วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 396 เด็กติดพ่อ หรือคนชอบเด็ก?


ตอนที่  396 เด็กติดพ่อ หรือคนชอบเด็ก?
 “นี่มันที่แบบไหนกัน?”  เจ้าอ้วนไห่พบว่าหมัดฮิปโปดาวตกของเขาใช้ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย  และเขาก็ยังโดนนกนางนวลวายุยิงดาบสายลมใส่เขาจนสะบักสะบอมอีกด้วย  เขาคงจะไม่ว่าอะไรถ้านกนางนวลวายุนี้มีระดับที่สูง  แต่ก็ต้องผิดหวัง มันเป็นอสูรทองแดงระดับห้า  ในยามปกติถ้าอสูรทองแดงระดับห้า พยายามต่อสู้กับเจ้าอ้วนไห่ ก็เท่ากับว่ามันฆ่าตัวตาย


ตอนนี้  เขาโดนไล่ต้อนจนไม่มีที่ให้หลบซ่อน
เจ้าอ้วนไห่อยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างเมื่อเทียบกับเย่ว์หยางและเป่าเอ๋อ,  เขาถูกส่งตัวไปที่ชายหาดใต้ดิน  ที่ชายขอบผาชันที่ไม่มีทางจะปีนขึ้นไปได้
โดมของถ้ำใต้ดินสูงมากมีปุยเมฆและหมอกเล็กน้อย แต่มีหินย้อยของถ้ำให้เห็นด้านบน
ห่างออกไปจากหาดใต้ดิน  มีเกาะน้อยที่มีแสงรำไรมองเห็นได้ในระยะไกล
เหมือนกับว่ามีสมบัติที่ล้ำค่าถูกซ่อนอยู่ภายในเกาะ
สมบัติ?  ทันใดนั้นเจ้าอ้วนไห่ไม่ต้องการอะไรอีกต่อไป  ทั้งหมดที่เขาต้องการทำในตอนนี้ก็คือกำจัดเจ้านกนางนวลบ้าๆ นี่  เจ้าตัวน้อยที่น่ารังเกียจนี้สร้างความหงุดหงิดให้กับเขา  เมื่อเจ้าอ้วนไห่มาถึงตอนแรก  เขาคิดว่ามันเป็นเหยื่อง่ายๆ ที่เขาต้องการจะจับปิ้งกินเหมือนไก่ย่าง  คาดไม่ถึงเจ้านกทะเลนี่จะยิงคมดาบพายุที่คมกริบเป็นร้อยใส่เขาอย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อย  แต่มันยังไล่ตามเจ้าอ้วนไห่ไม่เลิกรา  พอเจอเจ้าอ้วนไห่ปรากฏ มันก็โจมตีใส่เจ้าอ้วนไห่ที่โผล่ออกมาแบบทื่อๆ ยังดีว่าเจ้าอ้วนไห่ว่องไวผิดธรรมดา  เขาร่ำๆ ว่าจะเป็นบ้า  แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้แม้แต่น้อย  แม้ว่าเขาจะเรียกแรดเหล็กและฮิปโปน้อยออกมา  ก็ไม่สามารถบินได้  พวกมันก็โดนเล่นงานด้วยเช่นกัน  ที่สำคัญยิ่งกว่า นกนางนวลตัวนี้ฉลาดมาก  มันจ้องโจมตีใส่เจ้าอ้วนไห่เป็นหลัก
ลีนและแอนนาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นกัน
ทั้งสองคนพบว่าพวกเขาเข้าไปอยู่ในพื้นที่เต็มไปด้วยเพลิงลาวาและกำลังยืนอยู่ริมแม่น้ำลาวา  ที่นี่ นอกจากอสูรสายธาตุอัคคีแล้ว อสูรอื่นๆ ไม่สามารถเรียกใช้ได้
ลีนมีอสูรธาตุไฟ  แต่พวกมันเป็นประเภทให้แสงสว่าง ไม่มีความสามารถในการรบ
ถ้าไม่ใช่เพราะฮุยไท่หลางที่ถูกเทเลพอร์ตมาอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยปกป้องพวกเขาทั้งสองแล้ว  บางทีทั้งสองคนคงตายไปแล้ว
อสูรไฟนับพันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในแม่น้ำลาวา  ระดับของพวกมันยังไม่สูงเท่าไรนัก  ส่วนใหญ่เป็นอสูรทองแดงระดับหก  ขณะที่มีบางส่วนเป็นอสูรเงินระดับหก   อย่างไรก็ตาม พวกมันมีจำนวนมากและและภูมิประเทศในการต่อสู้ก็ไม่เหมือนที่ใด แต่ก็เกินพอจะเอาชนะศัตรูได้
พวกมันไม่กล้าพัวพันฮุยไท่หลาง  และฮุยไท่หลางไม่กล้าปล่อยลีนและแอนนาไว้ห่างๆ ด้วยเช่นกัน  ในกรณีที่อสูรสายอัคคีตัดสินใจถือโอกาสฆ่าพวกเขา  ฮุยไท่หลางสามารถตัดสินใจพาลีนและแอนนาเดินทวนแม่น้ำไปด้วยกัน  ลีนกับแอนนาหวังว่าจะหาทางออกได้เร็วและออกไปจากสถานที่ซึ่งน่ากลัวนี้  สิ่งที่น่าหวาดหวั่นที่สุดก็คือศิลาเทเลพอร์ตไม่สามารถใช้งานที่นี่ได้  ทางออกเดียวที่ใช้ได้ก็คือวงแหวนเทเลพอร์ต
 “หนีเร็ว! ไปเร็ว!  สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยและสี่สาวคิวบัวร์อยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาใต้ดิน
ฝูงหมาป่าโคโยตี้และแมงมุมทะเลทรายกำลังไล่กวดตามพวกนาง  บางตัวเป็นเพียงอสูรทองแดงระดับห้า  สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยก็ยังไม่สามารถตอบโต้มันได้และทำได้แต่หนีเท่านั้น
เลโอ ทอเรนหัวหน้ากลุ่มและเย่คงก็อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เหมือนกัน  โชคดีที่เย่คงยังเรียกอสูรของเขาได้  และแม้ว่าพลังเดิมของพวกเขาจะลดลงครึ่งหนึ่ง  แต่ทันทีที่ด้วงจอมพลังปรากฏตัวขึ้น  พวกเขาก็เหมือนอยู่ยงคงกระพัน  แม้ว่าจะมีหมาป่าโคโยตี้, แมงมุมทะเลทราย, องครักษ์ยักษ์ศิลาและสัตว์ประหลาดปีศาจอื่น  พวกมันทำได้แต่เพียงดูอยู่ห่างๆ  พวกมันไม่กล้าก้าวเข้ามาโจมตีด้วงจอมพลัง
เห็นได้ชัดว่า ต่อให้พวกมันเข้าโจมตีใส่ด้วงจอมพลัง  มันก็มีแต่สูญเปล่า
พลังป้องกันของด้วงจอมพลังทำให้เขี้ยวเล็บของพวกสัตว์อสูรต่างๆ ไร้ประโยชน์  เหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่ต่างจากเครื่องประดับ
เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวขมวดคิ้วขณะที่เดินผ่านป่า
หุ่นกรงเล็บคมนักค้นหาขององค์ชายเทียนหลัวซึ่งเป็นอสูรหุ่นเงินระดับห้าต่อสู้บุกเบิกทางข้างหน้า
มีดอกไม้, เถาวัลย์และต้นไม้กินคนอยู่ในทุกหนแห่ง แทบจะคล้ายกับว่าทั้งป่ามีชีวิตและสามารถเรียกชีวิตได้  ตอนแรก เสวี่ยทันหลางพบว่าอสูรสายพฤกษาสามารถสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าได้ ถ้ามันมีมากเกินไป
