วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 100 จิ่งหาวออกตัว

ตอนที่  100  จิ่งหาวออกตัว
“สมบัติดาวพิณ?” จิ่งหาวหรี่ตา

เมื่อได้ยินคำถามของจิ่งหาว ถังเทียนแค่นเสียงและรั้งหมัดกลับมา
แรงกดดันที่มีต่อสตรีชุดดำลดลง นางลอบคลายใจเงียบๆ  เมื่อได้ยินน้ำเสียงจากจิ่งหาว นางสามารถบอกได้เลยว่าจิ่งหาวสนใจสมบัติหมู่ดาวพิณอย่างชัดเจน นางรีบคิดในใจแล้วรีบพูด “ข้าคาดว่าท่านจิ่งหาวคงจะเคยได้ยินชื่อของสมบัติหมู่ดาวพิณมาก่อนเช่นกัน  เมื่อสามพันปีที่แล้วหมู่ดาวพิณมีชื่อเสียงโด่งดัง  แต่หลังจากนั้นเพียงสี่สิบปีพวกเขาก็ถูกทำลายสูญสลายไป และสมบัติใหม่ของหมู่ดาวพิณก็ไม่มีใครได้เห็นอีกเลย”
 “เจ้ากำลังบอกว่าสมบัติหมู่ดาวพิณอยู่ข้างล่างตรงนี้อย่างนั้นหรือ?”  จิ่งหาวยังคงรักษาความสงบและถามโดยตรง
 “ถูกแล้ว” สตรีชุดดำพยักหน้ารับตามตรง “และมีแต่เพียงข้าที่รู้ตำแหน่ง”
จิ่งหาวหัวเราะเย็นชา  “ข้าอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วและข้าไม่เคยพบร่องรอยใดๆ ที่จะนำไปสู่การค้นพบสมบัติที่นี่”
สตรีชุดดำแค่นเสียงเยาะเย้ยกล่าวว่า “อย่างนั้นทำไมสมาพันธ์ชาวยุทธถึงได้เลือกสถานที่นี้สร้างค่ายทหารชั้นนอก?”
จิ่งหาวซึมเซา เขาจำเหตุผลที่สร้างค่ายรอบนอกที่สุสานใหญ่ได้  ผู้อาวุโสที่พบสถานที่นี้ในตอนนั้น เป็นเพราะความผันผวนของสมบัติดวงดาว  แต่เขาไม่สามารถหามันเจอได้ และแน่นอนจึงมีการก่อตั้งค่ายทหารอยู่ที่ภายใต้เทือกเขาที่เหมือนรังผึ้งนี้
สมบัติหมู่ดาวพิณ เป็นครั้งแรกที่จิ่งหาวได้ยินชื่อ  หมู่ดาวพิณเมื่อก่อนนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก  และหมู่ดาวพิณในตอนนั้นมียอดฝีมือในสังกัดอยู่มากมาย เป็นแดนอุดมไปด้วยยอดฝีมือผู้กล้ามากมายราวกับเม็ดฝน  พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่ดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเวลาของเขา  แต่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่าหมู่ดาวที่แข็งแกร่งจริงๆ อย่างนั้น ในระยะเวลาสั้นๆ สี่สิบปีกลับถูกทำลายสลายหายไป
เหตุผลสำหรับการทำลายล้างหมู่ดาวพิณกลายเป็นเรื่องลึกลับตลอดมา จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้  จักรพรรดิแห่งดวงพิณหายสาบสูญไปพร้อมกับการถูกทำลาย  สิ่งที่ล้ำค่าทั้งหมด สมบัติดวงดาวที่สำคัญที่สุดเพียงไม่กี่ชิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมบัติดวงดาวระดับทอง โดยเฉพาะพิณทิพย์ทองสูญหายไป
