วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 79 เครื่องกล



ตอนที่  79  เครื่องกล
ทางเข้าเป็นประตูหินเก่าและหักพัง

ใยแมงมุมและกองฝุ่นมีอยู่ทั่วทุกแห่ง  แต่เป็นเรื่องง่ายที่จะติดตามร่องรอยของคนที่เคยผ่านเข้ามาในที่นี้  และในชั่วขณะหนึ่ง ยังสามารถชี้จุดขยะสองสามชิ้นที่ถูกพวกนักผจญภัยทิ้งไว้  เส้นทางสองสามสายที่ซ่อนตัวจากสายตาพวกเขาในระยะไกล  เริ่มปรากฏต่อหน้าถังเทียนและปิง
หน้าของปิงเคร่งเครียดและจริงจัง  “ตามข้ามา แต่ต้องระวังตัวด้วย”
 “ลุงปิง, ลุงเคยอยู่ที่นี่มาก่อนใช่ไหม?”  ถังเทียนกระซิบถาม  แม้ว่าภายในจะสลัว แต่เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย
ปิงลอยไปพลางกล่าว “ข้าเคยอยู่ที่นี่มาก่อน  ที่นี่เคยเป็นค่ายของกองทัพ  ในภายในมีคลังอาวุธทหาร  ดังนั้นจึงมีเครื่องจักรกลหลายอย่างอยู่ที่นี่” 
 “เครื่องจักรกล?”  ถังเทียนนัยน์ตาเบิกกว้างและมองไปรอบๆ
หยาหยาที่อยู่บนไหล่ของเขาพยายามเรียนรู้สีหน้าเขา  มันพองแก้มเพื่อบังคับให้ตาน้อยของมันเบิกกว้างและมองไปรอบๆ  มันไม่แน่ใจว่าจะเก็บแก่นพลังวิญญาณไว้ที่ไหนดี  ขณะที่ในมือของมันถือธนูและลูกธนู
 “เอ๋?” จู่ๆ ปิงก็มีความรู้สึกและคำราม “มีคนตามหลังเรามา”
 “มีคนเหรือ?”  ตาของถังเทียนฉายแววระมัดระวังทันที
รังสีเยียบเย็นรอบๆ ตัวปิงเพิ่มขึ้น  เขาไม่ได้เข้าไปในทางเดินและไม่พูดอะไรสักคำ และเข้าไปยังผนังด้านข้างและดูเหมือนว่าจะกดวัตถุอะไรบางอย่าง  ทันใดนั้น มีเสียงแกรกๆ  ผนังยกตัวขึ้นเผยให้เห็นทางเดินสีบรอนซ์
ถังเทียนกลืนน้ำลายตนเอง  ทั่วทั้งทางเดินทำด้วยบรอนซ์  หลังจากผ่านไปหลายปี ไม่มีแม้แต่สนิมสักนิด   ชิ้นงานแกะสลักบนผนังบรอนซ์เต็มไปทั้งทางเดิน  การออกแบบเรียบง่ายและตกแต่งด้วยบรอนซ์ล้วน มีฝุ่นปกคลุมเนื่องจากผ่านกาลเวลา  มันค่อยๆ เปิดออกต่อหน้าถังเทียน  ถ้วยน้อยบนผนังเริ่มเปล่งแสงคดเคี้ยวลึกลงไปตามทางเดิน
 “มันยังคงใช้งานได้  ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด”
ถังเทียนสามารถได้ยินได้  แม้ว่าลุงปิงจะพยายามรักษาน้ำเสียงของเขาให้สงบ แต่ความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงกลับเปิดเผยอารมณ์ที่แท้จริงของเขา  อย่างไรก็ตามเขายังคงสงบอยู่ดี
ถังเทียนเดินเข้าไปในทางเดินบรอนซ์  ผนังหินค่อยๆ เลื่อนปิดลงแน่นอีกครั้ง  สิ่งที่ทำให้ถังเทียนรู้สึกแปลกก็คือ อากาศภายในทางเดินสดชื่นมาก และมันไม่เฉอะแฉะเหมือนอย่างที่เขาคิดว่าน่าจะเป็น
 “อย่าก้าวไปบนพื้น” ปิงเตือนถังเทียน
 “อย่าก้าวไปบนพื้น?”  ถังเทียนตะลึง  “งั้นจะให้ข้าเดินยังไงเล่า?”
