วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 470 แผลงฤทธิ์



ตอนที่  470  แผลงฤทธิ์
“เจ้าตั้งใจจะโจมตีจริงๆ หรือ? ไตตันน้อย  เราร่วมมือกันได้  เราสามารถส่งตระกูลชาวทะเลระดับสูงไปช่วยเจ้าเผชิญหน้ากับกองทัพนรกดำได้  ทำไมหลายอย่างต้องกลายเป็นแบบนี้ในเมื่อเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกันได้? ต่อให้เจ้าเข้าไปที่หุบเขาแก้วผลึกได้ เจ้าก็อาจไม่ได้อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีก็ได้  แม้ว่าเจ้าจะมีฝีมือโดดเด่น  แต่เจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับฝ่าบาทจักรพรรดิสมุทร  ฝ่าบาทฝึกฝนมาเป็นเวลาพันปีแล้ว  ส่วนตัวเจ้าล่ะ เจ้าเริ่มเมื่อไหร่?”  ราชาฉลามพยายามเป็นครั้งสุดท้าย

 “แม้ว่าสิ่งที่ท่านพูดมาจะดูมีเหตุผล  แต่ข้าคงต้องลองดู”  เย่ว์หยางไม่ยอมตัดใจจากอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี
เขาจะพึ่งพาตนเองมากกว่าจะยอมขอร้องคนอื่น
ถ้าจักรพรรดิสมุทรได้รับอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี และบรรลุเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดในระดับสูงขึ้นไปอีก  เขาจะยอมส่งยอดฝีมือเผ่าพันธุ์ทะเลไปช่วยต้านกองกำลังนรกดำแน่หรือ?  เป็นไปไม่ได้  เขามีแต่จะร่วมมือกับราชาเฮยอวี้และทำลายต้าเซี่ยและเทียนหลัวแห่งทวีปมังกรทะยานก่อนที่จะหันไปต่อกรกับจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี!
สำหรับเย่ว์หยาง อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีเป็นสมบัติที่เขาต้องได้รับ
เขาไม่มีทางปล่อยให้จักรพรรดิสมุทรได้มันไป
สิ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่าก็คือ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะฆ่าจักรพรรดิสมุทร เมื่ออันซีเตรียมเสี่ยงชีวิตอยู่ในเส้นทางเข้าต่อกรกับจักรพรรดิสมุทร  เย่ว์หยางคงจะเป็นคนโง่ถ้าเขาไม่ฉวยโอกาสนี้รับเอาอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี  ในฐานะที่เป็นมนุษย์จากโลกอื่น  คนอย่างจักรพรรดิสมุทรก็เป็นเหมือนชีวิตหนึ่งในเกมคอมพิวเตอร์  แล้วจะยอมให้พวกเขาได้สมบัติไปได้อย่างไร?  แม้ว่าในเกมผจญภัย ผู้คนจะไม่ได้เล่นแบบนี้  ยิ่งกว่านั้นเขาต้องพยายามอยู่รอดในโลกอื่นให้ได้
 “ไป, ฆ่ามันซะ”  องค์ชายไห่หลงเกลียดเย่ว์หยางเข้ากระดูก
ขุนพลทะเลกลุ่มใหญ่และยอดฝีมือของจักรพรรดิสมุทรต่างเฮโลเข้ามาล้อมเย่ว์หยางไว้
ราชาฉลามต่างก็มองหน้ากับอีกสามราชันย์  เนื่องจากหลายอย่างไม่สามารถกอบกู้ได้อีกต่อไป  พวกเขาได้แต่ทำตามราชโองการของจักรพรรดิสมุทร คอยป้องกันน้ำวนใหญ่ทั้งห้าและฆ่าคนที่พยายามจะผ่านเข้าไป  ไม่ว่าจื้อจุนจะโกรธพวกเขาที่ฆ่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์และมาหาตัวผู้กระทำผิดก็ตาม พวกเขาไม่อาจกังวลสนใจเรื่องนั้นได้อีกต่อไปแล้ว
ราชาปลาหมึก, ราชาแมงกะพรุนและราชากระเบนของสี่ราชันย์จับตาการล้อมของพวกเขาอย่างระมัดระวัง
เป็นเพราะพวกเขารู้ว่า เว้นแต่เขามั่นใจมาก มิฉะนั้นคุณชายสามตระกูลเย่ว์คงไม่มาหาที่ตายเป็นแน่
ฝ่ายตรงข้ามต้องมีผู้ช่วย!
