ตอนที่ 4-15
กลับไปหุบเขาหมอก
ขณะนี้เขากำลังยืนอยู่บนขอบหน้าผา
ม่านหมอกสีขาวเบื้องล่างไหลเวียนวน ไม่มีทางมองทะลุเห็นพื้นหุบเหว
ในมือขวาถือเหล็กสกัด
ลินลี่ย์ค่อยๆไต่ลงไปในหุบเหวสายหมอก เหล็กสกัดอย่างดีเล่มนี้ลินลี่ย์ยอมเสียเงิน
300 เหรียญทองเพื่อซื้อมา ในด้านความคมสามารถเทียบได้กับมีดสั้นดำที่ลินลี่ย์เคยใช้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ลินลี่ย์พลันรู้สึกว่าเหล็กสกัดนั้นคุ้นมือเขากว่ามีดสั้นนัก
ตอนนี้ลินลี่ย์ได้เข้ามาในเทือกเขาอสูรเวทเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่งแล้ว
บัดนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาวะที่พรั่งพร้อมที่สุดที่จะเป็นไปได้
อณูธาตุดินหนาแน่นค่อยๆถูกดูดกลืนเข้ามาในร่างกายขณะที่ลินลี่ย์ร่ายเวท
ในที่สุดชุดเกราะธรรมดาก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา
แต่เมื่อพิจารณาใกล้ๆจะพบว่าวัสดุที่ใช้สร้างเกราะนั้นดูคล้ายกับหยก
ซึ่งแตกต่างจากเกราะศิลาแบบเก่าอย่างเทียบไม่ติด
เวทธาตุดินระดับ 7 –
เกราะศิลา (ระดับหยก)
จอมเวทระดับ 7
นั้นทรงพลังมากกว่าจอมเวทระดับ 6 นัก
แม้แต่พลังของบทเวทเดียวกันก็ยังทรงพลังกว่าถึง 10 เท่า!
“หากครานี้ข้าต้องประมือกับฝูงเหยี่ยวมังกรอีกครั้ง
เพียงแค่ใช้เกราะหยกของข้า ก็คงสามารถจัดการพวกมันได้โดยง่าย” ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความมั่นใจ
จากนั้นก็บริกรรมเวทธาตุลม มวลอากาศพลันหมุนวนรอบกายลินลี่ย์
จนในที่สุดร่างกายของลินลี่ย์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และค่อยๆลดระดับลงไปในหุบเหว
ในการสำรวจหุบเหวสายหมอกครั้งนี้ลินลี่ย์มั่นใจอย่างยิ่ง
“ตอนนี้ข้ามีทั้งเกราะหยกและวิชาทะยานฟ้า
ยังไม่รวมว่าร่างกายของข้านั้นอยู่ระดับเดียวกับนักรบระดับ 5
และยังสามารถใช้บทเวทความเร็วเหนือเสียงของจอมเวทระดับ 7 ได้อีกด้วย....การเอาชีวิตรอดคงไม่ใช่ปัญหา”
ลินลี่ย์ค่อยๆเดินทางลงไปในหุบเหวสายหมอกอย่างเชื่องช้า
ทั้งนี้เพื่อ...
หญ้าใจฟ้า!
หญ้าใจฟ้านั้นเป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับลินลี่ย์ นอกจากการเก็บเกี่ยวหญ้าใจฟ้าแล้ว ลินลี่ย์ก็ยังมีความสนใจใคร่รู้ว่าเหตุใดเบื้องล่างจึงมีอสูรเวทมากมายนัก
โดยเฉพาะเมื่อพวกมันนั้นต่างสายพันธุ์กันอย่างสิ้นเชิง
“เจ้านายต้องระวังนะ คราวก่อนพวกเราเกือบถูกล่าไปแล้ว”
บีบีเตือนความจำ
“อย่าห่วง”
ยิ่งลินลี่ย์ลงไปลึกเท่าใด
ระยะห่างระหว่างผาสองข้างก็ยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหุบเหวเบื้องล่างนี้กว้างขวางเพียงใดแม้ต้องมองผ่านสายหมอก
ลินลี่ย์เฝ้าสังเกตรอบกายอยู่ตลอด บีบีเองก็กำลังมองไปรอบๆอย่างสนใจเช่นกัน
ทั้งสองกำลังมองหาหญ้าใจฟ้า
เป้าหมายหลักที่ลินลี่ย์ลงมายังที่แห่งนี้คือหญ้าใจฟ้าที่คราวก่อนเขาไม่สามารถเก็บไปได้
ลินลี่ย์ค่อยๆไต่ผนังผาลงไปอย่างระแวดระวัง
“เจ้านาย ข้าเห็นหญ้าใจฟ้าแล้ว ตรงนั้นไง!”
