วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 400 ฮุยไท่หลาง ฮุยไท่หลาง!



ตอนที่  400  ฮุยไท่หลาง ฮุยไท่หลาง!

กระเช้าสมปรารถนาได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสมบัติระดับสูง หรืออาจเป็นของมีค่าน้อยแต่ท่านไม่อาจตัดใจปล่อยทิ้งไว้ได้
คุณค่าของมันถูกกำหนดด้วยความสามารถหยั่งรู้เข้าถึงความปรารถนาของผู้ใช้  อาจเป็นไปได้ว่าไม่มีสมบัติใดสามารถแทนที่มันได้
แน่นอนว่า ต้องขึ้นอยู่กับความโลภของผู้ตั้งความปรารถนาด้วย
 
ถ้าเขาโลภมากเกินไป  ตัวอย่างเช่น ต้องการเปลี่ยนอสูรทองแดงระดับหนึ่งให้เป็นอสูรเพชรระดับสิบ ไม่จำเป็นต้องพูดเลย  เขาจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน  หลังจากบันทึกประวัติศาสตร์และประสบการณ์พันปีของผู้ตั้งความปรารถนาในอดีตที่ผ่านมาทุกคน  สามารถสรุปได้ว่าความสามารถตระหนักรู้ความปรารถนาของกระเช้าสมปรารถนายังมีข้อจำกัดที่เข้มงวดและความน่าจะเป็นที่ลึกลับ  กล่าวกันว่าผู้ประพฤติพรหมจรรย์มีกายและใจบริสุทธิ์มีโอกาสจะสมปรารถนาได้สูงที่สุด แต่ถ้าเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ความคิดมัวซัว  ความยากในการที่พวกเขาจะใช้กระเช้าสมปรารถนาสร้างอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่ต่างกับการมองภาพช้างแมมมอธผ่านรูเข็มเลย
สำหรับความน่าเป็นไปได้  คนที่ได้เคยใช้สิ่งนี้มาในอดีต ได้เรียนรู้จากประสบการณ์นี้มามายนับไม่ถ้วน
แทบทุกคนได้ข้อสรุปว่าความปรารถนาที่ใกล้เคียงพอในสภาวะปัจจุบัน มีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้มากที่สุด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง  ถ้าพลังของสัตว์อสูรใกล้จะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์แล้ว  และมีช่องว่างบางส่วนเฉพาะในแง่เรื่องสติปัญญาเท่านั้น  ก็มีความน่าจะเป็นมากที่ว่า อสูรนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้หลังจากเจ้าของตั้งความปรารถนาให้มัน
ส่วนวิธีอื่นที่จะทำให้สำเร็จได้ ก็แค่ตั้งความปรารถนาที่จะประสบผลสำเร็จได้ง่าย  ยกตัวอย่าง.. เมื่อสองพันปีที่แล้วมีนักรบชื่อโก่วหวาได้ตั้งความปรารถนากับกระเช้าสมปรารถนาให้กับสัตว์ของเขา  มันคือสุนัขพันทางที่เป็นโรคขี้เรื้อนให้กลับมีขนนุ่ม เรียบลื่นเป็นประกายอีกครั้ง  ในที่สุด เขาก็สมปรารถนา  และสุนัขพันทางที่เป็นโรคขี้เรื้อนของเขาก็ยกระดับกลายเป็นสุนัขเห่าฟ้า  ตัวของเขาเองกลายเป็นผู้ทรงพลัง  หลังจากนั้นอีกหลายปี โก่วหวาตั้งความปรารถนาไว้ว่าจะเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้มีชื่อเสียง ก็กลายเป็นที่รู้จักกันในนามว่า เทียนโก่ว และเขาก็เข้าไปร่วมต่อสู้ในแดนปีศาจพร้อมกับสุนัขเห่าฟ้าของเขาป้องกันการรุกรานจากแดนปีศาจ  แม้ว่าเขาจะตายในการต่อสู้ภายหลัง  แต่เขาก็ยังฆ่าจ้าวปีศาจให้ตายไปพร้อมกับเขาถึงสองตนได้  ทำให้เขาคือนักสู้ชาวมนุษย์คนหนึ่งที่ทำให้แดนปีศาจต้องครั่นคร้ามหวั่นเกรง