แปดแม่ทัพใหญ่ทะเลเริ่มเพิ่มระดับพลังของพวกเขา
พวกเขาจะเป็นกำลังหลักของการต่อสู้ครั้งนี้  พวกเขาใช้กลยุทธคลื่นมนุษย์โอบล้อมเพื่อฆ่ามนุษย์หนุ่มผู้นี้ที่เข้ามาหาเรื่องลำบากใส่ตนเอง  พวกเขาต่างจากสี่ราชันย์ที่แต่ละคนที่มีอาณาเขตทะเลปกครองเป็นของตนเองและสามารถรับทราบข่าวสารเหตุการณ์ได้ทั้งหมด  ขุนพลทะเลมักจะมาพร้อมกับจักรพรรดิสมุทรและอยู่ในหอทงเทียนชั้นสูงๆ มาเป็นเวลานาน แน่นอน ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของคุณชายสามตระกูลเย่ว์กล่าวได้ว่ามีน้อยนิด  ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะความกังวลของราชาฉลาม  พวกเขาคงฆ่าเด็กหนุ่มผู้เลินเล่อนี้ไปนานแล้ว
พอเห็นขุนพลทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนค่อยๆ ตีวงล้อมเขา  เย่ว์หยางถามองค์ชายไห่หลงอย่างใจเย็นว่า “นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่เรียกว่า ใช้พวกมากรังแก?”
องค์ชายไห่หลงคำราม “แล้วจะเป็นยังไงถ้าเรารังแกเจ้า?  นี่คือทะเล เป็นพื้นที่ของชาวเผ่าพันธุ์ทะเล”
เย่ว์หยางยกมือตนเอง
เขายกมือเขายอมแพ้ “ก็ได้ๆ ข้าต้องยอมรับว่าตกตะลึงในความเขลาของเจ้า”
ขณะที่เย่ว์หยางยกมือ เผ่ามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์จำนวนมากก็ลอยตัวขึ้นมาจากเหวทะเลลึก
พวกเขาปรากฏตัวเคียงข้างเย่ว์หยาง
ในท่ามกลางมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกพูดด้วยเสียงต่ำและสงบว่า “องค์ชาย ถ้าข้าจำได้ไม่ผิด  สถานที่นี่ไม่ใช่ที่จักรพรรดิสมุทรได้พิชิตไว้ ที่นี่ยังคงเป็นดินแดนของพวกเรา  มิใช่ว่าพวกเจ้าทุกคนไม่สามารถต่อสู้ชิงสมบัติในที่นี่ได้เท่านั้น แต่น่าจะถามพวกเราก่อนดีกว่า  ก็เช่นเดียวกับบุรุษหนุ่มข้างๆ ตัวข้าผู้นี้ เขายังสุภาพมากกว่า  เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้มาแจ้งข่าวให้เราทราบ  น่าเสียดายที่พวกเจ้าทุกคนไม่ทำ  องค์ชาย ข้าขอบอกว่าเราผิดหวังอยู่บ้าง”
 “ใช้คนมากเอาชัย... ข้า ตาแก่จางจะไม่ทนดูนั่งเฉยเป็นแน่”  เสียงดังสั่นๆ ดังขึ้นตามมา
 “.....” มนุษย์ปลาดาบไม่ได้พูดอะไร  แต่นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความตั้งใจสู้
 “เราก็แค่ทำให้ชัดเจนว่าเรามาที่นี่เพื่อช่วยคุณชายสามตระกูลเย่ว์  ทำไมน่ะหรือ? เราตัดสินใจร่วมมือกัน  ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนก็คงได้แต่เสียใจที่พวกเจ้าไม่มาหาความร่วมมือกับเราไว้ก่อน  อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเจ้าทุกคนต้องการร่วมมือกับเรา  เราอาจไม่เห็นด้วยก็ได้ เราจะไม่ร่วมมือกับพวกโง่ๆ อย่างพวกเจ้า พวกโง่ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้น  องค์ชายไห่หลง ข้าเกลียดเจ้า เจ้าบังอาจถ่มน้ำลายใส่เรือของข้าได้ยังไง เลวมาก  บิดาเจ้าไม่ได้สั่งไม่ได้สอนอะไรบ้างหรือ?  