วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 108 สะท้านสุญญากาศ

ตอนที่  108  สะท้านสุญญากาศ
ถังเทียนไม่เข้าใจถึงความเมื่อยล้าขณะฝึกฝน

เขาลืมเพ่งดูการฝึกฝนของคนอื่นๆ และลืมไปว่านี่คือบ้านของเชียนฮุ่ย เขามีแต่เพียงวิทยายุทธของเขาอยู่ในสายตาตนเอง  นั่นคือหมัดของเขาเอง
ปราณเที่ยงแท้ระดับห้ากับวิชาหมัดระดับสี่  เขาอยู่ในระดับที่ไม่เคยประสบเจอมาก่อน ความแตกต่างในรายละเอียดนี้ ถังเทียนเพิ่งพบเจอวันนี้
ปราณเที่ยงแท้ระดับห้าเพิ่มขึ้น และไม่ว่าจะเป็นพลังมังกรฟ้าหรือพลังงานกระเรียน เป็นเหมือนกับว่าทำให้ความปรารถนาของถังเทียนกลายเป็นจริง   พลังงานที่สะสมอยู่ภายในพลังปราณเที่ยงแท้เกิดความปั่นป่วนและระเบิดพลังออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
เมื่อเข้าถึงปราณเที่ยงแท้ระดับห้า พลังที่เพิ่มขึ้นจะครอบคลุมไม่ว่าในเรื่องระดับความแข็งแกร่ง หรือความรุนแรง เมื่อเทียบกับปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ ความก้าวหน้าเป็นแบบก้าวกระโดด รายละเอียดและความรู้สึกเล็กน้อยของพลังหมัดสะท้านฟ้า ภายใต้พลังของปราณเที่ยงแท้ระดับห้า มีความโดดเด่นและชัดเจน
ถังเทียนมีสัญชาตญาณคมชัดเป็นพิเศษ ขณะที่เขายังคงฝึกฝนวิชาหมัดของเขาต่อไป  รายละเอียดที่ยากจะเข้าใจทั้งหมดก็ค่อยๆ โผล่ออกมา
หมัดสะท้านฟ้าในมือของถังเทียนเริ่มจะกลายสภาพเป็นช้าลง
ลมที่แผ่ออกจากหมัดค่อยๆ หายไป
ในอดีตเมื่อใดก็ตามที่ถังเทียนใช้หมัดสะท้านฟ้า จะทำให้เกิดระลอกคลื่นกระจัดกระจายนับไม่ถ้วน  ระลอกทั้งหมดเหล่านี้คือปราณเที่ยงแท้ของเขาที่ทำให้อากาศรอบหมัดของเขาสั่นสะเทือน และระลอกเหล่านี้มีพลังรุนแรงขนาดทำลายหินได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ พลังสั่นสะเทือนของระลอกหมัดสะท้านฟ้าน้อยลงทุกที  ขณะที่ลมจากหมัดของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว หมัดสะท้านฟ้าของถังเทียน ยิ่งแตกต่างจากที่ได้ใช้งานในครั้งก่อนที่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังทำลายล้าง และตอนนี้มันดูเหมือนหมัดมวยธรรมดา  แต่ในความเป็นจริง หมายความว่าพลังงานของถังเทียนถูกควบคุมสงวนไว้เป็นอย่างดี พลังงานไม่ได้รั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย
คนที่เป็นพยานเห็นการเปลี่ยนแปลงกับตาตนเอง อย่างซ่างกวนจู้และคนที่เหลือรู้สึกใจสั่นสะท้าน  แม้ว่าตระกูลซ่างกวนจะตกต่ำเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  แต่ธรรมเนียมพวกเขายังคงมีอยู่ และแม้ว่าศิษย์ในตระกูลจะมีพลังอ่อนแอก็ตาม แต่พวกเขายังคงมีสายตาที่ดีเฉียบแหลม
พลังงานของหมัดกลายเป็นว่าถูกเก็บกักและเข้มข้นมากขึ้น และพลังก็แข็งแกร่งมากขึ้น