มนุษย์โดยทั่วไปไม่รู้ว่าโก่วหวาเป็นแค่เพียงนักสู้ระดับสองก่อนที่จะตั้งความปรารถนา  ระดับของเขาเป็นเหมือนมดแมลงที่ไม่มีความสำคัญสำหรับจ้าวปีศาจ
หลังจากตั้งความปรารถนา สุนัขของเขาที่เป็นโรคขี้เรื้อนก็กลายเป็นสุนัขเห่าฟ้าขณะที่โก่วหวากลายเป็นเทียนโก่วสามารถต่อกรกับจ้าวปีศาจถึงสองตนได้
นี่คือพลังของกระเช้าสมปรารถนา
 “พี่เขย! ท่านอย่าได้ไปตำหนักไม้อีกครั้งเชียว  ไม่อย่างนั้นปีศาจไม้หมื่นปีคงจะฆ่าท่านแน่นอน!  องค์ชายเทียนหลัวรู้สึกว่าเย่ว์หยางร้ายกาจเกินไป  เขาไม่เคยเห็นใครร้ายกาจอย่างนั้นมาก่อน  แม้ว่าปีศาจไม้หมื่นปีจะร้ายกว่าธรรมดาเป็นร้อยเท่า  แต่มันก็ยังมิอาจเทียบกับเขาได้เลย
 “นี่เป็นของที่ดีมากเลยนะ” เสวี่ยทันหลางยิ้มเล็กน้อยซึ่งนับว่าเป็นเรื่องเห็นได้ยาก
กระเช้าสมปรารถนานั้นจะไม่มีวันเหี่ยวแห้งตลอดไป มันอาจดีกว่าอาวุธขั้นเทพแน่นอน  ไม่มีใครยอมแลกมันด้วยอาวุธเทพสิบชิ้นแน่นอน
ผู้ใช้สามารถตั้งความปรารถนาได้ทุกๆ สามปี
นั่นจะทำให้ตั้งความปรารถนาได้สิบอย่างในรอบสามสิบปี และร้อยอย่างในรอบสามร้อยปี
โอกาสที่ความปรารถนาจะล้มเหลวทั้งร้อยจะเป็นไปได้ยังไง?  ถ้าความปรารถนาสำเร็จได้สักอย่าง,  อย่างนั้นก็จะทำให้กระเช้าสมปรารถนานั้นคุ้มค่า  และจะคุ้มค่ายิ่งขึ้นถ้าความความปรารถนาสำเร็จได้ถึงสองอย่าง  ระดับความสำเร็จแค่หนึ่งในสิบก็ทำให้อาวุธระดับเทพถึงกับด้อยค่าลงถ้าเปรียบเทียบกัน  ผู้ใช้ต้องรู้ไว้ว่าไม่ใช่คนทุกคนจะเหนือธรรมดาเหมือนกับเย่ว์หยางที่มีอสูรพิทักษ์และอสูรศักดิ์สิทธิ์มากมาย และมีแม้กระทั่งฮุยไท่หลางอสูรในตำนาน
นอกจากพวกนักรบที่ได้แต่ปรารถนาจะได้อสูรศักดิ์สิทธิ์มาทั้งชีวิต
ตัวอสูรศักดิ์สิทธิ์เองก็โหยหานักรบมาเป็นเวลานานด้วย
 “พวกเจ้าไม่ต้องกังวลจนเกินไป  รอให้ข้าค่อยๆ ค้นคว้าดูก่อน   หลังจากที่ข้าพบวิธีใช้ให้เกิดผลสำเร็จสูงที่สุดแล้ว เราค่อยมาทดลองกันทีละคน”  เย่ว์หยางไม่ได้คาดหวังว่า  มันจะช่วยให้เขาผลิตอสูรศักดิ์สิทธิ์ออกมา นั่นเป็นไปไม่ได้  แต่การใช้กระเช้าสมปรารถนาเพื่อยกระดับอสูรของเขาและเอาชนะข้อจำกัดบางประการของพวกมัน ย่อมเป็นไปได้แน่นอน
อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ขัดขวางการเปลี่ยนเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันก็คือศักยภาพของพวกมันเอง หรือเหตุขัดข้องตามธรรมชาติ
โดยเฉพาะการทำลายอุปสรรคเหล่านี้ได้ จะทำให้พวกมันมีโอกาสที่จะปรับยกระดับได้
ตัวอย่างเช่น สำหรับอสูรที่ไม่มีสติปัญญา  ถ้ามันสามารถได้รับสติปัญญาบางส่วน แม้จะแค่เพียงเล็กน้อยก็ตาม  ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์  พวกมันกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ต่างกันไป  แต่อย่างน้อยพวกมันจะได้รับโอกาสดังกล่าว
หลังจากออกจากตำหนักไม้  พวกเขาเข้าสู่ตำหนักไฟ
แม่น้ำลาวาขนาดมหึมาทำให้พลังรบของเสวี่ยทันหลางตกลงอยู่ในระดับต่ำสุด  อย่างไรก็ตาม ที่ตรงกันข้าม พลังต่อสู้ขององค์ชายเทียนหลัวเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับสูงสุด
เหตุผลก็คือ อสูรพิทักษ์ของเขา ดาวตกเพลิงฟ้าเป็นอสูรสายธาตุไฟ  ดังนั้นเขาจึงใช้มันได้ผลเต็มที่ในตำหนักอัคคีและพลังของเขาอยู่ในระดับสูงสุด
คู่หูทั้งสองแยกกับเย่ว์หยางชั่วคราว  ขณะที่เย่ว์หยางผู้คลั่งไคล้การล่าสมบัติเข้าไปในใจกลางแม่น้ำลาวาเพื่อท้าสู้กับอสูรหัวหน้า  ขณะที่องค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลางช่วยอะไรได้ไม่มาก  พวกเขาเดินอยู่ปลายแม่น้ำหวังจะตามหาสหายที่พลัดกัน  ขณะที่พวกเขาเดินอยู่นั้น  พวกเขาทิ้งเครื่องหมายบางอย่างไว้ เผื่อว่าเมื่อสหายร่วมกลุ่มอื่นมาเห็น พวกเขาจะได้รีบตามมาให้ทัน
ห่างจากพวกเขาออกไปเกินกว่าสิบกิโลเมตร  ลีนและแอนนาหลบอยู่บนหินอย่างเบื่อหน่าย
มีฮุยไท่หลางคอยเฝ้าอยู่บริเวณนั้น  พวกเอลฟ์ทองทั้งสองจะยังปลอดภัย
แต่นักผจญภัยที่อยู่ห่างออกไปได้รับทุกข์ทรมานอย่างมาก  พวกเขาหนีหัวซุกหัวซุนไปในสภาพที่น่าอนาถ
โอวเกินพากลุ่มองครักษ์เลือดเหล็กมา โดยมีนักผจญภัยอื่นอีกสิบคนตามหลังเขา พุ่งเข้าโจมตีใส่ปีศาจเพลิงและปีศาจที่มีไฟลุกท่วมไล่ตามหลังมากระชั้นชิด
ห้านาทีต่อมา โอวเกินก็พบแอนนาและลีน  แม้ว่าเขาก็ยังตกอยู่ในอันตราย  แต่โอวเกินผู้โอบอ้อมอารีย์ก็ยังพยายามเข้ามาถึงพวกเขาจนได้ “อย่าขยับ, ข้าจะเข้าไปช่วยพวกเจ้าทุกคนทันที อย่าขยับไปไหน รอข้าอยู่ตรงนั้น”  ไม่ทราบว่าพวกเขาจะหัวเราะหรือร่ำไห้ดี  ลีนและแอนนามองดูขณะที่โอวเกินพยายามหลอกล่อความสนใจปีศาจไฟและปีศาจเปลวเพลิงจากนั้นก็รีบมาอยู่ที่ด้านหน้าของฮุยไท่หลางอย่างรวดเร็ว พูดพลางหอบพลาง “เร็วเข้า  พาสุนัขเลี้ยงของพวกเจ้าไป เราต้องรีบจากไปให้เร็ว  สัตว์ประหลาดเหล่านี้มาจากแม่น้ำลาวา  พวกมันจะบุกเข้ามาหาเราเมื่อใดก็ได้ เอ่.. ทำไมพวกมันไม่ไล่ตามเรามาล่ะ?  โอวเกินตะโกนมาทางลีน
