วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 4-6 กุหลาบเหมันต์ (2)



ตอนที่  4-6  กุหลาบเหมันต์ (2)
การใช้เวลาร่วมกับอลิซ ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกยินดีจากเบื้องลึกของจิตใจ แม้บทสนทนาจะดำเนินต่อไปเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ผ่านพ้นค่ำคืน แต่ทั้งลินลี่ย์และอลิซก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย
 
ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่ ฉายแสงอ่อนๆตรงขอบฟ้า
 “ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว อลิซ..ข้าคงต้องขอตัวก่อน” ลินลี่ย์ยืนขึ้น
 “ก็ได้” อลิซตอบ
อลิซก็ยืนขึ้นเช่นกัน มองดูลินลี่ย์ด้วยความไม่เต็มใจอยู่บางส่วน ลินลี่ย์ยิ้มแล้วโบกมือให้นางก่อนลอยตัวลงมายังถนนเหมือนใบไม้ปลิว รอบกายของเขาปกคลุมด้วยมวลอากาศธาตุ
หลังจากที่ลินลี่ย์มาถึงสวรรค์น้ำหยก ในขณะที่รอพี่น้องทั้ง 3 ลุกจากเตียงเขาก็ถูก ‘สอบปากคำ’ โดยเยล เรย์โนลด์ และจอร์จ
เมื่อเดินทางมาถึงสถาบันเอินส์ ลินลี่ย์ก็เริ่มเก็บตัวฝึกฝนอีกครั้ง แต่คราใดที่หยุดพักเขาก็มักคิดถึงอลิซ ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกว่าเทพเจ้าแห่งความรักคงกำลังลงโทษเขาอยู่เป็นแน่
วันที่ 29 เดือนพฤศจิกายน ปี 9997 ตามปฏิทินยูลาน ในช่วงบ่าย
อลิซตื่นแต่เช้าตรู่และยืนรออยู่บริเวณหน้าบ้าน สักพักหนึ่งก็พลังเห็นร่างคุ้นตาของลินลี่ย์เดินมาจากอีกฟากของถนนอันแห้งแล้ง นางวิ่งไปหาเขาอย่างรวดเร็ว
 “พี่ลินลี่ย์!” อลิซตะโกนเรียกอย่างตื่นเต้น พวกเขาไม่ได้พบกันเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อได้พบกันอีกครั้ง อลิซไม่สามารถควบคุมท่าทีของนางได้เลย
ในใจของลินลี่ย์ก็เก็บความตื่นเต้นไว้เช่นกัน การพบกันในรอบหนึ่งเดือนทำให้ลินลี่ย์รู้สึกยินดียิ่ง “แม้ว่าข้าจะไม่ได้บอกอลิซว่าจะมาเจอกันอีกเมื่อใด แต่วันนี้นางก็ยังคงออกมารอ”
การพบกันครั้งที่แล้ว ทำให้ลินลี่ย์รู้ว่าวันหยุดของสถาบันเวลเลนตรงกับวันที่ 1 และ 2 ของทุกเดือน อลิซจึงต้องโดดเรียนเพื่อมาเจอเขา ลินลี่ย์เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าการกระทำนี้หมายความว่าอย่างไร
 “ลินลี่ย์ รุกเข้าไปสิ ครั้งนี้เจ้าต้องกล้าๆหน่อยนะ” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นในหัวของลินลี่ย์
ลินลี่ย์ตัดสินใจแล้ว เขาไม่ต้องการรอต่อไปอีกหนึ่งเดือน
 “อลิซ เหตุใดวันนี้เจ้ามารอนอกบ้าน ไม่ใช่บนระเบียงเล่า?” ลินลี่ย์และอลิซเดินเคียงข้างกันไปบนถนน อลิซหัวเราะ “เราไม่สามารถซ่อนตัวบนระเบียงบ้านข้าไปได้ตลอด ใช่หรือไม่?”
เมื่อคิดถึงภาพที่พวกเขาทั้งสองนั่งแอบอยู่ตรงมุมระเบียง ลินลี่ย์ก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
 “ถูกต้อง แต่ถ้าคืนนี้เจ้าไม่อยู่บ้าน พ่อเจ้าจะไม่เป็นกังวลหรือ?” ลินลี่ย์เอ่ยถาม
 “หืม?” เมื่อได้ยินคำถาม อลิซก็บ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ “พ่อข้าขี้เมา ซ้ำยังเป็นนักพนันตัวยง ในแต่ละวันเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกลับบ้านมาตอนไหน คงไม่มาสนใจข้าหรอก”