ข้าใช้เวลาตั้งมากมายและสิ้นเปลืองพลังงานทำความสะอาดหลังจากดึงมันขึ้นมาจากก้นทะเลเจ้ายังกล้าถ่มน้ำลายเรือข้าหรือ? เจ้ามันน่ารังเกียจอย่างแท้จริง  ไปตายซะไป  เจ้าแมลงไร้การศึกษา  จี๋ฟง, เจ้าต้องช่วยข้าทุบตีเขา จนกว่าเขาจะพิการ ข้าต้องการจับหัวที่น่าเกลียดของเขาและให้เขาใช้ลิ้นเลียน้ำลายที่เขาถ่มจากปากเพื่อทำความสะอาด จากนั้นให้เลียทำความสะอาดเรือของข้าทั้งลำ... ให้ตายเถอะ กล้าดียังไงวะ บังอาจจู่โจมใส่ก่อนข้าจะพูดจบ ข้าเกลียดเจ้าพวกสวะที่ไม่มีมารยาทนัก”  ปากของมนุษย์ปลาตีนยั่วโมโหได้มากอย่างไม่ต้องสงสัย  แม้แต่เย่ว์หยางเองก็ยังเคยต้องการจะฉีกปากเจ้าผู้นี้ แต่เมื่อเขาคิดดูอีกที  นี่คงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมนุษย์ปลาตีน  เขาจึงเริ่มปล่อยวางไม่สนใจ
 “ฆ่า, ตัดหัวปลาของมันมาทำต้มยำปลาตีนให้ข้า”  องค์ชายไห่หลงถูกมนุษย์ปลาตีนยั่วจนโกรธถึงขนาดสั่นด้วยความโกรธไปทั้งตัว
ราชาฉลามเห็นว่าหลายๆ อย่างไม่เป็นไปดังใจ
แม้ว่าทางด้านเขาจะมีคนมาก  แต่ฝ่ายตรงข้ามมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดมากกว่าสามสิบคน
ยิ่งกว่านั้น แม้แต่มนุษย์ปลาตีนผู้อ่อนแอที่สุดก็ยังเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า
แม้ว่ามนุษย์ปลากลายพันธุ์เหล่านี้จะติดอยู่ที่นี่มานานนับพันปีแล้วก็ตาม  แต่ความสามารถของพวกเขาไม่อาจดูแคลนได้เลย  แม้แต่จักรพรรดิสมุทรเองก็ไม่ต้องการมีเรื่องกับพวกเขา  แต่ตอนนี้หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกที่เคยทำข้อตกลงกับจักรพรรดิสมุทรจะไม่ยุ่งกับเรื่องทั้งหมด  ตอนนี้พวกเขากำลังกลับคำ ต้องมีบางอย่างเกี่ยวกับคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นแน่  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ต้องใช้เงื่อนไขบางอย่างหลอกล่อชักชวนพวกมนุษย์ปลากลายพันธุ์โดยทำข้อตกลงลับๆ กับพวกเขา
เขารีบคำนับให้บุรุษที่ซ่อนตัวอยู่ในชุดคลุม “ท่านไท่หู, โปรดลงมือเดี๋ยวนี้ด้วยเถอะ  มีแต่เพียงท่านเท่านั้นที่สามารถโค่นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้”
ผ้าคลุมหัวค่อยๆ เลื่อนลง
เผยให้เห็นชายชราเผ่าพันธุ์มนุษย์จิ้งจอกผมสีเงิน  เขาดูมีเมตตาและรอยยิ้มที่สามารถคลี่คลายความเกลียดชังประดับอยู่ริมฝีปากของชายชราผู้นี้
นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายเหมือนอัญมณีใสชัดและสงบเย็นอย่างคาดไม่ถึง
เขาสวมชุดไหมสีแดงเพลิงรัดรูปและถือไม้เท้าเงินอยู่ในมือ  เขามองดูเหมือนผู้อาวุโสทรงคุณธรรมทรงภูมิปัญญาความรู้  แน่นอน ถ้ามีคนพยายามระบุสถานะของเขา  พวกเขาก็จะรู้ว่าดูเหมือนชายชราผู้นี้ก็คือ จิ้งจอกปีศาจตาผีที่เชี่ยวชาญในการข่มขืนและฆ่าหญิงสาวเมื่อห้าร้อยปีที่แล้ว  ชื่อของเขาอื้อฉาวที่สุดในบรรดานักฆ่าทั้งหมด
สุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า ในสายตาของจักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยาง ความสามารถของไท่หูผู้นี้สูงกว่าซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำเล็กน้อย
ความแตกต่างระหว่างทั้งสามคนนี้ก็คือ นอกจากพลังห้าเปลี่ยนแปลงของซุ่นเทียนแล้ว ซุ่นเทียนปกปิดความสามารถของเขาไว้ และไม่เคยแสดงให้ผู้ใดเห็น
องค์ชายเงาดำก็ซ่อนความสามารถของเขาไว้เช่นกัน
ความแตกต่างก็คือ ไท่หูผู้นี้ไม่มีการปกปิด  ศักยภาพของเขาได้ถึงขีดจำกัดแล้ว 