นัยน์ตาหยาหยาเป็นประกาย  ด้วยขาน้อยๆ ของมัน มันพุ่งออกไปเหมือนกระสุนตรงเข้าหาผนัง ปั้ก ปั้ก ปั้ก ถังเทียนเห็นเหมือนลูกกระสุนกระเด้งไปตามผนังซ้ายไปผนังขวาและพุ่งไปผนังซ้ายอีกครั้งขณะเคลื่อนไปข้างหน้า ทำให้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
 “ดูเหมือนหยาหยาจะฉลาดกว่าเจ้านะ” ปิงทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้และลอยตัวไปข้างหน้าต่อ
ถังเทียนนัยน์ตากระตุกโดยมิอาจพูดอะไรได้  เขาใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ยังดีที่วิชาตัวเบาของเขาแข็งแกร่ง และสำหรับเขาแล้ว มันง่ายมาก
ทางเดินลึกกว่าที่ถังเทียนคาดไว้มากมายนัก และรู้สึกว่ามันยืดขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง
ใจของถังเทียนยิ่งประหลาดใจมากขึ้นทุกที  ทางเดินบรอนซ์นี้ยาวมากกว่าสิบกิโลเมตรแล้ว และยังคงลงไปต่อเป็นการวางแผนออกแบบที่น่าทึ่งขนาดนั้น  พวกเขาสร้างที่นี้อย่างมั่นคงได้ยังไงกัน
 “ระวัง, ถ้าข้างหน้ายังไม่สูญเสียประสิทธิภาพ  เราจะต้องพิสูจน์สถานะตัวเอง” คำพูดของปิงหนักแน่น
 “จะพิสูจน์อะไร?”  ถังเทียนถาม
 “สัญลักษณ์” ปิงกล่าว
 “แล้วท่านมีไหม?” ถังเทียนถามอีกครั้ง
 “ไม่มี” ปิงตอบตามตรง
ถังเทียนยืนด้วยความงุนงง  “งั้นเราจะทำยังไงกันดี?”
 “วิ่งอย่างเดียว” ปิงตอบ
 “วิ่ง...วิ่งอย่างเดียว?” ถังเทียนคิดว่าได้ยินผิด
 “ถูกแล้ว” จู่ๆ ปิงก็มาปรากฏตัวข้างหยาหยาคว้าตัวเขาไว้และมาอยู่ข้างหลังถังเทียน  มือหนึ่งวางอยู่บนไหล่ของเขาและพูดว่า “หนุ่มน้อยชาวฟ้า เราจะขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
ถังเทียนต้องการจะด่าเขา  แต่ลำแสงสีแดงจางๆ เปล่าแสงวาบอยู่ต่อหน้าเขา
 “หวา หวา หวา” ถังเทียนไม่สนใจเรื่องอื่นอีกต่อไปแล้วและหลบไปด้านข้าง
ธนูบรอนซ์ดอกหนึ่งพุ่งผ่านตัวเขาไป “ฉึก” มันปักลึกลงไปในผนัง  ขนนกของลูกศรบรอนซ์ยังคงสั่นหึ่งๆ พอเห็นเช่นนั้น หัวใจของถังเทียนสั่นสะท้าน  หน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย  ถ้าเขาโดนมันปักใส่  มันคงทะลุผ่านตัวเขาไปแน่
 “อย่ามัวแต่ตะลึง!  วิ่งขึ้นหน้าต่อไป”  ปิงกระตุ้นเขา
 “ลุงเฮงซวย!  ถังเทียนสบถด้วยความโกรธ ขาของเขาปล่อยพลังออกมาทันทีและพุ่งไปที่ผนังตรงข้าม ธนูบรอนซ์ยิงออกมาอีกดอก
 “อย่าก้าวไปบนพื้น” ปิงซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของเขาและคอยเตือนดังๆ
วืด วืด วืด!
เสียงแตกหักที่ทำให้คนผมบนหัวตั้งชันได้ เสียงดังที่ลึกเข้าไปในทางเดิน
ถังเทียนแทบตาเหลือก จุดสว่างเล็กๆ สองสามจุดปรากฏในสายตาเขาขณะที่ถ่ายพลังลงไปที่ขา เหมือนกับธนูที่หลุดจากแล่ง เขาพุ่งไปยังผนังตรงข้าม
