วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 471 เย่ว์หยางออกศึก



ตอนที่  471  เย่ว์หยางออกศึก
การแสดงออกที่ทรงพลังน่ากลัวของฮุยไท่หลางสร้างความอิจฉาริษยาให้กับฝ่ายตรงข้าม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ชายไห่หลง เขาเพ่งมองจนนัยน์ตาแทบฉีกขาด  แม้ว่าฮุยไท่หลางจะยังไม่ได้ทำสัญญาก็ตาม  แต่องค์ชายรู้ดีว่าไม่มีหวัง  ทั้งนี้เพราะอสูรที่เหนือกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วมีปณิธานที่แข็งแกร่งแรงกล้าและเลือกเจ้านายของมันเอง
ถ้าอสูรศักดิ์สิทธิ์และอสูรในตำนานไม่ต้องการเป็นของท่าน  ไม่ว่าท่านจะต้องการพวกมันมากเพียงไหนก็ตาม พวกท่านมีแต่เปลืองความพยายามเปล่าๆ
ตอนนี้ องค์ชายไห่หลงต้องการฆ่าฮุยไท่หลางก่อนที่มันจะเติบโตกล้าแข็ง  ฮุยไท่หลางเป็นเจ้าของคัมภีร์อัญเชิญชั้นทองแดงระดับสูงและอยู่ในระยะแรกเริ่มของการเป็นอสูรในตำนาน  ตอนนี้เป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะฆ่ามัน  ถ้าเขาต้องรอให้ฮุยไท่หลางเติบโตกล้าแข็งกลายเป็นอสูรในตำนานระดับสูง  อย่าว่าแต่องค์ชายไห่หลงเลย  แม้แต่จักรพรรดิสมุทรก็ไม่สามารถโค่นล้มมันได้
 “อะฮู้วววว!  ฮุยไท่หลางหอนเรียกอสูรพิทักษ์ของมันแล้วใช้ทักษะแฝงเร้นของมันเรียกฮุยไท่หลางร่างที่สองออกมาแล้วกระโจนขึ้นไปในอากาศ
พวกมันดูเหมือนกันมาก
ทั้งสองตัวเปล่งประกายเหมือนกัน  ดวงตาของพวกมันเป็นประกายมีรังสีฆ่าฟันเหมือนกัน
แม้แต่การกระพือปีกบนหลังของพวกมันก็มีความถี่เท่ากัน
ไท่หูคิดว่าฮุยไท่หลางนี้จะโจมตีใส่จิ้งจอกปีศาจเก้าหัวของเขา  ว่าถึงเรื่องความเร็วของจิ้งจอกปีศาจเก้าหัว ไม่ว่าอสูรในตำนานจะแข็งแกร่งมากเพียงไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ทันที  ตราบใดที่สามารถลากถ่วงเวลาได้อีกครึ่งชั่วโมง  อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีจะถือกำเนิด และหลายๆ อย่างจะประสบความสำเร็จ ทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าฮุยไท่หลางที่อยู่ในท้องฟ้าไม่ได้ตั้งใจจะจู่โจมใส่จิ้งจอกปีศาจเก้าหัวแม้แต่น้อย  แต่มันตั้งใจพุ่งเข้าหาทหารของจักรพรรดิสมุทรและขุนพลทะเล
ในทันใดนั้นเอง มันเหมือนกับพยัคฆ์ที่กระโจนเข้าไปในฝูงแกะ
เลือดสาดกระเซ็นเต็มท้องฟ้า  กองทัพของจักรพรรดิสมุทรและขุนพลทะเลที่ล้อมเย่ว์หยางร้องโหยหวนเต็มอากาศ
เย่ว์หยางฉวยโอกาสปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับสอง และก่อนที่ไท่หูจะใช้ไม้เท้างูสายฟ้าโจมตี  เย่ว์หยางก็ปลดปล่อยปราณก่อกำเนิดระดับสามแล้ว  ยักษ์ตัวหนึ่งที่มีลักษณะน่าหวาดหวั่นสะพรึงกลัวปรากฏอยู่ในอากาศ  มันมีขนาดเกือบร้อยเมตรลอยสูงออกมาจากศีรษะเย่ว์หยาง  ยักษ์ตัวนี้เกิดจากพลังงานที่เขาจงใจปลดปล่อยออกมา  ไม่มีคลื่นอัดกระแทกรอบๆ ตัวเขาแม้แต่น้อย  พลังงานทั้งหมดถูกอัดแน่นเพื่อสร้างเป็นรูปยักษ์  จากนั้นยักษ์ก็กดพลังลงโดยไม่ใช้ความสามารถอะไรเลย... ทั่วทั้งผิวทะเลสั่นไหว  อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องแปลกที่ผิวทะเลเป็นเหมือนกระจก ไม่มีการแตก ไม่มีน้ำกระเซ็น