ดังนั้นจากประวัติศาสตร์มีการตกทอดกันมาว่ามีคลังสมบัติหมู่ดาวพิณ จัดเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่แห่งหมู่ดาวพิณ
 “เจ้าไปทราบเรื่องนี้มาจากไหน?”  จิ่งหาวถาม
 “ตามธรรมดาข้าก็มีวิธีรับทราบข้อมูลอยู่แล้ว” สตรีชุดดำพูดอย่างใจเย็น “ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมข้าต้องใช้ความพยายาม ใช้พลังตั้งมากมายเพื่อมาที่นี่ด้วยเล่า”
 “ก็ได้” จิ่งหาวพยักหน้า  “บอกตำแหน่งสมบัติมา แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
สตรีชุดดำแค่นเสียงเย็นชา “ข้าจะเชื่อใจสิ่งที่เจ้าพูดได้ยังไง?”
จิ่งหาวขมวดคิ้ว  “หรือว่าเจ้ายังมีสิทธิ์ที่จะต่อรอง?”
 “สมบัติแห่งหมู่ดาวพิณอยู่ที่ไหน?  เจ้าจะเข้าไปได้อย่างไร? นอกจากข้าแล้วไม่มีผู้อื่นรู้  ถ้าเจ้าฆ่าข้า  เจ้าก็ไม่มีทางเข้าไปได้”  สตรีชุดดำหัวเราะ “เว้นแต่เราทำข้อตกลงกัน”
จิ่งหาวต้องการพูดบางอย่าง  แต่ทันใดนั้นถังเทียนพูดแทรกสตรีชุดดำ “เฮ้, เจ้าฆ่าเจ้าโล้นใช่ไหม?”
สตรีชุดดำตะลึง นางสั่นศีรษะ “ไม่ใช่”
 “โอว, โชคดีที่เจ้าไม่ได้ทำ  ถ้าเจ้าทำ เจ้าตายแล้ว”  ถังเทียนแค่นเสียงเย็นชา เขาหมุนตัวเตรียมเดินจากไป “พี่จิ่งหาว ข้าจะไปก่อนนะ”
 “เดี๋ยวก่อน! เจ้าไม่ต้องการรู้หรือว่าสมบัติอยู่ที่ไหน? เจ้าไม่ต้องการสมบัติหรือไง?” สตรีชุดดำรีบกล่าว ขณะที่นางเห็นถังเทียนต้องการเดินจากไป
 “ใช่, ข้าต้องการมัน” ถังเทียนหยุดฝีเท้า  แต่เขามองดูสตรีชุดดำ “แต่ข้าไม่ชอบเจ้า  เจ้าเป็นผู้หญิงไร้หัวใจ และข้ารังเกียจจะอยู่ใกล้เจ้า”
สตรีชุดดำใจตกวูบ  นางอุตส่าห์นึกหาข้ออ้างมาทั้งหมดกับถังเทียนเท่าที่สามารถทำได้  แต่นางไม่เคยคาดว่าถังเทียนจะพูดเช่นนั้นกับนาง
โอว.. ที่แท้ก็เป็นเจ้าโง่คนหนึ่ง
ดวงตานางกลอกกลิ้งและพยายามล่อลวงเขา “สมบัติหมู่ดาวพิณประกอบด้วยสมบัติชั้นทองมากกว่าหนึ่งชิ้น  เราสามคนแบ่งกันได้  เจ้าไม่ชอบข้า  แต่เจ้าไม่อาจยกเลิกสมบัติทั้งหมดนี้เพียงเพราะข้า สมบัติเหล่านี้จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น  และจากนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ”
เจ้าเด็กโง่นี่ควรไตร่ตรองเรื่องนี้ดีกว่า
