วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 4-5 กุหลาบเหมันต์ (1)



ตอนที่  4-5  กุหลาบเหมันต์ (1)
บ่ายวันหนึ่ง ลินลี่ย์และเหล่าพี่น้องพากันเดินออกมาจากร้านอาหาร เหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้วที่พวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังสวรรค์น้ำหยกด้วยกัน
 
 “พี่ใหญ่เยล พวกเจ้าทั้ง 3 ล่วงหน้าไปก่อน ข้าจะขอเดินเล่นอีกสักหน่อย” ลินลี่ย์เอ่ยบอกหลังเดินออกจากร้านอาหาร
เยล เรย์โนลด์ และจอร์จจ้องลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ
 “ข้าไม่ใคร่ชอบบรรยากาศในสวรรค์น้ำหยกนัก พวกเจ้าล่วงหน้าไปก่อน สัก 2 – 3 ชั่วโมงข้าจะตามไป” ลินลี่ย์อธิบาย บีบีที่ยืนบนบ่าของลินลี่ย์ส่งเสียงจี๊ดออกมา 2 ครั้ง และเอ่ยกับลินลี่ย์ทางจิตสัมพันธ์ “เจ้านายจะไปหาอลิซหรือ?”
เมื่อมันอยู่ข้างกายลินลี่ย์ตลอดเวลา เป็นธรรมดาที่มันจะรู้ทุกเรื่องของชายหนุ่ม
แม้ว่าภายนอกของบีบีจะดูไม่โตไปกว่าเดิมมากนัก แต่ความเฉลียวฉลาดของมันมิด้อยไปกว่ามนุษย์ผู้ใหญ่เลย
 “เจ้าตัวเล็ก...” ลินลี่ย์ปรายตามองบีบีอย่างรำคาญ
 “ก็ได้น้องสาม เจ้าไปเดินเล่นเถอะ แต่อย่าเดินนานเกินไปล่ะ” เยลหัวเราะ ลินลี่ย์บอกลาพี่น้องทั้งสามก่อนเริ่มเดินมุ่งหน้าไปยังถนนดรายโร้ด
ถนนเส้นนี้ไม่ได้มีการจราจรที่หนาแน่นนัก ซ้ำยังเงียบสงบ สองฝั่งถนนเต็มไปด้วยร้านอาหารและโรงแรมที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่นเอง
เมื่อใกล้ถึงที่พักของอลิซ ลินลี่ย์ก็อดชำเลืองมองระเบียงชั้น 2 ไม่ได้
ระเบียงนั้นว่างเปล่า
ลินลี่ย์หัวเราะเยาะตนเอง ในความเป็นจริงแล้ว เขารู้ดีว่ามีความเป็นไปได้เพียงเศษเสี้ยวที่อลิซจะอยู่ที่นั่น ลินลี่ย์หันหลังกลับและมุ่งไปยังเข้าร้านเหล้าใกล้ๆ เลือกที่นั่งริมหน้าต่างที่เมื่อมองผ่านออกไปจะเห็นระเบียงชั้น 2 ของบ้านพอดี
 “ไวน์หยก 1 ขวดกับแก้ว 2 ใบ” ลินลี่ย์เอ่ยบอกอย่างสุภาพ
 ขอรับ”
แม้ว่าพนักงานจะสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มจึงขอแก้ว 2 ใบ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถาม
 บีบี ดื่มช้าๆล่ะ” ลินลี่ย์เทไวน์ใส่แก้วให้บีบีแล้ววางลงข้างๆ บีบีกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะอย่างรวดเร็วและเลียนแบบลินลี่ย์ที่เริ่มจิบไวน์อย่างช้าๆ
มือหนึ่งกุมแก้วไวน์ในขณะที่สายตาจ้องมองไปยังระเบียง ลินลี่ย์ค่อยๆละเลียดเครื่องดื่มในแก้ว
เพียงเท่านั้น หนึ่งคนหนึ่งอสูรเวทต่างก็จิบเครื่องดื่มของตนอย่างเงียบๆ ขวดที่ 3 ผ่านไปใน 2 ชั่วโมง ลินลี่ย์เดินไปจ่ายเงิน จากนั้นทั้งสองก็ออกจากร้านไป