สัตว์ประหลาดไฟและปีศาจเปลวเพลิงทั้งหมดหยุดไม่ติดตามเข้ามาทิ้งระยะห่างพันเมตร ด้วยสัญชาตญาณสัตว์ร้ายที่รู้สึกถึงอันตราย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ประหลาดไฟที่บังเอิญเหลือรอดจากการสังหารของฮุยไท่หลาง  หลังจากการถกเถียงกันอย่างเกรี้ยวกราดในแม่น้ำลาวา กองทัพปีศาจเปลวไฟและสัตว์ประหลาดเพลิงก็หยุดไล่ตามพวกเขา
ผู้นำของเหล่าปีศาจเปลวไฟ  แม่ทัพปีศาจเพลิง อสูรทองระดับสิบคำรามเสียงต่ำขณะที่ขุนพลปีศาจเพลิงระดับต่ำกว่าตนเองเดินไปมา  พวกมันไม่กล้าเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับหมาขี้เกียจฮุยไท่หลาง  ทั้งนี้เพราะมีปีศาจระดับมันถูกฆ่าตายมากมายทำให้พวกมันหวั่นเกรงและระมัดระวังขึ้น
สิ่งเดียวที่ทำให้พวกมันงงงวยก็คือต้นเหตุที่คุกคามพวกมันเป็นเพียงหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก  อสูรทองแดง ระดับสาม
ไม่มีการโต้ตอบทางวาจาและทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งการขาดสติปัญญาพอจะเข้าใจความจริงทำให้แม่ทัพปีศาจบางตนพ่ายแพ้  พวกมันหยุดห่างออกไปพันเมตร  คอยปิดล้อมกองกำลังองครักษ์เลือดเหล็กของโอวเกินและนักผจญภัยอื่นในระยะห่าง
 “วางใจได้เลย, ตอนนี้พวกท่านปลอดภัยแล้ว  ฮุยไท่หลางจะปกป้องทุกคน  อย่าอยู่ห่างจากมันมากนัก รอให้ทีมสหายของข้ามาช่วยเรา”  แอนนาผู้มีใจอ่อนโยนพยายามปลอบโยนโอวเกิน
 “อะไรนะ ปกป้องพวกเรา  เจ้าหมาที่เลี้ยงไว้ดูเล่นนี่หรือ?” พอได้ยินเช่นนั้น พวกนักผจญภัยกลืนน้ำลายขณะที่คนอื่นๆ พากันเหลือกตา บางคนก็หัวเราะอย่างไม่ยั้ง
 “โฮ่ง!  ฮุยไท่หลางดูแคลนต่อการตอบสนองของพวกเขา
 “ข้าคาดว่าคงมีสมบัติวิเศษที่หยุดสัตว์ประหลาดเพลิงไม่ให้เข้ามาใกล้ได้”  นักผจญภัยคนหนึ่งยังฝันหวานว่าจะพบสมบัติลับอยู่แถวๆ นี้
 “สัตว์ประหลาดสายอัคคีจะต้องใช้อสูรสายน้ำแข็งและสายวารีมายับยั้งมัน  แต่ในบรรดาพวกเรา  มีพวกเราไม่กี่คนที่มีอสูรทั้งสองชนิดนี้  อย่างไรก็ตาม  ต่อให้มีอสูรเหล่านี้ก็จริง แต่ทั้งหมดเป็นอสูรใช้บำบัดอาการบาดเจ็บ.. ก็ดีเหมือนกันที่พวกมันไม่สามารถก้าวเข้ามาในตอนนี้ได้  ข้าเกรงว่าเหตุการณ์นี้จะเปลี่ยนแปร”  โอวเกินไม่ใส่ใจฮุยไท่หลาง  มันไม่เพียงแต่มีระดับต่ำเท่านั้น  ที่สำคัญยิ่งกว่า มันยังขี้เกียจมากและแสดงพลังงานออกมาในระดับต่ำ  มันดูไม่เหมือนอสูรที่แข็งแกร่งแม้แต่น้อย
ยิ่งกว่านั้น มันไม่ได้ทำสัญญา  แล้วจะมั่นใจได้แค่ไหนว่ามันจะมีความภักดี
โอวเกินไม่กล้าเชื่อแอนนาจริงๆ
