วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 707 ต่อไปข้าไม่กล้ากินสุ่มสี่สุ่มห้า


ตอนที่  707  ต่อไปข้าไม่กล้ากินสุ่มสี่สุ่มห้า

เมื่อนางนึกถึงเวลาเมื่อสาวมังกรไร้เขาได้รับตกทอดพลังเทพมังกร ลี่เยี่ยนยังคงใจเต้นแรง

สิ่งที่ลี่เยี่ยนมั่นใจก็คือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้รับมรดกพลังเทพ

สนามพลังนี้นางรู้แจ้งจากประตูเป็นตาย!

ประตูเป็นตาย.... เป็นไปได้ไหมว่าความลับนั้นจะได้มาต่อเมื่อทดสอบจนถึงจุดทดสอบที่ยอดฝีมือยุคโบราณได้ทิ้งไว้ให้รุ่นลูกหลานพวกเขา? ลี่เยี่ยนเทียบผลภายในใจนาง ถ้ายอดฝีมือของหอทงเทียนอย่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผ่านการทดสอบจนได้ไปแดนสวรรค์เพื่อต่อสู้ และยอดฝีมือผู้ไม่ผ่านการทดสอบในประตูเป็นตายต้องเผชิญกับนักสู้แดนสวรรค์ที่ไม่ผ่านการฝึกผ่านประตูเป็นตาย แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? นางเชื่อว่ายอดฝีมือของหอทงเทียนที่เสร็จสิ้นการทดสอบสามารถฆ่ายอดฝีมือในระดับเดียวกันได้! อย่าว่าแต่ระดับเดียวกันเลย แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสู้กับคู่ต่อสู้ที่สูงกว่านางสองสามระดับในสนามพลังเซียนของนางและด้วยพลังมังกรของนาง ก็ไม่ต่างอะไรกับการเจอฝูงไก่ หรือฝูงสุนัขหรือ?

มิน่าเล่าที่ทุกครั้งที่แดนสวรรค์ตกอยู่ในความโกลาหลเพราะยอดฝีมือที่มาจากหอทงเทียนแดนสวรรค์ตะวันตก.... พอตอนนี้นางคิดดูแล้วก็พบว่าพลังของนักสู้ของหอทงเทียนแข็งแกร่งอย่างไม่มีเหตุผล!

ลี่เยี่ยนแทบรอไม่ได้อยากจะกลับเข้าไปฝึกที่ประตูเป็นตาย

ไม่ว่ายังไง นางจะต้องผ่านการทดสอบให้ได้

เพราะนั่นคือทางเดียว

ที่นางจะเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง!

พลังปราณฟ้าระดับห้าดูเหมือนแข็งแกร่งมาก แต่เป็นเรื่องของพลัง แต่อ่อนแอในเรื่องพลังจิตวิญญาณ เหมือนกับแมงป่องที่ยกหางตัวเอง!

ถ้านางยังคงคิดว่าตนเองเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ใครรู้เข้าจะมิหัวเราะเยาะนางหรือ? ก่อนนี้ นางเห็นว่าสตรีเหล่านี้ไม่มีพลังแข็งแกร่งเท่านักสู้ปราณฟ้าทำให้นางมั่นใจตนเองมาก นางไม่เคยคิดเลยว่าคนที่อ่อนแออย่างแท้จริงกลับเป็นนางเองซึ่งมีพลังปราณฟ้าระดับห้า! ระดับพลังภายนอกผิวเผินบดบังสายตาและปณิธานของนาง

ทำไมโจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่วถึงได้หักหลังนาง? ทำไมเขาถึงมั่นใจว่าจะจับนางได้? เหตุผลเป็นเพราะเขาเห็นจุดอ่อนของนาง!

