วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 111 ความโกรธของชายหนุ่ม

ตอนที่  111  ความโกรธของชายหนุ่ม
เสียงจากคนที่ล่าไล่หลังเขา เสียงคำราม ถังเทียนไม่สนใจพวกเขา เขาเม้มปากแน่นแหลมเหมือนปลายมีด ขณะเขาหรี่ตาที่เย็นชาลึกเหมือนสัตว์ป่า
 
ไอ้พวกบัดซบ อีกไม่ช้าพวกแกทุกคนจะได้รู้ว่าเมื่อหนุ่มชาวฟ้าโกรธแล้วจะเป็นยังไง!
เชียนฮุ่ยคือจุดอ่อนของถังเทียนซึ่งไม่มีใครเข้าใกล้ได้
ความเร็วของเขารวดเร็วมาก  แม้ว่ารองเท้าม้าบินจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับเกราะนกยูงคราม แต่ในที่สุดก็ยังเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ในระดับเดียวกัน  จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของถังเทียนได้รับการกระตุ้น และด้วยพลังของรองเท้าม้าบิน พลังจึงถูกปลดปล่อยเต็มที่
กีบเท้าทั้งสี่ของม้า มีพลังเหมือนสปริง ขณะที่พลังมากมายผ่านลงไปที่ขาของเขา ถังเป็นเหมือนลูกธนูหลุดออกจากแล่ง สายลมปะทะเข้าที่หูจนได้ยินเสียงลมอื้ออึง
หมิงจื่อฉวนถูกถังเทียนจับตัวไว้แน่น รู้สึกจิตใจสะท้านหวั่นไหว เขาทำเป็นกล่าวอย่างใจเย็น "เจ้าหลบหนีไปไม่ได้หรอก!  ยอมแพ้เสียเถอะ!"
"หนีเหรอ?" เสียงหัวเราะดังมาจากด้านบนศีรษะเขา และตามมาด้วยประโยคที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต "เจ้าคิดว่าข้ากำลังหนีหรือ?"
หมิงจื่อฉวนตะลึง  เขาไม่ได้หนีหรือ?  อย่างนั้นเขาก็...
"สบายใจได้ กลุ่มตัวเลวร้ายทั้งหมดของพวกเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยพวกมันไปแม้แต่คนเดียว"
ถังเทียนตั้งใจวิ่ง เขาเงียบและไม่แสดงความกลัวเลยสักนิด ในท่ามกลางเสียงลมหวีดหวิว เขายังสงบอยู่ได้เป็นพิเศษ
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าว หมิงจื่อฉวนตกตะลึงอีกครั้ง เขาเกือบคิดว่าตนเองได้ยินผิดไป  สมองของเจ้านี่ถูกไฟเผาหมดแล้วหรือไง? เขามองไม่เห็นสถานการณ์ให้ชัดเจนหรอกหรือ? เขาไม่รู้ว่าเขาได้ต่อต้านเป็นศัตรูกับตระกูลที่ทรงพลังของหมู่ดาวเพอร์ซูสไปแล้วหรือนี่? เขาไม่รู้หรือว่าแม้แต่ซ่างกวนเชียนฮุ่ยก็ยังไม่กล้าทำเช่นนั้น....
ลมที่น่ากลัวปะทะเข้ากับหมิงจื่อฉวนจนทำให้เขาไม่สามารถลืมตาได้  แต่ใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจ  คำพูดของถังเทียนเต็มไปด้วยความรู้สึกมั่นใจในตนเอง  เหมือนกับว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดกับเขา เป็นเรื่องง่ายๆ
เพราะเหตุผลอะไร?
เพราะเหตุผลอะไร คนผู้นี้ถึงได้มั่นใจในตนเองขนาดนั้น?