แอนนาและลีนต่างจากเป่าเอ๋อที่พวกเขามีประสบการณ์อยู่ในหอทงเทียนชั้นหก  พวกเขาฝึกฝนอยู่ในหอทงเทียนชั้นหกมานานแล้ว และพวกเขารู้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาไม่ได้และมีความซับซ้อน และอันตราย  พวกเขาคงไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฮุยไท่หลางต่อคนทั่วไปแน่
พวกเขาไม่ได้พูดว่ามันเป็นอสูรในตำนานแม้แต่คำเดียว
พวกนักผจญภัยผู้สามารถเรียกอสูรไฟถึงกับตื่นเต้นจากที่คิดว่ามีสมบัติวิเศษบริเวณนั้นที่สามารถต่อต้านสัตว์ประหลาดเพลิงได้
พวกเขาพยายามวิ่งออกไปข้างนอกและเห็นว่าสัตว์ประหลาดไฟไม่กล้ารุกเข้ามาจริงๆ  พวกเขาถึงกับฟื้นคืนความเชื่อมั่น ขณะที่พวกเขาสั่งให้อสูรสายอัคคีของตนที่มีความสามารถต่อสู้ในระยะห่างโจมตีใส่สัตว์ประหลาดไฟ  พอคิดว่าเป็นโอกาสที่ฟ้าประทาน  บวกกับคิดว่ามีของวิเศษป้องกัน พวกเขาสามารถโจมตีใส่สัตว์ประหลาดเพลิงได้โดยไม่ต้องกลัวโดนตอบโต้เลย  นั่นเป็นวิธีการที่ดี  แต่ความคิดเช่นนั้นคงอยู่ได้ไม่กี่นาที  แม่ทัพปีศาจไฟโบกมือ ก็เกิดเพลิงลุกโหมทันที  ปีศาจเพลิงและสัตว์ประหลาดเพลิงบุกจู่โจมทันที  จากนั้นพวกมันเริ่มลากนักผจญภัยเหล่านั้นลงไปในแม่น้ำลาวาทันทีและจับพวกเขาฉีกกิน
มีงูลาวาเพลิงบางส่วนที่ไม่ค่อยมีปัญญารุกเข้าหาโอเกินอย่างตะกละ
นักผจญภัยแตกหนีระส่ำระสายเหมือนกับมดที่โดนน้ำร้อน
โอวเกินและองครักษ์เลือดเหล็กลอบกัดฟัน  ขณะที่พวกเขาเตรียมตัวสู้กับปีศาจด้วยกำลังคนที่จำกัดเพื่อลุยฝ่าวงล้อม
 “รอให้ข้านำกองกำลังตลุยใส่ข้างหน้า จากนั้นพวกเจ้าทุกคนหนีไปทางทิศตะวันตกทันที  ข้าจะส่งองครักษ์เลือดเหล็กไปสองคนให้ช่วยคุ้มกันพวกเจ้าทุกคน”
แอนนาโบกมือนางกันพวกนักรบไม่ให้ตายอย่างเปล่าประโยชน์ “อย่าขยับนะ อยู่กับฮุยไท่หลาง ปีศาจเพลิงพวกนั้นจะไม่กล้าเข้ามาโจมตี  มันจะปกป้องพวกเรา  และถ้าพวกท่านทุกคนยังไม่ออกไป  มันสามารถปกป้องพวกท่านได้หมดเช่นกัน  พวกท่านทุกคนอยู่กับเราปลอดภัยที่สุด”
 “อะไรนะ?  โอวเกินตะลึงเมื่อได้ยินแอนนาพูดถึงมันเป็นครั้งที่สอง
เอลฟ์ทองจะไม่โกหก  แต่เพราะคำพูดก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องตลกเกินไป  เขาจึงไม่คิดอะไรมาก
แต่พอได้ยินเป็นครั้งที่สอง เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางฮุยไท่หลางอย่างจริงจัง
เป็นไปได้อย่างไรที่หมาป่าปีศาจหลังเหล็ก อสูรทองแดงระดับสามจะปกป้องพวกเขาได้จริงๆ?