ถังเทียนมองดูสตรีชุดดำด้วยความเห็นใจและกล่าวตามตรง “คนอย่างเจ้าไม่เคยเข้าใจความทะเยอทะยานของหนุ่มน้อยชาวฟ้า  ข้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นด้วยเอง ไม่ใช่ได้รับอะไรอย่างนั้น และเพราะความปรารถนาของข้า ข้าต้องการปกป้องเชียนฮุ่ย ข้าต้องการไปสวรรค์วิถี  ถ้าเจ้ามัวแต่สนใจไล่ตามสมบัติ  อย่างนั้นก็หมายความเจ้าเป็นแค่ตัวขี้เกียจที่ต้องการจะหาแต่ทางลัด  ข้าไม่ใช่คนฉลาดมากพอ  ข้าไม่รู้การใช้วิธีลัด ไม่ว่าจะเป็นสมบัติแข็งแกร่งขนาดไหน จะแทนที่หยาดเหงื่อความเพียรที่ข้าได้ทุ่มเทลงไปได้ยังไง?  ข้าเชื่อว่าหยาดเหงื่อจะสร้างข้าให้แข็งแกร่งได้  ความจริงที่ยิ่งใหญ่  เจ้ารู้ไหมว่าทำไม?”
สตรีชุดดำตะลึง
สีหน้าถังเทียนจริงจัง “เพราะหยาดเหงื่อไม่เคยโกหก”
จิ่งหาวดูเหมือนละอายใจ  เขาคิดถึงแต่ความคาดหวังและความตื่นเต้น  หลังจากได้ฟังคำพูดของถังเทียน เขาจำได้ว่าถังเทียนก้าวหน้าได้อย่างน่าทึ่ง และสิ่งเหล่านั้นมากจากไหนกัน”
เขาสูดหายใจลึกและมองดูถังเทียนและโค้งให้อย่างจริงจัง “คำพูดของน้องถัง ทำให้ข้าตื่นจากภวังค์”
หลังจากพูดจบแล้วเขาหันไปพูดกับสตรีชุดดำ “เจ้าไปได้แล้ว, หลังจากได้ยินคำพูดของน้องถังแล้ว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
สตรีชุดดำมองดูบุรุษทั้งสองอย่างงงงวย ขณะที่พวกเขาเตรียมเดินออกมา  ทันใดนั้นนางคิดว่า “โลกนี้เป็นบ้าอะไรไปแล้ว?” จากมุมมองของนาง สิ่งที่ถังเทียนพูดเป็นเรื่องตลก  ทุกคนในโลกนี้ต่างก็ไล่ล่าหาสมบัติทั้งนั้น  เขาจะพยายามวางก้ามทำไม?
ลวงโลก, ลวงโลกทั้งนั้น  พวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องหันกลับมาแน่นอน...
เอาเลยสิ เดินไปเลย  ทั้งสองคนจะต้องหันกลับมาแน่นอน...
แต่ไม่ว่านางจะไม่เห็นด้วยยังไงก็ตาม  แต่เงาร่างทั้งสองมีแต่จะเดินห่างออกไปเรื่อยๆ
เป็นครั้งแรก ที่สตรีชุดดำที่มักจะใจเย็นและเจ้าปัญญาอยู่เสมอรู้สึกว่าอยากจะแช่งชักหักกระดูก   นางได้พบเจ้าตัวบัดซบจอมโกหกสองคนเข้าให้แล้ว
เจ้าเด็กร้ายกาจพูดจาไร้สาระเป็นกระบุงโกยยังพอทำเนา แค่จากที่เห็นนางสามารถบอกได้ว่าเขายังเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนประสบการณ์นัก
แต่จิ่งหาวกลับโอนอ่อนผ่อนตาม  เป็นไปได้ยังไงที่จิ่งหาวจะไม่รู้อะไร? เป็นไปได้ยังไงที่เขาไม่รู้จักเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ทุกคนที่ยังอายุเยาว์และเป็นยอดฝีมือที่พวกเขาใช้ทรัพยากรนับไม่ถ้วนสร้างขึ้นมา? กระบี่ดาวมงกุฎเหนือของเจ้าเป็นแค่เพียงสากกะเบือหรือไง?
แต่...เจ้าบัดซบสองคนนั่นเดินจากไปจริงๆด้วย....