ทุกคนสามารถเข้าใจได้ถึงเหตุผล  แต่มีน้อยคนนักที่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้จริง   วิทยายุทธในยุคปัจจุบันได้รับโดยผ่านการ์ดวิญญาณทั้งหมด เรียนรู้ง่าย แต่ยากจะบรรลุถึงแก่น  การ์ดทองมีราคาแพงมาก และไม่ใช่ว่าทุกคนจะหาซื้อได้ ขณะที่การ์ดเงินและการ์ดบรอนซ์ มีประสบการณ์ที่ยังไม่สมบูรณ์  นอกจากนี้ ประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันไปในแต่ละคน  อาจเหมาะสำหรับเขา แต่ไม่เหมาะสำหรับท่าน  อย่างเช่นนักสู้และขุนพลวิญญาณที่เข้ากันไม่ได้ ก็มีเกิดขึ้นบ่อย
การอธิบายสิ่งที่ฝึก ก็ทำได้ชัดเจน และลึกซึ้ง ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น
ปัจจุบันแนวคิดทั่วไป เมื่อเทียบกับชั้นและระดับ ระดับที่สูงจะชนะระดับที่ต่ำกว่า เป้าหมายของทุกคนคือรีบเร่งบรรลุเข้าสู่เป้าหมายระดับสูง  เกี่ยวกับวิทยายุทธต่อสู้มีน้อยคนที่จะฝึกฝนขัดเกลาตนเองอย่างต่อเนื่อง ฝึกเพื่อให้ตนเองสมบูรณ์แบบ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าไม่ว่าวิทยายุทธระดับต่ำจะสมบูรณ์มากแค่ไหนก็ตาม ต่อให้พวกเขาฝึกไปก็ไม่สามารถเอาชนะวิทยายุทธที่มีพลังระดับสูงได้
การจัดระดับ คือทุกอย่างที่ทุกคนคิดกันและก่อนหน้านี้ ซ่างกวนเว่ยและพวกที่เหลือก็คิดแบบนี้
จนกระทั่งถังเทียนปรากฏตัว  เขาเป็นนักสู้ระดับห้าอย่างเห็นได้ชัด  แต่เขาสามารถใช้พลังต่อสู้และความแข็งแกร่งได้เกินกว่าระดับห้า  อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงวันนี้  หลายคนเชื่อว่าเหตุผลที่เขยของตระกูลแข็งแกร่งมาก เนื่องจากเขายืมพลังมาจากเกราะของเขา  แต่พวกเขาก็ตระหนักได้ในไม่ช้า  เนื่องจากพวกเขามองเห็นเขาแสดงหมัดสะท้านฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเขยของตระกูลใช้เวลาฝึกฝนอย่างหนักและต่อเนื่อง
เมื่อมีเวลา เมื่อฝึกปราณเที่ยงแท้มากขึ้น วิชายุทธระดับที่สูงขึ้นถูกมองว่าเป็นหนทางแห่งการเป็นราชา
เมื่อลมที่ออกมาจากหมัดของถังเทียนหายไป ทุกคนตกตะลึงอย่างหนัก  ทุกหมัดที่เขาปล่อยออกมา ไม่เหลือร่องรอยระลอกคลื่นเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เต็มไปด้วยอันตรายที่ยากอธิบายได้มากขึ้นทุกทีและความรู้สึกของทุกคนถูกหมัดของถังเทียนดึงดูดไป พวกเขาไม่สามารถละสายตาได้ เหมือนกับว่าหมัดนั้นมีพลังที่มีเสน่ห์บางอย่าง
พวกเขาทุกคนยืนมองดูอยู่กับที่จนลืมการฝึกฝนของตนเอง  ทั่วทั้งสนามฝึกไม่รู้ว่าตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่เมื่อใด
มีแต่เพียงถังเทียนที่ยังปล่อยหมัดออกไปหมัดแล้วหมัดเล่า ลืมสิ้นทุกอย่าง
เหมือนกับพลังปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขากำลังเดือด  ถังเทียนรู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขมาก  เขาปล่อยหมัดออกไปหมัดแล้วหมัดเล่าด้วยความยินดี ทุกความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนเป็นเหมือนสายน้ำที่ไหลรินอยู่ในใจเขา ช่างงดงามเสียจริง
นี่คือแรงสั่นสะเทือน...