เมื่อนางนึกย้อนมาถึงตอนนี้ นางอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นไม่ได้

ไม่มีอสูรรบ ไม่มีสนามพลัง ไม่มีความสามารถพิเศษ ไม่มีตัวช่วยใดๆ และอาศัยแต่พลังมังกรโบราณล้วนๆ นางคิดว่าสามารถครอบครองแดนสวรรค์ แสดงความกล้าหาญ ที่ผ่านมานี้นับว่าไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ!

“ฮ่าาาห์!”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตัดหัวสิงโตหนุ่มตัวหนึ่ง ขู่ขวัญสิงโตหนุ่มอีกตัวหนึ่งจนกระโดดถอยหลังไม่กล้าเสี่ยงอีกต่อไป

มันอ้าปากขนาดใหญ่และพ่นไฟเป็นสายยาว

เพลิงเหมือนพายุกวาดเข้าหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชูมือที่ขาวเหมือนดอกลิลลี่ของนางในอากาศและตวาดลั่น “เปลี่ยนสนามพลังเซียนพญาหงส์เพลิง!”

มันค่อนข้างจะคล้ายกับหงส์เพลิงอมฤต แต่ไม่มีหางเพลิงยาวของเพลิงอมฤต ทั้งตัวของมันถูกเปลี่ยนเป็นเพลิงม่วง และนกเพลิงขนาดมหึมาที่ไม่คุ้นเคยปรากฏอยู่ที่ด้านหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เมื่อมันปรากฏ ทุกคนรู้สึกได้ถึงคลื่นความอุ่น องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยืนอยู่หน้าสนามพลัง เหมือนกับว่ามีปีกนกเพลิงล่องหนอยู่บนหลังของนางทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนกับว่าสามารถบินได้ตามปรารถนา

เมื่ออยู่ต่อหน้าหงส์เพลิงที่ประหลาดและงดงามนี้ อุณหภูมิไฟของราชสีห์เพลิงถึงกับสูญเสียความร้อนและพลังไปอย่างสิ้นเชิง

แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะไม่เพิ่มแรงต้านทาน แต่คนที่อยู่ด้านหลังนางสามารถรู้สึกได้แต่เพียงว่ามีลมเย็นสบายพ่นออกมาจากปากราชสีห์เพลิง

ด้วยความประหลาดใจ ลี่เยี่ยนพบว่านางพลอยได้รับพลังเพิ่มจากเปลวไฟไปด้วย พลังของนางเพิ่มเป็นทวีคูณ เหมือนกับว่าไฟที่ราชสีห์เพลิงพ่นออกมาไม่ได้เป็นการโจมตี แต่เป็นการช่วยชูกำลัง นางเงยหน้ามองและเห็นว่าเย่ว์หยาง นางเซียนหงส์ฟ้า เสวี่ยอู๋เสียและเจ้าเมืองโล่วฮัวเก็บซ่อนประกายไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นนางจึงไม่เป็นที่สังเกตมาก อย่างไรก็ตามเย่ว์ปิง, อี้หนานและสาวขี้เมาทุกคนอยู่ในวงแหวนเพลิงล้อมรอบร่างทำให้เปลวเพลิงปรากฏกล้าแข็งกว่านางผู้ได้รับสืบทอดสายเลือดมังกรโบราณ

“การโจมตีประเภทไฟใช้ไม่ได้ผล และมันสามารถถูกเปลี่ยนแปลงมาเป็นพลังฝ่ายเจ้าด้วยหรือ?” ลี่เยี่ยนพบว่าพลังเซียนภายในสนามพลังนี้ไม่ธรรมดา ถึงกับทำให้ขนลุกชันได้ ถ้านางต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือในการโจมตีด้วยพลังเพลิงบริสุทธิ์ นางจะร้องไห้อยู่ต่อหน้าสนามพลังนี้หรือไม่?

สนามพลังเซียนรูปมังกรกลายเป็นสายฟ้าทำลายล้าง ตอนนี้มันไม่สนใจพลังโจมตีเพลิงของศัตรูและดูดกลืนแปลงเป็นพลังสนับสนุนให้กับมันเอง

ถ้ามีสนามพลังเซียนสี่รูปแบบ อย่างนั้นรูปแบบที่สามและที่สี่จะเป็นยังไง?