 “พี่ลินลี่ย์ ข้าอยู่ที่เมืองเฟนไลมาตั้งแต่เล็กจนโต เมืองเฟนไลเป็นเมืองใหญ่นัก คงมีหลายที่ที่ท่านยังไม่เคยไป มาสิ ข้าจะพาท่านไปเอง” อลิซหัวเราะ
ลินลี่ย์และอลิซเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนน ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว และบนแผ่นดินยูลานเดือนธันวาคมและมกราคมเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี สายลมในคืนนี้จึงเหน็บหนาวเช่นกัน ทำให้บนถนนค่อนข้างร้างผู้คน
แต่ลินลี่ย์และอลิซก็ยังคงพากันเดินไปตามท้องถนนพลางพูดคุยกันไป ไม่สนใจว่าจะมีผู้คนบนถนนหรือไม่
 “โอ้ หิมะตก?” อลิซเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน เกร็ดสีขาวเล็กๆโปรยปรายลงมาอย่างเชื่องช้า “ข้าชอบหิมะ นี่นับเป็นหิมะแรกของฤดูหนาวปีนี้เชียวนะ”
 “ข้าก็ชอบหิมะเช่นกัน” ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้น ปล่อยให้หิมะเกร็ดน้อยค่อยๆตกกระทบใบหน้า
การเดินเล่นกับหญิงสาวที่เขาชอบในค่ำคืนที่หิมะโปรยปรายช่างโรแมนติกนัก ทั้งสองปล่อยให้เวลาผ่านไปช้าๆบนถนนของเมืองเฟนไล
 “พี่ลินลี่ย์ ท่านมีคนรักหรือไม่?” จู่ๆอลิซก็ถามขึ้น ก่อนจะเอ่ยตามเสียงอ่อนหวาน “พี่ลินลี่ย์ ท่านเป็นคนยอดเยี่ยม ย่อมมีคนรักอยู่แล้วเป็นแน่”
 “ข้าไม่มีหรอก ไม่มีจริงๆ” ลินลี่ย์ตอบอย่างรวดเร็ว
ได้ยินดังนั้น อลิซก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด
 “อลิซ เจ้ามีคนรักแล้วหรือไม่?” ลินลี่ย์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามในที่สุด
ใบหน้าของอลิซพลันแดงซ่าน แม้กระทั้งลำคอยังแดงระเรื่อ แต่แน่นอนว่าในค่ำคืนที่มืดเช่นนี้ลินลี่ย์ย่อมมองไม่เห็น “ข้าจะมีคนรักได้อย่างไร ใครจะอยากได้ข้าเป็นคนรักกัน?”
 “โอว”
ลินลี่ย์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเอ่ยอากมา “แล้วถ้าข้าอยากให้เจ้าเป็นคนรักของข้าล่ะ?”
 “ฮืม...” อลิซจ้องมองลินลีย์อย่างประหลาดใจ ท่าทางชะงักของนางทำให้ดูโง่งมไม่น้อย เมื่อครู่ลินลี่ย์ยังคงพูดคุยกับนางเหมือนปกติ แต่จู่ๆเขาถามคำถามที่ทำให้นางอึ้ง
ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมดาที่คนหนุ่มสาวจะมีคนรัก เพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงหลายคนของอลิซก็มีคนรักหนุ่มกันหมดแล้ว ตัวนางเองก็อยากมีบ้างสักคนเหมือนกัน
แต่นางไม่ได้คาดหวังว่าลินลี่ย์จะเอ่ยถามนางในสถานการณ์เช่นนี้
 “ท่านอยากได้ข้าเป็นคนรักอย่างนั้นหรือ?” อลิซถาม
บัดนี้ ลินลี่ย์รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นถี่แทบกระดอนออกมาจากอก แม้ยามเผชิญสถานการณ์เป็นตายบนเทือกเขาอสูรเวทก็ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้ “ใช่ แล้วเจ้าจะยอมรับหรือไม่?”
ดวงหน้าของอลิซแดงระเรื่อ นางจ้องมองลินลี่ย์ “พี่ลินลี่ย์ พูดตามตรง บางที่ข้าอาจจะไม่ดีเท่าที่ท่านคิดว่าข้าเป็น”