ถ้ามีคนบอกว่ามันเป็นเป็นอสูรสายธาตุไฟ ก็คงจะไม่แปลก เพราะอสูรสายธาตุไฟและธาตุดินจะมีมากเป็นส่วนใหญ่  แต่พอเห็นฮุยไท่หลางแล้ว อย่าว่าแต่จะเอาชนะจ้าวขุนพลปีศาจไฟ อสูรทองระดับสิบเลย  มันยังไม่สามารถเอาชนะปีศาจเพลิง อสูรทองแดงระดับหกได้ด้วยซ้ำ  พวกมันไม่เพียงแต่มีลำดับที่สูงเท่านั้น  แต่พวกมันยังได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อีกด้วย  นอกจากนี้ หมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวนี้ยังมีร่างกายที่ต่างจากปีศาจธาตุไฟ  แม้ว่ามันจะเป็นอสูรสายธาตุไฟเหมือนกัน  แต่มันจะตายแน่นอน ถ้าตกลงไปในบ่อลาวา  ถ้าว่าโชคดีมันจะป้องกันตัวเองได้จากสถานการณ์ดังกล่าว
ไม่เพียงแต่โอวเกินเท่านั้นที่ไม่เชื่อ กระทั่งนักผจญภัยผู้มีความรู้น้อยก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้
การต่อสู้ระหว่างอสูรทองแดงระดับสามกับอสูรทองแดงระดับหก ผลที่ออกมาก็ชัดเจนอยู่แล้ว
เงาดำสายหนึ่งแว่บผ่านเข้ามา
พร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่นจนผนังหินสะเทือน ส่งผลให้ลาวากระเด็นออกจากบ่อลาวา
งูเพลิงลาวาสองตัวยาวสิบเมตรถูกฮุยไท่หลางกดกระแทกกับหินและฆ่าตายอย่างง่ายดาย  หัวของพวกมันระเบิด สมองกระจายไปทั่วบริเวณแม่น้ำลาวา...
ทุกคนปากอ้าขากรรไกรค้างจนแทบติดพื้น
งูลาวาเพลิงอสูรทองแดงระดับแปด ไม่เพียงแต่พวกมันได้เปรียบในเรื่องภูมิประเทศในตำหนักไฟเท่านั้น  ต่อให้พวกมันอยู่ข้างนอก  นักผจญภัยทั่วไปยังไม่กล้าตอแยพวกมัน  เพราะพวกมันคล้ายลาวา  มันแค่มีรูปร่างเหมือนงูเท่านั้น มันเป็นปีศาจสายธาตุไฟ  หากพวกเขาพยายามต่อสู้กับมัน  นอกจากอสูรสายน้ำแข็งหรืออสูรสายธาตุน้ำแล้ว  จะเอาชนะมันให้ได้เป็นเรื่องที่ยาก  งูลาวาเพลิงจะตายก็ต่อเมื่อลาวาทั้งหมดในร่างมันอ่อนกำลังและร่างของมันถูกน้ำเย็นจำนวนมากท่วม และในที่สุดก็คือถูกขุดผลึกเวทออกไปจากหัวของมัน
แต่งูเพลิงลาวาที่นักผจญภัยคิดว่าจะเอาชนะได้ยากนั้น กลับถูกฮุยไท่หลางฆ่าตายทันที  หมาป่าปีศาจหลังเหล็ก อสูรทองแดงระดับสามตัวนี้เป็นใครกันแน่?
พวกเขาจะเชื่อตาตนเองได้ยังไง?
 “เป็นไปไม่ได้”  หัวหน้านักผจญภัย 2-3 คนตะโกนลั่น ขณะที่พวกเขามิอาจยอมรับความจริงได้
 “.....” อย่างไรก็ตาม ฮุยไท่หลางเก็บผลึกเวทสีแดงออกมาจากแม่น้ำลาวาและกลืนลงไปคำเดียว จากนั้นมันก็ค่อยๆ เดินกลับมาประจำที่ๆ มันเฝ้าอยู่แต่ก่อนนั้น
ที่ๆ มันผ่านไปทำให้งูลาวาเพลิงทุกตัวแตกตื่นหลบหนีกระเจิง กองกำลังนักผจญภัยยังคงตื่นเต้นและสับสน ขณะที่พวกเขาเปิดทางตรงกลางให้ฮุยไท่หลางกลับไปอยู่บนหินก้อนสูงที่สุด และมันนอนอย่างเกียจคร้านต่อไป
พอมองดูมันอีกครั้ง ความไม่เชื่อถือของพวกเขาเปลี่ยนเป็นอาการตกตะลึง
ทุกคนรวมทั้งโอวเกินตกตะลึงกันไปหมด
พอเห็นกับตาตนเองจริงๆ พวกเขาถึงได้ยอมเชื่อ การสังหารได้เฉียบขาดทำให้แม่ทัพปีศาจเพลิงถอนกำลังออกห่างในระยะหนึ่งกิโลเมตร  ปีศาจเพลิงหลายตนซ่อนตัวอยู่ในแม่น้ำลาวาด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าออกมาชั่วขณะ
