วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562

Panlong เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 3 อิ่มตัว


เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 3 อิ่มตัว
แคว้นเรนโบว์ เมืองบลูเมเปิล นี่คือจุดที่อยู่ปลายสุดทางทิศอาคเนย์ของทวีปเรดบุด  จากเมืองบลูเมเปิล ทุกคนบินต่ออีกชั่วขณะก่อนจะถึงเขตทะเลสตาร์มิสท์ที่กว้างใหญ่
 
ทุกคนมุ่งหน้ามาจากทวีปเรดบุดไปทางทิศตะวันออกจะมุ่งสู่ทวีปเจดโฟลท หรือทวีปบลัดริจทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเดินทางผ่านจุดนี้  ขณะที่เมืองบลูเมเปิลอยู่ใกล้ที่สุด  สมาคมการค้าใหญ่บางแห่งจะมีสาขาอยู่ที่นี่ส่งผลให้เมืองบลูเมเปิลคึกคักมากกว่าในเมืองอื่นในทวีปเรดบุด!
 “ประตูเมืองบลูเมเปิลมีทหารกองทัพเรดบุดยืนประจำการ แปลกจริง”  โอลิเวอร์หัวเราะและชื่นชมอย่างใจเย็น  ขณะนี้เองกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเข้ามาในเมืองบลูเมเปิลแล้วและกำลังเดินไปตามถนนในเมืองบลูเมเปิล
 “เมืองบลูเมเปิลเป็นเมืองที่พัฒนาไปมากและคึกคัก  การค้าขายทำให้สมาคมการค้าแยกขยายออกมาจากที่นี่  นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือหลายคนผู้ต้องการเดินทางไปทวีปอื่นจะต้องเตรียมตัวที่นี่เช่นกัน เป็นเรื่องสมเหตุผลแล้ว เพราะทหารเรดบุดจะต้องประจำการอยู่ในที่สำคัญอย่างนั้น”  ลินลี่ย์กล่าวขณะเดียวกันก็กวาดสายตามองดูรอบๆ
ลินลี่ย์อยู่ในอารมณ์ที่ดี เพราะเขาเพลิดเพลินกับภาพเมืองบลูเมเปิลซึ่งแตกต่างจากเมืองรอยัลวิง
ลินลี่ย์จะไม่อารมณ์ดีได้ยังไง?  ที่สำคัญพวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนใหญ่สำคัญกับการเดินทางเข้าสู่แคว้นอินดิโก
 “ลินลี่ย์”  เดเลียส่งสำนึกเทพกระตุ้นเตือน
 “หือ?”  ลินลี่ย์หันไปมองอย่างสงสัย  เดเลียส่งสายตาไปทางบีบี  และตอนนี้เองลินลี่ย์สังเกตว่าบีบีดูเหมือนค่อนข้างมีอารมณ์แปลก
เมื่อมาถึงเมืองบลูเมเปิล  บีบีที่ปกติจะร่าเริงมีชีวิตชีวาไม่พูดอะไรสักคำ
เขาสวมหมวกฟางปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง  เขาไม่สนใจสิ่งก่อสร้างรอบด้านหรือผู้คน  บีบีแค่เดินเงียบๆ ยากจะบอกได้จากการมองดูสีหน้าว่าเขากำลังคิดอะไร  แต่เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ
เป็นไปได้ว่ามีแต่เรื่องของนีซทำให้บีบีเป็นเช่นนี้
 “บีบี” ลินลี่ย์เรียก
บีบีสะดุ้งจากภวังค์ทันที และจากนั้นหันมามองลินลี่ย์อย่างมึนงง  “พี่ใหญ่, เรียกข้าทำไม?”
