วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 425 ทีมดีเป็นเรื่องสำคัญ


ตอนที่  425  ทีมดีเป็นเรื่องสำคัญ
 แม้ว่าเย่ว์หยางจะลงนามทำข้อตกลงลับกับเหล่าปีศาจจากแดนปีศาจ  แต่เขาไม่ยอมให้บุคคลและทหารทั่วไปได้รู้เรื่องนี้

แต่ข้อตกลงนี้สร้างความตกตะลึงให้กับชนชั้นผู้นำแห่งอาณาจักรต้าเซี่ยมากเหลือเกิน
 
อาจกล่าวได้ว่ายกระดับขวัญกำลังใจให้พวกเขามากกว่าเรื่องที่เอลฟ์ทองมาช่วยเหลือนับร้อยเท่า
ที่สำคัญคือนี่เป็นการช่วยเหลือทางด้านสถานการณ์  ต่างจากพวกเอลฟ์ทองเป็นการช่วยเหลือด้านกำลังใจมากกว่า
พอคิดได้ว่าปีศาจจากแดนปีศาจมาต่อสู้กับราชาเฮยอวี้ร่วมกับมนุษย์นักสู้ปราณก่อกำเนิดจึงเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้จุนอู๋โหย่วจนถึงขีดสุด  ตามที่เย่ว์หยางบอกนี้เอง ทำให้จิตวิญญาณนักสู้ของจุนอู๋โหย่วถูกจุดประกาย และเขาแทบจะกลายเป็นเหมือนนักรบสปาร์ตันได้ทันที พร้อมจะรบเมื่อใดก็ได้  โชคดีที่ราชาเฮยอวี้ไม่เห็นจุนอู๋โหย่วในยามที่ไฟต่อสู้ลุกโชน  ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องถอนทหารออกจากการต่อสู้เป็นแน่
นอกจากผู้เฒ่าเย่ว์ไห่, สุ่ยตงหลิว, มหาอำมาตย์, สององครักษ์พิทักษ์ฟ้าและองครักษ์พิทักษ์ฟ้าที่ถูกส่งมาจากอาณาจักรเทียนหลัวแล้ว  คนอย่างเฟิงเสี่ยวหวิน, เสวี่ยเวิ่นเต้าและเหยียนเชียนจ้งก็เพียงแต่เห็นด้วย  แต่เห็นต่างในข้อตกลงบางประการ
ถึงกระนั้น การเกิดขึ้นของข้อตกลงลับก็เพิ่มขวัญกำลังใจให้เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหยียนเชียนจ้งผู้อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกตกใจจริงๆ
เขายังสงสัยว่าจุนอู๋โหย่วจงใจทำให้เขาเห็น  ในอีกฝั่งหนึ่งอาณาจักรสือจินพยายามเกลี้ยกล่อมเขาอย่างหนัก  ต้องการให้เขาเป็นตระกูลแรกที่แยกออกมาจากสี่ตระกูลใหญ่  ในอีกด้านหนึ่งเขาไม่ยินดีกลายเป็นลูกไล่ของคนอื่น  เพราะราชาเฮยอวี้อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีในตอนท้าย  หลังจากการศึกเขาอาจเผาสะพานทิ้งก็ได้
การกลายเป็นคนทรยศจะไม่ใช่เป็นตราบาปให้ตัวเขาเท่านั้น  แต่ในอนาคตอนุชนรุ่นหลังของเขาจะต้องแบกรับชื่อเสียงสกปรก เหมือนอย่างนิกายภูขจีที่แยกตัวมาจากตระกูลเย่ว์  แม้ว่าอาณาจักรสือจินจะใจกว้างต่อพวกเขา แต่ลูกหลานของตระกูลตวนมู่และว่านฉียังคงไม่อาจเชิดหน้าได้อย่างภาคภูมิใจจนทุกวันนี้
ยิ่งกว่านั้น  ต้าเซี่ยอาจจะไม่ถูกทำลายก็ได้