เย่ว์หยางไม่รู้สถานการณ์สหายของเขา  แต่เขาสามารถจินตนาการได้
เขาจำเป็นต้องหาตัวเจ้าอ้วนไห่และคนที่เหลือโดยเร็ว
การอยู่ที่นี่นานเกินไป จะเป็นภัยคุกคามถึงชีวิตได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ถ้าพวกเขาวิ่งไปมาเหมือนกับคนตาบอด  ถ้าสุดท้ายพวกเขาจบชีวิตลงในดินแดนแห่งความตาย  พวกเขาจะทำยังไงได้
ภายใต้คำสั่งของเย่ว์หยาง หุ่นเหยี่ยวพายุหลอกล่อทหารหุ่นออกไปห่างๆ เย่ว์หยางพาเป่าเอ๋อไปพร้อมๆ เขา พยายามผูกเชือกไว้ที่หลัง  และล่อผู้พิทักษ์หุ่นกลทองออกมา  ด้วยความเร็วกว่าสายฟ้า  เย่ว์หยางพลิกตัวครึ่งรอบในอากาศลงไปยืนอยู่บนฝาโลหะที่เต็มไปด้วยอักษรรูนสวรรค์  “เร็วเขา, ก่อนที่อสูรทองพิทักษ์จะกลับมาอีกครั้ง”  เป่าเอ๋อกระตุ้นเขา
 “ข้าบอกให้เจ้าซ่อนตัวก่อน  แต่เจ้าไม่ฟังกันเลย”  เย่ว์หยางผิดหวัง  ตอนแรก เขาต้องการให้เป่าเอ๋อซ่อนตัวอยู่ในที่แห่งหนึ่ง  แต่นางปฏิเสธอย่างดื้อดึง
 “ข้าไม่ยอมให้เจ้าหลอกข้าอีก ทันทีที่เจ้าเข้าไปได้ เจ้าจะทอดทิ้งข้าทันที!  อา..ระวัง...”  เป่าเอ๋อสังเกตว่าหุ่นเสือทองระดับสิบ ความจริงมีปีกงอกออกมา  มันสามารถบินได้จริงๆ!  ยิ่งกว่านั้น เสือดาวทองตัวนั้นก็รู้จักวิธีปีนป่ายหินและกำลังเตรียมโจมตีจากท้องฟ้า
 “เงียบ!
เย่ว์หยางหลบการพุ่งโจมตีของเสือดาวทองอย่างสุดฝีมือ
เงาร่างที่เต้นได้ของเขามุ่งตรงไปที่หน้าผาหิน และในทันทีพวกเขาก็อยู่ห่างไม่กี่มิลลิเมตร  เขาหมุนตัวหลบ ทันที  ในที่สุดหุ่นพยัคฆ์ทองกระแทกใส่หินเกิดเสียงระเบิด
สิงโตทองและหมาป่าทองไล่กวดใกล้เข้ามา  แต่มีช่องว่างห่างมากในเรื่องความเร็วของพวกมันและเย่ว์หยางในฐานะนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่ง
สิบนาทีต่อมา  เย่ว์หยางหยุดการทำงานวงเวทอักษรรูนสวรรค์บนฝาโลหะได้สำเร็จ
ฝาโลหะเปิดออก เผยให้เห็นอุโมงค์ลึก
เย่ว์หยางพาเป่าเอ๋อกระโดดลงไปโดยไม่ลังเล  แต่อสูรอารักขาทั้งสี่ตัวหยุดและเลิกไล่ตามทันที  หนึ่งนาทีต่อมา  ฝาโลหะก็ปิดลงช้าๆ และอสูรทองอารักขาทั้งสี่ตัวกลับไปประจำแหน่งเดิมและหมอบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ในที่ไม่ห่างจากพวกมัน  หุ่นเหยี่ยวพายุกลายเป็นเศษเหล็กเศษโลหะไปแล้ว  เป็นฝีมือโจมตีของพยัคฆ์ทอง  อสูรทองอารักขาทั้งสี่ตัว พยัคฆ์ทองเป็นกำลังโจมตีหลักอย่างมิต้องสงสัย
เมื่อเป่าเอ๋อได้ยินเสียงฝาโลหะปิดลงพร้อมกับเสียงปัง   นางกระหืดกระหอบถาม “เราจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป ไม่สามารถออกไปข้างนอกตลอดกาลอย่างนั้นหรือ?”