สตรีชุดดำตกใจ  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว สายเลือดที่ลึกลับแต่แข็งแกร่งก็พลอยเดินจากนางไปด้วย ด้วยปฏิกิริยารวดเร็วเหมือนกับว่านางเพิ่งตื่นจากฝัน  นางรีบวิ่งตามไปตรงตำแหน่งที่สองคนเดินหายไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
 “พี่จิ่งหาว, ทำไมท่านไม่ฆ่านางล่ะ?”  ถังเทียนถามด้วยความสงสัยขณะที่เขาเดิน
 “น้องถัง, เมื่อได้ยินเจ้าพูดวันนี้ พี่ผู้โง่เขลารู้สึกมีไฟขึ้นมาทันที  แต่ก็ไม่มีความตั้งใจจะฆ่าอยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยไว้ชีวิตนาง” จิ่งหาวพูดเคร่งขรึมจริงจัง “ก่อนหน้านี้ วิชากระบี่ของข้ายังมีอาการติดคอขวดอยู่  ข้าไม่สามารถก้าวหน้าได้  จนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้ยินเจ้าพูดเช่นนั้น ในที่สุดข้าก็เข้าใจ  เราไล่ตามพลังเพื่อสร้างให้เรามีพลังแข็งแกร่ง เพื่อให้บรรลุขอบเขตชั้นสูงขึ้นไป  เรามัวแต่ไล่ไขว่คว้าพลังอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ต้องยืมพลังจากแหล่งพลังภายนอกและนั่นคือจุดเปลี่ยนทำให้เราตกต่ำ”
 “ว้า..., พี่จิ่งหาว ท่านนี่โง่จัง” ถังเทียนมองดูจิ่งหาวอย่างรำคาญ “ข้าแค่พูดอย่างนั้นก็เพื่ออำนางเท่านั้น”
สีหน้าที่คลั่งไคล้ของจิ่งหาวเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที
 “ข้าแค่คิดว่านางต้องกล่าวเหลวไหล เรื่องสมบัติกลุ่มดาวพิณนั้น โกหกทั้งเพ”  ถังเทียนยังไม่รู้สึกถึงความอึดอัดของจิ่งหาว ขณะที่เขาพูดออกมาดังๆ “แค่มองหน้าที่หยิ่งยโสของนางแล้ว ทำปั้นเรื่องราวกับว่าเป็นจริง ถ้ามีสมบัติเช่นนั้นจริง เราคงจะพบไปนานแล้ว  เมื่อไหร่จึงจะถึงตานางได้เล่? ฮะฮะ ตอนนี้นางต้องเศร้ามากแน่นอน เมื่อคิดว่านางสามารถหลอกเราได้  แน่นอนว่าอยู่ต่อหน้าหนุ่มน้อยชาวฟ้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรเลย”
หางตาของจิ่งหาวกระตุก  เขากัดฟันกล่าวว่า “เรื่องอะไรบ้างที่เจ้าบอกว่าโกหก?”
 “แน่นอน” ถังเทียนพูดด้วยความภูมิใจ  “ถ้ามีสมบัติจริงๆ ข้าจะต้องเป็นคนแรกที่วิ่งไปหา  ท่านนึกว่าข้าโง่เหรอ? ข้าจะบอกไว้เลยนะ ข้าฉลาดมาก ไม่ว่าจะเป็นสมบัติชั้นทองหรือไม่  ต่อให้ไม่มีประโยชน์อะไรกับข้า มันก็ต้องเป็นของดีพอขายแลกเงินได้ โอกาสอย่างนี้หาได้ไม่ง่ายนักหรอก  ข้าก็ต้องแสดงฝีมือ  แต่พี่จิ่งหาวน่าจะฆ่านางนะ”
จิ่งหาว “....”
 “อว๋า.. นางไล่ตามมาแล้ว”  จู่ๆ ถังเทียนก็ยื่นหน้าเข้าไปหาจิ่งหาวและกระซิบว่า “เชื่อข้าสิ..”
จิ่งหาว “......”
※※※※※※※※※※※