มุกทะเลสงบยังคงมีผลต่อทั่วพื้นผิวทะเลที่เหมือนกระจก
พลังโจมตีของยักษ์พลังงานสร้างรอยยุบในผิวทะเล  อย่างไรก็ตาม ผิวทะเลก็เด้งกลับมาเหมือนวุ้นและกระเพื่อมต่อเนื่อง
จ้าวปีศาจลาวาเหล่านั้นที่มีลาวาปกคลุมทั้งตัวเสียหลักยืนไม่มั่น และล้มอยู่เหนือผิวทะเลทีละตัวๆ
 “ทำลาย!
เย่ว์หยางถือดาบจันทร์เสี้ยวในมือซ้ายและดาบฮุยจินในมือขวา และใช้ออกด้วยท่าดาบผ่าปฐพี
เกิดรอยแผลฉีกยาวตลอดพื้นผิวทะเล
หนึ่งในจ้าวปีศาจลาวาล้มอยู่ตรงขอบรอยอย่างโชคร้าย ได้ลื่นตกลงไปในทะเล
เมื่อร่างลาวาของมันสัมผัสน้ำ น้ำก็ระเหยกลายเป็นไอทันที  ไอน้ำสีขาวดูเหมือนฉากลาวาของภูเขาไฟไหลลงทะเล...  จ้าวปีศาจลาวากำลังเจ็บปวดแสนสาหัส  น้ำคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน  แม้ว่าไม่มีผู้ใดโจมตีมัน  แต่แค่ตกลงไปในทะเลก็ทำให้มันจมน้ำตายได้  ยิ่งกว่านั้น มันอาจจะเย็นตัวลงกลายเป็นรูปปั้นหิน  ผลที่ตามมาคงเลวร้ายสุดคาดคิด  ถ้าไม่ใช่เพราะมุกทะเลสงบ  มันไม่มีทางเดินอยู่บนผิวทะเลได้ ตอนนี้ที่มันร่วงลงไปในรอยแยก ได้ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด  เสียงร้องเหล่านั้นสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
มันพยายามอย่างหนักที่จะปีนออกมา
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะปีนออกมาได้ มันจะต้องขออนุญาตจากคนๆ หนึ่งเสียก่อน  คนผู้นั้นก็คือเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางง้างขาและเตะมันร่วงตกลงไป
หลังจากร่วงลงไปในเหวทะเลลึกไร้ก้น มีแต่ความตายเท่านั้นที่รอมันอยู่
ไม้เท้างูสายฟ้าของไท่หูรวบรวมประกายไฟและสายฟ้าในท้องฟ้าโจมตีใส่เย่ว์หยาง  อย่างไรก็ตาม  เย่ว์หยางแหวกว่ายร่ายรำเหมือนกับปลาที่สวยงาม  สามรูปแบบท่าลึกลับถูกใช้ออกอย่างสง่างาม  ในความเข้าใจระดับใหม่ของเขา  เย่ว์หยางควบคุมพลังลึกลับได้มากขึ้นและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
การโจมตีจากไม้เท้างูสายฟ้าแต่ละครั้งพลาดเป้าอย่างเย่ว์หยางไปอย่างเฉียดฉิว  ไม่มีการโจมตีไหนที่ทำได้ถูกเป้าหมายเลย
ไท่หูยิ่งโกรธหนักเมื่อสถานการณ์ออกมาเป็นเช่นนั้น
ไม่ใช่เพียงแต่เขาโจมตีเร็วขึ้นเท่านั้น  เขายังใช้พลังของสนามพลังกดดันเย่ว์หยาง  เขาพยายามสร้างผลกระทบต่อจิตใจเย่ว์หยางเพื่อที่ว่า เย่ว์หยางจะได้ไม่เคลื่อนไหวร่างกายได้ง่าย
ตาภูตผีของเขาพยายามสบตาของเย่ว์หยางให้ได้อย่างต่อเนื่อง
 (Last: Two Dragons Vying for Pearls, two dragons = two fingers, pearls = eyes)