ลี่เยี่ยนมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

ขณะนั้นเองสิงโตเพลิงหนุ่มไม่ทันสังเกตว่าศัตรูของมันถูกอาบอยู่ในเปลวเพลิง นี่เป็นช่วงเวลาเช่นเดียวกับที่มันเพลิดเพลินกับเวลาที่มันโจมตีและฆ่าศัตรู การพ่นไฟและฉวยโอกาสเผาทำร้ายศัตรูให้บาดเจ็บหนักโจมตีด้วยไม้ตาย มันกระโดดสูงตะกุยกรงเล็บคำรามเสียงดังปานฟ้าร้อง และใช้พลังทั้งหมดเตรียมฉีกมนุษย์ที่อยู่ข้างหน้ามันให้เป็นชิ้น...

หงส์เพลิงด้านหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแช่แข็งราชสีห์เพลิงกลางอากาศ ราวกับว่ามันต้องการไล่สิงโตเพลิงออกไปจากปากมันภายในเสี้ยววินาที

แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเปลี่ยนสนามพลังของนางอีกครั้ง

ทั่วทั้งแผ่นดินและหน้าผาสั่นสะเทือน ราวกับว่าสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์คลานออกมาจากส่วนลึกของโลก ภาพของอสูรเวทใหญ่โตมโหฬารแทบไม่สามารถมองเห็นตัวมันได้ทั้งหมด แค่เพียงส่วนน้อยของหลังของมันปรากฏอยู่ใต้เท้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ลวดลายสีทองเหมือนกับเต่า และแต่ละลวดลายจะมีลวดลายอักษรรูนต่างกัน อักษรเหล่านั้นลึกซึ้งมากและหัวมังกรสามารถเห็นได้ในระยะห่างหนึ่งกิโลเมตร อีกด้านหนึ่งของหน้าผาดูเหมือนจะมีหางเป็นงู... เย่ว์หยางและคนอื่นมองดูที่ตัวเองและพบว่ามีลวดลายพิเศษสีทองเช่นกัน ลวดลายนี้เหมือนยันต์นี้ใช้ทำอะไรกัน?

สิงโตเพลิงที่กำลังโจมตีให้คำตอบ!

มันถูกแช่แข็งในอากาศ แต่ขณะที่หงส์เพลิงเปลี่ยนไป มันกลับคืนสภาพพลัง และไม่รู้ตัวว่ามันถูกหยุดอยู่กลางอากาศครั้งหนึ่งและกลายเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน

มันยังคงคำรามตั้งใจจะใช้กรงเล็บฉีกเหยื่อ

ดาบยักษ์บรอนซ์ในมือขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน มันถูกยกขึ้นอย่างนุ่มนวลและถือนิ่งกับที่

สิงโตเพลิงหนุ่มจะไปสนใจดาบใหญ่ไร้คมได้ยังไง? กรงเล็บที่คมกริบของมันสามารถเปิดทองศิลาได้

กรงเล็บตวัดฟันใส่ดาบยักษ์ที่มีลายเส้นทอง

ประกายไฟเหมือนน้ำตกเป็นล้านประกายพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนพลุไฟ... กรงเล็บของสิงโตเพลิงเหมือนกับกระแทกใส่กำแพงทองแดง ลี่เยี่ยนเห็นด้วยตานางเองว่ากรงเล็บแตก กระดูกหักแทงออกมานอกเนื้อ กรงเล็บที่สามารถฟันใส่โลหะเหมือนเนื้อเปื่อยยุ่ยด้วยการฟันครั้งเดียว

สิงโตเพลิงหนุ่มที่ไม่อาจยั้งตัวได้ปะทะกับดาบยักษ์และปลิวกระเด็นขณะที่มันร้องโหยหวน