ไม่เพียงแต่ยังมีอาณาจักรเทียนหลัวเป็นพันธมิตรของพวกเขาเท่านั้น  นอกจากนิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกแล้ว  สี่นิกายที่เหลืออย่างเช่น นิกายปราสาทแก้วทะเลตะวันออก, นิกายภูเขาหมอกลอยฟ้าแดนใต้และตำหนักภูตจันทราแดนเหนือทั้งหมดไม่ต้องการให้ราชาเฮยอวี้ทำลายความสมดุลในทวีปมังกรทะยาน  เป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่พอใจที่ราชาเฮยอวี้เหยียบย่ำเข้าสู่ทวีปมังกรทะยาน  ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาอาจไม่ช่วยเหลืออย่างโจ่งแจ้ง  แต่ก็อาจสนับสนุนช่วยเหลืออย่างลับๆ ก็ได้
สิ่งที่เหยียนเชียนจ้งกลัวที่สุดก็คือ เย่ว์หยาง
เขาเป็นคนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน  ราชาเฮยอวี้จะสามารถฆ่าเขาได้เชียวหรือ?  เหยียนเชียนจ้งรู้สึกว่าต่อให้อสูรที่โง่ยิ่งกว่าก็คงไม่คิดเช่นนั้น
ถ้าเขาทรยศสี่ตระกูลใหญ่และอาณาจักรต้าเซี่ย  แม้ว่าราชาเฮยอวี้จะไม่ฆ่าครอบครัวของเขา  เย่ว์หยางก็คงไม่ปล่อยเขาแน่นอน... ภายใต้สถานการณ์นี้  เหยียนเชียนจ้งรู้สึกว่าเขาควรมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรีและทำงานเคียงข้างกับตระกูลเฟิง, เสวี่ยและเย่ว์  ต่อให้เขาต้องตาย เหยียนพั่วจวินบุตรชายของเขาจะยังคงอยู่  ด้วยการแนะนำของเย่ว์หยางจะทำให้ตระกูลเหยียนประสบความสำเร็จอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับเวลา
เหยียนเชียนจ้งที่ก่อนหน้านั้นปฏิเสธตำแหน่งความก้าวหน้าของอาณาจักรสือจินถึงกับตกใจจนเหงื่อแตกพร่างพรูเมื่อได้เห็นข้อตกลงลับที่เย่ว์หยางลงนามร่วมกับแดนปีศาจ
โชคดีที่เขาไม่ตัดสินใจโง่ๆ ลงไป
โชคดีที่เขาปฏิเสธอาณาจักรสือจิน
ไม่อย่างนั้นตระกูลเหยียนคงตายอย่างอดสูและแบกชื่อเสียงที่สกปรกไปอีกนาน
ถ้าเขาเห็นด้วย  ตระกูลเหยียนคงถูกลบชื่อออกจากสี่ตระกูลใหญ่แน่นอน  และตระกูลไห่และตระกูลเย่พร้อมด้วยเจ้าอ้วนไห่และเย่คงก็อาจแทนที่ตระกูลเหยียนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสี่ตระกูลใหญ่
ราชาเฮยอวี้เล่าก็นับว่าเป็นคนน่ากลัว น่าหวาดหวั่น  แต่ในความเห็นของเหยียนเชียนจ้ง คนที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็นเย่ว์หยาง  ไม่เพียงแต่ศักยภาพและระดับความก้าวหน้าของเขาเท่านั้น  ทุกคนในโลกต่างก็รู้ว่าเขาไม่ธรรมดา  แม้แต่อสูรของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน  มารกฎฟ้าจากวังมารและจักรพรรดินีราตรีจากเทียนหลัวก็ยังให้ความสำคัญแก่เขามาก  แม้แต่จื้อจุนก็ยังเป็นผู้แนะนำให้เขา    เขาไม่ควรดูแคลนราชาเฮยอวี้ก็จริง  แต่ผลที่จะตามมาจากการดูแคลนเย่ว์หยางยังน่าสยดสยองยิ่งกว่า  ในทางกลับกัน เหยียนเชียนจ้งพบว่าผู้ที่ต่อต้านเขาไม่เคยมีจุดลงเอยที่ดี  ก่อนนี้ซุ่นเทียนและประมุขนิกายพันปีศาจก็ยังเสียท่าเขามาแล้ว  ดูเหมือนว่ารอบนี้ราชาเฮยอวี้ก็ยังไม่ยกเว้น
ไม่เคยมีทางเป็นไปได้เลยที่นักสู้ปราณก่อกำเนิดชาวมนุษย์จะเยือนวังปีศาจและเจรจาต่อรองกับกลุ่มศัตรูในแดนปีศาจ และเป็นพันธมิตรในท้ายที่สุดของการเจรจาได้สำเร็จเสียด้วย