 “เจ้ากำลังคิดถึงนีซใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ก้มหน้ามองบีบี
 “ใช่แล้ว” บีบีพยักหน้าเล็กน้อย มีอาการเศร้าอย่างชัดเจน  “นินนี่ไปทวีปเจดโฟลท  นางคงออกไปจากเมืองบลูเมเปิลเช่นกัน”  เมื่อมาถึงเมืองบลูเมเปิล บีบีอดคิดถึงนีซไม่ได้ จากนั้นบีบีถอนหายใจเบาๆ “อย่างไรก็ตาม นางคงมาเมืองบลูเมเปิลเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว”
บีบีเงยหน้าและหัวเราะอย่างเบื่อหน่าย  “พี่ใหญ่, ข้าไม่เป็นไป  นินนี่ไปทวีปเจดโฟลทหลายร้อยปีมาแล้ว  เป็นเรื่องยากที่จะหานาง  ในอนาคต เมื่อข้ามีโอกาส .... เอ่อ.. ไปกันเถอะ ไปปราสาทอสูรกัน”  ขณะที่กล่าวบีบีเดินนำทาง
ลินลี่ย์กับเดเลียได้แต่มองหน้ากัน จากนั้นเดินตามเขา
โอลิเวอร์ลังเลเล็กน้อย ขณะคิดบางอย่าง หลังจากลินลี่ย์และอีกสองคนเดินห่างออกไป  “โอลิเวอร์, เจ้ากำลังคิดอะไร?”  โอลิเวอร์ในตอนนี้ค่อยรู้สึกตัวและรีบตามเขาไป
 “โอลิเวอร์”  ลินลี่ย์กล่าว
 “หือ?”  โอลิเวอร์มองลินลี่ย์
 “เจ้าตัดสินใจร่วมเดินทางกับเราไปทวีปบลัดริจหรือเปล่า?”  ลินลี่ย์หัวเราะ  ขณะที่เดินทางจากเมืองบลูเมเปิล  เขาคุยเรื่องนี้กับโอลิเวอร์  “ทะเลสตาร์มิสท์กว้างใหญ่ไพศาล และยากจะพูดได้ว่ามีอันตรายแบบไหนที่เราจะต้องเผชิญระหว่างเดินทาง”
โอลิเวอร์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ลินลี่ย์! ในแดนนรก ข้าไม่มีเป้าหมายหรือที่หมายโดยเฉพาะเจาะจง  ข้าร่วมเดินทางกับเจ้าสักระยะหนึ่งได้ไม่มีปัญหา  นอกจากนี้ แม้ว่าทะเลสตาร์มิสท์จะมีอันตรายอยู่ภายใน แต่เรามีเจ้า เป็นยอดฝีมือผู้ทรงพลังไม่ใช่หรือ?”
ยอดฝีมือผู้ทรงพลัง?
ขณะที่ลินลี่ย์และโอลิเวอร์คุยกันบนถนน เนื่องจากผู้คนในถนนเมืองบลูเมเปิลหนาแน่น คนที่ได้ยินพวกเขามีอยู่มาก คนเหล่านั้นอดมองไปที่ลินลี่ย์ไม่ได้ บางคนถ้าไม่แยแสหรือไม่ก็ขำขัน เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครในพวกเขามองลินลี่ย์ว่าทรงพลัง
เพราะลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้!
ในแดนนรกเทพแท้จะถูกมองว่าเป็นพลเมืองธรรมดา  พวกเขาไม่ถูกมองว่าเป็นยอดฝีมือแม้แต่น้อย
ลินลี่ย์สังเกตแววตาคนที่อยู่ใกล้ๆ  เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้  “โอลิเวอร์!  เจ้ากลายเป็นคนที่พูดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”  โอลิเวอร์น่าจะเป็นคนที่จริงจังและเย็นชา ไม่ใช่คนที่ชอบหยอกล้อเล่นอย่างนี้  อย่างไรก็ตาม ลินลี่ย์เข้าใจว่าเหตุผลก็คือโอลิเวอร์ในตอนนี้มองเขาว่าเป็นสหายแท้จริง
ในดินแดนต่างถิ่นนั้น ผู้คนจากแผ่นดินเกิดเดียวกันจะสนิทและชอบพอกันมากกว่าธรรมดา
ในแดนนรก พวกเขาจึงสนิทกันมากกว่าเดิมแน่นอน เนื่องจากพวกเขาทั้งสองคนมาจากทวีปยูลาน
ปราสาทอสูร  ปราสาทอสูรทุกแห่งจะเหมือนกันหมด
ตามมาตรฐาน  กลุ่มของลินลี่ย์มาถึงที่ชั้นสองของปราสาทอสูร  มีแนวห้องอยู่ในชั้นที่สอง  ซึ่งก็หมายความว่าเป็นที่ให้อสูรหนึ่งดาวดำเนินการรับภารกิจ  กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในห้องที่ว่าง
ภายในห้องมีสตรีผมทองชุดม่วงอยู่คนเดียว
สตรีชุดม่วงเงยหน้าและมองคนทั้งสี่ จากนั้นพูดอย่างสงบ  “บอกมาเลย พวกเจ้าต้องการภารกิจแบบใด”
 “เราสี่คนต้องการภารกิจสองดาว หวังว่าจะมีภารกิจที่เดินทางจากเมืองบลูเมเปิลไปเมืองนีซานของทวีปบลัดริจ”  ลินลี่ย์กล่าว
เมืองนีซานอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปบลัดริจ  จากทวีปเรดบุดจะต้องไปถึงเมืองนีซานก่อน
 “ทวีปบลัดริจใช่ไหม?  รอสักเดี๋ยว”  สตรีชุดม่วงมองดูลินลี่ย์ด้วยดวงตาสีฟ้า จากนั้นหลับตาสักครู่แล้วลืมตาในเวลาต่อมา  เมื่อนางทำเช่นนั้นเสร็จ ม้วนข้อความปรากฏขึ้นในมือนาง นางกล่าวขณะพลิกเปิด “จากเมืองบลูเมเปิลไปถึงเมืองชายแดนนีซานของทวีปบลัดริจ ในเดือนหน้ามี 13,043 ภารกิจ มี 1,836 งานเป็นภารกิจสองดาว เชิญเลือกตามสบาย”  ขณะที่นางกล่าว นางวางม้วนบันทึกภารกิจลงข้างหน้าลินลี่ย์
กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง
ตัวเลือกเกินกว่าหมื่น?