 “มันคืออสูรศักดิ์สิทธิ์หรือนี่?  หลังจากผ่านไปนาน โอวเกินจึงถามพร้อมกับกลืนน้ำลาย
 “ข้าไม่ทราบ เพราะมันไม่ใช่อสูรของข้า”  ลีนยิ้มขณะที่ ส่ายศีรษะ นางต้องการจะบอกว่ามันเป็นอสูรในตำนาน  อสูรในตำนานจริงๆ
 “โอว..อย่างนั้นมันก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์  มิน่าเล่าถึงได้สง่างามนัก  ดูขนที่เรียบรื่นอ่อนนุ่มเหมือนไหมสิ  แค่ชำเลืองมองดูใครก็รู้ว่ามันเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์”  นักผจญภัยที่เพิ่งตื่นจากอาการตกใจพากันประจบทันที
 “ข้าก็นึกๆ อยู่แล้วว่ามันดูไม่เหมือนอสูรโง่ๆ เจ้าเห็นไหมว่ามันดูเหมือนหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก อสูรทองแดงระดับสามในหอทงเทียนหรือเปล่า?  ไม่เลย, ยกเว้นเจ้าผู้นี้แล้ว เขาเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ จุ๊ จุ๊ อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้มีลักษณะเฉพาะเป็นของตนเองจริงๆ ดูหูของเขาสิ, งามสง่ามากจริงๆ  ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นแล้ว  ข้าตัดสินใจแล้ว ขอเปลี่ยนชื่อกลุ่มนักผจญภัยของเราตามชื่อหมาป่านี้  นับแต่นี้ไป กลุ่มของเราจะเรียกว่ากลุ่มหมาป่าปีศาจ..”  หัวหน้าทีมนักผจญภัยอีกคนหนึ่งสรรเสริญเยินยออย่างไม่รู้สึกอาย จนเกือบทำให้ฮุยไท่หลางอ้วก
ถ้าพวกเจ้ายังพูดฟูมฟายต่อไป การประจบประแจงของเจ้าอ้วนไห่คงถูกมองว่าเชยกว่าเป็นร้อยเท่าแน่
แต่อย่างน้อยเจ้าอ้วนไห่จะประจบก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นต้องทำ  แต่เจ้าผู้นี่กลับตรงกันข้าม เหมือนเกิดมาเพื่อประจบโดยเฉพาะ
ใจกลางแม่น้ำลาวาในระยะห่างออกไป เกิดการระเบิดรุนแรงเป็นพายุหมุนหอบเอาลาวาจำนวนมากขึ้นไปในอากาศ ก่อให้เกิดฉากภาพขนาดใหญ่ที่น่ากลัว
ฮุยไท่หลางรู้สึกได้ มันโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้นและกระดิกหางอย่างดีใจ
ความง่วงของมันหายไปหมด
เจ้านาย!
เจ้านายของมันกำลังต่อสู้อยู่ในกลางบ่อลาวา พายุหมุนรุนแรงก็คือร่างเดิมของภูตควันไฟนั่นเอง...
เลือดของฮุยไท่หลางกำลังเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มันเชิดหัวหอน   ตลอดร่างของมันปล่อยไอปีศาจออกมา  ไฟนรกสีดำพวยพุ่งออกมาจากร่างของมันกลายเป็นปีกเพลิงขนาดยักษ์ยาวสยายออกยาวถึงสิบเมตร  มันกระพือปีกพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศเหมือนดาวตก มุ่งไปทางใจกลางแม่น้ำลาวา เพื่อไปหานายของมัน