ถ้ามนุษย์นักสู้ปราณก่อกำเนิดไม่ใช่เย่ว์หยาง  แต่เป็นคนอื่น  เหยียนเชียนจ้งไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงได้
แต่ถ้าเป็นเย่ว์หยาง  เหยียนเชียนจ้งรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ
เย่ว์หยางเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้... ทุกอย่างที่เขาทำ คนอื่นมิอาจทำได้สำเร็จ ตัวอย่างเช่น ฝึกฝนด้วยตนเองจนเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดตอนอายุยี่สิบปี  สู้กับประมุขนิกายพันปีศาจ  ไล่ล่าเผ่าปีศาจบูรพา  เอาชนะกลุ่มนักสู้เจ็ดดาว, คลี่คลายความขัดแย้งในตระกูลเย่ว์, ทำให้ซุ่นเทียนต้องถอยหนี, บุกวังปีศาจเพื่อไล่ล่าตวนมู่หลงเฉิง, ทำลายรูปปั้นปีศาจเพื่อชิงอสูรอมตะ   การกระทำที่กล้าหาญนับไม่ถ้วนเหล่านี้ทั้งหมด คนในวัยเดียวกับเขาไม่สามารถคาดเดาได้  แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดคนอื่นๆ ก็ยังไม่อาจทำได้  เพราะเขานั่นเอง เอลฟ์ทองที่ไม่เคยมาเยือนทวีปมังกรทะยานเป็นพันปีก็ยังมาเยือนได้  สิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือเหล่าปีศาจที่เกลียดมนุษย์เข้ากระดูกจากแดนปีศาจก็ยังยอมลงนามทำข้อตกลงลับกับเจ้าเด็กนี่  เพื่อร่วมมือกันจู่โจมราชาเฮยอวี้
ตอนนี้ เหยียนเชียนจ้งรู้สึกว่า แม้เย่ว์หยางจะพูดว่าจื้อจุนจะมาช่วยพวกเขาเร็วๆ นี้และสังหารราชาเฮยอวี้ทันที  เขาจะไม่สงสัยเลย
เย่ว์หยางนั้นใครๆ ไม่อาจประเมินได้ด้วยมาตรฐานของคนธรรมดา
เมื่อเหยียนเชียนจ้งลอบมองดูเย่ว์หยาง  เขาพบว่าเย่ว์หยางก็เหมือนจงใจมองมาทางเขาเช่นกัน หรือมิฉะนั้นก็คงทำให้เขาตกใจจริงๆ
เป็นไปได้ว่าเย่ว์หยางพบว่าเขาส่งจดหมายไปให้อาณาจักรสือจินหรือเปล่า?  เหยียนเชียนจ้งภาวนาอย่างหนัก  ขอให้บรรพบุรุษของเขาทุกคนอวยพรเขา ให้จดหมายตอบปฏิเสธส่งไปถึงอาณาจักรสือจิน  โปรดอย่าให้จดหมายสูญหายระหว่างทาง  ถ้าเป็นอย่างนั้นคงยากที่จะพิสูจน์ถึงความซื่อสัตย์ของเขา
เขารีบนั่งอย่างระมัดระวังและสาบานว่าถ้าอาณาจักรสือจินส่งจดหมายให้เขาอีก  เขาจะมอบให้จุนอู๋โหย่วทันทีโดยไม่เปิดอ่าน
คงจะไม่เป็นไรถ้าเขากลายเป็นศัตรูกับราชาเฮยอวี้  แต่เขาไม่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเย่ว์หยางเด็ดขาด
 “แม้ว่าปีศาจจากแดนปีศาจจะลงนามในข้อตกลง,  แต่พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เอาแน่นอนไม่ได้ เราจำเป็นต้องมีแผนรองรับ”  พลังฝีมือของผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ไม่เท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิด  แต่กลยุทธ์ทางทหารของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่มนุษย์  