ดูเหมือนจะมีความเสียใจเงียบๆ ลอยอยู่ในหัวใจเขาเงียบๆ
เป็นเหมือนผ้านวมที่หน้าต่างค่อยๆ เปิดออกและแสงงดงามนอกประตูและสายลมด้านนอกหน้าต่างสาดส่องพร่างพรูเข้ามาทั่วห้องทันที
ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเบ่งบานขึ้นในใจของถังเทียน
จู่ๆ เขาก็ร้องฮึ ขึ้นมา ปราณเที่ยงแท้ของเขาปะทุออกมา กระเรียนส่งเสียงร้องอยู่ภายในใจของเขาตามมาด้วยเสียงมังกรคำราม  ปราณเที่ยงแท้ของเขาปะทุออกมาดังปัง ถังเทียนไม่ได้คิดอะไร  แค่ปล่อยหมัดออกไปเท่านั้น
หมัดที่ไร้เสียง ไร้ลักษณ์และว่างเปล่า
บนหมัดของเขา มีบอลแสงขาวขนาดเท่าผลมะพร้าวโปร่งใสปรากฏขึ้นมาทันที
บอลแสงคงอยู่เพียงหนึ่งวินาทีและจากนั้นก็เริ่มสั่นสะเทือน ระเบิดคลื่นเสียงกึกก้องไปทั่วพื้นที่
อากาศในพื้นที่ฝึกฝีมือ เป็นเหมือนกับถูกควบคุมโดยมือไร้รูปขนาดใหญ่ จู่ๆ บอลแสงก็พุ่งขึ้นและระเบิดออกมา
พลังงานไร้ขีดจำกัดระเบิดออกจากร่างถังเทียนที่เป็นเหมือนภูเขา มิได้ขยับออกไปแม้แต่น้อย
ตาของเขามีแววครุ่นคิด
※※※※※※※※※※

อาโมรี่เดินทางตรงเข้ามา และเมื่อหาตระกูลซ่างกวนพบ เขาแสดงสถานะตัวเอง  โชคดีที่คนที่ออกมารับเขาคือลุงเฉียน และเมื่อเขาได้ยินว่ามีเด็กหนุ่มสาวสองสามคนที่มาจากเมืองซิงฟง มาตามหาคุณชายอาเทียน เขาจึงนำพวกเขาเข้ามาทันที
ขณะที่พวกเขาวิ่งเข้ามาที่สนามฝึก  พวกเขาเข้ามาทันเวลาเห็นบอลแสงโปร่งใสระเบิดออกมาด้วยฝีมือถังเทียน
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน พวกเขาชะงักเท้า เหมือนกับว่า เหมือนกับว่าถูกบังคับให้หยุดอยู่ตรงนั้น
นั่น.. นั่นคือ...สุญญากาศ!
มันเป็นไปได้ยังไง...
ความจริงหมัดนั้นสั่นสะเทือนอากาศกระทั่งมันหายไปเองทันที และสร้างเป็นบอลสุญญากาศขึ้น...
หมัดสะท้านฟ้าเห็นได้ชัดว่าเป็นวิทยายุทธระดับสี่... ชัดเจนว่ามันคือวิทยายุทธระดับสี่!
ถังพื้นฐาน....