สายตาของบีบีแหลมคมยิ่ง ลินลี่ย์มองตามไป แสงเรืองรองอ่อนๆดึงดูดสายตาของเขา
แม้หญ้าใจฟ้าจะมีใบสีเขียว
แต่กลับเปล่งประกายแสงสีฟ้าออกมาแทน
“ข้าไม่เห็นพญางูเขียวยักษ์เลย
มีพวกมันอยู่ที่นี่บ้างหรือไม่?” ลินลี่ย์ไม่กล้าเร่งรีบเข้าไปนัก
ประสบการณ์เผชิญหน้ากับพญางูเขียวยักษ์ครั้งก่อนยังฝังใจ ยิ่งกว่านั้น
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นจะเป็นการเรียกความสนใจของอสูรเวทจำนวนมากให้มุ่งหน้ามาหา
เขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถต่อกรกับอสูรเวทเป็นกองทัพได้
เนื่องจากพญางูเขียวมีร่างกายสีเขียวคล้ายเถาวัลย์ที่มีอยู่โดยรอบ
ลินลี่ย์จึงต้องให้แน่ใจที่สุดก่อนเข้าไป
หลังจากเฝ้าระวังอยู่ระยะหนึ่งก็สรุปได้ว่าไม่มีพญางูเขียวยักษ์อยู่แถวนั้น
ลินลี่ย์จึงค่อยๆทะยานเข้าไปใกล้ๆ
เมื่อเห็นหญ้าใจฟ้าอยู่เบื้องหน้า
ลินลี่ย์ก็ลอบหลั่งเหงื่อเย็นบริเวณฝ่ามือ รอยยิ้มลึกลับผุดขึ้นบนใบหน้า
ความรู้สึกเย็นยะเยือกนี้เป็นหญ้าใจฟ้าไม่ผิดแน่ ลินลี่ย์ค่อยๆเก็บเกี่ยวใส่ไว้ในกระเป๋า
และมุ่งหน้าเพื่อหาต้นต่อไป
“กรรรร....”
“ฟืดดดด..”
เสียงคำรามของอสูรเวทก้องมาจากเบื้องหน้า
เสียงคำรามผสานกันของสัตว์ร้ายทำเอาหัวใจของลินลี่ย์สั่นไหว
เพียงตัดสินจากเสียงที่ได้ยินก็นับเป็นอสรูร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว!
เมื่อมองผ่านหมอกเบาบางลงไป
ตอนนี้ลินลี่ย์มองเห็นทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์ข้างล่าง
เจ้านาย ระวังด้วย
ข้าไม่อยากถูกโจมตีและไล่ล่าจากทุกทิศทางในเวลาเดียวกันหรอกนะ” บีบีกล่าวเตือน
“ข้ารู้” ลินลี่ย์เพิ่มความระมัดระวังเป็นระดับสูงสุด
สายตาของเขากวาดมองทั่ว โดยเฉพาะเถาวัลย์ยักษ์ที่เกาะอยู่บนกำแพง หากมีอสูรเวทแม้แต่ตัวเดียวพบเห็นพวกเขา
ก็ไม่ต่างกับถูกพวกมันทั้งหมดค้นพบ
“เหยี่ยวมังกร” ลินลี่ย์มองเห็นพวกมันอยู่ไกลออกไป
สัตว์ปีกอันตรายกำลังบินอย่างเอื่อยๆอยู่บนอากาศ ลินลี่ย์รีบบินหลบไปอีกทาง
โชคดีที่หุบเหวนี้มีหมอกหนาปกคลุมอีกทั้งเป็นระยะไกลพอควร
ทำให้เขาหลุดรอดจากสายตาอันแหลมคมของพวกมัน
เหยี่ยวมังกรมีขนาดใหญ่ง่ายต่อการสังเกตเห็น เมื่อเทียบกันแล้วลินลี่ย์มีขนาดเล็กกว่ามาก
นับว่าเป็นข้อได้เปรียบในการหลบซ่อน
“ฟืดด
ฟืดดด!” ทันใดนั้น เสียงร้องจำนวนมากก็ดังขึ้น
แย่ไปกว่านั้นคือเจ้าของเสียงพวกนั้นกำลังมุ่งหน้ามาทางลินลี่ย์
“ไม่ดีแล้ว” สีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
ลินลี่ย์ซึ่งเคยเผชิญหน้ากับเหยี่ยวมังกรในระยะประชิดมาก่อนรู้ดีว่าเป็นเสียงร้องของพวกมัน
เมื่อหันไปมองต้นเสียงก็พบกับฝูงเหยี่ยวมังกรกว่า 20 – 30 ตัวกำลังมุ่งหน้ามาหา
แค่เหยี่ยวมังกรเพียงตัวเดียวก็มีขนาดใหญ่พออยู่แล้ว
ฝูงขนาด 20 – 30 ตัวยิ่งดูหน้าเกรงขาม
พวกมันปกคลุมทั่วท้องฟ้าบังแสงอาทิตย์ไม่ให้สาดส่องลงมาถึง
เมื่อเหยี่ยวมังกรจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น
