

ต้องรู้ไว้ก่อนว่าของหายากอย่างดอกศิลาปีศาจนั้นเป็นของหาได้ยาก

ดอกไม้และสมุนไพรรักษาวิญญาณธรรมดาได้รับการปกป้องจากอสูรวิเศษมาเป็นเวลานาน

ถ้าบางคนจากโลกภายนอกค้นพบ  พวกเขาจะทำลายสมบัติของโลกและสวรรค์ทันที  พวกเขาอยากทำลายมากกว่าศัตรูเสียอีก

หลังจากเย่ว์หวี่ปลอบโยนเย่ว์หยาง กระบวนการต่างๆ ค่อยมาถึงจุดสิ้นสุด  เย่ว์หยางหมดแรงกายแรงใจพอได้รับแรงสนับสนุน ก็ได้รับประสบการณ์นับไม่ถ้วนและปรับแต่งวัสดุคุณภาพสุดยอดโดยใช้เปลวเพลิงอมฤต

ที่สำคัญคือการตระเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้ว  เย่ว์หยางไม่มีเวลานอนลงอีกแล้ว

เขานั่งลงกับพื้นห้องค้นคว้าและเอนตัวพิงโต๊ะและเก้าอี้

และเข้าสู่ภวังค์อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าไร้เดียงสาของเขา เพราะทุ่มทำงานเกินแรงเกินตัว เย่ว์หวี่รู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างช่วยไม่ได้ นอกจากเอาเสื้อผ้ามาช่วยคลุมเขาแล้ว นางหวังว่าจะช่วยเขาได้มากขึ้น แต่น่าเสียดาย นางไม่มีพลังเพียงพอ

ที่ด้านนอก เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพุ่งเข้ามาข้างในพร้อมกันเพื่อช่วยประคองร่างที่เหนื่อยล้าของเย่ว์หยางและช่วยให้เขาได้ฟื้นฟู

เจ้าเมืองโล่วฮัวค่อยช่วยสวมเสื้อผ้าให้เย่ว์หวี่และกอดนางอย่างอ่อนโยน

เพื่อร่างกายของนางและเพื่อฟื้นพลัง

เย่ว์หวี่ที่ให้ความร่วมมือมาเป็นเวลานานพักอย่างรวดเร็วทันที

 “ขอบคุณ” เย่ว์หวี่หลับตาและผลอยหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว

 “ไม่, ต้องขอบคุณท่าน  ท่านทำได้มากกว่าที่เราทำ”  ก่อนที่เจ้าเมืองโล่วฮัวจะพูดจบ เย่ว์หวี่ก็หลับไปแล้ว แต่เป็นเพราะนางเหนื่อยจริงๆ

สิ่งที่ตอบสนองจะเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุด พลังปราณก่อกำเนิด, เพลิงอมฤต วิธีการลึกลับโบราณและเลือดของเย่ว์หยางเอง? คำถามนี้.... หลังจากเย่ว์หยางและเย่ว์หวี่ตื่นขึ้นและทำงานกันต่อ  ในที่สุดพวกเขาก็ได้คำตอบที่ดีที่สุดหลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน

ยาใหม่แทบจะรวมวัตถุดิบของมนุษย์ เผ่าทะเล เผ่าบาดาล เผ่าปีศาจ เผ่าเอลฟ์ทอง คนแคระและเผ่าพันธุ์อื่น

เย่ว์หยางใช้พลังงานปราณก่อกำเนิดของเขาเพื่อเพิ่มเพลิงอมฤต  เขาผสานกับวิธีการลับโบราณของมารดาสหายผู้น่าสงสาร  และยังเพิ่มเลือดของเขาเข้าไปอีกด้วย  ในที่สุดเขาก็ปรุงยาเม็ดเทพยุทธที่ดีกว่าครั้งก่อนหลายเท่า  นี่ไม่ใช่ยาเม็ดเทพยุทธ แต่พลังในการรักษาและคุณค่าสามารถเทียบได้กับยาเม็ดเทพยุทธระดับสูงล้ำซึ่งก็เหนือกว่ายาเม็ดเทพยุทธ  เขาได้ยินข่าวหลังจากตอนกลางคืนและรู้สึกตกใจ  หลังจากที่นางประเมินยาด้วยตัวนางเอง  นางจึงได้ข้อสรุป ยาเม็ดเทพยุทธคุณภาพสูงล้ำนี้มีพลังปริมาณมหาศาล เพียงพอจะทำให้ก้าวหน้าบรรลุถึงระดับปราณฟ้า

แน่นอนว่าระดับปราณฟ้าแตกต่างจากระดับปราณราชันย์ ไม่มีเคล็ดหัวใจของปราณราชันย์ต่อให้ยอดฝีมือมีสมบัติวิเศษ นั่นถือว่าเป็นความประสงค์ของสวรรค์

อย่างไรก็ตามนี่สามารถบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดและเข้าถึงระดับปราณฟ้า

กำเนิดของมันจะทำให้หัวหน้าตระกูลต่างๆ แทบคลั่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมปีศาจบารุธและจ้าวปีศาจอื่นๆ พวกเขาถึงปราณก่อกำเนิดระดับสิบมาหลายร้อยปี และไม่สามารถก้าวหน้าได้แม้แต่น้อยและตอนนี้พวกเขามียาเม็ดพลังยุทธระดับปราณฟ้า  ปรากฏขึ้นมาอยู่ข้างหน้าพวกเขา

เย่ว์หยางไม่เคยคิดว่าเขาเตรียมสุดยอดยาเม็ดเทพยุทธคุณภาพสุดยอดหลายเม็ดเอาไว้ให้เย่ว์หวี่  เขาต้องการให้นางเลื่อนเป็นระดับปราณก่อกำเนิด  แต่เขายังมีความคิดจะปรุงยาให้บรรลุพลังไปถึงระดับปราณฟ้า

นาอกจากพลังปราณก่อกำเนิดและเพลิงอมฤต นอกจากนี้ยังมีวิธีลับโบราณ

อาจเป็นไปได้ว่าเหตุผลที่แท้จริงก็คือเพิ่มเลือดของตัวเขาเอง?

ข้อสงสัยนี้ผุดขึ้นมาในใจของเย่ว์หยาง

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางสามารถอธิบายวิชาลับนี้ได้  สำหรับเย่ว์หวี่, เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัว พวกนางไม่ถาม และแกล้งทำเป็นไม่รู้