“เจ้าหยุด ข้าแหย่, เจ้ามาข้าหนี?”  เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นจะถูกโจมตี เพื่อที่ว่าไท่หูจะได้เข้ามาใกล้กว่านี้  เมื่อไท่หูเคลื่อนเข้ามาใกล้  เย่ว์หยางพุ่งไปหาเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า  เขาเก็บดาบจันทร์เสี้ยวและใช้ท่าเหมือนกรงเล็บมังกรเล็งแทงนัยน์ตาภูตผีของไท่หู  แม้ว่าไท่หูจะหลับตาได้ทันเวลา  แต่แรงจิกนิ้วของเย่ว์หยางทำให้เขาเจ็บปวดแสนสาหัส  มาถึงตอนนี้เขาถึงตระหนักได้ว่า ความเร็วของเจ้าผู้นี้ ความจริงเร็วมากกว่าที่เขาคิดเป็นสิบเท่า เกือบมีความเร็วเท่าแสงแล้ว
 “ข้าจะโจมตีอีก จะโจมตีอีก  จะโจมตีอีกครั้ง” เย่ว์หยางไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ
เขาชักดาบจันทร์เสี้ยวและปัดไม้เท้างูสายฟ้าออกไป  ดาบฮุยจินสร้างบาดแผลให้ร่างกายไท่หูและทำลายปราณคุ้มครองกายของเขา  ก่อให้เกิดบาดแผลบนตัวที่เต็มไปด้วยขนของเขา เลือดกระเซ็นขึ้นไปในอากาศ
เมื่อไท่หูรีบเร่งหลบหนี  เย่ว์หยางยังคงโจมตีต่อไป
เขาหวดแส้เพลิงของเขาออกไป
แส้เพลิงของเขาได้ยกระดับขึ้นเป็นแส้ทัณฑ์ทรมานไปแล้ว
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น เมื่อเย่ว์หยางหวดแส้ใส่ศีรษะไท่หู
แส้ทัณฑ์ทรมานประกอบไปด้วยเพลิงบัวแดงและโลหิตหัวใจของสนมชื่อเฟย  และยังผ่านการปรับเปลี่ยนด้วยบัวเพลิงฟ้าพิโรธของเย่ว์หยางและพลังคลั่งของเย่ว์หยาง  ผสานกับรูปลักษณ์เดิม  อาจกล่าวได้ว่าเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัว  เทียบกับสมบัติที่มีพลังเหมือนกัน  อย่างน้อยก็ต้องเป็นแส้ระดับแพลตตินัม  การหวดครั้งนี้แทบจะทำให้ชีวิตชราของไท่หูหลุดลอยไป  ความเจ็บปวดนี้สามารถทำให้เฒ่าฝีมือดีผู้นี้ต้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด... ผมสีเงินปลิวและร่วงลง รอยหวดกินลึกถึงกะโหลก เนื้อบนใบหน้าเป็นแนวรอยหวด
เมื่อไท่หูหนีรอดจากแส้นี้ได้ แส้อย่างเดียวกันนี้ก็หวดลงมาจากท้องฟ้าอีก
แส้ฟาดถูกตำแหน่งหัวใจของไท่หูก่อนจะรวบรัดแน่น
แส้เพลิงรัดรอบคอเขาแน่น  แทบจะทำให้ไท่หูสำลัก
นี่คือนางพญากระหายเลือดที่เพิ่งบินออกมาได้ก็โจมตีศัตรู  ถ้าราชาฉลามช่วยเขาไม่ทันเวลา ไท่หูคงกลายเป็นแมวตายแน่  เพราะดาบฮุยจินของเย่ว์หยางฟันลงมาอีกครั้งด้วยวิชาที่เขาบัญญัติขึ้นเอง มหาโทเท่มศึก
โทเท่มคุกโลหิต
แม้ว่าราชาฉลามเข้ามาช่วยเหลือก็ตาม ไท่หูรู้สึกว่าเขาเหมือนอยู่ในอ่างนรก และกลัวว่าจะถูกเย่ว์หยางโจมตีโดยตรง ราชาฉลามจึงใช้ความปราดเปรียวตามธรรมชาติของเขา คว้าตัวไท่หูและกระโดดขึ้นไปในอากาศหลีกหนีจากการต่อสู้  ราชาฉลามยังคงเรียกอสูรปลิงทะเลและคายพลังออกมาจำนวนมากเพื่อช่วยรักษาไท่หู  สามราชันย์รีบเข้ามาต่อสู้ต้านทานเย่ว์หยางไว้
 “ไสหัวไป” เย่ว์หยางเก็บดาบจันทร์เสี้ยวและดาบฮุยจิน  จากนั้นเขาชูมือขึ้นและแส้เพลิงที่ทำสร้างจากเพลิงอมฤตก็เริ่มหมุนเร็วขึ้น เสียงไฟแตกปะทุนับพันระเบิดขึ้น
 “อ๊าาาา.....”