 “ข้าเชื่อในสายตาของข้า อลิซ ข้าเอ่ยถามไปแล้ว เจ้าจะตกลงหรือไม่?” ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า เขาอยากฟังคำตอบของอลิซเลยในตอนนี้ แม้กระทั่งน้ำเสียงของเขายังสั่นน้อยๆ
อลิซเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้าๆ
 “ตกลง”
ด้วยความดีใจ ลินลี่ย์สวมกอดอลิซเข้าในอ้อมแขน ด้วยความอายทำให้อลิซได้แต่ฝังใบหน้าลงบนแผ่นอกของลินลี่ย์ ในตอนนั้นเองที่ลินลี่ย์เหลือบไปเห็นร้านดอกไม้อยู่ไม่ไกล
ครู่ต่อมา...
 “อลิซ ข้าให้เจ้า” อลิสเงยหน้าขึ้นมามอง และพบกับดอกกุหลาบที่สวยสดงดงามเบื้องหน้าของนาง
แก้มทั้งสองข้างของนางแดงระเรื่อ อลิซเอื้อมมือไปรับดอกไม้ ลินลี่ย์ก็พลันคิดว่าสีแดงของดอกกุหลาบนั้นช่างคล้ายกับพวงแก้มสีชมพูของนางเสียจริง เป็นภาพที่ไม่สามารถสรรหาคำพูดใดมาอธิบายได้ และภาพนั้นก็ได้สลักลึกลงในจิตวิญญาณของลินลี่ย์ชั่วนิรันดร์
เขากุมมืออลิซ ในขณะที่ออกเดินต่อไป
เกล็ดหิมะปลิวละล่องไปทั่ว ในขณะที่ชายหญิงเดินเคียงคู่กันบนถนนในเมืองเฟนไล ดอกกุหลาบในมืออลิซช่างสวยงามนัก
ในห้องหนึ่งของสวรรค์น้ำหยก ประกอบไปด้วย 7 คน ได้แก่ เยล จอร์จ เรย์โนลด์ และสาวงามอีก 4 คน
 “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาม ครั้งก่อนเขาก็หายออกไปกลางดึก ครั้งนี้เขาก็ยังไม่กลับมาจนป่านนี้” เยลส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง
 “เฮ้ พวกเรา นั่นพี่สามมิใช่หรือ?” เรย์โนลด์ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างตะโกนขึ้นอย่างประหลาดใจ “และเขากำลังกุมมือหญิงสาวอยู่ด้วย ให้ตายสิ! พี่สามแอบซ่อนสาวสวยไว้ลับหลังเรา”
 “วูชชชช!” เยลกับจอร์จวิ่งมาที่หน้าต่างอย่างรวดเร็วและมองไปยังลินลี่ย์ที่อยู่เบื้องล่าง
ในเวลานี้ ลินลี่ย์กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเดินมาถึงสวรรค์น้ำหยก! ลินลี่ย์และอลิซเดินผ่านสวรรค์น้ำหยกไป มุ่งหน้าสู่ถนนศาลาหอม
 “ให้ตายสิ น้องสามของเราร้ายกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ดวงตาของเยลเป็นประกาย
จอร์จและเรย์โนลด์ก็ตื่นเต้นเช่นกัน เรย์โนลด์หมายมั่นในทันที “ฮ่าฮ่า ไว้พี่สามกลับมาเมื่อไหร่ เราจะสอบปากคำเขาให้หมดเปลือก”
….
เช้าวันต่อมา ลินลี่ย์กลับมายังห้องพักในสวรรค์น้ำหยกด้วยอารมณ์ดีอย่างยิ่ง ปกติแล้วเวลานี้เยลและเรย์โนลด์จะยังคงอยู่ในห้องส่วนตัวกับหญิงสาว แต่...
เมื่อเปิดประตู ลินลี่ย์ก็จ้องมองเข้าไปในห้องอย่างสงสัย “พี่ใหญ่เยล ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
 “เจ้าถามอย่างนั้นหรือว่าทำไมพวกเราถึงอยู่ที่นี่?” เรย์โนลด์เริ่มหัวเราะอย่างมีเลศนัย จอร์จและเยลก็พลันส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ พวกเขาค่อยๆรุกคืบเข้ามาใกล้ลินลี่ย์
 “พูดมา!” เรย์โนลด์จ้องเขาเขม็ง “ใครคือสาวสวยที่อยู่กับเจ้าเมื่อคืนนี้?”
 “พูดมาเร็ว!” เยลกับจอร์จก็เร่งเร้าเช่นกัน
 “จะ..เจ้า พวกเจ้า...?” ลินลี่ย์ตกตะลึงจนทำตัวไม่ถูก
 

1 ความคิดเห็น:

Kwan กล่าวว่า...

ขอบคุณคะ

แสดงความคิดเห็น