วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2562

Panlong เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ – ตอนที่ 38 อสูรอะเมทิสต์น้อย


เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ – ตอนที่ 38 อสูรอะเมทิสต์น้อย
แม้ว่าพวกเขาจะประหลาดใจ จาร์ร็อดและการ์แลนด์ก็รู้สึกกลัวพลังของกลุ่มลินลี่ย์นับว่าถูกแล้ว
 “เฮ้, การ์แลน  พวกเจ้าทั้งสองคนคงจะอยู่ในภูเขาอะเมทิสต์มานานแล้วใช่ไหม?”  บีบีหัวเราะขณะถาม  การ์แลนและจาร์ร็อดมองหน้ากันเอง ตาของพวกเขามีแววจำนน
 
การ์แลนถอนหายใจ  “ถูกแล้ว เราอยู่ที่นี่มานานแล้ว อย่างน้อยก็ร้อยล้านปี”
 “เกินกว่าร้อยล้านปี?”  กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง
ร้อยล้านปี!
วลีง่ายๆ  แต่เป็นตัวเลขที่มากมายเหลือเกิน  ลินลี่ย์อยู่มาเพียงสองศตวรรษ และยังห่างจากร้อยล้านปีอยู่มาก
จาร์ร็อดพูดจริงจัง  “ในอดีต การ์แลนกับข้าก็เผชิญกับสถานการณ์หมอกขาวเช่นกัน ดังนั้นเราจึงถูกนำเข้ามาในภูเขาอะเมทิสต์อย่างไม่เต็มใจ  วันนั้นอสูรอะเมทิสต์ตื่นเต้นกันมาก  พวกมันฆ่าคนไปมากมาย  แต่เราสองคนโชคดีเอาตัวรอดได้  ตอนนั้นข้าเป็นเทพแท้ ขณะที่การ์แลนเป็นเทียมเทพ  หลังจากผ่านไปหลายปีการ์แลนและข้าก็ฝึกฝนจนถึงระดับเทพชั้นสูง  แต่เพราะเวลาผ่านไปนานมากเกินไป เราทั้งสองคนจึงไม่ใส่ใจกับการนับอีกต่อไป  อย่างไรก็ตามเครื่องหมายร้อยล้านปีผ่านไปนานแล้ว”
ลินลี่ย์ตกใจ
เลื่อนจากเทียมเทพไปเป็นเทพชั้นสูง สำหรับคนทุกคนถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่ต้องใช้ไป
 “หรือว่าพวกท่านไม่ต้องการจากไป?”  ลินลี่ย์มองดูพวกเขาขณะพูดอย่างจริงจัง  “หรืออาจเป็นไปได้ว่าภูเขาอะเมทิสต์นี้ เป็นเข้าได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถจากไปได้”
เมื่อเขาได้ยินผู้คนพูดกันที่ชายขอบของทะเลหมอก ลินลี่ย์เชื่อเพียงครึ่งเดียว
ขณะที่ลินลี่ย์เห็น  ไม่มีใครที่เก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ลึกเข้าไปในทะเลหมอก  พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเป็นเช่นไร?  แม้แต่เขาเองก็เข้ามาในภูเขาอะเมทิสต์  ลินลี่ย์ก็ยังยึดมั่นกับความหวังลมๆ แล้งๆ
เขาเชื่อว่าเขายังมีโอกาสจากไปได้
 “ใช่แล้ว เมื่อเจ้าเข้ามาในนี้ เจ้าไม่สามารถจากไปได้”  จาร์ร็อดพูดยืนยันหนักแน่น
 “พวกท่านไม่สามารถจากไปได้จริงๆ หรือ?”  ลินลี่ย์ตะลึง
เขาต้องติดอยู่ในนี้ตลอดไปหรือ?
