วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 102 อวี่หมิงชิว

ตอนที่  102  อวี่หมิงชิว
มีปัญหาอะไร? ก็แค่ใช้ป้ายเกียรติยศติดต่อข้า ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังวุ่น แต่เจ้าไม่ต้องกังวลถึงข้า รีบไปได้แล้ว ไปเสียเถอะ!”

จิ่งหาวรีบไล่ถังเทียนให้ออกไป  หลังจากนั้นเขาพานักสู้คนอื่นหลบออกมา
ถังเทียนยืนอยู่บนถนนในดาวสายรุ้ง มองดูรอบๆ ตัว ทันใดนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างเหลือเชื่อ ในที่สุดเขาก็มาถึงดาวสายรุ้ง เขาจะได้พบเชียนฮุ่ยแล้ว เมื่อนึกถึงคืนนั้นที่เชียนฮุ่ยจากมา  เขายังจดจำด้วยตนเองได้  ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาว เขาสัญญากับเชียนฮุ่ยด้วยเสียงที่ดัง
เราทำได้แล้ว!
ถังเทียนกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็คลายหมัดออก เมื่อไปตามที่อยู่ที่เชียนฮุ่ยให้เขาไว้ เขาเริ่มมองหาที่ตั้งตระกูลซ่างกวน
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือตระกูลซ่างกวนมีชื่อเสียงมากในดาวสายรุ้ง  และเขาสามารถหาตระกูลซ่างกวนพบในเวลารวดเร็ว
แต่...
ทางเข้าชุมนุมไว้ด้วยคนหลายคน  ถังเทียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ มักจะหมายถึงความยุ่งยากเสมอ
ยังมีคนมาหาเรื่องเชียนฮุ่ยอีกหรือนี่?  ถังเทียนแค่นเสียงเย็นชา รังสีฆ่าฟันปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของเขา เขาเร่งฝีเท้าทันที
※※※※※※※※※

ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!
ร่างสองสามร่างลอยออกมา และร่วงลงกับลานบ้าน
"หึ หึ นี่คือวิธีต้อนรับอาคันตุกะของตระกูลซ่างกวนหรือ?" บุรุษหนุ่มชุดขาวสง่างามคนหนึ่งกำลังโบกพัดจีบพัดตนเองและหัวเราะ ตลอดทั้งร่างของเขาไม่มีฝุ่นแม้แต่น้อย
ต่อหน้าเขา ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เป็นศิษย์อายุเยาว์ของตระกูลซ่างกวนสองสามคน
เสียงฝีเท้ากระจัดกระจายรีบเร่งออกไปจากลานบ้าน ในช่วงเวลาสั้น ซ่างกวนเฉียนก็พาคนสองสามคนออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
"ปฏิบัติต่ออาคันตุกะหรือ? ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะมีคุณสมบัติเป็นอาคันตุกะของตระกูลซ่างกวนของเรา!"  ลุงเฉียนโกรธอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงของเขาไม่มีความเกรงใจ
บุรุษชุดขาวโบกพัดจีบ หัวเราะอย่างไม่คำนึงมารยาท "ข้าได้ยินว่าซ่างกวนเชียนฮุ่ยงดงามเกินบรรยาย  ข้าหมิงชิวมาที่นี่เพราะชื่อเลื่องลือของนาง แต่กลับถูกปฏิเสธตั้งแต่หน้าประตู ข้าเสียใจจริงๆ"
"อวี่หมิงชิว!" ดวงตาของลุงเฉียนมีร่องรอยโกรธ แต่หัวใจของเขาตกใจ
อวี่หมิงชิว!
ลุงเฉียนไม่ได้รู้สึกแปลกสำหรับชื่อนั้น อัจฉริยะที่มีชื่อมากที่สุดของตระกูลอวี่หายสาบสูญไปโดยไร้วี่แววถึงสี่ปี!  ตระกูลอวี่เป็นคู่ต่อสู้หลักและเป็นไม้เบื่อไม้เมาของตระกูลซ่างกวน  และซ่างกวนเฉียนรู้จักพวกเขามากกว่าคนทั่วไป  อัจฉริยะตระกูลอวี่ผู้นี้ เมื่อสี่ปีที่แล้ว  เข้าสู่สภาวะคลั่งขณะฝึกฝน และปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดในร่างกายเขาทรุดโทรม
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ
และเมื่อเทียบกับสี่ปีที่แล้ว เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
แต่คุณหนูไม่อยู่แถวนี้
หัวใจลุงเฉียนปวดร้าว  ตระกูลอวี่และตระกูลซ่างกวนเป็นตระกูลคนชั้นสูงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน  และพวกเขามีสภาพเหมือนน้ำกับไฟ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาตระกูลซ่างกวนอ่อนกำลังลง  เป็นการกระทำที่มาจากตระกูลอวี่โดยตรง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูดึงดันต่อต้านกระแสที่บ้าคลั่ง  ตระกูลซ่างกวนก็คงจะ....
ลุงเฉียนรู้ว่าเขามาไม่ถูกเวลาในตอนนี้ จึงบอกว่า "คุณหนูมีเรื่องสำคัญต้องเดินทางไกล  ข้าไม่แน่ใจว่านางจะกลับมาเมื่อใด  ท่านช่างโชคไม่ดีเลย"
"จริงหรือ?"  อวี่หมิงชิวมีใบหน้าที่หล่อเหลา และเบะปากด้วยท่าที่หยอกล้อ "นั่นก็น่าเสียดายนะ  คนใช้ของข้าเห็นคุณหนูเชียนฮุ่ยเมื่อวานนี้จริงๆ วันนี้นางไม่อยู่เสียแล้วหรือ?  ข้า อวี่หมิงชิวไม่ได้แก่ขนาดนั้น อย่ามาทำกับข้าเหมือนเด็กเล็กและเกลี้ยกล่อมข้าเลย ลุงเฉียน"
ซ่างกวนเฉียนรู้ว่าเขาจะมาวันนี้ ตั้งใจจะมาหาเรื่อง แต่เขาไม่พูดอะไร "หุบปากเลย คุณหนูไม่อยู่ที่นี่ ต่อให้นางอยู่ที่นี่ นางจะไม่ลดตัวลงมาพบเจ้า"