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
ถังเทียนไม่อาจด่าใครได้อีกต่อไป เนื่องจากธนูระดมยิงมาเหมือนห่าฝน  ธนูทองแดงสิบสองดอกแทบจะปิดพื้นที่หลบหนีของเขา
ความกลัวที่รุนแรงไปกระตุ้นกล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกายเขา ขณะที่เขารวบรวมสมาธิอย่างไม่เคยมีมาก่อน  เขาเข้าไปใกล้ผนังและเหยียดมือออกไปทันที งอนิ้วทั้งห้าเป็นตะขอ ปั้ก... และจิกลงไปในผนังบรอนซ์   แรงเฉื่อยจากการโถมไปทั้งตัวทำให้ร่างของเขากระแทกกับผนังบรอนซ์  พลังนี้ส่งผลถึงนิ้วของเขาทำให้นิ้วของเขารู้สึกเจ็บปวด เขาไม่สนใจอะไรในตอนนั้น  ยังใช้นิ้วที่งอเป็นตะขอจิกลงไปในผนังบรอนซ์เช่นกัน
แขนของเขาปลดปล่อยพลังงานทันที และเหมือนกับจิ้งจกไต่ผนัง ถังเทียนเคลื่อนไปข้างหน้าตามแนวผนังบรอนซ์
ปั้ก ปั้ก ปั้ก
ลูกธนูบรอนซ์หลายดอกพุ่งผ่านร่างเขาไป แรงเสียดอากาศเฉียดผ่านผิวทำให้ผมบนศีรษะของเขาตั้งชัน
 “ทำได้ยอดเยี่ยม” ปิงตื่นเต้นเล็กน้อย “วิธีนั้นนั่นแหละ  เด็กใหม่! ลุยไปข้างหน้าต่อไป”
เด็กใหม่....
ถังเทียนตาเหลือกอีกครั้ง  แต่เขายับยั้งใจไม่ให้ทุ่มลุงปิงลงไปข้างล่าง และยังคงมุ่งหน้าต่อไปอย่างบ้าคลั่ง  ทั้งตัวของเขาแนบติดผนังและได้แต่อาศัยพลังนิ้วและแขนของเขา  พลังถึกของถังเทียนได้เปล่งอานุภาพแท้จริงออกมา
ควั่บ ควั่บ ควั่บ
ลูกธนูระดมยิงมาเหมือนฝนด้วยพลังที่น่ากลัว พุ่งลึกไปตามทางเดินอย่างไม่หยุดยั้ง
ลักษณะผิวของถังเทียนเปลี่ยนแปลง  เขาไม่สามารถหายใจได้อย่างถูกต้อง  นิ้วทั้งสิบจิกลงไปในผนัง  ขณะเดียวกันขาทั้งสองก็ใช้พลังไปด้วย  เขาเป็นเหมือนกบที่พุ่งออกไปด้านนอก
 “ดีมาก!  ความแข็งแกร่งทั่วทั้งตัวเจ้ามีความกลมกลืนดี เต็มไปด้วยการระเบิดพลังออกมาได้อย่างงดงาม!  เด็กใหม่, ยอดเยี่ยมแล้ว อย่าหยุด, ไป ไป ไป”
ปิงที่ตามอยู่ด้านหลังของเขาตื่นเต้นมาก  ภาพที่คุ้นเคยรอบๆ ตัวทำให้เขาเหมือนกลับไปสู่ยุคสมัยของตนอีก เขากับเด็กหนุ่มบริสุทธิ์คนแล้วคนเล่าและการฝึกฝนหนักหน่วงต่อเนื่อง  ในตอนนั้น เขาก็ใช้วิธีเหมือนปัจจุบันนี้  คอยคำรามและให้กำลังใจอยู่ด้านข้างพวกเขา
ทั้งกองทัพในตอนนี้ เหลือเขาอยู่เพียงลำพัง
เขาไม่ถือว่าตาย ทั้งไม่นับว่ามีชีวิตอยู่
แต่จากแรกเริ่ม  เขาสูญเสียเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเหลืออยู่เพียงคนเดียว...
ในกองทัพ พลังของเขาไม่นับว่าแข็งแกร่งนัก และมีคนอีกนับไม่ถ้วนที่แข็งแกร่งกว่าเขา ทักษะทางวิศวกรรมของเขาอยู่ในระดับสมบูรณ์ของกองทัพ  ภูมิปัญญาในเรื่องกลศึกของเขาไม่ได้อยู่ในชั้นสุดยอด