 “เจ้าไม่รู้ แล้วข้าจะรู้ได้ยังไง”  เย่ว์หยางคลายสายรัดและปล่อยนางลง  แต่เป่าเอ๋อยังกอดเขาแน่นเหมือนปลาหมึก
 “ไม่” เป่าเอ๋อรู้สึกว่าสะดวกสบายจริงๆ เมื่อถูกแบกใส่หลังอย่างนี้ จึงปฏิเสธจะลงจากหลังเขา
นางไม่ได้คิดว่าจะทำให้เย่ว์หยางเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เพราะเย่ว์หยางแบกนางเหินไปมา  แต่โชคดีที่เย่ว์หยางเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่ง  ถ้าเป็นแค่นักสู้ระดับหกพาเหินไปมาอย่างนั้นคงถึงขีดจำกัดไปนานแล้วเพราะเป็นเวลานานมาก  และคงเหนื่อยเหมือนกับสุนัขใกล้ตายไปแล้ว
บินตามลำพังกับบินขณะที่แบกคนไปด้วยแตกต่างกันสิ้นเชิง
ยกตัวอย่าง สำหรับอินทรีศึก ให้มันบินพันไมล์ถือเป็นเรื่องที่มันทำได้ง่ายๆ  อย่างไรก็ตาม ถ้ามันต้องแบกคนหนึ่งคนด้วย  ต่อให้เป็นเด็กทารก มันก็คงร่วงลงพื้นหลังจากบินไปได้ไม่กี่ร้อยไมล์
ถ้าหากต้องนำคนที่มีระดับที่แตกต่างกันไปด้วย  ทั้งสองคนจะรู้สึกอึดอัดมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคนที่แบกไปแบกมามีพลังมากกว่าเขา  เขาคงรู้สึกหนักขึ้น  แต่ก่อนนั้นเย่ว์หยางเรียนรู้วิธีควบคุมและและผสานปราณก่อกำเนิดของเขาด้วยการผสานพลังงาน  แม้แต่นางพญากระหายเลือดที่มีทักษะการบินที่สูงกว่า  นางก็ยังไม่สามารถแบกเย่ว์หยางในการบินช่วงเวลานานได้  แน่นอนว่า ตอนนี้แตกต่างออกไป  หลังจากนางพญากระหายเลือดเชี่ยวชาญผสานพลังเหมือนเจ้านายนาง  นางแทบจะใช้ชีวิตอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับเย่ว์หยางได้  ทักษะการบินของนางดีขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
ความลับในการโกงการผสานพลังนี้ สาวกิเลนเป็นคนสอนเย่ว์หยาง
นางอ้างว่าเพราะเผ่าภูตบูรพา ทำให้การขับขี่อสูรเป็นเรื่องง่ายๆ เจ้าของยิ่งทรงพลังมาก ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะให้สัตว์อสูรโดยสาร  ช่างแตกต่างจากวิชาขับขี่ที่ล้าหลังซึ่งชาวทวีปมังกรทะยานใช้กัน
 “รีบหน่อย  ลงมาเลยนะ”  พอเห็นว่าเด็กสาวเอลฟ์ไม่ยอมลงมา เย่ว์หยางใช้มือตีก้นนาง
 “เจ็บนะ...” เป่าเอ๋อบิดตัวและบ่นงอแง “โตจนอายุขนาดนี้แล้ว ข้าไม่เคยถูกตีมาก่อน... ไม่ดีเหรอไง?  ข้ากลัวความมืด และข้าต้องการให้ท่านปกป้องด้วย...”  เนื่องจากนางทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจ  บุรุษหัวงูอย่างเย่ว์หยางรู้สึกว่าต้องฝึกวินัยให้นางเสียบ้าง  แบกเด็กสาวสวยขึ้นหลังวิ่งไปมาเป็นสิ่งที่คนอื่นต้องการทำแต่ไม่สามารถทำได้  แม้ว่าขนาดอกของนางจะยังไม่โตเต็มวัยนัก ยามเสียดสีที่หลังก็ให้ความรู้สึกหวานอมขมกลืน  นั่นคือเหตุผลที่เด็กสาวให้ความรู้สึกที่ดี