ลินลี่ย์ไม่สามารถซ่อนตัวได้เลย
ตอนนี้เขามี 3
ทางเลือก ทางแรกคือเข้าต่อสู้กับฝูงเหยี่ยวมังกร ทางที่สองคือบินหนีเอาชีวิตรอด
และทางที่สาม...คือบินลงไปยังซอกหลืบของหุบเหว
“วืดดดด”
โดยไม่ลังเล ลินลี่ย์ทิ้งกายลงไปเบื้องล่าง
ทะยานผ่านม่านหมอก ชั่วอึดใจเห็นร่างของลินลี่ย์พุ่งตัวไปดุจลูกศร สู่พงหญ้ารก
และไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน เขาซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบ
ลินลี่ย์ค่อยๆโผล่ขึ้นมาที่ระดับความสูงของพงหญ้า
และไต่ลงไปในเหวอย่างระมัดระวัง
หุบเหวนี้มีขนาดใหญ่มหึมา
เต็มไปด้วยลำธารหมอกหลายร้อยสายไหลวนอยู่ทั่ว ปกคลุมดั่งอาณาจักรของพวกมัน
อาณาจักรที่เต็มไปด้วยอสุรกายขนาดยักษ์เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
ความสูงราวบ้านสองชั้น
ยาวกว่า 30 เมตร เกล็ดแข็งสีเดียวกับหินขนาดครึ่งหนึ่งของมนุษย์
ข้อมูลพลันผุดขึ้นมาในหัวของลินลีย์
“มังกรดิน อสูรเวทธาตุไฟระดับ 6”
“หากที่นี่มีเพียงมังกรดินก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก
แต่...” ลินลี่ย์กวาดมองทั่ว “ที่นี่มีมังกรดินกว่าร้อยตัว ถ้าพวกมันเข้ามาโจมตีพร้อมกันข้าคงต้านทานไม่ไหวแน่”
“แต่ความเร็วของมันไม่ถือว่ามากนัก
สำหรับข้าคงไม่เป็นปัญหา” ลินลี่ย์มองไปยังฝูงสัตว์เวท
ในหุบเหวนี้
มังกรดินดูจะเป็นประชากรส่วนน้อย สิ่งมีชีวิตจำนวนมากเบื้องล่างนี้คือมังกรลมกรด
แต่มังกรลมกรดไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่รวมกันเป็นฝูงสักเท่าไร
ในขณะเดียวกันบนท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเหยี่ยวมังกร
และถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าในพงหญ้ายังมีอสรพิษจำนวนมากหลบซ่อนอยู่
ลินลี่ย์พบเมื่อกวาดตามอง
“แค่เพียงมองก็รู้ว่าหุบเขานี้ทอดตัวตั้งแต่ทิศตะวันออกยาวไปยังทิศตะวันตก
หากต้องการไปทางทิศเหนือข้าคงต้องขึ้นจากเหว” ลินลี่ย์หันหน้ามองทางทิศตะวันตก
มีเพียงทิศเหนือที่มีกำแพงหินขวางกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแม่น้ำซึ่งไหลจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกอย่างต่อเนื่อง
“บีบี เจ้าเองก็ต้องระวังด้วย” ลินลี่ย์ร่ายเวทลมความเร็วเหนือเสียง
และเดินตัดผ่านพงหญ้า ใต้หุบเหวนี้มีพงหญ้าอยู่มากมาย อาจเป็นเพราะอสูรเวทเบื้องล่างนี้เป็นสัตว์กินเนื้อก็เป็นได้
เขามุ่งหน้าเดินทางต่ออย่างระมัดระวัง
แต่ก็ไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งใด
“ช่างเป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยอณูธาตุยิ่ง
มีอณูธาตุหนาแน่นเป็น 6 หรือ 7 เท่าของโลกภายนอกเห็นจะได้” เมื่อลงมาใต้หุบเหว
ลินลี่ย์ก็เริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
“ข้าสงสัยนักว่าสิ่งใดทำให้เบื้องล่างมีอณูธาตุหนาแน่นถึงเพียงนี้?”