 “เจ้านายรู้สึกผิดหวังมากเลยหรือ?” บีบีที่อยู่บนบ่าของลินลี่ย์สื่อสารทางจิต
ลินลี่ย์ลูบหัวเล็กๆของบีบี เขาหัวเราะแล้วตำหนิอย่างไม่จริงจัง “เจ้าตัวเพ้อเจ้อนี่!” จากนั้นลินลี่ย์ก็เริ่มก้าวเดินบนถนนสายหลักของเมืองเฟนไล มู่งหน้าสู่สวรรค์น้ำหยก ดื่มด่ำกับทัศนียภาพระหว่างทาง
สองวันต่อมาเป็นวันที่ 30 กันยายน ลินลี่ย์และพี่น้องทั้งสามได้เดินทางออกจากเมืองเพื่อกลับไปยังสถาบันเอินส์ตั้งแต่เช้า ในขณะที่คืนนั้น อลิซ คาลัน และคนอื่นๆเพิ่งกลับมาถึงเมืองเฟนไล
สาเหตุที่เวลาเหลื่อมล้ำกันเช่นนี้ เนื่องจากสถาบันเอินส์และสถาบันเวลเลนมีวันหยุดคนละวันนั่นเอง
วันหยุดของสถาบันเอินส์จะตรงกับวันที่ 29 และ 30 ในแต่ละเดือน ในขณะที่สถาบันเวลเลนจะเป็นวันที่ 1 และ 2 ของแต่ละเดือน เป็นสาเหตุให้อลิซกลับมาบ้านในวันที่ 30
น่าเศร้า...
แม้ว่าอลิซจะยืนคอยอยู่ที่ระเบียงนานเท่าใด มองผู้คนเดินผ่านไปมาบนท้องถนน และตื่นเต้นในบางคราที่เห็นใครที่ดูคล้ายลินลี่ย์เดินผ่านไป แต่สุดท้ายนางก็พบเพียงความผิดหวัง
และในบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม นางก็ต้องเดินทางกลับสถาบันอย่างช่วยไม่ได้
….
วันที่ 29 ตุลาคม ลินลี่ย์กลับเข้าเมืองอีกครั้งเรื่องนำรูปสลัก 3 ชิ้นมาส่ง คืนนั้น ลินลี่ย์กลับไปยังร้านเหล้าบนถนนดรายโร้ดอีกครั้ง และเลือกนั่งข้างหน้าต่างที่เดิม สั่งไวน์หยก และเริ่มดื่มกับบีบี
 “เจ้านาย ดูเหมือนว่าคืนนี้ท่านจะต้องผิดหวังอีกครั้ง” บีบีมองดูลินลี่ย์ มันกรอกตาขึ้นด้านบนก่อนเอ่ยกับอีกฝ่ายผ่านทางจิต
 “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้” ลินลี่ย์เงยหน้าซดเครื่องดื่มจนหมดแล้ว ตอนนี้เขาและบีบีดื่มไวน์ไป 2 ขวดแล้ว แต่ลินลี่ย์ยังไม่เห็นร่างที่ปรารถนาบนระเบียงนั้นเลย
และเมื่อการรอคอยก็สิ้นสุดลง
 “เอาอีกหนึ่ง...” กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ดวงตาก็พลันเหลือบไปบนระเบียงชั้น 2 ของบ้าน ปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดสีขาวยืนอยู่
 “คิดเงินด้วย” ลินลี่ย์ยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
พนักงานที่กำลังถือไวน์อีกขวดมาให้ชะงักครู่หนึ่ง ก่อนรีบมาคิดเงิน หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ลินลี่ย์ก็เดินออกมา โดยมีบีบีที่กระโดดจากโต๊ะมายืนบนบ่าของชายหนุ่ม
ตอนนี้เกือบเป็นเวลาสองทุ่ม ถนนดรายโร้ดมืดแล้ว เพราะถนนใหญ่มีคนพลุกพล่านยามราตรี
 “นั่นอลิซ” ลินลี่ย์มั่นใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“ว้าว เจ้านาย ในที่สุดท่านก็ได้เจอหญิงงามอีกครั้ง ฮ่าฮ่า! มีความสุขหรือไม่? ตื่นเต้นหรือเปล่า? หรือว่าร้อนรนกัน?” บีบีกล่าวอย่างร่าเริงบนบ่าของลินลี่ย์