ระดับสูงสุดที่เขาบรรลุได้ก็คือ ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า
ครั้งหนึ่งอันซีก็ไล่ล่าตามตัวไท่หูมาเป็นพันลี้ แต่ในพริบตาใกล้ตาย ไท่หูสามารถหลบหนีไปได้  อันซีคิดว่าไท่หูผู้นี้ตายไปแล้ว  เขาไม่เคยคิดว่าจักรพรรดิสมุทรไม่เพียงไว้ชีวิตของไท่หูเท่านั้น  แต่เขายังช่วยเขาไว้ด้วย  บางทีอาจเป็นเพราะเขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุปราณก่อกำเนิดระดับสิบ  ไท่หูเลือกที่จะร่วมมือกับจักรพรรดิสมุทรในฐานะสัตว์เลี้ยงของเขา
 “บุรุษหนุ่ม, อย่าโอหังลำพองเกินไปนัก เมื่อข้าสร้างชื่ออยู่นั้น ปู่ของปู่เจ้ายังเป็นทารกอยู่ด้วยซ้ำ”  ไท่หูยิ้มหยาบโลน
 “ท่านพูดถูก  แต่เมื่อข้าสร้างชื่อ  ท่านก็คงเน่าอยู่ในโลงศพไปแล้ว”  เย่ว์หยางชูนิ้วกลางให้ไท่หู และจากนั้นปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งทันที  เพียงเท่านี้ก็เหมือนกับเกิดพายุสลาตันและคลื่นอัดกระแทกไปทั่วพื้นผิวทะเล
คลื่นอัดกระแทกใหญ่พุ่งขึ้นไปถึงท้องฟ้า
แม้จะเป็นเพียงปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง  แต่พลังของเขากลับแข็งแกร่งกว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก
กองทหารของจักรพรรดิสมุทรและขุนพลทะเลถูกแรงลมกระแทกจนยืนไม่อยู่ นี่เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวพลังของเย่ว์หยาง  ถ้าเย่ว์หยางเคลื่อนไหวจริงๆ  ไม่มีใครจะอยู่ต่อหน้าเขาได้  ไม่ว่าใครก็ตามจะถูกสังหารในทันที  พอเห็นเช่นนั้น สีหน้าของราชาฉลามซีดลงเล็กน้อย เขาโบกมือให้คนของเขาล้อมเย่ว์หยางใกล้เข้าไปอีก  สามราชันย์และแปดแม่ทัพทะเลรีบเพิ่มพลังกักล้อมเขาไว้
ตามมาด้วยการเพิ่มพลังจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกหลายคน  ทั่วทั้งท้องทะเลปั่นป่วน ระลอกคลื่นสูงเป็นพันเมตร
ไท่หู่ค่อยๆ ดึงอัญมณีออกมา
เมื่อเขาโยนมันเข้าไปในแอ่งน้ำวน ก็ปรากฏแสงสว่างและคลื่นที่ปั่นป่วนทั้งหมดก็สงบลงอย่างแปลกประหลาด  ผิวทะเลกลับคืนเป็นทะเลตายเหมือนเดิม  ไม่ว่าจะเป็นระลอกคลื่นอัดกระแทกที่เกิดจากพลังปราณก่อกำเนิด ก็ไม่มีผลแม้แต่ระลอกคลื่นเล็กๆ
มุกทะลสงบ
เย่ว์หยางเข้าใจเดี๋ยวนี้แล้ว  ทำไมจักรพรรดิสมุทรถึงไม่กลัวพวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์  เป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของมุกทะเลสงบนี่เอง
อานุภาพของมันเหมือนกับจะเปลี่ยนพื้นผิวทะเลให้เป็นเหมือนพื้นผิวดิน  สำหรับเผ่าพันธุ์ทะเลก็หมายความว่าขาดพลังสนับสนุนไปบ้าง  ส่วนมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ นั่นคือจุดอ่อนยิ่งใหญ่อย่างมิต้องสงสัย
หลังจากควักมุกทะเลสงบออกมาแล้ว  ไท่หูรีบปลดปล่อยปราณก่อกำเนิดระดับแปดทันที
ทั่วร่างของเขาล้อมรอบไปด้วยเพลิงคล้ายกับเพลิงมังกรที่น่ากลัว  ขณะที่ไม้เท้าเงินในมือของเขาผสานกับงูไฟฟ้าที่เขาเรียกออกมา กลายเป็นไม้เท้างูสายฟ้า  ปรับเพิ่มระดับจากสมบัติชั้นทองกลายเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์  ตาของเขาฝ้าขุ่นมัวเหมือนกับเป็นตาผี ใครก็ตามที่เผลอดูจะมึนงงและสูญเสียความรู้สึก  นี่ คือสนามพลังหลักของตาภูตผีของไท่หู  ทันทีที่ใครก็ตามเข้ามาในสนามพลังของเขา  พวกเขาจะสูญเสียการควบคุมร่างกายตนเองและตกอยู่ภายใต้การควบคุมของไท่หู