ทำไมเขาถึงกลายเป็นวิญญาณ?  ทำไมจึงเป็นเขา? ทำไม!
เขาพร่ำถามคำถามเดียวกันนี้กับตนเองนับครั้งไม่ถ้วน  แต่เขาไม่สามารถคิดออก และไม่สามารถเข้าใจได้  กองทัพถูกทำลาย ดังนั้น  ยังจะมีอะไรเหลือใช้ให้ผู้ฝึกสอนอย่างเขา  ถ้าสวรรค์ต้องการให้เขาใช้กรรมจริงๆ อย่างนั้นก็ควรเป็นผู้บัญชาการหรือคนสำคัญที่รอดอยู่...
แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น และมีแต่เพียงเขาที่เหลือรอดชีวิต
เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังอยู่ข้างหูของเขา ค่อยๆ ดึงเขากลับมาจากการจมอยู่ในห้วงคำนึง
เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ถังเทียนเป็นทหารที่ดี
แม้ว่าพรสวรรค์ของถังเทียนจะไม่ค่อยมีค่ามาก  แต่ปิงบอกได้ว่าสมดุลธาตุทั้งห้าของถังเทียนไม่ใช่สิ่งเลวร้าย และการเข้าถึงพลังของถังเทียนก็ไม่มีปัญหา แต่เขาพูดสิ่งที่เขาอยากพูดออกมาครึ่งเดียวเท่านั้น  ทุกอย่างที่เขาพูดไม่มีปัญหา ก็เพียงเพราะว่ามันยังไม่มีปัญหา รวมทั้งพลังเที่ยงแท้ เขาได้เห็นคนหลายคนผู้มีความใกล้ชิดพลังปราณเที่ยงแท้อย่างเป็นธรรมชาติมาก  และนั่นเป็นพรสวรรค์ที่ฝังลึกถึงกระดูกและราก  ปัจจุบันนี้รากและกระดูกของแต่ละคนนั้นไม่สำคัญในสายตาของปิง  ขณะเมื่อเขาฝึกทหารใหม่  ก็ไม่ขาดแคลนคนมีพรสวรรค์ที่เชื่อมต่อกับห้าธาตุ  คนทั้งหมดเหล่านี้สามารถฝึกพลังปราณเที่ยงแท้ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ มากนัก ประสิทธิภาพของพวกเขาสูงมากและก้าวหน้าในระดับที่น่าทึ่ง
แต่ในสายตาปิง พรสวรรค์หรือความสามารถตามธรรมชาติที่ฝังอยู่ในกระดูกและรากนั้น ก็เพียงแค่นั้น  พรสวรรค์สำหรับอัจฉริยะเยาว์วัยสำคัญมากกว่า  สำหรับทหารนั้น ความกล้าหาญ, จิตตานุภาพและความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  ในแง่มุมนี้ ถังเทียนผู้เป็นหนึ่งในทหารใหม่หลายคนที่เขาฟูมฟัก นับว่าโดดเด่นแน่นอน
ถังเทียนไม่ใช่คนฉลาด แต่ทัศนคติเยือกเย็นระหว่างต่อสู้ของเขาเป็นเหมือนสัญชาตญาณธรรมชาติของสัตว์ป่า และนั่นทำให้ปิงประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เขาเพิ่งจะบรรลุปราณเที่ยงแท้ระดับสี่  แต่ก็สามารถรักษาความสงบขณะที่มีลูกธนูยิงออกมาตามทางเดินเป็นห่าฝน  ถ้ากองทัพยังคงมีชีวิตอยู่ คงได้มีคนส่งเสียงเชียร์เป็นแน่
เครื่องกลนี้ ถังเทียนไม่ใช่เป็นคนแรกที่บุกฝ่าเข้าหามัน
ทหารของกองทัพดาวกางเขนใต้ส่วนใหญ่มีนิสัยรวดเร็ว รุนแรงชอบการท้าทาย และจะปลดสัญลักษณ์เขาออกเพื่อท้าทายเครื่องกลนี้  หลายคนทำเล่นเพื่อความสนุก  แต่คนที่สามารถทำได้จะเป็นทหารรุ่นเก่าทั้งนั้น ไม่เคยมีทหารใหม่ผ่านไปได้