เดเลียที่อยู่ใกล้ๆ มองดูลินลี่ย์ เมื่อรู้ว่าลินลี่ย์ต้องการเดินทางไปแคว้นอินดิโกเพื่อไปเยี่ยมบรรพบุรุษตระกูลบาลุค  เดเลียถามทันที  “จาร์ร็อด!  ทำไมท่านท่านถึงแน่ใจนักเล่า?  ภูเขาอะเมทิสต์กว้างใหญ่มาก มีคนแตกต่างมากมายที่นี่  ไม่มีสักคนเดียวที่จากไปได้หรือ?”
สตรีผมน้ำตาลการ์แลนกล่าวปลอบโยน  “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่ยินดียอมรับผลเช่นนี้  แต่นี่เป็นความจริง”
 “ประการแรกเลยแรงโน้มถ่วงในภูเขาอะเมทิสต์ทรงพลังมาก”  การ์แลนกล่าว  “กล่าวโดยทั่วไปก็คือเทพชั้นสูงไม่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดได้เลยแม้แต่น้อย”
เดเลียและลินลี่ย์พยักหน้ากันทั้งคู่
เดเลียเป็นเทพชั้นสูง  แต่นางไม่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดนี้ได้  แม้ว่าร่างกายของลินลี่ย์จะแข็งทนทาน  แต่เขาก็ยังไม่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดบินออกไปข้างนอกไม่ได้
การ์แลนพูดต่อ  “ภูเขาอะเมทิสต์คงอยู่มาเป็นเวลายาวนาน  หลายคนที่เข้ามาในพื้นที่อันตรายแห่งนี้ ได้เข้าถึงพลังระดับสูงล้ำ ส่วนใหญ่เทียบได้กับอสูรห้าดาว อสูรหกดาวราวๆ นั้น  ครั้งหนึ่งมีเทพชั้นสูงที่ทรงพลังสามารถต่อต้านแรงโน้มถ่วงได้ และพยายามจะบินออกไปข้างนอก”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
 “เขาสามารถต้านทานแรงโน้มถ่วงได้  แต่เมื่อเขาไปถึงพื้นที่ซึ่งมีลมแปลกประหลาดพัด  เขาได้รับผลจนศีรษะของเขามึนงง  แม้ว่าเขาจะสามารถรักษาสติไว้ได้  เขาอยู่ในกลางอากาศเป็นเวลาหลายสิบปีโดยไม่สามารถหางออกไปได้!  การ์แลนกล่าว
บีบีพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ  “หลายสิบปีหรือ?  ในพื้นที่ซึ่งทำให้มึนหัวน่ะหรือ?”
 “ใช่แล้ว อย่างไรก็ตาม พื้นที่นั้นแปลกประหลาดมาก ไม่ใช่แค่สร้างความสับสนเท่านั้น  แม้แต่วิญญาณก็ยังได้รับผลไปด้วย  ดังนั้นจึงไม่มีทางบินออกไป”  การ์แลนส่ายศีรษะขณะกล่าว
ลินลี่ย์ปวดใจอย่างช่วยไม่ได้
แม้แต่ยอดฝีมือผู้สามารถต่อต้านแรงดึงดูดก็ยังไม่สามารถบินออกไปได้  แล้วลินลี่ย์จะทำอะไรได้?
จาร์ร็อดถามอย่างประหลาดใจ  “หลังจากนั้นก็ยิ่งแปลกประหลาด  ยอดฝีมือเลิกความตั้งใจออกไปจากภูเขาอะเมทิสต์    แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หายไปอย่างไม่มีเหตุผล”
 “หายไปอย่างไม่มีเหตุผล?”  กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนตกใจ
การ์แลนพยักหน้า  “ถูกแล้ว, ไม่ใช่แค่เขา  หลังจากนั้นทุกคนที่ถึงระดับฝีมือที่สูงส่งจะหายไปทันที  ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาตายหรือว่าหนีไป  หรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น”  การ์แลนและจาร์ร็อดก็รู้สึกทึ่งมากเช่นกัน