จุนอู๋โหย่วมอบอำนาจสั่งการกองทัพให้เขามานานแล้ว  แม้แต่องครักษ์พิทักษ์ฟ้าของเทียนหลัวก็ยังยอมรับคำสั่งแม่ทัพเฒ่าเพื่อร่วมมือกันเอาชนะกองกำลังนรกดำ  ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ทั้งชื่นชมยินดี ทั้งวิตกกับเรื่องข้อตกลงลับ  เขาชื่นชมยินดีก็เพราะว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี  พวกเขาจะได้รับชัยชนะ  แต่เหตุผลที่ท่านกังวลก็คือ ถ้ามีข้อสะดุดใดๆ เกิดขึ้น  แดนปีศาจอาจทำเรื่องแย่กับเขาได้   เป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อถือว่าพวกแดนปีศาจจะปฏิบัติตามข้อตกลงลับอย่างสนิทใจ  ไม่เพียงแต่พวกในแดนปีศาจเท่านั้น  แม้แต่พวกมนุษย์มักจะสนับสนุนพวกที่แข็งแกร่งเท่านั้น
 “แน่นอนว่า ยากจะชนะได้เด็ดขาด  แต่ก็ยังคงมีความหวังให้ยึดถือ”  สุ่ยตงหลิวก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการศึก  เพียงแต่เขาไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถมาก่อน
 “เราจะรับดูแลการต่อสู้ระหว่างนักสู้ปราณก่อกำเนิดเอง”    องครักษ์พิทักษ์ฟ้าของเทียนหลัวยิ้มอย่างงามสง่า  “แม้ว่าเราจะไม่สามารถโค่นล้มราชาเฮยอวี้ได้  แต่เราอาจต้องสู้กับนักรบวิบัติระดับปราณก่อกำเนิดจนสุดกำลัง  สำหรับราชาเฮยอวี้ ภารกิจโค่นล้มเขาให้เป็นหน้าที่ของจักรพรรดินีราตรีและเย่ว์หยางน้อย”
 “คงไม่มีปัญหาถ้าเป็นแค่ราชาเฮยอวี้”  จุนอู๋โหย่วเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ  หลังจากคิดชั่วขณะ  เขามองมาที่เย่ว์หยาง “ตามข้อมูลที่เย่ว์หยางน้อยส่งมา และหลายเรื่องที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้  เรามีเหตุผลเพียงพอที่จะสงสัยว่าซุ่นเทียน, องค์ชายเงาดำ, ประมุขนิกายพันปีศาจและนักรบปราณก่อกำเนิดวิบัติอีกมากจะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้จนถึงที่สุด”
 “แน่นอนว่า นี่เป็นปัญหาประการหนึ่ง  มันไม่ค่อยจริงจังนักที่ไปขอให้บารุธและฮาซินออกมาสู้กับซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำและประมุขนิกายพันปีศาจ”  เซียนนักพรตยังมองโลกในแง่ร้ายในเรื่องที่ขอความช่วยเหลือจากแดนปีศาจ
 “เป็นไปได้ไหมที่เย่ว์หยางน้อยจะไปขอรับความช่วยเหลือจากมารกฎฟ้า?”  องครักษ์พิทักษ์ฟ้าที่เป็นบัณฑิตหยอกล้อเย่ว์หยาง  ความจริงทุกคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเย่ว์หยางกับนาง
 “คงจะยาก!  เย่ว์หยางยักไหล่และโบกมือ
 “พวกเจ้าทะเลาะกันหรือเปล่า?”  เซียนนักพรตพูดหยอก
 “ไม่ใช่อย่างนั้น  แต่ข้าสังหารมารมังกรฟ้าผู้อยู่ในอันดับสิบของทำเนียบมารฟ้า  ข้าคิดว่าคนจากวังมารคงไม่พอใจที่ได้เห็นข้า..” เย่ว์หยางถอนหายใจอย่างบริสุทธิ์ใจ  “ถ้าข้ารู้ว่าราชาเฮยอวี้จะรุกราน  ข้าคงไว้ชีวิตเขาแล้ว  ในตอนนั้นข้าไม่รู้จริงๆ”