มันร่วงลงบนภูเขา

หลังจากกระแทกกับโขดหินใหญ่ ความเจ็บปวดหนักทำให้มันล้มลงกับพื้น

มันดิ้นรนลุกขึ้นยืนพยายามจะหลบหนี แต่ก่อนที่มันจะก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว ร่างของมันกลายเป็นซากแช่แข็ง

แม้จนกระทั่งตายมันก็ยังอยู่ในท่าหลบหนี... ลี่เยี่ยนกลืนน้ำลายเอื๊อกและรู้สึกว่านางหายใจไม่ออก ลวดลายสีทองนั่นเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง และนางรู้สึกถึงมันได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือลวดลายทองนี้มีพลังสะท้อนกลับที่แข็งแกร่ง ยิ่งโจมตีรุนแรงก็ยิ่งสะท้อนแรง ที่สำคัญคือ แรงสะท้อนไม่เพียงมาจากพลังโจมตีของศัตรูแต่เป็นพลังน้ำแข็งที่น่ากลัว

สิงโตเพลิงหนุ่มนั้นเป็นอสูรเตรียมปราณฟ้าที่มีคุณสมบัติด้านไฟ หลังจากพลังสะท้อนกลับไป มันกลายเป็นซากน้ำแข็งทั้งที่ตลอดทั้งตัวของมันมีไฟครอบคลุม

ถ้าพลังสะท้อนกลับนี้ปะทะใส่นักสู้ธรรมดา พวกเขาคงถูกเปลี่ยนไปเป็นกองน้ำแข็งไม่ใช่หรือ?

ไม่มีเวลาลองสนามพลังที่สี่ สิงโตเพลิงหนุ่มระดับเตรียมปราณฟ้าตายไปแล้ว นี่คือพลังของคนที่เข้าประตูเป็นตายและได้รับการรู้แจ้งหลังจากผ่านบททดสอบ

บางทีทุกคนจะแตกต่างกัน แต่ตราบใดที่พวกเขาผ่านการฝึกฝนในประตูเป็นตาย พวกเขาก็คงจะไม่แย่กว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

ดวงตาของลี่เยี่ยนเปลี่ยนไป

ในทันใดนั้นประกายในดวงตาเจิดจ้าไม่มีใดเทียบ

ไม่ว่ายังไงนางต้องผ่านการฝึกฝนในประตูเป็นตายให้ได้!

นางกำหมัดอยู่เงียบๆ ปล่อยวางความภูมิใจของนักสู้ปราณฟ้าไว้ก่อน... แม้ว่าพลังปราณฟ้าระดับห้าจะทรงพลังมาก โดยผิวเผินดูแข็งแกร่งเหนือกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่น อย่างไรก็ตามด้วยความเร็วในความก้าวหน้าของพวกเขา เป็นการง่ายมากที่พวกเขาจะตามนางได้ทัน! ถ้านางต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น ไม่เพียงแต่นางต้องยกระดับของนางให้ได้ นางจำเป็นต้องใช้ประตูเป็นตายเพื่อให้กลายเป็นยอดฝีมือปราณฟ้าอย่างแท้จริง ไม่ นางต้องการเป็นนักสู้ปราณราชันย์ที่เสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นเรียกนาง ตราบใดที่นางเป็นนักสู้ปราณราชันย์ นางจึงจะคู่ควรแก่การเรียกว่ายอดฝีมือที่แท้จริง!