สตรีชุดดำตามมาทัน  นางพยายามคิดหาทาง ขอเพียงเมื่อถังเทียนเริ่มสำรวจหาสมบัติ อย่างนั้นนางจะมีโอกาสเข้าใกล้เขาและรับเอาสายเลือดของถังเทียน
ถ้านางกระทำตรงๆ อาจจะกระตุ้นถังเทียนให้ระวังตัวได้
นางจะทำยังไงดี...
 “นี่, ข้าอยากเข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธด้วย”
สตรีชุดดำโพล่งออกมาจากด้านหลัง
ถังเทียนและจิ่งหาวชะงักเมื่อได้ยินประโยคนี้
เข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธ
สตรีชุดดำพูดจริงจัง “ข้ารู้สึกว่าสมาพันธ์ชาวยุทธดูมีอนาคต  และข้ารู้สึกว่าสมาพันธ์ชาวยุทธ เหมาะกับการพัฒนาฝีมือข้ามากกว่า ดังนั้นข้าตัดสินใจทิ้งหนทางผิดเลือกเส้นทางที่ดีกว่าโดยเข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธ”
จิ่งหาวรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะบ้า  เขาเหมือนถูกคนบ้าสองคนทรมาน สีหน้าเขาเย็นชาและโดยไม่ลังเลเขาส่ายหน้ากล่าว “ไม่มีทาง สมาพันธ์ชาวยุทธไม่มีทางให้คนอย่างเจ้าเข้าร่วม ข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งนาที หนีไปซะ มิฉะนั้นอย่าโทษว่ากระบี่ข้าไร้น้ำใจ”
จิ่งหาวหน้าบึ้ง  ยังให้อภัยกันได้ที่เขาโดนถังเทียนหยอกล้อ  เจ้าก็ยังจะล้อเล่นกับข้ากระนั้นหรือ?
หลังจากพูดจบเขาชี้กระบี่มงกุฎเหนือมาที่สตรีชุดดำ  แสดงให้เห็นสิ่งที่เขาตั้งใจ
สตรีชุดดำสะดุ้ง รังสีฆ่าฟันของจิ่งหาวเป็นของจริง นางรู้ว่าถ้านางยังพัวพันจิ่งหาวต่อไป นางคงไม่รอดชีวิตแน่
นางมองถังเทียนอย่างลึกซึ้งและหมุนตัวจากไปโดยไม่พูดอะไร
ข้าจะต้องรู้ตื้นลึกหนาบางพวกเจ้าทุกคนให้ได้
 “พี่จิ่งหาวไล่นางไปจริงๆ ด้วย...” ถังเทียนลูบคางและบ่นพึมพำ “สงสัยว่าพี่จิ่งหาวคงมีความรู้สึกต่อนางเข้าให้แล้ว”
อกจิ่งหาวแทบระเบิดด้วยความโกรธ เขาหันมายิ้มอย่างมีเลศนัย “มาเถอะ, พ่อหนุ่ม มาซ้อมมือกัน”
ถังเทียนยินดียิ่งนัก เขาตั้งท่ารอโดยไม่รู้สึกกลัว “มาเลย”
แทบจะทันที จิ่งหาวรู้สึกเสียใจที่เชื้อเชิญให้ถังเทียนซ้อมมือ
เพราะถังเทียนทำให้เขาลืมตัวอีกครั้ง  จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มนั่งเดินกำลัง  จากนั้นหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ถังเทียนก็โดดขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นท้าทายอีกฝ่ายให้ซ้อมมืออีกยกหนึ่ง...
มันเป็นวงจรอุบาทว์ที่ชักจะคุ้นเคยเสียแล้ว...
โธ่เว้ย, ทำไมเขาต้องมาคิดจริงจังกับเจ้าเด็กตัวแสบนี่ด้วย....
จิ่งหาวสำนึกผิดในใจ

9 ความคิดเห็น:

fatty กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ
ถังเทียน พ่อหนุ่มชาวฟ้า แม่งกรวนteenจริงๆ อ่านแล้วฮามาก

Unknown กล่าวว่า...

น่าสงสารจิ่งหาว 555

Unknown กล่าวว่า...

55555

Unknown กล่าวว่า...

555.

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

DexterAndDdy กล่าวว่า...

ไม่คิดจะเครียศพไอโล้นกับคนที่ตายก่อนหรือท่าน

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น