วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 3-9 เทือกเขาอสูรเวท (1)



ตอนที่  3-9  เทือกเขาอสูรเวท (1)
เทือกเขาอสูรเวทนั้นกว้างใหญ่ ไม่มีที่สิ้นสุด
ภายในเทือกเขานั้น ลินลี่ย์สามารถพบต้นสนโบราณที่มีอายุหลายร้อยปีหรืออาจจะมากกว่าหนึ่งพันปียึดครองทั้งพื้นที่ หญ้าหลากหลายชนิดขึ้นเต็มทั่วทั้งผืนดิน  ไม้พุ่มและไม้หนามยังคงพบได้เรื่อย ใบไม้แห้งปกคลุมทั่วพื้นดิน แต่ละย่างก้าว ก่อให้เกิดเสียงดัง เถาวัลย์โบราณและวัชพืชพบเห็นได้ทุกที่ทาง
 
 “ดูวัชพืชและเถาวัลย์จำนวนมากและต้นไม้รายรอบสิ ถ้ามีอสูรเวทอยู่ห่างจากข้าสักสิบเมตร ข้าคงไม่รู้ตัวแน่” ลินลี่ย์เข้าใจดี
ปู่เดลินปรากฎตัวอยู่ข้างกายเขาเช่นกัน
 “สิบเมตรน่ะหรือ? ลินลี่ย์  ต่อให้ต้นหญ้าที่อยู่ต่อหน้าเจ้า  อาจมีอสูรเวทรออยู่ก็ได้  อย่างเช่นงูยักษ์ไงเล่า”  เดลิน โคเวิร์ทพูดพลางหัวเราะ
ลินลี่ย์จ้องมองที่พงหญ้าซึ่งสูงครึ่งตัวเขาข้างหน้าโดยมิได้ตั้งใจ พงหญ้าที่สูง และหนาเช่นนี้สามารถซ่อนงูได้จริงๆ หลังจากสูดลมหายใจลึกแล้ว ลินลี่ย์ยืนอยู่ที่เดิมและเริ่มร่ายเวท
ทันใดนั้นเองสายลมอ่อนก็พุ่งออกจากร่างของลินลี่ย์ กระจายออกไปทั่วทุกทิศก่อนที่จะหายลับไปในที่สุด
เวทธาตุลม   สายลมตรวจสอบ
หากพูดกันตามธรรมดา จอมเวทระดับสามก็ร่ายเวทสายลมตรวจสอบได้  แต่แน่นอนว่ายิ่งเป็นจอมเวทที่ทรงพลัง ขอบเขตของเวทก็ยิ่งกว้างขึ้น เวทสายลมตรวจสอบของจอมเวทระดับสามจะมีผลเพียงราวๆสิบเมตรรอบตัวผู้ร่าย แต่เวทสายลมตรวจสอบที่ร่ายโดยจอมเวทระดับห้ามีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าร้อยเมตร
 “ภายในร้อยเมตรโดยรอบ มีเพียงอสูรเวทระดับหนึ่ง หนูฟองน้ำเท่านั้น และยังมีแมงป่องดินอสูรเวทระดับสองอีกไม่กี่ตัว” ลินลี่ย์พูดอย่างมั่นใจ
เวทสายลมตรวจสอบสามารถตรวจจับกลิ่นอายและชนิดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
 “อย่าเพิ่งย่ามใจนักนะ  อสูรเวทที่ทรงพลังสามารถซ่อนอยู่ใต้ดิน และอสูรเวทระดับเซียนสามารถซ่อนพลังของตัวเองได้” เดลิน  โคเวิร์ทกล่าวตักเตือน แต่แล้วเขาก็หัวเราะ  “แต่แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าอสูรเวทระดับเซียนจะมาจัดการมนุษย์น้อยอย่างเจ้า พวกมันจะซ่อนพลังไปทำไม?”