พวกเขาเคยได้ยินมาก่อน เมื่อหมัดสะท้านฟ้า ถูกฝึกฝนจนถึงระดับสุดยอด ก็อาจสลายอากาศและสร้างสุญญากาศขึ้นได้  นี่ก็คือหมัดสะท้านสุญญากาศที่ขึ้นชื่อนั่นเอง
หมัดสะท้านสุญญากาศเป็นแค่เพียงตำนาน  พวกเขาไม่เคยเห็นใครเชี่ยวชาญวิชานี้เลย  แต่วันนี้ ต่อหน้าต่อตาพวกเขา  การจู่โจมที่แข็งแกร่งขนาดนั้นและพลังสั่นสะเทือนรุนแรง  แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะแข็งแกร่งและมาดมั่น  แต่ในช่วงเวลาอย่างนี้  จิตใจของพวกเขาทุกคนว่างเปล่า
ไม่มีใครคิดว่า อาโมรี่จะเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว และเขาส่ายหัวพูดว่า "ข้าไม่สู้แล้ว, ข้าไม่สู้ด้วย! จะมีอะไรจากการต่อสู้ครั้งนี้เล่า? เจ้าโรคจิตถังบ้าเกินไปแล้ว! เขาจะตายไหมนี่ ถ้าไม่รู้แจ้งเคล็ดสังหาร.."
คนที่เหลือ เมื่อได้ยินเสียงนี้ ก็รู้สึกตัวทันที
ขณะที่ถังเทียนเพิ่งตื่นจากสภาวะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง  เขาได้ยินเสียงอาโมรี่ เมื่อเขาเหม่อมองหันมาดูและเห็นเป็นอาโมรี่และพวก เขาปลาบปลื้มยินดี
"เจ้าวัวแมงวัน!"
ถังเทียนตะโกนลั่น ด้วยการก้าวย่างเพียงสองก้าว เขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
พวกเขาเห็นเพียงภาพเลือนลาง และถังเทียนก็วิ่งมาอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว หานปิงหนิงและคนอื่นถึงกับใจสั่นสะท้าน
ไวมาก!
ทุกคนตกใจอย่างเห็นได้ชัด และมีเพียงอาโมรี่ที่กำลังหัวเราะ เขาเดินเข้าไปหาและกอดถังเทียนส่งเสียงดังลั่น "ถังพื้นฐาน, ไม่ได้เจอกันนานเลย! อว๋า.. ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าทึ่งและตกใจ  เจ้ายิ่งแข็งแกร่งทรงพลังมากขึ้นทุกที  ตอนแรกข้ากะจะมาซ้อมมือกับเจ้า แต่พอเห็นหมัดของเจ้าแล้ว ข้าไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว  บุรุษหนุ่ม, ตอนนี้การช่วยเหลือโลกอยู่ในมือของเจ้าแล้ว..."
