วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 2-3 วิธีทื่อๆ (2)



ตอนที่  2-3  วิธีทื่อๆ (2)


ทันใดนั้นลินลี่ย์วิ่งไปคว้าคอกระต่ายด้วยเพียงมือเดียว กร๊อบ! กระต่ายที่ก่อนนั้นดิ้นรนด้วยความทรมาน บิดตัวสองครั้ง จากนั้นก็แน่นิ่งไป นับแต่ได้เห็นการต่อสู้เมื่อครึ่งปีที่แล้ว ความกระหายเลือด ซึ่งเป็นธรรมชาติของเลือดมังกรในสายเลือดของลินลี่ย์ก็สูบฉีดไหลเวียนเต็มที่

 “ข้าเป็นนักรบระดับหนึ่งและเป็นจอมเวทระดับหนึ่งด้วย  แต่ในเรื่องพลังโจมตี พลังเวทของข้าจะแข็งแกร่งกว่า”  พอคว้ากระต่ายป่าได้  ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและถอนหายใจ
นักเวทแบ่งออกเป็นเก้าระดับ  และการได้เป็นจอมเวทระดับหนึ่งง่ายมาก  แต่ต่อจากนั้นไป จะยากขึ้นเรื่อยๆ และใช้เวลามากขึ้นในการเลื่อนระดับแต่ละครั้ง  นักเวทระดับเจ็ดหรือแปดผู้ทรงพลังหลายคน ใช้เวลาเป็นร้อยปีก็ยังหาได้ยากที่จะเลื่อนขึ้นในระดับชั้นที่สูงกว่า
แต่สำหรับระดับแรก  ครึ่งปีก็เพียงพอสำหรับคนที่มีพรสวรรค์  แม้ว่าคนที่ไม่มีพรสวรรค์มากนัก  ตราบใดที่พวกเขามีความสามารถพื้นฐานในการเป็นจอมเวทคนหนึ่ง  ใช้เวลาสองถึงสามปีสำหรับพวกเขาก็นับว่าเพียงพอในการเป็นจอมเวทคนหนึ่ง
กระต่ายอยู่ในเงื้อมมือของเขา  ลินลี่ย์เริ่มวิ่งลงไปจากเขาทันที
 “ลินลี่ย์ ทำไม่เจ้าไม่ปรุงเป็นอาหารก่อน?  แม้ว่าหนูเงาจะกินเนื้อดิบ  แต่ของโปรดมันก็คือเนื้อปรุงแล้ว”  เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
 “ปู่เดลิน, ข้าพนันได้เลยว่าท่านไม่เคยปะเหลาะเด็กๆ มาก่อน”  ขณะที่วิ่งไป ลินลี่ย์ตอบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
เดลิน โคเวิร์ทสะดุ้ง  เขาไม่เคยมีหลานและทำไมจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนอย่างเขาจะต้องลดตัวไปปะเหลาะเด็ก
 “อืม, ไม่ ข้าไม่เคย” เดลิน โคเวิร์ทฝืนใจยอมรับ
ลินลี่ย์พูดด้วยความมั่นใจในตนเองว่า “ข้าเคยกล่อมวอร์ตันน้อยอยู่บ่อยครั้ง ขอบอกเลยนะ  ถ้าท่านต้องการให้ของเด็กๆ  ท่านอย่าเพิ่งให้ของที่ดีเกินไป ไม่แย่เกินไป  มิฉะนั้นในอนาคต พวกเขาจะคาดหวังแต่ของที่ดียิ่งขึ้นในแต่ละครั้ง หรือไม่ก็ต้องเป็นของที่ดีกว่า  ในตอนนี้ หนูเงากำลังกินหิน  ถ้าข้าเอาเนื้อดิบให้มัน  มันก็จะมีความสุขจริงๆ  ข้าจะให้เนื้อดิบมันสัก 7-8 วัน และจากนั้นค่อยให้เนื้อปรุงสุก ก็จะทำให้มันชอบใจยิ่งขึ้น”
เดลิน โคเวิรท์เข้าใจทันที