 “พรวดดดด” พวกที่กำลังดื่มน้ำพากันพ่นน้ำออกมา  เฟิงเสี่ยวเหวิน, เสวี่ยเวิ่นเต้าและเหยียนเชียนจ้งเกือบสำลักน้ำ
ความจริงทุกคนรู้ว่ามารมังกรฟ้าเป็นศัตรูความรักของเขา
ถ้ามารมังกรฟ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา  เขาคงตายไปมากกว่าสิบครั้ง  แต่แม้ว่าพวกเขารู้เรื่องนั้น  พวกเขาก็ยังตกใจอย่างช่วยไม่ได้  ที่สำคัญมารมังกรฟ้าเป็นยอดฝีมือนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก  ถ้าเขามายังต้าเซี่ย เขาสามารถเป็นองครักษ์พิทักษ์ฟ้าได้  ใครจะคิดกันว่าเขาจะถูกเย่ว์หยางฆ่า  ที่ไร้สาระที่สุดก็คือพวกที่วังมารไม่ติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น  พวกเขาอาจโต้เถียงกับเขาแทนที่จะไม่ทำอะไรเลย  ดูเหมือนว่าแม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าก็ยังระวังเรื่องเย่ว์หยาง
ถ้าเป็นปัญหากับคนอื่น  มารสัมฤทธิ์ฟ้าคงฆ่าเขาไปแล้ว
จุนอู๋โหย่วพูดทันที  เขาปลอบใจเย่ว์หยางที่แกล้งทำเป็นอารมณ์เสีย “ไม่เป็นไรน่า  แม้แต่วังมารก็ยังให้เกียรติคนที่ทรงพลังยิ่งกว่า  ข้าสนับสนุนเจ้าให้ลุยวังมารโดยไม่ต้องหวั่นเกรงอะไร แล้วชิงมารกฎฟ้ากลับมา  ต่อให้มารมังกรฟ้าตาย  เขาก็ตายโดยเปล่าประโยชน์  แต่เจ้าตายเพราะทำดีกับทุกคน”
 “ฝ่าบาท, โปรดอย่าให้ท้ายเจ้าเด็กเกเร”  ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่พูดไม่ออก
 “......”  คนจำนวนมากพยายามกลั้นหัวเราะอย่างยากลำบาก  แม้ว่าจุนอู๋โหย่วจะไม่ได้สอนเขาอย่างนั้น  แต่เย่ว์หยางก็ร้ายกาจพอจะทำเช่นนั้นมาแต่แรกแล้ว
ต่อให้จุนอู๋โหย่วไม่พูดเช่นนั้น  เย่ว์หยางก็คิดแล้วว่าจะต้องไปเจรจาที่วังมารแน่นอน
ขนาดวังปีศาจเขาก็เคยไปมาแล้ว ถ้าเขาจะไปวังมารแล้วใครจะทำอะไรเขาได้?  เขาชักชวนศัตรูอย่างบารุธและฮาซินมาแล้ว  เย่ว์หยางไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถชักชวนมารสัมฤทธิ์ฟ้าได้  นอกจากนี้ วังมารก็ยังถือได้ว่าเป็นพี่น้องกับต้าเซี่ย  เหตุผลที่เย่ว์หยางยังไม่ไปทันทีก็เพราะเขายังรอการตอบรับของนางเซียนหงส์ฟ้า   ได้นางในฐานะที่เป็นคนกลาง  เขาคงไม่ต้องเปลืองความพยายามมากนักและไม่ต้องทนกับท่าทีที่หยิ่งผยองของมารสัมฤทธิ์ฟ้า  เขาคงเริ่มเจรจาตรงๆ ได้
ถ้านี่เป็นประสบการณ์ของเขาก่อนเข้าวังเทพจักรพรรดิอวี้  เย่ว์หยางคงไม่มั่นใจว่าจะสามารถชักชวนมารสัมฤทธิ์ฟ้าได้
แต่หลังจากต่อสู้กับสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์  ได้รับผนึกเทพของจักรพรรดิอวี้  ไล่ล่าและพลาดท่าให้จักรพรรดิชื่อตี้และลงนามในข้อตกลงลับกับราชันย์จ้าวปีศาจบารุธ  เย่ว์หยางมั่นใจว่าเขาสามารถโน้มน้าวมารมุกฟ้าได้....