นอกจากนี้ไท่หูยังเรียกจิ้งจอกปีศาจเก้าหัว อสูรแพลตตินัมระดับสิบ
แม้ว่าจะไม่ใช่อสูรพิทักษ์ก็ตาม  แต่ก็ไม่ใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์  มันมีความเร็วจัดและสามารถบินอยู่ในท้องฟ้าได้  ไม่มีอสูรตัวใดเทียบกับมันได้
จากนั้นไท่หูเรียกจ้าวปีศาจลาวาอสูรแพลตตินัมระดับสิบห้าตัว  ทั้งหมดนี้เป็นอสูรที่สามารถต้านทานมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์  เมื่อมุกทะเลสงบถูกใช้  ผิวทะเลก็เป็นเหมือนดั่งกระจก จ้าวปีศาจลาวาตัวที่เตี้ยที่สุดราวๆ หกสิบเมตรก้าวลงไปบนผิวกระจกบนพื้นทะเลและตรงเข้าหามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์เพื่อสังหารพวกเขา...
สำหรับเย่ว์หยาง ไท่หูเชื่อว่าเขาสามารถคว้าชัยชนะได้ด้วยไม้เท้างูสายฟ้าในมือของเขา
ไม้เท้างูสายฟ้าในตอนนี้มีพลังเทียบเท่าสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์  ต่อให้เป็นการใช้งานชั่วคราว แต่ก็มีพลานุภาพเต็มเปี่ยม
 “ตอนนี้เล่นอวดสัตว์อสูรเหรอ?  น่าสนใจดีนี่” เย่ว์หยางหัวเราะลั่นและตะโกนลั่นว่า  “เจ้าหมาติงต๊อง!  ออกมาเดี๋ยวนี้ บอกเจ้านี่หน่อยว่าอสูรที่แท้จริงเป็นยังไง”
ฮุยไท่หลางมักจะเบื่อหน่ายอยู่ในปราสาทตระกูลเย่ว์  มันไม่ได้ต่อสู้เคียงข้างเจ้านายมันมาเป็นเวลานาน  ตอนนี้ มันเบื่ออย่างมาก
เย่ว์หยางกลับไปนำมันมาฝึกฝนที่นี่โดยเฉพาะ
โอกาสทองอย่างนี้  มันจะไม่แสดงฝีมือต่อหน้าเจ้านายอย่างเต็มที่ได้ยังไง?
มันกระดิกหางทันทีเพื่อประจบเจ้านายมัน  จากนั้นยื่นอุ้งเท้าออกมา และคัมภีร์อัญเชิญชั้นทองแดงระดับสูงปรากฏอยู่ต่อหน้ามัน  แม้ว่าคัมภีร์อัญเชิญนี้ยังไม่ยกระดับได้ถึงชั้นเงิน  แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นคัมภีร์ชั้นทองแดงระดับสูง  หลังจากศึกนี้  คัมภีร์อัญเชิญนี้เป็นไปได้ว่าจะยกระดับเป็นคัมภีร์ชั้นเงิน
เมื่อคัมภีร์อัญเชิญของฮุยไท่หลางปรากฏ  ฝ่ายตรงข้ามนับไม่ถ้วนก็แสดงความอิจฉาออกมา
อสูรในตำนานหรือนี่?
ซวยแล้ว, แค่สุนัขเลี้ยงเฝ้าบ้านของเขาก็เป็นอสูรในตำนานแล้วหรือนี่?
 

17 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

555 แค่หมาเฝ่าบ้านก็หนาวกันเป็นแถบๆ 555

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

ฮุ่ยไท่หลางมาแล้ว

DexterAndDdy กล่าวว่า...

5555
ในเรื่องนี้ตัวไรก็กวนตีนไปหมดเว้ย
55555

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

นี่แค่หมานะ เจอสาวๆละฉี่ราดแน่

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Jenokira กล่าวว่า...

รอวันเว้นวันค้างสิรออะไร

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

และแล้วพระเอกตัวจริงก็ออกโรง

Nopanser Kung กล่าวว่า...

บทหายไปนานเลยนะฮุยไท่หลาง ได้ออกมาบู๊บ้างซักที!!

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พอคนผง่ะ อิหาติงต้องนี่ต้องแอ๊คโชว์ชัวร์ 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น