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว  ยอดฝีมือเหล่านี้ผู้เป็นอสูรหกดาวหรือพลังระดับอสูรเจ็ดดาวต้องการจะจากไป แต่ล้มเหลว  ไม่มีทางที่พวกเขาจะออกไปได้ด้วยพลังของตนเอง
 “ไม่ว่าพวกเขาตาย หรือจากไปหรือถูกควบคุมเอาไว้  แต่จะมีกลไกลอยู่หลังฉากที่นี่คอยควบคุมทุกอย่าง”  ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
ลินลี่ย์จ้องมองภูเขาอะเมทิสต์
เขายังคงมีความรู้สึกว่าภูเขาอะเมทิสต์มีความแปลกประหลาดในตัวเองมาก  แก่นวิญญาณ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของวิญญาณ  แต่ภูเขาอะเมทิสต์กลับผลิตอะเมทิสต์ออกมาได้จริง  นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึง
นอกจากนี้ยังมีหมอกขาวซึ่งครอบคลุมไปทุกพื้นที่, เสียงลมที่แปลกประหลาด และแรงโน้มถ่วงที่แปลกประหลาด
และนอกจากนี้ถ้ำที่ดึงดูดเข้าและพ่นออกเป็นครั้งคราว
เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ทำให้เขาสบายใจเลย
 “การ์แลน, จาร์ร็อด”  บีบีชี้ไปที่รอยแยกไกลๆ  “ท่านเคยเห็นที่ซึ่งพ่นอะเมทิสต์ออกมาบ้างหรือเปล่า?  เกิดอะไรขึ้นกับถ้ำในรอยแยก?   บางทีมันพ่นสิ่งต่างๆ ออกมา และบางครั้งก็หยุด แต่จากนั้นก็เริ่มดูดกลืนกินสิ่งต่างๆ เข้าไป  มันคืออะไร?”
 “อย่าไปในที่นั้น”  การ์แลนรีบกล่าว  “สถานที่เหล่านั้นเราเรียกกันว่ารังอะเมทิสต์ปีศาจ  โดยสรุปก็คือทั่วทั้งเทือกเขาอะเมทิสต์มีรังอะเมทิสต์ปีศาจอยู่ 108 แห่ง
 “108 แห่ง?”  บีบีจ้อง  “สถานที่ประหลาดนี้มีมากมายจริงๆ หรือ?”
การ์แลนรีบกล่าว  “ใช่แล้ว รังอะเมทิสต์ปีศาจก็คือแหล่งที่พ่นอะเมทิสต์ออกมา  มันจะพ่นอะเมทิสต์ออกมาเป็นปกติ เพียงแต่ปริมาณค่อนข้างน้อย ต่างจากวันนี้ที่พวกมันพ่นอะเมทิสต์ออกมามากมาย  นอกจากนี้ เมื่อรังอะเมทิสต์ปีศาจหยุดพ่น อย่าได้โลภและเข้าไปในรอยแยกเพื่อเก็บอะเมทิสต์”
 “ข้ารู้” บีบีแค่นเสียง  “ข้าเห็นกับตามีคนสี่คนถูกกลืนเข้าไปในถ้ำ  เจนกินที่น่าสงสาร..”  ตาของบีบีเต็มไปด้วยแววเศร้าสร้อย
 “มีคนถูกกลืนกินในนั้นด้วยหรือ?”  จาร์ร็อดที่อยู่ใกล้ประหลาดใจ จากนั้นเขาพูดทันที  “คนที่ถูกกลืนเข้าไปข้างในคงเป็นผู้มาใหม่ไม่รู้อะไรแน่ ในบรรดากระบวนการ พ่น พัก และกลืนของรังอะเมทิสต์ปีศาจ กระบวนการพ่นจะยาวนานที่สุด ขั้นตอนพักจะสั้นที่สุด  ขณะที่กลืนจะอยู่ในระดับกลาง  ไม่เพียงขั้นตอนพักจะมีระยะสั้นที่สุด  ช่วงเวลาพักก็แตกต่างกัน  ไม่มีรูปแบบหรือกฎเกณฑ์ใดๆ และไม่มีใครรู้ว่ามันอันตรายมากเพียงไหนถึงได้กล้ากระโดดลงไป