เหยียนเชียนจ้งมองดูเย่ว์หยางและตระหนักได้ว่า เขามีรอยยิ้มที่มั่นใจ
เหยียนเชียนจ้งถึงกับใจสั่น
คนอะไรกันนี่  ดูเหมือนราชาเฮยอวี้คงเป็นฝ่ายโชคร้ายแทนที่จะเป็นอาณาจักรต้าเซี่ย  ด้วยการช่วยเหลือของวังมารฟ้า  เนื่องจากเย่ว์หยางกลายเป็นเป็นที่โปรดปรานของสวรรค์  ซุ่นเทียน, ราชาเฮยอวี้และประมุขนิกายพันปีศาจคงต้องเผ่นหนีแทบไม่ทันแน่นอน  ด้วยการผนึกพลังโจมตีของจักรพรรดินีราตรี, มารสัมฤทธิ์ฟ้า, มารกฎฟ้า, บารุธและฮาซินพร้อมกับเย่ว์หยาง  จุดจบของราชาเฮยอวี้จะมาถึงอีกในไม่ช้า...
พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว  ความใฝ่ฝันของเหยียนเชียนจ้งเริ่มลุกโชน...
ถ้าราชาเฮยอวี้พลาดท่าล้มเหลว  อย่างนั้นอาณาจักรสือจินและพวกเจดีย์ราชสีห์จะอยู่รอดต่อไปได้ยังไง?
เมื่อกลุ่มพลังทั้งสามนี้ล่มสลาย  ตระกูลใหญ่ทั้งสี่จะรุ่งเรืองแน่นอน  แม้ว่าตระกูลเหยียนของเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลเหมือนกับตระกูลเย่ว์  แต่เขาก็ยังได้รับผลโยชน์บ้างก็ยังดี  อย่างน้อยที่สุดคงสถานะของตระกูลเหยียนให้อยู่ในสี่ตระกูลใหญ่ต่อไป
เขาจะไม่ยอมให้ตระกูลไห่และตระกูลเย่มีโอกาสตามทันแน่นอน
พอคิดตกแล้ว เหยียนเชียนจ้งตัดสินใจทันทีจะใช้พละกำลังของเขาทั้งหมดสนับสนุนจุนอู๋โหย่ว  ถ้าตอนนี้เขายืนยันแน่วแน่ว่าจะอยู่ฝ่ายนี้  ก็จะนำชะตากรรมที่ยิ่งใหญ่มาสู่รุ่นผู้เยาว์ของเขาในอนาคตทั้งหมด
 “ถวายบังคมฝ่าบาท, ถิ่นฐานของเชียนจ้งอยู่ใกล้กับอาณาจักรสือจิน  ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับข้อมูลของสือจินมากกว่า  ข้าเชียนจ้งอาจช่วยเสริมแผนการรบของแม่ทัพใหญ่เย่ว์ไห่ได้...”  เหยียนเชียนจ้งลุกขึ้นยืนรายงานทันที  พอเห็นเช่นนั้น  ทุกคนพูดเหมือนกับจะพูดว่า “ข้ากำลังพอให้เจ้าพูดคำนี้”  ท่าทีเช่นนี้ทำให้เขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

14 ความคิดเห็น:

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

ohmmanee กล่าวว่า...

เลิสสสสสสสุดๆ

fatty กล่าวว่า...

ตอนนี้พระเอกโชว์เหนืออีกตอนละ มาแนวผู้ทรงอิทธิพล

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

aloha777 กล่าวว่า...

น่าจะแอบไปเก็บตัวอันตรายที่เก็บไหวก่อน พวกองค์ชายเงาดำ หรือ ซุนเทียนอะไรแนวๆนี้ ไล่เก็บๆ ฝั่งนั่นก็ไม่มีเบี่ยให้ใช้งานละ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

อย่างเย่ว์หยางเราแล้ว ต้องมีอะไรมาให้เซอร์ไพรส์แน่นอน!!

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พี่หยางโคตรเทพ พ่อตาจะสำลักน้ำตายละ 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะสงสารต่อตาจริงๆ555

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น