หมิงจื่อฉวนคิดหนัก แต่เขาก็ยังคิดหาเหตุผลไม่ได้ แต่เนื่องจากเขารับหน้าที่จัดการเรื่องของตระกูลได้เองแล้ว มุมมองของเขาจึงมากกว่าคนในวัยเดียวกัน
ถังเทียนมั่นใจในคำพูดของตนเอง ไม่ใช่กรรโชก แต่....
ทันใดนั้น แขนที่จับเขาอยู่ปล่อยพลังออกมา ทำให้เขาเกือบร้องครวญครางออกมา  แต่เขารักศักดิ์ศรีมาก เขาพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดไม่ร้องออกมาแม้แต่น้อย
เสียงลมหวีดหวิวที่ข้างหูหยุดลงแล้ว
ร่างของถังเทียนหยุดทันที
หมิงจื่อฉวนตาเบิกกว้างอย่างว่างเปล่า ภูมิภาครอบๆ กว้างขวาง เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า  แต่ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาเป็นประกาย  เขามีความสุขทันที  ความจริงนี่เป็นที่เปิดกว้าง
เป็นพื้นที่ๆ ดี
เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างขนาดนั้น จึงเป็นพื้นที่ได้เปรียบอย่างสิ้นเชิงสำหรับเขาและคนอื่นๆ
ไอ้เจ้าโง่นี่กล้าหยุดอยู่ที่นี่จริงๆ
จากจุดนี้ เขาได้ข้อสรุปแล้วว่าถังเทียนมีความกล้า แต่ไม่รู้จักวางแผน เจ้าโง่นี่เลือกที่จะหยุดอยู่ตรงนี้
เดี๋ยวก่อน...
เจ้าโง่นี่.. พยายามจะทำอะไร...
หมิงจื่อฉวนมองดูถังเทียนล้วงเชือกออกมาจากที่ใดไม่ทราบและมัดเขาอย่างรวดเร็ว
บัดซบเอ๊ย, ข้าจะไม่ปล่อยแกไปแน่!
หมิงจื่อฉวนไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูอย่างนั้นมาก่อน  ตาของเขาฉายแววโกรธแค้น  แต่เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ก็เปล่าประโยชน์ เขาได้แต่ทนเงียบหน้าซีดขาว
หลังจากถังเทียนมัดเงื่อนสุดท้ายด้วยความช่ำชองแล้ว เขาเงยหน้ามองเสาสูง
ทันใดนั้น ใจของหมิงจื่อฉวนเกิดลางสังหรณ์อัปมงคล
แต่น่าเศร้า เขาไม่ทันได้ตอบสนอง แค่รู้สึกว่าตนเองถูกควบคุมไว้  เขารู้ว่าถังเทียนกำลังจะทำอะไร ทำให้เขาถึงกับหน้าซีดขาว
"เจ้าทำไม่ได้..."
เขาอ้าปากพยายามห้ามถังเทียน  แต่ถูกลมพัดใส่อย่างรุนแรงจนพูดไม่ออก
ถังเทียนไม่ตั้งใจจะฟังคำพูดของหมิงจื่อฉวนอยู่แแล้ว  เขาปีนขึ้นไปบนเสาจากนั้นทิ้งตัวหมิงจื่อฉวนลงมาเหมือนกับลูกมะพร้าว ปลายเชือกมัดแน่นกับเสาสูง
หมิงจื่อฉวนห้อยอยู่กลางอากาศ ขณะนั้นเขารู้สึกอับอายเป็นที่สุด
ไม่เคยมาก่อน... ข้าไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน  ไม่เคยเลย
ข้าจะสับร่างแกให้ได้
หมิงจื่อฉวนได้แต่กัดฟันสาปแช่งในใจ แต่เมื่อเหลือบมองจากหางตา เขาเพิ่งเห็นคนอื่นจากจตุรัสสาธารณะ เขาจึงต้องหยุดสบถก่อน หน้าของเขาแดงจนดูเหมือนโลหิตจะไหลได้ทุกเมื่อ เขาเกลียดที่ไม่สามารถหารูและมุดลงไปซ่อนตัวได้
※※※※※※