แม้ว่าสามราชาจะหลบหนีได้ทันเวลา  แต่ขุนพลทะเลทั้งหมดและกองทหารของจักรพรรดิสมุทร ที่ตกเป็นเป้าของปืนไฟ ล้วนถูกยิงกันทั้งหมด
ไม่ว่าใครก็ตามจะไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ ถ้าพวกเขาถูกยิงด้วยกระสุนเพลิงอมฤต
ถ้าแขนขาของพวกเขาถูกยิง  พวกเขาจะช่วยชีวิตตนเองได้ก็ต่อเมื่อใช้วิธีการที่โหดร้ายตัดแขนขาออกไป  อย่างไรก็ตาม ถ้าเย่ว์หยางยิงเข้าที่ส่วนอวัยวะสำคัญของร่างกายหรือศีรษะพวกเขา  พวกเขาจะต้องเผชิญกับความตายอย่างเดียว  ไม่มีใครช่วยพวกเขาได้  และไม่มีผู้ใดกล้าช่วย  ทันทีที่ถูกเพลิงอมฤตเผาผลาญ ไม่มีพลังใดที่จะหยุดพลังชำระล้างและทำลายของมันได้
แม้ว่าองค์ชายไห่หลงจะมีทักษะของปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ด  แต่เขายังไม่กล้าท้าสู้กับเย่ว์หยาง
เมื่อเย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤต หัวใจของเขาพลันเย็นเฉียบ
จิตวิญญาณนักสู้ของเขากลายเป็นหลั่งเหงื่อกาฬเยียบเย็น
แม่ทัพทะเลทั้งแปดกลับตรงกันข้าม ด้วยความจงรักภักดี  แม้ว่าต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างเย่ว์หยาง  พวกเขาทั้งหมดก็วิ่งเข้าจู่โจมพร้อมกัน
 “พวกเจ้ากำลังหาที่ตาย”  ทันใดนั้นเย่ว์หยางหมอบลงทันที  เมื่อแม่ทัพทะเลทั้งแปดใกล้ถึงตัวเขา  เขาลุกขึ้นยืนทันทีเพลิงอมฤตบนตัวเขาก็พุ่งเป็นลำสูงขึ้นไปในท้องฟ้า
แม่ทัพทะเลหกคนมีปฏิกิริยาสนองตอบว่องไว หลบได้ทันเวลา
แม่ทัพทะเลอีกสองคนปฏิกิริยาช้าถึงกับวิ่งเข้าไปในกองเพลิงอมฤต
แม้ว่าพวกเขารู้ว่าพวกเขามีโอกาสตายมาก  แต่พวกเขาไม่ดิ้นรนหลบหนี  พวกเขากลับวิ่งตรงเข้าหาเย่ว์หยางเพื่อกอดตัวเย่ว์หยางและทำลายตนเอง
หลังจากลอบศึกษาความเร็วสุดยอดและการระเบิดพลังจากจักรพรรดิชื่อตี้  ทักษะเหล่านั้นก็ถูกนำมาใช้  ทันทีเมื่อแม่ทัพทะเลทั้งสองโถมตัวเองเข้าหาเย่ว์หยาง ในเสี้ยวหนึ่งในพันวินาที  กระแสพลังก็ระเบิดออกมาจากใต้เท้าของเย่ว์หยาง  พลังนั้นได้กระแทกใส่แม่ทัพทะเลคนหนึ่ง เหวี่ยงร่างของเขาขึ้นไปในอากาศ   ส่วนแม่ทัพทะเลอีกคนหนึ่งตระหนักว่าแสงพลังที่เข้มข้นของอักษรรูนกำลังก่อตัวเป็นรูปวงจักรล้างโลก
โธ่เว้ย
ก่อนที่แม่ทัพทะเลผู้นี้จะทันได้คิดอะไร  เขาก็ตระหนักว่าวงจักรล้างโลกได้ตัดร่างเขาแล้ว
แม่ทัพทะเลที่ถูกโยนขึ้นไปในอากาศยังคงอยู่ในอาการเจ็บปวด
 “ตาย!  ด้วยเพลิงอมฤตในมือซ้าย  เย่ว์หยางกดลงที่หน้าของเขาอย่างอำมหิตและโยนร่างเขาลงผิวทะเลซึ่งกลายเป็นผิวกระจกเพราะอำนาจมุกทะเลสงบ
ขณะเดียวกัน แม่ทัพทะเลที่ถูกตัดขาดเป็นสองท่อนตกลงมาจากอากาศ จากนั้นเลือดสาดกระจายออกมา
ดอกไม้มากมายนับไม่ถ้วน งอกออกมาจากผิวทะเล  ต้นที่ใหญ่ที่สุดก็คือต้นดอกหนามปีศาจ  ต้นดอกหนามปีศาจอ้าปากยักษ์ของมันกลืนร่างทั้งสองท่อนของแม่ทัพทะเลลงไป
นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตื่นจากการหลับไหลของนางแล้ว
การปรากฏตัวของนางก่อให้เกิดคลื่นเสียงร้องคร่ำครวญจากทุกคน