ก้นน้อยๆ ของนางก็ดูไม่เลวเลย
เย่ว์หยางอดไม่ได้จนต้องตีนางอีกครั้ง  ขณะเดียวกันก็ลอบคิดว่าร่างกายของเด็กสาวเอลฟ์ทองนั้นมีเสน่ห์  ถ้านางเติบโตขึ้น และหน้าตามีเสน่ห์เพิ่มอีกนิด สะโพกผายขึ้นอีกเล็กน้อย อย่าว่าแต่สัมผัสเลย  แค่นางชายตามองไม่กี่ทีก็อาจจะฆ่าคนอื่นได้
มองดูผิวเผินเย่ว์หยางดุว่ากล่าวนางเล็กน้อย  อย่างไรก็ตาม เป่าเอ๋อก็ยังปฏิเสธจะจากหลังเขา แม้จะถูกด่าว่าก็ตาม
ทันทีที่นางปล่อยความรู้สึกฟุบลงบนหลังของเขา  ก็รู้สึกถึงความเข้มแข็ง ปลอดภัย และสะดวกสบายเป็นพิเศษ ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
 “ข้าไม่มีบิดา, ท่านเป็นบิดาให้ข้าได้ไหม!  พอได้ยินเป่าเอ๋อพูด แทบพ่นน้ำที่เขากำลังดื่มอยู่
 “ทำไมเจ้าถึงไม่มีบิดา?”  เย่ว์หยางสับสน สงสัยว่านางคงเป็นเหมือนซึงหงอคงที่เกิดมาจากหินกระมัง?
 “ปกติเอลฟ์ทองมีแต่เพียงมารดา  ดังนั้นข้าไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นบิดาข้า, มารดาข้ารู้  แต่นางเล่าให้ข้าฟังมานานแล้วว่าเขาตายในสงคราม  ข้าไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน”  เป่าเอ๋อกอดคอเย่ว์หยาง และพักอยู่บนหลังของเย่ว์หยางอย่างสบายทันที และถอนหายใจ “ข้านึกว่าการได้อยู่บนหลังของบิดา ก็คงให้ความรู้สึกเช่นนี้”
 “ขี่หลังหมูมันก็ดีอยู่หรอก, แต่เจ้าไม่ควรซี้ซั้วเรียกคนอื่นเป็นบิดา”  เย่ว์หยางสงสัยว่า เด็กสาวนี้คงเป็นเด็กโหยหาบิดา  แต่ไม่เป็นไร  นางยังไม่มีบิดา   เป็นเรื่องที่นางควบคุมไม่ได้  มันเป็นความคิดฝันอย่างหนึ่ง ความทรงจำ ความคิดคำนึงแทน  นอกจากนี้  อาการโหยหาบิดายังคงส่งผลต่อเขาโดยตรง ดังนั้นคงไม่ถึงกับแย่ถ้านางเป็นลูกที่โหยหาบิดา
 “.....” เป่าเอ๋อแลบลิ้น แต่ไม่ได้ตอบ นางหลับตาและเพลิดเพลินอยู่บนหลังเย่ว์หยางอย่างสบายอารมณ์
หลังจากเย่ว์หยางเดินลึกเข้าไปอีก 2-3 ร้อยเมตร  แม้ว่าเขาจะเรียกนาง ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
พอหันศีรษะมามอง เย่ว์หยางพบว่าเด็กสาวหลับเสียแล้ว และหลับอย่างสบายเหมือนเด็กทารก
ประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการเข้าตำหนักหุ่น  ความรู้ของเย่ว์กงและกำไลควบคุม  เย่ว์หยางสามารถผ่านหุ่นอสูรและจุดตรวจไปได้อย่างสบาย
สำหรับคนที่มีทักษะจักษุญาณทิพย์  กับดักกลถือว่าเป็นงานง่ายมาก