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่พยักหน้าเล็กน้อย
พวกเขาเห็นเรื่องนี้กับตาตนเอง  ขั้นตอนพ่นเป็นเวลานานมาก  ขณะที่ขั้นตอนพักแค่เพียงไม่กี่วินาที
 “การเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป  ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนพัก พวกเจ้าทุกคนก็ใช้ร่างเงามายา หรือมือธาตุเพื่อเก็บอะเมทิสต์ออกมา”  การ์แลนหัวเราะอย่างใจเย็น
ทันใดนั้นลินลี่ย์เข้าใจทันที
ถูกแล้ว ตัวอย่างเช่น แก่นธาตุดินสามารถสร้างมือยาวเอื้อมไปเก็บได้  แม้ว่าขั้นตอนกลืนจะเริ่มขึ้นทันทีก็ยังไม่มีอะไรที่สูญเสียมาก
 “เจนกินและอีกสามคน..เฮ้อ”  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ  “แต่เวลานั้นพวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรังอะเมทิสต์ปีศาจ  เมื่อพวกเขาเห็นการพ่นหยุดชะงัก  พวกเขาดีใจและลงไปเก็บรวบรวมอะเมทิสต์”
 “ฮ่าฮ่า... ความจริง เก็บอะเมทิสต์ไปจะมีประโยชน์อะไร?”  จาร์ร็อดหัวเราะและส่ายศีรษะ  “ไม่ว่าพวกเจ้าจะมีอะเมทิสต์อยู่เท่าใด   ก็ไม่มีอะไรนอกจากเสียเวลาเปล่า  ที่นี่คือภูเขาอะเมทิสต์ พวกเราจะไม่มีทางออกไปได้ ดังนั้นไม่ต้องคิดเลยเรื่องเปลี่ยนอะเมทิสต์ให้เป็นเงินอะซูไรท์และศิลาดำ”
กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง
 “ถูกแล้ว  ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถออกไปได้  จะมีประโยชน์อะไรกับการได้อะเมทิสต์ในเทือกเขาอะเมทิสต์นี้?”  โอลิเวอร์ส่ายศีรษะเช่นกัน
สำหรับยอดฝีมืออย่างลินลี่ย์และโอลิเวอร์ผู้ไม่พอใจกับการใช้ชีวิตตามปกติและชอบท้าทายศัตรูที่ทรงพลัง การติดอยู่ในที่เดียวตลอดไปโดยไม่มีทางออกไปได้นับเป็นความทรมานแน่นอน
 “ควั่บ”  เสียงแหวกอากาศสามารถได้ยินอย่างเลือนราง
กลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนและจาร์ร็อดกับการ์แลนกำลังพักอยู่ในระดับครึ่งหนึ่งของความสูงภูเขา
ไม่มีใคนในพวกเขารู้ว่าอสูรอะเมทิสต์อยู่ในตำแหน่งไหนกันแน่  ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าอาจพักอยู่ในที่นั้นได้
ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์กำลังคุยกันเรื่องภูเขาอะเมทิสต์  ทันใดนั้น...
 “โรววววว!  “โรววววว!
 “ฮาหหห์!  ฆ่า!
เสียงคำรามของอสูรกลุ่มใหญ่และเสียงต่อสู้ดังกึกก้องอยู่ในป่าเขาต่อเนื่องไม่ขาด  เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้ หน้าของคนในกลุ่มลินลี่ย์ทั้งหกคนเปลี่ยนไปทันที
 “อสูรอะเมทิสต์มากมายนัก!  ลินลี่ย์มองดูแหล่งที่มาของเสียง  เฉพาะเสียงอย่างเดียว ลินลี่ย์แน่ใจว่ามีอสูรอะเมทิสต์จำนวนมาก