เมื่อได้ยินการสนทนาของอาโมรี่ หัวใจถังเทียนอบอุ่นอย่างประหลาด  นิสัยของอาโมรี่อดทน, ง่ายๆ ซื่อสัตย์และคุยค่อนข้างสนุก
"เจ้าวัวแมงวัน, เจ้าน่ะช่างพูดนักนะ"
ทั้งสองผละออกจากกัน ถังเทียนยิ้มเต็มหน้าทันที
"โอว, ถังพื้นฐาน เจ้าคงต้องเข้าใจว่าตัวเองอัดอั้นตันใจเป็นนักสู้รอบนอกอยู่นานสินะ พวกเขาทุกคนไม่มีความหมายอะไรเลย คนหนึ่งเป็นภูเขาน้ำแข็งหมื่นปี, อีกคนก็เจ้าเล่ห์ร้ายกาจ และอีกคนก็ดันเป็นนักมังสวิรัติตัวยงเสียอย่างนั้น  เจ้าต้องเข้าใจโลก เป็นไปได้ยังไงที่สิ่งมีชีวิตจะมัวเอาแต่กินผัก?  และสิ่งมีชีวิตนี้ก็คือพี่เหลียงชิว, โอวพระเจ้า, ต้นแบบตัวอย่างของข้าเป็นอย่างนั้นเสียแล้ว ส่วนเจ้าสบายๆ แน่นอน ดูทั้งหมดนี่สิบุรุษหนุ่มที่เอาแต่บ้าฝึกวิทยายุทธไม่หยุดหย่อน  เขาได้สร้างมรรคาวิชาบู๊เป็นของตนเอง และมีหัวใจที่แข็งแกร่งมั่นคงนัก"
อาโมรี่ยังพูดพล่ามต่อไปเรื่อยๆ จนทำให้สหายที่เหลือชักจะหงุดหงิด
หานปิงหนิงแตะด้ามกระบี่ ขมวดคิ้ว บรรยากาศกลายเป็นเยือกเย็นขณะนางถาม "เจ้าหาว่าข้าเป็นภูเขาน้ำแข็งหมื่นปีหรือ?"
อาโมรี่หุบปากตนเองทันที
เหลียงชิวยิ้ม ขณะที่เขาถามอย่างครุ่นคิด "ถังเทียน ท่าที่เจ้าเพิ่งใช้ออกไปคือหมัดสะท้านสุญญากาศหรือเปล่า?"
ถังเทียนพยักหน้า "ใช่, ข้าเพิ่งจะฝึกฝนได้สำเร็จนี่เอง"
แววชื่นชมปรากฏอยู่ดวงตาของเหลียงชิวขณะที่เขากล่าว "เป็นไปตามคาดเลยนะ ถังพื้นฐาน! หมัดสะท้านสุญญากาศเป็นเคล็ดสังหารของหมัดสะท้านฟ้ามีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งรุนแรงมาก  เจ้าจะฝึกสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเข้าถึงระดับหกได้  และเมื่อฝึกหมัดสุญญากาศจะทุ่นความพยายามไปครึ่งหนึ่ง แต่ได้ผลเป็นสองเท่า"
ถังเทียนรู้ว่าเหลียงชิวกำลังสอน  เขาจึงชื่นชมและขอบคุณ "ขอบคุณพี่เหลียงชิว!"
"ฮืม.. แต่มันเป็นแค่เพียงหมัดสะท้านสุญญากาศเอง, พ่อหนุ่มถัง เจ้าก็เข้าสู่ระดับที่ห้าาแล้ว ทำไมยังฝึกฝนวิชาหมัดมวยระดับห้าเล่า?"  ซือหม่าเซียงซาน นัยน์ตาสามเหลี่ยมเหมือนตางูของกระพริบเป็นประกายวูบวาบ
ถังเทียนพูดเป็นจริงเป็นจัง "ข้าตั้งใจจะฝึกวิทยายุทธทั้งหมดที่ข้ารู้จัก  ฝึกให้สมบูรณ์แบบ จะให้ดีที่สุดต้องฝึกจนได้รับเคล็ดสังหารทั้งหมด"
ทุกคนตะลึง
ถ้าเป็นคนอื่นพูดคำพูดเหล่านี้ พวกเขาคงคว้าก้อนอิฐมาทุบกบาลเจ้าผู้นี้เพื่อดูว่าในสมองของเขายัดอะไรเอาไว้ข้างใน  แต่เมื่อหลุดออกจากปากของถังเทียน พวกเขากลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
นอกจากเป็นโรคจิตแล้ว เจ้านี่ยังมีนิสัยที่ผิดปกติอีกด้วย
"สมกับเป็นถังพื้นฐานจริงๆ!" อาโมรี่ปรบมือ ตาของเขาเป็นประกายลุกโชน  เขาพูดอย่างตื่นต้น "มีแต่หนุ่มน้อยชาวฟ้าที่กล้าจะทำเช่นนี้  จอมยุทธหนุ่มน้อยผู้ฮึกเหิมอยากเรียนรู้จากหนุ่มน้อยชาวฟ้าเสียจริง โอวๆๆ พอคิดแล้ว ช่างทำให้ตื่นเต้นเสียจริง! คำพูดแบบนี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้มาก..."