ยิ่งแก่ ก็ต้องยิ่งเชี่ยวชาญขึ้น เขาพลาดเข้าใจความจริงนี้ไปได้ยังไง?  นี่คือวิธีเดียวกับที่เขาเคยใช้รับมือกับพวกบริวาร ประการแรกให้พวกเขาลิ้มรสเล็กน้อย  และจากนั้นก็ค่อยให้มากขึ้น  ถ้าท่านให้มากๆ เลยแต่แรก ก็จะยากที่จะสร้างความพึงพอใจให้พวกเขาในอนาคต
 “ข้าได้อ่านเรื่องนี้มาจากในหนังสือเหมือนกัน เกี่ยวกับการเลี้ยงลิง  พูดสามครั้งในตอนเช้าแล้วจากนั้นสี่ครั้งในตอนบ่าย จะได้ผลมากกว่า พูดสี่ครั้งในตอนเช้าและจากนั้นลดลงสามครั้งในตอนบ่าย” ลินลี่ย์ยิ้ม
ทันใดนั้นเดลิน โคเวิร์ทรู้สึกว่า แม้ว่าลินลี่ย์จะอายุเพียงแปดขวบ  แต่เขาไม่ด้อยกว่าเด็กโตๆ หลายคนเลย
 “ดูเหมือนว่าวิธีการศึกษาของตระกูลบาลุคจะมีประสิทธิภาพดีแน่นอน”  เดลิน โคเวิร์ทลอบถอนหายใจชื่นชม  การศึกษาสามารถเพิ่มพูนปัญญาคนได้  แต่คนทั่วไปทั้งหมดไม่ได้รับการศึกษาทั่วถึง คนโดยทั่วไปมิอาจทำตามความต้องการใดๆ ได้ หรือจ่ายเงินเพื่อให้ได้ศึกษาในสถานบันสอนเวทหรือที่สอนนักรบดีๆได้
…..
ไม่มีใครในเขาอู่ซันพบว่าเป็นเรื่องแปลกที่ลินลี่ย์วิ่งมาบ้านพร้อมกับมีกระต่ายป่าอยู่ในมือ  ความจริง  ตั้งแต่ตอนแรกที่ลินลี่ย์เรียนคาถา “หลาวดิน” เขาก็นำกระต่ายป่ากลับบ้านอยู่บ่อยๆ
 “คุณชายลินลี่ย์เก่งมากจริงๆ  เขาจับกระต่ายป่าได้อีกตัวหนึ่งแล้ว”  ชาวเมืองยิ้มให้ขณะที่พวกเขาเห็นลินลี่ย์วิ่งผ่านไป
ลินลี่ย์ก็ยิ้มตอบพวกเขาอย่างสุภาพ ขณะที่เขาเดินผ่านไปตามถนน
 “ข้าสงสัยจริงว่าหนูเงาจะยอมกินของที่คนอื่นจัดเตรียมไว้ให้”
พอลินลี่ย์สูดลมหายใจลึก เขาเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลและผ่านไปที่ลานด้านหลัง เขาย่างก้าวอย่างระมัดระวัง  จนไปถึงจุดที่หนูเงาปรากฏตัว  ฝีเท้าเขาไม่ก่อให้เกิดเสียงแม้แต่น้อย  ในช่วงเวลาสั้นๆ ลินลี่ย์ก็กลับไปประจำตำแหน่งเดิม
 “หนูเงาอยู่ไหน?”  ลินลี่ย์จ้องมองอาคารเก่า  แต่นอกจากเศษหินหักพังและใบไม้เน่าแล้ว เขาไม่เห็นอะไร
ก้อนหินบางก้อนยังคงมีร่องรอยถูกกัดแทะ  แต่พอค้นหาทั่วในอาคาร  เขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหนูเงา  ลินลี่ย์รู้สึกหมดหวังทุกข์ใจอย่างช่วยไม่ได้ “ปู่เดลิน หนูเงาไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว แค่เพียงชั่วโมงเดียว มันก็จากไปแล้ว?”
ลำแสงพุ่งออกมาจากแหวนมังกรขนด และกลายเป็นร่างเดลิน โคเวิร์ทในชุดขาว
เดลิน โคเวิร์ทขมวดคิ้วสงสัย  “ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นนะ  มันผ่านมาแค่ชั่วโมงเดียวเอง มันจากไปแล้วหรือ?”
ทันใดนั้น!