“ราชสีห์ทองกับนางสิงโตกำลังหนีไป!” เมื่อเย่ว์หยางพบว่าสิงโตหนุ่มทั้งสองตายแล้ว ราชสีห์จ่าฝูงเก่าก็หันหลังเผ่นหนีทันที

“ไม่เป็นไร” เสวี่ยอู๋เสียยิ้มและลูบศีรษะเย่ว์ปิงอย่างเอ็นดู

เมื่อเห็นว่านางกำลังจะทดสอบสนามพลังวิญญาณ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ยังไม่ได้แสดงสนามพลังเซียนของนางเต็มที่รั้งสนามพลังของนางกลับ และกลับสะพายดาบบรอนซ์ยักษ์ไว้ด้านหลังนาง ส่งสมรภูมิต่อสู้ให้เสวี่ยอู๋เสีย

ถึงตอนนี้ทุกคนตระหนักได้ว่าพื้นที่ภายในหุบเขาราชสีห์อย่างน้อยในรัศมีสิบกิโลเมตรถูกคลุมไปด้วยสนามพลังจิตพิเศษ ถ้าไม่ใช่เพราะเสวี่ยอู๋เสียให้ทุกคนรู้จักสนามพลังจิตชนิดนี้ บางทีอาจไม่มีบุคคลที่สามที่รู้สึกถึงความคงอยู่ของสนามพลังได้ นอกจากเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้า

สนามพลังจิตแบบนี้ไร้ลักษณ์ เต็มอยู่ในโลกทุกหนแห่ง

ทุกคนมีความรู้สึกประหลาดนี้ได้ ในสนามพลังจิตแบบนี้ สนามพลังจิตนี้ยิ่งใหญ่กว่าสนามพลังขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถึงสิบเท่า ในโลกนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเสวี่ยอู๋เสีย

ราชสีห์จ่าฝูงเก่าพานางสิงโตวิ่งไปรอบๆ พื้นที่สุดฝีเท้าเป็นเวลาสามนาที

ด้วยความเร็วที่โดดเด่นของของพวกมัน พวกมันสามารถวิ่งออกไปได้หลายสิบกิโลเมตร แต่ในความเป็นจริง พวกมันหนีไปได้ไม่เกินห้าสิบเมตร

เหมือนกับว่ามีเขาวงกตที่มองไม่เห็นทำให้พวกมันยังคงอยู่ในที่เดิม นางสิงโตหลายตัวพยายามหนีอย่างดีที่สุด แต่ขณะที่พวกมันวิ่ง พวกมันชนกับก้อนหินโดยตรง เหมือนกับว่าพวกมันไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีภูเขาขวางอยู่ข้างหน้าพวกมัน ไม่ใช่หนทาง ถ้านี่จะอธิบายว่าพวกมันอยู่ในความแตกตื่น อย่างนั้นการกระทำของพวกมันที่ใช้ความเร็วสูงสุดกระแทกกับภูเขาอย่างไม่มียั้งและกระเด็นกลับมา เลือดไหลออกจากศีรษะยันเท้า นับว่าสร้างความงงงวยให้กับพวกมันอย่างแท้จริง

ทำไมพวกมันถึงเป็นแบบนี้?

นอกจากเย่ว์หยางที่มีพลังจักษุญาณทิพย์ เขาก็ยังไม่เข้าใจ

เสวี่ยอู๋เสียดูเหมือนจะเข้าใจความสับสนของทุกคน แค่เพียงนางโบกมือ ฉากภาพต่อหน้านางก็เปลี่ยนไป

หุบเขาราชสีห์เดินเปลี่ยนรูปร่างทันที คนที่ยืนอยู่ในอากาศและมองลงมาที่พื้น ฝูงของสิงโตวิ่งไปตลอดทางขึ้นไปตามถนน และด้านหลังพวกมันจะเป็นมังกรโบราณอสูรปราณฟ้าระดับห้า

ลักษณะของมังกรโบราณทำให้ทุกคนตกใจกลัว แม้ว่าจะเป็นภาพลวงตาที่เกิดจากสนามพลังจิตของเสวี่ยอู๋เสียก็ตาม แต่มันมีราศีอยู่เหนือสัตว์อสูรนับหมื่น และมันคือมังกรที่พ่นไฟได้ ตาของมันไวเหมือนสายฟ้า และปากขนาดใหญ่ของมันสามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง มันดูเหมือนจริงมากราวกับว่ามังกรโบราณลงมายังหุบเขาราชสีห์จริงๆ...