 “ลินลี่ย์, เมื่อเรามาจากเมืองรอยัลวิง  มีเพียง 11 งานเอง  มี 3 งานเป็นภารกิจสองดาว”  เดเลียตกใจ
สตรีชุดม่วงพูดอย่างใจเย็น  “ทุกๆ วันมีผู้คนมากมายเดินทางจากเมืองบลูเมเปิลไปทวีปบลัดริจ, ทวีปเจดโฟลท หรือไม่ก็ทะเลสตาร์มิสท์  อย่างไรก็ตามภารกิจเกือบทั้งหมดเป็นกองคาราวานของพ่อค้าเอง นอกจากนี้ไม่ค่อยมีภารกิจที่เป็นปัญหามากนัก แม้ว่าจะมีภารกิจมากกว่าหมื่นงานก็ตาม
ลินลี่ย์พลิกไปที่ภารกิจสองดาว
 “พี่ใหญ่, เราจะเลือกภารกิจไหนดี?”  บีบีมองดูเห็นรายการภารกิจมากมาย เขาไม่รู้จะเลือกภารกิจไหน
ลินลี่ย์มองดูภารกิจอื่น  “ครั้งนี้ข้าจะเลือกภารกิจง่ายๆ”
หลังจากได้รับประสบการณ์ลินลี่ย์ไม่กล้าเลือกภารกิจที่ต้องใช้อสูรจำนวนมาก  ยิ่งต้องการใช้นักสู้อสูรจำนวนมาก  ภารกิจจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น  อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอสูรน้อยเกินไป  การเดินทางจะมีปัญหายุ่งยากมากขึ้น และมีอันตรายเพิ่มขึ้น
ดังนั้นลินลี่ย์เลือกภารกิจสองดาวที่มีการจ้างกลุ่มอสูรสองดาว
 “เอาภารกิจนี้”  ลินลี่ย์ตัดสินใจ
 “ภารกิจนี้หรือ?” บีบีชะโงกหน้ามองดู จากนั้นพึมพำ  “เหมือนกับไม่ต้องจ่ายเงินเลยตลอดเส้นทางในทะเลสตาร์มิสท์แค่ห้าหมื่นศิลาดำเอง...”  ภารกิจคุ้มครองครั้งก่อนมีผลตอบแทนถึงสองแสนศิลาดำ แต่แน่นอนว่า...
ในภารกิจนั้น ผู้ว่าจ้างก็คือบุรุษเขาขาวและบุรุษเขาดำซึ่งตายทั้งคู่ กลุ่มของลินลี่ย์ทำภารกิจล้มเหลว  ดังนั้นจึงไม่ได้รับค่าจ้างอะไร
 “ถ้าเราไม่ได้รับค่าจ้าง  แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”  ลินลี่ย์หัวเราะ
เดเลียหัวเราะเช่นกัน  “บีบี!  เจ้าสนใจเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?”