 “ครึก ครึก” เสียงเบาที่คุ้นๆ ก็ได้ยินอีครั้ง  ตาของลินลี่ย์เป็นประกาย  เขาหมุนตัวทันที และมุ่งหน้าไปที่ลานเก่าใกล้ๆ  พอมาถึงทางเข้า เขาเห็นหนูเงาสีดำชัดเจน กำลังกินหินโดยไม่ขยับไปไหน ดูเหมือนมันแทบจะคล้ายกับรูปสลัก  ขณะที่มันแทะกินหินแต่ละก้อนจนดูเป็นรูปประหลาด
ลินลี่ย์ยืนอยู่ที่ทางประตู
ปึก! ลินลี่ย์จงใจทำเสียงฝีเท้าที่ทางเข้า
 “จิ๊ด!
หนูเงาสีดำขยับทันทีในพริบตา ไปปรากฏอยู่ห่างออกไปสิบเมตร  สองตาใสซื่อจ้องมาทางประตูทางเข้า และมันก็เห็นลินลี่ย์ทันที  ตาของมันเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
 “นี่ไง ของนี่ข้าเอามาให้เจ้ากิน”
ลินลี่ย์ยิ้มให้หนูเงา  จากนั้นเขาโยนกระต่ายไว้ที่หน้าประตูทางเข้า  บางทีหนูเงาไม่เข้าใจคำพูดของมนุษย์  แต่ลินลี่ย์เข้าใจว่าอสูรเวทที่ฉลาดน่าจะเข้าใจความหมายของรอยยิ้มได้
ยังไงก็ตาม อสูรเวทไม่ใช่สัตว์ป่า  ระดับสติปัญญาของมันยังต่ำกว่ามนุษย์ และอสูรเวทที่มีพลังบางตัวเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ
 “อย่าเพิ่งเร่ง อย่าใจร้อน”  ลินลี่ย์บอกตัวเองตลอดและจากนั้นเขาฝืนใจเดินห่างออกไปช้าๆ
หนูเงาเห็นลินลี่ย์แยกออกมา จากนั้นก็เห็นกระต่ายป่า มันอดรนทนได้ไม่นาน จากนั้นพุ่งวาบเข้ามาที่ประตูทางเข้าราวกับประกายไฟ  ขณะที่มันจ้องไปทางลินลี่ย์ที่อยู่ห่างออกไป  จากนั้นมันหันไปมองกระต่ายตาย  หนูเงาปลาบปลื้มดีใจทันที จนกระโดดไปมาอย่างมีความสุข
 “จี๊ด จี๊ด” หนูเงาส่งเสียงอย่างมีความสุข
และจากนั้นมันเริ่มกินกระต่ายป่าทันที  ฟันแหลมคมของมันกัดกินได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ  แม้ว่าหนูเงาจะมีขนาดตัวที่เล็ก  แต่กระต่ายป่าซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า  หนูเงาก็กินมันได้ทั้งตัว  นอกจากขนแล้ว ก็ไม่มีอะไรเหลือแม้แต่กระดูก
 “เอ่อออ” หนูเงาน้อยส่งเสียงเรอออกมา จากนั้นมันทำท่าทางเหมือนมนุษย์ลูบท้องอย่างสบายใจ
เทียบกับหินแล้ว เนื้อดิบอร่อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว หนูเงาจ้องมองดูตรงที่ลินลี่ย์จากไปอีกครั้ง  ลูกหนูเงารู้สึกมีความผูกพันกับสหายน้อยผู้นี้  ที่สำคัญมันเป็นหนูแรกเกิด เป็นแค่ลูกอสูรเวทตัวหนึ่ง  ลูกหนูเงายังรู้สึกคาดหวังเล็กน้อย มนุษย์เด็กนี้จะเอากระต่ายป่ากลับมาให้มันอีกไหม?
วันเดียวกันนั้น ก่อนมื้อค่ำ
 “สงสัยจริงว่าหนูเงาน้อยจะกินมันหรือไม่”  ลินลี่ย์ตอนนี้อยู่ที่ลานด้านหลังคฤหาสน์ และเดินไปที่จุดตรงที่เขาโยนกระต่ายป่าให้ไว้ก่อนนั้น
 “ลินลี่ย์, อย่ากังวลเลย  นั่นก็แค่ลูกอ่อนอสูรเวท  มันมักจะหิวอยู่เสมอ”  เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะก้องอยู่ในใจของลินลี่ย์