ลินลี่ย์ค่อยๆมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
มังกรดิน มังกรลมกรด พญางูเขียว
และเหยี่ยวมังกรล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตส่วนมากเบื้องล่างนี้ ลินลี่ย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆเท่านั้น
“หุบเหวนี้ช่างใหญ่เสียจริง!”
หลังจากบินมาทางตะวันออกกว่า
20 กิโลเมตร ลินลี่ย์ก็ยังมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดสักนิด
ในขณะเดียวกันก็พบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่เช่นกัน
อสูรเวทระดับ 6
เพกาซัสบิน และอสูรเวทระดับ 7 เพกาซัสสายฟ้า
ฝูงลูกเพกาซัสตัวน้อยทั้งหมดล้วนบินอยู่ในอากาศ
ในขณะที่ตัวอื่นกำลังเดินเล็มหญ้าอย่างเชื่องช้า
“เจ้านาย เบื้องหน้ามีแต่ทุ่งหญ้าสั้นๆ
เราจะเคลื่อนผ่านไปได้อย่างไร?” บีบีเริ่มกังวล
ลินลีย์เริ่มขมวดคิ้วเช่นกัน
พุ่มหญ้าเบื้องหน้านั้นสูงเพียงครึ่งขาของเขาเท่านั้น
“ระยะห่างมากเกินไป อีกทั้งยังมีอสูรเวทอยู่กันอย่างหนาแน่น
ข้าจะไปทางอากาศ” ลินลี่ย์บินขึ้นไปอย่างระมัดระวัง
เป็นระยะนับร้อยเมตรเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะอยู่เหนือเส้นทางบินของฝูงเพกาซัสตัวน้อย
และร่ายเวทนิคทะยานฟ้า
“วืดดด”
เมื่อพุ่งทะยานอย่างอิสระในอากาศ
ลินลี่ย์กะตัดผ่านหมอกหนา แม้บนนี้จะมีลูกเพกาซัสอยู่บ้าง
แต่พวกมันก็มีขนาดเล็กทำให้ไม่กีดขวางเส้นทางนักและลินลี่ย์ก็หลบหลีกได้โดยง่าย
ระหว่างทะยานไปทางทิศตะวันออก
ลินลี่ย์พยายามอยู่ให้ชิดผนังด้านทิศใต้อยู่ตลอดเวลาเพื่อมองหาหญ้าใจฟ้าตามซอกหิน
แต่ยิ่งไปไกลก็ต้องขมวดคิ้ว
“นอกจากหญ้าใจฟ้ากอนั้นแล้ว ข้าก็ไม่เจออีกเลย”
ลินลี่ย์เริ่มร้อนใจ
แต่เขาก็ยังคงมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
หลังจากบินมาเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ลินลี่ย์ก็ไม่เห็นลูกเพกาซัสอยู่ในอากาศอีก
และเป็นอีกครั้งที่เขาพบว่าพื้นเหวค่อยๆลาดลงไปเรื่อยๆ
“ลินลี่ย์ มีอสูรเวทจำนวนหนึ่งอยู่ที่นี่
หลากหลายสายพันธุ์ยิ่งกว่าที่เราเคยพบ น่าจะเป็นมังกรลมกรด หรือหมีดำ
หรือสายพันธุ์มังกรสมิง” เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวจากแหวน ลอยตัวอยู่เคียงข้างลินลี่ย์
ลินลี่ย์ค่อยๆลอบมุ่งหน้าไปอย่างระแวดระวัง
โดยมีเดลิน โคเวิร์ทเดินอยู่ด้านข้าง
“อ๊ะ!”