บีบีเก็บอะเมทิสต์มาสิบปีเต็ม  โชคลาภที่เขาครอบครองแทบจะเทียบได้กับสมบัติทั้งหมดของตระกูลบอยด์
 “ข้าก็พูดไปอย่างนั้นแหละ”  บีบีบ่น
ความจริงลินลี่ย์ครุ่นคิดว่ายิ่งผลตอบแทนสูง มีแนวโน้มว่าจะมีอันตรายแฝงอยู่ในภารกิจที่เขารับทำนี้   เหมือนอย่างภารกิจคุ้มกันภัยครั้งล่าสุดจะถือว่าเป็นภารกิจสองดาวได้ยังไง?  คนผู้ได้รับการว่าจ้างให้ทำภารกิจเหล่านั้นล้วนแต่เอาชีวิตไปทิ้งกันหมด  นอกจากกลุ่มของลินลี่ย์ที่โชคดีพอไม่ถูกฟูโซ่ฆ่า อสูรรับจ้างอื่นๆ ล้วนตายกันหมด  มีแต่เพียงแลร์มองต์ที่สามารถหลบหนีได้  ต้องขอบคุณพลังของเขา
 “ขอตราอสูรให้ข้าสักเดี๋ยว”  สตรีชุดม่วงกล่าว
หลังเสร็จงานเอกสารกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนออกจากปราสาทอสูร  ขณะเดียวกัน ตอนนี้พวกเขารู้ว่าว่าจะออกเดินทางเมื่อใด  อีกสามวันข้างหน้า!  หนึ่งในเหตุผลที่ลินลี่ย์เลือกเลือกภารกิจนี้  ว่ากันตรงๆ ก็คือ เพราะภารกิจจะเริ่มในอีกสามวัน”
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเพลิดเพลินกับอาหาร  จากนั้นจ่ายเงินซื้อของเลิศรสและเหล้าดีเก็บสำรองไว้ จากนั้นมุ่งหน้ากลับโรงแรม
สามวันต่อมา พวกเขาใช้เวลาอยู่ในลานว่างในโรงแรม
 “หลังจากฝึกมาหกร้อยปี ข้าค่อนข้างก้าวหน้าในกฎธาตุดินและลม มีแต่ความก้าวหน้าของร่างแยกธาตุไฟของข้าช้าเหลือเกิน”  ลินลี่ย์นั่งอยู่ในลานว่างไตร่ตรองถึงการฝึกฝนของตน
ช่วงระหว่างหกร้อยปี เขาใช้เวลาในภูเขาอะเมทิสต์  ร่างแยกธาตุดินได้รับความสำเร็จมากที่สุด  ขณะที่ร่างแยกธาตุลมในที่สุดก็มีการหลอมรวมเคล็ดคลื่นเสียงและเคล็ดดนตรีได้ ขณะที่การบรรลุระดับต่อไปคือแก่นธาตุลมจะทำได้ง่าย  อย่างไรก็ตามกฎธาตุลมมีเคล็ดความรู้ถึงเก้าเคล็ด ยิ่งเขาเดินหน้าฝึกต่อไปก็จะยิ่งช้ามากขึ้น
สำหรับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟ  ในช่วงหกร้อยปี เขาแค่เพิ่งทำความเข้าใจพื้นฐานของเคล็ด กายเพลิงได้และยังไม่ถึงระดับเทพแท้
ลินลี่ย์หลับตา
ภายในทะเลจิตสำนึกของเขา  มีร่างสามร่างนั่งเข้าสมาธิอยู่เหนือทะเลจิตสำนึก พวกเขาคือร่างแยกธาตุดินสีเหลือง  ร่างแยกธาตุลมสีเขียวและร่างแยกธาตุไฟสีแดง  ร่างลินลี่ย์ทั้งสามนั่งล้อมเป็นสามเหลี่ยมและเหนือวิญญาณนั้นเป็นวิญญาณรูปดาบสีรุ้ง
ภายใต้วิญญาณรูปดาบมีศิลาดำชิ้นหนึ่ง
ขณะเดียวกันสายหมอกทองถูกกลืนเข้าไปในวิญญาณรูปดาบ เพียงแต่ความเร็วในการดูดกลืนนั้นช้าลงมาก
 “หือ?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วลืมตา  “เป็นเวลาเกินกว่าหกร้อยปีแล้ว ข้าได้บรรจุพลังอะเมทิสต์เข้าไว้ในแหวนมังกรขนดและกลั่น จากนั้นดูดซับไว้  หลังจากหกศตวรรษดูดซับพลังมาตลอดไม่มีหยุด  ระดับความเร็วในการดูดซับในตอนนี้มีแต่ช้าลงๆ”
สถานการณ์เช่นนี้เริ่มขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  ในอดีตความเร็วในการดูดซับไม่เคยลดลงมาก่อน
 “หรือว่าปริมาณแก่นวิญญาณที่จะรับไว้ได้มีขีดจำกัดเพียงเท่านี้?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจ
และจากนั้น ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย สมแล้วที่มีขีดจำกัด  มิฉะนั้นถ้าวิญญาณสามารถเสริมพลังได้ต่อเนื่องไม่มีหยุด  สุดท้ายผลจะลงเอยยังไง?