อวี่หมิงชิวเลิกคิ้ว ประกายความเยือกเย็นยังคงอยู่ในดวงตาของเขา  แต่เขาแหกปากหัวเราะทันที "ดูเหมือนว่าจะพบคุณหนูเชียนฮุ่ย ข้าจะต้องมาด้วยตนเองไงเล่า"
หลังจากเขาพูดจบ เขาหันหน้ามาทางบ้านตระกูลซ่างกวนและเดินตรงเข้าไปทันที
เงาร่างสองร่างวิ่งตรงออกมาจากด้านหลังซ่างกวนเฉียนและขวางทางอวี่หมิงชิวไว้
ซ่างกวนเว่ย, ซ่างกวนจู้
นอกจากซ่างกวนเชียนฮุ่ยแล้ว ชายหนุ่มสองคนนี้เป็นผู้มีชื่อเสียงจากตระกูลซ่างกวน
พวกเขาสองคนได้รับเลือกจากซ่างกวนเชียนฮุ่ยเอง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดตระกูลซ่างกวนในอนาคต  ซ่างกวนเชียนฮุ่ยได้สอนและแนะนำวิทยายุทธให้พวกเขาเอง  ในหัวใจของพวกเขา  สถานะของเชียนฮุ่ยสำคัญมาก  ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าอวี่หมิงชิวเย้ยหยันคุณหนูเชียนฮุ่ย ทั้งสองคนจึงโกรธ
ซ่างกวนเว่ยประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย สีหน้าของเขาสงบและใจเย็น
ซ่างกวนจู้มีรูปร่างสูงใหญ่ และแข็งแรงมาก
ทั้งสองคนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่คู่กันด้วยท่าทางก้าวร้าว
"เฮอะ, ตระกูลซ่างกวนตกต่ำจริงๆ ถึงกับปล่อยให้เด็กสองคนออกหน้า" อวี่หมิงชิวจงใจถอนหายใจ "จริงๆ เลยนะ ทำให้คนไม่สามารถหยุดถอนหายใจได้เลย  ด้วยสภาพของตระกูลซ่างกวนในปัจจุบันนี้  เป็นไปได้ยังไงที่จะได้เป็นตัวแทนหมู่ดาวเพอร์ซูสของเราในฐานะตระกูลชั้นสูงที่แข็งแกร่งที่สุด?"
ซ่างกวนเว่ยไม่ได้ขยับ และตอบอย่างใจเย็น "เทียบกับตระกูลอวี่ที่ถนัดในเรื่องปักหมอน ตระกูลซ่างกวนของเรายังคงน่าเชื่อถือมาก"
ซ่างกวนจู้ไม่พูดอะไร และยังคงกระตุ้นปราณเที่ยงแท้ของเขา ทั่วตัวเขาปลดปล่อยพลังสีเขียวเข้มข้นจนคลุมไปทั้งตัว
อวี่หมิงชิวหยีตา "อย่างนั้นข้าของดูวิชาหยกเย็นของตระกูลซ่างกวนหน่อยเป็นไร"
เมื่อพูดเช่นนั้น ร่างของเขาก็หายไป
แทบจะขณะเดียวกัน ร่างของซ่างกวนเว่ยก็หายไปด้วย  ซ่างกวนจู้ตาเป็นประกาย และปล่อยหมัดออก!
ภาพหมัดสีเขียวเข้มกระแทกใส่อวี่หมิงชิว
อวี่หมิงชิวแค่นเสียง เขาสะกิดปลายเท้าเบาๆ และร่างของเขาเริ่มเห็นไม่ชัดทันที ร่างท่อนล่างเลือนลางและเพิ่มไล่ขึ้นมาเบื้องบน  แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นก็คือ ภาพหมัดสีเขียวที่กำลังปลิวว่อนเหมือนกระสุนปืนใหญ่เริ่มเปลี่ยนแปลงในอากาศทันที เหมือนกับถูกมือที่ไร้รูปบีบจนเป็นบอลสีเขียวลูกหนึ่ง  หมัดเขียวแปลงเป็นลำแสงเขียว ม้วนเข้าหาอวี่หมิงชิวอย่างรวดเร็ว
อวี่หมิงชิวหัวเราะเยาะ
ร่างของเขาเหมือนลูกตุ้มที่แกว่งไปมา  เขาเตรียมจะพุ่งเฉียดลำแสงสีเขียวไป แต่ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวเปลี่ยนแปลงอีกครั้งทันที  กลายเป็นกรงสีเขียวพยายามกักอวี่หมิงชิวไว้
ดวงตาของอวี่หมิงชิวเปล่งประกายแปลกใจเล็กน้อย เขามองดูร่างของซ่างกวนจู้และคิดว่าซ่างกวนจู้ใช้แนวพลังแกร่งกร้าวในตอนแรก  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าคนรูปร่างใหญ่ขนาดนั้นสามารถใช้วิชาแนวลึกลับได้
น่าสนใจ!