19 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ อุต๊ะ หมาบิน

ohmmanee กล่าวว่า...

น่ารักมากกกกกกก ชอบ อยากให้มีปัญญาสักหน่อย

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แค่ผ่านมา กล่าวว่า...

บทพระเอกเราน้อยไปหน่อยนะ ฮุ่ยไท่หลาง

Lucky กล่าวว่า...

ไทหรางมีปัญญาอยู่แล้วมันฉลาดมั๊กๆ

hkpmut กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

5555เจ้าหมาตัวนี้เติบโตขึ้นเยอะจริงๆ555

tho กล่าวว่า...

บักฮุย เองหล่อมากกก^_^

kk.putting กล่าวว่า...

ไอหนูกลับมาเฝ้าหินก่อน

kk.putting กล่าวว่า...

ไอหนูกลับมาเฝ้าหินก่อน

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

แหม่ หล่อเลยนะฮุ่ยไท่หลาง 5555+

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รีบไปอ้อนตีนเจ้านาย กำลังหิวตีน โดดเตะทีก็อิ่มไปที ขี้เป็นที่มาของคำว่า #เลี้ยงด้วยลำแข้ง 555555

Unknown กล่าวว่า...

อยากกินแข่งเจ้านาย ถึงกะรีบกลางปีกบินเลย. 555

ขอบคุณครับ

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ชอบสุดในเรื่องก็ฮุยไท่หลางนี่แหลละfc

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น