ทันใดนั้นเขาก็ถูกแสงสว่างดึงดูดความสนใจ
ลินลี่ย์ยืนแข็งค้างอย่างโง่งม ราว 50
เมตรรอบกายของเขาเต็มไปด้วยพุ่มไม้ขนาดใหญ่ที่มีรัศมี 7 – 8 เมตร
และบางกอเป็นหญ้าที่มีสีเขียวแตกต่างจากกออื่น
หากเพียงว่าหญ้าพวกนั้นมีสีเขียวก็คงไม่แปลกอะไร
ถ้าไม่ใช่ว่า...หญ้าสีเขียวพวกนั้นเปล่งแสงสีฟ้าด้วย
“หญ้าใจฟ้า ทั้งหมดคือหญ้าใจฟ้า!”
หัวใจของลินลี่ย์เหมือนจะหยุดเต้นไปในวินาทีนั้น
สวรรค์... หญ้าใจฟ้าเพียงกอเดียวก็มีค่ากว่าหมื่นเหรียญทองแล้ว
มันเป็นวัตถุดิบล้ำค่าที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก
แต่เบื้องหน้าเขากลับมีอยู่เต็มไปหมด เพียงแค่พุ่มไม้กว่าง 7 - 8
เมตรเบื้องหน้าก็มีหญ้าใจฟ้านับร้อยกอแล้ว
“เยอะมาก! ข้าสามารถเก็บพวกมันได้ 7 – 8
กอในการเอื้อมมือคว้าครั้งเดียวได้เลย!” ลินลี่ย์สูดหายใจลึก
เดลิน โคเวิร์ทเบิกตากว้าง
“ลินลี่ย์ สำหรับกินคู่กับเลือดมังกร เจ้าใช้หญ้าใจฟ้าเพียง 4 – 5 กอก็เพียงพอแล้ว
สถานที่ที่มีหญ้าใจฟ้าอยู่จำนวนมากเช่นนี้นับว่ามหัศจรรย์ยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม...รอบๆพุ่มไม้ที่มีหญ้าใจฟ้าก็ว่างเปล่าไร้ที่กำบัง
เจ้าจะไปตรงนั้นอย่างไร?”
เป็นไปได้ว่าหญ้าใจฟ้าจะเป็นภัยต่อหญ้าธรรมดา
ทำให้ในระยะ 30
เมตรรอบกอหญ้าใจฟ้าไม่มีหญ้าชนิดอื่นแม้เพียงสักต้น
“ตรงนั้นไม่ได้มีอสูรเวทมากมายนัก
และตัวที่อยู่ใกล้ก็ไม่ใช่สัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง พวกมันเพียงออกหากินไปตามเรื่อง”
ลินลี่ย์สังเกตรอบๆกอหญ้าใจฟ้าขนาดมหึมานั่นอย่างระมัดระวัง “มีอสูรเวทเพียง 7
ตัวอยู่บริเวณนั้น ตราบใดที่ข้าเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า
ข้าคงไม่มีปัญหาในการหลบหนีจากพวกมันแน่”
ลินลี่ย์พยายามบังคับให้ตนเองใจเย็นลง
ปล่อยให้ตัวเขาเข้าสู่สภาวะที่พรั่งพร้อมที่สุด
“เจ้านาย! ท่านโง่หรือเปล่า? ท่านหลงลืมท่านบีบีผู้นี้ไปแล้วหรือ?” บีบีสื่อสารกับลินลี่ย์ผ่านทางจิต
ลินลี่ย์ชะงักและหันมามองบีบี
เขาเห็นมันขยิบตาส่งให้ “เจ้านาย ข้ามีความเร็วมากกว่าท่าน แถมขนาดตัวยังเล็กกว่า
ให้ข้าไปแทนดีหรือไม่?
ที่ท่านต้องทำก็เพียงแต่รอเปิดกระเป๋าให้กว้างๆเท่านั้น”
“วืดดด”
เมื่อเปลี่ยนร่างเป็นเงาสีดำ
เพียงพริบตาบีบีก็ไปยืนอยู่กลางพุ่มหญ้าใจฟ้า และใช้กงเล็บแหลมคมของมันเก็บเกี่ยวหญ้าใจฟ้าได้จำนวนมาก
อุ้งมือของมันขยับรวดเร็วเหมือนกำลังร่ายรำ
ไม่นานนักพุ่มไม้นั้นก็กลายเป็นความว่างเปล่า
ด้านข้างคือบีบีที่หอบกองหญ้าใจฟ้าที่สูงกว่าหัวเล็กๆของมันเสียอีก
2 ความคิดเห็น:
ทำงานกันเป็นทีม
เจ้าหนูหัวขโมย
ขอบคุณคับ
แสดงความคิดเห็น