แต่คิดจะใช้วิธีแบบนั้นดักจับเขา นั่นไร้เดียงสาเกินไปแล้ว
พลังปราณเที่ยงแท้ในร่างของอวี่หมิงชิวเพิ่มขึ้น สี่ปีมานี้ เขาทนทุกข์ทรมานเจ็บปวด ก่อนจะได้รับความเคารพนับถือจากคนอื่นๆ  เขาจำเป็นต้องใช้การต่อสู้เพื่อแสดงพลังบอกให้รู้ว่าเขากลับมาแล้ว
เข้าต้องให้คนของหมู่ดาวเพอร์ซูสรู้ว่า อวี่หมิงชิวกลับมาแล้ว
ด้วยสายตาเยือกเย็น อวี่หมิงชิวกางนิ้วทั้งห้าเหมือนกับทำท่าเล่นพิณ นิ้วของเขาไม่ได้เรืองแสง แต่กลับส่งระลอกรังสีที่เหมือนกับฝนที่กำลังตกลงในบ่อ
รังสีเขียวสั่นสะเทือน ถูกกระแทกจากนั้นก็พังทลายลง
อวี่หมิงชิวยืนตระหง่านมองดูปลอดโปร่งสบายใจ เขาตอบโต้ด้วยมือเดียวและมองดูเหมือนยอดฝีมือมาก  หญิงสาวหลายๆ คนรอบตัวตื่นเต้น
ทันใดนั้น อวี่หมิงชิวเห็นร่างที่ร้ายกาจจากหางตา  หัวใจเขาเยือกเย็นทันที
รังสีหยกเขียวชัดและกว้างเหมือนดาบ
ฟันขวางใส่เอวของอวี่หมิงชิว
คมดาบของรังสีเยียบเย็นชอนไชลึกถึงกระดูกของเขา  อวี่หมิงชิวไม่รีรอชักช้าอีกต่อไป เขางอนิ้วทั้งห้าโจมตีใส่เหมือนกับสายฝนกระทบใบตอง
เป๊าะ เป๊าะ เป๊าะ!
เสียงโจมตีดังชัดเจนหนาแน่นเหมือนฝนห่าใหญ่  รังสีดาบหยกเขียวกระแทกลงพื้นกลายเป็นมวลแสงหยกเขียวขนาดใหญ่
เงาร่างซ่างกวนเว่ยมาปรากฏอยู่ด้านของของอวี่หมิงชิว  ร่างของเขาคล่องแคล่วอ่อนหยุ่น ขาซ้ายของเขาที่ยกขึ้นเปล่งแสงเขียวที่น่องของเขา ขณะที่ยิงรังสีหยกเขียวโค้งออกมา
แสงเขียวโค้งคมเหมือนมีดโกน
กระบวนท่าของซ่างกวนเว่ยว่องไวมาก  น่องและฝ่ามือของเขามีแสงหยกเขียวสว่างวาบ สามารถสับ คว้า เตะหรือเจาะในแต่ละท่วงท่าของการใช้แสงรังสีเขียวโค้ง
ดาบหยกโค้ง!
ดาบแสงกวาดใส่เข้ามาเหมือนคลื่นพิโรธตรงเข้าหาอวี่หมิงชิว
ใบหน้าที่อ่อนโยนของอวี่หมิงชิวหายไป  สีหน้าเขากลายเป็นเคร่งเครียดจริงจัง  เขากางแขนกว้างและกางนิ้วทั้งสิบและสะบัดนิ้วต่อเนื่องด้วยเร็วที่มิอาจคำนวณได้
ติง ติง ติง!
เสียงโจมตีดังก้องในหูพวกเขาเหมือนเม็ดฝน
นิ้วของอวี่หมิงชิวแข็งแกร่งเหลือเชื่อ เหมือนกับว่าเขาสะบัดนิ้วในอากาศโดยไม่มีลำดับ  ดาบหยกแสงแต่ละเล่มต้องใช้การโจมตีเจ็ดหรือแปดครั้งในช่วงเวลาสั้น
ดาบหยกแสงถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง หน้าของซ่างกวนเว่ยเยือกเย็น
ดาบหยกแสงตรงเข้ามาเหมือนคลื่น ด้วยความตั้งใจจะสังหารอีกฝ่ายหนึ่ง
ภายในดาบแสง อวี่หมิงชิวยังใช้ความเร็วได้อย่างมั่นคง  เขาเริ่มใช้มันได้อย่างช่ำชองและง่ายดาย   "อะไรกัน? พวกเจ้ามีดีแค่นี้เองเหรอ? พวกเจ้ามีคนที่สู้ได้แค่สองคนเองสินะ"
พลังของซ่างกวนเว่ยหมดลงในระดับที่รวดเร็ว  เขาดูเหมือนตั้งท่าป้องกัน แต่ในความเป็นจริง เขามีโอกาสเคลื่อนไหวแค่ครั้งแรก   คนของตระกูลซ่างกวนทั้งสองคนพ่ายแพ้คนๆ เดียว ซ่างกวนเชียนฮุ่ยคงรับไม่ได้แน่
เดี๋ยวก่อน!
สองต่อหนึ่ง!
แล้วอีกคนอยู่ไหน?
อวี่หมิงชิวคิดถึงบางเรื่องขึ้นมาได้
พอถึงตอนนี้ เงาดำทะมึนปรากฏอยู่เหนือศีรษะของเขาและล้อมเขาไว้ในกรง
และโดยไม่รู้ตัว ปรากฏมีบอลหยกเขียวขนาดพิเศษลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา บอลนี้กว้างเกินกว่าสามเมตร ภายในบอลแสงมีเงาร่างเลือนลางร่างหนึ่ง