ทุกคนที่โผล่มาจากจตุรัสสาธารณะต้องชลอความเร็วลงอย่างช่วยไม่ได้  ภาพที่พวกเขาเห็นอยู่ต่อหน้าทำให้พวกเขาตะลึง
เงาชายหนุ่มคนหนึ่งยืนวางมาดอยู่บนเสาสูงบดบังดวงอาทิตย์ไว้ด้านหลังของเขา เหมือนกับว่าเขาเป็นภาพที่ติดอยู่ในดวงอาทิตย์
เชือกยาวถูกผูกมัดห้อยลงมา ผู้ที่ถูกจับมัดห้อยอยู่กลางอากาศก็คือบุตรคนโตของตระกูลหมิง
ทุกคนตกตะลึง
ฉากภาพนี้ทำให้พวกเขาตกใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ปากของพวกเขาอ้าค้าง แต่ไม่มีเสียงรอดออกมา เป็นภาพที่เหลือเชื่อ แต่ก็ไม่สามารถลบภาพเงาโหดร้ายออกไปจากสายตาได้  ขณะที่บุรุษหนุ่มยืนอยู่บนยอดเสา ดูเหมือนกับว่าเขามีพลังลึกลับชนิดหนึ่ง
ทั่วทั้งลานกว้างเงียบสงัดขนาดที่เข็มตกทุกคนก็ยังได้ยิน
อวี่ชิงเจ๋อเหม่อลอย เขาคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของแผนการนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีสักภาพที่จะเป็นเหมือนภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา  เพราะเขาไม่กล้าเชื่อว่าจะมีคนโง่ขนาดนั้น โง่ถึงขนาดกล้าท้าทายตระกูลทั้งหมด
เขาควรจะหัวเราะตอนนี้ ผลของแผนการโดดเด่นชัดเจนยิ่งกว่าที่เขาเคยคิด
แต่เพราะเหตุผลที่ไม่ทราบชัดบางอย่าง ทำให้เขาไม่อาจหัวเราะได้  ปากของเขาไม่อาจส่งเสียงเล็ดลอดออกมาได้ เพราะต้องการเพ่งมองโดยไม่เสียสมาธิ ร่างของบุรุษหนุ่มบนปลายเสาไม่ได้โดดเด่นหรือแข็งแกร่ง  แต่ว่าเปล่งรังสีน่ากลัวที่ทำให้วิญญาณของคนหวาดหวั่นได้
อวี่ชิงเจ๋อไม่รู้ว่าจะอธิบายพลังนั้นอย่างไร
ก็เหมือนกับเขาพร่ำบอกตัวเองว่า ร่างของบุรุษหนุ่มบนปลายเสานั้นโอหังลำพองเกินไป...
ใช่แล้ว,, โอหังลำพอง
แต่เจ้าเด็กนั่นหยิ่งผยองขนาดที่ไม่มีผู้ใดกล้าหัวเราะเยาะ
"ถังเทียน! แกตายแน่!"
"ตระกูลหมิงจะไม่ยอมปล่อยแกแน่!"
องครักษ์ของหมิงจื่อฉวนตะโกนด้วยความโกรธ ทำให้ทุกคนตื่นจากฝัน ทั่วทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยความโกรธ ทุกคนเริ่มด่าทอ แม้แต่หวินอี้เหยาผู้มีความอดกลั้นก็ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อมองเห็นหมิงจื่อฉวนถูกแขวนห้อยอยู่ในอากาศ เขารู้สึกเจ็บปวด
คนที่น่าเคารพอย่างพวกเขาเคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน
หวินอี้เหยาและคนที่เหลือมองหน้ากันเอง  ทุกคนตระหนักได้ถึงความเกลียดชังและความโกรธในดวงตาเขา นี่คือศัตรูที่แท้จริง
"ฆ่ามัน!" หั่วเหยียนกวงตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นก่อนใคร
"ไป!" หวินอี้เหยาสั่งการโดยไม่ลังเล
ทุกคนเริ่มวิ่งตรงไปที่เสาสูงเหมือนน้ำไหลบ่า
ถังเทียนอยู่ใต้เงาอาทิตย์ ใบหน้าของเขาซ่อนอยู่ในความมืด ไม่มีผู้ใดมองเห็นสีหน้าเขาได้ชัดเจน  มุมปากเขายกขึ้นและยิ้มอย่างเยือกเย็น
เมื่อเห็นคนหลั่งไหลตรงมาหาเขา เขากางแขนกว้าง ก้าวเท้าออกมาข้างหนึ่ง เขาเป็นเหมือนวิหคยักษ์ร่อนลงหากลุ่มคนพวกนั้น
นัยน์ตาเขามีแววประกายเหมือนเปลวเพลิงลุกโหม  เสียงลมหวีดหวิวผ่านหูเขาเหมือนดาบ แต่ใจเขาสงบมาก
เหมือนกับม่านฟ้ายามราตรี บนยอดเขามีเด็กผู้หญิงหัวเราะเสียงสดใส และเด็กหนุ่มที่ท่าทางเขลากำลังงอนิ้วเกี่ยวก้อยสัญญากันตามประสาเด็ก
บางทีเมื่อเวลาผ่านไป พวกเราอาจจะโตขึ้น  แต่สัญญาที่ได้ทำไว้ตั้งแต่สมัยเด็กยังคงก้องอยู่ในหู
เด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงจำได้...
ปากของเขามีรอยยิ้มอบอุ่น หนักแน่นและมั่นคง
เขาจะไม่ยอมให้ใครจาบจ้วง หรือแตะต้องเรื่องระหว่างเขากับเชียนฮุ่ย
ไม่มีใคร, ไม่มีอะไรทำได้ทั้งนั้น!
บุรุษหนุ่มผู้นี้กล้าหาญมากและไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
บุรุษผู้นี้ ยิ่งโตก็ยิ่งแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับครั้งก่อน
※※※※※※※※