 “มีอสูรอะเมทิสต์อย่างน้อย 20-30 ตัว” จาร์ร็อดรีบบอก  “เราต้องไปกันเดี๋ยวนี้”
ลินลี่ย์เลือกตำแหน่งทันที  “เราจะไปทางนั้น”  ไม่มีใครในพวกเขาต้องการเผชิญกับอสูรอะเมทิสต์เหล่านั้น และพวกเขาตามลินลี่ย์ไปด้วยความเร็วสูงทันที  ถ้าอสูรอะเมทิสต์สองสามตัวมา กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงฝืนร่วมมือกันได้
แต่ถ้ามากันหลายสิบตัว...
พวกเขาเสร็จแน่นอน  แม้ว่าลินลี่ย์และบีบี เมื่อเผชิญกับการโจมตีของอสูรอะเมทิสต์เป็นกลุ่ม  ก็คงตกอยู่ในอันตราย
 “เร็วเข้า” ลินลี่ย์กระตุ้นพวกเขา  ขระที่เสียงคำรามอย่างดุร้ายสามารถได้ยินจากด้านหลังพวกเขา
 “เจ้าช้ามาก”  บีบีคว้ามือโอลิเวอร์ทันที และโอลิเวอร์ได้อาศัยความเร็วบีบีจึงไล่ตามทัน
 “พวกเขาไวจริงๆ!  จาร์ร็อดและการ์แลนตกใจอย่างหนัก  ความเร็วของกลุ่มลินลี่ย์ไม่ด้อยไปกว่าเทพชั้นสูงทั้งคู่แม้แต่เล็กน้อย  โดยเฉพาะลินลี่ย์และบีบี... เมื่อร่างของพวกเขาระเบิดพลังความเร็วเต็มที่  พวกเขาจะไวกว่าเล็กน้อย
พวกเขาวิ่งตลอดเวลา  หลังจากผ่านไปพักหนึ่งเสียงคำรามดุร้ายก็ไม่ดังจากเบื้องหลังพวกเขา
 “เฮ้อ... ในที่สุดเราก็ปลอดภัย”  บีบีโบกมือสวมหมวกฟาง และหมอบลงกับโขดหิน “เฮ้..พักกันตรงนี้เถอะ  อสูรอะเมทิสต์ไปคนละทิศทางกับเรา  พวกมันไล่ตามเราไม่ทันแล้ว”
ลินลี่ย์และเดเลียนั่งลงเคียงข้างกัน โอลิเวอร์หาที่ยืนเงียบๆ ตามปกติ
จาร์ร็อดและการ์แลนมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า  “ทุกคนอย่าใจร้อนเกินไป  คลื่นหมอกจะคงอยู่เพียงวันเดียว นั่นคือวันนี้ อสูรอเมทิสต์เหล่านี้จะจะวิ่งล่าอย่างบ้าคลั่ง  หลังจากวันนี้ไปอสูรอะเมทิสต์จะกลับไปยังที่ตนเอง และเราจะสามารถมีชีวิตอย่างสงบสุขไปนานนับปีไม่ถ้วน”
 “ถ้าทุกคนเป็นอย่างวันนี้  ชีวิตคงทุกข์ทรมานแสนสาหัส”  บีบีพึมพำ
 “บีบี, แม้แต่เจ้าก็ยังกลัวหรือนี่”  ลินลี่ย์เม้มปากยิ้ม
 “ทุกคนคงรู้สึกปวดหัวเมื่อเผชิญหน้ากับตัวประหลาดที่ฆ่าได้ไม่หยุดอย่างนี้”  บีบีพูดอย่างจนใจ
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยตามปกติ..
 “เฮ้..ทุกคนดู.. เกิดอะไรขึ้นที่นั่น?” บีบีชี้ไปที่ห่างออกไป
กลุ่มของลินลี่ย์จ้องมองในที่ไกลและเห็นในที่ไกลออกไป หมอกขาวกว้างไกลกำลังเคลื่อนไปทางทิศหนึ่งด้วยความเร็วสูงหมอกขาวหายไปเพิ่มทัศนวิสัยให้ลินลี่ย์เห็นได้ไกลขึ้น  ในพริบตาหมอกขาวภายในระยะหลายสิบเมตรของที่นี่ก็หายไป
ลินลี่ย์ บีบีและพวกที่เหลือทั้งหกคนจ้องมองปากอ้าค้าง