แต่หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลินลี่ย์เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
 “ซุ่มโจมตีโดยซ่อนพลังไว้งั้นหรือ? ในหนังสือบางเล่มก็บอกว่าความฉลาดของอสูรเวทเทียบได้กับมนุษย์ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง” ลินลี่ย์พูดกับตัวเอง เขาจ้องไปที่บีบีหนูเงาน้อยบนไหล่ของเขาแล้วก็คิด “เจ้าบีบีน้อยนี่ยังฉลาดมากขนาดนี้ เราคงประมาทไม่ได้”
มีลมหมุนรอบๆเท้าของลินลี่ย์ นี่เป็นการใช้เวทความเร็วเสียงเฉพาะส่วน
ลินลี่ย์ผ่านเข้าไปในเทือกเขาอสูรเวทอย่างไร้เสียง เขาสำรวจรอบตัวอย่างระมัดระวัง ขณะที่บนไหล่ของเขา บีบีน้อยก็ยังเชิดหัวของมันขึ้น และมองไปทุกทิศทาง ตาน้อยสีดำของมันสอดส่ายไปมา พวกเขาทั้งสองเดินทางลึกเข้าไปในภูเขาอย่างช้าๆ
 “เทือกเขาอสูรเวทมีความยาวมากกว่าหนึ่งหมื่นกิโลเมตร มีความกว้างเฉลี่ยประมาณเจ็ดหรือแปดร้อยกิโลเมตร ร้อยกิโลเมตรรอบนอกนั้นอสูรเวทมีแต่พวกระดับต่ำ ถ้าเราเข้าไปลึกกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร เราจะได้พบอสูรเวทระดับห้าและหกจำนวนมาก ถ้าเรายังเข้าลึกขึ้นไปอีก เราอาจได้เห็นอสูรเวทระดับเจ็ด แปด และเก้าหลายตัว หรือบางทีอาจเจออสูรเวทระดับเซียนก็ได้”
เดลิน โคเวิร์ทเริ่มบรรยายเรื่องเทือกเขาอสูรเวทเพิ่มอีกครั้ง
 “แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน บางทีอสูรเวทระดับเก้าอาจเบื่อแล้วออกมาเที่ยวเล่นที่ดินแดนรอบนอกก็ได้” เดลิน โคเวิร์ทกล่าว “แล้วบางทีเจ้าอาจจะได้พบกับฝูงหมาป่าที่มีมากกว่าหมื่นตัวก็ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ข้าบอกได้เลยว่าเจ้าได้พบเรื่องสยดสยองแน่”
พอได้ฟังคำพูดของเดลิน โคเวิร์ทแล้ว ลินลี่ย์ได้แต่เม้มปาก
เรื่องนั้นไม่มีอะไรต้องพูด
เทือกเขาอสูรเวทมีขนาดใหญ่โตมหึมามาก เขาจะโชคร้ายได้ยังไง? แต่ถ้าเขาโชคร้ายจริงๆ เดลิน โคเวิร์ท ที่เป็นเพียงดวงวิญญาณคงจะช่วยอะไรเขาไม่ได้ จอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนที่ไม่มีพลังเวทนั้นก็ไม่มีทางโจมตีได้
 “ปู่เดลิน,  ข้าทราบเรื่องนี้แล้ว  ช่วยเงียบและอย่ากวนใจข้า”  ลินลี่ย์พูดอย่างไม่พอใจ
เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะทันที  เขาลูบเคราขาวและไม่พูดอะไรอีก
เทือกเขาอสูรเวทเป็นสถานที่ของภูเขาลึกและป่าไม้โบราณ ต้นไม้ขึ้นหนาแน่นมากจนสามารถกันฝนที่ตกลงมาได้ทั้งหมด มีเล็ดลอดลงมาเพียงประปราย หลังจากเดินมาได้พักหนึ่ง เขาเข้าใจได้ว่าอาณาเขตภายนอกนี้ไม่อันตรายเท่าไรนัก