เหมือนกับร่างวิหคยักษ์ถลาร่วงลงมา เหมือนกับดาวตกพุ่งตรงเข้าหาพวกเขา
คนในกลุ่มสะดุ้งกันทุกคน  แต่หวินอี้เหยาที่อยู่ในกลุ่มคนนั้นตะโกนลั่น "ซัดอาวุธลับของพวกเจ้า!"
เมื่อถูกกระตุ้นเตือนด้วยเสียงตะโกน ทุกคนต่างล้วงอาวุธลับของตนออกมา และตะโกนใส่ถังเทียนที่กำลังพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง ทันใดนั้นอาวุธลับถูกซัดออกไปเหมือนกับสายฝนส่งเสียงแหวกอากาศ
เสียงตะโกนดังลั่นอยู่ในอากาศเหนือพวกเขา
"นกยูง!"
พวกเขาทุกคนรู้สึกแต่เพียงว่ามีเงาสีน้ำเงินส่องประกายออกมา จากนั้นก็หายไป
"เอ๋, มันอยู่ไหนแล้ว?" ใครบางคนตะโกนด้วยความประหลาดใจ...
ช่วงเวลาต่อมา เสียงดังครวญครางดังออกมาจากในกลุ่มคน  ร่างสีน้ำเงินเป็นเหมือนพยัคฆ์ในฝูงแกะ  ทุกที่ที่มันไปจะมีเสียงร้องครวญครางตามมา
กลุ่มผู้คนเริ่มแตกตื่นตกใจ  ขณะที่ถังเทียนเป็นเหมือนปลาที่คล่องแคล่วว่องไว
สัญชาตไวหกเท่า
เป็นเหมือนช่วงที่ได้กลับไปยังห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง  เขาคุ้นเคยกับทุกอย่างเป็นอย่างดี ด้วยสัญชาตญาณหกเท่า เขาปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ ปราณเที่ยงแท้ระดับห้า ทำให้เขายกน้ำหนักได้อย่างง่ายดาย การต่อสู้ระยะประชิดเป็นการต่อสู้ที่ถังเทียนเชี่ยวชาญอยู่แล้ว  ด้วยวิทยายุทธที่หลากหลาย และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ทำให้สามารถดึงวิทยายุทธออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ ปราณเที่ยงแท้ของเขาเป็นการผสมผสานด้วยพลังสองสายที่แตกต่างกัน
เพียงมองดูครั้งเดียว ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะค้นหาแนวทางไม่พบแม้แต่น้อย จึงได้แต่รวมตัวเป็นกลุ่มไว้
เกราะนกยูงครามทำให้รูปแบบการต่อสู้ของถังเทียนห้าวหาญและทรงพลังมากขึ้น  ร่างของเขามองดูเหมือนปีศาจมากขึ้น
เขารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะทำให้คนพวกนี้สับสนวุ่นวาย และวุ่นวายหนักยิ่งขึ้น ในพื้นที่ซึ่งสับสนวุ่นวายนี้อาวุธลับไม่อาจใช้ได้
ความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้เมื่อเทียบกับ 18 มนุษย์ทองแดงแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนัก แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนที่มากกว่า แต่สำหรับถังเทียนเหมือนกับไม่มีพลังอะไรเลย  สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่กลุ่มคุณชายเสียมากกว่า