ทั้งหกคนอยู่ในระยะกึ่งกลางความสูงของยอดเขาสามารถเห็นได้ไกลสามในสี่ของระยะทางกิโลเมตร  มีกลุ่มอสูรอะเมทิสต์เต็มอยู่ในสายตาเขาตอนนี้    เท่าที่เห็นมีจำนวนเกินพัน  ขณะที่อีกพวกอยู่ลึกลงไปในหมอก
 “นี่....นี่....” กลุ่มของลินลี่ย์กลัวจนทำอะไรไม่ถูก
อสูรอะเมทิสต์สองตัวก็ยากจะจัดการด้วยแล้ว นี่อสูรอะเมทิสต์เป็นพัน?
 “มีคนอยู่ด้วย!  โอว, พวกเขาถูกรายล้อมไว้”  จาร์ร็อดและการ์แลนสีหน้าเปลี่ยน  ลินลี่ย์มองดูอย่างระมัดระวังเช่นกัน
ภายในวงล้อมของอสูรอะเมทิสต์ มีคนเป็นร้อย
ภายในกลุ่มของอสูรอะเมทิสต์  มีตัวหนึ่งที่สูงเจ็ดเมตรและยาวยี่สิบเมตร เป็นเบเฮม็อธสีม่วงเหมือนอะเมทิสต์  แต่สิ่งที่สะดุดตาไม่ใช่อสูรอะเมทิสต์  แต่เป็นอสูรอะเมทิสต์อีกตัวหนึ่งที่กำลังยืนอยู่บนหัวเบเฮม็อธอะเมทิสต์
อสูรอะเมทิสต์เด็กยาวแค่เมตรเดียว เทียบกับอสูรอะเมทิสต์อื่น ไม่มีอะไรจะพูดได้
เมื่อหนูกินเทพสู้รบ  พวกเขาอาจเพิ่มขนาดได้เล็กน้อย ซึ่งพวกเขาอาจเทียบเท่าได้กับอสูรอะเมทิสต์เด็กนี้  พูดโดยเจาะจงก็คืออสูรอะเมทิสต์เด็กนี้ควรจะซ่อนตัวอยู่ห่างๆไว้และได้รับการปกป้องอยู่ในรัง
อย่างไรก็ตามอสูรเมื่อเห็นอสูรอะเมทิสต์เด็ก  กลุ่มของลินลี่ย์สั่นสะท้าน และไม่ใช่จากความหนาวเย็น
เพราะในขณะนั้นเอง อสูรอะเมทิสต์เด็กอ้าปากกว้าง หมอกขาวปริมาณมหาศาลถูกกลืนเข้าปากของอสูรอะเมทิสต์เด็ก  ต่อมาภายในวงล้อมสิบกิโลเมตรไม่เหลือหมอกขาวให้เห็นแม้แต่น้อย  สิ่งที่แปลกก็คือหมอกขาวในบริเวณอื่นไม่ได้เข้ามาเติมในช่องว่าง
อสูรอะเมทิสต์เด็กลูบท้องน้อยของมัน และจากนั้นมันพูดด้วยเสียงชัดสั่นสะท้านโลก  “ฮ่าฮ่า มนุษย์เอ๋ย, หมอกขาวที่ล้อมรอบบริเวณอยู่ใต้การควบคุมของข้า  ถ้าเจ้าต้องการเข้าไปในหมอกขาวและหนีไป  ไม่มีทางทำได้อีกต่อไป  พวกเจ้าทุกคนเตรียมตัวเป็นอาหารเสียเถิด”  เสียงดังชัดจากอสูรเด็กนั่น  แต่คำพูดของมันลื่นไหล
กลุ่มของลินลี่ย์ตกใจ
นี่เป็นเพราะอสูรอะเมทิสต์ที่พวกเขาพบ  เมื่อตนพูดจะมีเสียงแข็ง  สติปัญญาของพวกมันยังต่ำเช่นกัน  แต่ของอสูรอะเมทิสต์เด็กแตกต่างออกไป
 “ฮ่าฮ่า, เด็กๆ  จงฆ่าพวกมันให้ข้า!”    อสูรอะเมทิสต์เด็กตะโกนด้วยความยินดี
ทันใดนั้น อสูรอะเมทิสต์นับไม่ถ้วนเริ่มคำรามทั้งหมดขณะที่พุ่งเข้าหาคนที่ถูกล้อมทั้งหลายร้อย  คนหลายร้อยได้รับคำสั่งให้โจมตีอย่างทรงพลังที่สุด  ลินลี่ย์บอกได้ทันทีว่าคนทั้งร้อยนี้ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังทุกคนพลังโจมตีที่พวกเขาใช้แฝงไว้ด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับทำให้แม้แต่ลินลี่ย์ประหลาดใจ