ลินลี่ย์ส่งพลังบางส่วนไปที่ขา และกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่สูงราวเจ็ดหรือแปดเมตรแล้วจึงสำรวจดูรอบๆอย่างระมัดระวัง
 “เจ้านาย!  ไกลออกไปทางด้านขวา มีหมูป่าตัวหนึ่ง เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
เมื่อได้ยินคำนี้ ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง  และก็จริง ห่างออกไปราวร้อยเมตร หมูป่าเขาเดียวตัวหนึ่งกำลังสังเกตรอบๆตัวมันอย่างระมัดระวัง ถ้าลินลี่ย์ไม่ได้อยู่ในจุดที่สูงเช่นนี้ ลินลี่ย์อาจจะไม่เห็นหมูป่าเขาเดียวตัวนี้ด้วยซ้ำ
 “หมูป่ายูนิคอร์นอสูรเวทระดับสาม เป็นสัตว์ประหลาดสายธาตุดิน วิชาที่ใช้รับมือมันได้ก็คือ หอกศิลา  ข้อมูลเรื่องหมูป่ายูนิคอร์นบางส่วนผุดขึ้นมาในใจลินลี่ย์
 “แม้ว่ามันจะเป็นแค่อสูรระดับสาม อย่างน้อยมันก็เป็นอาหารมื้อค่ำได้  เนื้อหมูป่ารสชาติดีอยู่แล้ว”  ลินลี่ย์ย่องเข้าหาเจ้าหมูป่าอย่างเงียบ คล่องแคล่ว และว่องไว เนื่องด้วยความรกชัฏของต้นไม้ หมูป่าไม่ได้สังเกตเห็นลินลี่ย์ม้แต่น้อย
เมื่อเขาเข้าไปในระยะสิบเมตรจากหมูป่า ลินลี่ย์หมอบราบลงกับหญ้า เพียงมองผ่านกอหญ้าลินลี่ย์ก็เห็นเค้าโครงของหมูป่าเขาเดียว
ควั่บ
ลินลี่ย์พุ่งออกจากพงหญ้าเหมือนมังกรที่ออกจากรัง เมื่อหมูป่าเขาเดียวหัวหัวมาและมองดูอย่างตกตะลึงลินลี่ย์ก็ลงไปถึงพื้นราวกับลมหอบหนึ่ง  หมูป่าเขาเดียวร้องอย่างขุ่นเคือง และใช้เขาอันยาวและหนาแทงตรงเข้าใส่ลินลี่ย์
 “ฮึบ!” ลินลี่ย์ยื่นมือซ้ายออกและจับที่เขาของมัน  จากนั้นก็ดึงอย่างแรง
หมูป่าเขาเดียวที่หนักหลายร้อยกิโลกรัมถูกลินลี่ย์โยนขึ้นสูงเจ็ดแปดเมตร ตอนนี้เขาใช้ขาซ้ายของเขาราวกับมันเป็นดาบเล่มยักษ์หวดเข้าที่หัวของหมูป่าอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
 “ตุ้บ” เกิดเสียงกระดูกหัก  หมูป่าเขาเดียวถูกเตะไปชนต้นไม้ เมื่อมันร่วงมาถึงพื้น พื้นก็สั่นสะเทือน หมูป่าเขาเดียวกระดูกหักเรียบร้อย  และสมองของมันก็เริ่มไหลออกมาทางรอยแตกของกะโหลก เลือดไหลออกมาจากปากของมันเป็นสาย ขาทั้งสี่ข้างของมันกระตุกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยุดลง
เพียงอาศัยพลังในฐานะนักรบ การฆ่าหมูป่าเขาเดียวก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับลินลี่ย์
 “แม้ว่าแก่นเวทของอสูรเวทระดับสามจะมีราคาเพียงราวๆ สิบเหรียญทอง แต่เราคงปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้” ลินลี่ย์ดึงเหล็กสกัดออกมาจากกระเป๋าหลังของเขา และเพียงเฉือนสองสามครั้ง เขาก็เปิดซากหมูป่าได้ แก่นเวทสีน้ำตาลที่ดูธรรมดาก็กลิ้งออกมา ลินลี่ย์เช็ดกับหญ้า แล้วจึงเก็บเข้ากระเป๋า
จากนั้น ลินลี่ย์ก็ถลกหนังหมูป่าและตัดขามัน