“ประตูเป็นตาย นี่คือภาพลวงตาของประตูเป็นตาย” ลี่เยี่ยนตะลึง นางไม่เคยคิดเลยว่าเสวี่ยอู๋เสียจะเปลี่ยนการฝึกในประตูเป็นตายมาเป็นสนามพลังของนางได้

อย่าว่าแต่ฝูงสิงโตเลย แม้แต่ลี่เยี่ยนเองก็ยังไม่สามารถทำลายผ่านสนามพลังวิญญาณได้

แม้ว่ามังกรโบราณจะเป็นของปลอม แต่เปลวเพลิงดูแล้วไม่อาจปฏิเสธการมีอยู่ของมันได้

ด้วยคลื่นพลังกรงเล็บมังกร มังกรโบราณส่งนางสิงโตจนปลิวกระเด็น

บึ้มมมมม!

นางสิงโตกระแทกพื้นอย่างหนัก เลือดสาดกระจายทุกที่... เปลวเพลิงรู้ว่ามันได้รับบาดเจ็บ จึงลามมายังก้อนหิน แต่พวกมันคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามังกรโบราณโจมตีวิญญาณของพวกมันด้วย

นางสิงโตอีกตัวตาย และถูกกลืนกินโดยมังกรโบราณ

ร่างของมันขาดครึ่ง ครึ่งหนึ่งถูกมังกรโบราณกลืนกิน

อีกครึ่งหนึ่งเลือดโชก

ทุกคนเห็นได้ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เสวี่ยอู๋เสียเปลี่ยนฉากภาพจากสนามพลังวิญญาณไปเป็นสภาวะเดิม ทุกคนเห็นว่านางสิงโตตัวนี้ตายเพราะความกลัวของตัวเอง ศพของมันไม่ได้ถูกฉีกครึ่ง ไม่มีรอยเปื้อนเลือด แม้ว่ามันจะตาย แต่ดวงตาของมันไม่สามารถปกปิดความกลัวมังกรโบราณได้ นอกจากนี้ สิ่งที่แปลกยิ่งกว่าก็คือในดวงตาที่เบิกโพลงของมันยังมีภาพสะท้อนของมังกรโบราณ

ต้องบอกว่าสนามพลังวิญญาณของเสวี่ยอู๋เสียถึงระดับที่ไม่มีใครฆ่านางได้

ลี่เยี่ยนตอนนี้มีเหตุผลให้เชื่อว่าถ้านางสู้กับเสวี่ยอู๋เสีย นางอาจตายในสนามพลังวิญญาณนี้ก็ได้ อย่างน้อยที่สุดนางคงพังทลายและกลายเป็นบ้าไปแน่นอน

น่ากลัวเหลือเกิน

ใช้พลังควบคุมจิตใจเพื่อสะกดราชสีห์จ่าฝูงเก่าที่กำลังอยู่ในสภาพเสียสติ และไม่รู้ความจริงแม้แต่น้อย มันประสบกับการต่อสู้นับร้อยครั้งตลอดเส้นทางหลบหนี มันฆ่าศัตรูมาตลอดทาง และศัตรูที่มันเผชิญกล่าวคือนางสิงโต ในที่สุด..มันเหนื่อยจัดและพบกับพลอยสุริยันต์ที่อยู่ข้างหน้ามันซึ่งสามารถใช้ฟื้นฟูพลังให้มันได้ มันรีบกินด้วยความตื่นเต้นทันที.. ความจริงนั่นคือผลึกน้ำแข็งที่เสวี่ยอู๋เสียทิ้งไว้บนพื้นต่อหน้า ขณะที่มันกลืนกิน มันฆ่าเมียและลูกอย่างอำมหิต เพราะดูเหมือนว่าต้องการจะขอแบ่งปันพลอยสุริยันต์