ชั่วขณะนั้น ตลอดทั้งโลกเต็มไปด้วยเสียงกึกก้องกัมปนาท เสียงคำรามด้วยความโกรธดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 “ตายซะเถอะ, เจ้าสัตว์ประหลาด!”  บุรุษผมขาวคนหนึ่งกำลังควงหอกยาวและเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวสว่างเจิดจ้าพอๆ กับดวงอาทิตย์ขณะที่เขาพุ่งแหวกอากาศตรงหาอสูรอะเมทิสต์เด็ก
 “อสูรอะเมทิสต์เด็กยิ้มแจ่มใส โบกมือตามปกติยิงลำแสงสีม่วงใส่บุรุษผมขาว  เขาร่วงลงจากอากาศตายทันที
 “โอว, เจ้ามองหาที่ตายหรอกหรือ?”  อสูรอะเมทิสต์เด็กพูดอย่างเหยียดหยาม
กลุ่มลินลี่ย์ตกใจ
 “พลังโจมตีวิญญาณ!”  บีบีตะลึงกล่าว “และแฝงไปด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับอยู่ภายในด้วย”
 “อสูรอะเมทสิต์ตนนี้สามารถใช้พลังกฎธรรมชาติโจมตีได้ด้วยหรือ?”  หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน
อสูรอะเมทิสต์เด็กไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดา มันแตกต่างจากอสูรอะเมทิสต์ธรรมดาอื่นๆ
 “มนุษย์เหล่านั้นน่าจะเป็นเทพชั้นสูงทุกคน เหมือนอย่างข้า  พวกเขาอยู่ที่นี่มานานมาก” การ์แลนกล่าวอย่างตกใจ  “คนที่เพิ่งถูกสัตว์ประหลาดน้อยนั้นฆ่าเป็นเทพชั้นสูงที่ทรงพลังมาก  และเขาถูกฆ่าในท่าเดียว  พลังของอสูรน้อยนั่น...”  การ์แลนพบว่าตัวเองพูดไม่ออก
นี่มันพลังอะไรกัน?
พลังของเทพอสูรหรือ?
 “รีบไปจากที่นี่กัน”  ลินลี่ย์รีบกล่าว
 “พลังมากเกินไป  เราไปกันเถอะ”  บีบีเห็นด้วย
กลุ่มของลินลี่ย์หนีจากมาทันที
ในสนามรบระยะไกล อสูรอะเมทิสต์น้อยที่ยืนอยู่บนศีรษะของเบเฮม็อธอะเมทิสต์โบกมือ  และแสงสีม่วงสายหนึ่งยิงผ่านร่างของเทพชั้นสูงที่ทรงพลังอีกคนหนึ่ง ฆ่าเขาทันที และจากนั้นเขาหันหน้ามาทางทิศที่ลินลี่ย์อยู่พลางบ่น “โอว? ข้าเตรียมจะจัดการพวกเจ้าต่อไป คาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากเห็นในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเจ้าจะกลัวจนเผ่นหนีได้”
จากนั้นอสูรอะเมทิสต์น้อยร้องสั่งเสียงดัง  “เด็กๆ ไล่ตามไป!”  เสียงดังสะท้านท้องฟ้า
ทันใดนั้นอสูรอะเมทิสต์นับไม่ถ้วนเริ่มส่งเสียงคำรามทันที  และเริ่มวิ่งด้วยความเร็วสูงไปตามทิศทางที่อสูรอะเมทิสต์น้อยชี้บอก  บนพื้นสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงศพไม่กี่ซาก  เทพชั้นสูงหลายร้อยล้วนตายหมด!

ทำไมนึกถึงเจ้าตัวนี้ก็ไม่รู้

10 ความคิดเห็น:

มือใหม่โลกนิยาย กล่าวว่า...

.....

Añu-y กล่าวว่า...

ขอบคุฯครับ

minibull กล่าวว่า...

ฮี่ ฮี่ ฟรีสเซอร์

Boybravo กล่าวว่า...

อสูรน้อยฟรีซเซอร์ 555

NoT กล่าวว่า...

งานเขาตลอดลุ้นๆ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น