จะตายหรือเป็น ต้นดอกหนามพวกนี้ไม่สนใจ ต้นดอกหนามเหล่านี้เหมือนกับคลื่นมหาสมุทรด้วยก้านที่ยาวของมันสามารถบิดจับคนกลืนกินได้  ถ้าต้นดอกหนามไม่สามารถกลืนพวกเขาได้ เหยื่อก็จะถูกเชือดคอตาย จากนั้นก็จะถูกกลืนและย่อย  ฮุยไท่หลางก็จะคอยกินศัตรูระหว่างต่อสู้  แต่ฮุยไท่หลางยังคงสูญเสียการควบคุมพื้นที่ทะเลให้กลับนางพญาดอกหนามมงกุฎทอง  ต่อให้มีฮุยไท่หลางอีกร้อยตัวก็ไม่สามารถชนะทะเลดอกหนามในเรื่องการกินได้
นอกจากจ้าวปีศาจลาวาที่จมลงสู่ก้นทะเลแล้ว  จ้าวปีศาจลาวาอีกสี่ตัวที่เหลือก็โดนมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์เล่นงานอย่างน่าสงสาร
ทั้งนี้เพราะมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ไม่เพียงแต่มีความสามารถของนักสู้ปราณก่อกำเนิดเท่านั้น  แต่พวกเขายังมีทักษะในน้ำที่ดีอีกด้วย
อสูรหลายตนสามารถพ่นน้ำเป็นลำได้  ถ้าทะเลไม่กลายเป็นแข็งเหมือนกระจกแล้วอสูรลาวาทั้งสี่อาจตายไปนานแล้วก็ได้
 “โอวไม่นะ, ท้องฟ้าเปลี่ยนสี”  ราชาฉลามที่ร่วมรับมือเย่ว์หยาง  แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง  แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดครึ้มแล้ว  แต่ไม่น่าจะมีเมฆครึ้มมากเกินไป  เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
สังข์วายุถูกเป่าดังขึ้น
ขณะที่ลมพัดระหว่างท้องฟ้ากับทะเล  เมฆครึ้มดังกระหึ่มอยู่เบื้องบน  สายฟ้าแล่บแปลบปลาบขณะที่ฝนเริ่มเทลงมาจากฟากฟ้า
ถึงตอนนี้ ราชาฉลามถึงได้ตระหนักว่า ท่ามกลางทะเลดอกหนาม  มีนางเงือกสาวสวยนางหนึ่งกำลังเป่าสังข์วายุเรียกพายุฝน!

23 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

555 เป็นไง ให้รู้ซะมั่งว่าไผ๋เป็นไผ๋

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตัวประกอบตายๆไแ

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียน มาร่วมด้วย1ตอน ฮ่าๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

สู้ปกติยังพอมีทางหนีบ่าง นางพญาดอกหนามมงกฎทองมาทีเรื่องหนีเลิกคิดได้เลย

งำงำ มีดบิน กล่าวว่า...

ถังเทียนมาถือดาบแทนเย่ห์หยาง. อิอิ

Unknown กล่าวว่า...

เล่นกับใครใหห้มันรู้บ้าง

Unknown กล่าวว่า...

เล่นกับใครใหห้มันรู้บ้าง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เจอพี่หยางขี้อวดเข้าไป 555

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

นี่ออกโรงกันเกือบหมดเลยนะนั่น ตายแน่ๆ

Jenokira กล่าวว่า...

ค้างกันอีกรอบบบ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

JaOurPaLa กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

B กล่าวว่า...

ขอบตุณครับ

tho กล่าวว่า...

จัดมาใหัครบเซ็ท555

Nopanser Kung กล่าวว่า...

555555+ ดั่งเป็นมังกรท่ามกลางฝูงแกะจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น