ในที่สุด เย่ว์หยางก็มาถึงวงแหวนอักษรรูนขนาดมหึมา  วงแหวนอักษรรูนนี้  สลักอยู่บนพื้นผนัง
ผนังมีขนาดไม่กี่ร้อยเมตร เรียบลื่นเหมือนกระจกเงา  เย่ว์หยางจะหลบอสูรอารักขา  แต่ก็พบในไม่ช้าว่าไม่สามารถบินได้  มีคำสาปป้องกันการลอยตัวในอากาศ  สมบัติในตำหนักทองดูเหมือนจะอยู่ภายในวงแหวนอักษรรูน แน่นอนว่า มันอาจผนึกอสูรที่น่ากลัวเอาไว้  เย่ว์หยางคิดว่าโอกาสมีน้อยมาก  ข้างในนั้น น่าจะมีสมบัติที่มีประโยชน์มากต่ออสูรหุ่น  ก่อนหน้านี้ เย่ว์หยางไม่ได้หลงใหลคลั่งไคล้อสูรหุ่น  แต่หลังจากเห็นปณิธานของเย่ว์กงแล้วและหลังจากให้สัญญาเย่ว์กงว่าจะทำสมบัติลับชิ้นที่สามให้สมบูรณ์  เย่ว์หยางมีความรับผิดชอบใหม่อย่างหนึ่ง  ภายในวงแหวนอักษรรูน อาจมีสมบัติที่เป็นประโยชน์กับสมบัติลับที่สามก็ได้
เขาต้องฉวยโอกาสนี้เอาสมบัติลับออกมาจากผนึก
นอกจากนี้  เขาต้องพิสูจน์ความจริงว่าสมบัตินั้นถูกหยิบฉวยไปแล้วหรือไม่?
เย่ว์หยางเป็นเหมือนจิ้งจกขณะที่เขาปีนป่ายขึ้นไปบนผนังเรียบอย่างช้าๆ
นี่คือการแสดงผลความสามารถที่เชี่ยวชาญที่สุดของปราณก่อกำเนิด  ใช้ปราณก่อกำเนิดสร้างแรงดึงดูดเหมือนน้ำวนที่นิ้วทั้งสิบ  เย่ว์หยางสามารถทรงกายและปีนป่ายขึ้นไปช้าๆ
สมบัติต้องอยู่ข้างหน้าเขา

17 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ppp กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สรุปว่าตอนนี้พระเอกเข้ามาลึกกว่าคนอื่นแล้วใช่ไหมครับ

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

zOrGod กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคร๊าฟ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ^_^

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Freerious กล่าวว่า...

นั้นพึ่งจะปลดปล่อย3ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์มาหยกๆ แล้วยังจะปลดปล่อยตัวอันตรายเมื่อ6พันปีก่อนอีกแล้ว หาศตรูเพียบเลยนะพี่เย่

Nopanser Kung กล่าวว่า...

สม! หนีกันหางจุกตูดกันไปซะ
ทำอะไรไม่เจียมตัวกันเลย ห้าวซะอย่างกับว่าตนเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 8

ป.ล. อุแหม่...แม้แต่เด็กก็ไม่เว้นรึ! แต่ก็ไม่เลวนะถ้ามองการไกล..ดั่งคำที่ว่า เลี้ยงต้อยไว้สอยตอนโต

Lucky กล่าวว่า...

ถึงจะเด็กแต่อายุก็เยอะแล้วนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าไม่หื่นก็จะโลภละพี่แก่ 55555

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น