ในที่สุดราชสีห์จ่าฝูงตัวเก่าก็เพลิดเพลินสำราญกับพลอยสุริยันต์

มันไม่รู้ว่าแท่งน้ำแข็งนั้นเป็นตัวข่มกับพลังงานของหัวใจของราชสีห์เพลิง ดังนั้นมันเข้าใจผิด จึงยิ่งเพิ่มความยินดีให้กับมัน

ผลก็คือมันระเบิดตายตามธรรมชาติ

“ข้าคงไม่กล้ากินอะไรอย่างนั้นแน่!” ลี่เยี่ยนปาดเหงื่อเยือกเย็น โอวพระเจ้า มันตายอย่างโง่งมแท้ๆ นี่มันอะไรกัน? มันตายอย่างงมงายโดยไม่รู้อะไร! ซึ่งก็หมายความว่านั่นเป็นการฆ่าตัวตาย? เวลานั้นราชสีห์จ่าฝูงเดิมเชื่อว่ามันปลอดภัยจากภัยพิบัติ และนั่นก็เป็นเวลาตายของมัน

การทดสอบสุดท้ายของเสวี่ยอู๋เสียก็คือถ้าราชสีห์จ่าฝูงไม่ฆ่าลูกเมียของมันตอนที่มันต้องการพลอยสุริยันต์เพื่อช่วยชีวิต นางอาจจะไว้ชีวิตมันก็ได้

หลังจากการทดสอบนั้น ราชสีห์จ่าฝูงเก่าสมควรตาย มันสมควรตายแล้ว!

เย่ว์หยางยิ้ม “แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงในการส่งคลื่นความคิดของเจ้า ในที่สุดข้าก็เข้าใจอำนาจของสนามพลังวิญญาณของเจ้า สนามพลังของเจ้าดีพอๆ กับแม่เสือสาวเลยทีเดียว ดูแล้วมีความคล้ายคลึงกับสนามพลังสร้างโลกของข้า

“อย่างนั้นสนามพลังสร้างโลกของพี่สามเหมือนอะไร?” เย่ว์ปิงมองดูเย่ว์หยางด้วยความชื่นชม

“ข้าจะใช้วิธีนี้ สนามพลังสร้างโลกจะมีพลังภาพลวงตาของประตูเป็นและภาพลวงตาของประตูตาย มีหลายอย่างที่คล้ายกับอู๋เสียและแม่เสือสาว แต่จะเพิ่มจากสนามพลังเดิมของข้าเป็นทวีคูณ และอสูรต่างๆ รวมทั้งผลจากพลังสมบัติต่างๆ มีทั้งจริงและเท็จ ข้าเชื่อว่าศัตรูที่สู้กับข้าจะต้องถูกทรมาน ข้อเสียเปรียบก็คือสนามพลังของข้ามีรัศมีร้อยเมตร และผลกระทบมีขนาดเล็กเกินไป ถ้าสนามพลังของข้าใหญ่เท่ากับสนามพลังของอู๋เสีย ข้าเชื่อว่านอกจากพลังกฎสวรรค์และสำนึกเทพที่เหนือกว่าหัวใจปราณราชันย์ของข้าจะไม่มีทางแปรเป็นอย่างอื่น”

“จริงเหรอ? รีบหานักสู้ปราณฟ้ามาทดสอบดู ข้ายังไม่สามารถใช้อสูรเวทของข้ามาทดสอบความแข็งแกร่งของข้าเลย”

“รอเดี๋ยว เรายังมีราชสีห์เพลิงทองอยู่ด้วย” ความทรงจำของเย่ว์หยางยังดีเยี่ยม

สิ่งที่เขาต้องการไม่มีทางหลบหนีไปได้

10 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BJ กล่าวว่า...

กลุ่มมหาโหด

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

samchay กล่าวว่า...

เมพเทพยกกลุ่ม ใครจะสู้ได้ละทีนี้

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

แสดงความคิดเห็น