ถังเทียนมองดูสับสนและถามว่า "จอมยุทธหนุ่มผู้ฮึกเหิม เจ้าตั้งฉายานั้นให้ตัวเองเหรอ?"
อาโมรี่ดูภาคภูมิใจมาก "ฮ่าฮ่า ก็แน่อยู่แล้ว ชื่อมีเสน่ห์ออกอย่างนั้น มีแต่จอมยุทธหนุ่มน้อยผู้ฮึกเหิมเต็มไปด้วยอารมณ์สุนทรีจึงจะคิดชื่ออย่างนั้นได้...."
ถังเทียนดึงสายตาเขากลับมา ขณะที่เขามองพวกที่เหลือด้วยความเห็นอกเห็นใจ "เจ้าเด็กนี่ติดตามพวกเจ้าไปตลอด พวกเจ้าทุกคนอดใจไม่ฆ่าเขา นับว่าพวกเจ้าทุกคนใจดีมากแล้ว"
"ถังเทียน, เจ้าอยู่ที่ค่ายทหารชั้นนอกเป็นยังไงบ้าง?" จู่ๆหานปิงหนิงก็เชิดหน้าถาม
ถังเทียนฝืนยิ้มขมขื่น และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาให้พวกเขาฟังทุกอย่าง  นอกจากเรื่องสังหารข่งโหย่วหลินแล้ว เขาบอกพวกเขาว่าได้เข้าร่วมกลุ่มของจิ่งหาวแล้ว  มิฉะนั้น เขาก็ไม่ได้ซ่อนอะไร
ทุกคนประหลาดใจ  เดิมทีพวกเขาคิดว่าถังเทียนคงเป็นที่ต้องตาของข่งโหย่วหลิน  พวกเขาคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะถูกเขี่ยออกไป
"ข้า, อาโมรี่ต้องการจะเข้าร่วมกลุ่มของเจ้า!" อาโมรี่ชูมือข้างหนึ่ง
น่าประหลาดใจที่หานปิงหนิงพูดเสียงเย็นชาทันที "ข้าก็จะร่วมด้วย"
อาโมรี่เป็นคนดื้อรั้นคนหนึ่ง ถังเทียนรู้เรื่องนั้นมาโดยตลอด แต่สำหรับหานปิงหนิงจะเข้าร่วมกลุ่มด้วย  ถังเทียนประหลาดใจจริงๆ
เหลียงชิวพูดอย่างลึกซึ้ง "เนื่องจากพวกเราทุกคนมาจากเมืองซิงฟง  เป็นกลุ่มพลังเดียวกัน  เราจะต้องดูแลกันและกัน”
ทั้งสามคนหันไปมองซือหม่าเซียงซาน
ซือหม่าเซียงซานยื่นมือออกมา "ข้า..ยังไงก็ได้"
ถังเทียนรู้สึกอบอุ่นใจ แต่เขารู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เขาขบคิดแล้วจึงพูด "พวกเจ้าทุกคนไม่ต้องเร่งรีบ อย่าเพิ่งปล่อยข่าวนี้ออกไป ให้ข้าไปขอพี่จิ่งหาวก่อน"

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สุดยอดจริงๆพี่ถังเรา

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอยคุณคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตกใจหานปิงหนิง รีบก่อนเลย
ไอ้วัวปกติชาวฟ้าไปไหนเราไปด้วย

Unknown กล่าวว่า...

แล้วอีกคนไปไหนหว่า ที่มาด้วยกันตอนแรก มี5คนนิ - -

แสดงความคิดเห็น