หลังจากตัดกิ่งไม้ลงมาสองสามกิ่ง ลินลี่ย์พลิกข้อมือ เขาร่ายเวทไฟขนาดเล็กใส่กิ่งไม้ เมื่อไฟเริ่มขยายใหญ่ ลินลี่ย์ก็เริ่มย่างขาหมูป่า
หนูเงาน้อยบีบีเริ่มน้ำลายหก  นัยน์ตาของมันจับจ้องอยู่ที่ขาหมู  “ขาหมูอร่อยดีนะ เจ้านาย เร็วหน่อย, เร็วหน่อย  ทำไมเจ้านายไม่ใช้เวทธาตุไฟของเจ้านายย่างตรงๆ แบบนั้นไม่เร็วกว่าหรือ? ”
 “เวทธาตุไฟน่ะหรือ? ข้ามีพลังเวทธาตุไฟอยู่เพียงน้อยนิด และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ  เมื่อจะปรุงอาหาร  การใช้อุณหภูมิสูงไม่ใช่เรื่องจำเป็น”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะพลาง เขาหยิบเกลือและวัตถุดิบอื่นออกจากกระเป๋าสะพายหลัง
เดิมทีเมื่อลินลี่ย์ได้ทดสอบความถนัดทางเวท เขามีความถนัดทางธาตุดินและลมในระดับยอดเยี่ยม แต่มีความถนัดทางธาตุไฟในระดับธรรมดาทั่วไป หากพูดตามปกติ สำหรับคนทั่วไปแล้ว ความสามารถในการเชื่อมโยงธาตุระดับธรรมดานั้นก็นับว่าค่อนข้างดี แต่สำหรับคนอย่างลินลี่ย์ เขาไม่มีเวลาเอาใจใส่กับเวทธาตุไฟ
นอกจากนี้ ถ้าเขาต้องการให้เวทธาตุไฟมีความสามารถเท่าเทียมกับธาตุลมและดิน เขาอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นเป็นสิบเท่า
ดังนั้น  ลินลี่ย์จึงขัดเกลาพลังเวทธาตุไฟเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขาสามารถใช้เวทบอลไฟหลายครั้งได้โดยไม่มีปัญหา
หลังจากย่างขาหมูสองทั้งข้างเสร็จ ลินลี่ย์และบีบีแบ่งกันกินคนละข้างก่อนลินลี่ย์จะเริ่มย่างอีกสองข้างที่เหลือ
 “ว้าว อร่อยดี” บีบีคุยอย่างกระตือรือร้นในระหว่างที่กิน “รสชาติของหมูป่าตัวนี้เยี่ยมกว่าหมูที่โตในคอกมากนัก รสชาติดี กลิ่นหอมกรุ่น แต่ที่สำคัญคือความสามารถในย่างของเจ้านาย” บีบีรู้สึกที่มีความสุขมากเริ่มยอลินลี่ย์
ลินลี่ย์อดหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้
 “เจ้านาย, ข้าอยากได้เพิ่มอีก” หลังจากจัดการขาหมูหนึ่งขา  บีบีมองดูลินลี่ย์ด้วยท่าทางน่าสงสาร
เมื่อได้เห็นแววตาละห้อยของบีบี ลินลี่ย์ไม่ได้รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย เขาอธิบายอย่างเข้มงวด “ขาหมูชิ้นนี้มันใหญ่กว่าเป็ดย่างมากนะ สำหรับเจ้าขาเดียวก็พอแล้ว อีกสองขาเก็บไว้สำหรับมื้อค่ำ” หลังพูดจบ ลินลี่ย์ก็เบือนหน้าหนีและไม่สนใจใบหน้าที่น่าสงสารของบีบีอย่างสิ้นเชิง
หลังจัดการขาหมูย่างทั้งสองข้างเสร็จ ลินลี่ยใช้ใบไม้ใบใหญ่สองใบห่อที่เหลือเก็บไว้แล้วจึงใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย จากนั้นเริ่มเดินทางต่อไปตามถนนพร้อมกับบีบี

1 ความคิดเห็น:

Kwan กล่าวว่า...

ขอบคุณคะ

แสดงความคิดเห็น