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย  เขารีบมาที่ประตูทางเดิน และเห็นว่าที่ประตูทางเดิน มีแต่ขนกระต่ายและเลือดกระจัดกระจายอยู่  แต่เนื้อและกระดูกหายไปหมด  พอเห็นเช่นนี้ นัยน์ตาของลินลี่ย์เป็นประกาย
 “เยี่ยม!” ลินลีย์กำหมัด
ประสบความสำเร็จในก้าวแรก  ที่เหลือก็คือพยายามต่อไป
บ่ายวันถัดมา ลินลี่ย์หากระต่ายป่าและไก่ป่าอีกตัวหนึ่ง  เขาให้กระต่ายป่ากับลุงแอชลี่ย์เพื่อเตรียมมื้อค่ำ จากนั้นก็โยนไก่ป่าไว้ที่จุดเดียวกับที่เขาได้โยนกระต่ายไว้ คือที่ประตูทางเดินตรงลานนั้น
 “หนูเงากำลังจ้องมองมาที่ข้าจริงๆ ด้วย” ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูหนูเงาตัวนั้นที่กำลังมองมาทางเขา
 “ลินลี่ย์ ดูเหมือนหลายอย่างกำลังเป็นไปอย่างราบรื่น  มันไม่หนีทันทีที่เห็นเจ้า ก็หมายความว่ามันไม่ได้มุ่งร้ายต่อเจ้า”  พอเห็นเช่นนี้ เดลิน โคเวิร์ทแอบดีใจแทนลินลี่ย์  ลินลี่ย์โชคดีจริงๆ ที่ได้พบลูกอสูรเวทที่ทรงพลัง
 “ข้าสงสัยจริงว่า พ่อแม่ของเจ้าตัวน้อยนี่ทำอะไรอยู่”  เดลิน โคเวิร์ทแอบสงสัย
หลังจากวางไก่ป่าไว้ที่ประตูทางเดิน  เขาพูดกับหนูเงา 2-3 คำ, ยิ้ม จากนั้นก็ถอยออกมา  แต่ครั้งนี้เขามิได้แยกจากมา  เขาแค่ยืนดูอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นไม่นานหนูเงาก็รีบออกมา  มันมองไปรอบๆ ตัว เมื่อเห็นลินลี่ย์ปรากฏตัวอยู่ห่างออกไป  มันไม่ค่อยกลัวมากนัก  มันรีบลดหัวและเริ่มกินไก่
วันที่สาม สี่ ห้า
ยังคงดำเนินไปเช่นนี้ วันแล้ววันเล่า  ลินลี่ย์ยังคงฝึกสมาธิต่อเนื่อง  ขณะที่เตรียมกระต่ายป่าและสัตว์อื่นๆ ให้หนูเงาน้อยได้กิน  ไม่มีใครในเมืองอู่ซันรวมทั้งฮ็อกและฮิลแมนรู้ว่าลินลี่ย์ฝึกเวท  เช่นเดียวกันไม่มีใครที่รู้ว่าลินลี่ย์เลี้ยงอสูรเวทที่มีพลังพอๆ กับอสูรเวทระดับสี่
มีเพียงเดลิน โคเวิร์ทรู้เรื่องนี้ทั้งหมด  ขณะที่มองดูลินลี่ย์เติบโต
 “ไม่มีทางที่เมืองเล็กน้อยอย่างอู่ซันจะใหญ่พอสำหรับลินลี่ย์”  พอเห็นลินลี่ย์เข้าสมาธิเพื่อฝึกเวท  เดลิน โคเวิร์ทรู้สึกถึงความตื่นเต้น “ไม่ช้า หรือต่อจากนั้น  เขาจะพาหนูเงาม่วงก้าวออกไปยังพื้นที่ยิ่งใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดแห่งทวีปยูลาน”

5 ความคิดเห็น:

iboon2550@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบพระคุณแฟนตาซีเรื่องนี้สนุกดีสำนวนแปลยอดเยี่ยมแม้ว่าตัวละครออกฝรั่งๆซึ่งแปลกไปจากตัวละครชื่อจีนๆ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากครับผม

Unknown กล่าวว่า...

นุก

แสดงความคิดเห็น