ซ่างกวนจู้
บอลแสงเริ่มเปลี่ยน
บอลหยกเขียวที่อยู่เหนือศีรษะเขามีแรงกดดันมาก ที่สำคัญที่สุดคือมันอันตราย
อันตรายที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้เขาร้องกราดเกรี้ยวเหมือนแมวโกรธ  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
บอลแสงหยกเขียวร่วงกระแทกลงมาในระดับความเร็วที่น่าตระหนก ในพริบตาเดียวความเร็วของบอลแสงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ  ซ่างกวนจู้ที่อยู่ในบอลแสงประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันมองดูเคร่งขรึมจริงจัง
บดกระแทก
ปัง
รังสีเขียวหนาและแข็งแกร่งพุ่งลงมาจากฟ้าและกระแทกเข้ากับมีดแสง
ปัง ปัง ปัง!
ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ มีเศษหินปลิวว่อนและร่วงกราวลงกับพื้นเหมือนฝนตกลงมากองรวมกัน คนที่ชมอยู่ในตอนนั้นไม่มีเวลาตอบสนอง เหมือนกับว่าพวกเขาถูกผลักจนถอยหลัง  ทุกคนถูกแรงกดจนถอยหลังไปสองสามก้าว
คนที่มองจากด้านข้างและยังทรงตัวอยู่ได้ ทุกคนตกใจกันหมด
น่ากลัวมาก!
พลังโจมตีที่น่ากลัว ไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิตได้
ทางเข้าของตระกูลซ่างกวนอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด  อยู่ตรงข้ามกับถนนซึ่งกว้างกว่าสามสิบเมตร สร้างจากแผ่นศิลาเขียวทนทาน  แต่ฝุ่นฟุ้งกระจายปกคลุมถนนทั้งหมด
ซ่างกวนจู้กระอักเลือดเต็มปาก วิชาสังหารนี้ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังมหาศาล  ซ่างกวนเว่ยหอบหายใจหนักอยู่ด้านข้าง  เขาก็ร่วมใช้พลังที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วย
ในที่สุด ก็สำเร็จจนได้.....
ทั้งสองมองหน้ากันเองผ่อนลมหายใจ ขณะที่พวกเขาผ่อนคลาย และลุงเฉียนกำลังมองมาอย่างโล่งใจ
มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอย่างคาดไม่ถึง
"พวกเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจได้บ้าง"
ร่างของซ่างกวนจู้และซ่างกวนเว่ยแข็งค้างทันที สีหน้าของลุงเฉียนเปลี่ยนไปมาก
ร่างที่เลือนลางค่อยๆ ปรากฏออกมาจากท่ามกลางฝุ่น  ทันใดนั้นเขาโบกฝ่ามือ ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายก็ถูกเป่าหายไป
อวี่หมิงชิวยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง สีหน้าเขาเย็นชา เปล่งรังสีฆ่าฟัน หน้าของเขามีรอยแผลเล็กๆ สายหนึ่งซึ่งมีเลือดไหลเล็กน้อย
แต่ภายใต้สายตาของทุกคน สิ่งที่อยู่บนร่างกายของอวี่หมิงชิวกลับดึงดูดสายตาของทุกคน
"นั่นคือ.. นั่นคือ เกราะ..ชุดหนึ่ง"
 

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีนะที่เป็นเกราะ เพราะหนุ่มเทพของเรามีชุดนกยูงแล้ว ไม่งั้นได้กลายเป็นสินสงคามแน่

Unknown กล่าวว่า...

ขอยคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

DexterAndDdy กล่าวว่า...

เจ้าตัวบอกขอแค่มีค่าขายได้ราคามีแล้วก็เอาครับ ห้าๆๆ

แสดงความคิดเห็น