ลินลี่ย์ไม่แม้แต่จะสนใจเจ้าหนูเงาน้อย เขายกตัวข้ามกำแพงรั้วบ้านด้วยมือข้างเดียว รวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงเงารางๆ กระโดดไปยืนบนระเบียงชั้น 2 อย่างง่ายดาย
อลิซมองเห็นลินลี่ย์ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มข้ามกำแพงมา
 “พี่ลินลี่ย์!” อลิซจดจำเขาได้ในทันที หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น รู้สึกประหม่า ใบหน้าของนางแดงซ่านจางๆ แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความยินดี
ครั้งก่อน นางไม่ได้เตรียมตัวทำให้คลาดกับลินลี่ย์ เมื่อกลับไปยังสถาบันเวลเลน นางก็สืบทราบมาว่าวันหยุดของสถาบันเอินส์จะตรงกับวันที่ 29 และ 30 อลิซจึงจงใจโดดเรียนและกลับบ้านมาก่อนกำหนดการ 2 วัน
 “พี่ลินลี่ย์ ช่างบังเอิญเสียจริง” อลิซกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลินลี่ย์ชะงักเล็กน้อย “อลิซ...ใช่ ช่างบังเอิญ”
อลิซหัวเราะอย่างอดไม่ได้ก่อนที่จะนึกขึ้นได้แล้วรีบดึงลินลี่ย์ให้นั่งลง “นั่งลงเร็วเข้า อย่าให้ใครเห็นท่าน” ลินลี่ย์นั่งลง ทั้งสองหลบอยู่ตรงมุมระเบียง และพูดคุยกันอย่างเงียบๆ
เดลิน โคเวิร์ทปรากฏกายขึ้นในทันใด
 “ลินลี่ย์ ลินลี่ย์”
 “ปู่เดลิน, มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์ไม่สบายใจเล็กน้อย
เดลินหัวเราะลั่น “เด็กน้อย อย่ามัวแต่พูดเรื่องทั่วๆไปมากนักต่อหน้าหญิงสาว เป็นมิตรกว่านี้หน่อย รุกให้หนักกว่านี้ เจ้าโง่! ดูก็รู้ว่านางเองก็กำลังสนใจเจ้า”
 “ไม่รีบร้อน ไม่รีบร้อน” แม้ว่าลินลี่ย์จะเป็นชายหนุ่มผู้กล้าหาญไม่กลัวตาย แต่ในตอนนี้กลับเอ่ยผ่านจิตสัมพันธ์ด้วยเสียงสั่นและประหม่า
 “เจ้านี่มันโง่เกินเยียวยาเสียจริง” เดลิน โคเวิร์ทตำหนิ
ลินลีย์ละเลยคำแนะนำจากเดลิน โคเวิร์ท และยังคงพูดกับอลิซด้วยเรื่องทั่วๆไป
เมื่อเห็นดังนั้น ในที่สุดเดลิน โคเวิร์ทก็สะบัดหน้าหนีแล้วสลายตัวกลับไปยังแหวนมังกรขนด ซึ่งลินลี่ย์ที่กำลังสนทนาติดพันอยู่กับอลิซไม่ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อย
 “พี่ลินลี่ย์ ท่านช่างยอดเยี่ยมนัก ที่สถาบันเอินส์คงมีหญิงสาวมากมายสนใจท่าน ใช่หรือไม่?” อลิซจงใจถามโดยทำทีว่าไม่ได้ใส่ใจนัก เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดดังนั้น หัวใจลินลี่ย์ก็พลันเต้นถี่
 “ก็ไม่มาก ไม่น้อย...” ระหว่างสนทนากับอลิซ บางครั้งลินลี่ย์ก็พูดออกไปโดยไม่ทันคิด
 เจ้าโง่เอ้ย!” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังก้องอยู่ในหัวของลินลี่ย์

1 ความคิดเห็น:

แค่ผ่านมา กล่าวว่า...

เจ้าโง่

แสดงความคิดเห็น