ทันใดนั้น ปิงสนใจว่าถังเทียนจะสามารถผ่านด่านได้สมบูรณ์หรือไม่
ถังเทียนไม่รู้ถึงสิ่งที่ปิงคิดอยู่ในปัจจุบันนี้  เขาซึมซับและเพ่งสมาธิ ใช้สัญชาตญาณสังเกตดูที่ด้านหน้าเขา
วิธีเดินหน้าไปแบบจิ้งจกจะตกอยู่ในความยุ่งยากอีกไม่ช้า เนื่องจากเครื่องกลดูเหมือนจะสามารถรู้สึกถึงกระบวนการวิธีของเขาแล้วและธนูบรอนซ์เริ่มมีความน่ากลัวมากขึ้น  ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดันทันที  เนื่องจากธนูบรอนซ์ที่อันตรายเฉียดผ่านร่างเขาไป  ที่เฉียดที่สุดคือผ่านหน้าผากเขาไป มันทิ้งรอยแผลจางๆ ไว้ที่หน้าผากของเขา
ถังเทียนถึงกับเหงื่อกาฬออก  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาติดอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
พื้นที่ในทางเดินสำหรับหลบยิ่งจำกัดมากขึ้นทุกที  แต่จำนวนลูกศรบรอนซ์กลับเพิ่มมากขึ้นทุกที  เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะถูกตรึงพื้นที่ไว้ และทำให้พื้นที่การหลบของเขาแคบลงทุกที
เขาจะทำอย่างไรดี?
เหงื่อไหลลงมาถึงคางของถังเทียน  เขาลืมความจริงที่ว่าวิธีที่เขาใช้นั้นสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงทางกายมาก การหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นและผิดปกติ  แต่สีหน้าของเขาไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อย  และเขายังคงมุ่งหน้า มองตรงไปและใช้สมองคิดอย่างรวดเร็ว
ถ้าไม่มีพื้นที่ให้หลบมากพอ... เขาจะทำยังไง?
ดวงตาของถังเทียนทอประกายดุดันร้อนแรง
ถ้าไม่มีพื้นที่ให้หลบอีกต่อไป อย่างนั้นก็ต้องสร้างพื้นที่เพิ่ม
ถังเทียนใช้ความเร็วที่น่าประหลาดใจของเขาเคลื่อนขวางไปตามผนังหลบธนูที่ยิงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดได้ ผนังบรอนซ์เย็นทำให้หัวใจของเขารู้สึกเยือกเย็น  ธนูเจ็ดดอกเล็งมาที่พื้นที่เบื้องหน้าเขา ถังเทียนพุ่งออกจากผนังอย่างไม่ลังเลใจ
ธนูบรอนซ์สามดอกส่งเสียงหวีดหวิวยิงพร้อมออกมาเป็นรูปสามเหลี่ยม
ถังเทียนผู้อยู่ในอากาศขดตัวงอเข่า ขณะที่ลูกธนูพลาดเป้าเฉียดผ่านเขาไป
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาสูญเสียแรงเหวี่ยงในอากาศ ก็ต้องพบกับลูกศรที่ยิงออกมาอย่างเกรี้ยวดอกหนึ่งทันที
พอเห็นว่าเขาจะถูกแทงทันที  ถังเทียนขยับตัวอย่างรวดเร็ว

7 ความคิดเห็น:

งำงำ มีดบิน กล่าวว่า...

จะหาทางรอดแบบไกนใช้หยาหยาสู้ไหมอิอิ

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนพลังอึด

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

สุดยอด กล่าวว่า...

ลุงปิงเป็นคนตลก ^^

แสดงความคิดเห็น