Linley wasn’t sure .
ลินลี่ย์ไม่แน่ใจ
แม้ว่าแก่นวิญญาณจะเสริมพลังเข้าไปได้ และดูเหมือนจะมีคุณภาพที่ก้าวหน้า  ในความเป็นจริงนี่เป็นรูปแบบของคุณภาพที่มาจากปริมาณ  คล้ายกับขวดอย่างหนึ่ง  ถ้าท่านรู้สึกว่ามีแก๊สมากเกินไป แก๊สอาจจะบีบอัดจนกระทั่งกลายเป็นของเหลวไปได้
นี่คือตัวอย่างของคุณภาพที่เปลี่ยนแปลงมาจากปริมาณ
แต่ก็ยังมีขีดจำกัด  เพราะถ้าท่านยังคงเติมแก๊สในขวด แม้หลังจากที่แก๊สกลายเป็นของเหลว  ถ้าของเหลวถึงขีดจำกัด ขวดก็อาจจะระเบิด...และวิญญาณจะแตกสลาย
นี่คือสถานการณ์ที่เกิดกับลินลี่ย์  วิญญาณของเขาถึงขีดจำกัดและไม่สามารถดูดซับเพิ่มได้แต่อย่างใด
ถ้าเขาต้องการเสริมพลังวิญญาณต่อไปอีก  เขาต้องเพิ่มขนาดขวดและทำให้เสถียรขึ้น เหมือนกับเติมแก๊สในขวดและอัดแน่นจนเป็นของเหลว  นี่คือรูปแบบการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพที่แท้จริง และมีวิธีเดียวที่ทำอย่างนี้ได้ คือบรรลุพลังเทพระดับต่อไป  จากเทียมเทพเป็นระดับเทพแท้ และจากเทพแท้ไปเป็นเทพชั้นสูง!
แม้แต่โดยการหลอมรวมกับประกายเทพ ประกายเทพจะช่วยให้วิญญาณของผู้ฝึกเปลี่ยนแปลง
แต่แน่นอน การกลายเป็นเทพด้วยตัวเองจะส่งผลให้กฎธาตุธรรมชาติชะลอลงมาและเพิ่มคุณภาพให้กับจิตวิญญาณ
นี่คือสาเหตุที่เทพชั้นสูงหลายคน แม้ว่าจะไม่ได้ดูดซับแก่นวิญญาณก็ยังมีพลังมากกว่าเทพแท้!  ลินลี่ย์ดูดซับแก่นวิญญาณเอาไว้มาก  แต่พลังวิญญาณของเขาถือได้ว่าเป็นแค่เทพแท้ระดับสูง เทียบกับเทพชั้นสูง เขายังขาดไปเล็กน้อย
สามวันต่อมาที่ประตูเมืองบลูเมเปิล  กลุ่มคนมากมายรวมตัวกัน  มีคนมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่เตรียมตัวเดินทาง  และมีเจ้าหน้าที่จากปราสาทอสูรอยู่ที่นี่ค่อนข้างมากเช่นกัน  กลุ่มของลินลี่ย์แสดงตราอสูรให้ตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ของปราสาทอสูรพากลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนไปที่อสูรโลหะ
 “คนของพวกเจ้าอยู่ที่นี่”  เจ้าหน้าที่ปราสาทอสูรพูดไม่กี่คำจากนั้นก็เดินจากไป
 “พวกท่านทั้งสี่คน ข้าชื่อ..แอ็ชเป็นผู้ว่าจ้างท่าน”  บุรุษผมทองหยักศกหัวเราะ  “รออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปพาคนทั้งหมดมาที่นี่  เมื่อเราพร้อมกันที่นี่ทั้งหมดแล้ว เราจะออกทะเลกัน”  ทันใดนั้นแอ็ชจ้องมองเดเลียไม่กระพริบตา
เดเลียตกใจกับการจ้องดูของเขา
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว  ขณะที่บีบีพูดอย่างไม่พอใจ  “เฮ้, เด็กน้อย เจ้าจ้องอะไร? มองอย่างนั้นหมายความว่ายังไง?”
 “เทพชั้นสูง ฮ่าฮ่า ท่านเป็นเทพชั้นสูงหรือนี่?”  แอ็ชยิ้ม  “ฮ่าฮ่า คุ้มจริงๆ คุ้มจริงๆ คุ้มมาก!  ข้าไม่คาดเลยว่าในบรรดาอสูรสองดาวยี่สิบเอ็ดคน จะมีอสูรเทพชั้นสูงรวมอยู่ด้วย”

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Pom กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น