บุรุษหนุ่มถังไม่ใช่คนที่ใจกว้างอยู่แล้ว  เขากำลังเดือดดาลที่สุด
คำร้องทุกข์ก่อกวนของพวกคุณชายเหล่านั้นยั่วยุให้เขาโกรธ
เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่ปล่อยใครเลยสักคน
ร่างของเขาหายวับทันทีและมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าคุณชายที่อยู่ในชุดสวยงามคนหนึ่ง  ความเคลื่อนไหวเพียงสามท่าที่รวดเร็วมาก องครักษ์สองคนที่อยู่ข้างๆ คุณชายผู้นั้นรู้สึกได้แต่เพียงสายตาที่เย็นเยือก พวกเขาถูกความตกใจครอบงำจนหน้าซีดขาว ขณะที่พวกเขาพยายามต่อต้านสุดชีวิต
ฝ่ามือของถังเทียนเป็นเหมือนมีดที่กลายเป็นเชือกที่อ่อนหยุ่นกระทบกับฝ่ามือของคู่ต่อสู้ และเขายืมกำลังนี้ส่งให้ตัวเองขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น
เขายืมและอาศัยประโยชน์จากพลังที่ปะทะ
ถังเทียนเหมือนกับเล่นชิงช้าและโดดลงมาอยู่บนพื้น จรดปลายเท้าลงกับพื้นอย่างเงียบกริบ
ในระยะประชิดกับองครักษ์คุ้มครอง  เขาจ่อปลายเท้าที่หลังของคุณชายคนหนึ่งและปล่อยพลังออกไป
คุณชายผู้นั้นร้องโหยหวนราวกับถูกแรดขวิดและกระเด็นไปข้างหน้าเหมือนกระสอบทราย
องครักษ์คุ้มกันเจ้านายตกใจกันหมด แต่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง พวกเขาก็คลาดกับเงาของคู่ต่อสู้
ร่างของถังเทียนเพิ่งยืนหยัดได้มั่นคง ก็มีเสียงตะโกนจากด้านหลังของเขา
 “ตายซะเถอะ!
หั่วเหยียนกวงเงื้อหมัดที่มีเพลิงลุกโหมอย่างรวดเร็วดูเหมือนกับงูยักษ์ที่อ้าปาก  อากาศแตกระเบิดออกพร้อมๆ กับอุณหภูมิที่สูงขึ้นชัดเจน มีเสียงระเบิดดังออกมา
วิชาสังหารของหมัดงูเพลิงระดับห้า – งูเพลิงสังหาร
ความรู้สึกของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความร้อน  นัยน์ตาของถังเทียนมีประกายเยือกเย็น
 

6 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ตายหมู่แน่นอน 555

Unknown กล่าวว่า...

ตายยกขบวน. เล่นกะใครไม่เล่น 555

ขอบคุณครับ

my-kimber กล่าวว่า...

สินสงครามๆ

Tony กล่าวว่า...

กำลังมันส์เลย

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เทนเทน กล่าวว่า...

ลืมแก้ผ้ามัน

แสดงความคิดเห็น